ชีวิตติดปีก...เรื่องเล่าจากเด็กการบิน

ลำดับตอนที่ #11 : Midterm เทอมแรกกก!!!

หลังจากวันรายงานตัวอีกประมาณอาทิตย์หนึ่งก็ปฐมนิเทศไม่มีอะไรครับ จากนั้นสองวันก็เป็นค่ายจปร. [เข้าที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) จังหวัดนครนายก] ค่ายนี้บังคับทุกคนว่าต้องไปครับ ถ้าไม่ไปปีนี้ ปีถัดไปก็ต้องไปอยู่ดี ค่ายนี้จะเน้นความกลมเกลียวสามัคคีภายในสถาบันการบินพลเรือน รุ่นโบ๊ตรุ่นที่ 52 ก็จะมีแบ่งกลุ่มย่อยๆ 12 กลุ่มทำกิจกรรมเยอะแยะมากมาย โหด มันส์ ฮา เบื่อบ้างก็มี 555 รวมๆ สนุกมากครับ ได้เพื่อนเยอะเลย แต่มันเป็นกิจกรรมแรก ก็อาจจะเงียบๆ กันบ้าง โบ๊ตไปก็แบบเงียบอยู่ ไม่ค่อยพูดกับใครมาก ยังไม่ชิน ฮ่าๆ

 

เข้าค่ายไป 3 วัน 2 คืน จากนั้นก็ได้พักสองสามวันก็จะเปิดเทอม วันรายงานตัวพี่ๆ ก็มีนัดทำกิจกรรมก่อนวันเปิดเทอม คือ วันอาทิตย์จะมีกิจกรรมวัน "First Flight" มีความหมายประมาณว่า ก้าวแรกสู่การบิน กิจกรรมนี้ต้องใส่เสื้อสีฟ้า กางเกงขายาว ที่ให้ใส่เป็นสีฟ้าก็จะให้ได้อารมณ์ประมาณ Freshy ครับ 555 รายละเอียดกิจกรรมว่าไปแล้วทำไรบ้างต้องเข้ามาสัมผัสเองครับ รับรองได้ว่าสนุกสุดๆ เลย ><"

 

เสร็จกิจกรรมก็กลับหอ พักผ่อนเตรียมตัวเผชิญหน้ากับวันเปิดเทอมมมมม!!!!............

 

แฮ่! เปิดเทอมสักทีมาดูตารางเรียนของโบ๊ตกันนน



 

 

หลายคนอาจสงสัยทำไมมันโล่งๆ ขัดใจแปลกๆ 555 ก็เทอมแรกมีวิชาให้เรียนแค่ 5 วิชา!!!

 

- Use of Computer and Information = คอม

- Man and Culture = คล้ายๆ สังคม

- English I = อิ้งครับ

- Mathematics in Daily Life = เลข

- Physical Science = วิทย์กายภาพ

 

ที่นี้เรียนกันสามเทอม สี่ปีนะครับ สามเทอมเหมือนจะเยอะ แต่มันไวมากกๆๆ เทอมละประมาณ 3 เดือนครับ หยุดเทอมเล็กประมาณ 1-2 อาทิตย์ เทอมใหญ่ประมาณ 1 เดือน เรียนที่นี้ชีทภาษาอังกฤษหมดครับ อ.ก็พูดอังกฤษ แต่จะเจอไทยบ้าง ข้อสอบก็อังกฤษหมด น้องที่กลัวเข้ามาละจะไปไม่รอด อย่าพึ่งทำลายความฝันของตัวเองเพราะเรื่องแค่นี้น่า อย่าลืมสิว่าเรายังมีคนที่นั่งข้างๆ เราตอนเรียนอยู่ ช่วยกันเรียนให้จบ ^^ เพื่อนพี่หลายคนก็ไม่ค่อยเก่งอิ้งเท่าไหร่นะ เขาปรับตัว แล้วก็พัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ก็เรียนได้ครับ พี่ไม่เชื่อหรอกว่าน้องๆ จะเรียนไม่ได้

 

โอเคมาต่อกันวิชาแรกอังกฤษ! เรียนตอนบ่าย แอบดีใจไม่ต้องตื่นเช้า 5555

 

หลักสูตรโบ๊ตเป็นหลักสูตรใหม่ ปกติจะเรียนอังกฤษแค่ 3 ตัว คือ Eng I, Eng II, Eng III แต่หลักสูตรใหม่เรียนถึง Eng V  ตายๆ 55

