ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไฟพิศวาสเทพบุตรแดนทราย

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 7 เบื่อคนสวยเสน่ห์แรง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.99K
      10
      21 มี.ค. 55

    ตอนที่ 7

    เบื่อคนสวยเสน่ห์แรง

     

                หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป....

              คาเบลและนิลยาเดินทางกลับจากเหมือง หลังจากเคลียร์งานเสร็จเมื่อสองวันก่อน ความรักความผูกพันธ์ของคนทั้งคู่เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ความใกล้ชิดนำพามาซึ่งความรู้สึกบางอย่าง ที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจของคนทั้งคู่

                "นิล อีกสองวันเตรียมตัวไปงานเลี้ยงกับพี่นะ"

              "งานเลี้ยง!...งานเลี้ยงอะไรคะ แล้วทำไมนิลต้องไปด้วย" นิลยาหันมาถามชายหนุ่มด้วยความสงสัย นึกแปลกใจที่คาเบลจะพาเธอไปงานเลี้ยง

              "งานเลี้ยงสร้างสรรค์ธรรมดานี่แหละ พี่อยากให้นิลไปด้วย" คาเบยิ้มกว้างพร้อมกับเดินเข้าไปสวมกอดเอวบาง ที่กำลังยืนรับลมอยู่หน้าระเบียง

              "แต่นิลไม่ค่อยชอบงานสังคมนี่คะ"

              "หัดๆ ไว้ เพราะอีกหน่อย พี่จะพานิลออกงานบ่อยๆ" เสียงทุ้มกระซิบบอกอย่างอ่อนโยน คางสากเกยไหล่มนเอาไว้อย่างเอ็นดู

              "ให้คนอื่นไปไม่ได้เหรอคะ ทำไมต้องเป็นนิลด้วย" คนไม่อยากไปเอียงหน้ามาถาม ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาต้องเจาะจงเธอ

              "ก็พี่อยากให้นิลไปไม่ได้อยากให้คนอื่นไป...."

              "แต่ว่านิล...."

              "ไม่ต้องแต่อะไรทั้งนั้น เตรียมตัวไว้แล้วกัน ส่วนชุดที่จะใส่เดี๋ยวพี่จัดการให้" คาเบลตัดบทเริ่ทหงุดหงิด เมื่อหญิงสาวตั้งท่าจะปฏิเสธอย่างเดียว

              "ก็ได้ค่ะ" นิลยาพยักหน้ารับคำอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเป็นความต้องการของคนเอาแต่ใจ เฮ้อ....อย่างนี้ตลอดบังคับเสมอ

              "เอ๊ะ!....นั่นรถใครคะ" ดวงตากลมโตจับจ้องไปที่รถยนต์คันหรูที่วิ่งเข้ามาในบริเวณคฤหาสน์

              "รถคาเมล น้องสาวพี่เอง ปะ...ลงไปรับน้องกัน เดี๋ยวพี่จะแนะนำให้รู้จัก" คาเบลยิ้มกรุ่น กล่าวอย่างอ่อนโยนพร้อมกับโอบเอวบางเดินลงไปข้างล่าง

     

              "พี่ชาย...คิดถึงจังเลยค่ะ" ใบหน้าสวยซึ้งยิ้มร่าโผล่เข้ากอดร่างสูงของพี่ชายด้วยความคิดถึง ซึ่งคาเบลก็กอดตอบน้องสาวคนสวยเช่นกัน

              นิลยายืนยิ้มกรุ่นมองทั้งสองกอดกันอยู่สักพัก ก่อนที่พวกเขาจะคลายอ้อมกอดแล้วหันมาหาเธอ

                "คาเมล นี่นิลยา เมียพี่" เสียงทุ้มกล่าวแนะนำหน้าตาย

              "ฮ้า!....อะไรนะคะ พี่คาเบลแอบมีเมียตั้งแต่เมื่อไร ทำไมไม่บอกคาเมลสักคำ"

    ผิดกับคนฟังที่อุทานตกใจตาโต ก่อนจะมองสำรวจหญิงสาวตรงหน้า ใบหน้าสวยหวานรูปไข่ ปากเล็กจมูกหน่อยรับกันอย่างพอเหมาะ ผิวขาวอมชมพูผุดผ่อง สวยบาดตาเลยทีเดียว!....เคยเห็นแต่นางในฮาเร็มเดินเผ่นพล่านเต็มไปหมด ไม่นึกว่าเธอไม่ได้กลับบ้านแค่อาทิตย์เดียว พี่ชายจะมีเมียมาเดินเคียงข้างเสียแล้ว

                "เอ่อ...นิลไม่ใช่...."

              "เป็นไงเมียพี่ สวยน่ารักถูกใจไหม" คาเบลกล่าวตัดบท เมื่อคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เตรียมจะปฏิเสธอีกแล้ว

              "อืม....สวยค่ะ สวยมาก ถ้าคาเมลเป็นผู้ชายก็คงแย่พี่จีบแน่นอน"

    คาเมลยิ้มกว้างดวงตาเป็นประกาย กล่าวชื่นชมนิลยาซึ่งๆ หน้า จึงทำให้ใบหน้าสวยของคนถูกชมแดงระเรื่อขึ้นอย่างน่ามอง

              "ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ พี่สะใภ้" น้องสาวคนสวยของคาเบลยิ้มหวาน ทักทายนิลยาอย่างเป็นมิตร เนื่องจากรู้สึกถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็น

              "ยินดีที่รู้จักเช่นกันค่ะ คุณคาเมล" นิลยายิ้มตอบรับไมตรีของอีกฝ่ายเช่นกัน

              "ไปป...เข้าไปนั่งคุยต่อในบ้านดีกว่า...ยืนคุยตรงนี้เมื่อยแย่"

    ร่างสูงกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับเดินนำไปยังห้องนั่งเล่น โดยที่ไม่ลืมโอบเอวของคนที่ยืนข้างๆ ให้เดินตามไปด้วย ซึ่งน้องสาวคนสวยก็ได้เดินยิ้มกรุ่นตามพี่ชายไป

