ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไฟพิศวาสเทพบุตรแดนทราย

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 บ้านหลังใหม่ชีวิตใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 55


    ตอนที่ 2

    บ้านหลังใหม่ชีวิตใหม่

             

              นิลยามองดูคฤหาสน์หลังใหญ่ ด้วยความรู้สึกตื่นตาตื่นใจ เพราะตั้งแต่เกิดมาจนโตป่านนี้ เธอก็เพิ่งเคยเห็นบ้านคนหลังใหญ่ขนาดนี้เป็นครั้งแรก แถมบริเวณรอบๆ บ้านยังดูร่มรื่นน่าอยู่มีต้นไม้ดอกไม้เต็มไปหมด เห็นแล้วแทบไม่อย่างเชื่อว่าจะเป็นบ้านในเมืองที่ร้อนระอุไปด้วยพื้นทรายเช่นนี้

            "ลงมาได้แล้ว..." เสียงเข้มร้องบอก เมื่อเห็นสมาชิกคนใหม่ของบ้าน เอาแต่นั่งตาลอยมองรอบๆ ตัวบ้าน โดยไม่คิดจะลงมาจากรถสักที

              "เอ่อ...ค่ะ..."

    นิลยาตื่นจากภวังค์ความคิด ส่งยิ้มแหยๆ ให้เจ้าของบ้าน ก่อนจะรีบลงจากรถเพราะไม่อยากให้ชายหนุ่มยืนรอนาน

              "ตามฉันมา..."

    สายตาคมที่มองหญิงสาวนิ่งสนิท เสียงทุ้มที่กล่าวยังคงเรียบเฉยเช่นเดิม ร่างหนาเดินนำหน้าหญิงสาวเข้าไปในตัวตึก เมื่ออีกฝ่ายลงมาจากรถเรียบร้อยแล้ว

              "เดินตามท่านไปสิสาวน้อย....มัวยืนมองอะไรอยู่ เดี๋ยวก็เดินไม่ทันท่านหรอก" ซามานกล่าวย้ำ เมื่อเห็นนิลยายังเอาแต่มองบริเวณรอบๆ อย่างเพลิดเพลิน จนไม่ได้ยินคำสั่งของคาเบล

              "ค่ะ"

    นิลยาพยักหน้ารับคำซามานเล็กน้อย ยิ้มเจื่อนๆ ให้ชายหนุ่มอย่างลุแก่โทษ ที่เธอทำตัวเหมือนคนไร้มารยาท มัวแต่เหม่อจนไม่สนใจอะไร ก่อนจะรีบวิ่งตามคาเบลเข้าตึกหลังงาม

    'โอ้...นี่มันสวรรค์หรือบ้านคนกันเนี่ย ทำไมมันสวยอย่างนี้...." สายตาคู่หวานมองไปรอบๆ ขณะก้าวเดินตามหลังร่างสูง

    "หึๆ..นี่มันนางฟ้า หรือเด็กกะโปโลวะเนี่ย"

    ซามานส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจ นึกขำท่าทางของสาวน้อยที่เพิ่งเดินจากไป เนื่องจากท่าทางตื่นเต้นหันรีหันขวางมองโน้นทีนี่ทีของเธอนั้น....ไม่ต่างจากเด็กตัวเล็กๆ ที่เห็นสิ่งแปลกตาดีๆ นี่เอง

     "ชีดาตามฉันมา..." คาเบลตะโกนสั่ง ขณะที่เดินผ่านหน้าชีดาหัวหน้าสาวใช้ประจำคฤหาสน์

    "ค่ะ" ชีดาโค้งรับคำด้วยอาการเรียบร้อยมีมารยาท ก่อนจะเดินตามผู้เป็นนายเข้าไปอีกคน

    "ท่านคาเบลพาใครมาเหรอ ซามาน" ชีดาสะกิดถามคนสนิทของนายหนุ่ม เมื่อเขาเดินมาขนาบข้าง

    "เดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ รีบตามท่านไปเถอะ"  ซามานบอกพร้อมกับเร่งฝีเท้าให้ทันนายหนุ่ม

    "แหม...ท่านนี่ จะบอกหน่อยก็ไม่ได้"

    ชีดาแสร้งค้อนคนสนิทของเจ้านาย ทว่าซามานไม่คิดจะสนใจ เพราะเขาและชีดาทำงานรับใช้คาเบลมานาน จึงรู้นิสัยใจคอกันพอสมควร

     

    "ชีดา นี่คือนิลยาสาวใช้คนใหม่ของเรา...ฉันปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเธอ ในการจัดการงานให้นิลยา" คาเบลกล่าวแนะนำนิลยาเมื่อทุกคนมาพร้อมหน้ากันที่ห้องโถงใหญ่

    "ค่ะ ท่าน"

    ชีดาโค้งรับคำอย่างนอบน้อม ก่อนจะหันไปส่งยิ้มหวานให้นิลยาอย่างเป็นมิตร ซึ่งหญิงสาวก็ยิ้มตอบเธอเช่นกัน

    หญิงวัยกลางคนพินิจดูสาวน้อยหน้าหวานอย่างชื่นชม ใบหน้าเล็กรูปไข่ คิ้วโก่งเรียวสวยได้รูป ดวงตากลมโตแป๋วแหวว ขนตาหนางามงอน จมูกโด่งเป็นสัน ปากบางจิ้มลิ้มแต่อวบอิ่ม ผิวพรรณขาวผ่องอมชมพู รูปร่างสมส่วนน่ามอง คนอะไรสวยน่ารักไปทั้งตัว

    ไม่น่าเชื่อว่านายหนุ่มของเธอจะให้หญิงสาวผู้นี้เป็นเพียงสาวใช้ธรรมดา เพราะดูแล้วเธอดูสวยงามกว่านางในฮาเร็มของท่านคาเบลที่มีอยู่ตอนนี้เสียอีก

