ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไฟพิศวาสเทพบุตรแดนทราย

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 9 ห่วงใย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.67K
      10
      28 มี.ค. 55

    ตอนที่ 9

    ห่วงใย

     

    คาเบลประคองร่างอ่อนแรงของนิลยารถมาจากรถ ร่างเล็กสวมเสื้อสูทตัวใหญ่ของคาเบลเอาไว้เพื่อปกปิดร่างเปลือย เนื่องจากชุดราตีแสนสวยของเธอถูกคนเอาแต่ใจฉีกขาด จนไม่สามารถนำกลับมาใส่ได้อีก...คิดแล้วก็น่าโมโห ที่คนไร้ค่าอย่างเธอไม่สามารถทำอะไรเขาได้ นอกจากเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาเท่านั้น นิลยาเดินเข้าบ้านด้วยท่าทางอ่อนล้า...ล้าทั้งกายและใจ ส่งผลให้ร่างบางสั่นสะท้าน ร้อนๆ หนาวๆ ไปทั่วกาย

    สายตาคมชำเลืองมองคนตัวเล็กข้างกาย รู้สึกกังวลใจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อเห็นใบหน้าสวยซีดเผือดจนแทบไม่มีสีเลือด ท่าทางอ่อนแรงของเธอ ทำให้เขารู้สึกผิดอยู่ในใจลึกๆ ที่รุนแรงกับเธอมากเกินไป แต่จะให้เขาทำยังไง ก็เขาโมโหนี่นา....

    "นิล ไหวไหม" คนเป็นห่วงมองร่างเล็กด้วยสายตาอ่อนโยน เมื่อความโกรธเริ่มจางหาย สรรพนามที่ใช้เรียกก็กลับมาเช่นเดิม

    "ถามทำไมคะ...นิลจะไหวหรือไม่ พี่สนใจด้วยเหรอ" ความน้อยใจทำให้หญิงสาวประชดอีกฝ่าย

    "เฮ้อ...." คาเบลยิ้มกรุ่น มื่อเห็นท่าทางแง่งอนของหญิงสาว

    "อุ้ย!....พี่คาเบลจะทำอะไรคะ" เมื่อคนขี้งอนไม่ยอมบอกดีๆ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจช้อนอุ้มร่างบางขึ้นมาแนบอก

    "อยู่เฉยๆ ได้ไหม...แรงก็ไม่มีจะดิ้นทำไม พี่ไม่ทำอะไรเธอหรอก" เสียงเข้มกล่าวอย่างอ่อนใจ เมื่อคนตัวเล็กดิ้นขลุกขลักในแขน ทั้งๆ ที่เรี้ยวแรงก็ไม่ค่อยจะมี

    ใบหน้าสวยบึ้งตึง ส่งค้อนให้คนตัวโตอย่างขุ่นเคือง ทว่าก็นอนนิ่งปล่อยให้เขาอุ้มขึ้นไปข้างบนโดยดี เนื่องจากเธอเองก็อ่อนแรงอย่างที่เขาบอกจริงๆ

    "นอนพักซะ...จะได้รู้สึกดีขึ้น"

    คาเบลวางร่างบางลงบนที่นอนหนานุ่ม สายตาอ่อนโยนน้ำเสียงนุ่มนวล ชายหนุ่มนั่งลงข้างๆ เตียง ก่อนจะลูบไล้ไปตามใบหน้านวลอย่างเบามือ

    "........"

    นิลยาไม่ตอบแต่ปิดเปลือกตาลง ยอมทำตามที่เขาบอกแต่โดยดี น้ำเสียงห่วงใยและท่าทางอ่อนโยนของเขา ทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอรู้สึกดีขึ้นไม่น้อย ถึงแม้ว่าเมื่อสักครู่เขาเพิ่งจะทำร้ายเธอ....ทว่าหัวใจของเธอกับไม่ยอมจดจำว่าเขาร้ายกาจขนาดไหน

    'ทำไมเธอต้องรู้สึกดีด้วยนะ....นิลยา เขาตบหัวแล้วมาลูบหลัง เธอยังจะรู้สึกอบอุ่นและสุขใจอยู่ได้ ก็โง่อย่างนี้ไงล่ะ เธอถึงต้องเจ็บปวด!' นิลยาต่อว่าตัวเองในใจ ที่เกิดหวั่นไหวไปกับสัมผัสอ่อนโยนของคนร้ายกาจ ก่อนจะเคลิ้มหลับไปด้วยใบหน้าอิ่มเอม ตกอยู่ในนิทรารมย์ที่แสนสุข

