คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : 10.Peek me! 100%
Peek me!?
Couple : KrisYeol
Author: KC_NeNe’s
ปรี๊ดดดด!!!!!
เฮ! เฮ! เฮ!
กรี๊ดดดดด!!!!!!
วี๊ดดดด!!! ว้ายยยยย!!!!!
เอิ่ม! ไม่ต้องบอกก็จินตนาการกันออกใช่มั้ยว่านี่คือบรรยากาศข้างสนามกีฬา
“เทาย่าห์!!!!!! จะหมดเวลาแล้ว!! สู้ๆน้า!!!” เสียงไอ้หมาแบค
“เซฮุนน่า!!!! สู้!!!!ๆๆๆ” ไอ้บาร์บี้ลู่
“........” ส่วนนี่คือสภาพของผม -__- ++
..กูมาทำอะไรที่นี่? ตอบ!!!
...ก็แบบว่า เข้าใจนะว่าไอ้สองตัวนั่นมันมาเชียร์เด็กของพวกมัน
..แต่!!!???....
..ประเด็นมันอยู่นี่....มันอยู่ตรงที่ว่าจะลากกูมาเพื่อ!!!???
ช่วยถามกูซักคำมะว่ากูอยากมากับเพื่อนท่านทั้งสองหรือเปล่า? อุตส่าห์วางแผนกะไอ้จงอินไว้ว่าจะนัดน้องโซยอนไปสวีทวี้วี ตอนบ่ายนี้ สุดท้ายกูก็มานั่งอาลัยตายแหงกอยู่อย่างเงี้ย!!!???
เฮ้อ! ชีวิตอันน่าหดหู่ของพี่ยอล
การแข่งขันบาสฯยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เหลือเวลาแค่สามนาทีก็หมดควอเตอร์สุดท้ายแล้ว...
..จะจบเกมส์แล้วโฟร้ยยยยย!!!!
เหน็บรับประทานตั้งแต่ปลายตาตุ่มไปยังไขสันหลังแล้ว นี่ถ้านั่งต่ออีกซักครึ่งชั่วโมง สงสัยกูคงจะได้เป็นอัมพาตตั้งแต่ยังหนุ่มยังแน่นแหงๆ กระซิกT_T
อ่อ! นี่ผมลืมบอกไปใช่มั้ยว่าไอ้เกมส์ที่ ท่านเพื่อนตัวดีลากให้มานั่งหน้าสลอนเนี่ย มันคือการแข่งบาสฯเยาวชนรอบคัดเลือกระหว่างโรงเรียนมัธยมปลายของผมกับอีกโรงเรียนหนึ่ง โดยมีกฎให้แต่ละโรงเรียนเอานักเรียนที่อยู่ตั้งแต่ม.ปลายปีหนึ่งถึงปีสามมารวมทีมกัน และแน่นอนว่าสองคนนั้นคือจื่อเทากับเซฮุน รุ่นน้องที่ฮอตสุดๆตั้งแต่เป็นเฟรชชี่ปีหนึ่ง เด็กของไอ้แบคฮยอนกะไอ้ลู่หานมัน
“ กรี๊ดดดด!!!! เทา!!!! สามแต้มๆ!!! ” น้องเทาขวัญใจพี่แบค ชู๊ตบาสลงแป้นอย่างสวยงาม เรียกเสียงกรี๊ด จากกองเชียร์และเมียมันได้อย่างดี
...เอิ่ม..ไอ้แบค เสียงอย่างเดียวพอ ท่ามึงไม่ต้องมาเต็มขนาดนั้นก็ได้
ส่ายซะ ลูกปิงปองมึงแกว่งจะกระแทกเบ้าหน้ากูแล้วเนี่ย ห่าน!!!!!! - -*
“ อร๊ายยยย! แก๊!!!!!!!!!!!แกๆ ดูนั่นๆ พี่คริสเขาปาดเหงื่ออ่ะ อยากวิ่งเข้าไปซับให้สุดๆเลยอ่ะ กรี๊ดดดดด!!!”
ให้ตายเถอะแม่คุณ- -*
เส้นเสียงพันแปดหลอดหรอครับ!?
ผมมองตามนิ้วเรียวสวยของสาวๆข้างๆ ไปทิศทางในสนามแข่ง
จุดหมายปลายทางจึงหยุดอยู่ที่……..
