ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไฟพิศวาสเทพบุตรแดนทราย

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5 นางฮาเร็มจำยอม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.25K
      15
      16 มี.ค. 55

     

    ตอนที่ 5

    นางฮาเร็มจำยอม

               

    ดวงหน้าเรียวส่ายไปมาเล็กน้อย ก่อนที่เปลือกตาคู่สวยจะปรือขึ้นมองรอบๆ ห้อง ร่างบางรีบกระเด้งตัวขึ้นสุดแรง เมื่อรับรู้ว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องของใคร แต่แล้วใบหน้าสวยก็ต้องเหยเก ล้มตัวลงนอนกลับไปที่เดิมอีกครั้ง เนื่องจากเจ็บแปลบบริเวณที่ถูกเจ้าของห้องรุกราน

    "ฟื้นแล้วเหรอ?"

    คนที่เพิ่งได้สติรีบหันไปมองตามเจ้าของเสียงทันที แล้วใบหน้าสวยก็ต้องแดงระเรื่อ เมื่อนึกถึงสิ่งที่ทำให้เธอหมดสติ

    "....."

    ไม่มีสัญญาณตอบรับจากคนที่นั่งเขินอายอยู่บนเตียง

    "เธอนี่อ่อนแอจริงๆ เลยนะ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย ชิงหมดสติไปก่อนอีกแล้ว รอดไปได้อีกตามเคย" ร่างหนากล่าวประชดอย่างไม่จริงจังนัก พร้อมกับเดินเข้ามานั่งลงข้างๆ หญิงสาว

              "....."

    คนสวยก้มหน้าเงียบ เพราะไม่รู้จะตอบอะไร

              "จะรีบลุกไปไหนล่ะ นอนพักผ่อนอยู่ที่นี่แหละ" มือใหญ่คว้าข้อมือเล็กเอาไว้ เมื่อหญิงสาวขยับตัวเตรียมลงจากเตียง

              "เอ่อ...."

              "พักผ่อนอยู่นี่แหละ อย่าดื้อได้ไหม" ชายหนุ่มตัดบท เมื่ออีกฝ่ายเตรียมปฏิเสธ

              "คงไม่เหมาะมั้งค่ะ นิลกลับไปพักที่ห้องดีกว่า"

    ถึงกระนั้นหญิงสาวก็ยังกล่าวปฏิเสธอยู่ดี เนื่องจากเธอคิดว่ากลับไปพักห้องของตัวเองน่าจะดีที่สุด เพราะถ้าคนตัวโตเกิดนึกครึ้มลุกขึ้นมาทำอย่างว่าอีก....เธอก็แย่นะสิ

              "ไม่เหมาะตรงไหน?" เจ้าของห้องเอ่ยถามอย่างรู้ทัน

              "ก็ห้องนี้มันเป็นห้องนอนของท่าน....ฉันเป็นสาวใช้มันไม่เหมาะที่จะค้างในห้องเจ้านาย" คนตัวเล็กยังพยายามหาเหตุผลมาอ้าง

              "ใช่! ไม่เหมาะถ้าเธอยังเป็นสาวใช้ฉันอยู่ แต่ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในฐานะสาวใช้แล้ว เพราะฉันบอกทุกคนไปแล้ว เรื่องที่ให้เธอมาเป็นนางในฮาเร็มของฉัน"

    "ฮ้า! อะไรนะคะ" นิลยาร้องถามด้วยความตกใจ....อะไรกันเธอหมดสติไปได้ไม่ได้ นี่เขาป่าวประกาศให้คนอื่นรู้แล้วเหรอ

    "ตกใจอะไรนักหนา เธอน่าจะดีใจซะอีกนะ ที่ได้ปรนนิบัติฉัน" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มกรุ่น

    "แต่ฉันยังไม่ได้ตอบตกลงเลยนะคะ"

    "เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ...." คนที่มัดมือชกคนทะเล้นอย่างยิ้มอย่างสุขใจ