    คาเบลยิ้มกรุ่น มองใบหน้าสวยที่อยู่ใกล้ๆ ด้วยความรู้สึกหวงแหน พินิจมองใบหน้าหวานที่เข้ามามีอิทธิพลในหัวใจเขามากขึ้นเรื่อยๆ  นับตั้งแต่หัวใจของเขาได้ตายด้านไปกับกรียาผู้หญิงคนแรกที่เขารัก ก็เพิ่งมีนิลยานี่แหละ ที่ทำให้หัวใจของเขารับรู้ความรู้สึกดีๆ อีกครั้ง

    ชายหนุ่มไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เขาจะรู้สึกหวงแหนใครได้มากขนาดนี้ หึงหวงจนขาดสติ หึงแม้กระทั่งฆ่าคนได้ เพียงแค่เห็นชายอื่นมายุ่งกับเธอ....นิลยา ผู้หญิงที่มีอิทธิพลกับหัวใจของเขามากเหลือเกิน...มากเสียจนเขานึกกลัว กลัวว่าจะเสียเธอไป และเขาไม่มีทางยอมให้มันเกิดขึ้นแน่...ไม่ยอมเด็ดขาด!

     

     เช้าตู่ของวันรุ่งขึ้น คาเบลสะดุ้งตื่นด้วยความตระหนก เมื่อรับรู้ได้ถึงอุณหภูมิที่ร้อนดั่งเปลวเพลิงของคนที่เขานอนกอด ร่างบางกระสับกระส่ายเหงื่อผุดพรายเต็มดวงหน้า ปากซีดตัวสั่นครางงึมงำคล้ายคนละเมอ

    "นิล...นิล..."

    "อย่า...อย่าค่ะ...." เสียงหวานละเมอออกมาแผ่วเบา

    "นิล....ทำไมไข้ขึ้นสูงขนาดนี้เนี่ย...." มือใหญ่อังที่หน้าผากมน อุณหภูมิที่สูงปี๊ดของร่างงาม ทำให้เขาตกใจและเป็นห่วงเธอมากเหลือเกน

    "ใครอยู่ข้างนอกไปตามหมอมาเดี๋ยวนี้ แล้วเอาผ้ากับน้ำเข้ามาให้ฉันด้วย...." เสียงเข้มตะโกนสั่ง เนื่องจากแน่ใจว่าต้องมีคนได้ยินคำสั่งของเขาแน่นอน

    "อย่าค่ะ พี่คาเบล อย่า...คนใจร้าย...ป่าเถื่อน...."

    คนป่วยละเมออกมาแผ่วเบา ทว่ากลับทำให้คนที่นั่งฟังถึงกับหน้าซีด รู้สึกผิดอย่างมากมาย นี่เขาโหดร้ายกับเธอมากเลยใช่ไหม....

    "นิล...พี่ขอโทษ...เพราะพี่เอาแต่ใจแท้ๆ เธอถึงได้ไข้ขึ้นสูงอย่างนี้"

    มือใหญ่กุมมือเล็กแล้วยกขึ้นมาแนบหน้า นึกโกรธเคืองตัวเองเหลือเกินที่เป็นต้นเหตุให้หญิงสาวไม่สบายเช่นนี้

    "น้ำกับผ้าค่ะ ท่าน" ไม่นานนักชีดาก็นำของที่เจ้านายต้องการเข้ามาให้

    "ขอบใจ!"

    "แล้วนั่น ท่านหญิงเป็นอะไรคะ"

    "ไม่สบาย มีคนไปตามหมอหรือยัง" คนเป็นนายหันไปถามสาวใช้คนสนิท

    "ตามแล้วค่ะ อีกไม่นานคงมาถึง...เดี๋ยวชีดา เช็ดตัวให้ท่านหญิงเองนะคะ" ชีดาเอ่ยกล่าวอาสา เนื่องจากเห็นว่างานจำพวกนี้ให้เธอทำน่าจะคล่องกว่า

    "ไม่ต้อง...เดี๋ยวฉันจัดการเอง เธอไปเตรียมข้าวต้มหรือโจ๊ก มาให้ฉันก็แล้วกัน ..."