             

    "เป็นไง ใกล้จบแล้วสิเรา...." เสียงเข้มเอ่ยถามทันที เมื่อนั่งลงเรียบร้อยแล้ว

              "ค่ะ สอบเสร็จคราวนี้ก็จบแล้ว..." คาเมลยิ้มกว้างบอกพี่ชายอย่างดีใจ ที่อีกไม่นานเธอก็จะได้เป็นบัณฑิตใหม่แล้ว

              "ดีแล้ว...รีบๆ จบจะได้มาช่วยพี่ทำงานสักที เหนื่อยจะแย่แล้วรู้ไหม"

              "โฮ่...อะไรกัน เรียนจบก็จะให้ทำงานเลยเหรอคะ คาเมลยังไม่ได้พักผ่อนเลยนะ....ไม่รู้ล่ะ จบเมื่อไรคาเมลขอออกเที่ยวให้หนำใจสักพักก่อน แล้วค่อยกลับมาทำงาน" ว่าที่บัณทิตคนหน้าบึ้ง กล่าวอย่างเอาแต่ใจ...เชอะ! เรียนหนักมาแทบตาย...จบแล้วมันก็ต้องมีผ่อนคลายกันบ้าง

              "เฮ้อ...ตามใจ เดี๋ยวจะหาว่าพี่ใจร้าย บังคับน้องเกินไป..."

              "ขอบคุณค่ะ ที่เข้าใจ" ใบหน้าใสของคาเมลกระจายไปด้วยรอยยิ้มร่าเริง

              "คาเมล ขอตัวไปพักก่อนดีกว่า เดินทางมาไกลเหนื่อยมากเลย อยากนอนพักสักตื่น" เสียงใสกล่าวขอตัว มือเล็กบีบนวดไปตามเนื้อตัวเป็นการยืนยัน

              "อืม ไปสิ แล้วค่อยลงมาทานข้าวเย็น" พี่ชายสุดหล่อพยักหน้ารับ มองน้องสาวอย่างเอ็นดู

              "งั้นคาเมลไปนะคะ" คนเมื่อยล้ายิ้มกว้าง ส่งให้นิลยาและพี่ชายก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

              "อ๋อ...รีบมีหลานให้คาเมลเร็วๆ นะคะ คาเมลอยากอุ้มหลานเต็มแก่แล้ว" ก่อนจะหันมาตะโกนบอกอย่างอารมณ์ดี ยิ้มจนตาหยีก่อนจะเดินจากไป

              คำพูดของคาเมล ทำให้นิลยาหน้าซีดลงทันใด เพราะตั้งแต่มีความสัมพันลึกซึ้งกับคาเบล เธอกับเขาไม่เคยป้องกันเลย...

    แล้วถ้าเกิดเธอท้องขึ้นมาจริงๆ เธอจะทำเช่นไร ลูกของเธอจะอยู่ในฐานะอะไร อีกทั้งความคิดที่จะกลับไปอยู่บ้านเกิด เมื่อเขาหมดความต้องการเธอแล้วล่ะ ยังจะทำได้อีกหรือไม่!...นิลยาคิดอย่างหวาดหวั่น ไม่ได้การแล้วเธอต้องรีบหาทางป้องกัน....

               

    "พี่คาเบลค่ะ นิลอยากป้องกัน" จู่ๆ เสียงหวานสั่นๆ ก็กล่าวขึ้น ขณะที่กำลังจะร่วมรักกัน

    "ป้องกันทำไม?" ใบหน้าคมบึ้งตึงเอ่ยถามเสียงแข็ง รู้สึกไม่พอใจอย่างไร้สาเหตุ ที่หญิงสาวขอป้องกันก่อนมีเซ็กส์

    ทั้งที่ปกติแล้ว เขาจะเป็นคนป้องกันด้วยตัวเองทุกครั้ง เวลาที่จะมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง เพราะเขายังไม่อยากมีพันธะผูกพันกับใคร เนื่องจากยังรักชีวิตโสดอิสระ....ทว่าสำหรับนิลยาไม่ใช่!...เขาไม่เคยอยากป้องกัน และไม่คิดจะป้องกัน.....ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเช่นกัน

    "นิลกลัวท้อง...." คนขี้กลัวบอกเสียงเศร้า ดวงตากลมโตหวั่นระริก เมื่อนึกถึงอนาคตที่ไม่แน่นอนของตัวเอง

    "คิดจะมาป้องกันเอาตอนนี้ ก็คงไม่ทันแล้วล่ะ...." เสียงเข้มกล่าวประชดประชัน สายตาคมเข้มมองค้อนคนขี้กลัวอย่างขุ่นเคือง...

    "แล้วพี่คาเบลไม่กลัวเหรอคะ ถ้านิลท้องพี่คาเบลจะทำยังไง..." เสียงหวานเอ่ยถาม ดวงตาคู่สวยสั่นระริก ริมฝีปากบางเม้มแน่น รู้สึกหวาดหวั่นอย่างบอกไม่ถูก

    "ลูกของพี่ พี่รับผิดชอบอยู่แล้ว นิลไม่ต้องห่วงหรอก พี่ไม่ปล่อยให้เขาลำบากแน่..." คนตัวโตกล่าวอย่างไม่คิดกลัวพันธะในอนาคตเลยสักนิด ซึ่งผิดกับเมื่อก่อนที่เขากลัวนักกลัวหนา กลัวว่าจะพลาดจนมีพันธะที่ต้องรับผิดชอบ

    "แล้ว....แล้ว...."

    "ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น และต่อไปเลิกพูดเรื่องนี้อีก พี่ไม่ชอบ...." กล่าวจบร่างหนาก็เริ่มคลอเคลียร่างบางอีกครั้ง

    'แล้วนิลล่ะ พี่คาเบลจะรับผิดชอบไหมคะ อนาคตของนิลจะเป็นเช่นไร เมื่อพี่เบื่อนิลแล้ว...' นิลยาอยากจะเอ่ยถามชายหนุ่มเหลือเกิน ทว่าไม่กล้าจึงได้แต่ถามเขาในใจ มือเล็กกำผ้าปูแน่นเมื่อชายหนุ่มเริ่มรุกหนักขึ้น และไม่นานบทรักแสนหวานก็บรรเลงขึ้นอย่างเร่าร้อน โดยไร้ซึ่งการป้องกันเหมือนเช่นเคย....

