ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1/1 บังเอิญ….ว่าเธอมีลูก
บทที่ 1 บังเอิญ….ว่าเธอมีลูก
มหาวิทยาลัย….
เวลาเที่ยงตรงบรรยากาศในมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยเหล่านักศึกษาก็จะมีความครึกครื้นเพราะต่างคนก็ต่างพากันเดินไปจับจองที่นั่งพักรับประทานอาหาร บ้างก็เปลี่ยนคาบเรียน เปลี่ยนตึกคณะ ตามแต่ละคนที่มีเป้าหมายแตกต่างกันไป เช่นเดียวกันกับพิตะวันที่เวลานี้เธอกำลังหอบข้าวของพะรุงพะรังในมือข้างซ้ายมีถุงขนม บนไหล่ขวามีกระเป๋าผ้าใส่ของสำคัญที่กำลังหอบอยู่กับหน้าอกก็เป็นหนังสือที่จะใช้ในการค้นคว้าอีกสามสี่เล่ม
พิตะวันมีเรียนต่อในช่วงบ่าย เธอจึงรีบในการจะมาพักเที่ยงหาอะไรรองท้องให้แล้วเสร็จก่อนจะไปเรียนอีกวิชา ซึ่งยังพอมีเวลาเหลือตามที่เธอได้วางแผนไว้อีกสิบห้านาที
พิตะวันเร่งฝีเท้าเพื่อให้ถึงสนามหญ้าโดยเร็วพร้อมด้วยมองหาเป้าหมายตามที่สัญญาณในสมาร์ทวอทช์นาฬิกาข้อมือยี่ห้อดังที่มีแอพลิเคชั่นต่าง ๆ ช่วยอำนวยความสะดวกและบอกให้รู้ว่าควรไปทางไหนทิศทางไหนนการเจอเป้าหมาย
หญิงสาวในชุดนักศึกษาไม่ใช่คนสังเกตสิ่งใดรอบข้างหรือแม้แต่เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยแห่งนี้เพราะรู้ดีว่าตนเองไม่เคยผูกมิตรไว้กับใคร จึงเมินเฉยต่อสิ่งรอบกายให้เป็นแค่อากาศธาตุ
นั้นจึงเป็นเหตุผลให้เธอไม่ได้รับรู้เลยว่ามีใครบางคนกำลังมองอยู่ด้วยความสนใจอย่างเห็นได้ชัดเพราะมันฉายประกายอยู่ในแววตาคมดุจพญาเหยี่ยวมองเหยื่ออันโอชะ
หญิงสาวรูปร่างสมส่วนสวยสง่าราวกับนางแบบที่โดดเด่นอยู่ในระยะสายตาของชายหนุ่มผู้ซึ่งเปิดประตูลงจากรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูพอดิบพอดี ความสวยที่สะดุดตาทำเอาคนอย่างพ่อเลี้ยงภูพิงค์หยุดมองไม่ละสายตาอีกทั้งก้าวขาเดินตามไปอย่างให้ความสนใจ
แม้ว่าเจ้าหล่อนจะอยู่ในชุดนักศึกษาเรียบร้อยแต่ก็เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจน ผมลอนยาวสลวยปลิวไสวเต็มแผ่นหลัง ยามลมพัดจมูกโด่งคมสันสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอม ไม่คิดเลยว่าการมาหาเพื่อนเก่าจะทำให้เขาได้เจอกับนางฟ้าบนดิน พ่อเลี้ยงภูพิงค์พยายามที่จะเร่งฝีเท้าตามให้ทันอย่างน้อย ๆ เขาก็จะเข้าไปแสดงความช่วยเหลือเสนอตัวถือของหรือไม่ก็ถามทางอย่างแนบเนียน
มุมปากหยักโค้งขึ้นให้กับความคิดของตนเอง
เสี้ยวใบหน้าขาวอมชมพูที่มีเส้นผมคลอเคลียแก้มนวลมันทำให้เขาอยากจะไปเขี่ยมันออกให้พ้นทางไปเสีย อีกแค่สามถึงสี่ก้าวพ่อเลี้ยงภูพิงค์ก็จะถึงเป้าหมายและทำตามแผนเพื่อหวังได้ทำความรู้จักกับสาวน้อยมหาวิทยาลัยที่ทำให้เขาใจเต้นแรงตั้งแต่แรกเห็นทั้งที่อาการเหล่านี้แทบไม่เกิดขึ้นกับใครมานานแล้ว