    คนเป็นนายสั่ง หันไปมองใบหน้าสวยซีดเผือดของคนที่อยู่บนเตียง สำหรับนิลยาเขาไม่ต้องการให้ใครมายุ่งกับเธอทั้งนั้น เพราะเขาจะเป็นดูแลปรนนิบัติเธอเอง

    "ค่ะ"

    ชีดาโค้งรับคำ พร้อมกับชำเลืองมองหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงอย่างห่วงใย ทว่าเมื่อมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เตียง เธอก็รู้สึกเบาใจลง อย่างน้อยท่านคาเบลก็ห่วงใยนิลยาไม่น้อยทีเดียว

     ชายหนุ่มบรรจงเช็ดตัวให้คนป่วยอย่างเบามือ อุณหภูมิร่างกายของร้อนรุ่ม ใบหน้าสวยที่ซีดเผือด ทำให้เขาสงสารเธอจับใจ 'เพราะนายแท้ๆ คาเบล นิลเลยต้องไม่สบายอย่างนี้ คราวหลังหัดลดความเอาแต่ใจลงบ้างก็ดีนะ คนที่นายแคร์จะได้ไม่ต้องเจ็บอย่างนี้อีก' คาเบลต่อว่าตัวเองในใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อนึกถึงวีรกรรมของตัวเองเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา

    "เฮ้อ...ตอนนั้นมันโกรธมากจริงๆ ขอโทษนะที่พี่โหดร้ายกับเธอ" คนสำนึกผิดกล่าวกับคนไร้สติ แล้วเมื่อเช็ดตัวให้คนป่วยเรียบร้อยแล้ว คนดูแลก็รีบเดินไปเอาเสื้อคลุมมาสวมให้ร่างกายที่เย็นชื้นเพื่อจะได้อบอุ่นขึ้น

     

    "กินข้าวต้มร้อนๆ  ก่อนนะนิล จะได้กินยา" หลังจากที่คุณหมอมาตรวจอาการและกลับไปแล้ว คนเฝ้าใกล้ก็ดูแลคนป่วยอย่างใกล้ชิด

    "นิลไม่หิว" นิลยาหันหน้าหนีช้อนข้าวต้มที่คาเบลตักมาจ่อปาก

    "กินสักนิดนะ จะได้กินยา" คนเฝ้าไข้พยายามอ้อนคนป่วย

    "ไม่ค่ะ นิลไม่หิว นิลง่วง...." คนป่วยเอ่ยอย่างดื้อรั้น ก่อนจะล้มตัวลงนอน ไม่สนใจคนตัวโตที่ตักเข้าต้มค้างเอาไว้เลยสักนิด

    "ทำไมดื้ออย่างนี้นะ ถ้าไม่กินข้าว กินยาจะหายได้ยังไง" คนที่เอาแต่ใจตัวเองอยู่เป็นนิจเริ่มหงุดหงิด เมื่อคนป่วยแสนสวยพยศเหลือเกิน

    "ดีเหมือนกัน จะได้ตายไปเลย" คนป่วยประชด พร้อมกับหันหลังให้ชายหนุ่มทันที

    "นิล!...อย่าพูดอย่างนี้อีกเด็ดขาด ลุกขึ้นมากินข้าวเดี่ยวนี้" คาเบลดุเสียงดัง ไม่พอใจเลยที่ได้ยินคำว่าตายออกมาจากปากบาง เนื่องจากหัวใจของเขามันรู้สึกโหวงเหวงยังไงไม่รู้

    "ไม่!" คนป่วยก็ดื้อเพ่ง หลับตาแน่น ไม่ยอมทำอะไรทั้งนั้น

    "โกรธพี่หรือไง...." เมื่อคนป่วยไม่ยอมอ่อนข้อให้เขา คนเฝ้าไข้ก็เลยต้องยอมอ่อนข้อให้เสียเอง

    "นิลไม่มีสิทธิ์ โกรธพี่หรอกค่ะ นิลเป็นแค่นางบำเรอ...." คนป่วยตัดพ้ออย่างน้อยใจ เมื่อนึกถึงฐานะของตัวเองน้ำตาไสๆ ก็พานจะไหล

    "นี่แหละที่เขาเรียกว่าโกรธ...โธ่ คนดียกโทษให้พี่นะ" คาเบลยิ้มกรุ่นเอาใจหญิงสาว รู้ว่าคนป่วยหงุดหงิดง่ายก็พยายามตามใจ

    "ขอโทษแล้วไม่หายเหรอคะ" คนขี้น้อยใจเอ่ยถามทั้งน้ำตา

    "โธ่....อย่าร้องนะครับ" คาเบลขึ้นไปนั่งบนขอบเตียง ก่อนจะช้อนร่างบางขึ้นมากอดเอาไว้แนบอก

