ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มิติต่างภพ

    ลำดับตอนที่ #3 : อ้างว้าง

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.ย. 54


    ทันใดนั้นเธอเหลือบไปเห็นเด็กชายตัวผอมดำอายุประมาณ 5-6 ขวบสวมเสื้อผ้าเก่าๆยืนหันซ้ายแลขวาเหมือนเขากำลังรอใครสักคน...

       "หนูจ๊ะ  ยืนรอใครอยู่หรือ " กัญจพรร้องทักเสียงสะอึกสะอื้น

        เด็กชายค่อยๆหันมาทางเธอด้วยใบหน้าเศร้าหมอง

       "ผมรอพ่อกับแม่อยู่ฮะ  " เด็กชายตอบ

      "แล้วพ่อกับแม่หนู เขาอยู่ที่ไหน" เธอเดินไปจับไหล่เด็กชายเบาๆด้วยความเห็นใจ

      "ผมไม่รู้ฮ่ะ " สายตาสองคู่ดูอ้างว้าง โดดเดี่ยว กัญสังเกตุ

      "พ่อกับแม่เขาไม่ต้องการผม เขาไม่อยากให้ผมเกิด "เด็กชายเล่าต่อเสียงสั่นเครือ.......
       
            ภรณีสาวน้อยวัยยี่สิบปีเศษเดินเข้าไปหาแฟนหนุ่มอย่างกระวนกระวายใจ

     "มีอะไรหรือภร " อภิชัยถาม

    "ชัย  ภร  ภร มีเรื่องไม่สบายใจเลย " เธอเล่าตะกุกตะกักพร้อมกับถอนหายใจ   

    "มีเรื่องอะไรก็บอกมาซิ  อ้ำอึ้งทำไม "อภิชัยเริ่มขุ่น

    " ภร ภร " ภรณีอึกอัก

    "เมนส์ไม่มา 2 เดือนกว่าแล้ว "ภรณีกลั้นใจพูดจนจบ

    "แล้วทำไม ไม่ป้องกัน " อภิชัยตวาด

    "ภรจะปล่อยให้ท้องไม่ได้นะ เราทั้งคู่ก็กำลังเรียนหนังสือกันอยู่ เรายังไม่มีอะไรกันเลย บ้านก็ยังไม่มี รถก็ยังไม่มี ถ้าพ่อแม่ชัยรู้ เอาชัยตายแน่! "อภิชัยพูดต่อ

    "เราจะทำยังไงกันดีหละชัย ภรกลัว" ภรณีกล่าวด้วยเสียงหวาดหวั่น

    "ตอนนี้ยังคิดไม่ออกโว้ย  เอาเป็นว่ากลับไปนอนคิดกันก่อนแล้วกัน เดี๋ยวชัยไปส่งที่หอนะ " อภิชัยเสนอ

            หลังจากที่อภิชัยมาส่งเธอค่ำนั้น ภรณีไม่กล้าออกไปไหน เธอเก็บตัวอยู่ในห้องจมอยู่กับความคิดของตนเอง อภิชัยไม่เคยแวะมาหาเธออีกเลย
           โทรศัพท์ก็ไม่รับสาย เธอคิดวนเวียนครั้งแล้วครั้งเล่า

      "มันเป็นความผิดของเธอเองที่ไม่ป้องกัน ถ้าพ่อแม่รู้คงจะเสียใจ" เธอหวนรำลึกถึงพ่อและแม่ที่ป่านนี้คงยืนหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินเกี่ยวข้าวกัน 2 คนเพื่อ

       หาเงินส่งเธอเรียน  มหาวิทยาลัยชื่อดังเพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้มีงานดีๆทำเหมือนลูกชาวบ้านคนอื่น..

        "ตั้งใจเรียนนะลูก อย่าชิงสุกก่อนห่าม พ่อกับแม่จะทำงานหาเงินให้ลูกได้เรียนสูงๆ  คนอื่นจะได้ไม่มาดูถูกเรา" ภรณีคิดถึงคำพูดของแม่ที่พร่ำบอกเธอเมื่อวันที่เธอร่ำลา

           ก่อนเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัย

      " ไม่ได้ ! ฉันจะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ ฉันจะไม่ยอมให้อะไรเป็นอุปสรรคกับอนาคตของฉัน "

         ภรณีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาอภิชัยอีกครั้ง

          "หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ " เสียงปลายสายตอบ

       ภรณีวางโทรศัพท์ลงอย่างหมดอาลัยตายอยาก แม้ในยามที่เธอต้องการใครสักคนเพื่อปลอบขวัญ เพื่อปรึกษา คนที่เคยบอกว่ารักเธออย่างหมดใจและจะอยู่ด้วยกันตลอดไป

    หากแต่ตอนนี้ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา

     "เขาหายไปไหน ชัยหายไปไหน "ภรณีพร่ำไห้พลางฟุบหน้าลงบนโต๊ะอ่านหนังสือ เธอกำมือแน่น

     "ฉันจะทำอย่างไรดี ฉันยังไม่พร้อมที่จะมีเขาในตอนนี้" น้ำตานองหน้าขณะเอามือลูบท้องตัวเองเบา เบา ความคิดล่องลอย

    คิดถึงอนาคตที่มีเพียงเธอและลูกน้อย  พ่อกับแม่  ภาพของคนที่ท้องโย้ ขณะเดินออกจากมหาวิทยาลัยก่อนเวลาอันควร

     ขณะที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่นั้น มือเธอก็ปัดไปโดนของเล็กๆตกจากโต๊ะ ภรณีเหลือบตาไปมองตามเสียง

    "เมาส์ ! " ภรณีเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมาวางลงบนโต๊ะดังเดิม สมองสั่งการเธออย่างรวดเร็วให้ค้นหาข้อมูลเรื่องการคั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร

     เธอเข้าไปอ่านข้อความของคนอื่นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เธอกวาดสายตาอย่างรวดเร็ว

    ก่อนจะสะดุดตากับคำว่า  "ยาขับเลือด" ภรณีขนลุก

     "ยาขับเลือดคือยาที่นิยมใช้มากในหมู่วัยรุ่น ใช้สำหรับขับเลือด ราคาไม่แพง หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป "

      ภรณีปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ทันทีหลังจากที่ได้ข้อมูลมาบางส่วน สายตาเธอดูมีความหวัง มันจะเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เธอเรียนจบมหาวิทยาลัย

    พร้อมกับเพื่อนๆและพ่อแม่ของเธอก็ไม่ต้องอายเพื่อนบ้าน

     ก่อนจะพรวดพราดออกจากห้องอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าสู่ร้านขายยาเล็กๆซึ่งอยู่ใกล้หอพักของเธอเอง

    โชคดีที่ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม คนไม่พลุกพล่าน...

     " หนูมาซื้อยา " ภรณีกล่าวอึกอัก

     "ซื้อยาอะไรจ๊ะ " คนขายเป็นหญิงวัยกลางคนถาม

    "ซื้อยาขับเลือด  เมนส์หนูไม่มาเกือบ 3 เดือนแล้ว " ภรณีโพล่งออกไปฃ

      คนขายสะดุดก่อนหันมาจ้องหน้าเธอสักพัก แล้วพูดต่อ

    "ต่อไปถ้าจะมีอะไรกับแฟนก็ต้องระวังให้มากกว่านี้ ยาคุมกำเนิดก็มี ถุง...."

    "มียาขับเลือดมั้ย " ภรณีขัดก่อนที่คนขายจะพูดจบ เธอร้อนรนเพราะกลัวเพื่อนมาเห็น

    คนขายหันไปหยิบยามาให้เธอ 1 กล่อง

    "กี่บาทเจ๊"  ภรณีถาม

     "150 บาท " คนขายยาตอบ ภรณีวางเงินไว้แล้วเดินจากมาอย่างรวดเร็ว เธอได้ยินเสียงของคนขายยาไล่หลัง

    "เด็กสมัยนี้ ทำอะไรไม่รู้จักคิด "
     
       ภรณีปิดประตูล็อคกุญแจอย่างแน่นหนา ร้อนรน แกะกล่องยามาอ่านด้วยมือไม้สั่นเทา

     "ยาขับเลือดใช้ำสำหรับสตรีที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ  ทำให้ผิวผรรณเปล่งปลั่ง ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ "

     แผงยาตกลงบนเตียง น้ำตาซึม พลางลูบท้องตัวเองเบาๆ

    "แม่รักลูกนะ แต่แม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ " เธอกล่าวกับลูกน้อยเบาๆ

    "แม่ไม่พร้อมจะมีหนูตอนนี้ ลูกไปอยู่กับคนอื่นเขาก่อนเถอะ"

