คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : [SF]Ugly Duckling [Ver. Krisyeol] ฟิคแก้บน! 100%
[SF]Ugly Duckling
[Ver. Krisyeol]
***ฟิคแก้บนครับ***
------------------------------------------------------------------------------------------------------
**[SF]เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากซีรี่ย์ Ugly Duckling รักนะเป็ดโง่ ตอน Perfect match**
------------------------------------------------------------------------------------------------------
จิ๊บๆๆ
เสียงนกน้อยร้องใกล้ๆกับขอบหน้าต่างห้องนอนสีโทนเย็น ปลุกให้เจ้าของห้องที่นอนตูดโด่งเย้ยแสงอาทิตย์ที่ส่องเข้ามาเลียก้น ตื่นขึ้นมา
สิ่งแรกที่เป็นกิจวัตรประจำวันที่ต้องทำตอนตื่นนอน...
‘Morning A New Day J’
มือเรียวหยิบโทรศัพท์จิ้มๆเข้าไปที่แอพเจ้านกสีฟ้า ก่อนจะพิมพ์สเตตัสตอนรับเช้าวันใหม่ เสร็จก็วางลงแล้วลุกขึ้นไปหยิบผ้าขนหนูพาดไหล่แล้วหายเข้าไปในห้องน้ำเป็นลำดับต่อไป
ซ่า…
ใบหน้าหวานแหงนรับสายน้ำจากฝักบัว เรียกให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่ายิ่งขึ้น ยื่นมือไปหยิบโฟมล้างหน้าในตระกร้าบนเคาท์เตอร์ บีบใส่มือแล้วถูลงใบหน้าเรียวอย่างแผ่วเบา ลูบไล้ทำความสะอาดอย่างที่เคยทำเป็นกิจวัตรประจำวันอย่างปกติ..
หืม?
มือเรียวที่ลูบไล้บนใบหน้าสะดุดเข้ากับสิ่งแปลกปลอม แทนที่จะเรียบเนียนเหมือนดั่งเช่นทุกวันแต่วันนี้มันแปลกไป...
มือเรียวรีบรองน้ำจากอ่างล้างหน้าแล้วล้างฟองโฟมออกทันที ก่อนจะเงยขึ้นมาส่องที่กระจกบานใหญ่ตรงหน้า
“มาได้ไงเนี่ยยยย!!!!!”
………………………………………………………………………………………....
ณ โซฟาชุดพรีเมี่ยมกลางบ้าน มีคนสามคนที่กำลังนั่งปรึกษาปัญหาระดับชาติ(?)อยู่ คุณแม่ที่นั่งโซฟายาวตัวเดียวกันกับผม พี่ลู่หาน ลูกพี่ลูกน้องของผมที่นั่งไขว่ห้างอยู่โซฟาอีกข้าง และผม นาย ปาร์ค ชานยอลกำลังนั่งส่องกระจกสะท้อนใบหน้าเด็กหนุ่มอายุ 19 ปีที่มาพร้อมกับสิวที่ไม่ได้รับเชิญเต็มแก้มปรางทั้งสองข้าง ไหนจะหน้าผากขาวที่เคยเรียบเนียนนี่อีก
นี่แหละ!! ปัญหาระดับชาติของพวกเรา!!!
“ คุณแม่ว่าลูกยอลไปต่างประเทศก่อนดีกว่ามั้ยคะ รักษาให้หายแล้วค่อยกลับมาบ้านของเรากันนะคะลูก” คุณแม่พูดพลางค่อยๆถอยหลังออกไปเรื่อยๆ
“ คุณแม่จะไปกับยอลมั้ยฮะ ยอลไม่อยากไปไกลๆคนเดียว แล้วหน้าดันเป็นแบบนี้ด้วย ” ผมพูดแล้วขยับเข้าไปใกล้เป็นจังหวะเดียวกับคุณแม่ที่กระโดดถอยออกไป
คุณแม่อ่า!!!
“ คุณแม่รังเกียจยอลเหรอฮะ!!” ผมว่าก่อนจะกอดอกมุ่ยหน้า ให้คุณแม่รู้ว่าผมงอนจริงๆนะ
“ เอ่อ มะ ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ คุณแม่กลัวว่ามันจะติดเชื้อ เอ่อหมายถึง มือของแม่สกปรกน่ะคะ กลัวว่าจะยิ่งทำให้ติดเชื้อแล้วลามหนักกว่านะคะลูก ไม่เอานะไม่งอนคุณแม่นะคะ” คุณแม่ที่เห็นท่าทางงอนๆของผมก็เริ่มเขยิบเข้ามาใกล้กว่าเดิมนิดนึงประมาณ 5 เซนติเมตร....
