ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Krisyeol ft. all member of exo

    ลำดับตอนที่ #12 : 10.Peek me! 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 551
      8
      25 ก.ค. 58

    Peek me!?

    Couple : KrisYeol

    Author:  KC_NeNe’s

     




    ปรี๊ดดดด!!!!!

     




    เฮ!   เฮ!   เฮ




    กรี๊ดดดดด!!!!!! 




    วี๊ดดดด!!! ว้ายยยยย!!!!!

     



    เอิ่ม! ไม่ต้องบอกก็จินตนาการกันออกใช่มั้ยว่านี่คือบรรยากาศข้างสนามกีฬา

     


    “เทาย่าห์!!!!!! จะหมดเวลาแล้ว!! สู้ๆน้า!!!” เสียงไอ้หมาแบค 



    “เซฮุนน่า!!!! สู้!!!!ๆๆๆ” ไอ้บาร์บี้ลู่




    “........” ส่วนนี่คือสภาพของผม  -__- ++   

     




    ..กูมาทำอะไรที่นี่?   ตอบ!!!



     

    ...ก็แบบว่า  เข้าใจนะว่าไอ้สองตัวนั่นมันมาเชียร์เด็กของพวกมัน

     



    ..แต่!!!???....

     



    ..ประเด็นมันอยู่นี่....มันอยู่ตรงที่ว่าจะลากกูมาเพื่อ!!!???




     ช่วยถามกูซักคำมะว่ากูอยากมากับเพื่อนท่านทั้งสองหรือเปล่า?  อุตส่าห์วางแผนกะไอ้จงอินไว้ว่าจะนัดน้องโซยอนไปสวีทวี้วี ตอนบ่ายนี้ สุดท้ายกูก็มานั่งอาลัยตายแหงกอยู่อย่างเงี้ย!!!??? 

     



    เฮ้อ! ชีวิตอันน่าหดหู่ของพี่ยอล

     



    การแข่งขันบาสฯยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ  เหลือเวลาแค่สามนาทีก็หมดควอเตอร์สุดท้ายแล้ว... 

     




    ..จะจบเกมส์แล้วโฟร้ยยยยย!!!!

     



     เหน็บรับประทานตั้งแต่ปลายตาตุ่มไปยังไขสันหลังแล้ว นี่ถ้านั่งต่ออีกซักครึ่งชั่วโมง สงสัยกูคงจะได้เป็นอัมพาตตั้งแต่ยังหนุ่มยังแน่นแหงๆ  กระซิกT_T

     



    อ่อ! นี่ผมลืมบอกไปใช่มั้ยว่าไอ้เกมส์ที่ ท่านเพื่อนตัวดีลากให้มานั่งหน้าสลอนเนี่ย มันคือการแข่งบาสฯเยาวชนรอบคัดเลือกระหว่างโรงเรียนมัธยมปลายของผมกับอีกโรงเรียนหนึ่ง  โดยมีกฎให้แต่ละโรงเรียนเอานักเรียนที่อยู่ตั้งแต่ม.ปลายปีหนึ่งถึงปีสามมารวมทีมกัน และแน่นอนว่าสองคนนั้นคือจื่อเทากับเซฮุน รุ่นน้องที่ฮอตสุดๆตั้งแต่เป็นเฟรชชี่ปีหนึ่ง เด็กของไอ้แบคฮยอนกะไอ้ลู่หานมัน 




    “ กรี๊ดดดด!!!!  เทา!!!! สามแต้มๆ!!! ” น้องเทาขวัญใจพี่แบค ชู๊ตบาสลงแป้นอย่างสวยงาม เรียกเสียงกรี๊ด จากกองเชียร์และเมียมันได้อย่างดี 

     


    ...เอิ่ม..ไอ้แบค  เสียงอย่างเดียวพอ ท่ามึงไม่ต้องมาเต็มขนาดนั้นก็ได้  



    ส่ายซะ  ลูกปิงปองมึงแกว่งจะกระแทกเบ้าหน้ากูแล้วเนี่ย  ห่าน!!!!!! - -* 




    “ อร๊ายยยย! แก๊!!!!!!!!!!!แกๆ ดูนั่นๆ พี่คริสเขาปาดเหงื่ออ่ะ อยากวิ่งเข้าไปซับให้สุดๆเลยอ่ะ กรี๊ดดดดด!!!”  