 

ทุกวิชาโบ๊ตจะนั่งแถวหน้าอ. ตลอด ไม่หน้าอ. ก็ถัดๆ ไป ติดมาจากตอนม.ปลาย ที่ยังไม่ได้ตัดแว่น 555 ละแบบนั่งหน้าอ. เหมือนได้รับความรู้เต็มๆ หลายวิชาแถวหน้าอ. จะไม่ค่อยมีคนนั่งครับ เพราะ กลัวรังสีอ. กัน สำหรับผมไม่แคร์ มีที่ให้นั่งก็จะนั่ง 5555

 

อุปกรณ์เครื่องเขียนของผมมีครบ (เกินไป) ครับ เป็นกล่องสี่เหลี่ยมใสๆ ใหญ่ๆ หน่อย คือ มีอะไรใส่หมดอะ เนื่องด้วยมีความ art เบาๆ ในนั้นก็จะมี ดินสอกด, ดินสอ 2B, ดินสอ EE (หลายแท่ง), ยางลบ, คัทเตอร์, ไม้บรรทัด, ปากกาสีหลายๆ สี [ไม่ต่ำกว่า 5 สี], ไฮไลท์ 2-3 แท่ง, ปากกา permanent ตราม้าสองแท่ง, ไส้ดินสอ, ปากกาลบคำผิด, ปากกา, ปากกาแดง, ปากกาดำ 0.3, ปากกาดำ 0.5, คลิปหนีบกระดาษ, marker เขียนไวท์บอร์ด, สำลี


 

 

 

สติกเกอร์นี้ได้มาจากไหนก็จะเอามาติดนี้แหละครับ ไม่รู้จะติดอะไรดี 5555 เยอะไหมครับ หนักไหมมันก็พอสมควรนะ แต่ไม่ได้หนักอะไรมากมาย พกเล่นๆ ว่างๆ เบื่อๆ ก็วาดรูปเล่นครับ ^^

 

 

 

วันแรกมาก็ไม่มีอะไร แนะนำการเรียนวิชานี้คร่าวๆ แล้วบอกว่ามีอ.สอน 2 คน ชื่อเล่นอ.คล้ายกันมาก อ.ผมสั้นชื่อ อ.ปุ๋ม ส่วนอ.ผมยาวชื่อ อ.บุ๋ม 

 

เจอแบบนี้วันแรกก็แบบมึนเลยทีเดียว 5555 หลังๆ จะเรียกติดปากกันว่า อ.ผมสั้น กับอ.ผมยาว เนื้อหาก็ไม่ค่อยต่างไปจากม.ปลายมากครับ แต่ละมีศัพท์ด้านการบินแทรกๆ บ้างนิดๆ หน่อยๆ

 

ส่วนวิชาที่จะเจอพื้นฐานการบินเต็มๆ หรือเป็นวิชาที่สำคัญมากๆ สำหรับด้านการบิน คือ วิชา ATE [Aviation Technical English] จะเจอตอนเทอมสองครับ

 

โดยรวมการเรียนอิ้งเทอมแรกไม่เป็นปัญหาเลย แต่มันมีปัญหาตรงที่...ตอนสอบบบ ข้อสอบยาก T^T คือระดับเดียวกับข้อสอบ TOEIC กับ IELE กันเลยทีเดียว วิชานี้การวัดเกรดเป็นอิงเกณฑ์ครับ คือ เหมือนม.ปลายอะ มีบอกมาให้ว่าคะแนนเท่านี้ถึงเท่านี้ได้เกรดอะไร

 

ที่นี้จะมีเกรดเหมือนมหาลัยทั่วไปแหละครับ A B+ B C+ C D+ D F 

 

-----------------------------------------------------------

 

วิชาต่อมาเรียน Man and Culture เรียกวั้นๆ ว่า แมน มันคือวิชา มนุษย์กับวัฒนธรรมครับ เนื้อหาคล้ายๆ สังคมเลย แต่ต่างตรงอิ้งหมด ฮ่าๆ โบ๊ตว่าวิชานี้เก็บ A กับ B ได้ไม่ยาก

 

แค่ในคาบตั้งใจเรียนและฟัง ไฮไลท์ตามสไลท์ [ส่วนใหญ่จะมีแนวโน้มเป็นข้อสอบสูง] มี short note บ้าง ชีททั้งหมดถ่ายเอาที่ร้านป้าครับ 5555 