    "พี่ยอมรับว่าพี่ใจร้อน เอาแต่ใจ และก็ทำเกินกว่าเหตุ แต่ทั้งหมดที่พี่ทำก็เพราะพี่หึง พี่ไม่อยากให้นิลอยู่ใกล้ใคร หรือสนใจใครนอกจากพี่" เสียงทุ้มของคนที่สำนึกผิดกระซิบข้างหู พร้อมกับเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้านวลอย่างอ่อนโยน

    "ยกโทษให้พี่ได้ไหม?" ก่อนจะยิ้มอบอุ่นอ้อนวอนหญิงสาว

    หัวใจดวงน้อยของนิลยาพองโตขึ้นทันที เมื่อได้ยินคำขอโทษจากปากของคาเบล ความโกรธเคืองหายไปจนเกือบหมด เมื่อได้รับความอ่อนโยนที่แสดงออกมาจากแววตาและการกระทำของอีกฝ่าย ในใจอิ่มเอมและดีใจอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้เขาจะไม่ได้บอกรักเธอ แต่อย่างน้อยเขาก็ยอมรับว่าเขาหึง ซึ่งนั่นก็แปลว่าเธอก็มีความสำคัญสำหรับเขาอยู่ไม่น้อย

    "ค่ะ นิลยกโทษให้พี่ก็ได้" คาเบลยิ้มกว้างอย่างดีใจ เมื่อคนป่วยขี้งอนหายโกรธเคืองเขาแล้ว

    "แต่ห้ามทำอย่างนี้อีกนะคะ" ก่อนคนป่วยจะกำชับ เพราะเธอเข็ดแล้วจริงๆ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน

    "ได้ครับ..." คาเบลยิ้มกรุ่นตอบอย่างหนักแน่น

    "แต่มีข้อแม้นิดนึง...."

    "ข้อแม้อะไรคะ...." นิลยาเอ่ยถามทันควัน นึกสงสัยว่าคาเบลจะมาไม่ไหนอีก

    "นิลต้องไม่ยุ่งกับใครอีก ถ้านิลทำได้ พี่ก็ทำได้" คาเบลยิ้มกว้าง มองสบดวงตาคู่หวานด้วยความเอ็นดู

    "นิลไม่เคยยุ่งกับใคร...พี่คาเบลคิดไปเองทั้งนั้น" คนป่วยเริ่มงอนอีกแล้ว เมื่อนึกถึงการกระทำแสนป่าเถื่อนและเอาแต่ใจของอีกฝ่าย

    "ยืนคุยเหมือนเมื่อคืนก็ไม่ได้...พี่หวง..." คนเอาแต่ใจกระซิบบอก ก็เขาหวงจริงๆ นี่นา ไม่งั้นจะขาดสติขนาดนั้นเหรอ

    "บ้าเหรอคะ....คนคุยกัน ไม่ได้มีอะไรสักหน่อย ทำไมจะคุยไม่ได้"

    "ก็พี่หวง...ไม่รู้ล่ะ ถ้านิลทำไม่ได้ พี่ก็ไม่รับประกัน ถ้าไม่อยากให้พี่ขาดสติ ก็ห้ามทำให้พี่หึงอีก เข้าใจไหม....ไม่งั้นโดนลงโทษเหมือนเมื่อคืนอีกไม่รู้ด้วยนะ" คนเจ้าเล่ห์กล่าวหน้าตาย

    "บ้า! คนทะลึ่ง นิลไม่คุยกับพี่แล้ว ปวดหัวอยากนอน" ใบหน้าซีดของคนป่วยแดงระเรื่อขึ้น ก่อนจะดิ้นขลุกขลักเพื่อล้มตัวลงนอน ทว่าชายหนุ่มกลับยิ้มกรุ่นไม่ยอมให้เธอได้ทำตามใจ

    "ยังนอนไม่ได้ครับ นิลยังไม่ได้กินข้าว กินยาเลย...กินสักหน่อยนะ ไข้จะได้ลด..." คนเป็นห่วงกล่าวขอร้อง เมื่อเห็นสายตาคำถามจากคนป่วย

    "แต่นิลไม่หิวนี่คะ...อยากนอน..."

