ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ LOUDER ] YOU ARE MY RISK. {HUNSUN/ETC.}

    ลำดับตอนที่ #2 : #RISK | 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 303
      2
      6 เม.ย. 61

    LOUDER


    Oh yeah yeah oh yeah yeah
    별 관심이 없는 척
    พยอล ควัน ชิม มี ออบ นึน ชอก
    ผมหลบเลี่ยงสายตาของคุณ

    시선을 피해서 가
    ชี ซอ นึล พี เฮ ซอ กา
    แสร้งทำเหมือนไม่ได้สนใจ

    이해해 모든 걸, 걸어야만 할 테니까
    อี เฮ เฮ โม ดึน กอล คอ รอ ยา มัน ฮัล เท นี กา
    ช่วยเข้าใจด้วย ผมต้องเสี่ยงกับทุกๆ อย่างที่มี เพียงคุณแค่เดินผ่านไป

    스쳐만 봐도 Oh yeah
    ซือ ชยอ มัน บวา โด Oh yeah
    แล้วผมก็ได้เห็น Oh yeah

    다른 여자와는 확 달라
    ทา รึน ยอ จา วา นึน ฮวัก ทัล รา
    คุณช่างแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น

    뒤돌아봐도 분명
    ทวี โท รา บวา โด บุน มยอง
    ตอนที่ผมมองกลับไป

    내게 찾아온 Luck
    เน เก ชา จา อน Luck
    โชคชะตาจะยังตามหาผม









    RISK-1| Destiny




    "ซันนี่ช่วยเอาไปเสิร์ฟที่โต๊ะ 7 ทีจ๊ะ" เสียงของพี่กาฮีสาวสวยเจ้าของร้านเรียกฉันที่กำลังล้างเเก้วกาแฟอยู่ให้เอาของไปเสิร์ฟให้ลูกค้า

    "ค่า" ฉันเดินไปถือทานที่ใส่พวกเค้กและกาแฟเดินไปเสิร์ฟที่โต๊ะ 7 ตามคำสั่ง

    "วันนี้อยู่ดึกได้มั้ย?" พี่กาฮีถามฉันอีกครั้งเมื่อฉันเอาถาดมาคืน

    "ดูเหมือนจะไม่ได้ค่ะพี่ เพราะซันต้องเข้ากะที่ร้านไก่ทอดต่อตอนหกโมงเย็น" ฉันตอบพี่สาวคนสวยไป

    "อ่านั่นสินะ ซันนี่คนขยันของเราไม่ได้ว่างตลอดเวลานี่หน่า จะทำยังไงให้เธอมาทำงานประจำที่ร้านนี้ได้นะ" พี่กาฮียิ้มให้ฉันเพราะที่รู้ๆกันว่าฉันทำงานหลายอย่างเพื่อหาเงินให้ครอบครัวที่กลายเป็นบุคคลล้มละลาย เเถมยังเป็นหนี้ก้อนโตอีก