......เอ๊ะ! นั่นมัน...!!!!!!??????
!!!!!!!!???????
!!!!!!!!!!???????
ไอ้ยงชุน!!!! ไอ้ศัตรูตัวฉกาจ! ไอ้มารหัวใจ!
..ครั้งที่แล้วที่มันมาเต๊าะน้องซันนี่ เด็กม.ปลายปีหนึ่งของโรงเรียนผมถึงถิ่น มันหยามหน้ากันเกินไปแล้ว
แล้วนั่น! มันแย่งบอลกับใครวะ
“ อร๊ายยยย!!! ไอ้บ้าหัวแดงนั่นมันเอาแต่แย่งกะขัดพี่คริสอย่างเดียวเลยอ่ะแก ดูสิ ยอมไม่ได้!!! ” สองสาวที่นั่งข้างๆยังคงเกรี้ยวกราดต่อไป เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังขัดขวางพ่อรูปหล่อของพวกหล่อนอยู่
ไม่ต้องเดาก็น่าจะรู้แล้วล่ะว่าไอ้ผมทองนักบาสฝั่งของโรงเรียนผมที่กำลังปัดป่ายบ่ายเบี่ยงเลี้ยงลูกบาสอยู่คือ ‘พี่คริส ’ แน่นอน เพราะไอ้หัวแดงที่กำลังแย่งบาสพี่คริสสุดหล่อ(ซึ่งน้อยกว่าผม)ของสาวๆคือไอ้ยงชุนนั่นเอง
“ กรี๊ดดดด!!!!! พี่คริสๆๆๆๆๆๆๆ” บริเวณทั้งซ้ายขวาหน้าหลังของผมเริ่มอังกอร์เป็นเสียงเดียวกันหลังจากที่ไอ้คนที่ชื่อพี่คงพี่คริสอะไรนั่นแย่งบาสมาได้แล้วเลี้ยงลูกหลบหลีกมาจนเกือบถึงแป้นของอีกฝ่าย
ผมแอบเห็นไอ้ยงชุนมันสะดุดขาไอ้พี่คริสแวบนึงด้วยแหละ เยี่ยม!!!!
“ อย่างนั้นแหละพี่ วู้!!!! ไปเลย!!! แย่งมันเลย!! วู้ๆ!!!! ” สองมือยกขึ้นป้องปากตัวเอง แล้วตะโกนสุดเสียงลงไป ยิ่งเห็นไอ้ยงชุนมีทีท่าหงุดหงิดด้วยแล้ว ยิ่งหนับหนุนท่านพี่คริส(เปลี่ยนสรรพนามอย่างฉับพลัน)แย่งบาสจากมันมากขึ้น มากขึ้น มากซะจนคนรอบข้างพากันงงและเงียบ ทำให้เสียงทุ้มตะโกนเย้วๆของผมดังไปยันสนามแข่ง
..รู้ได้ไงน่ะเหรอ
ก็พี่คริสเค้าหันมามองผมที่ตะโกนแหกปากอยู่ ก่อนจะส่งยิ้มแบบ..เค้าเรียกว่าอะไรนะ ยิ้มเจ้าชายอย่างนั้นเหรอ ที่ทำให้คนมองละลายได้มาให้ผมน่ะสิ!!!
..แต่พี่...ผมแมนนะ บอกไว้เลย ณ จุดจุดนี้ = =*
“ เฮ้ย! มึงรู้จักพี่คริสด้วยเหรอ ” เป็นไอ้แบคฮยอนที่นั่งข้างๆสะกิดถาม หลังจากที่ผมหยุดตะโกน แล้วกลับมานั่งลงตามเดิม
“ ป่าวหรอก เห็นเค้าตะโกนกัน เลยอยากทำมั่ง ” ผมตอบไปอย่างใจคิด คือจริงๆนะว่าผมไม่ได้เกิดพิศวาสอะไรหมอนั่นหรอกนะ แค่สะใจเมื่อเวลาที่เห็นไอ้ยงชุนมันหัวเสียเวลาที่พี่ท่านแย่งบาสมาจากมันได้ ก็เท่านั้นเอง....
