ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Krisyeol ft. all member of exo

    ลำดับตอนที่ #31 : SF: How to tell you? KRISYEOL

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 563
      10
      13 พ.ค. 58

    SF:  How to tell you?

    Couple: KRISYEOL

    Author: KC_NeNe’s

     

     

    ***มันเป็นฟิคครั่นเวลา จากความรู้สึกของไรท์เองครับผม***

     

     

    # ผมควรพิมว่าไร

     

     



     

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

     

     




     

    ลมเย็นยามค่ำคืนหมุนวนปะทะผิวกายบางที่ห่อหุ้มเพียงเสื้อยืดสีขาวตัวเก่งกับกางเกงผ้ายืดสีน้ำตาลเข้มแค่เข่า มือเรียวลูบไล้แขนตัวเองเบาๆไล่ความเย็นบนผิวกาย ปากอิ่มยู่พรูลมอุ่นออกมา     

     



     

    “ยังไม่นอนอีกเหรอชานยอลตีสี่จะตีห้าแล้วนะ ”  ผมหันไปตามเสียงของอีกคนที่ทักขึ้น

     

     

     


     

     

    อ่อ.....พี่มาร์ค

     

     

     

     

     

    “ ยังเลยพี่ นอนไน่หลับว่ะ เลิกเวรตีสองไม่ใช่เหรอ ทำไมพึ่งกลับอ่ะ” ผมตอบก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่สวนหน้าบ้านไปที่รั้วที่ติดกับบ้านของอีกคน


    “ แวะไปหาแบมที่หอมา เห็นจินยองมันบอกว่าไข้ขึ้นเลยแวะไปดูอ่ะ กะกลับมาเอาเสื้อผ้าไปเฝ้าน้องมัน ” พี่มาร์คตอบก่อนจะยิ้มแรงตามฉบับของเขากลับมาให้ ผมยิ้มพยักหน้าสองสามทีก่อนจะขอตัวกลับมานั่งที่เดิมที่นั่งมาได้เกือบสี่ชั่วโมงแล้ว

     

     
     

     

     

    ผมนี่ก็บ้าเนอะ....

     

     


     

    ผมหันกลับไปมองที่บ้านพี่มาร์คอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถทำงานก่อนจะค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป

     

     

    พี่มาร์คหรือ มาร์ค ต้วน เป็นรุ่นพี่คณะแพทย์ที่แลกเปลี่ยนมาเรียนอยู่เกาหลีได้5ปีแล้ว จนตอนนี้ก็ได้เป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลโซล จะเรียกว่าสนิทก็ได้ ก็บ้านอยู่ติดกันขนาดนี้ จะไม่รู้จักกันเลยนี่ก็มนุษย์สัมพันธุ์แย่ไปนะ

     

     

    ผมมองตามหลังรถของพี่มาร์คที่เคลื่อนตัวเลี้ยวหายจากซอยหมู่บ้านไป  เห็นหน้าติ๋มๆเหมือนติ่มซำ(?)แบบนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มีแฟนนะครับ  มีแฟนแล้ว แถมยังเป็นเด็กม.ปลายซะด้วย เห็นว่าชื่อแบมแบมอะไรนี่แหละ ลูกครึ่งไทย-เกาหลีด้วยมั้ง

     

     

    เออดีว่ะ แฟนลูกครึ่งไทย-เกา ส่วนพี่แกแม่งเป็นคนจีนฮ่องกง  คุยกันรู้เรื่องนี่ผมว่าเก่งนะ คนนึงคุยไทย คนนึงคุยจีน มีเกาหลีเป็นภาษากลาง เจ๋งดีว่ะฮ่าๆๆ

     

     


     

     

    ....จีน.....

     



     

     

    จู่ๆ คำๆนี้ก็แวบเข้ามาในหัว จากที่เมื่อกี้นั่งหัวเราะเหมือนคนบ้าอยู่คนเดียวกลายเป็นมานั่งถอนหายใจคายคาร์บอนให้โลกอีกครั้ง

     

     


     

    ...เฮ้อ......

