คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ผู้ชายเจ้าเล่ห์
ตอนที่ 4
ผู้ชายเจ้าเล่ห์
ความมืดคืบคลานปกคลุมไปทั่ว อากาศโดยรอบเริ่มหนาวเย็น สายลมพัดโชยต้องผิวกาย แต่จิตใจของเจนกลับร้อนรุ่มกระวนกระวาย ชะเง้อคอมองไปในความมืดจนคอแทบจะกลายเป็นคอยีราฟ เพราะป่านนี้แล้วนายสาวยังไม่กลับมาเลย
ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นกับนายสาวหรือเปล่า ท่านโนอายิ่งไม่น่าไว้ใจอยู่ด้วย ภาพที่เธอกับเจ้านายสาวเห็นเมื่อวันก่อนบ่งบอกได้ดีว่าท่านโนอาเป็นตัวอันตรายขนาดไหน
“ทำไมยังไม่มาสักทีนะ...” เจนเปรยอย่างเป็นห่วง
“นี่มันก็มืดมากแล้วนะ...นายไม่คิดจะออกไปตามบ้างหรือไง” เจนแว้ดใส่อิเบลอย่างไม่ค่อยพอใจ ที่ชายหนุ่มดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรทั้งๆ ที่เจ้านายก็หายไปนานแล้ว
“ท่านโนอาสั่งห้ามไม่ให้ใครตามไป....ดังนั้นไม่ว่าใครก็ตามไปไม่ด้ นอกจากรอท่านกลับมาเท่านั้น...” อิเบลบอกเสียงเรียบ สายตาคมปรายตามองคนตัวเล็กที่อยู่ข้างๆ นิดหนึ่ง
“แต่ว่าตอนนี้มันดึกแล้วนะ....”
“ไม่ต้องห่วงหรอก แถวนี้ไม่มีอันตรายแน่นอน เพราะเป็นเขตหวงห้าม...ไม่มีใครเข้ามาทำอะไรได้หรอก” ชายหนุ่มบอกให้อีกฝ่ายคลายกังวล เมื่อเห็นหญิงสาวดูจะเป็นห่วงท่านหญิงนาเนียจนเกินเหตุ
“ฉันไม่ได้กลัวคนอื่นสักหน่อย คนที่ฉันกลัวน่ะ ท่านโนอาต่างหาก” เจนเปรยเบาๆ เพราะไม่กล้าพูดแรง
อิเบลอมยิ้มอย่างนึกขำ เมื่อได้ยินเสียงบ่นงึมงำของคนตัวเล็ก ก่อนจะลุกขึ้นหันไปมองตามเสียงม้าที่ควบเข้ามาใกล้
“กลับมาแล้ว” เจนเอ่ยอย่างดีใจ กระเด้งตัวลุกขึ้น ก่อนจะรีบวิ่งหมายจะเข้าไปรอรับนายสาว แต่ถูกมือใหญ่ของอิเบลฉุดเอาไว้
“ท่านโนอากับท่านหญิงนาเนีย เขาเป็นคู่หมั้นกันนะ...และอีกไม่นานพวกท่านก็จะแต่งงานกัน ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ปล่อยให้พวกท่านได้อยู่ด้วยกัน เรียนรู้กันและกันน่าจะดีกว่า...คอยดูอยู่ห่างๆ ก็พอ” อิเบลบอกเสียงเรียบ ใบหน้าไร้ความรู้สึก ตาสบตากับลูกตาเขียวๆ ที่ส่งมาให้อย่างไม่ลดละ
“แต่....”