    ให้ตายเถอะแม่คุณ- -*  



    เส้นเสียงพันแปดหลอดหรอครับ!?

     


    ผมมองตามนิ้วเรียวสวยของสาวๆข้างๆ ไปทิศทางในสนามแข่ง

     



    จุดหมายปลายทางจึงหยุดอยู่ที่……..

     




    ......เอ๊ะ! นั่นมัน...!!!!!!??????

     



    !!!!!!!!???????

     



    !!!!!!!!!!???????

     




    ไอ้ยงชุน!!!!อ้ศัตรูตัวฉกาจ! ไอ้มารหัวใจ!  




     

    ..ครั้งที่แล้วที่มันมาเต๊าะน้องซันนี่ เด็กม.ปลายปีหนึ่งของโรงเรียนผมถึงถิ่น มันหยามหน้ากันเกินไปแล้ว   


    แล้วนั่น! มันแย่งบอลกับใครวะ

     



    “ อร๊ายยยย!!! ไอ้บ้าหัวแดงนั่นมันเอาแต่แย่งกะขัดพี่คริสอย่างเดียวเลยอ่ะแก ดูสิ ยอมไม่ได้!!! ” สองสาวที่นั่งข้างๆยังคงเกรี้ยวกราดต่อไป เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังขัดขวางพ่อรูปหล่อของพวกหล่อนอยู่ 


     ไม่ต้องเดาก็น่าจะรู้แล้วล่ะว่าไอ้ผมทองนักบาสฝั่งของโรงเรียนผมที่กำลังปัดป่ายบ่ายเบี่ยงเลี้ยงลูกบาสอยู่คือ พี่คริส แน่นอน เพราะไอ้หัวแดงที่กำลังแย่งบาสพี่คริสสุดหล่อ(ซึ่งน้อยกว่าผม)ของสาวๆคือไอ้ยงชุนนั่นเอง

     

    “ กรี๊ดดดด!!!!! พี่คริสๆๆๆๆๆๆๆ” บริเวณทั้งซ้ายขวาหน้าหลังของผมเริ่มอังกอร์เป็นเสียงเดียวกันหลังจากที่ไอ้คนที่ชื่อพี่คงพี่คริสอะไรนั่นแย่งบาสมาได้แล้วเลี้ยงลูกหลบหลีกมาจนเกือบถึงแป้นของอีกฝ่าย  


    ผมแอบเห็นไอ้ยงชุนมันสะดุดขาไอ้พี่คริสแวบนึงด้วยแหละ เยี่ยม!!!!



    “ อย่างนั้นแหละพี่ วู้!!!! ไปเลย!!! แย่งมันเลย!! วู้ๆ!!!! ” สองมือยกขึ้นป้องปากตัวเอง แล้วตะโกนสุดเสียงลงไป ยิ่งเห็นไอ้ยงชุนมีทีท่าหงุดหงิดด้วยแล้ว ยิ่งหนับหนุนท่านพี่คริส(เปลี่ยนสรรพนามอย่างฉับพลัน)แย่งบาสจากมันมากขึ้น มากขึ้น มากซะจนคนรอบข้างพากันงงและเงียบ ทำให้เสียงทุ้มตะโกนเย้วๆของผมดังไปยันสนามแข่ง

     



    ..รู้ได้ไงน่ะเหรอ

     



    ก็พี่คริสเค้าหันมามองผมที่ตะโกนแหกปากอยู่ ก่อนจะส่งยิ้มแบบ..เค้าเรียกว่าอะไรนะ ยิ้มเจ้าชายอย่างนั้นเหรอ ที่ทำให้คนมองละลายได้มาให้ผมน่ะสิ!!!