              "พานิลยาไปอาบน้ำพักผ่อนได้แล้ว ส่วนห้องพักก็ให้อยู่ห้องใกล้ๆ กับเธอแล้วกันนะ มีอะไรจะได้เรียกใช้สะดวก" คาเบลสั่งหัวหน้าสาวใช้เสร็จก็เดินจากไป

              "ไป...งั้นเราก็ไปพักกันได้แล้ว..." ชีดาหันมาพยักหน้าเรียกนิลยา พร้อมกับเดินนำหญิงสาวไปที่ห้องพัก ที่มีไว้สำหรับสาวใช้ของบ้าน

                "ค่ะ"

    นิลยาเดินตามชีดาไปอย่างว่าง่าย ตอนนี้ใครให้เธอทำอะไร เธอก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น ขอเพียงแค่เธอไม่ต้องไปเป็นทาสบำเรอใครก็พอ

              "เอ่อ...นิลยา เธอเป็นไงมาไงล่ะ ถึงได้มากับท่านคาเบลได้" ชีดายิ้มกว้างพร้อมกับเอ่ยถามถึงสิ่งที่ติดใจสงสัย เนื่องจากสาวใช้ในบ้านก็มีมากเกินพอแล้ว เหตุใดท่านคาเบลถึงหาสาวใช้มาเพิ่มอีก มันไม่มีความจำเป็นเลยสักนิด

              "เรียกนิลเฉยๆ เถอะค่ะ เรียกนิลยามันฟังดูห่างเหิน อีกหน่อยเราก็ต้องทำงานด้วยกันแล้ว" สมาชิกใหม่ของบ้านยิ้มกรุ่น

    "อืม...ก็ได้ แล้วนิลมากับท่านคาเบลได้ยังไง"

    "เรื่องมันยาวค่ะ เดี๋ยวนิลจะเล่าให้ฟังทีหลังนะคะ แต่ถ้าพี่ได้ฟังเรื่องของนิลแล้ว พี่อย่าร้องไห้นะ"

              "ทำไมล่ะ เรื่องมันเศร้ามากเลยหรือไง"

              "ค่ะ ยิ่งกว่าละครน้ำเน่าซะอีก" นิลยาแสร้งยิ้มสดใส กลบเกลื่อนความเศร้าในใจ

                "เผอิญฉันชอบดูละครน้ำเน่าซะด้วยสิ อ้าว...ถึงห้องพอดี เข้าไปคุยกันต่อในห้องดีกว่า" หัวหน้าสาวใช้บอกพร้อมกับเปิดประตูห้องพัก ที่จะเป็นของนิลยาตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

              "ค่ะ"

    นิลยาเดินตามชีดาเข้าไปในห้องด้วยความตื่นเต้น สายตาคู่หวานกวาดมองไปรอบๆ ห้องอย่างตื่นตาตื่นใจ โอ้โฮ้!....ขนาดห้องพักสาวใช้ยังกว้างขวางน่าอยู่ถึงเพียงนี้ แล้วถ้าเป็นห้องส่วนตัวของเจ้าของบ้านล่ะจะสวยงามขนาดไหน

              "ท่านคาเบลคงรวยมากนะคะ ห้องสาวใช้ธรรมดายังกว้างขวางซะขนาดนี้...บอกตามตรงกว้างกว่าบ้านที่นิลเคยอยู่อีกนะคะ" นิลยายิ้มหวาน เดินสำรวจที่อยู่ใหม่ของเธออย่างสุขใจ

              "อืม ท่านคาเบลน่ะมหาเศรษฐีระดับประเทศเลยล่ะ....สาวๆ นี่ติดกันตรึม แต่ท่านไม่เคยจริงจังกับใครหรอกนะ เพราะท่านเคยผิดหวังในความรักมากก่อน...." ชีดาบอกเสียงอ่อย เงียบเมื่อรู้ตัวว่าเริ่มจะพูดมากเกินไป

              "อกหัก...ท่านคาเบลเคยอกหักด้วยเหรอคะ?  ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครนะ ทำไมเธอถึงไม่รับรักผู้ชายดีๆ อย่างท่านคาเบล"  นิลยาเอ่ยถามด้อยความซื่อ

              "เฮ้อ!....อย่าให้ฉันพูดเลย เรื่องของเจ้านาย....เธอยังไม่ได้ตอบฉันเลยนะ ว่ามากับท่านคาเบลได้ยังไง" ชีดาเปลี่ยนเรื่องเมื่อรู้ตัวเองเริ่มจะพูดมากเกินไป

              "ท่านซื้อนิลมาจากพวกพ่อค้ามนุษย์นะคะ ทีแรกนิลก็สงสัยว่าเงินตั้งมากมายท่านไม่เสียดายเลยเหรอ แต่ตอนนี้นิลไม่สงสัยแล้ว ก็ท่านรวยขนาดนี้เงินสามสิบล้านคงจะเล็กน้อยมากสำหรับท่าน...."

              "ฮ้า! อะไรนะ เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะ...." ชีดาตาโตเท่าไข่ห่านเอ่ยถามทันควัน ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตนเพิ่งได้ยิน เงินสามสิบล้าน....ท่านคาเบลซื้อทาสสาวคนนี้มาด้วยเงินสามสิบล้านอย่างนั้นเหรอ?

              นิลยายิ้มกรุ่น อมยิ้มอย่างนึกขำ เมื่อเห็นท่าทางตื่นตระหนกตกใจของอีกฝ่าย เป็นใครก็คงตกใจไม่แพ้ชีดาหรอก ก็จำนวนเงินมันไม่ใช่น้อยๆ เลยนี่นา ทว่าคาเบลก็ยอมสละเงินจำนวนนั้นเพื่อช่วยเธอ

    "ท่านคาเบลซื้อตัวนิลมาในจำนวนเงินสามสิบล้านค่ะ"

              "ซื้อตัวมาอย่างนั้นเหรอ? นิลช่วยเล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่ฟังได้ไหม ยิ่งฟังก็ยิ่งอยากรู้..." ชีดาเอ่ยถามด้วยความกระตือรือร้น

              "ได้สิคะ คือว่านิลน่ะ เดินซื้อของอยู่ในตลาด........."