     

     





     

    ผมว่าผมทำใจได้แล้วนะ

     

     



     

    ในเมื่อมันเป็นในสิ่งที่อยากให้เป็นไม่ได้ ผมก็ควรจะยอมรับความเป็นจริงสินะ

     

     


     

    นานเท่าไหร่แล้วนะ ที่ผมยังคงคิดถึง....ไม่สิ

     

     


     

    แค่นึกถึงก็พอแล้ว.......

     

     


     

    ตั้งแต่จบโปรเจ็คและปิดเทอมจบม.ปลายปีสุดท้ายผมก็ไม่ได้เจอมันอีกเลย  จะให้พูดว่าเริ่มลืมเรื่องราวของมันไปแล้วก็พูดได้ไม่เต็มปาก  เพราะในเมื่อใจผมยังมีเรื่องของมันอยู่เต็มไปหมด

     



     

    ห่วงมั้ย........

     



     

     

    .....ก็ห่วงมั้ง?

     

     

     

     

    คิดถึงมั้ย........

     



     

     

    ......ก็คงได้แค่คิด

     



     

     

    “ฟู่ววว” ผมถอนหายใจรอบที่ล้านของวันก่อนจะหันไปหาสิ่งมีชีวิตขนสีน้ำตาลที่วิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามาคลอเคลียที่ขาของผม

     


     

    ผมอุ้มเจ้า สิงโตขึ้นมาไว้บนตักพลางลูบขนมันเบาๆ  บทสนทนานึงก็ไหลย้อนกลับเข้ามาในสมองของผมอีกครั้ง....

     








     

     

    “ เมื่อไหร่มึงจะเลิกกินบ้านบึ้มขนาดนี้วะ ดูแก้มมึงดิ๊ จะแตกอยู่แล้วเนี่ย”

     

    “ เรื่องของกูน่า พูดไม่ดูตัวมึงเลยนะไอฟ่าน ตัวก็ใหญ่ยังกะหมีควาย”

     

    “ อะไร อย่างกูนี่หุ่นบึกบึนแบบราชสีห์ แบบเจ้าป่าเว้ย อย่ามามั่ว”

     

    “ จ่ะ เอาที่มึงสบายใจ ถ้าสิงโตอ้วนพุงพุ้ยแบบมึงกูจะเอามาเลี้ยงที่บ้านเลย”

     

    “ จริงอ่ะ เลี้ยงจริงอ่ะ”

     

    “ กูไม่ได้หมายถึงมึงโว้ยยย ไม่ต้องยื่นเงิงมาครอบหน้ากูเลยไอสัด!

     






     

     

    หลังจากนั้นก็ได้มีเจ้าสิงโตมาวิ่งเล่นในบ้านผมจนถึงทุกวันนี้

     



     

    “ ไม่ง่วงหรือไงหื้ม?” ผมก้มลงไปฟัดกับขนนุ่มๆของเจ้าสิงโตบนตักตัวเอง

     

     

    บ๊อกๆๆ

     


     

    มันตอบผมกลับมาในภาษาหมาๆของมัน

     


     

    นานเท่าไหร่แล้วนะที่ผมไม่ได้เจอหน้าของเจ้าของที่มาชื่อเจ้าขนปุยนี่  ถึงไม่ได้เจอหน้าแต่ผมก็แชทคุยกับมันอยู่นะ......

     


     

     

     

    แค่น้อยลงกว่าเมื่อก่อน

     


     

    หลังจากวันนั้น...

     



     

    วันที่ผมพูดทุกอย่างออกไป.....