     



    ..แต่พี่...ผมแมนนะ  บอกไว้เลย ณ จุดจุดนี้ =  =*

     



    “ เฮ้ย! มึงรู้จักพี่คริสด้วยเหรอ ” เป็นไอ้แบคฮยอนที่นั่งข้างๆสะกิดถาม หลังจากที่ผมหยุดตะโกน แล้วกลับมานั่งลงตามเดิม


    “ ป่าวหรอก เห็นเค้าตะโกนกัน เลยอยากทำมั่ง ” ผมตอบไปอย่างใจคิด  คือจริงๆนะว่าผมไม่ได้เกิดพิศวาสอะไรหมอนั่นหรอกนะ แค่สะใจเมื่อเวลาที่เห็นไอ้ยงชุนมันหัวเสียเวลาที่พี่ท่านแย่งบาสมาจากมันได้ ก็เท่านั้นเอง....



    เท่านั้นจริงๆ


     

    “ แต่มึงออกจะเด่นไปหน่อยนะ  เอาซะพวกกูงงเลย ” ลู่หานยื่นหน้ามาพูดบ้าง


    “ไม่ต้องสนกูหรอก เชียร์เด็กของพวกมึงไปนู้นไป นั่นน่ะ น้องฮุนมึงเลี้ยงบาสอยู่นั่นน่ะ” ผมว่าพลางชี้ไปที่สนาม และได้ผล ลู่หานหันขวับไปที่สนามทันที

     


    ...ผัวเด็กย่อมมีระดับความสำคัญที่แตกต่างกับเพื่อน!!!  เป็นคำคมที่ได้มาจากไอ้ลู่หาน

     

    และแล้วการแข่งขันก็สิ้นสุดลง และก็แน่นอนว่าโรงเรียนผมเป็นฝ่ายชนะ 


    วะฮ่าๆ สะใจไอ้ยงชุน 



    ว่าแล้วก็ขอเสนอหน้าไปตอกย้ำซ้ำเติมมันซักหน่อย ฮุฮิๆๆ 

     


    “ อ่าว นั่นมึงจะไปไหนน่ะ” แบคฮยอนหันมาถามหลังจากที่ซับเหงื่อให้ที่รักของมันเสร็จ


    “ เดี๋ยวกูมาแปร๊บ ”  ผมหันกลับไปบอกอย่างอารมณ์ดี 



    ก่อนจะหันกลับเห็นเงากลมๆแวบตรงดิ่งมาที่หน้าหลังจากหันกลับไป

     



    พลั่ก!!!!

     


    ดั้งกูววววว!!!  



    ไอ้เวรรรรร!!!! ใครปามาวะ ฟรั๊คคคคค!!!!!

     



    ถ้าจะกระแทกกูแรงขนาดนี้ เอาตีนมายันกูเลยดีกว่าครับ!  ไอ้ห่านนนน!!!!!!!!!!!

     


    หลังจากที่นั่งก้นจ้ำบ้ำไปกับพื้น ก็เริ่มรู้สึกเหมือนจะมีปัญหากับโพรงจมูกเริ่มแทรกเข้ามาแทนที่

     



    ......ทำไมมันแสบๆจังวะ??…..

     



    ไม่ว่าเปล่า ผมลองเอามือแตะๆที่ปลายรูจมูก ความรู้สึกเหนียวชืดติดมาที่ปลายนิ้ว พอเอาออกมาดูเท่านั้นแหละ......

     



    ขึ้นเลย...ขึ้น!!! ของขึ้นเลย!!!!

