คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1
หนึ่งพันปีก่อน มหาสงครามระหว่างเทพเจ้าผลาญทำลายโลกที่เคยสงบสุขจนย่อยยับ
พลังอันมหาศาล เมื่อปะทะกัน กวาดล้างทุกเผ่าพันธ์ที่อ่อนเเอบนโลกจนเเทบจะสูญสิ้น
จนกระทั่ง...
มนุษย์ผู้หาญกล้า ได้ปลุกระดมประชาชนลุกขึ้นตอบโต้ เเม้จะอ่อนเเอ ไม่ได้มีพลังมหาศาลดังเช่นเหล่าเทพ
เขานำกองทัพมุ่งเข้าสู่มหาสงครามอันสิ้นหวังด้วยจิตใจที่ต้องการปกป้องมาตุภูมิอย่างเเรงกล้า ในที่สุด เหล่าเทพก็ถูกขับไล่ไปยังมิติอื่น
ทุกชีวิตต่างสรรเสริญวีรกรรมอันกล้าหาญของมนุษย์ผู้นั้นเเละสถาปนาเขาเป็นปฐมกษัตริย์เเห่งอาณาจักรสุวรรณภพ พระเจ้าสุวรรณบุตรที่ 1
เชื้อสายของเขายังคงทำหน้าที่ปกครองอาณาจักรมาจนถึงปัจจุบันนั่นคือตำนานที่คนทั่วไปรับรู้กัน...
“ท่านเหนือสมุทร” เสียงเรียกปลุกชายหนุ่มให้ตื่นจากภวังค์ เขาละสายตาจากทิวทัศน์ของผืนน้ำกว้างใหญ่ไพศาล หันมามองชายสวมเเว่นหน้าตาเคร่งขรึมไร้อารมณ์ ด้านข้างมีชายวัยกลางคนร่างใหญ่กำยำ หนวดเคราถูกตัดเเต่งอย่างเรียบร้อยทำหน้าบึ้งตึงอยู่
ชายชื่อเหนือสมุทรยกมือสางผมที่ถูกตัดจนไม่ดูรุงรังเหมือนเเต่ก่อน ดวงตาสีดำสนิทดุจท้องฟ้ายามกลางคืนมองผ่านไหล่ทั้งสองไปยังหัวเรือ เบื้องหน้าคือเเผ่นดินขนาดใหญ่ที่มีอาคารบ้านเรือนเต็มไปหมด ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“อยากให้เรือล่มจังนะ”“อย่าทำอย่างนั้นเชียวนะไอ้หนู!!!” ทองคำตะโกนออกมาเสียงดัง โชคดีที่สิตารู้ทันจึงยกมืออุดหูรอไว้ก่อน ส่วนเหนือสมุทรนั้นใช้สัญชาตญาณยกมืออุดหูได้หวุดหวิด
“ถ้าเกิดทำอย่างนั้นทองคำผู้นี้จะทำทุกอย่างเพื่อหยุดยั้งเเก!!!”
“เเกนี่น่ารำคาญเป็นบ้าเลยว่ะ” ว่าเเล้วก็เเจกมะเหงกใส่คนตัวใหญ่ไปหนึ่งที
“เจ็บนะไอ้หนู!!!”
“ก็เขกให้เจ็บไงวะ ลืมเอาที่อุดปากมาหรือไงโคตรน่ารำคาญ” บ่นเสร็จเจ้าตัวก็เดินผ่านทั้งสองไปยังหัวเรือโดยไม่สนใจเสียงโหวกเหวกของทองคำ
“ถึงจะอยากทำ เเต่ถ้าพวกเเกสองคนมาขวาง ฉันก็สู้ไม่ได้หรอกน่า” สิตาได้ยินดังนั้นก็เลิกคิ้วสงสัยมองทองคำที่กำลังโอดโอยกับหัวที่ปูดออกมา
“ท่านทองคำ...เจ็บงั้นเหรอครับ?”
“ก็เจ็บสิวะถามได้ หนอย ไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม!!!”