อืม นิดเดียวจริงๆ!
“ ตกลงคุณแม่จะไปกับยอลมั้ยฮะ” ผมหันกลับมาถามเรื่องเดิมอีกครั้ง ซึ่งจากท่าทางอ้ำอึ้งของคุณแม่ก็พอจะเดาคำตอบที่ได้รับออก
“ เอ่อ เอาอย่างนี้มั้ยครับ คือที่ยงอินมีแพทย์เฉพาะทางดังๆอยู่คนหนึ่ง ชื่อคุณหมอมินซอก ลือกันว่า แกอายุย่างสามสิบแล้ว แต่หน้าแกยังเหมือนเด็กอายุสิบแปดเลยนะครับ” พี่ลู่หานที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆพูดขึ้น ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็ตาวาวทันที
“ ยงอิน!? ไปยันคยองกีเลยเหรอ ไม่เอาอ่ะ อาไม่ยอมให้ลูกชายอาไปตะลอนไกลๆคนเดียวหรอกนะ” คุณแม่ส่ายหัวชูนิ้วชี้เรียวสวยส่ายไปมาตรงหน้าพี่ลู่หาน
“ แล้วให้หนูยอลไปยันเมืองนอกนี่ใกล้มากเลยเนอะ” พี่ลู่หานพูดกับตัวเองเบาๆ
“ว่าไงนะ!?”
“ อะ เอ่อ เปล่าครับ คือผมจะบอกว่าไปที่คยองกีดีกว่าไปเมืองนอกอีกนะครับ อย่างน้อยๆก็ยังอยู่ในเกาหลีนี้เอง” พี่ลู่หานพูดกับคุณแม่ไปก็หันมามองหน้าผมไป ผมก็เลยรีบพยักหน้าเห็นด้วยจนคอแทบหลุด
“ จริงด้วยครับคุณแม่ ให้ยอลไปเมืองนอกคนเดียว ยอลไม่เอาหรอกนะครับ ไกลหนักกว่าคยองกีอีก ให้ยอลไปยงอินเถอะน้า นะครับ คุณแม่ไม่อยากให้หน้าของยอลกลับมาเหมือนเดิมเหรอครับ” พูดพร้อมส่งสายตาอ้อนเต็มที่
“ อ่าๆ เอาอย่างนั้นก็ได้ แต่! ลู่หานไปกับน้องด้วยนะ” คุณแม่อนุญาตแล้วชี้นิ้วมาทางพี่ลู่หานที่นั่งทำหน้าเหรอหรา
“ ผมด้วยเหรอ”พี่ลู่หานว่าแล้วชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง คุณแม่ก็ไม่ตอบแต่ยิ้มแล้วพยักหน้าแทน ส่วนผมนี่ก็ยิ้มกริ่มเพราะจะได้มีเพื่อนไปด้วย
ดีจัง~
แล้วเจอกันนะยงอิน....
........................................................................................................................................
@..มหาวิทยาลัยยงอิน , คยองกี ประเทศเกาหลีใต้….
ตึ่ง! โต๊ะ! ตึ่ง! ตึ่ง! ตะ! ลึง! ตึ้ง! ตึ่ง!ๆๆ
“พี่ว่าหนูยอลไปทำเรื่องที่เรียนก่อนเถอะ เดี๋ยวพี่เอาของไปเก็บที่หอเอง” พี่ลู่หานที่เดินนำผมหันมาบอกก่อนจะถอดแว่นกันแดดสีชาออกแล้วเอามาเหน็บไว้ที่คอเสื้อ แน่นอนว่าสาวๆแถวนั้นหันมามองกันให้พรึ่บพับ
พูดแบบไม่วางมาดไม่ได้เลยจริงๆ
“ เอางั้นเหรอฮะ งั้นตอนเย็นเดี๋ยวผมไปหาพี่ลู่หานที่หอแล้วกันนะฮะ” ผมตอบแล้วยิ้มยิงฟันครบสามสิบสองซี่ให้พี่ชาย แม้ว่ามันจะมีผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่บังตั้งแต่สันจมูกลงมายันคอก็ตาม
ก็ผมยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยใบหน้าของผมตอนนี้นี่
“ โอเค งั้นพี่ไปก่อนนะ ดูแลตัวเองดีๆล่ะ ตอนเย็นเจอกัน ” พี่ลู่หานยีหัวผมเล็กน้อย ยิ้มหวานให้ทิ้งท้ายก่อนจะยกกระเป๋าเดินไปทางหอพักนักศึกษา
ฟู่วว~
ถึงตาเราออกโรงเองบ้างแล้วสินะ!