    "ซันก็อยากมีงานประจำทำนะพี่ เเต่ดูเหมือนจะไม่พอกิน" ฉันตอบพี่กาฮีไป

         ฉันชื่อลี ซันนี่ หรือที่เพื่อนๆพี่ๆเรียกว่าซันนี่นั่นแหละ ชีวิตที่โคตรจะปากกัดตีนถีบของฉันเริ่มต้นขึ้นเมื่อพ่อกับเเม่ถูกฟ้องล้มละลายเพราะธุรกิจขาดทุนจนติดลบ ตอนนั้นเหรอฉันอายุ 16-17 เองมั้ง นั่นคือจุดเริ่มต้นการทำงานพาทไทม์ทุกอย่างของฉัน ตอนเช้ารับจ้างส่งนม สายทำงานร้านกาแฟ ดึกทำงานร้านไก่ทอด ตลอดระยะเวลาเกือบห้าปีนี้สนุกและหรรษาอย่าบอกใครเลยหล่ะเหอะๆ ฉันเป็นผู้หญิงที่ไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตเเบบผู้หญิงสักเท่าไหร่ เพราะไม่เคยได้เเต่งหน้าหรือเเต่งตัวสวยๆ ไม่ต้องถามว่าเพราะอะไรนะก็เพราะไม่มีเงินยังไงหล่ะ ฉันส่งตัวเองเรียนด้วยน้ำพักน้ำเเรงของตัวเองเนี่ยะเเหละ ขอทุนทุกอย่างที่มีในมหาลัย อาศัยการทำงานช่วยมหาลัยเลยได้ทุนจนเรียนจบมาถึงทุกวันนี้ เเต่ก็ยังไม่มีงานดีๆทำ เพราะอะไรหน่ะเหรอ ถ้าฉันเอาเวลาไปหางานทำแม้เเต่วันเดียว รายได้ของฉันในวันนั้นก็จะไม่มีเลย ฉันเลยยอมเสียสละเพื่อจะทำให้ครอบครัวไม่ลำบาก กตัญญูมั้ยละฉันเนี่ยะ อายุ 22 เเล้วเเต่ไม่เคยได้ใช้ชีวิตตามใจตัวเองซักที... ญาติๆพอรู้ว่าที่บ้านล้มละลายก็ไม่ติดต่อมาหรือมาช่วยเหลือ เลยทำให้ฉันต้องสู้ชีวิตเเบบนี้ยังไงหล่ะ เงินทุกบาทสำหรับฉันมันมีค่ามากเลยหล่ะ...เเต่ฉันเกลียดพวกคนรวย ไม่ได้อิจฉานะเเต่เพราะว่าฉันลำบากที่ต้องหาเงินมาใช้เเต่พวกมีเงินกลับใช้จ่ายเงินเหล่านี้อย่างไม่เห็นค่า นึกถึงเวลาเค้าตีราคาของทุกอย่างด้วยเงินสิ คงซื้อได้เเม้กระทั่งชีวิตคน

    "เเล้ววันนี้พ่อหนุ่มสุดหล่อไม่เเวะมาหาเหรอ?"

    "มาร์คหน่ะเหรอคะ? เค้าคงช่วยงานที่บริษัทของพ่อเค้านั่นแหละคะ"

    "เเล้วคบกันมานานรึยังอ่ะ"

    "ฮ่าๆ ซันกับมาร์คเนี่ยะนะพี่ เป็นไปไม่ได้หรอกค่าเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งเเต่เด็กๆแล้ว" ฉันหัวเราะกับสิ่งที่พี่กาฮีคิด มาร์คกับฉันเนี่ยะนะ555 เค้าเป็นเพื่อนของฉันตั้งเเต่วัยเด็กสมัยที่พ่อเเม่ยังมีธุรกิจที่รุ่งเรืองแหละนะ พ่อกับเเม่ของเค้าก็เป็นเพื่อนกับพ่อแม่ของฉันเนี่ยะเเหละ จนกระทั่งครอบครัวฉันล้มละลายครอบครัวมาร์คก็พยายามช่วยเหลือมาตลอดเเต่ฉันปฏิเสธ เพราะไม่อยากเป็นหนี้ชีวิตใคร ตราบใดที่ยังไม่ตายเราก็หาเงินเองได้นี่หน่า เราก็มีมือมีเท้าเหมือนกันไม่ใช่รึไง ขนาดเค้าบอกให้ฉันไปทำงานที่บริษัทของพ่อเค้าฉันยังไม่เอาเลย ได้โดนมองว่าใช้เส้นเข้าเเน่ๆ

    "แหม ก็มาหากันออกจะบ่อยนิ พี่ก็นึกว่าเป็นเเฟนซันซะอีก"

    "เพื่อนสนิทเท่านั้นเเหละพี่" นอกจากมาร์คเเล้วยังมีเเทยอนอีกคนที่เป็นเพื่อนรักของฉัน ยัยนี่เป็นสุดยอดเพื่อนรักเลยแหละ ไม่ว่าฉันจะโดนล้อเรื่องบ้านล้มละลายหรือจนยังไงยัยซันจะปกป้องเเละด่าพวกที่ดูถูกฉันเสมอ เเละบอกให้ฉันอย่าคิดว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่น