เท่านั้นจริงๆ
“ แต่มึงออกจะเด่นไปหน่อยนะ เอาซะพวกกูงงเลย ” ลู่หานยื่นหน้ามาพูดบ้าง
“ไม่ต้องสนกูหรอก เชียร์เด็กของพวกมึงไปนู้นไป นั่นน่ะ น้องฮุนมึงเลี้ยงบาสอยู่นั่นน่ะ” ผมว่าพลางชี้ไปที่สนาม และได้ผล ลู่หานหันขวับไปที่สนามทันที
...ผัวเด็กย่อมมีระดับความสำคัญที่แตกต่างกับเพื่อน!!! เป็นคำคมที่ได้มาจากไอ้ลู่หาน
และแล้วการแข่งขันก็สิ้นสุดลง และก็แน่นอนว่าโรงเรียนผมเป็นฝ่ายชนะ
วะฮ่าๆ สะใจไอ้ยงชุน
ว่าแล้วก็ขอเสนอหน้าไปตอกย้ำซ้ำเติมมันซักหน่อย ฮุฮิๆๆ
“ อ่าว นั่นมึงจะไปไหนน่ะ” แบคฮยอนหันมาถามหลังจากที่ซับเหงื่อให้ที่รักของมันเสร็จ
“ เดี๋ยวกูมาแปร๊บ ” ผมหันกลับไปบอกอย่างอารมณ์ดี
ก่อนจะหันกลับเห็นเงากลมๆแวบตรงดิ่งมาที่หน้าหลังจากหันกลับไป
พลั่ก!!!!
ดั้งกูววววว!!!
ไอ้เวรรรรร!!!! ใครปามาวะ ฟรั๊คคคคค!!!!!
ถ้าจะกระแทกกูแรงขนาดนี้ เอาตีนมายันกูเลยดีกว่าครับ! ไอ้ห่านนนน!!!!!!!!!!!
หลังจากที่นั่งก้นจ้ำบ้ำไปกับพื้น ก็เริ่มรู้สึกเหมือนจะมีปัญหากับโพรงจมูกเริ่มแทรกเข้ามาแทนที่
......ทำไมมันแสบๆจังวะ??…..
ไม่ว่าเปล่า ผมลองเอามือแตะๆที่ปลายรูจมูก ความรู้สึกเหนียวชืดติดมาที่ปลายนิ้ว พอเอาออกมาดูเท่านั้นแหละ......
ขึ้นเลย...ขึ้น!!! ของขึ้นเลย!!!!
“ สัด!!!! ใครปามาวะ!!! ” นั่นไม่ใช่เสียงผมนะสาบานได้
เป็นเสียงท่านพี่คริสที่พุ่งเข้ามาหาผมทันทีที่ตั้งสติได้ ยิ่งพี่ท่านเห็นเลือดกำเดาที่ไหลออกด้วยแล้ว ยิ่งทำให้อารมณ์พี่แกขึ้นจนปรอทแตกยิ่งกว่าผมซะอีก
...เอ่อ..พี่..บทโมโหมันต้องเป็นผมไม่ใช่เรอะ!!?? รูจมูกของกูนะได้ข่าว???
“ กูถามว่าใครปาลูกบาสมา!!!! ” เหมือนเสียงฟ้าผ่าลงมาในบริเวณนั้น และก็เหมือนทุกคนจะถูกฟ้าผ่าตายห่ากันหมดแล้ว
...เงียบ....
..และ เงียบมาก
ขนาดกรรมการยังเป็นใบ้ ขนาดที่ว่าใครคิดที่จะระบายอากาศยังได้ยินแม้กระทั่งเสียงแก้มก้นที่เกร็งขมิบตดเลยอ่ะคิดดู = =
ถ้าเสียงท่านพี่คริสจะมีอำนาจขนาดนี้ละก็นะ ผมยกขึ้นหิ้งบูชาให้เป็นว่าที่ไอดอลไปนานแล้ว
“ เอ่อ..พี่..ผมไม่เป็นไรแล้ว ใจเย็นๆพี่ ใจเย็น ” ผมยกมือขึ้นตบบนไหล่กว้างเบาๆเป็นเชิงปลอบ
นี่กูหรือพี่ท่านกันแน่ที่โดนบาสกระแทกเบ้าหน้า = =
เกิดอาการงงๆเล็กน้อยในเซรีบั่ม!!??