           

                "ท่านหญิงสวยจังเลยค่ะ" มานัลมองนางสาวดวงตาเป็นประกาย เอ่ยชื่นชมจากใจจริง หลังจากช่วยนิลยาแต่งตัวเพื่อออกไปงานเลี้ยงเสร็จเรียบร้อย

    "ขอบใจจ้ะ....แต่แหม ชอบกันซึ่งๆ หน้าอย่างนี้ ฉันก็เขินเป็นนะ" ใบหน้าสวยที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามแดงระเรื่อ ยิ้มบางๆ อย่างเขินอาย

    "ก็ท่านสวยจริงๆ นี่คะ"

    มานัลยิ้มกว้าง รู้สึกรักใคร่เอ็นดูนายสาวเหลือเกิน ยิ่งได้ทำงานใกล้ชิดก็ยิ่งทำให้สนิทสนมกันมากขึ้น เพราะถึงแม้นิลยากับเธอจะอยู่ในฐานะที่ต่างกันแล้ว....ทว่านิลยาก็ไม่เคยถือตัวว่าตนเป็นนายเลยสักนิด แถมยังพูดคุยและปฏิบัติกับเธอเหมือนเช่นเคย

    ก๊อก...ก๊อก....ก๊อก...

    "เอ๊ะ!...ใครมาเคาะประตู เดี๋ยวมานัลไปดูก่อนนะคะ"

    "อืม" เมื่อนายสาวตอบรับ มานัลก็รีบเดินเปิดประตู แล้วเมื่อเห็นว่าเป็นใคร เธอจึงพาเข้ามาด้วยเลย

    "ใครมาจ้ะ...อ้าว...พี่ชีดา" นิลยาหันไปมองผู้มาใหม่ ก่อนจะยิ้มหวานส่งให้เมื่อเห็นว่าเป็นใคร

            "ท่านหญิงช่างงามเหลือเกิน ชีดารับรองว่าวันนี้ ท่านคาเบลไม่กล้าห่างท่านหญิงไปไหนแน่" ชีดากล่าวอย่างชื่นชม ดวงตาของสาวรุ่นพี่มองสาวน้อยอย่างเอ็นดู

              "ทำไมล่ะคะ" นิลยาถามพาซื่อ

              "ก็กลัวคนอื่นจะเข้ามาจีบยังไงล่ะคะ" ชีดายิ้มแป้น นึกดีใจเหลือเกินที่นิลยาเป็นคนโปรด ถึงขนาดคาเบลพาออกงานด้วย

              "แหม พี่ชีดาก็...."

    นิลยาเขินจนน่าแดง แต่ก็รู้สึกดีใจที่มีคนชม ในใจก็อยากรู้จังเลยว่าคาเบลจะรู้สึกเช่นไรเมื่อเห็นเธอ จะชมเธอว่าสวยบ้างไหมนะ

              "ท่านคาเบลให้ชีดาขึ้นมาดูว่าท่านหญิงเสร็จหรือไง...แต่เห็นอย่างนี้แล้วคงไม่ต้องถาม...ไปเถอะค่ะ ท่านรออยู่ข้างล่างแล้ว" ชีดากล่าวถึงจุดประสงค์แท้จริงที่เธอขึ้นมาหาหญิงสาว

              "ค่ะ" นิลยายิ้มกรุ่น ก่อนจะมองสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองอีกครั้ง แล้วเดินไปหาคนที่รออยู่ด้านล่าง

              "ท่านหญิงมาแล้วค่ะ..."

    เมื่อได้ยินเสียงชีดา คาเบลก็หันไปมองผู้ที่กำลังเดินลงมาจากบันได ดวงตาคมเข้มตะลึงค้าง เหมือนต้องมนต์สะกดเมื่อเห็นสาวน้อยแสนสวยเดินยิ้มลงมา

              ร่างบางระหงสมส่วนที่อยู่ภายในชุดกระโปรงสีทองแนบเนื้อ ปล่อยชายพลิ้วไหว ขับผิวผ่องให้ดูสว่างย่องใย ผมสลวยถูกรวบขึ้นสูงแต่งเป็นลอนพอดูเซ็กซี่  ทำให้ใบหน้าสวยหวานที่ตกแต่งเอาไว้เบาๆ ดูโดดเด่นเป็นสง่า สวยราวกับนางฟ้า....สวย...สวยมากจริงๆ สวยจนแทบลืมหายใจ ซึ่งรอยยิ้มทหวานที่เธอส่งมาให้ มันทำให้หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะไปเลยทีเดียว....

                "พี่คาเบลคะ ไปกันได้หรือยัง...."

              "พี่คาเบล...."

    สาวน้อยยิ้มกรุ่น มองใบหน้าคมอย่างสงสัย เมื่อชายหนุ่มยังคงยืนนิ่งมองเธอตาไม่กระพริบ ใบหน้าสวยที่แดงระเรื่ออยู่แล้วสีเข้มขึ้นไปอีก เมื่อเห็นสายตาชื่นชมจากอีกฝ่าย

              "เอ่อ...ครับ..." คาเบลยิ้มเจื่อนๆ เมื่อตื่นจากภวังค์ หลังจากที่ถูกมือเล็กเขย่าเบาๆ

              "ไปกันเลยไหมคะ"

              "พี่ชักไม่อยากไปแล้วสิ....." ร่างสูงกล่าวตาเป็นประกาย ความสวยของนิลยาทำให้เขานึกหวั่น ไม่อยากให้ใครพบเห็นเธอทั้งนั้น

              "อ้าว...ทำไมล่ะค่ะ"  