“เชื่อฉันเถอะน่า”
“ก็ได้...ปล่อยฉันได้แล้ว” เจนบอกเสียงเขียว พร้อมสะบัดแขนออกจากการเกาะกุม เมื่อยอมรับว่าสิ่งที่อิเบลพูดมันก็ถูก
“ปะ...ไปรอรับพวกท่านกัน” ชายหนุ่มบอกก่อนจะเดินนำหน้าเจนไปก่อน ซึ่งหญิงสาวก็เดินตามอิเบลไปอย่างว่าง่าย
นาเนียหน้าแดงระเรื่อ เมื่อถูกคู่หมั้นหนุ่มอุ้มเอาไว้ สองมือเล็กโอบรอบคอโนอาเอาไว้แน่น ใบหน้าสวยซบลงกับอกแกร่ง เพราะเขินอายสายตาหลายคู่ที่มองมาทางเธอและเขา
“ท่านหญิงเป็นอะไรเจ้าคะ” เจนเอ่ยถามอย่างห่วงใย เมื่อเห็นท่านโนอาอุ้มนายสาวลงจากหลังม้า
“สงสัยขาจะแพง กลับตึกเล็กกันเถอะ จะได้ดูให้แน่ใจ” โนอาตอบแทนนาเนีย ก่อนจะอุ้มคู่หมั้นเดินกลับที่พักของหญิงสาว
“พี่โนอา ปล่อยให้นาเนียเดินเองเถอะค่ะ...” เสียงหวานบอกคนที่อุ้มเธอเดินกลับที่พักอย่างอายๆ
“ขาเจ็บขนาดนี้จะเดินเองได้ไง ให้พี่อุ้มนะดีแล้ว” โนอาบอกคนอวดเก่ง สายตาคมก้มลงมองใบหน้าสวยแดงระเรื่อของคนหวงตัวนิดหนึ่ง
‘เฮ้อ...ขาเจ็บอย่างนี้ยังจะทำอวดเก่งเดินเองอีก’
“แต่นาเนีย...เอ่อ..อายคนอื่น..” บอกเสียงเบาๆ
“ไม่ต้องอายหรอก ใครๆ เขาก็รู้ว่าเราเป็นคู่หมั้นกัน จะอายทำไม” โนอาบอกอย่างขำๆ ในความขี้อายของคู่หมั้น สองขาแกร่งเดินต่อไป โดยไม่สนใจคนตัวเล็กที่ดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดจนถึงตึกเล็กที่พักของเธอ
“วางนาเนียไว้ที่โซฟานี่แหละคะ” นาเนียบอกหลังจากโนอาอุ้มเธอขึ้นมาบนห้องแล้ว
“ไม่เป็นไรไปอีกหน่อยก็จะถึงเตียงแล้ว ไปที่เตียงดีกว่า” โนอาบอกอย่างเจ้าเล่ห์
“ไม่ดีกว่าคะ...นาเนียยังไม่ได้อาบน้ำ ตัวเหนียวไม่อยากขึ้นที่นอน” หญิงสาวพยายามหาทางเลี่ยง ซึ่งมันก็ได้ผล เมื่อเขาหยุดอยู่ที่โซฟา
โนอาวางร่างบางลงบนโซฟาตัวใหญ่ ภายในห้องนอนของคู่หมั้นอย่างเบามือ นึกถึงตอนแรกที่เขาอาสาจะขึ้นมาส่งเธอบนห้อง หญิงสาวปฏิเสธเสียงแข็ง แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้ เมื่อเขายืนยันว่าจะขึ้นมาส่ง
“พี่ดูข้อเท้าให้นะครับ” โนอาบอกพร้อมกับนั่งลงข้างหน้าคู่หมั้น
“ไม่ต้องหรอกคะ” นาเนียชักเท้ากลับทันที แต่ก็ต้องเจ็บแปลบเมื่อขยับข้อเท้า
“อย่าดื้อสิ” ชายหนุ่มเอื้อมมือออกไปจับขาเรียวดึงออกมาเบาๆ เมื่อหญิงสาวพยายามขืนข้อเท้าเอาไว้
“ซี้ด....” นาเนียซี้ดปากอย่างเจ็บปวด เมื่อชายหนุ่มพลิกขาเรียวดูข้อเท้าของเธอ
“ข้อเท้าแพงน่ะ” โนอาบอกเมื่อจับข้อเท้าเล็กของนาเนียดูแล้ว
“ทนนิดหนึ่งนะครับ” โนอาบอกเสร็จก็ดึงข้อเท้าให้เข้าที่ทันที
“โอ๊ย!!!” นาเนียร้องลั่น น้ำตาไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เจ็บ...เจ็บมาก
“จะฆ่านาเนียหรือยังไงค่ะ”