    "นิลได้นอนแน่ แต่หลังจากกินข้าวและกินยาก่อน...." คนตัวโตยิ้มกรุ่นเหมือนจะใจดี แต่ไม่!...เพื่อสุขภาพของเธอ เขาจะไม่ตามใจนิลยาในเรื่องนี้แน่นอน

    "เอ๊ะ!...พี่คาเบล คนจะนอน จะห้ามทำไม" คนป่วยหน้าบึ้ง ไม่ยอมทำตามที่เขาบอกง่ายๆ ก็เธอไม่ชอบกินยานี่นา

    "ก็กินข้าว กินยาก่อนสิครับ แล้วพี่จะปล่อยให้นิลนอนพัก เพราะถ้าไม่กินข้าวกินยา นอนพักไปก็เท่านั้น" คาเบลบอกเสียงหนักแน่น ถึงแม้หญิงสาวจะส่งสายตาเขียวๆ มาให้ แต่เขาก็ไม่สนใจ

    "เฮ้อ...ก็ได้ค่ะ แต่ไม่เยอะนะคะ เพราะนิลไม่หิว" เมื่อรู้ว่าขัดคำสั่งเขาไม่ได้ คนป่วยจึงยอมทำตามที่เขาบอก ไม่งั้นก็คงเถียงกันไม่เลิก แล้วเธอก็ไม่ได้พักผ่อนสักที

    "ได้....แค่นิลกินสักคำ สองคำพี่ก็ดีใจแล้ว" คนตัวโตยิ้มกว้างอย่างดีใจ เมื่อคนป่วยเลิกดื้อ

    ใบหน้าสวยแดงระเรื่อขึ้น เรียวปากซีดเผือดยิ้มเล็กน้อย มองสบดวงตาคมเข้มที่ส่งความห่วงใยมาให้ทางสายตา ความสุขเกิดขึ้นมากมาย เพียงแค่เขาแสดงความห่วงใย เธอก็รู้สึกดีใจเหลือเกิน

    นิลยาอ้าปากรับข้าวต้มที่ชายหนุ่มตักมาป้อน ทว่ากินได้ไม่กี่คำหญิงสาวก็อิ่ม ซึ่งคาเบลก็ไม่ได้บังคับให้คนป่วยกินต่อ เพราะแค่เขาเห็นเธอกินได้ แม้เพียงเล็กน้อยเขาก็ดีใจแล้ว หลังจากที่ป้อนข้าวหญิงสาวเสร็จ ชายหนุ่มจัดยามาให้เธอตามที่หมอสั่ง ก่อนจะบังคับคนป่วยให้กินยาจนหมด และนั่งเฝ้าอยู่ดูแลจนกระทั่งเธอหลับไป

     

    "เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นหรือยัง"

    ทันทีที่นิลยาปรือตาขึ้น เสียงทุ้มอ่อนโยนก็ของคนที่นั่งเฝ้า ก็จะคอยถามอย่างนี้ทุกครั้ง นับตั้งแต่วันแรกที่เธอป่วยจนถึงกระทั่งเธอเกือบจะหายสนิท

    "ดีขึ้นมากแล้วค่ะ ไม่ปวดหัว ไม่ตัวร้อน....หายแล้ว...." นิลยายิ้มบางๆ ให้คนที่นั่งมองเธอด้วยสายตาห่วงใย

    "แล้ววันนี้พี่คาเบล ไม่ไปทำงานเหรอคะ" ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความสงสัย เมื่อเห็นเขายังนั่งเฝ้าเธอไม่ยอมลุกไปไหน

    "ไม่ล่ะ....นิลยาไม่สบาย พี่จะไปทำงานได้ยังไง" คาเบลยิ้มอ่อนโยน ลูบศีรษะของคนตัวเล็กอย่างเอ็นดู

    "ก็วันนี้นิลหายแล้วนี่คะ...พี่คาเบลไม่ต้องอยู่เฝ้านิลก็ได้"

    "หายที่ไหนกัน ตัวยังร้อนๆ อยู่เลย" ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับอังมือที่หน้าผากมน

    "เห็นไหมคะ....ตัวไม่ร้อนแล้ว นิลขอบคุณที่พี่เป็นห่วง แต่นิลหายแล้วจริงๆ" คนหายป่วยยิ้มกรุ่น ดวงตาคู่สวยมองอีกฝ่ายด้วยความซาบซึ้ง ซึ่งทำให้คนมองหัวใจกระตุกเลยทีเดียว

    "นิล!"