     

     

     



     

    “ เอาล่ะ ตาใครแล้ววะ  ทมึงอ่ะไอฟ่าน เตรียมตัวโดนเพื่อนรุมด่ามึงได้เลย มีใครจะเปิดก่อนมั้ย” ไอจงอินไล่ลำดับคนที่ต้องมานั่งกลางวงให้เพื่อนด่าหรือระบายเรื่องในใจส่งท้าย ก่อนที่จะจบและแยกย้ายกันไป



    “ กูขอคนสุดท้ายละกัน ของกูกะมันอ่ะเรื่องไม่เยอะ แต่เรื่องใหญ่ ”  ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมพูดออกไปแบบนั้น  คงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลล์ที่ผมดื่มเข้าไปด้วยล่ะมั้ง  แต่มีมีสตินะบอกไว้ก่อน ผมรู้ตัวทุกการกระทำของตัวเอง



    “ หิ้ววววววววว เอาล่ะโว้ยยยยยยย ผัวเมียเขาจะเคลียร์กัน งั้นกูเริ่มก่อนละกัน...” เสียงโห่แซวของเพื่อนในกลุ่มล้อเลียนผมที่นั่งหันหลังพิงไอ้ฮุนอยู่ จนต้องผมก้มหน้าเขี่ยผ้าห่มเล่น ไม่กล้าเงยหน้ามองคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม ถึงแม้ว่ามันจะเยื้องๆก็เถอะ แต่ก็ถือว่าไม่ดีต่อตัวผมละกัน

     


     

    ทุกคนไล่เรียงทั้งด่า ทั้งแกล้ง ทั้งเผาสารพัดที่จะบอกความรู้สึกต่อร่างสูงตลอดที่เรียนด้วยกันมา บางคนเพิ่งย้ายเข้ามาเรียนด้วยกันตอนม.ปลายปีหนึ่ง แต่บางคนก็เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ม.ต้น  อย่างเช่นผมที่เรียนห้องเดียวกับมันมาถึง 6 ปีเต็ม.....

     



     

    “ เอ้าหมดยัง เหลือใครอีกมั้ย ” จงแดเอ่ยถามหลังจากที่มันเป็นคนสุดท้ายที่เผาร่างสูงจบ ก่อนจะไล่สายตาหาคนที่ยังไม่ได้พูด

     

     

    ผมที่ตอนแรกทำปากดี แต่ตอนนี้กลับนั่งก้มหน้านิ่งแทบจะฝังไปในแผ่นหลังของไอ้เซฮุนอยู่รอมร่อ

     


     

    “ เอาเร็วๆ มีใครจะพูดอะไรก็รีบๆพูด ปีสุดท้ายแล้วนะโว้ยยย // อาจจะไม่ได้พูดแล้วนะโว้ยยย ” จงแดกับจงอินช่วยกันรบเร้า แม้ว่าปากจะพูดเหมือนไม่ได้เจาะจงแต่สายตาพวกมันมองมาที่ผมบ่อยซะเหลือเกิน



     

    “ เอาเลยมึง เดี๋ยวก็ไม่ได้พูดแล้วนะ ” ไอ้ลู่ที่นั่งอยู่ใกล้ๆก้มลงมากระซิบก่อนจะตบบ่าผมเบาๆให้กำลังใจ

     


     

     

     

     

    เอาวะ!!

     

     

     


     

    “ เหลือกูนี่แหละ....”  ผมเริ่มเปิดปากพูด จากที่ทำใจไม่ให้ตื่นเต้น กลับพังลงเมื่อทุกคนดูเหมือนจะพร้อมใจกันเงียบเพื่อฟังในสิ่งที่ผมจะพูด

     

     



     

    โดยเฉพาะมัน....

     

     



     

    “ คือกู....เอ่อ..คือมึงอ่ะไอฟ่าน  มึงแม่งเป็นเหี้ยไรวะ ชอบพูดจายังกะจะแดกหัวกู ทีคนอื่นล่ะพูดดี ทีกูทำอย่างกับว่าไปแย่งข้าวมึงแดก..”  คำพูดของผมเรียกเสียงของคนอื่นได้ดี ผิดกับร่างสูงที่ทำหน้างงก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้ผมต้องก้มหน้าหาผ้าห่มที่คลุมขาอีกครั้ง

     

     

    “ กูแค่แกล้งเล่น  แต่กูก็ทำกับมึงแค่คนเดียวป่ะละ ” สิ้นเสียงทุ้มบรรดาเพื่อนก็ส่งเสียงแซวกันอีกระลอก