    "เฮ้อ...มันก็จริง นิลต้อง...เอ่อ....รับใช้ท่านจริงๆ เหรอค่ะ" ใบหน้าสวยแดงระเรื่อ ก้มหน้าต่ำไม่กล้าสบตาขณะเอ่ยถาม

    "ใช่!" ชายหนุ่มย้ำคำหนักแน่น เขาไม่มีทางเปลี่ยนใจแน่นอน เพราะตอนนี้เขาปรารถนาในตัวเธอมากเหลือเกิน

    "แต่วันนี้นิลขอกลับไปพักที่ห้องก่อนนะคะ นิลยังเจ็บอยู่เลยคงปรณนิบัติท่านไม่ได้" 

    เสียงหวานกล่าวขอร้องด้วยความหวาดหวั่น ร่างบางสั่นเทาขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงความเจ็บที่ได้รับจากกการรุกราน ถึงจะไม่อยากเป็นนางในฮาเร็มของใคร แต่เธอก็รู้ดีว่าตนไม่มีทางปฏิเสธได้ ดังนั้นจึงได้แต่ทำใจยอมรับชะตากรรม เพราะอย่างน้อยคนที่เธอต้องเพลียกายให้ ก็เป็นคนช่วยชีวิตเธอให้หลุดพ้นจากขุมนรก

    "ค้างที่นี่แหละ ฉันสัญญาว่าวันนี้จะไม่ทำอะไรเธอ" มือใหญ่จับมือเล็กมากุมไว้ พร้อมกลับกล่าวให้คำมั่น เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังตื่นตระหนกและหวาดกลัวกับสิ่งที่เขากระทำ

    "ถึงฉันจะต้องการแค่ไหนก็ตาม" ก่อนจะกระซิบบอกอย่างอ่อนโยน ถึงความรู้สึกที่ยังคุกรุ่นภายในร่างกาย

    "เอ่อ...."  

    "นอนพักเถอะ เพราะพรุ่งนี้เธอจะต้องเดินทางไปเหมืองกับฉัน"

    "ฮ้า!...อะไรนะคะ"

    ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นอีกครั้ง 'เอาอีกแล้ว...หาเรื่องมาให้ฉันตกใจอีกแล้ว' นิลยาคิด เมื่อได้ยินคำสั่งกะทันหันของเขา

    "อืม เธอฟังไม่ผิดหรอก พรุ่งนี้เธอต้องเดินทางไปเหมืองกับฉัน" คาเบลกล่าวย้ำ มองท่าทางตื่นตกใจอย่างนึกขำ

    "ทำไมนิลต้องไปด้วยค่ะ อีกอย่างนิลไม่เห็นรู้เรื่องมาก่อนเลย ว่านิลต้องไปเหมืองกับท่าน" นิลยาเอ่ยถามด้วยความแปลกใจระคนสงสัย ที่จู่ๆ เธอก็ต้องออกเดินทางไปกับเขา

    "จะรู้เรื่องได้ยังไง ก็ฉันเพิ่งคิดและบอกเธอนี่แหละ" คนเพิ่งคิดบอกด้วยน้ำเสียงกรุ้มกริ่ม

    "แล้วนิลจะเตรียมตัวทันได้ยังไงล่ะค่ะ กระเป๋าก็ยังไม่ได้จัดเลย...เอ่อ....ทั้งของท่านและของนิล นิลไม่ไปได้ไหมคะ" หญิงสาวพยายามหาทางเลี่ยง ไม่พร้อมทั้งทางด้านจิตใจและร่างกาย

    "ไม่ได้! ฉันต้องมีคนคอยดูแล และคนๆ นั้นฉันเลือกเธอ ส่วนกระเป๋าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันจัดการเอง ทั้งของเธอและของฉัน...ส่วนตอนนี้ เธอนอนพักได้แล้ว ถ้าไม่นอน....ฉันชวนทำอย่างอื่นไม่รู้ด้วยนะ"

    คาเบลกล่าวตัดบท เพราะไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดให้มากความ เพราะถึงหญิงสาวจะปฏิเสธไม่อยากไปแค่ไหน เขาก็จะพาเธอไปอยู่ดี เพราะตอนนี้เขาชักติดใจกลิ่นหอมๆ ของนิลยาเสียแล้วสิ

    "เอ่อ...นิลพักก็ได้ค่ะ" นิลยาหลับตาลงทันที เมื่อเจอคำขู่ของอีกฝ่าย....ก็เธอไม่อยากทำอย่างอื่น อย่างที่เขาบอกนี่นา

    "หึๆ..."