“พี่ดึงข้อเท้าให้เข้าที่ต่างหากล่ะ พี่ฆ่าคนสวยๆ ไม่ลงหรอก แต่ถ้าทำอย่างอื่นน่ะถนัด” โนอากล่าวหน้าทะเล้น ลุกขึ้นนั่งโซฟาข้างๆ หญิงสาว ซึ่งนาเนียก็กระเทิบหนีโดยอัตโนมัติ
“ขอบคุณค่ะ” นาเนียกล่าวขอบคุณเบาๆ พยายามถอยหนีร่างหนา แต่ดูเหมือนเขาจะจงใจกระเทิบเข้าใกล้เธอมากขึ้นทุกที จนเธอชนเข้ากับขอบโซฟา
“ขอเป็นอย่างอื่นแทนคำขอบคุณได้มั้ย” โนอามองปากน่าจูบที่เม้มเข้าหากัน สายตาคมสบดวงตาคู่สวยที่มีแววหวาดหวั่นอย่างเห็นได้ชัด
“พี่โนอาต้องการ อะ...อะไรคะ...” นาเนียเอ่ยถามตะกุตะกะ
“ก็....” สายตาคมเข้มมองปากจิ้มลิ้ม ก่อนจะฉกลงไปหาทันทีโดยไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของ
“อุ๊บ!!...ฮื้อ....” นาเนียตกใจเบิกตากว้าง ตัวแข็งทื่อเมื่อจู่ๆ ปากหยักก็ฉกลงมาอย่างรวดเร็ว
มือเล็ก ทุบตีผลักไส ร่างหนาเมื่อสติกลับคืนมา แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อมือใหญ่ของเขาตรึงท้ายทอยของเธอเอาไว้แน่น
“อ่อยอะ...อุดเอียวอี่” (ปล่อยนะ...หยุดเดี๋ยวนี้) เสียงหวานร้องประท้วงอู้อี้ในลำคอ
โนอาเล็มเลียไปทั่วกลีบปากบาง ปากหยักบดขยี้ริมฝีปากบางเล็กน้อย เมื่อหญิงสาวดื้อไม่ยอมเปิดปากให้เขาเข้าไปสำรวจภายใน แต่ด้วยประสบการณ์ที่มีมากกว่าทำให้เขาสามารถหลอกล้อคนตัวเล็กให้คล้อยตามเขาได้ไม่ยากนัก อาการดิ้นรนขัดขืนในตอนแรก เปลี่ยนเป็นตอบสนองอย่างไร้เดียงสา ตัวสั่นเทา และอาการกล้าๆ กลัวๆ ในการตอบสนองทำให้เขารู้ว่าคู่หมั้นสาวยังอ่อนประสบการณ์เรื่องอย่างนี้ยิ่งนัก
ริมฝีปากแสนหวานถูกริมฝีปากหยักครอบครองอย่างดูดดื่ม ลิ้นอุ่นซาบซ่านชุ่มช่ำสอดแทรกตวัดเล่นกับเรียวลิ้นอ่อนหัด เรียกร้อง รุนแรง เล้าโลม และอ่อนโยนไปในคราวเดียวกัน
เจนตาโต อ้าปากค้าง เมื่อเห็นสิ่งที่โนอาทำกลับนายสาว สองร่างนัวเนียแนบชิด ปากแนบปากจูบกันอย่างดูดดื่ม นึกแล้วก็ขนลุก
“แอบดูเจ้านายอย่างนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน....ออกมานี่เลย” อิเบลดุเจนพร้อมกับลากร่างเล็กของหญิงสาวให้เดินตามออกมาข้างนอก
“ปล่อยฉันสิ ฉันจะคอยดูท่านหญิง เพื่อท่านโนอาคิดจะรังแกท่านหญิง ฉันจะได้ช่วยทัน” เจนบอกเสียงเขียวพยายามสะบัดแขนออกจากมือใหญ่
“ท่านโนอาไม่เคยหักหาญน้ำใจใคร ถ้าจะมีอะไรเกิดขึ้น ก็แสดงว่าท่านหญิงเต็มใจ” อิเบลบอกอย่างรู้นิสัยเจ้านาย
“แต่ท่านหญิงไร้เดียงสานัก ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมท่านโนอาหรอก”
“ท่านทั้งสองเป็นคู่หมั้นกันอย่าลืมสิ...เธอนะเป็นใคร กล้าไปขัดใจท่านหรือไง เดี๋ยวท่านก็ได้ส่งกลับบ้านกลับเมืองหรอก” อิเบลบอกเสียงเรียบเมื่อลากเจนออกมาข้างนอกสำเร็จ
“รออยู่ตรงนี้แหละ ถ้าเห็นท่านโนอาออกมาแล้วค่อยเข้าไป”
“ไม่ฉันจะเข้าไปดูท่านหญิง”