    นิลยาเล่าเรื่องทั้งหมดให้ชีดาฟังอย่างไม่ปิดปัง ซึ่งสร้างความแปลกใจให้ชีดามากเหลือเกิน ที่นายหนุ่มยอมทุ่มทุนด้วยจำนวนเงินมากมาย เพื่อซื้อตัวนิลยาจากพ่อค้ามนุษย์ใจโหดโดยที่ไม่หวังผลตอบแทนใดๆ

              "นิลพักผ่อนเถอะนะ ดึกมากแล้ว...เอาไว้พรุ่งนี้ตอนสายๆ ฉันจะพาไปดูงาน....ไปดูว่านิลต้องทำอะไรบ้าง" ชีดากล่าวหลังจากที่นั่งคุยกันได้สักพัก จนพอจะรู้นิสัยใจคอกันบ้างแล้ว

              "ค่ะ"

              "อ๋อ...นอนตื่นสายได้นะ พรุ่งนี้ฉันให้พักหนึ่งวัน เพราะตอนนี้มันก็ใกล้จะสว่างเต็มทีแล้ว" ชีดาหันมาบอกอีกครั้งขณะที่กำลังจะออกจากห้อง

              "ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ"

    นิลยายิ้มกว้างตอบรับอย่างสดใส บ้านหลังนี้มีแต่คนใจดี เฮ้อ!...โชคดีของฉันจริงๆ หญิงสาวคิดก่อนจะล้มตัวลงนอน เมื่อชีดาเดินออกไปและปิดประตูห้องให้เธอเรียบร้อยแล้ว

    "ท่านคาเบล ขอบคุณท่านมากนะคะที่ให้ชีวิตใหม่กับนิล....นิลจะไม่ลืมพระคุณของท่านเลยค่ะ" นิลยาเปรยกับตัวเองอย่างมีความสุขใจ เมื่อนึกถึงใบหน้าคมเข้มของผู้มีพระคุณ

    นิลยาไม่อยากจะคิดเลยว่า ถ้าวันนี้เป็นคนอื่นประมูลตัวเธอไป เธอจะเป็นเช่นไร จะคนใจดีหรือใจร้าย เขาจะย้ำยีทารุนเธอหรือไม่....นับว่าสวรรค์ยังคงเห็นใจเธอบ้าง ถึงได้ส่งเทพบุตรมาช่วยเธอไม่ให้ตกนรกทั้งเป็น ขุมนรกที่ไอ้พวกโจรร้ายมันเป็นคนโยนเธอลงไป....

    "คาเบล ฮับดาฮาล....นิลเป็นหนี้ชีวิตของท่าน! นับจากนี้เป็นต้นไป นิลยอมตายได้เพื่อทดแทนบุญคุณของท่านค่ะ"

    นิลยาเปรยอย่างมุ่งมั่น เธอตั้งใจเอาไว้แล้วว่า ชีวิตนี้ถ้าเธอทำอะไรเพื่อทดแทนบุญคุณของคาเบลได้เธอพร้อมจะทำ เพราะชีวิตใหม่ของเธอเขาเป็นคนมอบให้ ดังนั้นถ้าสิ่งไหนเป็นความต้องการของเจ้าชีวิต เธอยินดีทำตามอย่างไม่มีข้อแม้...

    นิลยานอนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เมื่อใบหน้าคมของเจ้านายคนใหม่ยังลอยอยู่ในความคิด ก่อนเปลือกตาคู่สวยจะค่อยๆ ปิดลง และหลับไปพร้อมกับความอ่อนเพลีย....

                       

    นิลยายิ้มหน้าบานรื่นเริงสดใส สายตาคู่สวยมองไปรอบๆ อย่างชื่นชม ดอกไม้นานาชนิดที่กำลังชูช่อเบ่งบานรับแสงแดดของเช้าวันใหม่ ทำให้สวนดอกไม้นานาพรรณแห่งนี้ดูมีชีวิตชีวา และสวยงามมากเหลือเกิน

    หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ เพื่อซึบซับเอาอากาศบริสุทธิ์ที่เหล่าต้นไม้ดอกไม้ทั้งหลาย ปล่อยมันออกมาเข้าปอด ใบหน้าสวยสดชื่นรอยยิ้มหวานกระจายไปทั่วใบหน้า นิลยาจับดอกนั้นดมดอกนี้อย่างเพลิดเพลิน ที่นี่ช่างสวยงามราวกับสวรรค์จริงๆ....ใช่! ที่นี่คือสวรรค์สำหรับเธอ สวรรค์ที่ผู้มีพระคุณอย่างคาเบล ประทานให้กับชีวิตใหม่ของเธอ

    "สวัสดีครับสาวน้อย ไม่ทราบว่ามาหาใครหรือเปล่าครับ....."

    ฮาดาฟ หนุ่มหล่อหัวหน้าผู้ดูแลสวนในคฤหาสน์ เอ่ยถามสาวน้อยหน้าหวานที่กำลังเดินชื่นชมดอกไม้ในสวนอย่างตื่นเต้น

    "อุ้ย! เอ่อ...เปล่าค่ะ...ฉันไม่ได้มาหาใครหรอกค่ะ" นิลยายิ้มเจื่อนๆ มองอีกฝ่ายอย่างนึกหวั่น เขาจะดุเธอหรือเปล่านะ

    "อ้าว...ถ้าไม่ได้มาหาใคร แล้วมาอยู่ในนี้ได้ยังไงล่ะครับ หรือว่าเป็น....."

    ฮาดาฟ เว้นช่วงว่างเอาไว้ไม่กล้าพูดต่อ เพราะดูจากรูปร่างหน้าตาของหญิงสาวแล้ว คงจะเป็นนางในฮาเร็มคนใหม่ของท่านคาเบลแน่นอน สวยขนาดนี้เขาไม่น่าถามเล้ย!