แผนที่ชี้ไปทางซ้ายเลี้ยวตรงมุมตึกวิทยาเดินต่อไปจนข้ามสะพานแล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีแค่นี้เอง...
เอาล่ะ...ชานยอลลุย!!!
.
.
.
20 นาทีผ่านไป....
“ แฮ่กๆ อะไรเนี่ย เมื่อกี๊ก็เดินผ่านทางนี้แล้วหนิ ทำไมมันยังวนอยู่ที่เดิม เอ้ย! อย่าบอกนะว่า...โอ๊ย!!! ชานยอลทำไมนายมันซื่อบื้ออย่างนี้นะ!!!!!” เมื่อคิดได้ว่าตัวเองคงจะหลงทางแน่ๆ ก็จัดการทึ้งหัวตัวเองระบายซะ แค่ทางในมหาวิทยาลัยทำไมผมยังหลงอีกนะ
งี่เง่าจริงๆเลย
“ อ่าวเฮ้ย! น้องมายืนขยี้เหาอะไรตรงนี้เนี่ย”
เสียงทุ้มของใครซักคนดังขึ้นข้างหลังผม ทำให้ผมต้องชะงักมือตัวเอง แต่ก็ยังคงยืนหันหลังอยู่เหมือนเดิม
“ นี่น้อง พี่ถามไม่ได้ยินหรือไง หรือว่าหูหนวก?”
น้ำเสียงเดิมแต่เพิ่มความยียวนดังขึ้นอีกครั้ง แต่ผมก็ยังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ไม่กล้าหันไป
ผมแค่กลัวว่าเค้าจะตกใจเมื่อเห็นใบหน้าผม แม้ว่ามันจะมีผ้าบังไว้ก็เหอะ
“ ไม่ตอบนี่ท่าทางมีพิรุธนะเนี่ย ผู้ก่อการร้ายใช่มั้ย พี่รปภ. !! พี่รปภ.ครับ!!”
“ เฮ้ยๆ ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ใช่คนร้าย” ผมที่ได้ยินว่าพี่เค้าจะเรียกรปภ.ก็รีบหันไปร้องห้ามทันที จึงรู้ว่าพี่เค้าไม่ได้หันไปเรียกใครแต่อย่างใด แค่ยืนยกยิ้มขำมองผมอยู่แค่นั้น
แรกพบสบตา เมื่อเจอหน้าเธอ~…..
อุ่ย...หล่อ
“ อ้าว! ไม่ได้หูหนวกหนิ แล้วพี่ถามทำไมไม่ตอบ..?” พี่รูปหล่อเลิกคิ้วเชิงถามขึ้น โหย คนอะไรวะ หล่อจริงจัง หล่อไม่บันยะบันยัง หล่อชีวิตพังมากมาย...
ตึกตัก ตึกตัก
เอ้า! เพลงมา..!!
หัวใจเต้นแรง หน้าแดงทุกที ใช่เธอหรือนี่ ที่คอยตลอดมา~
ชานยอลกำลังจะตายครับ...
“ เฮ้ย! น้อง!”
“ห๊ะ! ครับ..?”
ชานยอลสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงพี่เพิ่มระดับมากขึ้นเพราะเห็นว่าเขายังคงยืนเงียบไม่ตอบ
“ เพิ่งตื่นรึไง เด็กใหม่สินะเราน่ะ คณะไหนล่ะ” พี่รูปหล่อยื่นมือมาตบเบาๆที่แก้มของผมเรียกสติ หรือยิ่งทำให้สติผมหลุดหนักกว่าเดิมก็ไม่รู้
โอ๊ย! หายาดมให้ที ชานยอลจะเป็นลม!