“ ไหนหันหน้ามาดูดิ๊ ”
พอได้ยินดังนั้นผมก็รีบเสนอหน้าไปหาพี่เค้าทันที ไม่ใช่อะไรหรอกนะ คือแบบ กลัวพี่แกโมโหแล้วงาบหัวขึ้นมาจะยุ่ง ยิ่งอยู่ใกล้มือใกล้ตีนพี่แกด้วยยิ่งหวาดๆ
..แต่ก็นะ
ใครมันจะไปรู้ว่าพี่ท่านจะยื่นหน้ามาหาผมเหมือนกัน
จุ๊บ!
ผมจะไม่อายมากขนาดนี้นะ ถ้าสายตาทุกคู่ทุกดวงไม่ได้จับจ้องมาที่พวกผม!!!!!!!!!
……….50%.................
พลั่ก!
ผมเผลอผลักไอ้พี่คริสให้ออกห่างจากตัว ก่อนจะพรูลมหายใจออกมา...
..ทำไมมันมวนๆในท้องจังวะ!!??
“ อะ..เอ่อ...ขะ..ขอโทษฮะ คือผมไม่คิดว่าพี่จะ..เอ่อ..ยื่นหน้าเข้ามาเหมือนกัน แฮะๆ” ผมว่าพลางเกาท้ายทอยหัวเราะแก้เก้อ
แต่ดูเหมือนพี่เค้าจะยังไม่หายอึ้งซักเท่าไหร่ ที่จู่ๆ ก็เหมือนผมเป็นคนเสนอหน้าไปจุ๊บพี่เค้าเอง
..แหม ทำเป็นสาวน้อยโดนขโมยจูบแรกไปงั้นแหละ แค่แตะๆเองนะโฟร้ยยยยย!!!!!
“ เฮ้! ชานยอลเป็นไรเปล่า เจ็บตรงไหนมั้ย ” ลู่หานที่ดูจะตั้งสติได้แล้วรีบวิ่งเข้ามาหาผมพร้อมพยุงให้ลุกขึ้น ตามมาด้วยเซฮุน ไอ้แบคฮยอนและจื่อเทา
“ ไม่ว่ะ แค่เลือดกำเดาไหลน่ะ แต่หยุดแล้ว ” ผมตอบมันก่อนจะเอามือมาแตะๆที่จมูกก็พบว่าเลือดหยุดไหลและแห้งไปเรียบร้อยแล้ว
“ เออใช่! เมื่อกี๊กูเหมือนจะเห็น....” ลู่หานลากเสียงยาวพลางเอามือถูริมฝีปาก แล้วมองหน้าผมกับคู่กรณีสลับกัน
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามันจะถามเรื่องอะไร - /// -
กูก็เขินเป็นป่ะไอสัด!
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้แก้ตัวหัวชนฝา เสียงหมาๆก็ลอยมาขัดทางเดินขี้หูซะก่อน-*-
“ แหมๆ หัวแข็งจริงนะ ว่าแต่ใครกันช่างกล้าทำร้ายหนุ่มหน้าหวานชานยอลได้ลงคอ ” เสียงเน่าๆและเป็นเชื้อโรคต่อระบบรูหูของผม ก็มีแค่ไอ้สารเวรยงชุนเท่านั้น!!!!!
“ เฮ้ยๆ มึงไง มึงนั่นแหละที่ปาบอลมา กูเห็นนะไม่ต้องมาทำไก๋ ” จื่อเทาพูดพลางชี้หน้าไอ้ยงชุน หลังจากที่จ้องมองตาแทบถลน จนนึกได้ว่าเป็นมันที่ปาลูกบาสมาใส่ผม
“ นี่มึงเล่นแรงขนาดนี้เลยเหรอ กะกูมั้ยฮ่ะ!!!!!!” ว่าจบผมก็เดินไปกระชากคอเสื้อของมัน เตรียมพุ่งหมัดใส่ทันที
หมั่นมือหมั่นตีนจริงๆ ฮึ่ย!!!!
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้สะบัดลวดลาย(?)ก็โดนมือหนาๆรวบไว้แล้วดันให้ไปอยู่ข้างหลังเขาแทน
อะไรๆ!?? ผิดคิวแล้วเพ่!!!!!!!