ร่างบางของเป้าหมายหยุดแล้ว พร้อมกับที่กำลังหันซ้ายแลขวาเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่าง ใบหน้าสวยคมดวงตากลมโตของเธอดูมีเสน่ห์จนกล้ามเนื้อแกร่งในอกข้างซ้ายอ่อนยวบ ยิ่งยามที่เธอเปิดเผยรอยยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวมันดูสว่างสไวราวกับพระอาทิตย์ยามเช้าตรู่ พ่อเลี้ยงภูพิงค์สบโอกาสและคิดไปอย่างลืมตัวว่าเธออาจจะส่งยิ้มให้เขา
“ขอโทษ..” ประโยคแสร้งทำทีจะทักทายไม่ทันจบ
“มี้ขา…..หนูอยู่นี่” เสียงใสก็ดังขึ้นข้างหลังเขาพร้อมกับร่างอวบเต่งตึงราวกับตุ๊กตามิชลินของเด็กหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเด็กน้อยตัวกลมผมเปียแกว่งวิ่งเฉี่ยวกายแกร่งไป ไม่คาดคิดเลยว่าร่างที่ดูอวบอัดจะวิ่งดุ๊กดิ๊กได้รวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ เจ้าของเสียงใสที่แทรกขัดจังหวะพ่อเลี้ยงภูพิงค์ก็ถึงเป้าหมายที่เขาเล็งไว้ก่อน
“เจ้าขา”
พิตะวันก้มมองลูกสาวด้วยความโล่งใจ ใบหน้าของเด็กหญิงที่เปื้อนไปด้วยเหงื่อซึ่งกำลังกอดรวบขาของเธออยู่นั้นบ่งบอกได้ว่าคงไปแอบวิ่งเล่นมา เพราะเธอได้สั่งเอาไว้แล้วว่าห้ามไปไหนไกลเกินกว่าสนามเด็กเล่นตรงนี้ ที่พิตะวันสามารถปล่อยให้ลูกสาววัยห้าขวบอยู่ที่นี่ได้แม้จะเป็นห่วงมากก็ตามเพราะได้ฝากฝังไว้กับเจ้าหน้าที่รักษความปลอดภัยของสนาม
อีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้เพราะมีลูกหลานของอาจารย์ก็นำมาฝากให้ช่วยดูแลบางโอกาสที่มีเหตุฉุกเฉิน พิตะวันล้วงเอาผ้าผืนเล็กลายตัวการ์ตูนขึ้นมาจากกระเป๋าเพื่อเช็ดเหงื่อบนแก้มกลมป่อง ความนุ่มนิ่มของก้อนเนื้อทั้งสองทำให้เธออดไม่ได้ที่จะบีบมันเบา ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว สองแม่ลูกเหมือนหลุดอยู่ในโลกส่วนตัวกันสองคน
พ่อเลี้ยงภูพิงค์มองภาพตรงหน้าพร้อมกับประมวลผลทันใด มันชัดเจนอยู่แล้วคำเรียกขานที่ประกาศชัดของแม่หนูน้อยที่วิ่งตัดหน้าเขาไปเพียงเสี้ยววินาทีบ่งบอกถึงความสัมพันธ์
‘นางฟ้าบนดินมีเจ้าของและเธอมีลูกแล้ว’ มันช่างแสนเสียดาย วันนี้เองที่เข้าใจคำว่าอกหักตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มจีบ
ชายหนุ่มร่างสูงหมุนตัวหันกลับไปอย่างช้า ๆ เพื่อปรับอารมณ์ให้คงที่แล้วไปหาเพื่อนสนิท ก็แค่อารมณ์เหมือนคนหลงทิศทางกลับบ้านเดิมไม่ถูกไปชั่ววูบ ทำเอาพ่อเลี้ยงหนุ่มหัวเราะเยาะตัวเอง
เอ็นดูคุณเขานะคะ
กดหัวใจ+เข้าชั้นไว้นะคะ
คอมเม้นกันเข้ามาเยอะ ๆ ไรท์รออ่านค่า
ฝากติดตามพ่อเลี้ยงภูพิงค์กับหนูพิตะวันด้วยจ้า
มหาวิทยาลัย….