    "เอ่อ ฉันเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่เมื่อคืนค่ะ"

    "ครับ ผมขอโทษด้วยครับท่านหญิง ที่พูดจาล่วงเกินท่านไป" ฮาดาฟโค้งคำนับขอโทษหญิงสาว ที่เขาเอ่ยถามเหมือนไม่ให้เกียรติเธอเมื่อสักครู่

    "ท่านหญง ท่านหญิงอะไรกันคะ เรียกนิลเฉยๆ ก็พอค่ะ คำว่าท่านหญิงไม่เหมาะกับนิลหรอก นิลเป็นแค่สาวใช้ธรรมดาเท่านั้น" นิลยายิ้มกว้างบอกชายหนุ่มตรงหน้าอย่างนึกขำ เมื่อเขาโค้งคำนับเธอเหมือนกลัวความผิด เฮ้อ...ลักษณะของเธอดูเหมือนท่านหญิงตรงไหน

    "อะ...อะไรนะครับ เป็นแค่สาวใช้เหรอ เป็นไปได้ยังไงไม่น่าเชื่อ?" ฮาดาฟตกใจ ไม่อยากเชื่อว่าคนสวยคนนี้ จะเป็นแค่สาวใช้เท่านั้น

    "หึๆ...ทำไมคะ ไม่น่าเชื่อตรงไหน หน้าตานิลก็ดูธรรมดาจะตาย" นิลยายิ้มซื่อบอกอย่างไร้เดียงสา มองอีกฝ่ายอย่างนึกขำ

    "ก็..." สวยราวนางฟ้าขนาดนี้ ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นแค่สาวใช้ ฮาดาฟได้แต่กล่าวในใจ ทว่าเมื่ออีกฝ่ายไม่ใช้นางในฮาเร็มของคาเบล ชายหนุ่มจึงกล่าวแนะนำตัวเอง

    "เอ่อ ผมชื่อฮาดาฟ เป็นคนดูแลสวนที่นี่ ยินดีที่ได้รู้จักสาวน้อยคนสวยนะครับ"

    "ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ"

    นิลยายิ้มตอบไมตรีอย่างเป็นมิตร ซึ่งทำให้ฮาดาฟใจเต้นระรัวราวกลองศึก เมื่อได้เห็นรอยยิ้มหวานของสาวตรงหน้า

    "นิล....นิลอยู่ไหน"

    "อุ้ย! พี่ชีดาเรียกแล้วล่ะคะ นิลไปก่อนนะคะ" นิลยาตาโตบอกชายหนุ่มอย่างร้อนใจ เมื่อได้ยินเสียงของชีดา เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรอเธอนาน

    "ครับ แล้วเจอกันใหม่นะครับ"

    "ค่ะ ไปนะคะ" นิลยายิ้มลาอีกครั้งก่อนจะรีบเดินไปหาสาวรุ่นพี่ทันที

    "เฮ้อ!...คนอะไร สวยน่ารักไปทั้งตัว" ฮาดาฟมองตามร่างระหงตาลอย

    'สวยหวานน่ารักขนาดนี้ถ้าได้เป็นแฟนก็คงดี ถ้าเธอไม่ใช่นางในฮาเร็มของท่านคาเบล เราก็มีสิทธิ์ที่จะจีบเธอใช่ไหม' ฮาดาฟคิดอย่างเป็นสุข หัวใจอ้างว้างเริ่มคึกครื้น เมื่อนึกถึงใบหน้าสวยใสของสาวน้อย ก่อนจะกลับมาให้ความสนใจสวนดอกไม้ตรงหน้า และเดินตรวจตรารอบๆ สวนไปตามหน้าที่เช่นเคย

     

    "ไปไหนมา นิล"

    ชีดาเอ่ยถามด้วยความอ่อนใจ เนื่องจากเธอไปหาหญิงสาวที่ห้องก็ไม่เจอ ออกตามหารอบๆ ตัวตึกก็ไม่เห็น คิดว่าหญิงสาวเดินเล่นจะหลงทางแล้วเสียอีก

    "ไปเดินเล่นในสวนมาค่ะ ไปสูดกลิ่นดอกไม้ตอนเช้า สวนที่นี่สวยมากเลยนะคะ ตั้งแต่มาอยู่ที่ซาเนีย นิลก็เพิ่งเคยเห็นดอกไม้สวยๆ ก็ในสวนนี่แหละค่ะ" นิลยาตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มร่าเริง...สวนดอกไม้สวยๆ แบบนี้ ในประเทศไทยอาจจะเป็นเรื่องธรรมดา ทว่าที่ซาเนียถ้าไม่ใช่เศรษฐีจริงๆ คงไม่มีปัญญาทำสวนดอกไม้ขนาดใหญ่เช่นนี้

    "นั่นนะส่วนน้อย คฤหาสน์ของท่านคาเบลกว้างขวางจะตาย มีส่วนต่างๆ อีกมากมายที่เธอยังไม่เห็น มีทั้งคอกม้า กรงเสือ ลานกว้างไว้นั่งเล่น น้ำตกขนาดใหญ่ท้ายสวน ถ้านิลได้เห็นนิลคงชอบ เพราะมันสวยมากฉันยังชอบเลย" ชีดากล่าว

    "จริงเหรอคะ เฮ้อ!...ชักอยากเห็นแล้วสิ ตั้งแต่เกิดมานิลยังไม่เคยเห็น คอกม้ากับกรงเสือของจริงสักที เคยแต่เห็นในทีวีกับหนังสือ คราวนี้แหละจะได้เห็นของจริงแล้ว อยากจะรู้เหมือนกันว่าเขาเลี้ยงกันยังไง..." นิลยากล่าวอย่างตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกายเจิดจ้า เมื่อนึกถึงสิ่งแปลกใหม่ที่จะได้พบเห็นในอนาคต

    "ว่างๆ หลังจากทำงานเสร็จก็ไปเดินดูได้ งานที่นี่ไม่หนักมากหรอกทำไม่นานก็เสร็จ เวลาที่เหลือเราจะทำอะไรก็ได้.....แต่ตอนนี้ฉันจะพานิลเดินดูรอบๆ ตัวตึกก่อน แล้วจะบอกว่านิลต้องทำอะไรบ้าง พรุ่งนี้จะได้เริ่มงานกัน" ชีดากล่าวพร้อมกับพาหญิงสาวออกเดินไปตามห้องต่างๆ ของตัวตึก

    "ค่ะ" นิลยายิ้มกรุ่นเดินตามชีดาอย่างว่าง่าย สายตาคู่หวานมองสิ่งต่างๆ อย่างสนใจ

    "พี่ชีดาค่ะ"

    "มีอะไรเหรอ?"