    ใบหน้าหล่อมีรอยยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก รู้สึกเอ็นดูหญิงสาวอย่างบอกไม่ถูก ก่อนจะก้มลงจรดริมฝีปากลงที่หน้าผากมน

    "หลับให้สบายนะ ไม่ต้องกลัวหรือระแวงอะไรทั้งนั้น" เสียงทุ้มกล่าวย้ำให้หญิงสาวเบาใจ ก่อนจะล้มตัวลงนอนกอดร่างบางเอาไว้หลวมๆ

    "อุ้ย!" ร่างเล็กสะดุ้ง เมื่อถูกอีกฝ่ายจู่โจมกะทันหัน

    "ไม่ต้องตกใจหรอก ขอนอนกอดเฉยๆ รับรองไม่ทำอะไรแน่นอน" เสียงทุ้มกระซิบบอก พร้อมกับกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น

    นิลยาตัวแข็งทื่อไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ ใบหน้าสวยแดงก่ำ เมื่ออยู่ในอ้อมกอดของคนตัวโต ถึงแม้จะเบาใจว่าเขาไม่ทำอะไรเธออย่างแน่นอน แต่การใกล้ชิดแบบเนื้อแนบเนื้อเช่นนี้ ก็ทำให้เธอใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมาจากทรวง

    "ไม่ต้องเกรง ปล่อยตัวตามสบาย นอนเถอะดึกแล้ว" ชายหนุ่มกล่าวอย่างรู้ทัน เมื่อรับรู้ถึงอาการประหม่าของคนในอ้อมกอด

    "เอ่อ...ก็ท่านรัดนิลแน่นนี่คะ นิลหายใจไม่ออก..."

    นิลยาพยายามหาทางแก้ตัวให้ดูเหมาะสม เขาจะได้ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอรู้สึกวาบหวิว ใจสั่นระรัวไปกับสัมผัสของเขาแค่ไหน

    "เฮ้อ....เธอนี่หาทางแก้ตัวได้ตลอดเลยนะ แต่ก็เอาเถอะฉันชอบ! รู้สึกเหมือนมีเด็กอยู่ใกล้ๆ"

    "เอ๊ะ!..."

    "ไม่ต้องเถียงนะ นอนได้แล้ว..." เสียงเข้มกล่าวตัดบทอย่างรู้ทัน เมื่อคนหัวดื้อในอ้อมกอดเริ่มดิ้นรน

    'เชอะ ไม่ใช่เด็กสักหน่อย....ไม่ให้พูด ก็ขอเถียงในใจก็ได้'

    นิลยาคิดอย่างขุ่นเคือง ก่อนจะปิดเปลือกตาลง นอนนิ่งๆ ในอ้อมกอดอบอุ่นของคนเอาแต่ใจ หญิงสาวพยายามข่มตาให้หลับ ทั้งที่ไม่คุ้นชินกับการมีคนนอนกอด ทว่าตอนนี้มันดึกมากแล้ว และพรุ่งนี้เธอก็ต้องเดินทางไปเหมืองตามที่เจ้าชีวิตต้องการอีก เฮ้อ...เหนื่อยใจจริงๆ อยู่กับคนรวย ที่เอาแต่ใจเนี่ย!

