ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รอยแค้นฝากหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 2/1 สองคนแม่ลูก

    • อัปเดตล่าสุด 3 มี.ค. 66




    บทที่ 2 สองคนแม่ลูก


    เช้าตรู่ของวันใหม่แสงตะวันสอดส่องผ่านผ้าม่านสีขาวสะอาดตาเข้ามาภายในห้องนอนสี่เหลี่ยมสีสันสดใสบนเตียงกว้างยังมีร่างอรชรของพิตะวันเจ้าของใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต ล้อมกรอบด้วยขนตาเป็นแพสวยเป็นดวงตาที่ชวนให้มองและตกหลุมความหวานเอาง่าย ๆ คิ้วได้รูปเรียงเส้นทั้งที่เพิ่งตื่นนอน จมูกรั้นเชิดขึ้น รับกับริมฝีปากอิ่มสวยสีสดบ่งบอกให้รู้ว่าเป็นคนสุขภาพดี ข้างกายของเธอเป็นร่างอวบกลมของเด็กหญิงพิลาศรักษ์ซึ่งเป็นลูกสาวนอนหลับอยู่

    โดยที่บนหน้าท้องแบนราบของคนเป็นมารดามีขาเล็ก ๆ แต่ทว่าอวบอ้วนพาดทับอยู่ถึงจะมีน้ำหนักไม่มากนักเท่ากับของผู้ใหญ่แต่พาดมาทั้งคืนก็ทำให้พิตะวันรู้สึกหนักอึ้ง

    เธอมักตื่นนอนในเวลาเช้าเป็นประจำแม้จะเหน็ดเหนื่อยแต่เพราะความคุ้นชินบวกกับต้องดูแลลูกจึงไม่เคยพลาดโอกาสที่จะตื่นขึ้นมาเพื่อจะมองดวงหน้าอวบกลมขาวผ่องราวกับก้อนซาลาเปาลูกโต มุมปากบางอมยิ้มและมองหน้าลูกสาวที่เปรียบเสมือนกำลังใจในการขับเคลื่อนของชีวิตจากนั้นก็จัดท่าทางให้แม่หนูน้อยขี้เซาลงจากตัวเธอ

    วันนี้พิตะวันปล่อยให้ลูกนอนตื่นสายได้เพราะไม่ต้องไปเรียนหนังสือ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่เด็กหญิงไม่ปฏิเสธอยู่แล้วเพราะการนอนนั้นคือสิ่งที่เจ้าตัวชอบเป็นอันดับรองลงมาจากการกิน เพราะสาเหตุนี้ลูกสาวของเธอจึงจะกลิ้งแทนการเดินได้อยู่แล้ว

    พิตะวันใช้เวลาสิบห้านาทีในการอาบน้ำแต่งตัวเพื่อลงไปจัดเตรียมของสำหรับหารายได้เสริม เธอเลือกทำข้าวกล่องตามออเดอร์ เป็นอาชีพอิสระที่พิตะวันเลือกจะทำในขณะที่ต้องเรียนปริญญาโทควบคู่ไปด้วย

    มีหลายบริษัทติดต่อมาให้ไปร่วมงานแต่พิตะวันก็ต้องปฏิเสธโอกาสเหล่านั้นเพราะยังมีอีกหนึ่งหน้าที่ที่สำคัญคือการดูแลลูกสาว พิลาศรักษ์ยังเด็กเธอจึงอยากใช้ชีวิตร่วมกับลูกสาวให้ได้มากที่สุด แต่ก็มีวางแผนไว้หากเรียนจบและลูกสาวโตขึ้น เธอก็ต้องสมัครงานที่มั่นคงกว่าที่เป็นอยู่เพื่อลูกและเพื่อตัวเอง โดยไม่ต้องหวังพึ่งใคร

    แต่อาชีพทำข้าวกล่องก็ไม่เสียหายเพราะบ้านเดี่ยวในโครงการที่เธอพักอาศัยอยู่ส่วนใหญ่จะมีข้าราชการอยู่เป็นจำนวนมาก