    “หิ้วววววววววววว!!!  แอร๊ยๆๆๆๆๆๆ ”




    “ แอร๊ยพ่องมึงสิ!” ผมหันไปแยกเขี้ยวใส่ไอ้จงอินกับไอ้จงแดที่เป็นลูกคู่แซวไม่เลิก

     

     

     

    และทุกอย่างก็กลับมาเงียบอีกครั้งเมื่อผมไม่ยอมเอ่ยปากพูดอะไรต่อ

     


     

    “ แค่นี้เหรอ? ” มันถามผมขึ้นหลังจากที่ทุกอย่างเงียบไปได้ซักพัก

     

     

    “ เอ่อ...มึงจำตอนงานเลี้ยงครบรอบของโรงเรียนได้มั้ย ที่กูร้องไห้แล้วบอกว่าอกหักอ่ะ  มึง....มึงรู้มั้ยว่ากูร้องไห้เพราะใคร ” ผมถามมันกลับ ก่อนจะนึกถึงเรื่องที่ทำให้ผมต้องร้องไห้อย่างหนัก...

     



     

    ภาพผมที่บอกลาพวกไอ้ฮุนกับไอ้จงแดที่เต้นอยู่ด้วยกันหน้าเวทีว่าจะกลับบ้านแล้ว ก่อนจะเดินออกมาจากฟลอร์  ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมอยากเข้าห้องน้ำก่อนกลับบ้าน

     


     

    “ อี้ฟานมีอะไรจะบอกเราเหรอ ”  เด็กหนุ่มที่ผมจำได้ว่าอยู่ห้องวิทย์-คณิต ใบหน้าหวานๆแบบนี้มีอยู่คนเดียว

     

     

     

    ...จาง  อี้ชิง.....

     


     

    ร่างสูงของเพื่อนสนิทพี่ผมเพิ่งมารู้เมื่อไม่นานมานี้ว่าคิดไม่ซื่อกับมันอ้ำอึ้ง ก่อนจะยิ้มแหยๆ เหมือนไม่รู้ว่าจะพูดดีหรือไม่พูดดี  จนในที่สุด มันก็ยอมพูดประโยคที่ทำให้ผมใจกระตุกขึ้นมา

     

     





     

    “ อี้ชิง  เป็นแฟนกันนะ..”

     

     

    .

     

     

    .



     

    ผมเดินกลับไปที่ฟลอร์อย่างล่องลอยอีกครั้ง เดินไปโดยที่ไม่รู้ว่าน้ำตาได้ไหลอาบแก้มผมมาด้วย



    “ อ่าวไหนมึงบอกว่ากลับบ้านแล้วไง  เฮ้ย!! ไอ้ยอลร้องไห้ทำไม” ไอ้ฮุนที่เห็นผมคนแรกก็ตกใจและยิ่งตกใจก็หนักขึ้นเมื่อเห็นน้ำใสๆไหลจากดวงตาที่เหม่อลอยของผม



    “ มึง.....กู ฮึก กูอกหักว่ะ ฮือออออ ”

     

     


     

    นั่นคือครั้งแรกที่ทำให้ผมรู้จักคำว่า อกหัก
     

    .


    .


    .


     

    ผมสะบัดหัวไล่ภาพเหล่านั้นออกไปเมื่อโดนไอ้ฮุนมันใช้หลังของมันกันหลังผมที่พิงอยู่ให้รู้สึกตัว ก่อนจะมองหน้าตัวต้นเหตุของเรื่องนั้น

     


     

    “ อืม จำได้ ทำไม? ” มันยังคงตีหน้านิ่งถามผมต่อ

     



     

    “ ก็กูร้องไห้เพราะมึงไง! ”  ผมกลั้นใจตอบไปหวังว่ามันจะเข้าใจเต็มที่แต่.....

     

     

     

     

     

    เงียบ....