 

ก่อนสอบก็มานั่งอ่านชีทนั้นแหละ อ่านซ้ำๆ สองสามรอบก็เก็บคะแนนได้ไม่ยาก ^^ อ.ที่สอนมี 4 คนครับเป็นอ.นอก จะสลับกันมาสอนครับ ข้อสอบกากบาท 100 ข้อ บทละ 20 ข้อ มี 5 บทครับ วิชานี้อิงกลุ่ม คือ คนที่ได้คะแนนสูงสุด กับต่ำสุดมาคิดเกณฑ์เอา ถ้าคนได้คะแนนน้อยเยอะๆ โอกาสที่เราจะได้เกรดโอเคก็สูงครับ พยายามเกาะ mean ค่าเฉลี่ยไว้ ถ้าเราตกมีนก็เหมือนตกใจ 55 จะต้องพยายามทำให้ได้เยอะกว่าเดิม เพราะ เราอาจมีโอกาสตกได้ *-*

 

------------------------------------------------------------

 

วิชาต่อมา คือ เลขครับ อ.ที่สอนเป็นกันเองสุดๆ สอนสนุกดีครับ เรียนไปฮาไป 555 วิชานี้ไม่มีอะไรมากครับ จดในคาบ แล้วทำ Quiz ท้ายคาบส่งเก็บลายเซนต์ไว้เป็นคะแนนเก็บ เหมือนตอนมัธยมไงไม่รู้ ฮ่าๆ ข้อสอบใครทำได้ถือว่าอัจฉริยะครับ อ.ออกไม่ยากเกิน แต่ก็ยากอะ 555 แต่อิงกลุ่มครับ ^^ อ.จะไม่ให้ F นะถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ใจดีมากครับ : ]

ข้อสอบก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แล้วแต่อ. 555

 

------------------------------------------------------------

 

วิชาถัดมาเป็นคอมครับบ เนื้อหาก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ธรรมดาๆ ครับ อ.ที่สอนก็กันเองมากกก ชื่ออ.สาว ครับ อ.เป็นคนใต้ ^^ ข้อสอบไม่ยากเลยครับ อ่านดีๆ ก็ทำได้แหละ : ] โบ๊ตชอบนั่งหน้าอ. ก็เลยชอบแซวๆ บ้าง 5555

 

------------------------------------------------------------

 

วิชาสุดท้ายๆ สุดดดด ฟิสิกกายภาพครับ วิชานี้อาจจะยากสำหรับใครหลายคน เรียนเกี่ยวกับวิชาฟิสิก+เคมี+โลกและดาราศาสตร์ ครับ สำหรับโบ๊ตไม่ยากมาก ก็ตั้งใจเรียนในคาบ จด short note บ้าง ก่อนสอบก็ทำสรุปให้อ่านง่าย ข้อสอบก็มีข้อเขียนและกากบาทครับ ข้อเขียน 1-2 ข้อ ^^

 

คือ ฟิสิกที่เรียนในวิชานี้ง่ายกว่าตอนสอบเข้าอีก 555 เคมีก็พื้นฐานๆ ง่ายๆ ชิวๆ สายวิทย์ชิวไป สายศิลป์ก็เข้าใจได้ไม่ยากครับ : ]

 

----------------------------------------------------------

 

การขาดเรียนนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละวิชาว่าจะเช็คชื่อไหม ถ้าไม่เช็คก็โดดได้ แต่ต้องรับผิดชอบเอาเองถ้าวันนั้นมี สอบเก็บคะแนนพอดี 5555

 

ส่วนใหญ่ตึกหรือห้องที่เรียนจะหนีไม่พ้น 3 ที่หลักๆ คือ เอนกประสงค์, Hall 1 และ Hall 2 จะไว้เรียนกับวิชาที่คนเรียนเยอะๆ เช่น เลข, ฟิสิก, แมน, คอม ครับ ส่วนอิ้งจะได้เรียนห้องเล็กๆ ไป เช่น บล็อค 8, ตึก 12 ห้อง 106, อาคารเรียนรวม 1 และ 2

 

บรรยากาศในการเรียนก็มีทั้งคนที่ตั้งใจ และไม่ตั้งใจครับ คนที่คุยดังๆ จะมีกลุ่มน้อยๆ นานๆ จะคุยดังที หรือเขาอาจจะไปคุยข้างนอกห้องก็ไม่รู้ 5555 เพราะ การเรียนในมหาลัยมันเปิดกว้างมากครับ ใครอยากทำอะไรทำ แต่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตนเองทำ 