“ ทำไม ” ท่านพี่คริสถามพลางมองหน้าไอ้ยงชุนประหนึ่งมันเป็นคนที่คิดจะลอบเต๊าะเมียพี่เค้า ยิ่งเสียงทุ้มๆของท่านพี่คริสกดต่ำซะดิ่งลงถ้ำอีก
.....อื้อหือ แค่พูดธรรมดา ชาวบ้านเค้าก็หดคอเป็นเต่าเข้ากระดองกันหมดแล้ว ขนาดไอ้ยงชุนที่ทำหน้าอ้อนฝ่าตีนอยู่เมื่อกี๊ ยังเงิบรับประทานเล้ย
“...............” ณ จุดจุดนี้เป็นใครก็ใบ้แดก
“ หูหนวกหรือไง!!! กูถามว่าทำไม!!!!!????? ” ระเบิดลงอีกตูมใหญ่ ยิ่งปิดทางเดินเสียงของไอ้ยงชุนเพิ่มขึ้นอีก
เอาเซ่! ทำหน้าอ้อนลูกถีบแบบเมื่อกี๊อีกซี่!!!!!! ถถถถถถถ ไอ้ยงชูนนนนนนนนนนนนน!!!!!!
“ อะไรกันพี่ นี่มันเรื่องของผมกับไอ้ชานมัน ไม่เกี่ยวกับพี่น่า~” มันว่าพลางเอามือตบต้นแขนพี่แกเบาๆ เชิงว่า.....
......แหมๆอย่ามีเรื่องกันๆ......
แต่มึงคือคนเริ่มเถอะสัสสส!!!! อย่าแอ๊บเนียน ไอ้สตอยงชุน!
“ ใครพี่มึง กูลูกคนเดียว กับมึงกูไม่ได้นับญาติ อย่ามาตีซี้กะกู ”
เป็นไงล่ะ! หน้าแหกแสกกลางกบาลเลยมั้ยล่ะมึง
“ งั้นก็อย่ามายุ่งดีกว่า เรื่องนี้มันเรื่องระหว่างผมกับไอ้ชานยอลมัน ” แต่ไอ้ยงชุนก็ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจที่จะวอนโดนพระบาทประทับตราบนหน้าเหียกๆนั่น
“ ถ้ากูบอกว่าชานยอลเป็นคนของกู มึงจะมีปัญหาอะไรมั้ย ”
ปร๊าดดดดดติโถถถถถถ
เป็นไงๆ ลูกพี่กูกล้าป่ะละๆ
ว่าแต่กูไปเป็นพวกกะพี่ท่านตั้งแต่เมื่อไร????
“ มันเนี่ยนะ!! ฮ่าๆ!!หน้าอ่อนๆอย่างมันเนี่ยนะพี่เอาเข้าพวกด้วย อยากจะขำให้ไส้ทะลัก ฮ่าๆ!!”
เดี๋ยวกูนี่แหละจะยันมึงให้ฉี่ทะเล็ดเลยเดี๋ยวก่อนๆ
หน้าอย่างกูวูซูระดับเทพ ถถถ ไม่อยากจะคุย!
“ ชานยอล แฟนกู จบนะ ถ้าไม่จบ มึงก็เตรียมโลงซะ เพราะกูจะทำให้มึงไปอยู่ในนั้นเอง ”
เป็นไง
เงิบแอนด์แด็กซ์จุดไปเลยล่ะสิ.....
เออ กูด้วย!!!!!!
คืออัลไลลลลล!!!!!
กูถามคุณมึงว่าคืออะไรครับ!!!
ไม่ว่าเปล่า มือหนายังถือวิสาสะ จับหมับที่ข้อมือของผม ก่อนจะออกแรงกระตุกเล็กน้อยเป็นเชิงบอกว่าให้เดินตามไป….
....ซึ่งมันก็ใช้ได้ผลกับคนที่กำลังมึนๆอย่างกูซะด้วย
ผมที่ยังคงช็อคอยู่ก็ได้แต่เดินตามพี่แกไปอย่างงงๆ พลางหันหน้าและส่งสายตา SOS ขอความช่วยเหลือ กับบรรดาเพื่อนรักทั้งสอง
OUO; <<<< และใบหน้าที่ได้ตอบกลับมาก็เป็นแบบนี้
พร่องเถอะ!!! ช่วยกูววได้มากอ่ะเพื่อน
ครั้นจะหันไปSOS กับบรรดาผัวเด็กของพวกมัน สองรายนั้นก็มีสีหน้าตะลึงตึงโป๊ะ ไม่ต่างกัน...