     

    เช้าวันรุ่งขึ้นอากาศแสนสดใส แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องไปทั่ว ปลุกชีวิตที่หลับใหลยามค่ำคืน ให้ตื่นขึ้นมารับอรุณของเช้าวันใหม่ ร่างบางขยับตัวเล็กน้อย มือเล็กปัดป้องสิ่งที่กำลังรบกวนเวลาพักผ่อนออกอย่างรำคาญ แต่ปัดเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหายสักที เมื่อทนไม่ไหว ดวงตาคู่สวยจึงค่อยๆ ปรือขึ้นมอง

              "อุ้ย!!...ท่านคาเบล" เมื่อเห็นสิ่งรบกวนเต็มตา นิลยาก็อดตกใจไม่ได้

              "ตื่นแล้วเหรอ...ขี้เซาจังนะ ปลุกตั้งนาน" ปากหยักละออกจากซอกคอหอมกรุ่นเล็กน้อยขณะพูด ก่อนจะก้มลงไปคลอเคลียอีกครั้ง

              "อย่าค่ะ....มันจั๊กจี้...." หญิงสาวย่นคอหนีจมูกและปากของอีกฝ่าย

              "ท่านคาเบลค่ะ อุ้ย!...อย่าค่ะ" มือเล็กดันใบหน้าหล่อออกซอกคอเมื่อเขาไม่ยอมหยุด

              "ก็ได้ หวงตัวจังนะ....เอาไว้วันหลังฉันจะคิดทั้งต้นทั้งดอก แต่วันนี้เราต้องเตรียมตัวออกเดินทางแล้ว"

    คาเบลตัดใจลุกขึ้นจากร่างหอมกรุ่น ไม่ใช่เพราะทำตามคำขอร้องของหญิงสาวหรอกนะ แต่ตอนนี้มันใกล้ถึงเวลาจะเดินทางแล้ว

              นิลยารีบพยุงตัวลุกขึ้นนั่งหัวเตียงทันที ที่ชายหนุ่มยอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระ สายตาคู่หวานมองร่างหนาอย่างไม่ไว้ใจ

                "ว้าย!" ก่อนจะรีบหลับตาลงแทบไม่ทัน เมื่อเห็นร่างหนาเปล่าเปลือย

              "หึๆ...." คาเบลอมยิ้มอย่างนึกขำ เมื่อเห็นท่าทางของคนขี้อาย

    "คนอะไรขี้กลัว แถมยังขี้อายอีก...." ร่างหนากล่าวกลั้นหัวเราะ

              "ลุกได้แล้ว ไปอาบน้ำกัน....จะได้ลงไปกินข้าว และออกเดินทาง" เสียงเข้มกล่าวต่ออย่างเป็นการเป็นงาน เมื่อคนตัวเล็กยังนั่งก้มหน้านิ่ง

              "เอ่อ...ค่ะ..."

    นิลยารับคำ ก่อนจะใช้ผ้าห่มพันรอบกายเอาไว้ แล้วก้าวลงจากเตียงไปเก็บเสื้อผ้าที่หล่นอยู่ตามพื้นห้อง โดยพยายามหลีกเลี่ยงการมองไปทางชายหนุ่ม

              "ฮ่าๆๆๆ...ทำอะไรของเธอนิลยา เหมือนหนอนเลย" ชายหนุ่มหัวเราะลั่น เมื่อเห็นหญิงสาวเอาผ้าห่มมาพันรอบตัว

              "ขำอะไรคะ ไม่น่าขำเลยสักนิด ก็นิลไม่มีเสื้อคลุมนี่นาจะให้ลุกขึ้นมาตัวเปล่าได้ยังไง...โป๊ตายเลย" หญิงสาวตาเขียวปัด มองคนที่ยืนขำเธออย่างหงุดหงิด

              "โป๊ก็โป๊สิ ไม่เห็นต้องอายเลย ฉันเห็นมาหมดแล้ว...ทำมากกว่ามองก็เคย...อีกอย่างฉันก็โป๊เป็นเพื่อนเธอทั้งคน จะกลัวอะไร...."