 

ในครึ่งแรก ของเทอมแรกเหมือนจะสบายใช่ป่าว เรียนแค่ 5 ตัว แต่ไม่เลยยยย ยังมีกิจกรรมรับน้องของสถาบันอยู่ กิจกรรมนี้จะมีเรื่อยๆ ทั้งเทอมเลยครับ แรกๆ จะเข้มข้นมาก รับน้องนี้มีครบทุกรสเลย ทั้งเหนื่อย ทั้งสนุก ทั้งเศร้า ทั้งดีใจ ฯลฯ

 

รับน้องไม่โหดเลยครับ และเน้นความปลอดภัยมาเป็นอันดับ 1 เลย เพราะ จะทำงานด้านี้ ความปลอยภัยมาก่อนเสมอครับ โบ๊ตเข้ารับน้องทุกครั้งเลย อาจจะเหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง แต่ก็สนุกดีครับ ที่สำคัญเวลาที่เราเหนื่อยยังมีคนข้างๆ เราที่เหนื่อยไปเหมือนกับเราอยู่

 

เข้ารับน้องแล้วได้เพื่อนเยอะมากๆ เรียกได้ว่าจำกันได้แทบทุกคนเลย แต่จำชื่อไม่ค่อยได้ 55555 เข้ามาแรกๆ จะได้ยินบ่อยมาก เธอๆ ชื่ออะไรอะ นายๆ ชื่ออะไรอะ เพราะ บางทีจำหน้าได้นะ แต่จำชื่อไม่ได้ 555

 

สังคมที่นี้โบ๊ตว่าก็ดีน่า มันก็เป็นปกติแหละ มีทั้งคนดี และคนไม่ดี แต่ส่วนใหญ่จะดี เพราะ ที่นี้สังคมแคบ สถาบันก็ไม่กว้างอะไรเท่ามหาลัย เดินไปก็อ้าวเจอคนนี้อีกละ เจอพี่คนนั้นอีกละ รู้จักกันเยอะครับ แล้วรุ่นพี่ก็ให้ความช่วยเหลือดีมากๆ ซึ้งสุดๆ เลย T^T

 

การรู้จักคนเยอะๆ เป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับที่นี้ครับ เพราะ มันมีผลต่องานในอนาคตเลย รุ่นพี่นี้แหละอาจเป็นหัวหน้าที่เราไปสมัครงานด้วยในอนาคต 5555

 

ประสบการณ์ปลากัดนิ้วครั้งแรก 555 ตรงแถวๆ หน้าอาคารเอนกประสงค์จะมีบ่อปลาเล็กๆ บ่อหนึ่ง มีปลาตัวๆ ใหญ่หน่อย เวลาอะไรใกล้บ่อมันจะงับ โหดมาก มีฉายาว่า ปิรันย่า!!! วันหนึ่งโบ๊ตไม่รู้ไง ไปดูบ่อ ละเห็นมาว่ายมาใกล้ผิวน้ำ ไม่คิดไรเอานิ้วแหย่ไป เท่านั้นแหละ มันกระโดดมางับนิ้วเลย น้ำกระเด็นเปียกหมดเลย 555 ไม่เจ็บเลย เหมือนอะไรนิ่มๆ มางับแล้วปล่อยไป

 

มีคนโดนเรื่อยๆ ครับ ฮาดี เพื่อนพี่คนหนึ่งคนมาสอบสัมภาษณ์ก็มานั่งขอบบ่อ โดนงับตูดไป สอบติดเลย 55555

 

เรียนๆ เล่นๆ รับน้องไปเรื่อยๆ จนมีกิจกรรมใหญ่อีกกิจกรรม คือ Freshy Day Freshy Night ครับ เป็นงานของปีหนึ่ง ต้องช่วยกันทำ ตอนเช้าก็เข้าฐานสนุกสนาน ตอนกลางคืนจะมีแสดงหลายอย่าง และมีแสดงละครแต่ละแผนกด้วย โบ๊ตอยู่ฝ่าย Prop ครับ มันคือ ของตกแต่ง เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ดอกไม้ ไรพวกนี้ที่ไม่ใช่ฉากจริงๆ ที่เป็นแบนๆ อยู่ข้างหลังอ่าครับ กิจกรรมนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี

 

หลังจากนั้นไม่นานนน เทศกาลสอบมิดเทอมๆ แรกก็มาถึง!!!!!! หนังสือแทบไม่ได้อ่านเลย อ่านสอบสอบวันเดียว สอบ 5 วันๆ ละวิชาครับ ก็ยังมีเวลาอ่าน ฮ่าๆ

 

สอบเสร็จโล่งงง พอประกาศคะแนนเท่านั้นแหละ ทรุดเลย T^T

 

วิชาแรกที่ออกก่อนเพื่อนเลย คือ อังกฤษครับ โบ๊ตได้ 15 เต็ม 30 เองงง ผ่านเกณฑ์ mean พอดีแป๊ะ! เศร้าเลยไงท้อป 25 ส่วน min น่าจะ 6 เพื่อนประมาณ 90 คนต่อประมาณ 300 คนได้น้อยกว่าครึ่งก็เลยไปดรอปกัน [ดรอป คือ การถอนรายวิชานั้นๆ ออกจากแผนที่เราเรียน แล้วเทอมถัดไปที่มีเปิดให้ลงวิชาที่เราดรอปมาก็ค่อยลงเรียนใหม่ ข้อดีคือดรอปก่อนติด F เกรดเฉลี่ยจะไม่โดนดึงตก เพราะ ถ้าได้ F ตัวเดียวเกรดจะตกมากๆ จะดรอปได้ก็หลังประกาศคะแนนมิดเทอม ข้อเสียเสียเงินลงทะเบียนเรียนวิชานั้นๆ ใหม่ และเสียเวลาเรียนใหม่]

 

โบ๊ตอยากเป็น ATC ด้วยไง ละตอนสอบคัดเขาจะดูวิชาอังกฤษกับ ATE เป็นส่วนใหญ่ อิ้งต้องทำได้ดีๆ หน่อย C ขึ้นไป ละลองคิดดูอิ้งตัด F ที่ 55 จะได้เกรด C ต้องทำคะแนนรวมให้ได้ 66-70 คะแนน T^T มิดเทอม 30 ไฟนอล 30 เก็บอีก 40 [เก็บเหมือนจะเยอะ แต่ก็ใช่ว่าจะได้คะแนนมาเยอะ] มิดเทอมไปละ 15 แง่ง จะรอดไหม อย่างดีๆ ก็คงได้ D D+ ละมั่งเนี่ยยย ถ้าได้จริงๆ ต้องคิดกันว่าจะรีเกรดไหม [รีเกรด คือ ได้เกรด D หรือ D+ วิชานั้นๆ แล้วลงทะเบียนเรียนใหม่ ก็คล้ายๆ ดรอปนั้นแหละ]

 

ตอนนั้นเครียดมากๆๆ เลยไปปรึกษาอ.ที่สอน อ.ก็ให้คำแนะนำว่า ให้สู้ต่อ ทำไฟนอลดีๆ ทำคะแนนเก็บดีๆ โบ๊ตก็เอาก็เอาสู้ต่อไป!!!

 

วิชาที่เหลือคะแนนค่อนข้างโอเคเลยครับ

 

คอม ได้ 27.5 เต็ม 40, สูงสุด 30, mean ประมาณ 17 ครับ วิชานี้ถือว่าโอเลย 

 

เลข ได้ประมาณ 28, สูงสุดไม่ได้บอกไว้ตามที่เล่ากันมาประมาณ 30-40, mean ประมาณ 19 ครับ โอเคอยู่ๆ 55

 

แมน ได้ 67 เต็ม 100, สูงสุด 76, mean ประมาณ 42 ครับ วิชานี้ฉลุย 555

 

ฟิสิก ได้ 45 เต็มน่าจะ 80 นะ(จำไม่ค่อยได้ ขอโทษน่าครับ), สูงสุดประมาณ 50-60 นี้แหละ ลืมแหละ TOT

 

สรุปคือ วิชาอื่นโอเค วิชาอังกฤษปรับปรุงด่วนนนน...

 

ไว้มาต่อเทอมแรกครึ่งหลังกันนะครับ ขอตัวไปนอนก่อนแล้วว พึ่งสอบมิดเทอมๆ สองเสร็จพอดี มีเวลาเลยอัพสักอย่างสองตอนเลย 555 ขอบคุณที่ติดตามและอ่านนะคร้าบบบ ^^"


==========================================