    จึงมักมีออเดอร์เป็นอาหารเช้าและกลางวันเยอะพอสมควรค่อนไปทางมากจนสามารถมีเงินเก็บไว้ในบัญชีในจำนวนหนึ่ง แม้ว่าเธอจะมีบ้านที่ไม่ต้องผ่อน ไม่มีหนี้สินอะไร แต่การหาทุนทรัพย์ให้ตัวเลขในบัญชีเพิ่มขึ้นย่อมอุ่นใจกว่า

    ห้องครัวขนาดกลางมีอุปกรณ์ครบครันและโต๊ะรับประทานอาหารที่รองรับคนได้ทั้งครอบครัวมันดูจะเงียบเหงาเกินไปเมื่อพิตะวันมอง เพราะเธออาศัยอยู่กับลูกสาวแค่สองคน เพราะงั้นครึ่งหนึ่งของโต๊ะลายหินอ่อนขัดมันวาวจึงมีกล่องวางอยู่รวมไปถึงพวกวัสดุที่จำเป็นต้องใช้อย่างอื่น

    หญิงสาวสวมผ้ากันเปื้อนก่อนจะลงมือทำส่วนประกอบของอาหารเช้าในวันนี้ ตามเมนูที่คิดไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ในแต่ละวันเธอจะมีเมนูที่แตกต่างรวมไปถึงอาหารสุขภาพให้ลูกค้าได้เลือกสรร พิตะวันจะส่งภาพโปรโมทไปในแชทกลุ่มหมู่บ้านทุก ๆ เดือนหรือทุกครั้งที่มีเมนูใหม่ ๆ

     แรกเริ่มลูกค้าอาจจะแค่คนถึงสองคนแต่พิตะวันอาศัยความอดทนจนมีลูกค้าเพิ่มขึ้นมีทั้งลูกค้าประจำรายเดือนรายสัปดาห์ ซึ่งตามกันมาจากลูกค้าที่พูดถึงกันปากต่อปากในเรื่องของรสชาติและความแปลกใหม่ไม่จำเจอีกทั้งยังสะดวกสบาย

    สำหรับวันนี้มีออเดอร์ที่ต้องออกไปส่งตามบ้าน พิตะวันออกไปส่งจนเสร็จสิ้นภารกิจและเมื่อกลับบ้านมาก็เห็นว่าลูกสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าจัดการตัวเองเรียบร้อย

    โดยที่ตอนนี้แม่หนูน้อยรูปร่างกลมกลึงกำลังทานขนมและดูการ์ตูนเรื่องโปรดอยู่ ซีเรียลรสช็อกโกแลตกับนมรสสตอเบอรี่พร่องชามและคงจะหมดในอีกไม่นานก็เพราะว่าคนกินนั้นกินจุเป็นที่สุด

    “เจ้าขา”

    “อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณมี้” คำทักทายทำเอาพิตะวันย่นคิ้วเข้าหากัน แดดเปรี้ยงมากถ้าออกไปข้างนอกแต่ลูกสาวตัวดีกลับสวัสดีตอนเช้า

    “หนูดูเวลารึเปล่าคะ เลยอรุณสวัสดิ์มาหลายชั่วโมงแล้วค่ะ”

    “ก็เจ้าขาเพิ่งตื่น ก็ต้องเป็นอรุณสวัสดิ์ เจ้าขาไม่อยากเปลี่ยนค่ะ”

    คำแก้ตัวซื่อ ๆ ใส ๆ โดยคนพูดไม่ละสายตาจากหน้าจอโทรทัศน์ทำให้พิตะวันส่ายหน้า เธอหย่อนกายนั่งลงใกล้กับลูกสาวก่อนเริ่มบทสนทนาอีกครั้ง

    “ได้ไงกัน เอาแต่ใจจริงๆ เราน่ะ ฮัม…” สุดท้ายเมื่อลูกสาวไม่ยอมสนใจพิตะวันก็ตัดสินใจอ้าปากงับแขนเต่งตึงด้วยความหมั่นเขี้ยวและคราวนี้ได้ผลเพราะเด็กหญิงพิลาศรักษ์หันกลับมาพยายามดันศีรษะมารดาให้ออกห่าง