“งั้นเหรอครับ” สิตาเอามือกุมคางใช้ความคิดก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย “น่าเเปลกเสียจริง” ว่าเเล้วเขาก็เดินตามเหนือสมุทรไป ทิ้งตาลุงร่างยักษ์นั่งน้ำตาตกอยู่คนเดียว
อาณาจักรสุวรรณภพ เมืองใหญ่อันดับสามของโลก ด้วยอาณาเขตที่กว้างขวางอีกทั้งยังมีพื้นที่อุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลาในนามีข้าว อีกทั้งยังมีพื้นที่ติดทะเลสามารถติดต่อค้าขายกับอาณาจักรอื่นๆ เกิดเป็นเมืองท่า เมืองอิสระที่เปิดต้อนรับชาวต่างเมืองเข้ามาค้าขาย จุดเด่นคือความหลากหลายของเมือง สินค้า ภาษาและเชื้อชาติ เป็นเมืองที่คึกคักทีเดียว
“นี่ๆพ่อหนุ่ม สนใจปลาจากทะเลไข่มุกดำมั้ย ข้าจับเองกับมือเลยนะ!”
“ดาบลีๆ ดาบลีๆ ซ่งตงจากแผ่งดิงอั๊วเอง มังกรสาหวันเลยนา”
“ผ้าสวยๆจ๊ะนายจ๋า เหมาะกับอากาศร้อนๆเลยนะนายจ๋า” พ่อค้าแม่ขายร้องเรียกลูกค้าดังเซ็งแซ่เต็มสองข้างทาง ถือเป็นเมืองที่คึกคักต่างจากเกาะทมิฬลิบลับ
ทันทีที่เท้าเหนือสมุทรสัมผัสพื้นเมืองท่า กลุ่มชายฉกรรจ์นับสิบในชุดสูทสีดำก็เข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังเขาทันที“เเกร๊ก”
สิตาค้อมหัวให้เขาทีนึงก่อนจะเดินไปหาชายฉกรรจ์ด้านหน้า
“ท่านสิตา” ทั้งหมดยกมือประทับที่บริเวณหัวใจเป็นการทำความเคารพ “ท่านสิงหราชรออยู่ครับ”
สิตาพยักหน้ารับรู้ก่อนจะหันมาพยักหน้าอีกครั้งให้ทองคำจูงโซ่พาเหนือสมุทรเดินตามพวกเขาไป
“ถ้าเเกคิดจะจูงฉันเหมือนหมาได้กินมะเหงกอีกสักลูกเเน่”
“ฮ่าฮ่าฮ่า กุญเเจมือนั่นมีอาคมผนึกพลังเทพเจ้าไว้ ถ้าเเกไม่ใช่ระดับอาณาจักรเทพอย่าเปลืองเเรงขัดขืนดีกว่าไอ้หนู ฮ่าฮ่าฮ่า!!!”
“ชิ” เหนือสมุทรสบถอย่างไม่พอใจเเต่ก็ยอมเดินตามไปโดยไม่คิดขัดขืน
ถัดจากเมืองอันเเสนวุ่นวายไปไม่ไกล ชายชุดดำพาทั้งสามมายังอาคารทรงประหลาดริมชายหาด ห่างไกลผู้คน พวกเขานำทางเข้าไปจนขึ้นมายังชั้นบนสุดของอาคาร
“ท่านสิงหราช กระผมพาท่านสิตา ท่านทองคำเเละนักโทษมาเเล้วครับ” ชายที่คาดว่าเป็นหัวหน้าเคาะประตูบอกก่อนจะมีเสียงดังออกมาจากด้านใน
“เข้ามา” ทันใดนั้นประตูก็เปิดออกโดยอัตโนมัติ กลุ่มชายฉกรรจ์หันหลังอย่างพร้อมเพรียงก่อนจะเดินจากไปอย่างมีระเบียบ
“ขอบใจที่เหนื่อยนะ” เหนือสมุทรพูดกลั้วหัวเราะก่อนจะเดินตามสิตาเเละทองคำเข้าไปในห้องนั้นเเล้วประตูก็ปิดลงโดยอัตโนมัติ
เหนือสมุทรหันซ้ายหันขวาสำรวจ ห้องนี้เป็นห้องโล่งๆ เเม้จะกว้างเเต่เฟอร์นิเจอร์มีเพียงโคมไฟเเละโต๊ะที่ดันไปชิดหน้าต่างทรงสูง นอกจากนั้นก็มีเเต่กองเรียงรายอยู่รอบ
“ไม่ได้พบกันนาน โทรมขึ้นเยอะเลยนะ” เขาเลิกสำรวจห้องที่ไม่มีอะไรให้สำรวจหันกลับมามองชายที่นั่งอยู่คนเดียวหลังโต๊ะตัวเดียวนั่น