    "ตึกเล็กๆ พวกนั้นคืออะไรคะ...."

    นิ้วเรียวชี้ไปทางตึกเล็กๆ ที่ตั้งเป็นกลุ่มเรียงรายอยู่ด้านหลังตึกใหญ่ บรรยากกาศโดยรอบร่มรื่นสวยงามไม่ต่างจากรีสอร์ทตามสถานที่ท่องเที่ยวเลยสักนิด

    "อ๋อ....บ้านพักนางในฮาเร็มของท่านคาเบลน่ะ" ชีดามองตามที่หญิงสาวชี้ แล้วตอบเมื่อเห็นว่ามันคืออะไร

    "ฮาเร็ม...ท่านคาเบลมีฮาเร็มด้วยเหรอคะ" คิ้วสวยขมวดมุ่น เมื่อรู้ว่าเจ้าชีวิตผู้แสนดีของเธอก็มีฮาเร็มเหมือนเช่นชายร่ำรวยคนอื่นๆ เฮ้อ....ทำไมผู้ชายถึงต้องมีเมียหลายคนด้วยนะ

    "มีสิ ท่านคาเบลถึงจะเป็นสุภาพบุรุษก็จริง แต่ท่านก็เข้าขั้นคาสโนว่าตัวพ่อเลยล่ะรู้ไหม....สาวๆ ทั่วทั้งซาเนียหมายปองท่านทั้งนั้น จนตอนนี้ท่านหญิงในฮาเร็มมีมากจนจำหน้าแทบไม่ได้" ชีดาตอบก่อนจะเดินนำหญิงสาวไปดูตามห้องต่างๆ ต่อ ซึ่งนิลยาก็พยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากหัว แล้วหันมาให้ความสนใจกับชีดาอีกครั้ง

    "นี่คือห้องสำราญนะ ส่วนมากห้องนี้ท่านคาเบลจะไว้ใช้เวลาเรียกเหล่านางในฮาเร็มขึ้นมาปรนนิบัติ ส่วนห้องนั้นก็ห้องส่วนตัวของท่าน ห้องถัดไปเป็นห้องทำงาน  แล้วก็....." ชีดาแนะนำห้องต่างๆ ไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ครบทุกห้อง

    "ที่นี่ก็รู้แล้วนะว่ามีห้องอะไรบ้าง ที่จะต้องทำความสะอาด พรุ่งนี้เราค่อยมาเริ่มทำงานช่วยคนอื่นๆ เขาก็แล้วกัน " ชีดากล่าวเมื่อพาหญิงสาวเดินดูตามห้องต่างๆ และบอกหน้าที่ของหญิงสาวจนครบถ้วน

    "อ๋อ...วันนี้นิลไปพักผ่อนได้แล้วล่ะ เดี๋ยวฉันจะไปดูทางโน้นหน่อย" ชีดาบอกพร้อมกลับเดินจากไป 

    "เดี๋ยวค่ะ" ทว่าสองเท้าของหัวหน้าสาวใช้ก็ต้องหยุดนิ่ง แล้วหันกลับมามองสาวใช้คนใหม่อีกครั้ง เมื่อเธอเรียกขาน

    "นิลอยากจะเดินดูรอบๆ บริเวณคฤหาสน์ ไปดูคอกม้า กรงเสือและก็สวนต่างๆ ของที่นี่ นิลไปได้ใช่ไหมคะ" นิลยากล่าวถามตามมารยาท เพราะเธอยังไม่รู้กฏเกณฑ์ของที่นี่มากนัก ถ้าเป็นเขตหวงห้ามเธอจะได้ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว

    "อืม ไปได้ไปเถอะ"

    ชีดาพยักหน้ารับอย่างเอ็นดู เมื่อเห็นท่าทางอยากรู้อยากเห็นของหญิงสาว ก่อนจะเดินเข้าไปหากลุ่มสาวใช้ที่นั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ไม่ไกลนัก

    "นั่งจับกลุ่มทำอะไรกันอยู่ย่ะ งานการน่ะทำเสร็จหรือยัง...." 

    เสียงบ่นห้วนๆ ดังลอยมาแต่ไกล ทำให้นิลยาอมยิ้มอย่างนึกขำ กับท่าทางของหัวหน้าสาวใช้เจ้าระเบียบ

    ทว่าทุกคนในคฤหาสน์แห่งนี้ต่างรู้ดีว่าชีดาเป็นคนปากร้ายใจดี มีอะไรก็ช่วยเหลือทุกคนเสมอ ดังนั้นสาวใช้ทุกคนจึงเคารพและยำเกรงชีดามาก

     

    ใบหน้าสวยระบายไปด้วยรอยยิ้ม ดวงตาเป็นประกายสดใส สองขาเรียวก้าวเดินไปเรื่อยๆ สำรวจข้างทางไปอย่างช้าๆ มองโน้นทีนี่ทีอย่างตื่นเต้น โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าความน่ารักสดใสของเธอนั้น ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นใจสั่นหวั่นไหวแค่ไหน ซึ่งไม่เว้นแม้แต้เจ้าของสายตาคมเข้ม ที่กำลังยืนมองเธออยู่บนระเบียงของตึกใหญ่

    "แล้วคอกม้าไปทางไหนล่ะเนี่ย..." นิลยายืนงงมองซ้ายที ขวาทีอย่างไม่รู้จะตัดสินใจไปทางไหน

    "สวัสดีครับสาวน้อย"

    "เอ่อ...ค่ะ..." นิลยาหันหวับไปมองตามเสียงที่เข้ามาทักทาย ก่อนจะส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตรเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