     



    “ สัด!!!! ใครปามาวะ!!! ” นั่นไม่ใช่เสียงผมนะสาบานได้   



    เป็นเสียงท่านพี่คริสที่พุ่งเข้ามาหาผมทันทีที่ตั้งสติได้  ยิ่งพี่ท่านเห็นเลือดกำเดาที่ไหลออกด้วยแล้ว ยิ่งทำให้อารมณ์พี่แกขึ้นจนปรอทแตกยิ่งกว่าผมซะอีก

     


    ...เอ่อ..พี่..บทโมโหมันต้องเป็นผมไม่ใช่เรอะ!!??  รูจมูกของกูนะได้ข่าว???

     


    “ กูถามว่าใครปาลูกบาสมา!!!! ” เหมือนเสียงฟ้าผ่าลงมาในบริเวณนั้น  และก็เหมือนทุกคนจะถูกฟ้าผ่าตายห่ากันหมดแล้ว 

     


    ...เงียบ....

     


    ..และ เงียบมาก 



     ขนาดกรรมการยังเป็นใบ้  ขนาดที่ว่าใครคิดที่จะระบายอากาศยังได้ยินแม้กระทั่งเสียงแก้มก้นที่เกร็งขมิบตดเลยอ่ะคิดดู =  = 




     ถ้าเสียงท่านพี่คริสจะมีอำนาจขนาดนี้ละก็นะ  ผมยกขึ้นหิ้งบูชาให้เป็นว่าที่ไอดอลไปนานแล้ว

     


    “ เอ่อ..พี่..ผมไม่เป็นไรแล้ว  ใจเย็นๆพี่ ใจเย็น ” ผมยกมือขึ้นตบบนไหล่กว้างเบาๆเป็นเชิงปลอบ

     


    นี่กูหรือพี่ท่านกันแน่ที่โดนบาสกระแทกเบ้าหน้า =  =  



    เกิดอาการงงๆเล็กน้อยในเซรีบั่ม!!??

     


    “ ไหนหันหน้ามาดูดิ๊ ”



     พอได้ยินดังนั้นผมก็รีบเสนอหน้าไปหาพี่เค้าทันที ไม่ใช่อะไรหรอกนะ คือแบบ กลัวพี่แกโมโหแล้วงาบหัวขึ้นมาจะยุ่ง  ยิ่งอยู่ใกล้มือใกล้ตีนพี่แกด้วยยิ่งหวาดๆ

     



    ..แต่ก็นะ  




    ใครมันจะไปรู้ว่าพี่ท่านจะยื่นหน้ามาหาผมเหมือนกัน

     



    จุ๊บ!

     





    ผมจะไม่อายมากขนาดนี้นะ ถ้าสายตาทุกคู่ทุกดวงไม่ได้จับจ้องมาที่พวกผม!!!!!!!!!

     

     

     

    ……….50%.................

     

     

     

    พลั่ก!

     


    ผมเผลอผลักไอ้พี่คริสให้ออกห่างจากตัว ก่อนจะพรูลมหายใจออกมา...

     




    ..ทำไมมันมวนๆในท้องจังวะ!!??

     



    “ อะ..เอ่อ...ขะ..ขอโทษฮะ  คือผมไม่คิดว่าพี่จะ..เอ่อ..ยื่นหน้าเข้ามาเหมือนกัน แฮะๆ” ผมว่าพลางเกาท้ายทอยหัวเราะแก้เก้อ

     



    แต่ดูเหมือนพี่เค้าจะยังไม่หายอึ้งซักเท่าไหร่ ที่จู่ๆ ก็เหมือนผมเป็นคนเสนอหน้าไปจุ๊บพี่เค้าเอง

     




    ..แหม ทำเป็นสาวน้อยโดนขโมยจูบแรกไปงั้นแหละ  แค่แตะๆเองนะโฟร้ยยยยย!!!!!