              "ก็นิลสวยขนาดนี้ พี่กลัวมีใครมาจีบนะสิ" คนขี้หึงกล่าวกระเซ้าด้วยความระแวง

              "บ้า!" นิลยาหน้าแดง จังหวะหัวใจสั่นระรัว เมื่อสบเข้ากับดวงตาคมเข้มที่มองเธออย่างปรารถนา

    "บ้าตรงไหน....ก็นิลสวยจริงๆ นี่ ถ้าไม่ติดว่าวันนี้เป็นงานสำคัญ พี่ไม่ไปจริงๆ ด้วย"

    "วันนี้พี่คาเบลก็หล่อค่ะ นิลว่าสาวๆ ในงานต้องมองพี่ตาละห้อยแน่เลย"

    เสียงหวานกล่าวชื่นชม ดวงตาเป็นประกายเช่นกันเมื่อมองร่างหนาบึกบึน เพราะวันนี้คาเบลดูหล่อเท่ ราวกับเทพบุตรในฝันของสาวๆ เลยทีเดียว ร่างสูงใหญ่อยู่ในชุดสูทสีดำ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์เคร่งขรึมน่าเกรงขาม ยิ่งเวลาที่ได้สบดวงตาคมเข้มที่มีเสน่ห์ล้ำลึกของเขาด้วยแล้ว หัวใจเจ้ากรรมก็แทบละลาย แล้วอย่างนี้สาวที่ไหนจะไม่ใฝ่ผันถึง...

              "พี่ไม่ได้อยากให้ใครมองนอกจากนิล...." น้ำเสียงอ่อนโยน ดวงตากรุ่มกริ้ม

    "ไปกันเถอะครับ"

    "ค่ะ" นิลยายิ้มกรุ่นปล่อยให้อีกฝ่ายโอบเอวเดินเคียงคู่กันออกไป

    ชีดาและมานัลมองสบตากันอย่างรู้กัน ทั้งสองยิ้มกว้างอย่างสุขใจ เมื่อเห็นคาเบลและสาวน้อยที่พวกเธอชื่นชอบเดินเคียงคู่กันออกไป

                "คนหนึ่งก็สวย คนหนึ่งก็หล่อ สมกันดีเนอะพี่ชีดา" มานัลยิ้มแป้น มองทั้งสองไปจนลับสายตา

              "อืม...เห็นแล้วก็อยากให้อยู่ด้วยกันตลอดไป ถ้าบ้านเราได้นิลยาเป็นนายหญิงก็คงดีไม่น้อย" ชีดากล่าวอย่างคาดหวังในใจลึกๆ เพราะเธอดูออกว่าคาเบลก็โปรดปรานนิลยาอยู่ไม่ใช่น้อย ไม่เช่นนั้นคงไม่พาออกงานด้วยเช่นนี้หรอก

              "ใช่!...นิลน่ารักไปถือตัว ใจดีอีกต่างหาก ถ้าได้เป็นนายหญิงของเราจริงๆ ก็คงดีมากทีเดียว" มานัลเอ่ยอย่างเห็นด้วยกับความคิดของชีดา

              "ก็ต้องคอยลุ้นว่าหัวใจที่ได้ปิดตาย เมื่อไรจะยอมเปิดรับรักใหม่สักที..." ชีดาเปรยเมื่อนึกถึงอดีต

              "ก็ไม่แน่หรอกค่ะพี่ชีดา พี่ไม่สังเกตหรอกคะ ว่าเดี๋ยวนี้ท่านคาเบลเปลี่ยนไปมากขนาดไหน ท่านหญิงทั้งสวยทั้งน่ารัก บางทีหัวใจที่ตายด้านอาจจะกลับมามีชีวิตอีกครั้งแล้วก็ได้"

    มานัลเอ่ยตามที่เธอสังเกตเห็น ตลอดเวลาที่เธออยู่รับใช้ใกล้ชิดนิลยา เธอก็ได้เห็นพฤติกรรมหวานๆ ของคาเบลที่แสดงออกต่อนายสาวของเธออยู่บ่อยๆ ซึ่งปกติแล้วคาเบลไม่เห็นเป็นเช่นนี้

              "อืม มันก็จริง นอกจากท่านหญิงกรียาแล้ว ท่านคาเบลก็ไม่เคยหลงใหลผู้หญิงคนไหนเท่านี้มากก่อน บางทีความหวังของเรา อาจจะเป็นจริงก็ได้" ชีดายิ้มสุขใจ กล่าวอย่างเห็นด้วยกับคำพูดของมานัล เพราะเธอเองเห็นก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของนายหนุ่มเช่นกัน

     

    ณ ห้องจัดเลี้ยงโรงแรมหรู

    นิลยาเดินเคียงคู่เข้าไปในงานพร้อมกับคาเบล ความสวยความหล่อของคนทั้งคู่ ทำให้ทั้งสองดูโดดเด่นสะดุดตา จนทุกๆ คนในงานต้องหันมามองเมื่อพวกเขาเดินผ่าน

              "หวัดดีท่านชีค...กรียา" คาเบลเดินยิ้มเข้าไปทักทายเพื่อนหนุ่มและภรรยาคนสวยของเขา

              "อืม" ชีคหนุ่มยิ้มกรุ่นให้เขาเช่นกัน

    "สวัสดีค่ะ คาเบล" กรียายิ้มหวานตอบรับไมตรีของเพื่อนชาย

    "นิลยา นี่ท่านชีคจามินเอลและชีคชายากรียา" คาเบลหันมากล่าวแนะนำ นิลยาให้รู้จักกับเพื่อนรักทั้งสองของเขา

    "สวัสดีค่ะ" นิลยายกมือไหว้ทั้งสองแบบคนไทย

    "ครับ" ชีคหนุ่มโค้งศีรษะรับเล็กน้อย

    "ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณนิลยาเป็นคนไทยเหรอคะ" กรียายกมือรับไหว้ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นการทำความเคารพของอีกฝ่าย

    "ค่ะ" นิลยายิ้มกว้างตอบอย่างภาคภูมิใจในชาติกำหนดของตัวเอง

    "ดีใจจัง กรียาก็เป็นคนไทยค่ะ" กรียายิ้มหวานมองสาวสวยตรงหน้าด้วยความดีใจ เมื่อได้รู้จักคนชาติเดียวกัน

