คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : อ้างว้าง
ทันใดนั้นเธอเหลือบไปเห็นเด็กชายตัวผอมดำอายุประมาณ 5-6 ขวบสวมเสื้อผ้าเก่าๆยืนหันซ้ายแลขวาเหมือนเขากำลังรอใครสักคน...
"หนูจ๊ะ ยืนรอใครอยู่หรือ " กัญจพรร้องทักเสียงสะอึกสะอื้น
เด็กชายค่อยๆหันมาทางเธอด้วยใบหน้าเศร้าหมอง
"ผมรอพ่อกับแม่อยู่ฮะ " เด็กชายตอบ
"แล้วพ่อกับแม่หนู เขาอยู่ที่ไหน" เธอเดินไปจับไหล่เด็กชายเบาๆด้วยความเห็นใจ
"ผมไม่รู้ฮ่ะ " สายตาสองคู่ดูอ้างว้าง โดดเดี่ยว กัญสังเกตุ
"พ่อกับแม่เขาไม่ต้องการผม เขาไม่อยากให้ผมเกิด "เด็กชายเล่าต่อเสียงสั่นเครือ.......
ภรณีสาวน้อยวัยยี่สิบปีเศษเดินเข้าไปหาแฟนหนุ่มอย่างกระวนกระวายใจ
"มีอะไรหรือภร " อภิชัยถาม
"ชัย ภร ภร มีเรื่องไม่สบายใจเลย " เธอเล่าตะกุกตะกักพร้อมกับถอนหายใจ
"มีเรื่องอะไรก็บอกมาซิ อ้ำอึ้งทำไม "อภิชัยเริ่มขุ่น
" ภร ภร " ภรณีอึกอัก
"เมนส์ไม่มา 2 เดือนกว่าแล้ว "ภรณีกลั้นใจพูดจนจบ
"แล้วทำไม ไม่ป้องกัน " อภิชัยตวาด
"ภรจะปล่อยให้ท้องไม่ได้นะ เราทั้งคู่ก็กำลังเรียนหนังสือกันอยู่ เรายังไม่มีอะไรกันเลย บ้านก็ยังไม่มี รถก็ยังไม่มี ถ้าพ่อแม่ชัยรู้ เอาชัยตายแน่! "อภิชัยพูดต่อ
"เราจะทำยังไงกันดีหละชัย ภรกลัว" ภรณีกล่าวด้วยเสียงหวาดหวั่น
"ตอนนี้ยังคิดไม่ออกโว้ย เอาเป็นว่ากลับไปนอนคิดกันก่อนแล้วกัน เดี๋ยวชัยไปส่งที่หอนะ " อภิชัยเสนอ
หลังจากที่อภิชัยมาส่งเธอค่ำนั้น ภรณีไม่กล้าออกไปไหน เธอเก็บตัวอยู่ในห้องจมอยู่กับความคิดของตนเอง อภิชัยไม่เคยแวะมาหาเธออีกเลย
โทรศัพท์ก็ไม่รับสาย เธอคิดวนเวียนครั้งแล้วครั้งเล่า
"มันเป็นความผิดของเธอเองที่ไม่ป้องกัน ถ้าพ่อแม่รู้คงจะเสียใจ" เธอหวนรำลึกถึงพ่อและแม่ที่ป่านนี้คงยืนหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินเกี่ยวข้าวกัน 2 คนเพื่อ
หาเงินส่งเธอเรียน มหาวิทยาลัยชื่อดังเพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะได้มีงานดีๆทำเหมือนลูกชาวบ้านคนอื่น..