     



    “ เฮ้! ชานยอลเป็นไรเปล่า  เจ็บตรงไหนมั้ย ” ลู่หานที่ดูจะตั้งสติได้แล้วรีบวิ่งเข้ามาหาผมพร้อมพยุงให้ลุกขึ้น ตามมาด้วยเซฮุน ไอ้แบคฮยอนและจื่อเทา



    “ ไม่ว่ะ แค่เลือดกำเดาไหลน่ะ แต่หยุดแล้ว ” ผมตอบมันก่อนจะเอามือมาแตะๆที่จมูกก็พบว่าเลือดหยุดไหลและแห้งไปเรียบร้อยแล้ว



    “ เออใช่! เมื่อกี๊กูเหมือนจะเห็น....” ลู่หานลากเสียงยาวพลางเอามือถูริมฝีปาก แล้วมองหน้าผมกับคู่กรณีสลับกัน

     




    ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามันจะถามเรื่องอะไร - /// - 

     



    กูก็เขินเป็นป่ะไอสัด!  

     

     

    แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้แก้ตัวหัวชนฝา เสียงหมาๆก็ลอยมาขัดทางเดินขี้หูซะก่อน-*-

     



    “ แหมๆ หัวแข็งจริงนะ ว่าแต่ใครกันช่างกล้าทำร้ายหนุ่มหน้าหวานชานยอลได้ลงคอ ” เสียงเน่าๆและเป็นเชื้อโรคต่อระบบรูหูของผม ก็มีแค่ไอ้สารเวรยงชุนเท่านั้น!!!!!


     

    “ เฮ้ยๆ มึงไง มึงนั่นแหละที่ปาบอลมา กูเห็นนะไม่ต้องมาทำไก๋ ” จื่อเทาพูดพลางชี้หน้าไอ้ยงชุน หลังจากที่จ้องมองตาแทบถลน จนนึกได้ว่าเป็นมันที่ปาลูกบาสมาใส่ผม

     

    “ นี่มึงเล่นแรงขนาดนี้เลยเหรอ  กะกูมั้ยฮ่ะ!!!!!!” ว่าจบผมก็เดินไปกระชากคอเสื้อของมัน เตรียมพุ่งหมัดใส่ทันที

     


    หมั่นมือหมั่นตีนจริงๆ ฮึ่ย!!!!

     


     แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้สะบัดลวดลาย(?)ก็โดนมือหนาๆรวบไว้แล้วดันให้ไปอยู่ข้างหลังเขาแทน

     




    อะไรๆ!?? ผิดคิวแล้วเพ่!!!!!!!

     



    “ ทำไม ” ท่านพี่คริสถามพลางมองหน้าไอ้ยงชุนประหนึ่งมันเป็นคนที่คิดจะลอบเต๊าะเมียพี่เค้า ยิ่งเสียงทุ้มๆของท่านพี่คริสกดต่ำซะดิ่งลงถ้ำอีก

     



    .....อื้อหือ แค่พูดธรรมดา ชาวบ้านเค้าก็หดคอเป็นเต่าเข้ากระดองกันหมดแล้ว  ขนาดไอ้ยงชุนที่ทำหน้าอ้อนฝ่าตีนอยู่เมื่อกี๊ ยังเงิบรับประทานเล้ย

     



    “...............”     ณ จุดจุดนี้เป็นใครก็ใบ้แดก

     



    “ หูหนวกหรือไง!!! กูถามว่าทำไม!!!!!????? ” ระเบิดลงอีกตูมใหญ่  ยิ่งปิดทางเดินเสียงของไอ้ยงชุนเพิ่มขึ้นอีก

     



    เอาเซ่! ทำหน้าอ้อนลูกถีบแบบเมื่อกี๊อีกซี่!!!!!! ถถถถถถถ  ไอ้ยงชูนนนนนนนนนนนนน!!!!!!

     



    “ อะไรกันพี่ นี่มันเรื่องของผมกับไอ้ชานมัน ไม่เกี่ยวกับพี่น่า~”  มันว่าพลางเอามือตบต้นแขนพี่แกเบาๆ เชิงว่า.....  




    ......แหมๆอย่ามีเรื่องกันๆ......

     




    แต่มึงคือคนเริ่มเถอะสัสสส!!!!  อย่าแอ๊บเนียน ไอ้สตอยงชุน!