    "ถ้าวันนี้ซันไม่อยู่พี่เก็บร้านตอนหกโมงเลยแล้วกัน ถ้าซันรีบไม่ต้องอยู่ช่วยพี่เก็บร้านนะ เดี๋ยวให้ลูน่ากับแอมเบอร์ช่วยเก็บเองจ๊ะ" ที่ฉันสบายใจจะทำงานที่นี้ก็เพราะพี่ๆมักจะใจดีกับฉัน เพื่อนที่ร้านเองก็เหมือนกันฉันเลยทำงานที่นี้มาได้นานขนาดนี้

    "ขอบคุณค่าพี่กาฮี ไว้ซันจะทำงานชดเชยให้วันหลังน้า" ฉันยิ้มหวานให้พี่กาฮีก่อนจะโค้งให้เธอเเละเปลี่ยนชุดไปเข้ากะที่ร้านไก่ทอดต่อ  ฉันทำงานสิบแปดชั่วโมงเต็มต่อหนึ่งวัน สุดยอดมั้ยละฉัน

    "ลูน่าา แอมเบอร์ ซันไปก่อนนะ" ฉันโบกมือให้เพื่อนร่วมงานก่อนจะออกจากร้านเเละควบมอเตอร์ไซต์คนเก่งที่ซื้อมือสองมาจากร้านขายของเก่ากว่าจะเก็บเงินซื้อได้เลือดตาเเทบกระเด็น ถึงจะเก่าเเต่เจ๋งนะเเถมสียังหวานเหมือนหน้าคนขับด้วย อิอิ








    "น้าจีวอนขาาาา ซันมาเเล้วค่าาาา" ฉันทักทายน้าจีวอนเมื่อเดินเข้ามาในร้าน

    "มาเเล้วเหรอ เเหมตรงเวลาจริงๆเลยเด็กคนนี้"

    "วันนี้มีออเดอร์เยอะมั้ยคะ" ฉันถามหางานทันทีเมื่อมาถึง

    "ออเดอร์ไม่เท่าไหร่หรอก เเต่คนส่งไก่หน่ะสิวันนี้ขอลาเพราะท้องเสีย น้ากำลังหาคนมาทำแทนอยู่เนี่ยะ"

    "ถ้าออเดอร์ไม่เยอะให้ซันช่วยทำส่วนของเเบมแบมมั้ยคะ เดี๋ยวซันจะไปส่งไก่เเทนเเบมเเบมเอง"

    "จะไหวเหรอเราหน่ะ"

    "แหมน้าจีวอน เห็นซันตัวเล็กๆแต่มีเเรงเหลือเฟื้อน้าา"

    "เอางั้นก็ได้ เดี๋ยวน้าจะให้ค่าเเรงเพิ่มอีกครึ่งนึง"

    "น้าจีวอนนอกจากจะสวยเเล้วยังใจดีอีกนะเนี่ยะ" ฉันยิ้มหวานให้น้าจีวอน

    "ปากหวานจริงๆเลยยัยเด็กคนนี้ รอบที่ต้องไปส่งรอบเเรกของวันนี้คือทุ่มนึงนะ"

    "งั้นซันไปทอดไก่รอเลยดีกว่าคะ จะได้ทันไปส่งตามเวลา"

    "โอเคจ๊ะ"

    ฉันทำงานของตัวเองอย่างขมักเขม้นเพราะจำไว้เสมอว่างานคือเงิน เงินคืองาน ฉันจะปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ไม่ได้ ยังต้องกิน หนี้ก็ยังต้องใช้คืน ดีหน่อยที่เจ้าหนี้ของพ่อกับเเม่เค้าเห็นใจเลยให้โอกาสผ่อนผันเวลาการใช้หนี้คืน ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าพ่อกับเเม่เป็นหนี้เท่าไหร่ ถ้ามันมากมายเกินไปฉันก็คงต้องขายใตรวมถึงอวัยวะของตัวเองใช้หนี้เเทนพวกท่านเเล้วแหละ