    "คุณดาฮาฟ"

    "เรียกว่าพี่ฮาดาฟดีกว่าครับ มันดูเป็นกันเองดี" ชายหนุ่มยิ้มกว้าง ใจเต้นแรงเมื่อได้สนทนาใกล้ชิดกับหญิงสาว

    "ค่ะ พี่ดาฮาฟ" นิลยากล่าวด้วยรอยยิ้มสดใส

    "แล้วนิลกำลังจะไปไหนเหรอครับ พี่เห็นยืนมองซ้าย มองขวาตั้งนานแล้ว" ฮาดาฟกล่าวอย่างนึกขำกับท่าทางของหญิงสาวที่เขาเห็นเมื่อสักครู่

    "นิลอยากจะไปดูคอกม้าค่ะ แล้วก็อยากไปเที่ยวดูรอบๆ ด้วย แต่ไปไม่ถูกพื้นที่มันกว้างเกินไป ไม่รู้จะไปทางไหนดี" นิลยายิ้มเจื่อนๆ ให้ชายหนุ่มขณะตอบ

    "อืม นึกว่าเรื่องอะไร...งั้นไม่มีปัญหาเดี๋ยวพี่อาสาเป็นไกด์พาเที่ยวเอง" ฮาดาฟกล่าวอาสาอย่างเต็มใจ

    "จริงเหรอค่ะ...โอ๊ย! ดีจังเลย มีพี่ฮาดาฟไปเป็นเพื่อน นิลก็ไม่ต้องกลัวหลงแล้ว รู้ไหมคะทีแรกนิลยังนึกหวั่นอยู่เลยนะคะ ว่าถ้าเกิดเดินหลงทางขึ้นมาจะทำยังไง..." นิลยากล่าวติดตลกส่งยิ้มหวานให้ฮาดาฟเป็นการขอบคุณ ซึ่งทำให้คนมองใจเต้นแรงจนแทบกระเดนออกมาจากอก

                "งั้นไปกันเลยไหมครับ" ชายหนุ่มพยายามระงับอาการของตน ไม่ให้แสดงกิริยาชื่นชมหญิงสาวจนออกนอกหน้า

              "ไปสิคะ" 

    เสียงใสกล่าวอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินตามคนพาเที่ยวสุดหล่อด้วยท่าทางร่าเริง ใบหน้าสวยระบายไปด้วยรอยยิ้ม แววตาตื่นเต้นมองข้างๆ ทางด้วยความอยากรู้อยากเห็น กับสิ่งแปลกใจที่ได้พบเจอ

     

    เสียงหัวเราะสดใสพูดคุยกันอย่างสนิทสนมดังมาตามทางเดิน ทำให้คนที่ยืนรับลมอยู่ในสวน ถึงกลับหน้าเครียดขึ้นทันที เกิดความไม่พอใจขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุเมื่อรู้ว่าเป็นเสียงของใคร

    "ไปไหนกันมา ทำไมกลับซะมืดขนาดนี้" เสียงเข้มเอ่ยถามทันทีที่สองหนุ่มสาว เดินมาถึงจุดที่เขายืนรับลมอยู่

    "อุ้ย!...." นิลยาสะดุ้งเล็กน้อย เพราะตกใจที่จู่ๆ ก็มีเสียงเข้มๆ ดังขึ้น ก่อนจะรีบหันไปมองผู้ถาม

    "เอ่อ... "

    "ผมพานิลไปเดินเล่นรอบๆ คฤหาสน์มาครับท่าน" ฮาดาฟโค้งต่ำลงเป็นคนตอบแทน เมื่อเห็นหญิงสาวอึกๆ อักๆ

    "ไปเที่ยว?...." ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้ารูปไข่ด้วยสายตาคำถาม ทั้งที่เมื่อตอนเย็นเขาก็เห็นอยู่ว่าทั้งสองเดินออกไปทางคอกม้า ทว่าไม่นึกว่าทั้งคู่จะสนิทสนมกันเร็วขนาดนี้

    "ดีนี่.... ฉันไม่ยักรู้ว่าบ้านของฉันเป็นที่เที่ยวไปแล้ว" เสียงเข้มดุๆ กล่าวขึ้นลอยๆ จ้องมองคนที่ทำให้เขาเกิดความหงุดหงิดด้วยความขุ่นเคือง

    "นายไปได้แล้วฮาดาฟ...." คาเบลเอ่ยเสียงเรียบ แต่สายตากลับจับจ้องเพียงใบหน้าหวานของนิลยา ทำไมเขาถึงรู้สึกไม่พอใจมากมายขนาดนี้นะ

    "ครับท่าน" ฮาดาฟโค้งรับคำ ก่อนจะหันไปดันหลังบางของคนที่ยืนหน้าซีด อยู่ใกล้ๆ ให้เดินตาม

    "นายไปคนเดียว ส่วนนิลยาอยู่นี่ก่อน!..."

    เสียงเข้มทรงอำนาจสั่งเรียบๆ แต่กลับทำให้ร่างบางตัวแข็งทื่อ รู้สึกหวาดหวั่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ นี่เธอทำอะไรผิดไปหรือเปล่านะ ทำไมท่านคาเบลถึงดูโกรธเกรี้ยวไม่พอใจเธอเช่นนี้

    "เอ่อ..."