“ถ้าอยากจะถูกส่งกลับบ้านก็เข้าไปเลย” อิเบลขู่
“ก็ได้...” เจนเอ่ยอย่างขัดใจ นึกเป็นห่วงนายสาวอยู่เหมือนกัน แต่เธอก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้
‘เฮ้อ...คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง อีกไม่นานก็จะแต่งงานกันแล้ว’ เจนคิดอย่างปลงๆ
นาเนียแทบลืมหายใจ สติไม่อยู่กลับเนื้อกลับตัว ร่างกายอ่อนระทวย ปล่อยใจไปกลับสัมผัสแปลกใหม่ที่โนอาเป็นคนสอนให้เรียนรู้ มือบางกำสาบเสื้อตรงอกแกร่งของเขาเอาไว้แน่น
ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก เหมือนถูกกระแสไฟฟ้าช๊อต เมื่อมือใหญ่สอดเข้าไปในชุดสวย สำรวจร่างกายอย่างถือสิทธิ์ บีบเค้น เคล้าคลึงหน้าอกอวบอย่างหยามใจ ทั้งๆ ที่ปากยังจูบเธอไม่ยอมปล่อย
มือเล็กผลักไสอกแกร่งออก ดิ้นรนขัดขืน เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกำลังจะทำอะไรเกินเลย ไปมากกว่าฐานะคู่หมั้น ซึ่ง เป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
“นาเนียอย่าดิ้นสิ” โนอาถอนปากออกบอกหญิงสาวอย่างขัดใจ
“อย่าคะ พี่โนอา พอ...พอได้แล้ว” นาเนียบอกเสียงสั่น หอบหายใจแรงๆ เอาอากาศเข้าปอด แล้วลุกขึ้นยืนแต่ต้องทรุดลงนั่งอีกครั้ง เมื่อเจ็บแปลบตรงข้อเท้า
“ถ้าสิ่งที่พี่โนอาต้องการแทนการขอบคุณคือจูบเมื่อสักครู่ นาเนียว่าแค่นี้ก็น่าจะถือว่ามากไปแล้วนะคะ...อย่าได้ทำอะไรไปมากกว่านี้เลย เรายังไม่ได้แต่งงานกัน ใครรู้เข้ามันจะไม่ดี” ใบหน้าหวานแดงระเรื่อก้มต่ำ บอกอีกฝ่ายเสียงเบา ปากบางจิ้มลิ้มยังเปียกชุ่มจากการจูบที่เร้าร้อน เนินนาน แทบลืมหายใจเมื่อสักครู่
“ไม่มีใครเขาว่าหรอกนาเนีย เราเป็นคู่หมั้นกันนะ แค่จูบมันไม่เป็นไรหรอก” โนอาบอกอย่างเจ้าเล่ห์ มองปากบางแดงระเรื่อที่เห่อบวมเล็กน้อยอย่างเสียดาย
‘ทำไมปากเล็กจิ้มลิ้มของนาเนีย ถึงได้หวานติดลิ้นขนาดนี้นะ ขนาดไร้ประสบการณ์ยังทำเอาเขาติดใจ อยากจะลิ้มลองอีกสักครั้ง’
“แต่เมื่อสักครู่....เอ่อ...มันกำลังจะมากกว่าการจูบ” นาเนียบอกอย่างอายๆ ใบหน้าสวยร้อนผ่าว แดงซ่านเมื่อนึกถึงสัมผัสจากมืออุ่นเมื่อสักครู่
“แต่ถ้าแค่จูบไม่เป็นไรใช่มั้ย....งั้นพี่ขอจูบอีกสักครั้งนะ สัญญาว่าจะแค่จูบ”
“ไม่ได้....” นาเนียส่ายหน้าปิเสธทันที แต่ยังพูดไม่ทันจบเสียงหวานก็ขาดหาย เมื่อปากหยักกดลงมาอีกครั้งอย่างไม่รอฟังคำตอบ
จูบเร้าร้อนของโนอาช่างเนินนาน เร้าร้อน แสนรัญจวน จนทำให้สติของนาเนียลอยเคว้ง เคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสของเขาได้ไม่ยาก
โนอาจูบปากบางแสนหวานอย่างเรียกร้อง เล้าโลมให้คล้อยตาม ซึ่งลิ้นเล็กอ่อนหัดตวัดหยอกเอิ้นกับลิ้นอุ่นของเขาอย่างน่ารัก จนทำให้เขาแทบคลั่ง ควบคุมตัวเองแทบไม่อยู่