ดวงตาเรียวดุสีน้ำเงิน พร้อมผมยาวสลวยสีทองที่มัดไว้ด้านหลังอย่างลวกๆ รอยยิ้มขี้เล่นเเลซุกซนผิดกับน้ำเสียงที่หนักเเน่นจริงจัง
“เสียใจสินะที่ฉันยังไม่ตาย” สิงหราชหัวเราะในลำคอ ทันใดนั้นพวกเขาทั้งสามรู้สึกได้ถึงเเรงกดดันมหาศาลที่ทำเอาทั้งห้องสั่นสะเทือน
“เเค่ตายยังไม่พอกับสิ่งที่เเกทำหรอกนะ” เหนือสมุทรฝืนยิ้มตั้งใจกวนประสาทคนตรงหน้า
“ที่ส่งฉันไปนรกนั่น ยังไม่สาเเก่ใจเเกอีกเหรอ ไอ้พี่เฮงซวย” เเรงกดดันพลันรุนเเรงขึ้นจนทองคำถึงกับทรุดไปกับพื้นก่อนจะฝืนตะโกนขอร้องท่านผู้นำ
“พอก่อนเถอะครับท่านสิงหราช!!!” สิ้นคำเเรงกดดันนั่นพลันหายวับไปทันทีทำสิตาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก กล่าวขอบคุณทองคำที่ตอนนี้นอนเเผ่เป็นจิ้งจกเรียบร้อยในใจ
“นึกว่าจะตายซะเเล้ว (- . . - ;)”
“ฉันไม่ได้ใจร้ายใจดำขนาดนั้นหรอกน่า ฮ่าฮ่าฮ่า” ทั้งสามหันขวับไปจ้องไอ้คนไม่ใจร้ายที่กำลังหัวเราะร่าเขม็ง ถ้าพี่เเกใจร้ายไม่เอาพลังทับพวกเขาเเบนไปเเล้วเรอะ
“ตอนนี้สุริยาลัย...ตระกูลของเรากำลังถูกโจมตี”
อาณาจักรสุวรรณภพ มีระบอบการปกครองโดยมีกษัตริย์เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในเเผ่นดิน รองลงมาคือเหล่าขุนนางตามกรมต่างๆที่มีหน้าที่ดูเเลกิจการภายในอาณาจักร ทั้งทหาร ชาวบ้าน ภาษีเเละองครักษ์ นั่นคือเบื้องหน้าที่ประชาชนทั่วไปรับรู้กัน
เหล่าสาวก กลุ่มบุคคลผู้มีพลังวิเศษ เคลื่อนไหวอยู่เบื้องหลังกำจัดศัตรูที่คิดร้ายต่อบัลลังก์เเละบ้านเมือง ภายใต้ชื่อของสมาพันธ์หิมวันต์ องค์กรที่ขึ้นตรงต่อผู้มีอำนาจสูงสุดเเห่งอาณาจักร
สมาพันธ์ฯได้เเต่งตั้งตระกูลต่างๆเพื่อกระจายกำลังทำภารกิจในเเต่ละภาคส่วนได้อย่างทั่วถึงโดยการรับใช้ท่านเจ้าพระยาที่ถูกส่งมาดูเเลบ้านเมืองเเต่ละพื้นที่
ปัจจุบัน มีสามตระกูลซึ่งถือเป็นตระกูลใหญ่ ผู้มีอิทธิพลในวงการสาวก
วิมานฉิมพลี ลงกานครเเละพฤกษาประเทศ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มเเยกย่อยออกมาจากตระกูลใหญ่เหล่านี้เรียกว่า หน่วย
“รู้ใช่มั้ย สุริยาลัยของเราเป็นตระกูลที่ได้รับเเต่งตั้งจากสมาพันธ์ฯให้รับใช้ท่านเจ้าพระยาธนิสร (เจ้าเเห่งทรัพย์) คุมเมืองท่าเเห่งนี้” เหนือสมุทรไม่ตอบเเต่สิงหราชก็รู้ ว่าข้อมูลพวกนี้เป็นข้อมูลพื้นฐานที่สิตาน่าจะบอกเขาไว้ก่อนเเล้ว
“เเต่ก็เพราะพวกเราไม่ใช่ทั้งตระกูลใหญ่เเละไม่ใช่สาขาย่อยของไอ้พวกนั้น พวกสาวกภายในเมืองถึงได้เล็งเห็นโอกาสในการยึดหน้าที่อันสำคัญนี้จากพวกเรา”
“...”
“เเม้สมาพันธ์ฯจะมีกฏห้ามสาวกก่อสงครามกันเอง เเต่สุดท้ายก็ไม่มีใครสนใจหรอก ยิ่งท่านเจ้าพระยายิ่งเเล้วใหญ่ ขอเเค่ใช้การได้ ใครจะมารับหน้าที่ต่อท่านก็ไม่สนหรอก”
ความคิดเห็น