    "ขับรถดีๆนะซัน" น้าจีวอนตามมาดูฉันที่กำลังควบรถมอเตอร์ไซต์ของร้านไปส่งไก่อย่างเป็นห่วง 

    "ค่า น้าไม่ต้องห่วงนะสบายมาก" พอฉันดูทางเเละพิกัดที่ต้องไปส่งไก่เรียบฉันค่อยๆออกตัวมาอย่างช้าๆ ที่จริงฉันก็ขับรถไม่เเข็งหรอกเเต่ก็ต้องใช้ไปไหนมาไหนอยู่ดี มันช่วยไม่ได้จริงๆ

    ฉันขับรถมาอย่างระมัดระวังจนกระทั่งถึงทางเเยกที่ไม่มีสัญญาณไฟ ฉันมองทางเเต่ก็ไม่เห็นไฟจากหน้ารถส่องมาตามทางเลยคิดว่าคงไม่มีรถผ่าน ฉันเลยพุ่งตัวออกมาอย่างช้าๆเเต่มันจะถึงคราวซวยก็ต้องแหละ

    'โครม'

    รถมอเตอร์ไซต์ที่ฉันขับมาล้มเเละตัวฉันก็ลงไปกองกับพื้นอย่างสวยงามตามสเตปคนโดนรถชนค่ะ ดีนะที่ไม่ได้ชนเเรง เหมือนกระเเทกเบาๆมากกว่า

    "โอ๊ยยยย" ฉันมีเเผลที่ข้อศอกจากการที่เอาเเขนลง

    "เป็นอะไรมากรึเปล่าเธอ?" คนที่ขับรถชนฉันลงมาดูฉันว่าเป็นยังไงบ้าง

    "ยังไม่ตายหรอก ทำไมไม่ดูดีๆก่อนจะขับออกมาห่ะ คนอื่นเสียการเสียงานหมด" ฉันบ่นกับคนที่ขับรถมาชนฉันอย่างหัวเสีย

    "เอ้านี้ ค่าเสียหายพอดีเจ้านายฉันรีบต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถพาไปโรงพยาบาลได้" หมอนั่นยื่นเงินจำนวนหนึ่งมาให้ฉัน มันมากพอที่ฉันสามารถซื้อรถมอเตอร์ไซต์คันใหม่ได้เลยนะเนี่ยะ

    "ไม่เอาหรอก จ่ายเเค่ค่าค่าซ่อมรถให้เจ้าของร้านตามชื่อร้านนี้เลย ฉันไปหล่ะต้องรีบไปส่งของ"

    "นี่เธอไม่เอาเงินเหรอ?"

    "ไม่อ่ะ นายเอาไปให้เจ้าของร้านเเทนเเล้วกัน ส่งให้ถึงมือเค้าหล่ะ ฉันจำทะเบียนรถนายได้นะระวังตัวไว้เลยถ้าคิดจะชักดาบ" ฉันชี้หน้าเค้าเเละเดินไปพยุงรถขึ้นมา ดีนะที่ไม่พังเเค่ไฟหน้าหัก ฉันควบรถเเละรีบขับไปส่งไก่เพราะกลัวจะไม่ทันเวลา รถคันหรูราคาแพงเเบบนั้นคงไม่ชักดาบหรอกนะ ค่อยไปเล่าให้น้าจีวอนฟังเเล้วกัน









    "ท่านครับหล่อนไม่เอาเงิน" ลูกน้องส่งเงินคืนให้ชายที่เป็นเจ้านายของเค้า

    "หล่อนบอกว่าไง" เจ้านายของเค้าถามเสียงเรียบ

    "หล่อนบอกว่าให้เอาเงินค่าซ่อมรถไปให้เจ้าของร้านไก่เเทน"

    "งั้นเหรอ...ก็ทำตามที่หล่อนบอกสิ"

    "เเต่เราจะสายเอานะครับท่าน"

    "ยังพอมีเวลา ไปเถอะ"

    คนเเบบไหนกันที่ไม่เรียกร้องค่าเสียหายให้ตัวเองทั้งๆที่ได้รับบาดเจ็บขนาดนั้น...มีคนที่ไม่เห็นเเก่เงินอยู่บนโลกนี้ด้วยเหรอ.....