     



    “ ใครพี่มึง กูลูกคนเดียว กับมึงกูไม่ได้นับญาติ อย่ามาตีซี้กะกู ” 



     เป็นไงล่ะหน้าแหกแสกกลางกบาลเลยมั้ยล่ะมึง   

     


    “ งั้นก็อย่ามายุ่งดีกว่า เรื่องนี้มันเรื่องระหว่างผมกับไอ้ชานยอลมัน ” แต่ไอ้ยงชุนก็ยังไม่เลิกล้มความตั้งใจที่จะวอนโดนพระบาทประทับตราบนหน้าเหียกๆนั่น

     


    “ ถ้ากูบอกว่าชานยอลเป็นคนของกู มึงจะมีปัญหาอะไรมั้ย ” 


    ปร๊าดดดดดติโถถถถถถ 



    เป็นไงๆ ลูกพี่กูกล้าป่ะละๆ

     



    ว่าแต่กูไปเป็นพวกกะพี่ท่านตั้งแต่เมื่อไร????

     



    “ มันเนี่ยนะ!! ฮ่าๆ!!หน้าอ่อนๆอย่างมันเนี่ยนะพี่เอาเข้าพวกด้วย  อยากจะขำให้ไส้ทะลัก ฮ่าๆ!!” 



    เดี๋ยวกูนี่แหละจะยันมึงให้ฉี่ทะเล็ดเลยเดี๋ยวก่อนๆ 

     


    หน้าอย่างกูวูซูระดับเทพ  ถถถ ไม่อยากจะคุย!

     


    “ ชานยอล แฟนกู จบนะ ถ้าไม่จบ มึงก็เตรียมโลงซะ เพราะกูจะทำให้มึงไปอยู่ในนั้นเอง ”   


    เป็นไง



     เงิบแอนด์แด็กซ์จุดไปเลยล่ะสิ..... 

     

     


    เออ กูด้วย!!!!!!

     


    คืออัลไลลลลล!!!!!      



    กูถามคุณมึงว่าคืออะไรครับ!!!


     

    ไม่ว่าเปล่า มือหนายังถือวิสาสะ จับหมับที่ข้อมือของผม ก่อนจะออกแรงกระตุกเล็กน้อยเป็นเชิงบอกว่าให้เดินตามไป….

     



    ....ซึ่งมันก็ใช้ได้ผลกับคนที่กำลังมึนๆอย่างกูซะด้วย

     


    ผมที่ยังคงช็อคอยู่ก็ได้แต่เดินตามพี่แกไปอย่างงงๆ พลางหันหน้าและส่งสายตา SOS ขอความช่วยเหลือ กับบรรดาเพื่อนรักทั้งสอง

     


    OUO;  <<<< และใบหน้าที่ได้ตอบกลับมาก็เป็นแบบนี้

     


    พร่องเถอะ!!! ช่วยกูววได้มากอ่ะเพื่อน 



    ครั้นจะหันไปSOS กับบรรดาผัวเด็กของพวกมัน  สองรายนั้นก็มีสีหน้าตะลึงตึงโป๊ะ ไม่ต่างกัน...

     


    ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน.....นี่คือสิ่งที่กูคิดได้ในตอนนี้

     


    หลังจากที่อีพี่คริส...


    ฟังไม่ผิดหรอกครัช  กูเรียกมันว่าอีพี่คริสจริงๆ!!! นี่กูยังอุตส่าห์หลงเหลือความนับถือเรียกมึงว่าพี่อยู่นะ!!! 

     

    ก็นั่นแหละ หลังจากที่มันลากผมผ่านสายตาและกระแสจิตของบรรดาสาวกของมันที่ส่งคำถามมาพร้อมกับกระแสพลังงานแปลกๆ ที่อัดอั้นอยู่ในใจว่า….

     

    คือไร!!!???