"ตั้งใจเรียนนะลูก อย่าชิงสุกก่อนห่าม พ่อกับแม่จะทำงานหาเงินให้ลูกได้เรียนสูงๆ คนอื่นจะได้ไม่มาดูถูกเรา" ภรณีคิดถึงคำพูดของแม่ที่พร่ำบอกเธอเมื่อวันที่เธอร่ำลา
ก่อนเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัย
" ไม่ได้ ! ฉันจะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้ ฉันจะไม่ยอมให้อะไรเป็นอุปสรรคกับอนาคตของฉัน "
ภรณีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาอภิชัยอีกครั้ง
"หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ " เสียงปลายสายตอบ
ภรณีวางโทรศัพท์ลงอย่างหมดอาลัยตายอยาก แม้ในยามที่เธอต้องการใครสักคนเพื่อปลอบขวัญ เพื่อปรึกษา คนที่เคยบอกว่ารักเธออย่างหมดใจและจะอยู่ด้วยกันตลอดไป
หากแต่ตอนนี้ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขา
"เขาหายไปไหน ชัยหายไปไหน "ภรณีพร่ำไห้พลางฟุบหน้าลงบนโต๊ะอ่านหนังสือ เธอกำมือแน่น
"ฉันจะทำอย่างไรดี ฉันยังไม่พร้อมที่จะมีเขาในตอนนี้" น้ำตานองหน้าขณะเอามือลูบท้องตัวเองเบา เบา ความคิดล่องลอย
คิดถึงอนาคตที่มีเพียงเธอและลูกน้อย พ่อกับแม่ ภาพของคนที่ท้องโย้ ขณะเดินออกจากมหาวิทยาลัยก่อนเวลาอันควร
ขณะที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่นั้น มือเธอก็ปัดไปโดนของเล็กๆตกจากโต๊ะ ภรณีเหลือบตาไปมองตามเสียง
"เมาส์ ! " ภรณีเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมาวางลงบนโต๊ะดังเดิม สมองสั่งการเธออย่างรวดเร็วให้ค้นหาข้อมูลเรื่องการคั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร
เธอเข้าไปอ่านข้อความของคนอื่นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เธอกวาดสายตาอย่างรวดเร็ว
ก่อนจะสะดุดตากับคำว่า "ยาขับเลือด" ภรณีขนลุก
"ยาขับเลือดคือยาที่นิยมใช้มากในหมู่วัยรุ่น ใช้สำหรับขับเลือด ราคาไม่แพง หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป "
ภรณีปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ทันทีหลังจากที่ได้ข้อมูลมาบางส่วน สายตาเธอดูมีความหวัง มันจะเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เธอเรียนจบมหาวิทยาลัย
พร้อมกับเพื่อนๆและพ่อแม่ของเธอก็ไม่ต้องอายเพื่อนบ้าน
ก่อนจะพรวดพราดออกจากห้องอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าสู่ร้านขายยาเล็กๆซึ่งอยู่ใกล้หอพักของเธอเอง
โชคดีที่ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม คนไม่พลุกพล่าน...
" หนูมาซื้อยา " ภรณีกล่าวอึกอัก
"ซื้อยาอะไรจ๊ะ " คนขายเป็นหญิงวัยกลางคนถาม
"ซื้อยาขับเลือด เมนส์หนูไม่มาเกือบ 3 เดือนแล้ว " ภรณีโพล่งออกไปฃ
คนขายสะดุดก่อนหันมาจ้องหน้าเธอสักพัก แล้วพูดต่อ
"ต่อไปถ้าจะมีอะไรกับแฟนก็ต้องระวังให้มากกว่านี้ ยาคุมกำเนิดก็มี ถุง...."
"มียาขับเลือดมั้ย " ภรณีขัดก่อนที่คนขายจะพูดจบ เธอร้อนรนเพราะกลัวเพื่อนมาเห็น
คนขายหันไปหยิบยามาให้เธอ 1 กล่อง
"กี่บาทเจ๊" ภรณีถาม
"150 บาท " คนขายยาตอบ ภรณีวางเงินไว้แล้วเดินจากมาอย่างรวดเร็ว เธอได้ยินเสียงของคนขายยาไล่หลัง
"เด็กสมัยนี้ ทำอะไรไม่รู้จักคิด "
ภรณีปิดประตูล็อคกุญแจอย่างแน่นหนา ร้อนรน แกะกล่องยามาอ่านด้วยมือไม้สั่นเทา
"ยาขับเลือดใช้ำสำหรับสตรีที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ ทำให้ผิวผรรณเปล่งปลั่ง ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ "
แผงยาตกลงบนเตียง น้ำตาซึม พลางลูบท้องตัวเองเบาๆ
"แม่รักลูกนะ แต่แม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ " เธอกล่าวกับลูกน้อยเบาๆ
"แม่ไม่พร้อมจะมีหนูตอนนี้ ลูกไปอยู่กับคนอื่นเขาก่อนเถอะ"
"ถ้าแม่พร้อมากกว่านี้ หนูค่อยกลับมาอยู่กับแม่" ภรณีพร่ำเบาๆ
"แม่รักลูกนะ แต่แม่ก็จำเป็นต้องทำแบบนี้ " กล่าวจบเธอก็หยิบยา 2 เม็ดเข้าปากอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกผิดเข้าถาโถม
หากแต่เธอก็รอไม่ได้อีกแล้ว เธอจะปล่อยให้ทุกอย่างสายเกินไปไม่ได้ ภรณีพลิกตัวกลับไปกลับมาบนเตียงก่อนผล็อยหลับไป
หลังจากที่เธอหลับๆตื่นๆมาหลายสัปดาห์ มันเป็นครั้งแรกที่เธอได้หลับอย่างเต็มตา หากแต่ลูกน้อยในท้องของเธอดิ้นรนกระสับกระส่าย
ตัวของหนูน้อยเบาโหวง ไร้เรี่ยวแรง เคว้งคว้างไร้ที่พักพิง ........