    "ค่ะ"  นิลยามองใบหน้าคมเข้มของอีกฝ่ายด้วยความสงสัย เมื่อจู่ๆ เขาก็ตวาดเสียงเข้ม

    "ต่อไปห้ามยิ้มอย่างนี้อีกรู้ไหม"

    "อ้าว....ทำไมคะ นิลยิ้มให้พี่ไม่ดีหรือไง" คนยิ้มหวานเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

    "ยิ้มให้พี่ก็ดีอยู่เหรอ แต่ถ้าพี่ห้ามใจไม่ไหวรังแกคนป่วยขึ้นมานิลจะเดือดร้อน" คาเบลมองใบหน้าใสของอีกฝ่ายอย่างรักใคร่

    "บ้า! ทะลึ่ง นิลป่วยอยู่นะคะ"

    "อ้าว...แล้วเมื่อกี้ใครบอกว่าหายแล้วน่า" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มทะเล้น

    "ใครคะ จำไม่ได้ โอ๊ย!...ปวดหัวจังเลยค่ะ" คนหายป่วยแสร้งยกมือขึ้นบีบขมับอย่างมารยา

    "มารยาร้อยเล่ห์" คนรู้ทันยิ้มกรุ่น กล่าวพร้อมกับจับมือเล็กมากุมเอาไว้ ตาสบตาอย่างมีความหมาย

    "คนเจ้ามารยา ต้องถูกลงโทษรู้ไหม"

    ร่างหนาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกรุ่มกริ้ม ดวงตาคมเข้มเป็นประกายเจิดจ้า มองเรียวปากอวบอิ่มสีระเรื่ออย่างปรารถนา

    "ยังไงล่ะคะ"

    ดวงตาป๋องแป๋วมองอีกฝ่ายยั่วเย้า แกล้งเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย เผยอริมฝีปากรออย่างท้าทาย เมื่อเห็นสายตาเจ้าเล่ห์จับจ้องที่เรียวปากอวบอิ่มของเธอ

    "ยังไงนะเหรอ...ก็อย่างนี้ไง แม่ลูกแมวจอมยั่ว....."

    กล่าวจบ ปากหยักอุ่นชื้นก็ก้มลงหากลีบปากบางอวบอิ่มที่ปรารถนา สัมผัสที่ห่างหายมาตลอดสองวันที่หญิงสาวป่วย ทำให้เขาเรียกร้อง ตักตวง ควานหาความหวานจากเรียวปากบางอย่างโหยหา

    "แล้วอย่าหาว่าพี่รังแกคนป่วยนะ"

    ปากหยักเปียกชื้นละออกมาจากริมฝีปากบางเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงบดเบียดริมฝีปากบางอีกครั้ง เมื่อคนป่วยแสนสวยสนองตอบเขามาอย่างน่ารักเหลือเกิน

    คนป่วยแสนสวยเผยอริมฝีปากรออย่างเต็มใจ การดูแลเอาใจใส่ของคาเบล ตลอดเวลาที่เธอไม่สบาย ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น และมีความสุขมากมายเหลือเกิน หัวใจดวงน้อยอิ่มเอม อยากจะหยุดช่วงเวลาที่มีเขาอยู่ข้างกายเอาไว้กับเธอให้นานที่สุด แต่เธอก็รู้ดีว่าสักวัน เวลาแห่งความสุขของเธอก็คงจะหมดไป

     

    "พี่ชายอยู่ไหนคะ"

    เสียงหวานของคาเมลเอ่ยถามชีดาด้วยความแปลกใจ เนื่องจากทุกครั้งที่เธอกลับมาบ้าน พี่ชายสุดหล่อของเธอจะมารับที่หน้าบ้านเสมอทว่าวันนี้กลับไม่เห็น

    "อยู่กับท่านหญิงนิลยาบนห้องค่ะ"

    "เอ๊ะ!..." คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน เพราะเหตุใดพี่ชายถึงอยู่กับนิลยาจนไม่ยอมลงมารับเธอ

    "เอ่อ...ท่านหญิงเธอไม่สบายค่ะ ท่านคาเบลเลยอยู่ดูแล" เมื่อเห็นสายตาคำถามจากคาเมล ชีดาจึงกล่าวเฉลยข้อสงสัย

    "อ๋อ...แต่แปลกนะว่าไหม"

    "แปลกยังไงคะ"

    "ก็แปลกตรงที่พี่คาเบลของฉันดูเปลี่ยนไปนะสิ ปกติ...ใครจะเป็นจะตายเคยสนใจที่ไหน แต่กับนิลพี่ชายกับห่วงใย ถึงขนาดไม่ลงมารับฉัน ซึ่งมันแปลกมาก" เสียงหวานยังเอ่ยเจี้ยวแจ้ว ไม่ได้โกรธเคืองทว่าแปลกใจ

    "ค่ะ ท่านหญิงเข้าใจถูกแล้วล่ะคะ เดี๋ยวนี้ท่านคาเบลเปลี่ยนไปมาก...."