     




     

    “ เพราะกู? แล้วไง ”

     



     

    “ แล้วไง!!??  โธ่เอ๊ย!! ไอควาย คนอื่นเขารู้กันหมดแล้ว นี่มึงยังไม่รู้ตัวอีกเหรอวะเนี่ย ” หมดแล้วครับ ความอดทน ที่ผมแสดงออกไปนี่มันยังไม่เข้าใจความรู้สึกของผมอีกเหรอวะ ผมทึ้งหัวอย่างขัดใจแต่ก็หยุดชะงักเมื่อมันพูดต่อ

     

     


     

    “ กูรู้นานแล้ว ”

     



     

     

    “ ห๊ะ? มึงรู้ ”

     

     


     

    “ ใช่กูรู้”

     

     


     

    “............”

     

     

     

    “รู้ว่ามึงคิดยังไงกับกู”

     


     

    “ เออ ก็ตามนั้นแหละ ” ผมตอบปัดๆ แล้วหันไปมองไอ้แบคที่ตอนนี้นั่งบิดแขนตัวเป็นเลขแปดอยู่กับไอ้ลู่ด้วยความเขิน

     


     

    “ ตามไหนล่ะ ” มันยังคงถามผมไม่เลิก

     

     

    “ก็มึงรู้แล้วไม่ใช่เหรอ” ผมตอบแบบหงุดหงิด ทั้งที่ในใจดอกไม้บานเป็นทุ่ง

     



     

    “ แต่กูอยากฟัง” มันตอบหน้าตายเหมือนไม่ทุกข์ร้อน  แต่หน้าผมนี่แหละที่ร้อน

     


     

    “ อร้ายยยย บิดแปดรอบ ” ไอ้แบคฮยอนว่าก่อนจะลุกขึ้นแล้วบิดตัวหมุนไปมา

     

     

    ทำไมผมจะไม่รู้ว่าไอ้แบคฮยอนกับไอ้ลู่หานมันชงผมกับไอ้ฟ่านอยู่






    “ ว่าไง ”  มึงก็อย่าเร่งกูได้มั้ย ปัดโธ่!!

     


     

    “ กู...กู..กูชอบมึงไง” ผมพูดโดยที่ไม่ได้มองหน้ามัน ผมไม่รู้ว่ามันทำหน้ายังไง ได้ยินก็แต่เสียงโห่แซวของเพื่อนๆที่ร้องดังเหมือนสอบติดมหาลัยของตัวเอง

     

     


     

     


     

     แต่แล้วทุกอย่างก็พลิกล็อคเมื่อมันพูดขึ้นต่อ

     






     

    “ ขอบคุณที่มึงรู้สึกดีกับกูนะ.....

     

     

     


     

    ......แต่กูมีแฟนแล้ว กูขอโทษ”

     

     






     

     

    กูรู้ และกูถึงทำใจไว้แล้วไง.....

     

    .

     

    .

     

    .

     

    หลังจากวันนั้น ผมก็ไม่ค่อยได้แชทคุยกับมันบ่อยเหมือนเมื่อก่อน นานๆที แต่ความรู้สึกที่คุยช่วงหลังมานี้ มันเปลี่ยนไปจากเดิมมาก จนผมรู้สึกว่า...

     

     

     

     

    ไม่น่าคุยด้วยเลย

     

    .



    .



     

     read 21.30 REAL_PCY :กูทำสติ๊กเกอร์คอลเลคชั่นห้อง6.8A

    read  21.32 REAL_PCY: sent a photo

    read 21.32  REAL_PCY: อ่ะ อันนี้ ของมึง

     

     

     

    Galaxy_FanFan: คือไร?    21.35

    Galaxy_FanFan: ไม่ได้ต้องการเลย    21.35

     



    read  21.38  REAL_PCY: อหหห พูดซะไม่เห็นใจคนให้                                                                           เลยนะมึง

     

     

    Galaxy_FanFan: ไม่ชอบแบบนี้   21.40





    read  21.41  REAL_PCY: งั้นขอโทษนะ แต่กูทำให้ ทุกคน

    read  21.41  REAL_PCY: ไม่ใช่แค่มึง

     

     

    .