    "จริงเหรอคะ ดีใจจังที่มีโอกาสได้รู้จักท่าน....ท่านหญิงสวยสง่ามากเลยค่ะ" นิลยากล่าวด้วยความนอบน้อม มองผู้หญิงตรงหน้าด้วยด้วยชื่นชมจากใจจริง มิใช่ประจบสอพอ

    "ขอบคุณค่ะที่ชม คุณเองก็สวยมากเช่นกันค่ะ"

    "เฮ้อ!...ชมกันไปชมกันมาซะแล้ว....สรุปว่าสวยทั้งคู่นั่นแหละครับ" คาเบลยิ้มขำๆ เมื่อได้ยินสองสาวชื่นชมกันและกัน ซึ่งเรียกเสียงหัวเราะจากกลุ่มจนดังสนั่น

    "อืมใช่! สวยทั้งคู่" ชีคจามินเอลเอ่ยอย่างเหตุใด นิลยาทั้งสวยและน่ารัก กิริยามารยาทก็เรียบร้อยดีทีเดียว...

    "นิลชอบท่านหญิงจังเลยค่ะ ท่านหญิงทั้งสวย น่ารักและก็ไม่ถือตัวเลยสักนิด" นิลยายังกล่าวชื่นชมกรียาไม่หยุดปาก ก็เธอปลื้มจริงๆ นี่นา

    "กรียาก็ชอบคุณนิลค่ะ ว่างๆ ให้คาเบลพาไปเที่ยวที่วังสิคะ" กรียากล่าวชวนด้วยไมตรี ว่างๆ ถ้ามีนิลยาไปนั่งคุยเป็นเพื่อนคงจะดีไม่น้อย

    "เอ่อ...เรื่องนั้นคงแล้วแต่พี่คาเบลนะคะ" ใบหน้าสวยพยักเพยิดมาทางเจ้าชีวิต เพราะทุกอย่างเกี่ยวกับชีวิตเธอขึ้นอยู่ที่เขา

    "งั้นสบายมาก เดี๋ยวเรื่องนี้กรียาจัดการเอง ไม่มีปัญหา...." กรียายิ้มกรุ่นกระซิบบอกอย่างอารมณ์ดี

    ทั้งสองสาวคุยกันอีกหลายเรื่อง และดูจะเข้ากันดีเสียด้วย อาจจะเป็นเพราะเชื้อชาติเดียวกัน อายุไล่เลี่ยกัน นิสัยก็คล้ายๆ กัน จึงทำให้ทั้งสองเข้ากันได้ง่ายและรวดเร็วจนไม่น่าเชื่อ

     

    "ฉันต้องกลับก่อนนะคาเบล กรียากำลังท้องไม่อยากอยู่ดึก" ชีคจามินเอลยิ้มกว้างกล่าวขอตัว หลังจากที่เจ้าของงาน กล่าวเปิดงานเรียบร้อยแล้ว

    "อืม...ตามสบาย" คาเบลตบไหล่เพื่อนหนุ่ม ก่อนจะหันไปหาภรรยาคนสวยของเพื่อน

              "ดูแลตัวเองดีๆ นะกรียา หลานจะได้แข็งแรง"

    "ไม่ต้องห่วงหรอกคะคาเบล มีคุณพ่อจอมเห่ออยู่ทั้งคน วันๆ กรียาแทบจะไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว" กรียาตอบพร้อมกับมองค้อนว่าที่คุณพ่อลูกสอง

    "อ้าว!...ก็พี่เป็นห่วงมันผิดตรงไหน!"

    คนเป็นห่วงค้านเสียงแข็ง ก็เขาเป็นห่วงจริงๆ นี่นาทั้งแม่ทั้งลูกนั่นแหละ เกิดมีอะไรผิดพลาดขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ

    "ค่ะ ไม่ผิดก็ไม่ผิด" กรียากล่างอย่างอ่อนใจ เมื่อสามีสุดหล่อเริ่มจะงอนเหมือนเด็กอีกแล้ว

              "โชคดีนะคะ แล้วค่อยเจอกันใหม่...." ชีคชายาคนสวยยิ้มหวานให้นิลยาอีกครั้งก่อนจะไป

              "ค่ะ ท่านหญิง" นิลยายิ้มกรุ่นโค้งรับคำ มองผู้ครองแคว้นทั้งสองจนลับสายตา

              "ท่านหญิงทั้งสวยทั้งน่ารักนะคะ" เมื่ออยู่กันตามลำพังนิลยาจึงหันมาหาคาเบล

              "อืม" คาเบลเพียงแค่พยักหน้ารับเล็กน้อย ไม่ได้มีความคิดเห็นประการใด

              "เฮ้อ!...ท่านชีคโชคดีจัง ที่ได้ท่านหญิงกรียาเป็นชายา...." นิลยายังรู้สึกชื่นชมกรียาไม่หาย เธอรู้สึกถูกชะตากับชีคชายาคนสวยคนนี้เหลือเกิน

              "เลิกชมคนอื่นได้แล้วนิล ไปหาอะไรกินทางโน้นดีกว่า...ตั้งแต่มาเธอยังไม่ได้กินอะไรเลย ไม่ใช่เหรอ?" คาเบลตัดบท เพราะไม่อยากพูดถึงกรียาอีก พร้อมกับโอบเอวบางเดินไปทางด้านซุ้มอาหาร ที่จัดวางไว้อย่างสวยหรูตามมุมต่างๆ

              "สวัสดีค่ะ คุณคาเบล" คาเบลหันไปมองตามเสียงทักทาย ก่อนจะยิ้มตอบสาวสวยอย่างเสียไม่ได้

              "สวัสดีครับ คุณมิชา"