    “คิก คิก มี้ ฮ่า ฮ่า อย่ากัดเจ้าขา ไม่เอาค่าไม่เอา” เด็กหญิงพิลาศรักษ์หัวเราะร่าพร้อมกับส่งเสียงห้ามมารดาให้เลิกแกล้ง

    “น่ากินที่สุดเลยซาลาเปาลูกนี้”

    “ไม่ใช่สักหน่อยค่ะ”

    “ใช่ค่ะ”

    “ไม่ช่ายค่า”

    สองแม่ลูกหยอกล้อโต้เถียงกันตามประสาเพราะทั้งบ้านก็มีสมาชิกแค่สองคน การเล่นกับลูกที่น้ำหนักตัวเกินมาตรฐานทำให้คนเป็นแม่ที่รูปร่างดีต้องสูญเสียพลังงานเยอะมาก

    เด็กหญิงพิลาศรักษ์ลูกสาวของเธอชอบกินเป็นที่สุดทำให้น้ำหนักตัวยี่สิบสองกิโลกรัมดูอวบอิ่มและเต่งตึงไปทุกสัดส่วนดีหน่อยที่มีความสูงช่วยเอาไว้ไม่ให้ดูเหมือนลูกหมู พิตะวันเองก็พยายามจะลดของหวานและให้ลูกสาวกินเป็นเวลามากขึ้นโดยใช้รางวัลเป็นตัวล่อ

    ได้บ้างไม่ได้บ้างก็แล้วแต่ที่ลูกสาวจะทำตาม เพราะยังมองว่าลูกสาวหุ่นน่ากอดอยู่จึงไม่ได้บังคับมากนัก และคิดว่าต่อไปเมื่อโตขึ้นเด็ก ๆ ก็คงจะยืดตัวตามพัฒนาการ

    ผ่านไปประมาณสิบนาทีพิตะวันก็ต้องปล่อยให้ลูกสาวได้ดูการ์ตูนต่อ เพราะเธอต้องทำออเดอร์รอบต่อไป

    พิตะวันพักให้หายเหนื่อยก่อนจะลงมือจัดออเดอร์ในรอบสอง ช่วงเที่ยงลูกค้าประจำจะมารับด้วยตัวเองในวันนี้ ลูกค้าของเธอจะระบุว่ามีวันไหนที่ต้องไปส่งและวันไหนที่จะมารับด้วยตัวเองและถ้ามีเหตุจำเป็น ลูกค้าจะโทรมาแจ้งไว้ก่อนเสมอ

    แม้ว่าการดำเนินชีิวิตประจำวันในบ้านหลังนี้เหมือนจะราบรื่นและมีความสุข แต่ความจริงกลับซ่อนเอาไว้ด้วยความเสียใจและเงียบเหงา

    หากพิตะวันไม่เคยจะแสดงออกมามาให้เห็น มันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีนักถ้าเธอจะร้องไห้ออกมาให้ลูกสาววัยห้าขวบรับรู้ ความอ่อนแอที่เธอมีถูกทับถมเอาไว้ลึกสุดหัวใจและเปิดเผยแค่ความเข้มแข็งออกมาเพื่อดูแลและปกป้องลูกสาวคนเดียวต่อไป

    “มี้ขา มี้”

    “ค่า…ว่าไงเอ่ย?” พิตะวันก้มมองดูลูกสาวที่กำลังกระตุกชายเสื้อแหงนดวงหน้ากลมมองมาตาแป๋ว

    “มี้เหม่อคิดถึงใครคะ เจ้าขาเรียกตั้งนาน”

    ________________________




     หนูพิตะวันจะคิดถึงพ่อเลี้ยงไหมน้า 


    อย่าลืมกดหัวใจ+เข้าชั้นไว้นะคะ

    คอมเม้นกันเข้ามาเยอะ ๆ ไรท์รออ่านค่า

    ฝากติดตามพ่อเลี้ยงภูพิงค์กับหนูพิตะวันด้วยจ้า



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×