“ ถ ถาปัด สถาปัตย์ฮะ”
“ โอ้ดีเลย พี่ก็ถาปัด มานี่ๆ เค้าเรียกรวมตัวไปเฟิร์สอิมตรงนู้น ไปเร็ว..”
ไม่ว่าเปล่า มือหนาส่งมาคว้าข้อมือผมให้เดินตามพี่เค้าไป
ตึกตัก ตึกตัก
อีกแล้ว ใจสั่นอีกแล้ว
ใจเต้นแรงไปนะบางที….
“ อ่ะ! กูพาเด็กมาเพิ่มอีกหนึ่ง เอาป้ายชื่อมาดิ๊” พี่หล่อจูงผมมายังคนกลุ่มๆหนึ่งที่ดูแล้วน่าจะเป็นเพื่อนของพี่เค้าพลางแบมือกระดิกนิ้วเร่งให้พี่อีกคนหยิบป้ายมาให้ ส่วนอีกหลายๆคนที่นั่งห่างออกไปตรงลานกว้างน่าจะเป็นเด็กใหม่แบบเดียวกับผมล่ะมั้ง
คนเยอะเหมือนกันแฮะ...
“ เอ้า! ชื่อไรน่ะเรา” พี่หล่อว่าแล้วเอียงหูเข้ามาใกล้ เหมือนกลัวว่าจะไม่ได้ยินในสิ่งที่ผมพูด
โอ๊ยยย พี่! ใกล้ป๊ายย~
“ ย ยอล ชานยะ..”
ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ พี่กลับไปยืดตัวเต็มความสูงอีกครั้ง แล้วลงมือเขียนยุกยิกๆ บนป้ายชื่อของผม
“อ่ะ..”
‘หยอย’
ผมอ่านชื่อตามป้ายที่พี่เค้าเขียนให้ แล้วก็ยู่หน้าทันที
“ พี่! ผมชื่อชานยอล ไม่ใช่หยอย!!”
“ อ้าวเหรอ! เมื่อกี๊ไม่ได้บอกว่าชื่อหยอยเหรอ ” พี่เค้าทำหน้าเหรอหราใส่ แสร้งทำเหมือนตกใจที่เขียนผิด
“ ไม่ใช่!! ผมชื่อชานยอล”
“ ช่างมันเหอะ พี่เขียนหยอยไปแล้ว เอาไปเถอะ..”
พี่เค้าพูดจบก็รีบคล้องป้ายใส่คอผมทันที ผมหยิบป้ายชื่อตัวเองขึ้นมาดูอีกครั้งก็รู้สึกอับอาย
คนบ้าอะไรชื่อหยอย!!
“ โหยพี่อ่า! อย่าแกล้งดิ ไม่เอาชื่อนี้ มันน่าเกลียด”
“ เอาหน่า ชื่อไม่เหมือนใครดี จะได้จำได้ง่ายๆ...”
พี่เค้าเว้นช่วงเอาไว้ ก่อนจะโน้มตัวลงมากระซิบเบาๆข้างหูผมให้จักกะจี้เล่น
“....เหมือนพี่ไง....คริส”
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
โรงพยาบาลอยู่ไหน
พาผมไปหาหมอหัวใจที...
FIN..
Talk: จริงๆมันควรจะเป็น OS มากกว่า SF สินะ55555 มาสั้นๆ พาให้ค้างแล้วร้างลา ให้รีดไปมโนกันต่อเอง* ก้มหลบร้องเท้า*5555555 คืออยากให้มันมีโมเม้นเล็กๆน้อยๆพอฟินแก้เครียดเฉยๆ ถ้าไม่ชอบใจก็ถีบไรท์ได้ถ้าหากันเจอนะ อุอิอุอิ
กำลังวางพล็อตเรื่องหลักอยู่ตอนนี้ หาเวลาได้น้อยมาก อย่าเพิ่งเบื่อไรท์เลยนะคนดี ไรท์พยายามหาเวลามาอัพฟิคอยู่เรื่อยๆ จะไม่ทิ้งฟิคเรื่องนี้แน่นอน เพราะคริสยอลคือความสุขของไรท์ เราจะไม่ทิ้งเด็ดขาด รีดเองก็ไม่ทิ้งกันนะ สัญญา *เกี่ยวก้อย*
แล้วเจอกันนะครับ
แท็กเดิม
# ฟิคเมียจำเป็น
ความคิดเห็น