    ชายหนุ่มหน้าไม่อายยิ้มทะเล้นอย่างเจ้าเล่ห์ ดวงตาคมเข้มเป็นประกายวาววับ มองร่างงามตาระริก ยิ่งเห็นใบหน้าสวยระเรื่อ ยิ่งชอบใจ

    'คนอะไร อายแล้วโคตรน่ารักเลย' คาเบลคิดอย่างสุขใจ เมื่อเห็นแก้มนวลแดงระเรื่อน่ามอง จนแทบอดใจไม่ไหวอยากจะเข้าไปดอมดม ความหอมจากแก้มนวลสักที แต่ก็ต้องข่มใจไม่งั้นอาจจะเลยเถิดไปไกล

              "บ้า! พูดอะไรก็ไม่รู้ ท่านไม่อาย แต่นิลอายนะคะ"

              "รู้แล้วล่ะน่าว่าอาย ก็ดูหน้าเธอสิ แดงเหมือนลูกตำลึงสุกเลย" ร่างหนากล่าวอย่างอารมณ์ดี

                "แล้วนั่น เก็บเสื้อผ้าไปทำอะไร" เมื่อเห็นอีกฝ่ายก้มลงเก็บเสื้อผ้าของเธอ เจ้าของห้องหนุ่มก็อดถามไม่ได้

              "ก็ใส่น่ะสิคะ...ท่านบอกให้ไปอาบน้ำไม่ใช่เหรอ นิลก็จะแต่งตัวออกไปอาบน้ำที่ห้องไงคะ" นิลยาตอบ แต่ไม่ได้มองไปทางร่างหนาเปล่าเปลือย ก็เธอกลัวเป็นตากุ้งยิงนี่นา

              "แล้วใครบอกให้เธอกลับไปอาบน้ำที่ห้องล่ะ....ฉันให้เธออาบกับฉันที่นี่ต่างหาก" ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาคนขี้อาย ก่อนจะดึงเสื้อผ้าออกจากมือเล็ก พร้อมกับกระตุกปมผ้าห่มออกอีกด้วย

              "อุ้ย!...อย่าค่ะ....นิลอาย ท่านคาเบลอย่า...."

    นิลยาร้องห้ามเสียงหลงแต่ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อผ้าห่มถูกกระชากออกแล้วโยนกลับไปที่เตียงเรียบร้อย จึงทำให้เธอยืนเปลือยต่อหน้าชายหนุ่มอย่างไม่มีทางเลี่ยง ส่งผลให้หญิงสาวหน้าแดง ตัวแดงไม่ต่างจากกุ้งนึ่งเลยทีเดียว

              "ปะไปอาบน้ำกัน" เมื่อจัดการผ้าห่มของหญิงสาวเสร็จ ร่างหนาก็อุ้มคนตัวเล็กเดินเข้าห้องน้ำทันที

              "ไม่เอานะคะ นิลไม่อาบกับท่าน ปล่อยนิลนะ ปล่อยยยยย...." นิลยาพยายามร้องห้ามเสียงหลง ดิ้นรนเต็มที่แต่ก็ไร้ผลเช่นเคย

              "หยุดดิ้นได้แล้วนิล...ไม่งั้น ฉันจะเปลี่ยนจากอาบน้ำ เป็นทำอย่างอื่นนะ"

    คาเบลขู่เสียงเครียด เพราะต้องควบคุมตัวเองอย่างหนัก เนื่องจากการเสียดสีที่ได้จากการดิ้นรนของหญิงสาว กำลังทำให้อารมณ์ดิบภายในกายเริ่มก่อตัวขึ้น

                ร่างบางหยุดดิ้นทันที เมื่อเจอคำขู่ของอีกฝ่าย ซึ่งไม่รู้ว่าเขาพูดจริงหรือพูดเล่น แต่ถึงแม้พูดจริงหรือเล่น เธอก็ขอปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า

              "อืม อย่างนี้ค่อยน่ารักหน่อย"

    คาเบลยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินตรงเข้าห้องน้ำ แล้วเมื่อมาถึงอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ร่างหนาจึงวางร่างระหงลงในอ่าง