    "อุ้ย!...คุณคาเบลมากับใครคะ อย่าบอกนะว่านางทาสที่ประมูลได้ในคืนนั้น....." มิชาปรายตามองนิลยาอย่างริษยา สายตาคมแหลมมองจิกและหยามเหยียดอีกฝ่ายเต็มที่  กรี๊ด!.....อีนางทาสชั้นต่ำนี่มันมาเดินชูคอเคียงข้างกับคาเบล เทพบุตรที่สาวทั้งซาเนียต่างหมายปองได้อย่างไร

    คาเบลไม่ตอบ ทว่าอารมณ์นิ่งเงียบก็เป็นการยืนยันได้ดีว่าเธอจำไม่ผิด

    "แหม!...คุณคาเบลใจดีจังนะคะ เอานางทาสผู้ต่ำต้อยมาเดินเคียงคู่ออกงานด้วย"

              นิลยาหน้าถอดสีทันทีเมื่อได้ยินคำพูด เหยียดหยามของมิชา และยิ่งสายตาที่เธอมองจิกด้วยแล้ว ยิ่งทำให้รู้สึกไม่ดีเลยสักนิด อัดอึด ไม่ชอบใจอยากจะหนีไปให้ไกลจากตรงนี้เหลือเกิน

              "โปรดพูดจาให้เกียรตินิลด้วยคุณมิชา นิลเป็นเมียผม ไม่ใช่ทาส!"

    ใบหน้าคมเคร่งขรึม มองอีกฝ่ายตาวาวโรจน์ รู้สึกไม่พอใจอย่างแรงที่มิชาพูดจาไม่ให้เกียรติคนของเขา เรียวแขนใหญ่กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น เลิกคิ้วสูงมองผู้หญิงที่คิดว่าตัวเองสูงส่งอย่างสมเพช ก่อนจะหันมายิ้มกรุ่นให้คนในอ้อมกอดเพื่อให้นิลยารู้สึกผ่อนคลายขึ้น เมื่อเห็นใบหน้าสวยไม่สู้ดี

              "ฮ้า!...คุณ...คุณว่าอะไรนะคะ เมื่อกี้มิชาฟังผิดไปใช่ไหมคะ" ใบหน้าสวยคมของมิชาซีดเผือด น้ำเสียงแหลมเอ่ยถามอย่างติดๆ ขัดๆ ไม่คาดคิดว่าสิ่งที่เธอได้ยินเมื่อสักครู่ จะเป็นเรื่องจริง

              "คุณฟังไม่ผิดหรอก นิลเป็นภรรยาของผม" คาเบลกล่าวย้ำให้อีกฝ่ายฟังชัดๆ

    "ผมของตัวนะครับ"  ก่อนจะดันร่างบางของคนในอ้อมกอด เดินหนีผู้หญิงที่กำลังยืนตะลึงไม่หาย

    แม้คาเบลและนิลยาจะจากไปแล้ว ทว่ามิชาก็ยังอ้าปากค้าง ตกตะลึงไม่หาย เมื่อได้ฟังคำยืนยันจากปากของคาเบล....เป็นไปได้อย่างไรที่คนหวงความโสด รักอิสระ ควงสาวไม่ซ้ำหน้าอย่าง คาเบล ฮับดาฮาล จะกล้าเอ่ยปากว่าเขามีเมียแล้ว ไม่เป็นไม่ได้....ไม่เชื่อ กรี๊ด!....นางนั่น มันมีดีอะไร! เวลาเพียงไม่นานมันถึงมัดใจเทพบุตรเนื้อทองคนนี้ได้.....กรี๊ดดดด ไม่ยอมๆๆๆๆ มิชาร่ำร้องอิจฉาอยู่ในใจ

     "เมียอย่างนั้นเหรอ!...เชอะ!...ฉันไม่มีทางยอมหรอก คุณต้องเป็นของฉัน คาเบล....ฉันไม่มีทางให้เรื่องมันเป็นอย่างนี้แน่ เพราะคนอย่างมิชา ถ้าอยากได้อะไรแล้วก็ต้องได้ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ชายอย่างคุณ!' มิชากล่าวอย่างมาดมั่น ดวงตาคมสวยเป็นประกายเจิดจ้า มองตามหลังทั้งสองไปอย่างริษยา

    มิชาหลงรักคาเบลมานานแล้ว ทว่าชายหนุ่มก็ไม่เคยเหลียวแลเธอเลยสักนิด ถึงแม้เธอจะพยายามเข้าหาเขาทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ชายหนุ่มก็ทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ว่าเธอคิดอะไรกับเขา ซึ่งเธอไม่มีทางยอมแพ้ผู้หญิงต่ำต้อยคนนั้นหรอก เธอจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้คาเบลมาครอบครอง....แม้จะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม!

     

    "พี่คาเบล นิลขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ" นิลยายิ้มกรุ่นบอกชายหนุ่ม เมื่อรู้สึกปวดท้อง หญิงสาวใบหน้าสดใสขึ้นมาก เมื่อมีคาเบลคอยปลอบโยนและปกป้องเธอจากบุคคลที่ไม่เป็นมิตร

    "งั้น...เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน" คาเบลยิ้มกรุ่นกล่าวอาสาอย่างใจดี

    "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ห้องน้ำใกล้แค่นี้เอง นิลยาไปเองได้" นิลยาเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายตัวโตที่เดินโอบเอวเธอตลอดเวลา ไม่ยอมห่างไปไหนด้วยความสงสัย

    "ให้พี่ไปเพื่อนดีกว่า"

    คาเบลกล่าวยืนยันความตั้งใจเดิม เขาจะปล่อยให้หญิงสาวไปคนเดียวได้ยังไง ในเมื่อหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ภายในงานมองนิลยาตาเป็นมัน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย เขาจึงแสดงให้ผู้ชายเหล่านั้นรู้ว่าเธอมีเจ้าของแล้ว โดยการกดจมูกลงที่แก้มนวลบ้าง โอบกอดแบบแนบชิดบ้าง กระซิบข้างหูกระหนงกระหนิงบ้าง เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าผู้หญิงคนนี้มีเขาเป็นเจ้าของ...และเจ้าของก็หวงมากด้วย