     


    อิพี่คริสก็ไม่ได้ปริปากพูดอะไรอีกเลย เอาแต่จูงมือผมแล้วเดินดุ่มๆพามาข้างตึกวิทย์ ก่อนจะข้ามสะพานข้ามคลองน้ำเล็กๆในโรงเรียนไปยังสวนสนที่เป็นที่พักผ่อน

     


    นี่ลากกูมาไกลเพื่อ!!!???

     


    ไม่จับกูยัดใส่กระเป๋าแล้วแบกกลับบ้านเลยล่ะ  ฮร่อกกกกกก!!!!!

     


    “ ผมว่าพี่ปล่อยผมก่อนเถอะ ” ผมว่าพลางมองไปที่มือเพื่อสื่อถึงพี่มันว่า 



    เมื่อไหร่จะปล่อยกูครับ?


     

    “ เอ่อ..พี่ขอโทษนะ” พี่คริสปล่อยมือข้างลำตัวก่อนจะเกาหัวอย่างอายๆ

     


    อ่อ! หน้าคุณมึงหายด้านแล้วเรอะ???  อิที่พูดไปตอนนั้นควรอายกว่ามะ

     


    แต่ผมก็ยังรู้กาลเทศะว่าไม่ควรพูดออกไปอย่างที่ใจคิด  ก็ได้แต่พยักหน้าพลางยิ้มแหยๆให้พอเป็นพิธี

     


    “ เล่นเอาผมงงเลยนะพี่  แหม...ตามมุขพี่ไม่ทันเลยฮ่าๆ ” แต่พอนึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์เมื่อตะกี้  อยู่ดีๆใจก็ตุ้มๆต่อมๆ

     


    ชานยอลหัวใจจิวาย   นี่กูกลายเป็นสาวแรกแย้มตั้งแต่เมื่อไหร่????

     


    “ พี่พูดจริงนะ” ถ้อยคำประกอบกับสีหน้าอันไม่มีคำว่า กูล้อเล่น ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา ที่ผมเพิ่งสังเกตเห็นของพี่คริส ก็ถึงกับอึ้ง

     

    “ ที่บอกว่าผม เป็น แฟนพี่อ่ะนะ  เฮ้ย! พี่ไม่ต้องมาอำเลย อย่าๆ ผมเป็นแฟนพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ”

     

    “ ตอนนี้ไง...เป็นแฟนกับพี่นะ”  


     เฮ้ย! มันไม่ง่ายไปหน่อยเรอะ


     นี่พี่แกเมาจูบจนสติฟั่นเฟือนเลยเหรอวะ แล้วกะจะให้กูรับผิดชอบช่ะ?

     

    “ เฮ้ย! อะไรกันพี่ จู่ๆก็มาขอกันดื้อๆอย่างนี้เนี่ยนะ ผมกับพี่เพิ่งรู้จักกันวันนี้เองนะ ” เล่นตัวไว้ก่อนขุ่นหม่ามี๊สอนไว้

     

    “ พี่รู้จักชานยอลตั้งนานแล้ว ”  นานแค่ไหนกันเชียะ??

     


    และดูเหมือนความคิดผมมันจะแสดงออกทางสีหน้า  เพราะพี่คริสมันก็ได้อารัมบทยาวต่อ

     


    “ ชานยอลเป็นม.ปลายเด็กปีสอง ห้องB เอกศิลป์คำนวณ มีเพื่อนสนิทสองคนชื่อ ลู่หานและแบคฮยอน ชานยอลไม่ชอบกินปลาหมึกย่างเพราะท้องเสีย แต่ถ้าเมนูอื่นที่ไม่ใช่ย่างจะกินได้  ชอบกินไก่ทอดกับต๊อกบกบีแบบเผ็ดๆ  ชานยอลกินผักได้ทุกอย่างยกเว้นหอมใหญ่กับเห็ดทุกชนิด เพราะชานยอลแพ้ แล้วจะเป็นผื่นแดงเต็มตัว ทุกวันอาทิตย์ ชานยอลจะไปเล่นฟิตเนสตั้งแต่ เก้าโมงถึงเที่ยง  ยกเวสหนักได้ไม่เกิน 3 กิโลกรัม หลังจากนั้นตอนเที่ยงจะชอบไปนั่งที่คาเฟ่  ไม่ก็ ร้านเบเกอร์รี่ฝั่งตรงข้ามกับฟิตเนส  แล้วก็...ชานยอลเคยผ่าตัดไส้ติ่งตอนม.ปลายปีหนึ่ง จนต้องหยุดเรียนเกือบเดือน  ยังมีอีกนะจะฟังมั้ย ”  