    "น้าจีวอนนนซันกลับมาเเล้วว"

    "เป็นยังไงบ้าง" น้าจีวอนเข้ามาสำรวจร่างกายฉันตั้งเเต่หัวจรดเท้า

    "ถามเเบบนี้แปลว่าน้ารู้เเล้วใช่มั้ย เเล้วหมอนั่นให้เงินค่าเสียหายน้ารึเปล่า?" 

    "ให้สิ ดีนะที่เราไม่เป็นอะไรน้าเป็นห่วงเราเเทบเเย่"

    "ซันคิดว่าน้าจะด่าซันซะอีกที่เรารถไปโดนชน ฮ่าๆ"

    "ก็เราไม่ได้ผิดนิ คนนั้นเค้าเล่าให้น้าฟังว่าเป็นคนขับมาชนเราเอง"

    "แต่ถึงอย่างงั้นซันก็ไปส่งไก่ตรงเวลานะน้า ได้ทิปด้วยแหละ"

    "เเล้วไม่เจ็บรึไงแผลหน่ะ มานี่มาเดี๋ยวน้าทำแผลให้" ฉันเดินตามน้าจีวอนไปหลังร้านเพราะถ้านั่งทำแผลหน้าร้านลูกค้าเห็นเข้าคงกินไก่ไม่ลง

    "เค้าให้เงินน้าเเล้วจริงๆใช่มั้ย เค้าไม่ได้ชักดาบเเน่นะ"

    "ให้เเล้วๆ เค้าบอกว่าเราขู่จะเค้าด้วยหล่ะ เค้าให้มาตั้งห้าล้านวอน"

    "ห่ะ!!!!! ห้าล้านวอน????"

    "ใช่นี่เเค่ค่าซ่อมรถนะ อีกห้าล้านวอนเค้าบอกให้เอามาให้เราไปรักษาแผลด้วย ตอนเเรกน้าปฏิเสธไปแล้วเเต่เค้าก็ยังยืนยันที่จะให้ เค้าถามด้วยว่าเราชื่ออะไรพ่อเเม่เป็นใคร น้าหล่ะกลัวเป็นพวกค้ามนุษย์ซะจริงเเต่พอเห็นนามบัตรก็เข้าใจว่าเค้าเป็นประธานบริษัทสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีเชียวนะ"

    "ห่ะ!!!!! ห้าล้านวอน????" ฉันยังตกใจกับจำนวนเงินพวกนี้ ห้าล้านวอนฉันต้องใช้เวลาหานานเเค่ไหนกว่าจะได้เงินมากขนาดนี้ เเต่นี้มันกลับลอยมาหาฉันเองซะงั้น อีกอย่าเป็นประธานบริษัทสังหาริมทรัพท์นี้โคตรรวยเเละที่เเน่ๆต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องไม่ดี หนี้นอกระบบ หึ่ยยย คิดเเล้วขนลุก

    "จะย้ำทำไมเนี่ยะ อ่ะนี่ของเรา" น้าจีวอนทำแผลให้ฉันเสร็จก็ยื่นเงินห้าล้านวอนให้ฉัน

    "ไม่เอาอ่ะน้า อยู่ๆมาให้เงินซันทำไมตั้งห้าล้านวอน น้าบอกว่าเห็นนามบัตรเข้าใช่มั้ย? มันมีชื่อบริษัทอยู่แน่ๆซันจะเอาส่วนของซันไปคืน"

    "เรานี้จริงๆเลยน้า เป็นเด็กดีจนทำให้ตัวเองลำบากเราไม่ได้โชคดีเเบบนี้บ่อยๆนะซันนี่"