    "อ้าว!...คุณคาเบล สวัสดีครับ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ" จอร์น หนุ่มนักธุรกิจชาวอิตาลี เอ่ยทักทายชายหนุ่ม เมื่อเดินผ่านมาพบเขาเข้าพอดี

    "สวัสดีครับ คุณจอร์น" คาเบลยิ้มทักทายเพื่อนนักธุรกิจอย่างเป็นมิตร

    "ช่วงนี้ ธุรกิจเป็นไงบ้างครับ...กำไรงามหรือเปล่า" จอร์นถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม นักธุรกิจอะไรจะสำคัญไปมากกว่ากำไร

    "ก็ดีครับ เรื่อยๆ" คาเบลยิ้มกรุ่น...ไม่อยากบอกความจริงว่ากำไรจากธุรกิจของเขา มันพุ่งกระฉูดขนาดไหน ก็น้ำมัน เพชรพลอย มันเป็นของที่กำไรงามอยู่แล้ว

    "เรื่อยๆ ที่ไหนกันครับ...ผมได้ข่าวมาว่าธุรกิจน้ำมันและเพชรพลอยของคุณทำกำไรมากทีเดียว นั่นจะธุรกิจโรงแรมที่กำลังรุ่งเรืองอีก ตอนนี้คุณกับท่านชีคเป็นที่จับตรามองของนักธุรกิจหลายๆ คนเลยนะครับ"

    "อ๋อ เหรอครับ....ผมไม่รู้เลยนะเนี่ยว่ากำลังเป็นที่จับตามอง" คาเบลยิ้มกรุ่นกล่าวอย่างถ่อมตน

    "พี่คาเบลคะ นิลขอตัวนะคะ....ไม่ไหวแล้วค่ะ" นิลยากระซิบบอก เมื่อเริ่มจะทนไม่ไหว

    "เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน" คาเบลก็ยังดื้อดึงเช่นเคย

    "อยู่คุยกับเพื่อนเถอะค่ะ นิลไปไม่นานหรอก เดี๋ยวมา" นิลยากล่าวปฏิเสธ ยิ้มกรุ่นให้จอร์นเมื่อเขาหันมามอง

     "อืม ระวังตัวนะ รีบไปรีบมาล่ะ"

    เมื่อไม่มีทางเลี่ยงคนตัวโตจึงพยักหน้ารับ เนื่องจากถ้าเขาจะทิ้งจอร์นไปห้องน้ำกับนิลยาตอนนี้ ก็คงจะเป็นการเสียมารยาทอยู่พอสมควร ดังนั้นอีกสักพักค่อยหาเรื่องปลีกตัวตามหญิงสาวไปก็แล้วกัน

    "ค่ะ" นิลยายิ้มกรุ่นให้สองหนุ่มอีกครั้ง ก่อนจะเดินจากไป

    "คุณคาเบลนี่ เลือกคู่ควงได้สวยบาดใจมากเลยนะครับ สวยจนผมแทบใจละลาย ถ้าวันไหนคุณเบื่อเธอแล้ว บอกผมด้วยนะครับ ผมจะลองจีบเธอดูบ้าง"

    จอร์นกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เนื่องจากเขาเองก็พอจะรู้ว่าคาเบลเป็นคนเบื่อง่าย เปลี่ยนคู่ควงบ่อย คงจะไม่จริงจังกับนิลยาสักเท่าไร ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะออกตัวว่าชื่นชมนิลยาอย่างเปิดเผย เขาเป็นคนหัวสมัยใหม่ ไม่สนใจหรอกว่าหญิงสาวจะเคยผ่านใครมาบ้างแล้ว ขอแค่เขาและเธอพอใจซึ่งกันและกันก็พอ

    "นิลไม่ใช่คู่ควงของผมหรอกครับ ผมคงไม่เบื่อเธอง่ายๆ เพราะเธอเป็นภรรยาของผม" คนขี้หวงตอบแบบหวงกาง ดวงตาคมเข้มมองอีกฝ่ายด้วยความไม่พอใจอย่างชัดเจน

    "โอ้...ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ....เห็นเขาลือกันว่าคุณหวงความโสด ผมเลยไม่นึกว่าคุณจะมีภรรยาแล้ว..." จอร์นกล่าวอย่างลุแก่โทษ เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายให้ความสำคัญกับนิลยามากไปกว่าคู่ควง ในใจก็นึกเสียดายอยู่ไม่น้อยที่สาวสวยคนนั้นมีเจ้าของแล้ว

    "ไม่เป็นไรผมไม่ถือ...แค่รู้ไว้ก็พอว่าเธอเป็นของผม และผมก็หวง!" คาเบลกล่าวเสียงแข็ง พยายามระงับอารมณ์เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้ต้องได้

    "ครับ ไม่ต้องบอกผมก็รู้ว่าหวง...แววตาคุณฟ้องซะขนาดนั้น....ผมว่าเราคุยกันเรื่องอื่นดีกว่า" จอร์นยิ้มเจื่อนๆ ให้คู่สนทนา ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อการพูดคุยเนื่องจากไม่อยากผิดใจกัน

     

    นิลยาเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากทำธุระเสร็จ ทีแรกก็หมายจะเข้าไปในงาน แต่เมื่อเข้าไปแล้วเห็นคาเบลถูกห้อมล้อมด้วยสาวๆ เธอจึงตัดสินใจเดินออกมาจากงาน

    ใบหน้าสวยเงยมองท้องฟ้าด้วยอาการเหม่อลอย อากาศยามค่ำคืนค่อยข้างหนาวเย็น ทว่าตอนนี้ในใจของเธอกลับเหน็บหนาวมากกว่า...มันเจ็บแปลบอย่างบอกไม่ถูก เมื่อเห็นคาเบลถูกห้อมล้อมไปด้วยหญิงสาว ความรู้สึกหึงหวงเกิดขึ้นในใจ แต่กลับไม่มีสิทธ์ทำอะไร เพราะรู้ตัวดีว่าตัวเองเป็นได้แค่นางบำเรอ น้ำตาไสๆ ไหลรินลงมาเป็นสาย หัวใจดวงน้อยรู้สึกเจ็บช้ำ เมื่อรู้ตัวว่ารักคนที่เขาไม่อาจจะรักเราได้ ทั้งๆ ที่ไม่ควรคิด แต่ใจของเธอมันกลับคิดไปเสียแล้วไม่ทันแล้ว ทั้งใจ และกายเธอมอบให้คาเบลไปหมดแล้ว