แต่ก็ต้องตัดใจเมื่อคนตัวเล็กดูจะหวงตัวยิ่งนัก เพราะทุกครั้งที่มือใหญ่สอดเข้าไปใต้เสื้อเนื้อบางของเธอ หญิงสาวมีอันต้องดิ้นหนีทุกครั้งไป
“พี่โนอาอย่า...พอแล้ว” คนอ่อนประสบการณ์ร้องห้ามเสียงหวาน เมื่อมือใหญ่กำลังจะกลายเป็นหนวดปลาหมึก ลมหายใจหอบระทวย ดันอกแกร่งของร่างหนาออกห่างอย่างไม่ยอมให้เขาได้ทำตามใจง่ายๆ
“เฮ้อ...ก็ได้ครับ...” โนอาบอกอย่างเสียดาย ที่นาเนียไม่ยอมให้เขาทำตามใจ
‘ไม่รู้จะหวงตัวอะไรนักหนา อีกไม่นานก็จะแต่งงานกันแล้ว ไม่ช้าไม่นานก็ต้องเป็นของเขาอยู่ดี’ โนอาคิดอย่างหงุดหงิด สายตาคมมองใบหน้าหวานอย่างเสียดาย ปากบางอวบอิ่มเห่อบวมจากรสจูบ ยิ่งดูเซ็กซี่น่าจูบยิ่งนัก ยิ่งเห็นยิ่งแทบอดใจไม่อยู่
“ขอบคุณค่ะ ที่เข้าใจ” นาเนียบอกเมื่อชายหนุ่มดูจะหยุดตัวเองได้แล้ว แต่แล้วความคิดของเธอก็ผิดถนัด เมื่อได้ยินคำขอของเขา และการจู่โจมที่ไม่ปล่อยให้เธอตั้งตัว
“แต่ขออีกครั้งนะครับ” พูดจบปากหยักก็ฉกลงหากลีบปากบางอย่างเจ้าเล่ห์ ซึ่งกว่าเขาจะพอใจปล่อยปากสวยให้เป็นอิสระ นาเนียก็แทบขาดอากาศหายใจ
“ขี้โกง...ป่านนี้ปากนาเนียช้ำหมดแล้วมั้ง...นาเนียไม่ยอมอีกแล้วนะ” เสียงหวานเอ่ยอย่างอายๆ เบือนหน้าหนีไม่กล้าสบตา มือเล็กยกขึ้นปิดปากเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ปากหยักฉกลงมาอีก
“ไม่ต้องถึงขั้นปิดปากเอาไว้หรอกครับ...พี่ไม่จูบแล้วก็ได้...ถ้าอย่างนั้นนาเนียพักผ่อนนะครับ”
“ค่ะ...นาเนียคงไม่ส่งพี่ไม่ได้นะ” หญิงสาวบอกคู่หมั้น
“ไม่เป็นไรครับ ฝันดีนะ อย่าลืมฝันถึงพี่ล่ะ” โนอาก้มลงกระซิบข้างหูเล็กเบาๆ ลิ้นอุ่นเลียแก้มนวลอย่างต้องการยั่ว จนนาเนียสะดุ้งโหย่ง
“พี่โนอา!!!...” นาเนียยกมือขึ้นลูบแก้ม ตวาดโนอาอย่างไม่พอใจ เมื่อถูกคนเจ้าเล่ห์ฉวยโอกาสอีกแล้ว
โนอาเดินยิ้มออกมาจากห้องอย่างอารมณ์ดี กลิ่นหอมอ่อนๆ ยังติดจมูก สัมผัสแสนหวานยังตราตรึงอยู่ในหัวใจ คนอะไรหวานน่ากินไปทั้งตัว
นาเนียนั่งหน้าแดงเปล่งอยู่ที่โซฟา นิ้วเรียวไล้ไปตามริมฝีปากที่ยังรู้สึกได้ถึงสัมผัสร้อนผ่าวจากริมฝีปากหยักเมื่อสักครู่
‘นี่เธอกลายเป็นผู้หญิงใจง่ายตั้งแต่เมื่อไหร่ เจอกันไม่กี่ครั้งเธอก็ปล่อยให้เขาจูบแล้ว’ นาเนียคิดอย่างไม่เข้าใจตัวเอง ก่อนจะค่อยๆ เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อข้อเท้าเริ่มเข้าที่ เพื่อชำระล้างคราบความใจง่ายของตัวเองออก แต่ยิ่งถูยิ่งขัดปากบางอวบอิ่มก็ยิ่งเห่อบวมขึ้น ซึ่งทำให้เธอนึกถึงสัมผัสของโนอามากขึ้นไปอีก
*************************************************************************************************
ช่วยเป็นกำลังใจด้วยนะค้า
ความคิดเห็น