    .


     

    .

     



     

    ตั้งแต่วันนั้น ผมก็ไม่ได้คุยกับมันอีกเลย ผมลบแชทมันทิ้งเลยเสียด้วยซ้ำ

     








     

     ตื้อดึง!

     




     

    ผมที่นั่งคิดอะไรเพลินๆก็หยุดชะงักเมื่อเสียงเตือนแอพพลิเคชั่นแชทดังเตือน

     

     




     

     

    หือ?

     

     

     

     


     

     

    Galaxy_FanFan:      [LINE Bubble 2]

                                              ร่วมเล่น Bubble 2กับฉัน!

    ไปตามหาBrown กับ Conyกัน        05.24

     

     

     

     




     

    ผมชั่งใจสักพักก่อนจะไล่นิ้วบนแป้น

     

     





    read  05.26 REAL_PCY:  ไม่เห็นหนุกเลยวะ










     

    Galaxy_FanFan:  ส่งไปงั้นแหละ กูลบไปแล้ว 05.27

     






    read  05.27  REAL_PCY:นี่มึงเพิ่งตื่นหรือยังไม่นอน?

     





     

    Galaxy_FanFan: เหอะ   05.28


    Galaxy_FanFan: ยังไม่นอน   05.28

     


     

     
    read  05.29  REAL_PCY: กูว่าละ

    read  05.29  REAL_PCY: เล่นเกมสิมึงน่ะ







     

    Galaxy_FanFan: ป่าว   05.29

    Galaxy_FanFan: ดูหนังโป๊   05.30

     

     



    read  05.30  REAL_PCY: ไอสัดดด

    read  05.30  REAL_PCY: กี่น้ำแล้วล่ะแหม่







     

    Galaxy_FanFan: เชื่อ?   05.31

     







    read  05.31  REAL_PCY: กูใสๆ เชื่อคนง่าย

     





     

    Galaxy_FanFan: ไม่จำเป็น สาวๆมี   05.32


    Galaxy_FanFan: ไปหาได้ตลอด   05.32

     

     



    read  05.33  REAL_PCY: จ่ะ


    read  05.33  REAL_PCY: เอาที่มึงสบายใจ

     





     
     

    Galaxy_FanFan: 5555555     05.36


    Galaxy_FanFan: ถ้ามีคนมาขอมึงทำบ้างอ่ะ มึงทำมั้ย   05.37





    read  05.38  REAL_PCY: ดูหน้าตาและฐานะครับ

    read  05.38  REAL_PCY:555555


     



     

    Galaxy_FanFan: แหม่    05.39


    Galaxy_FanFan:หน้าตาดีบ้านรวยก็ยอมว่างั้น?    05.39

     

     



    read  05.39  REAL_PCY: เยสสสสส

    .


    .





     

    Galaxy_FanFan: แล้วถ้ากูเลี้ยงมึงอ่ะ เอามะ???  05.45

     

     

     

     

     

     

     

    นั่นสิ

     

     

     

     

     

     

    ผมควรพิมต่อว่าไรดี......

     

     

     

    .


    .


    .


     

     

    END

     

     

     

    Talk: เอาจริงนะ....นี่คือเรื่องจริงของไรท์เอง  ไม่ได้มโนค่ะ เพิ่งเกิดเมื่อเช้าแล้วได้แรงบันดาลใจมาก อยากถ่ายทอดความรู้สึก ไม่รู้จะระบายที่ไหน ระบายมันกับฟิคนี่แหละ  ไม่รู้รีดจะอินกันมั้ย แต่แต่งจากความรู้สึกล้วนๆเลย ทุกคนพูดทุกประโยคนี่คือเรื่องจริงนะครับ  ไม่เคยแต่งฟิคแนวๆนี้ แต่อยากลองแต่งฟิคที่มันออกมาจากความรู้สึกของตัวเองดู  ยังไงช่วยคอมเม้นกันด้วยนะครับว่าชานยอลควรตอบกลับว่าไงดี

     

     

    # ผมควรพิมว่าไร

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×