เวลาเที่ยงตรงบรรยากาศในมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยเหล่านักศึกษาก็จะมีความครึกครื้นเพราะต่างคนก็ต่างพากันเดินไปจับจองที่นั่งพักรับประทานอาหาร บ้างก็เปลี่ยนคาบเรียน เปลี่ยนตึกคณะ ตามแต่ละคนที่มีเป้าหมายแตกต่างกันไป เช่นเดียวกันกับพิตะวันที่เวลานี้เธอกำลังหอบข้าวของพะรุงพะรังในมือข้างซ้ายมีถุงขนม บนไหล่ขวามีกระเป๋าผ้าใส่ของสำคัญที่กำลังหอบอยู่กับหน้าอกก็เป็นหนังสือที่จะใช้ในการค้นคว้าอีกสามสี่เล่ม
พิตะวันมีเรียนต่อในช่วงบ่าย เธอจึงรีบในการจะมาพักเที่ยงหาอะไรรองท้องให้แล้วเสร็จก่อนจะไปเรียนอีกวิชา ซึ่งยังพอมีเวลาเหลือตามที่เธอได้วางแผนไว้อีกสิบห้านาที
พิตะวันเร่งฝีเท้าเพื่อให้ถึงสนามหญ้าโดยเร็วพร้อมด้วยมองหาเป้าหมายตามที่สัญญาณในสมาร์ทวอทช์นาฬิกาข้อมือยี่ห้อดังที่มีแอพลิเคชั่นต่าง ๆ ช่วยอำนวยความสะดวกและบอกให้รู้ว่าควรไปทางไหนทิศทางไหนนการเจอเป้าหมาย
หญิงสาวในชุดนักศึกษาไม่ใช่คนสังเกตสิ่งใดรอบข้างหรือแม้แต่เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยแห่งนี้เพราะรู้ดีว่าตนเองไม่เคยผูกมิตรไว้กับใคร จึงเมินเฉยต่อสิ่งรอบกายให้เป็นแค่อากาศธาตุ
นั้นจึงเป็นเหตุผลให้เธอไม่ได้รับรู้เลยว่ามีใครบางคนกำลังมองอยู่ด้วยความสนใจอย่างเห็นได้ชัดเพราะมันฉายประกายอยู่ในแววตาคมดุจพญาเหยี่ยวมองเหยื่ออันโอชะ
หญิงสาวรูปร่างสมส่วนสวยสง่าราวกับนางแบบที่โดดเด่นอยู่ในระยะสายตาของชายหนุ่มผู้ซึ่งเปิดประตูลงจากรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูพอดิบพอดี ความสวยที่สะดุดตาทำเอาคนอย่างพ่อเลี้ยงภูพิงค์หยุดมองไม่ละสายตาอีกทั้งก้าวขาเดินตามไปอย่างให้ความสนใจ
แม้ว่าเจ้าหล่อนจะอยู่ในชุดนักศึกษาเรียบร้อยแต่ก็เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจน ผมลอนยาวสลวยปลิวไสวเต็มแผ่นหลัง ยามลมพัดจมูกโด่งคมสันสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอม ไม่คิดเลยว่าการมาหาเพื่อนเก่าจะทำให้เขาได้เจอกับนางฟ้าบนดิน พ่อเลี้ยงภูพิงค์พยายามที่จะเร่งฝีเท้าตามให้ทันอย่างน้อย ๆ เขาก็จะเข้าไปแสดงความช่วยเหลือเสนอตัวถือของหรือไม่ก็ถามทางอย่างแนบเนียน
มุมปากหยักโค้งขึ้นให้กับความคิดของตนเอง
เสี้ยวใบหน้าขาวอมชมพูที่มีเส้นผมคลอเคลียแก้มนวลมันทำให้เขาอยากจะไปเขี่ยมันออกให้พ้นทางไปเสีย อีกแค่สามถึงสี่ก้าวพ่อเลี้ยงภูพิงค์ก็จะถึงเป้าหมายและทำตามแผนเพื่อหวังได้ทำความรู้จักกับสาวน้อยมหาวิทยาลัยที่ทำให้เขาใจเต้นแรงตั้งแต่แรกเห็นทั้งที่อาการเหล่านี้แทบไม่เกิดขึ้นกับใครมานานแล้ว