              นิลยารีบถอยหนีชายหนุ่มทันที เมื่อเขาก้าวลงมาในอ่างอีกคน พร้อมกับเฝ้ามองอย่างระวัง ไม่ให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้  

              "ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันบอกแค่อาบน้ำก็อาบน้ำสิ เข้ามานี่มา...มาถูหลังให้หน่อย" ชายหนุ่มเอ่ยอย่างรู้ทัน เมื่อเห็นสายตาหวาดระแวงของหญิงสาว

              "ท่านไม่ทำอะไรนิลจริงๆ นะคะ" เสียงหวานเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ ยังไงก็ขอปลอดภัยไว้ก่อนเป็นดี

              "จริงสิ จะโกหกทำไม ถ้าจะทำเดี๋ยวฉันบอก...เพราะยังไงเธอก็หนีฉันไม่พ้นอยู่แล้ว" คนตัวโตกล่าวหน้าตาย เมื่อคนขี้กลัวอย่างอ่อนใจ ไม่รู้จะกลัวอะไรนักหนา ถ้าเขาอยากจะเชยชมหากำไรของร่างบาง มีหรือคนตัวเล็กจะทัดทานเขาได้

    "เฮ้อ...มันก็จริงของท่าน" นิลยากล่าวอย่างยอมรับ ก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างสูง แล้วทำตามที่ชายหนุ่มต้องการ

    คนที่ได้ดั่งใจยิ้มกรุ่น ดวงตาเป็นประกายเจิดจ้า เมื่ออีกฝ่ายยอมทำตามอย่างว่าง่าย...ในใจเกิดความสุขอย่างบอกไม่ถูก เมื่อได้อยู่ใกล้ๆ กับหญิงสาว ความสวย ความน่ารักของนิลยา....กำลังทำให้หัวใจของเขาเริ่มมีความรู้สึกเปลี่ยนไป!

     

    หลังจากอาบน้ำเสร็จ คาเบลก็พานิลยาลงมารับประทานอาหารที่ห้องอาหาร ข่าวลือเรื่องที่นิลยาได้เลื่อนฐานะจากสาวใช้มาเป็นนางในฮาเร็มของเขา แพร่กระจายกันอย่างรวดเร็วตามที่ชายหนุ่มต้องการ

    เมื่อตำแหน่งเปลี่ยน การเรียกขานก็เปลี่ยนไป....แต่กลับทำให้หญิงสาวรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เพราะยังไม่คุ้นชินและรู้สึกประหม่าทุกครั้ง ที่มีคนเรียกขานเธอว่าท่านหญิง....เธอไม่ชอบเลยจริงๆ

    "ฉันจะหาสาวใช้ส่วนตัวให้เธอสักคน....นิลอยากได้ใครเอาไว้รับใช้เป็นพิเศษหรือเปล่า" คาเบลกล่าวถามขณะรับประทานอาหาร

    "เอ่อ..."

    "เลือกได้ ฉันตามใจเธอ" คาเบลกล่าวอย่างรู้ทัน เมื่อเห็นหญิงสาวมีท่าทางลังเลไม่แน่ใจ

    "ที่จริงนิลไม่ต้องการให้ใครมารับใช้หรอกคะ...นิลยาทำเองได้" หญิงสาวกล่าวปฏิเสธ ด้วยความเกรงใจ

    "ไม่ได้หรอก เธอมีหน้าที่ปรนนิบัติอย่างเดียวฉันก็พอ ส่วนเรื่องอื่นเอาไว้ให้สาวใช้เขาทำ" เสียงเข้มเอ่ยกำกวม ซึ่งทำให้หญิงสาวหน้าแดงระเรื่อขึ้นอีกแล้ว

    "งั้น ถ้านิลเลือกได้ นิลขอเลือกมานัลค่ะ" เมื่ออีกฝ่ายให้เลือก ดังนั้นเธอจึงนึกถึงเพื่อนสนิทที่ทำความสะอาดอยู่ด้วยกัน