ผ่านไปสามวันหลังจากกินยาเข้าไป ภรณีตัดสินใจออกไปเรียนหนังสือตามปกติ เธอไม่ลืมที่จะกินยาอย่างเคร่งครัดก่อนออกออกจากห้อง
บ่ายวันหนึ่งขณะที่นั่งเรียนหนังสือ เธอรู้สึกปวดท้องอย่างรุนแรง เธอแอบย่องออกหลังห้องเรียนไปเข้าห้องน้ำ เธอรู้สึกเหมือนจะเป็นลม
เหงื่อแตกท่วมกาย เธอจะตายไหมนี่... พร้อมกับนั่งลงบนโถส้วม มือกุมท้องตัวเองด้วยความเจ็บปวด เธอมีความรู้สึกเหมือนมีอะไรหลุดออกจากท้อง
ภรณีค่อยๆก้มมองที่โถส้วม ชิ้นส่วนเลือดเต็มไปหมด ...
"หนูน้อยยอมแพ้ต่อชะตาชีวิตของตนเอง ยอมแพ้ต่อโอกาสที่จะได้เกิดมาและมองดูโลกใบนี้ที่สวยงามเหมือนอย่างเด็กคนอื่นๆ โอกาสของเขาไม่มีอีกแล้ว
ร่างกายของหนูน้อยร้อนเหมือนแดดเผา ตัวแห้งเผือด ก่อนจะถูกขับออกมาพร้อมกับชิ้นส่วนอื่นๆ........
ดวงตาของหนูน้อยรื้นด้วยน้ำตาหันมามองกัญจพรด้วยสายตาว่างเปล่า ก่อนจะถามเธอว่า
" พี่มีน้ำกินไหม ผมร้อน ขอน้ำกินหน่อย"
กัญจพรเอื้อมมือหยิบน้ำเปล่าให้เด็ก 1 แก้ว เด็กคนนั้นรับมาดื่มรวดเดียวหมด เขาคืนแก้วเปล่าให้กัญจพร กล่าวขอบคุณแล้วเดินจากไปด้วยสายตาที่ว่างเปล่า
และร่างก็ค่อยๆเลือนหายไป ...
กัญจพรมองดูแก้วน้ำที่ว่างเปล่าในมือ เธอได้น้ำมาจากไหนกัน แล้วใครเอาน้ำใส่แก้วใบนี้ให้เธอ เธอหยิบมันติดมือมาตั้งแต่เมื่อไร ?? เธอหวนรำลึกถึงตนเอง
เธอโชคดีแค่ไหนที่อย่างน้อยก็มีโอกาสเกิดมาดูโลกใบนี้ ได้อยู่กับครอบครัวเล็กๆ ที่อบอุ่น ถึงแม้ครอบครัวของเธอจะยากจนแต่ทุกคนก็มีความรัก ความเอื้อเฟื้อ
ให้แก่กัน หากแต่ตอนนี้พ่อแม่พี่น้องของเธอหายไปไหนหมด
"พ่อ แม่ พี่กร น้องกาญจน์ ทุกคนหายไปไหนกันหมด " เธอกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย หากแต่เธอก็มีความหวังว่าสักวันคงได้พบกับครอบครัว
และอยู่กันพร้อมหน้าอีกครั้ง....................................
ความคิดเห็น