    "สวัสดีครับคนสวย มายืนทำอะไรตรงนี้คนเดียวครับ"

    ราชาร์ตหนุ่มหล่อ หน้าตาดี เข้ามาทักทายหญิงสาว หลังจากที่แอบมองเธออยู่นาน แต่ไม่มีโอกาสเลยเข้าไปทักทายเลย เนื่องจากคาเบลตามประกบเธอตลอดเวลา จนกระทั่งแอบเห็นเธอเดินออกจากงาน และคาเบลก็ยังถูกห้อมล้อมไปด้วยสาวๆ จนไม่ได้สนใจเธอ เขาจึงรีบตามออกมาทันที

    นิลยารีบเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าลวกๆ คิ้วสวยขมวดมุ่นมองห็นผู้มาใหม่อยากพิจารณา เธอแน่ใจว่าเธอไม่รู้จักเขาแน่นอน ทว่าเมื่อเขาเข้ามาทักทายและยิ้มให้อย่างเป็นมิตรเธอก็ยิ้มตอบ

    "เอ่อ...อยู่ข้างในรู้สึกอึดอัด ก็เลยออกมายืนรับลมน่ะคะ" เสียงหวานกล่าวแผ่วเบา

    "ฉันขอตัวก่อนนะคะ" และเมื่อเห็นว่าเธอไม่ควรยืนคุยกับคนแปลกหน้านานเกินไป หญิงสาวจึงตัดสินใจเลี่ยงหนีดีกว่า

    "ผมชื่อ ราชาร์ตครับ ยินดีที่ได้รู้จัดคุณ....." ราชาร์ตรีบเดินมาขวางหน้าหญิงสาวเอาไว้ ไม่ยอมให้สาวที่หมายตาเดินหนีไปง่ายๆ

    "เอ่อ...นิลยาค่ะ" นิลยาตอบ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง

    "กลัวคุณคาเบลเขาจะไม่พอใจหรือครับ ถึงได้รีบเดินหนีผมอย่างนี้"

    ราชาร์ตยิ้มกรุ่นกล่าวอย่างรู้ทัน เมื่อเห็นท่าทางลำบากใจของหญิงสาว ทว่าเขาก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจ ก็เขาอยากคุยกับเธอนี่นา ถึงแม้เธอจะไม่เต็มใจคุยกับเขาก็ตาม

    "เอ่อ....เปล่าค่ะ"

    "เปล่าแล้วเดินหนีผมทำไมครับ หรือว่าคุณรังเกียจที่ผมไม่รวยเท่าคุณคาเบล" ชายหนุ่มตัดพ้อ เมื่อหญิงสาวไม่ยอมสานไมตรีกับเขา

    "เปล่านะคะ ฉันไม่ได้รังเกียจคุณ"

    นิลยารีบปฏิเสธทันควัน เธอไม่ได้รังเกียจเขา หรือใคร แต่เธอไม่อยากมีปัญหากับคาเบลต่างหาก ถ้าเกิดเขามาเห็นเข้ามีหวังเป็นเรื่องใหญ่แน่

    "ถ้าไม่รังเกียจ ก็ยืนคุณเป็นเพื่อนผมหน่อยสิครับ อย่าเดินหนีผมเลย ผมอยากรู้จักคุณจริงๆ" ราชาร์ตยิ้มกรุ่นมองหญิงสาวตาเป็นกระกาย

    "เอ่อ...เอ่อ...."

    นิลยาไม่รู้จะทำอย่างไรดี รู้สึกหนักใจไม่น้อยที่จะต้องตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่ง....จะเดินหนีไปเสียดื้อๆ มันก็เป็นการเสียมารยาท จนถึงขั้นน่าเกลียดเลยทีเดียว แต่ถ้ายืนคุยกับชายหนุ่มแปลกหน้าผู้นี้นานเกินไป แล้วคาเบลออกมาเห็นเข้าจะเกิดปัญหาหรือเปล่า

    "เฮ้อ.... " ใบหน้าสวยมองซ้ายทีขวาทีด้วยความระแวงระวัง กลัวคาเบลจะออกมาเห็นแล้วเกิดปัญหาอย่างที่นึกกลัว 'เอาไงดีล่ะ นิลยา' คิ้วสวยขมวดมุ่นเพื่อใช้ความคิดในตัดสินใจ

    "ถ้าคุณไม่รังเกรียจผมจริงๆ ก็อย่าปฏิเสธไมตรีของผมเลยนะครับ" ราชาร์ตกล่าวย้ำ เมื่อเห็นแววลังเลจากดวงตาคู่สวย

    "เอ่อ....ก็ได้ค่ะ"

    ในที่สุดหญิงสาวก็ตัดสินใจยืนคุยกับมิตรใหม่ เมื่อในใจหวนนึกถึงไปถึงใครบางคนที่อยู่ในงาน ใบหน้าหล่อยิ้มร่าดูมีความสุข เมื่อได้อยู่ท่ามกลางสาวสวยมากมาย จนบางทีเขาอาจจะลืมไปแล้วก็ได้ว่าพาเธอมาด้วย 'จะกลัวเขาโกรธไปทำไมนิล เขาคงไม่สนใจเธอหรอก ป่านนี้คงยิ้มหน้าบานอยู่ในงานโน้น' หญิงสาวบอกตัวเอง ก่อนจะหันกลับมาคุยกับราชาร์ต.....

    ***ฝากนิยายทำมือเอาไว้ในอ้อมใจเพื่อนๆ สักเรื่องนะคะ สนใจสักจองได้ที่ memoo_dp@hotmail.com ค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×