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน.....นี่คือสิ่งที่กูคิดได้ในตอนนี้
หลังจากที่อีพี่คริส...
ฟังไม่ผิดหรอกครัช กูเรียกมันว่าอีพี่คริสจริงๆ!!! นี่กูยังอุตส่าห์หลงเหลือความนับถือเรียกมึงว่าพี่อยู่นะ!!!
ก็นั่นแหละ หลังจากที่มันลากผมผ่านสายตาและกระแสจิตของบรรดาสาวกของมันที่ส่งคำถามมาพร้อมกับกระแสพลังงานแปลกๆ ที่อัดอั้นอยู่ในใจว่า….
คือไร!!!???
อิพี่คริสก็ไม่ได้ปริปากพูดอะไรอีกเลย เอาแต่จูงมือผมแล้วเดินดุ่มๆพามาข้างตึกวิทย์ ก่อนจะข้ามสะพานข้ามคลองน้ำเล็กๆในโรงเรียนไปยังสวนสนที่เป็นที่พักผ่อน
นี่ลากกูมาไกลเพื่อ!!!???
ไม่จับกูยัดใส่กระเป๋าแล้วแบกกลับบ้านเลยล่ะ ฮร่อกกกกกก!!!!!
“ ผมว่าพี่ปล่อยผมก่อนเถอะ ” ผมว่าพลางมองไปที่มือเพื่อสื่อถึงพี่มันว่า
เมื่อไหร่จะปล่อยกูครับ?
“ เอ่อ..พี่ขอโทษนะ” พี่คริสปล่อยมือข้างลำตัวก่อนจะเกาหัวอย่างอายๆ
อ่อ! หน้าคุณมึงหายด้านแล้วเรอะ??? อิที่พูดไปตอนนั้นควรอายกว่ามะ
แต่ผมก็ยังรู้กาลเทศะว่าไม่ควรพูดออกไปอย่างที่ใจคิด ก็ได้แต่พยักหน้าพลางยิ้มแหยๆให้พอเป็นพิธี
“ เล่นเอาผมงงเลยนะพี่ แหม...ตามมุขพี่ไม่ทันเลยฮ่าๆ ” แต่พอนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์เมื่อตะกี้ อยู่ดีๆใจก็ตุ้มๆต่อมๆ
ชานยอลหัวใจจิวาย นี่กูกลายเป็นสาวแรกแย้มตั้งแต่เมื่อไหร่????
“ พี่พูดจริงนะ” ถ้อยคำประกอบกับสีหน้าอันไม่มีคำว่า กูล้อเล่น ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา ที่ผมเพิ่งสังเกตเห็นของพี่คริส ก็ถึงกับอึ้ง
“ ที่บอกว่าผม เป็น แฟนพี่อ่ะนะ เฮ้ย! พี่ไม่ต้องมาอำเลย อย่าๆ ผมเป็นแฟนพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ”
“ ตอนนี้ไง...เป็นแฟนกับพี่นะ”
เฮ้ย! มันไม่ง่ายไปหน่อยเรอะ
นี่พี่แกเมาจูบจนสติฟั่นเฟือนเลยเหรอวะ แล้วกะจะให้กูรับผิดชอบช่ะ?
“ เฮ้ย! อะไรกันพี่ จู่ๆก็มาขอกันดื้อๆอย่างนี้เนี่ยนะ ผมกับพี่เพิ่งรู้จักกันวันนี้เองนะ ” เล่นตัวไว้ก่อนขุ่นหม่ามี๊สอนไว้
“ พี่รู้จักชานยอลตั้งนานแล้ว ” นานแค่ไหนกันเชียะ??