    "ถ้าแม่พร้อมากกว่านี้ หนูค่อยกลับมาอยู่กับแม่" ภรณีพร่ำเบาๆ

    "แม่รักลูกนะ แต่แม่ก็จำเป็นต้องทำแบบนี้ " กล่าวจบเธอก็หยิบยา 2 เม็ดเข้าปากอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกผิดเข้าถาโถม

    หากแต่เธอก็รอไม่ได้อีกแล้ว เธอจะปล่อยให้ทุกอย่างสายเกินไปไม่ได้  ภรณีพลิกตัวกลับไปกลับมาบนเตียงก่อนผล็อยหลับไป

    หลังจากที่เธอหลับๆตื่นๆมาหลายสัปดาห์ มันเป็นครั้งแรกที่เธอได้หลับอย่างเต็มตา หากแต่ลูกน้อยในท้องของเธอดิ้นรนกระสับกระส่าย

    ตัวของหนูน้อยเบาโหวง ไร้เรี่ยวแรง เคว้งคว้างไร้ที่พักพิง ........

    ผ่านไปสามวันหลังจากกินยาเข้าไป ภรณีตัดสินใจออกไปเรียนหนังสือตามปกติ เธอไม่ลืมที่จะกินยาอย่างเคร่งครัดก่อนออกออกจากห้อง

    บ่ายวันหนึ่งขณะที่นั่งเรียนหนังสือ เธอรู้สึกปวดท้องอย่างรุนแรง เธอแอบย่องออกหลังห้องเรียนไปเข้าห้องน้ำ  เธอรู้สึกเหมือนจะเป็นลม

    เหงื่อแตกท่วมกาย  เธอจะตายไหมนี่... พร้อมกับนั่งลงบนโถส้วม มือกุมท้องตัวเองด้วยความเจ็บปวด  เธอมีความรู้สึกเหมือนมีอะไรหลุดออกจากท้อง

    ภรณีค่อยๆก้มมองที่โถส้วม ชิ้นส่วนเลือดเต็มไปหมด ...

     "หนูน้อยยอมแพ้ต่อชะตาชีวิตของตนเอง ยอมแพ้ต่อโอกาสที่จะได้เกิดมาและมองดูโลกใบนี้ที่สวยงามเหมือนอย่างเด็กคนอื่นๆ  โอกาสของเขาไม่มีอีกแล้ว

    ร่างกายของหนูน้อยร้อนเหมือนแดดเผา ตัวแห้งเผือด ก่อนจะถูกขับออกมาพร้อมกับชิ้นส่วนอื่นๆ........

                     ดวงตาของหนูน้อยรื้นด้วยน้ำตาหันมามองกัญจพรด้วยสายตาว่างเปล่า ก่อนจะถามเธอว่า

    " พี่มีน้ำกินไหม ผมร้อน  ขอน้ำกินหน่อย"

    กัญจพรเอื้อมมือหยิบน้ำเปล่าให้เด็ก 1 แก้ว เด็กคนนั้นรับมาดื่มรวดเดียวหมด เขาคืนแก้วเปล่าให้กัญจพร กล่าวขอบคุณแล้วเดินจากไปด้วยสายตาที่ว่างเปล่า

    และร่างก็ค่อยๆเลือนหายไป ...

             กัญจพรมองดูแก้วน้ำที่ว่างเปล่าในมือ เธอได้น้ำมาจากไหนกัน แล้วใครเอาน้ำใส่แก้วใบนี้ให้เธอ  เธอหยิบมันติดมือมาตั้งแต่เมื่อไร ?? เธอหวนรำลึกถึงตนเอง

      เธอโชคดีแค่ไหนที่อย่างน้อยก็มีโอกาสเกิดมาดูโลกใบนี้ ได้อยู่กับครอบครัวเล็กๆ ที่อบอุ่น ถึงแม้ครอบครัวของเธอจะยากจนแต่ทุกคนก็มีความรัก ความเอื้อเฟื้อ

     ให้แก่กัน หากแต่ตอนนี้พ่อแม่พี่น้องของเธอหายไปไหนหมด

       "พ่อ แม่ พี่กร น้องกาญจน์ ทุกคนหายไปไหนกันหมด " เธอกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย หากแต่เธอก็มีความหวังว่าสักวันคงได้พบกับครอบครัว

     และอยู่กันพร้อมหน้าอีกครั้ง....................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×