    "ไปสิ ฮาดาฟ"

    ซามานกล่าวเตือน เมื่อฮาดาฟแสดงท่าทางเหมือนจะไม่อยากทำตามคำสั่งของเจ้านาย ซึ่งการแสดงท่าทางเช่นนี้อาจจะทำให้คาเบลโมโหมากยิ่งขึ้นไปอีก

    "ครับ"

    ฮาดาฟจำต้องรับคำอย่างมิอาจขัด เพราะรู้นิสัยเจ้านายหนุ่มดี ทว่าในใจก็ยังนึกห่วงหญิงสาวที่มาด้วยกัน แต่สิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้คือตัดใจเดินจากไป ปล่อยให้คนหน้าซีดยืนอยู่เพียงลำพัง

    นิลยาหน้าถอดสีลงไปอีกเมื่อถูกคาเบลเรียกตัวไว้ หญิงสาวมองตามหลังฮาดาฟไปด้วยสายตาละห้อย ก่อนจะหันกลับมามองคนหน้าดุ ที่ยืนหน้าบึ้งมองเธออยู่ด้วยสายตาวาวโรจน์

                "ไปไหนกันมาบ้าง..." ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงห้วนเมื่ออยู่กันเพียงลำพัง เนื่องจากซามานแยกตัวออกไปอย่างรู้หน้าที่

              "เอ่อ....ไปดูคอกม้า กับกรงเสือมาค่ะ" ใบหน้าหวานก้มต่ำขณะตอบ เพราะไม่กล้าสบตาคมเข้มของคนตัวโต

              "คงสนุกมากสินะ หน้าบานมาเชียว...." คำประชดเล็กๆ น้อยๆ ที่คาเบลกล่าวทำให้นิลยาแปลกใจเหลือเกิน

              "เอ่อ...."

              "เสน่ห์แรงจังนะ เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานก็ทำให้ฮาดาฟ มันมองเธอตาหวานฉ่ำขนาดนั้นได้"

    'แหม...ช่างสังเกตเหลือเกินนะ หวานตรงไหนไม่ทราบ เท่าที่เห็น ฮาดาฟก็มองเธอปกตินี่นา' นิลยาได้อย่างคอดขอดชายหนุ่มในใจ เพราะไม่กล้าโต้แย้งออกไป

              "อีกอย่าง...เป็นผู้หญิงควรจะถือเนื้อถือตัวบ้าง ไม่ใช่ปล่อยตัวง่ายขนาดนี้ รู้ไหมทำตัวอย่างนี้มันเหมือนผู้หญิงร่าน!" อารมณ์พุ่งพล่านในใจมันสั่งให้ชายหนุ่มกล่าววาจาที่ไม่สมควรออกไป

              "ท่านคาเบล!...."

    นิลยาตาโตตะโกนก้องอย่างเหลืออด มือเล็กทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่ ดวงตากลมโตเป็นประกายเจิดจ้า มองสบสายตาคมเข้มลุกวาวของคาเบลอย่างไม่เกรงกลัว เมื่อได้ยินถ้อยคำดูถูกเหยียดหยามของอีกฝ่าย...อะไรกันท่านคาเบลที่เป็นสุภาพบุรุษหายไปไหนซะแล้ว ทำไมตอนนี้ชายผู้แสนดีถึงได้พูดจาหยาบคาย ไม่ให้เกียรติเธอเลยสักนิด ถ้าไม่ใช่ผู้มีพระคุณแล้วล่ะก็....กำปั่นน้อยๆ ของเธอได้ตะบันหน้าหล่อๆ ของเขาแน่นิลยาคิดอย่างเดือดดาล

    "ไม่พอใจหรือไง....ก็ฉันพูดตามที่ฉันเห็น" เสียงเข้มยังกล่าวต่อ โดยไม่สนใจท่าทางไม่พอใจของคนตัวเล็กตรงหน้าเลยสักนิด....เขาเคยบอกเธอตั้งแต่ต้นแล้วนี่นาว่าเขาไม่ใช่คนดี อารมณ์ด้านมืดเขาก็มีเช่นกัน

    "ค่ะ ฉันยอมรับว่าไม่พอใจ...และฉันอยากให้ท่านรับรู้ไว้ว่า ถึงท่านจะซื้อฉันมาแต่ก็ใช่ว่าท่านจะดูถูกฉันได้นะคะ" ใบหน้าสวยเชิดขึ้นตอบชายหนุ่มเสียงแข็ง เมื่อสุภาพบุรุษในวันวานกลับกลายเป็นซาตาน

    "หึๆ...ทำไมฉันจะทำไม่ได้ ฉันทำได้มากกว่าดูถูกเธอเสียอีก ถ้าฉันต้องการอะไร ทาสอย่างเธอก็ไม่มีทางปฏิเสธได้หรอก...นิลยา!"

    คาเบลเอ่ยอย่างนึกขำท่าทางขึงขังเอาเรื่อง ของผู้หญิงตัวเล็กๆ ตรงหน้า สายตาคมมองสำรวจร่างบางด้วยความพึงพอใจ

    "ใช่! ท่านพูดถูก...ถึงแม้ฉันจะไม่พอใจในคำพูดของท่านมากเพียงไร แต่ฉันก็ทำอะไรท่านไม่ได้ เพราะฉันรู้ตัวดีว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไร และท่านมีพระคุณต่อฉันมากแค่ไหน" นิลยากล่าวเสียงขุ่น รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เมื่อคนสายตาอีกฝ่าย....ถ้าเธอไม่สำนึกในบุญคุณของเขาล่ะก็ ป่านนี้ใบหน้าหล่อๆ ของเขามีรอยนิ้วของเธอไปแล้ว

    "ก็ดี!...รู้ตัวก็ดี ทีหลังก็อย่าอวดดี โต้เถียงฉันอย่างนี้อีก....ฉันไม่ชอบ!" คาเบลเอ่ยเสียงห้วนมองท่าทางยโสของนิลยาอย่างไม่พอใจ

    "ค่ะ ต่อไปฉันจะเจียมตัวมากกว่านี้...จะไม่โต้เถียงใดๆ ท่านอีก ถึงแม้คำพูดของท่านจะทำร้ายจิตใจของฉันมากเพียงไร"

    นิลยากล่าวประชดประชันผู้เป็นเจ้าชีวิต มองอีกฝ่ายด้วยสายตาขุ่นเคือง ก่อนจะรีบถอยหนีคนตัวโตด้วยความระแวงระวังเมื่อเขาเดินเข้ามาหา

    ทว่าอีกฝ่ายไม่ยอมให้เธอได้ทำอย่างที่คิด สองมือใหญ่ยึดบ่าบอบบางของเธอเอาไว้ ก่อนจะก้มหน้าลงมาจนจมูกโด่งของเขาสัมผัสแผ่วเบาบริเวณแก้มใส แล้วจึงเลื่อนไปกระซิบบอกที่ข้างหู หน้านวลร้อนผ่าว ใจเต้นโครามครามไม่เป็นจังหวะ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ที่เธอถูกเขาขโมยหอมแก้มอย่างนั้นเหรอ?