    "ใครก็ได้ หลังจากฉันกินข้าวเสร็จ ไปตามมานัลมาพบฉันหน่อย" คาเบลตะโกนสั่ง ก่อนจะหันมาสนใจอาหารบนโต๊ะต่อ

    "อ้าว...กินข้าวสิ เขี่ยอยู่ได้ เมื่อไรจะอิ่ม" ชายหนุ่มดุอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนจะตักอาหารใส่จานให้หญิงสาวที่นั่งร่วมโต๊ะ

    "ลองกินแกงกระหรี่ของที่นี่ดูสิ อร่อยนะ"

    "ค่ะ" นิลยายิ้มกรุ่น ก่อนจะตักอาหารที่ชายหนุ่มตักให้เข้าปาก

    "อร่อยไหม" สายตาคมมองใบหน้าสวยที่กำลังเคี้ยวกับข้าวที่เขาตัก รอลุ้นว่าหญิงสาวจะชอบอย่างที่เขาชอบหรือเปล่า

    "ค่ะ" นิลยาพยักหน้ารับ ก้มหน้าต่ำหลบสายตาเมื่ออีกฝ่ายกำลังจ้องมองเธอ

    "อร่อยก็กินเยอะๆ นะ...."

    "พอแล้วค่ะ ไม่ต้องตักให้นิลก็ได้ เดี๋ยวนิลทานเองค่ะ" นิลยาร้องห้าม เมื่อชายหนุ่มตักอาหารใส่จานเธอไม่หยุด จนกับข้าวแทบจะล้นจาน

    "ก็ฉันอยากตักให้นี่นา อ้าว...กินเยอะๆ" คาเบลยิ้มกรุ่นกล่าวอย่างเอาแต่ใจ ถึงแม้หญิงสาวจะตักอาหารเองได้ แต่เขาอยากตักให้เธอนี่นา....ใครจะทำไม?

     

    "มานัล"

    "ค่ะท่าน" มานัลโค้งรับคำ ก้มหน้าต่ำเมื่ออยู่ต่อหน้านายหนุ่ม

    "นับจากนี้ไป เธอไม่ต้องทำงานอะไรอีกแล้ว นอกจากอยู่รับใช้นิลยา" คาเบลสั่งเสียงเรียบ

    "ค่ะ" มานัลกล่าวตอบรับอย่างเต็มใจ ก่อนจะหันไปส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้กับนิลยา ซึ่งเจ้านายคนใหม่ก็ยิ้มตอบไมตรีเช่นกัน

    "เอาไว้กลับมาจากเหมือง เธอค่อยเริ่มทำงานแล้วกันนะ เพราะไปเหมืองคราวนี้ฉันจะให้นิลยาไปคนเดียว"

    "ค่ะท่าน"

    มานัลโค้งรับคำอีกครั้ง รู้สึกดีใจไม่น้อยที่ได้รับใช้นิลยา แถมยังรู้สึกยินดีกับเพื่อนสาวอีกด้วยที่ได้เลื่อนขั้น ตอนแรกที่รู้ข่าวก็แทบไม่อยากเชื่อ แต่พอได้ยินกับหู ได้ดูกับตาขนาดนี้ ไม่เชื่อก็คงต้องเชื่อ....

    "ชีดา เตรียมของทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่ไหม"

    "ค่ะ"

    หัวหน้าสาวใช้โค้งรับคำ สีหน้าของเธอยังคงเรียบเฉย ถึงแม้ในใจจะรู้สึกยินดีไม่น้อยที่นิลยาได้รับการโปรดปรานจากคาเบล ถึงขนาดให้ติดตามไปที่เหมืองด้วย ทั้งที่ปกติแล้วไม่เคยมีนางในฮาเร็มคนไหนได้ไป ทว่าตามมารยาท เธอจะแสดงอาการดีใจจนออกนอกหน้าไม่ได้

