คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ไว้ค่อยคิด 5555555
ผมตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวเล็กน้อย ภายในห้องที่แทบจะไม่เหลือแสงเล็ดลอดเข้ามาจากหน้าต่างที่มีผ้าม่านสีฟ้าหนากรองแสงเอาไว้ บรรยากาศภายในห้องถูกปกคลุมไปด้วยความเย็นจากแอร์ที่ถูกเปิดต่อเนื่องมาตั้งแต่หลายชั่วโมงที่ผ่านมา ผมหันไปมองนาฬิกาดิจิทัลที่แสดงไฟแอลอีดีเป็นตัวเลขสีฟ้าที่ตอนนี้แสดงเวลา 16:15 ผมควานมือหาบางอย่างไปทั่วเตียง แต่ควานหายังไงก็หาไม่เจอสักที จนผมต้องดิ้นขยับทั้งแขนทั้งขาบิดหมุนไปทั่วเตียงจนกระทั่ง
“ปลั่กแปล่ก” เสียงสองจังหวะที่ผมคุ้นเคยหากแต่ก็ไม่ได้ยินมันบ่อยนักดังขึ้นจากปลายเตียง มันเป็นเสียงวัตถุที่หล่นลงกระแทกพื้นไม้ลามิเนตที่ถูกติดตั้งเป็นพื้นห้อง มันช่างเป็นเสียงที่ทำให้ผมปวดหัวใจทุกครั้งที่ได้ยินมัน ทำไมเสียงไอ้โทรศัพท์มือถือแบรนด์นี้มันช่างมีเอกลักษณ์ต่อแรงกระแทกนักนะ ได้ยินปุ๊บเป็นอันต้องเข้าใจและทำใจไปพร้อมๆ กัน เพราะตั้งแต่ผมทำมันตกมากี่รอบต่อกี่รอบ ผมก็จะได้ยินเสียงนี้เสมอ ไม่ผิดเพี้ยนผิดคีย์หรือเสียงหลงไปแต่อย่างใด ผมลุกขึ้นนั่งอย่างหัวเสีย ตื่นมาตอนเย็นๆ นี่ปวดหัวชะมัด ผมเขยิบตัวจนไปนั่งขัดสมาธิอยู่ปลายเตียงก่อนจะก้มลงสุดตัวเพื่อหยิบโทรศัพท์เครื่องสีขาวของผมขึ้นมา หัวเกือบทิ่ม นี่ถ้ามันตกไกลกว่านี้อีกหน่อยมีหวังผมได้ตีลังกาท่าสวยลงไปนั่งกองกับพื้นแน่ๆ ไม่รอช้าหลังจากที่ผมคว้ามันมาได้ผมก็ทิ้งน้ำหนักนิ้วโป้งของผมลงบนปุ่มเดียวที่มีอยู่ในระนาบจอภาพทันทีก่อนที่แสงไฟบนหน้าจอจะเฟดสว่างขึ้นอย่างนุ่มนวล ลิสท์รายการโนติฟิฯยาวเหยียดแสดงขึ้นมาทับบนภาพพื้นหลังที่เป็นรูปของผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกเบลอจนพร่ามัวเพื่อให้ตัวหนังสือเด่นชัดขึ้น ผมเลื่อนดูลิสท์ลงไปเรื่อยๆ และกวาดสายตาอ่านมันอย่างลวกๆ เพื่อดูรายการมิสคอล เมื่อไม่พบผมจึงวางนิ้วลงบนปุ่มเดิมอีกครั้งเพื่อสแกนลายนิ้วมือก่อนจะกดไล่เข้าไปตามแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่มีเบดจ์สีแดงกับตัวเลขขึ้นติดอยู่มุมบนขวาของแอพฯ จนในที่สุดก็ถึงแอพฯหนึ่งที่ชื่อว่าทวิตเตอร์ ผมไล่อ่านข้อความในแท็บเมนชั่นก่อนจะค้นหาคีย์เวิร์ดจากแท็ก #ปลายนิ้ว ผมสไลด์อ่านข้อความไปยิ้มไปขำไปเหมือนคนไม่เต็มที่เพิ่งจะหงุดหงิดจากการตื่นนอนมาได้ไม่นาน พอเห็นข้อความพวกนี้ทำไมถึงทำให้ผมยิ้มออกได้ก็ไม่รู้ ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดกับข้อความประโยคหนึ่ง ’เร็วๆ นี้เจอกันนน ^^ ฟิคช็อมป์เฟอร์เรื่อง "☂ ความรู้สึกมากมาย ที่ถูกจรดผ่าน...ปลายนิ้ว [Yaoi]" #ปลายนิ้ว’ ผมกดขยายดูรูปภาพที่ถูกแนบมากับข้อความนั้นทันทีอย่างไม่รอช้า ภายในรูปภาพเป็นพื้นสีขาวเทาหม่นๆ และมีข้อความสีดำถูกบรรยายไว้ว่า