    "เปลี่ยนไปยังไง ช่วยเล่าให้ฉันฟังหน่อยสิ คาเมลอยากรู้...." น้องสาวคนสวยของคาเบลเอ่ยถามด้วยความสนใจ

    "ก็ตั้งแต่ที่มีท่านหญิงนิลยา ท่านคาเบลก็ดูมีความสุขขึ้นมาก จากที่คนที่เคยเงียบขรึมเพราะอกหัก ก็กลับมาร่าเริงอีกครั้ง แถมที่เคยควงสาวๆ มากหน้าหลายตาเดี๋ยวนี้ก็หยุดไม่ไปไหน อีกอย่างนะคะช่วงนี้ไม่เรียกหานางในฮาเร็มคนไหนเลย นอกจากท่านหญิงนิลยาคนเดียว...จนเหล่านางในฮาเร็มจะเฉาตายกันหมดอยู่แล้วค่ะ" ชีดากระซิบบอกเสียงรื่นเริง นึกยินดีที่นายหนุ่มดูมีชีวิตชีวาเหมือนเช่นเมื่อก่อน

    "ฮ่าๆๆๆๆ....สงสัยคราวนี้ พี่ชายจะพบรักแท้อีกครั้ง...คาเมล ขึ้นไปดูอาการป่วยของว่าที่พี่สะใภ้ดีกว่า"

    คาเมลหัวเราะเสียงลั่น ดีใจเหลือเกินที่หัวใจตายด้านของพี่ชายจะได้พบรักใหม่อีกครั้ง ขาเรียวรีบเร่งวิ่งขึ้นไปยังห้องของพี่ชายด้วยอาการร่าเริง

    "ค่อยๆ ค่ะ ท่านหญิง เดี๋ยวหกล้มนะคะ" ชีดาร้องตะโกนตามหลัง ทว่านอกจากนายสาวจะไม่ยอมฟังคำเตือนของเธอแล้ว หนำซ้ำยังวิ่งเร็วขึ้นอีก

     

    "พี่ชาย อาการของนิลเป็นยังไงบ้างคะ....ว้าย!!...."

    คาเมลอ้าปากค้างหน้าแดงแป๊ด เมื่อเห็นฉากเลิฟซีนของพี่ชายสุดหล่อ กับสาวสวยผิวขาวที่นอนป่วยอยู่บนเตียง

    "อุ้ย!"

    มือบางผลักใบหน้าคมเข้มของคาเบลออกจากซอกคออย่างตกใจ เมื่อเห็นแขกผู้มาเยือน ใบหน้าสวยแดงระเรื่อก้มต่ำ อายแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี ก่อนจะรีบจัดเสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ให้เข้าที่ 'ดีนะที่ยังไม่ได้เปลือย ไม่งั้น.....เฮ้อ ไม่อยากคิดต่อเลย'

    "เข้ามาทำไมไม่เคาะประตูคาเมล" เสียงเข้มของผู้เป็นพี่ชายกล่าวอย่างหงุดหงิด เมื่อน้องสาวตัวดีเข้ามาขัดจังหวะความสุข

    "เอ่อ...คาเมลขอโทษค่ะ คาเมลแค่จะรีบมาดูอาการของนิล แต่ไม่นึกว่า....."

    คาเมลยิ้มเจื่อนๆ ขนลุกเกรียวไปทั้งตัว ใบหน้าสวยแดงปลั่งไม่แพ้หญิงสาวอีกคน ไม่อยากจินตนาการต่อเลยว่าถ้าเธอไม่เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน พวกเขาจะทำอะไรกันบ้าง....