    บอกได้คำเดียว...

     

    ขุ่นพระ!!!!!!!!  รู้ยันไส้ติ่ง!!!!      



    นอกจากไอ้ลู่กับไอ้แบคแล้ว ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ  



    ขุ่นพี่รู้ลึก รู้จริง ยิ่งกว่าคมชัดลึก!

     



    “ พอแล้วพี่ เชื่อแล้วว่ารู้จักผม...ว่าแต่พี่รู้ได้ไงอ่ะ ”

     



    “ ไม่แปลกหรอก ถ้าเราสนใจใครซักคนแล้วอยากรู้จักเค้าคนนั้นมากขึ้น ”  



    กูสมควรเขินใช่มั้ย!!?

     



    อย่างนี้ไม่ได้เรียกว่าสนแล้ว!!   เรียกสโตกเกอร์เหอะพี่!!! 



     นี่ถ้าแหกกางเกงในดูได้ คงรู้แล้วล่ะว่าวันนี้กูใส่สีอะไรมา -*-

     


    คำคมสำหรับวันนี้....หน้าหล่ออย่างนี้ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่โรคจิตนะครับ!!

     


    “ ว่าไงล่ะ  ตกลงจะคบกับพี่มั้ย ”

     


    “ เอ่อ..คือ..ผม ผม..”  ถ้าเป็นตอนแรกจะตอบดังฟังชัดเลยว่าไม่!!!  



     แต่ตอนนี้เริ่มลังเลแล้วไง

     


    ชานยอลคนแมนแสนสะท้านหายไปหนายยยยยยย

     


    “ ถ้ารู้สึกดีเหมือนกัน ถึงแม้จะช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็เรียนรู้กันต่อไปได้ไม่ใช่เหรอ ” พี่คริสว่าพลางเอามือมายีหัวผมเล่น

     


    อย่าสิ เดี๋ยวกูหวั่นไหว

     



    แต่ก็ไม่ทันแล้ว...



    “ ลองดูก็ไม่เสียหายหนิ  ทนนิสัยผมให้ได้ก็แล้วกัน ”



    .



    .



    .


    “ ห๊า!!!!!!!! คบกัน!!!!   ตอนไหนวะ” สองเสียงเพื่อนรักประสานดั่งโอเปร่า


     

    กูรู้ว่าพวกมึงเสียงดีกัน แต่เบาหน่อยก็ได้ ขี้หูกูจะทะลักแล้วเนี่ย


     

    “ เมื่อบ่าย แค่ดูๆกันไปก่อน อย่าเวอร์น่า ไปล่ะ เดี๋ยวพี่คริสมารับ ไม่ต้องรอกลับพร้อมกันนะ ”

     


    พูดจบตัวปัญหาก็เดินลอยหน้าลอยตาออกนอกห้องไปทิ้งเพื่อนสองตัวไว้ให้มองหน้ากันตาปริบๆ พลางส่งสายตา SOS ใส่กัน...

     



    ...ช่วงนี้ใครก็ได้ช่วยชี้แนะพวกกูที!!!!!...

     



    END

     


    Talk:  ช่วงนี้พยายามรีไรท์ฟิคใหม่ ให้ภาษามันละมุน? กว่าเดิมขึ้นมาติ้ดนึง  ถ้าอ่านแล้วขัดใจยังไง เม้นติชมไว้ข้างล่างเน้อ..

     

      

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×