ร่างบางของเป้าหมายหยุดแล้ว พร้อมกับที่กำลังหันซ้ายแลขวาเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่าง ใบหน้าสวยคมดวงตากลมโตของเธอดูมีเสน่ห์จนกล้ามเนื้อแกร่งในอกข้างซ้ายอ่อนยวบ ยิ่งยามที่เธอเปิดเผยรอยยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวมันดูสว่างสไวราวกับพระอาทิตย์ยามเช้าตรู่ พ่อเลี้ยงภูพิงค์สบโอกาสและคิดไปอย่างลืมตัวว่าเธออาจจะส่งยิ้มให้เขา
“ขอโทษ..” ประโยคแสร้งทำทีจะทักทายไม่ทันจบ
“มี้ขา…..หนูอยู่นี่” เสียงใสก็ดังขึ้นข้างหลังเขาพร้อมกับร่างอวบเต่งตึงราวกับตุ๊กตามิชลินของเด็กหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเด็กน้อยตัวกลมผมเปียแกว่งวิ่งเฉี่ยวกายแกร่งไป ไม่คาดคิดเลยว่าร่างที่ดูอวบอัดจะวิ่งดุ๊กดิ๊กได้รวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ เจ้าของเสียงใสที่แทรกขัดจังหวะพ่อเลี้ยงภูพิงค์ก็ถึงเป้าหมายที่เขาเล็งไว้ก่อน
“เจ้าขา”
พิตะวันก้มมองลูกสาวด้วยความโล่งใจ ใบหน้าของเด็กหญิงที่เปื้อนไปด้วยเหงื่อซึ่งกำลังกอดรวบขาของเธออยู่นั้นบ่งบอกได้ว่าคงไปแอบวิ่งเล่นมา เพราะเธอได้สั่งเอาไว้แล้วว่าห้ามไปไหนไกลเกินกว่าสนามเด็กเล่นตรงนี้ ที่พิตะวันสามารถปล่อยให้ลูกสาววัยห้าขวบอยู่ที่นี่ได้แม้จะเป็นห่วงมากก็ตามเพราะได้ฝากฝังไว้กับเจ้าหน้าที่รักษความปลอดภัยของสนาม
อีกฝ่ายเป็นผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้เพราะมีลูกหลานของอาจารย์ก็นำมาฝากให้ช่วยดูแลบางโอกาสที่มีเหตุฉุกเฉิน พิตะวันล้วงเอาผ้าผืนเล็กลายตัวการ์ตูนขึ้นมาจากกระเป๋าเพื่อเช็ดเหงื่อบนแก้มกลมป่อง ความนุ่มนิ่มของก้อนเนื้อทั้งสองทำให้เธออดไม่ได้ที่จะบีบมันเบา ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว สองแม่ลูกเหมือนหลุดอยู่ในโลกส่วนตัวกันสองคน
พ่อเลี้ยงภูพิงค์มองภาพตรงหน้าพร้อมกับประมวลผลทันใด มันชัดเจนอยู่แล้วคำเรียกขานที่ประกาศชัดของแม่หนูน้อยที่วิ่งตัดหน้าเขาไปเพียงเสี้ยววินาทีบ่งบอกถึงความสัมพันธ์
‘นางฟ้าบนดินมีเจ้าของและเธอมีลูกแล้ว’ มันช่างแสนเสียดาย วันนี้เองที่เข้าใจคำว่าอกหักตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มจีบ
ชายหนุ่มร่างสูงหมุนตัวหันกลับไปอย่างช้า ๆ เพื่อปรับอารมณ์ให้คงที่แล้วไปหาเพื่อนสนิท ก็แค่อารมณ์เหมือนคนหลงทิศทางกลับบ้านเดิมไม่ถูกไปชั่ววูบ ทำเอาพ่อเลี้ยงหนุ่มหัวเราะเยาะตัวเอง
เอ็นดูคุณเขานะคะ
กดหัวใจ+เข้าชั้นไว้นะคะ
คอมเม้นกันเข้ามาเยอะ ๆ ไรท์รออ่านค่า
ฝากติดตามพ่อเลี้ยงภูพิงค์กับหนูพิตะวันด้วยจ้า
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น