    "อืม ดีมาก" คาเบลพยักหน้ารับรู้สั้นๆ "ปะ...นิลยาออกเดินทางกัน" ก่อนจะหันมาพยักหน้าเรียกหญิงสาว

    "เอ่อ...ค่ะ..." นิลยาลุกขึ้นเดินตามชายหนุ่มไปอย่างว่าง่าย เมื่อสบโอกาสคนตัวโตจึงเข้าไปสวมกอดเอวบาง แล้วพาเดินไปขึ้นรถอย่างอารมณ์ดี

     

    "เอ๊ะ!...นั่นใคร" อารีดานางในฮาเร็มคนโปรด เอ่ยถามสาวใช้ด้วยความสงสัย เมื่อเห็นคาเบลโอบเอวสาวสวยหน้าตาไม่คุ้นเคยเดินขึ้นรถ

    "คงจะเป็นนางในฮาเร็มคนใหม่ที่เขาพูดถึงมั้งค่ะ" เมิร์ทตอบเจ้านาย

    "ท่านคาเบลมีนางในฮาเร็มคนใหม่อีกแล้วเหรอ ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย" อารีดาเอ่ยอย่างหัวเสีย เมื่อชายที่เธอรักมีคู่ควงคนใหม่อีกแล้ว

    "เมิร์ทก็เพิ่งรู้เมื่อเช้านี้นี่เองค่ะ เห็นว่าเพิ่งย้ายจากตำแหน่งสาวใช้ขึ้นมาเป็นนางในฮาเร็ม มันคงจะให้ท่าท่านคาเบลน่าดู....ถึงได้เลื่อนขึ้นเร็วขนาดนี้" เมิร์ทเอ่ยด้วยความริษยา

    "อืม สวยซะด้วย...สงสัยจะหลงมันน่าดู กอดมันซะกลมขนาดนั้น" อารีดามองทั้งคู่ตาขวาง รู้สึกอิจฉาหญิงสาวผู้นั้นจับใจ เพราะตั้งแต่เธอย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ คาเบลไม่เคยโอบกอดเธอด้วยความเสน่ห์หาเช่นนั้นเลยสักครั้ง

    "ท่านหญิงอย่ายอมนะคะ...ท่านเคยเด่นกว่าใคร จะยอมให้เด็กคนนั้นขึ้นมาแทนที่ท่านไม่ได้นะคะ" เมิร์ท กล่าวยุยงนายสาว อารีดาเป็นคนสวยโดดเด่น เรื่องบนเตียงก็ไม่เป็นรองใคร จนกระทั่งเธอได้เป็นคนโปรด และถูกเรียกหาบ่อยๆ

    "ยอมไม่ยอมก็มีค่าเท่ากันนั่นแหละเมิร์ท ถ้าท่านคาเบลต้องการ แกก็รู้ว่าไม่มีใครขัดใจท่านได้" อารีดากล่าวอย่างนึกหวั่นเกรง เพราะพอจักนิสัยของคาเบลดีว่าเขาเป็นคนเด็ดขาดขนาดไหน

    "ท่านคาเบลต้องการ เราก็ทำให้ท่านเลิกต้องการสิคะ" เมิร์ทเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์ ดวงตารี่เล็กลงไม่ต่างจากนางจิ้งจอก

    "อืม มันก็จริง แล้วเราค่อยคิดหาวิธีทีหลังก็แล้วกัน ตอนนี้รอดูมันไม่ก่อน ไม่แน่นะอีกไม่นาน ท่านคาเบลอาจจะสลัดมันทิ้งเองก็ได้ ท่านเป็นคนเบื่อง่ายแกก็รู้"

    อารีดาสบตาสาวใช้อย่างรู้ใจ ยิ้มกรุ่นในหน้าเมื่อนึกถึงอนาคต ก่อนจะหันหลังเดินกลับที่พัก เมื่อรถคันหรูของคาเบลแล่นออกไปจากบริเวณคฤหาสน์แล้ว

    ***คอมเม้มติชม คือกำลังใจที่ดีนะคะ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×