    "อืม...ไม่เป็นไร" ชายหนุ่มโบกมือเป็นการบอกให้รู้ว่าไม่ถือสา

    "มาถึงนานแล้วเหรอ ทำไมพี่ไม่ได้ยินเสียงรถเลย"

    "ก็สักพักแล้วล่ะค่ะ พี่ชายจะได้ยินได้ยังไงคะ ก็....เอ่อ....กำลังเฝ้าไข้อยู่นี่คะ...." คาเมลยิ้มตาหยีมองทั้งคู่ด้วยสายตารู้ทัน

    "อย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเลย" เสียงเข้มกล่าวแก้เขิน ใบหน้าคมมีสีเข้มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นสายตาล้อเลียนจากน้องสาว

    "แล้วนิลเป็นยังไงบ้าง หายดีหรือยังจ้ะ" คาเมลยิ้มกรุ่นหันไปถามคนป่วยที่โดนรังแกบ้าง

    "ค่ะ เกือบจะหายดีแล้วล่ะค่ะ" นิลยายิ้มบางๆ ใบหน้าสวยก้มต่ำ ไม่กล้าสบสายตาวาววับของคาเมล

    "เฮ้อ!...น่าสงสารนิลจัง" คาเมลถอนหายใจแรงๆ ทำท่าทางอ่อนอกอ่อนใจ

    "น่าสงสารตรงไหน....พี่ให้มันเข้าใจหน่อย" คนเป็นพี่เอ่ยถามด้วยความสงสัย เมื่อน้องสาวตัวแสบกล่าวอย่างมีเลศลัย

    "จะไม่ให้คาเมลสงสารได้ยังไงล่ะค่ะ ก็ขนาดป่วยยังโดนพี่คาเบลรังแก..." เสียงหวานสดใสกระเซ้าพี่ชายอย่างทะเล้น

    "ยายน้องตัวดี...ไม่ต้องมาแซวพี่เลย เห็นไหมว่านิลเขาอายจนตัวแดงหมดแล้ว" คาเบลดุน้องสาวเสียงเข้ม ทว่าสายตาที่มองกลับมีแววเอ็นดู

    "อุ้ย!...ขอโทษจ้ะนิล คาเมลไม่ได้ตั้งใจจะล้อนิลนะ คาเบลแค่จะแซวพี่ชายเล่นเท่านั้น" คาเมลหันไปมองนิลยาอย่างลุแก่โทษ เนื่องจากเธอไม่ได้ตั้งใจจะทำให้นิลยารู้สึกอับอาย ทว่าเธอลืมนึกไปว่าคู่กรณีของพี่ชายที่เธอกล่าวยั่วเย้าอยู่นั้นคือนิลยา

    "ไม่เป็นไรค่ะ" นิลยายิ้มหวานเพื่อให้คาเมลสบายใจ เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีสีหน้าไม่สู้ดี คงจะกลัวเธอโกรธ

    "งั้นคาเมลไม่กวนแล้ว ไปพักผ่อนก่อนดีกว่า นิลก็พักผ่อนเยอะๆ นะ อย่าปล่อยให้ใครบางคนแถวๆ นี้เขารังแกบ่อยๆ ล่ะ เดี๋ยวจะไม่หายเอา" คาเมลกล่าวพร้อมกับปรายตามองไปทางพี่ชายสุดหล่อ

    "ค่ะ ขอบใจที่มาเยี่ยมนะคะ" นิลยายิ้มบางๆ เป็นการขอบใจ

    "ค่ะ" คาเมลยิ้มตอบนิลยาอย่างร่าเริง

    "ไปนะคะพี่ชาย" ก่อนจะหันมาไปกล่าวลาคาเบล

    "อืม ไปพักผ่อนเถอะ...เดี๋ยวว่างๆ พี่จะไปคุยด้วย"

    "ค่ะ" คาเมลยิ้มกรุ่นมองทั้งสองคนด้วยสายตากรุ่มกริ้ม ก่อนจะเดินจากไป

    "เฮ้อ!...เห็นไหมคะ เพราะพี่คนเดียวแท้ๆ ชอบรังแกนิล...." นิลยาถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อคาเมลเดินจากไป ก่อนจะหันมาต่อว่าคนที่รังแกเธอ

    "อ้าว!...ก็นิลยั่วพี่ แล้วพี่จะอดใจไหวได้ยังไง" คาเบลตอบหน้าตาย เมื่อใบหน้าใสที่อยู่ใกล้แค่คืบด้วยสายตาชื่นชม

    "บ้า!"

    มือเล็กทุบลงที่หน้าอกกว้างด้วยความกระดากอาย มองค้อนอีกฝ่ายด้วยสายตาขุ่นเคืองที่โยนความผิดทั้งหมดมาให้เธอ ชายหนุ่มยิ้มกว้างโอบเอวบางเอาไว้อย่างแสนรัก รอยยิ้มแห่งความสุขกระจายไปทั่วใบหน้าของคนทั้งคู่ ความรัก ความผูกพัน เกิดขึ้นแนบแน่นเต็มหัวใจ....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×