    "ต่อไปให้แทนตัวเองว่านิลกับฉัน...."

    สั่งออกไปแล้วก็รู้สึกกระดากอยู่เล็กน้อย เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงอยากให้หญิงสาว ทำตัวสนิทสนมและให้ความสนใจในตัวเขาเหมือนเช่นชายอื่น

    "ฉันไม่บังอาจหรอกค่ะ" ทาสสาวก้มหน้าต่ำ ใจเต้นแรง เลือดในกายวิ่งพล่าน เมื่อลมหายใจอุ่นๆ ยังคงเป่ารดอยู่ข้างแก้ม

    "ฉันสั่ง!...เธอมีหน้าที่ทำตามเท่านั้น" เมื่อทาสสาวอวดดี คนเป็นเจ้านายจึงกดจมูกด่งลงที่แก้มเป็นการลงโทษ

    "อุ้ย!...ก็ได้ค่ะ...เอ่อ...งั้นฉันไป..."

    "ฮือ..."

    นิลยาจำต้องหยุดคำพูดเอาไว้เพียงแค่นั้น เมื่อคาเบลทำเสียงในลำคอ และจ้องมองเธออย่างคาดโทษ เป็นการย้ำเตือนหญิงสาวให้เธอระลึกจำถึงคำสั่งของเขา

    "นิล ไปได้หรือยังคะ" เสียงใสสั่นเล็กน้อยขณะกล่าว ร่างเล็กพยายามขืนตัวออกจากมือใหญ่ที่กุมไหล่เธอเอาไว้ ซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมปล่อยโดยดี

    "ก็ไปสิ ใครห้ามเธอล่ะ"

    คาเบลตอบหน้าตายหยักไหล่อย่างไม่แยแส ส่งผลให้คนตัวเล็กมองอีกฝ่ายตาเขียวปัด ใบหน้าแดงระเรื่อส่งค้อนวงโตให้อย่างหมั่นไส้ ก่อนจะรีบเดินจากไป ด้วยความรู้สึกมากมายที่เกิดขึ้นในใจ...เชอะ! มีหน้ามาบอกว่าใครห้าม ก็ตัวเองนั่นแหละที่เรียกฉันไว้ อีตาบ้าขี้เก๊ก! ลามกด้วย....

                ดวงตาคมเข้มมองตามหลังบางไปจนลับสายตา อมยิ้มเล็กน้อยเมื่อกลิ่นหอมอ่อนๆ ของหญิงสาวยังติดจมูก สงสัยตัวเองเหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา ทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นเช่นนี้กับใครมาก่อน

    *** เปิดสั่งจองหนังสือนะคะ

    ^_^ สวัสดีค่ะ....

    วันนี้ปลา (ดาราพรรณ) มานำเสนอนิยาย เรื่องไฟพิศวาสเทพบุตรแดนทราย ภาพต่อจากแค้นพิศวาสซาตานชีค ที่ออกกับ สนพ.อินเลิฟค่ะ และด้วยเหตุผลร้อยแปดที่ปลาคิดแล้วคิดอีก บวกกับความใฝ่ฝันที่อยากจะลองทำมือดูสักครั้ง จึงทำให้ปลาตัดสินใจทำมือเรื่องนี้ค่ะ....ถ้าใครสนใจก็สั่งจองกันได้นะคะ ^_^

    ราคาที่ปลาตั้งไว้จะอยู่ที่ 290 บาท แต่ปลาจะลดให้ 20 % ก็จะเหลือราคาประมาณ 232 บาทค่ะ สั่งจองได้ที่ memoo_dp@hotmail.com แต่ก่อนจะโอนเงินเข้ามารอให้ปลาตอบกลับยืนยันก่อนนะคะ ว่าได้รับเมลล์การสั่งจองจากเพื่อนๆ แล้ว เพื่อจะได้ไม่มีการผิดพลาดภายหลังค่ะ TT

     

    ธนาคารกสิกรไทย สาขาวังน้อย

    ชื่อบัญชี ดารารัตน์ พราหมลอย

    เลขที่บัญชี 469 - 2 - 21028 - 5

    ปล. การจัดส่งหนังสือจะเรียงตามลำดับจากผู้ที่โอนเงินเข้ามาก่อนนะคะ >_<

     

    *รายละเอียดของหนังสือ

    นิยายเรื่อง ไฟพิศวาสเทพบุตรแดนทราย

    ปก 4 สี พิมพ์ด้วยกระดาษอาร์ตการ์ด 260 แกรม เคลือบมัน

    เนื้อในใช้กระดาษถนอมสายตา 75 แกรม พิมพ์ขาวดำ

    จำนวนหน้ารวมปก 300 หน้า

    เข้าเล่มไสกาว

    มีที่คั่นเข้าชุด 1 ชิ้น

     

    *ราคาจากปก 290 บาท

    ราคาลด 20 % คงเหลือ 232 บาท

    จัดส่งฟรีแบบลงทะเบียน

     

    เปิดจองตั้งแต่วันนี้ถึง 15 เมษายนนี้ค่ะ สนใจติดต่อปลาทางอีเมล์เท่านั้นค่ะ ติดต่อได้ที่ memoo_dp@hotmail.com

    และสุดท้ายปลาขอฝากผลงานทำมือเรื่องแรกของปลาด้วยนะคะ  แวะชมหนังสือกันได้คะที่ http://outcase.love-publisher.com หวังว่าเพื่อนๆ จะรักและเอ็นดู และไม่ลืมให้การสนับสนุนพวกเรานะคะ ขอบคุณค่ะ

     

     

                                                                                  ปลา (ดาราพรรณ)




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×