‘กรอบตาเรียวภาพใต้แพขนตาเรียงสวยของช็อมป์หรี่เล็ก เพื่อปรับสภาพกับแสงแดดที่ลอดมาทางหน้าต่าง ริมฝีปากบางรูปกระจับค่อยๆ เปล่งเสียงทุ้มคุ้นหู “ไอ้เชี่ย... ร้องเพลงไรแต่เช้าวะ... กูตื่นเลยเห็นมั้ยเนี่ย.....” น่าแปลกที่เรือนหน้าหล่อนั้นไม่ได้บูดบึ้งตามความหมายของประโยค แต่เจ้าของมันกลับสิ่งยิ้มหวานมาให้ผม พร้อมขยี้ตาไปมาอย่างโคตรจะน่ารัก.. จนผมอดยิ้มตามออกมาไม่ได้ หึหึ... “เฟอร์ค้าบ... ขอ Morning Kiss ทีดิ่...” ยังมีอ้อนต่อด้วยการเขยิบหน้าขึ้นมาวางบนตักผมอีก แถมมืออีกข้างที่ว่างอยู่ ยังแปลงร่างเป็นปลาหมึกเอื้อมมาโอบเอวผมไว้ด้วย..
นี่แน่ะ! ตีแขนแม่งอีกสักทีเหอะ... ถ้ามึงตื่นเช้ากว่านี้จะไม่ว่าเลยโว้ย ยอมยิ่งกว่า Morning Kiss อีกไอ้สาดดดด แต่นี่มันกี่โมงกี่ยาม? แหกตาดูบ้าง ”ไม่ต้องเลยเมิงงง 11 โมงแล้ว ไม่มอร์น่งมอร์นิ่งแล้ว ไปอาบน้ำๆๆ ไป๊”’
ผมอ่านข้อความในภาพจนจบ ไม่รู้ทำไมเหมือนความสุขของผมมันหายไปชั่วขณะ ทำไมผมถึงคิดถึงคนๆ นั้นขึ้นมา อยากเจอ อยากกอด อยากจับมือ อยากอยู่ใกล้ๆ กับเขาในตอนนี้ ผมไม่รอช้าที่จะสลับแอพฯทวิตเตอร์ไปยังแอพฯคอลก่อนจะกดที่ชื่อของคนคุ้นเคยที่โทรเข้าล่าสุดเมื่อเช้านี้ทันที ‘Schaump’
(ว่า) ไม่นานเสียงนุ่มทุ้มจากปลายสายก็เอ่ยทักทายขึ้นอย่างห้วนๆ มันเป็นคำทักทายที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี และมันก็ทำให้ผมรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ยินมัน เป็นเพียงคำเดียวสั้นๆ ที่ทำให้ความสุขทั้งหมดของผมกลับมาอีกครั้ง
(โหล) ปลายสายเอ่ยขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับของผม
“คิดถึง” ครู่เดียวผมก็เอ่ยขึ้นตอบรับคนปลายสาย มันอาจจะดูเหมือนไม่ใช่คำทักทาย และมันก็ไม่ใช่คำที่ผมเอ่ยปากพูดออกไปบ่อยเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไปที่จะทำให้ผมเต็มใจที่จะเอ่ยมันออกไป
(อืม) คนปลายสายส่งเสียงที่เปล่งทุ้มอยู่ในลำคอกลับมาทันที แต่ก็ทำให้ผมได้ยินมันอย่างชัดเจน น้ำเสียงนั้นดูเหมือนไม่ได้แสดงถึงความแปลกใจหรือดีใจแต่อย่างใด ครู่หนึ่งที่เราต่างคนต่างเงียบกันไป เงียบจนผมได้ยินเสียงจากปลายสายที่คล้ายเหมือนคนกำลังง่วนทำอะไรอยู่สักอย่าง บ่อยครั้งที่ผมเพลิดเพลินกับการฟังเสียงอากาศจากปลายสาย ไม่ต้องให้เราพูดอะไรกัน ไม่ต้องพยายามหาเรื่องอะไรมาคุย แค่เป็นคนที่เราอยากจะคุยด้วย มันก็รู้สึกเติมเต็มความรู้สึกได้อย่างน่าประหลาด
“ทำไรอยู่วะ” ผมเอ่ยถามหลังจากที่เพลินไปกับเสียงก๊อกแก๊กเบาๆ จากปลายสาย
(ปั้นดินน้ำมัน) มันตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ผมรู้สึกได้เสมอเมื่อได้ยิน