และดูเหมือนความคิดผมมันจะแสดงออกทางสีหน้า เพราะพี่คริสมันก็ได้อารัมบทยาวต่อ
“ ชานยอลเป็นม.ปลายเด็กปีสอง ห้องB เอกศิลป์คำนวณ มีเพื่อนสนิทสองคนชื่อ ลู่หานและแบคฮยอน ชานยอลไม่ชอบกินปลาหมึกย่างเพราะท้องเสีย แต่ถ้าเมนูอื่นที่ไม่ใช่ย่างจะกินได้ ชอบกินไก่ทอดกับต๊อกบกบีแบบเผ็ดๆ ชานยอลกินผักได้ทุกอย่างยกเว้นหอมใหญ่กับเห็ดทุกชนิด เพราะชานยอลแพ้ แล้วจะเป็นผื่นแดงเต็มตัว ทุกวันอาทิตย์ ชานยอลจะไปเล่นฟิตเนสตั้งแต่ เก้าโมงถึงเที่ยง ยกเวสหนักได้ไม่เกิน 3 กิโลกรัม หลังจากนั้นตอนเที่ยงจะชอบไปนั่งที่คาเฟ่ ไม่ก็ ร้านเบเกอร์รี่ฝั่งตรงข้ามกับฟิตเนส แล้วก็...ชานยอลเคยผ่าตัดไส้ติ่งตอนม.ปลายปีหนึ่ง จนต้องหยุดเรียนเกือบเดือน ยังมีอีกนะจะฟังมั้ย ”
บอกได้คำเดียว...
ขุ่นพระ!!!!!!!! รู้ยันไส้ติ่ง!!!!
นอกจากไอ้ลู่กับไอ้แบคแล้ว ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ
ขุ่นพี่รู้ลึก รู้จริง ยิ่งกว่าคมชัดลึก!
“ พอแล้วพี่ เชื่อแล้วว่ารู้จักผม...ว่าแต่พี่รู้ได้ไงอ่ะ ”
“ ไม่แปลกหรอก ถ้าเราสนใจใครซักคนแล้วอยากรู้จักเค้าคนนั้นมากขึ้น ”
กูสมควรเขินใช่มั้ย!!?
อย่างนี้ไม่ได้เรียกว่าสนแล้ว!! เรียกสโตกเกอร์เหอะพี่!!!
นี่ถ้าแหกกางเกงในดูได้ คงรู้แล้วล่ะว่าวันนี้กูใส่สีอะไรมา -*-
คำคมสำหรับวันนี้....หน้าหล่ออย่างนี้ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่โรคจิตนะครับ!!
“ ว่าไงล่ะ ตกลงจะคบกับพี่มั้ย ”
“ เอ่อ..คือ..ผม ผม..” ถ้าเป็นตอนแรกจะตอบดังฟังชัดเลยว่าไม่!!!
แต่ตอนนี้เริ่มลังเลแล้วไง
ชานยอลคนแมนแสนสะท้านหายไปหนายยยยยยย
“ ถ้ารู้สึกดีเหมือนกัน ถึงแม้จะช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็เรียนรู้กันต่อไปได้ไม่ใช่เหรอ ” พี่คริสว่าพลางเอามือมายีหัวผมเล่น
อย่าสิ เดี๋ยวกูหวั่นไหว
แต่ก็ไม่ทันแล้ว...
“ ลองดูก็ไม่เสียหายหนิ ทนนิสัยผมให้ได้ก็แล้วกัน ”
.
.
.
“ ห๊า!!!!!!!! คบกัน!!!! ตอนไหนวะ” สองเสียงเพื่อนรักประสานดั่งโอเปร่า
กูรู้ว่าพวกมึงเสียงดีกัน แต่เบาหน่อยก็ได้ ขี้หูกูจะทะลักแล้วเนี่ย
“ เมื่อบ่าย แค่ดูๆกันไปก่อน อย่าเวอร์น่า ไปล่ะ เดี๋ยวพี่คริสมารับ ไม่ต้องรอกลับพร้อมกันนะ ”
พูดจบตัวปัญหาก็เดินลอยหน้าลอยตาออกนอกห้องไปทิ้งเพื่อนสองตัวไว้ให้มองหน้ากันตาปริบๆ พลางส่งสายตา SOS ใส่กัน...
...ช่วงนี้ใครก็ได้ช่วยชี้แนะพวกกูที!!!!!...
END
Talk: ช่วงนี้พยายามรีไรท์ฟิคใหม่ ให้ภาษามันละมุน? กว่าเดิมขึ้นมาติ้ดนึง ถ้าอ่านแล้วขัดใจยังไง เม้นติชมไว้ข้างล่างเน้อ..
ความคิดเห็น