“ห้ะ” ผมอุทานเสียงสูงขึ้นเบาๆ กับคำตอบเมื่อครู่ ปั้นดินน้ำมันอะไรวะ มึงอายุเท่าไหร่แล้วครับ มานั่งปั้นดินน้ำมันเป็นเด็กๆ
(เออน่า มึงเป็นไรปะเนี่ย) มันตอบกลับมาพร้อมตั้งคำถามที่ฟังดูแล้วมันเหมือนจะเป็นคำถามที่ถามผ่านๆ มากกว่าจะเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบ
“ไม่นี่ คิดถึงเฉยๆ” ผมตอบกลับไปทำแบบเสียงอ้อนแบบกวนๆ นิดๆ ในตอนท้ายประโยค
(ก็นั่นแหละ เลยถามว่ามึงเป็นอะไรรึเปล่า)
“กูไม่ได้เป็นไรแล้วคิดถึงมึงไม่ได้ใช่มะ” ผมตอบกลับไปแบบทิ้งเสียง คล้ายคนไม่สบอารมณ์เบาๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนปลายสายรู้สึกสำนึกแต่อย่างใด
(ก็เปล่า ก็ถามเช็คเฉยๆ เพราะถ้ามึงไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ มึงจะไม่บอกคิดถึงกูตรงๆ หรอก ถ้าไม่ตอบกวนตีนว่าเป็นเมียกู ก็คงตอบอะไรที่มันกวนประสาทกว่าเนี้ย) มันพูดขึ้นคล้ายจะอวดความฉลาดของตัวเอง โดยไม่ลืมที่จะจิกกัดผมด้วย มึงเห็นว่ากูไม่กวนประสาทมึง มึงก็เลยกวนกูซะเองสินะ
“สัด แค่นี้แหละ จะไปอาบน้ำ” ผมตัดบททันทีที่รู้สึกว่ามันจะจับผิดความรู้สึกของผมได้ และกำลังจะเลื่อนนิ้วชี้ไปที่ปุ่มเพาเวอร์ที่อยู่บนมุมโทรศัพท์เพื่อวางสายทั้งๆ ที่โทรศัพท์ยังคงแนบหูอยู่ ก่อนจะได้ยินเสียงคนปลายสายเอ่ยขึ้นซะก่อน
(กูรักมึงนะเฟอร์ กูไม่รู้หรอกว่ามึงเป็นอะไร ถึงได้โทรมาหากูแล้วพูดอะไรแปลกๆ แบบเนี้ย แต่กูแค่อยากให้มึงรู้ไว้ว่ากูรักมึงมากนะครับ) เหมือนรอยยิ้มของผมที่เหมือนจะมีอยู่แล้ว กลับฉีกกว้างขึ้นอีก ผมวางสายทันทีโดยที่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนเตียง และเปิดแอพฯทวิตเตอร์ขึ้นมาก่อนจะกดที่ไอคอนรีทวีตใต้ข้อความที่ผมอ่านจบไปเมื่อครู่ ผมเลื่อนนิ้วไปกดที่ไอคอนขนนกก่อนจะรัวนิ้วลงบนคีย์บอร์ดอย่างคล่องแคล่ว ‘ตื่นขึ้นมาเจอฟิค ไม่กี่บรรทัดเอง แต่ต้องโทรหาใครคนนั้นหลังจากอ่านจบ อ่านแล้วรู้สึกแบบ ได้ยินเสียงก็ยังดี โคตรคิดถึงเลย ทำไมถึงรู้สึกงี้วะ :)’ หลังจากที่ผมพิมพ์เสร็จผมก็กดปุ่มทวีตทันที มันเหมือนว่าความรู้สึกของผมตอนก่อนที่จะได้ยินเสียงของมัน อยากกอด อยากเจอหน้า มันหายไปหมดสิ้น คล้ายความสุขตอนนี้มันถูกเติมเต็มจากใครซักคนที่ผมรักที่สุด มันเพียงพอและเหลือเฟือที่จะทำให้ผมไม่รู้สึกอ้างว้างอะไรอีกต่อไป
“กูก็รักมึง” ผมพูดพึมพำกับตัวเองเบาๆ ภายในห้องที่ตอนนี้ความมืดเริ่มเข้ามาปกคลุมมากขึ้น ในสมองของผมตอนนี้คิดถึงแต่คนที่ผมเพิ่งจะวางสายไป หากแต่ความรู้สึกที่กำลังเกาะกุมจิตใจมันกลับตรงข้ามกับบรรยากาศที่ผมกำลังอยู่ท่ามกลางไปถนัด ทำไมกูถึงรักมึงมากขนาดนี้วะช็อมป์…
ความคิดเห็น