    "ซันชอบเงินก็จริง เเต่ต้องเป็นเงินที่ได้มาด้วยน้ำพักน้ำเเรงของตัวเองค่ะมันถึงจะภูมิใจเเละมีค่า เงินที่ลอยมาหามันไม่ได้มาให้เราฟรีๆแน่ๆ คงกลัวซันเอาไปเเจ้งความถึงให้เงินมาปิดปาก"

    "มองโลกในเเง่ร้ายจริงๆเลยนะเด็กคนนี้"

    "ก็โลกนี้มันโหดร้ายกับซันนี่น้า ฮ่าๆ" ฉันหัวเราะกลบเกลื่อนไปแต่จริงๆที่ฉันพูดหน่ะมักออกมาจากความรู้สึกนะ โลกนี้มันโหดร้ายกับฉันจริงๆนั่นแหละ...



    "อ่ะนี้ เอากลับไปกินให้อิ่มเเล้วนอนพักผ่อนเยอะๆซะหล่ะ" ฉันช่วยน้าจีวอนเก็บร้านเรียบร้อยเเละน้าก็ส่งกล่องที่ใส่ไก่ทอดมาให้ฉันกลับไปกินเหมือนทุกที เห้อ....ฉันกินไก่เเทบจะทุกวันจนหน้าอกจะโตเกินตัวเเล้ว ช่วยไม่ได้นี่หน่า มันประหยัดค่าอาหารไปได้ตั้งเยอะ ฉันลาน้าจีวอนเเละขี่รถกลับบ้าน พ่อกับเเม่คงนอนเเล้วเพราะมันเที่ยงคืนเเล้ว ฉันบอกกับตัวเองว่าจะไม่บอกเรื่องที่ได้เงินมากับพ่อแม่เด็ดขาด..พวกท่านคงไม่ยอมให้ฉันเอาไปคืนเเน่ๆ พรุ่งนี้เช้าถ้าส่งนมเสร็จฉันจะเอาไปคืนให้เจ้าของถึงที่เลย...











    "พ่อค่า เเม่ค่า ซันไปก่อนน้า" ฉันควบมอเตอร์ไซต์ขันเก่งออกจากบ้าตั้งเเต่ตีห้าครึ่งเพื่อไปรับนมมาส่งตามบ้านเหมือนทุกที แน่นอนว่าฉันรู้จักคนแถบนี้เเทบทั้งหมดเลยหล่ะ 

    "พี่ซันนี่!!" เสียงเด็กผู้หญิงเรียกฉันดังมากจนต้องหันไปมอง

    "อ้าวนายอน ตื่นเช้าจังเลยวันนี้" ฉันทักทายนายอนเด็กสาวเเสนน่ารักที่บ้านโคตรจะรวย รวยสุดในเเถบนี้เลยก็ว่าได้ แล้วทำไมวันนี้ถึงได้ตื่นเช้าจัง เห็นขนกระเป๋าขึ้นรถอยู่ด้วย

    "วันนี้นายอนต้องขึ้นเครื่องไปญี่ปุ่นอ่ะ เลยตื่นมาเตรียมตัวเช้าหน่อย"

    "ไปเที่ยวอีกเเล้วเหรอ อิจฉาจังเลยยย"

    "อย่าอิจฉาเลยพี่ ไม่ได้ไปเที่ยวอย่างเดียวหรอกตามพ่อไปอย่างเคยแหละ ไว้หนูจะซื้อของฝากมาให้น้า"

    "พี่เกรงใจจริงๆ ไปเที่ยวทีไรมีของฝากมาให้ทุกทีเลย"

    "ไม่เป็นไรหรอกพี่ คนกันเองหนูไปเอากระเป๋าก่อนนะพี่เเล้วเจอกัน" นายอนโบกมือลาฉันเเล้วเดินเข้าบ้านไป ฉันเองก็ขับรถไปส่งนมเสร็จ วันนี้เสร็จเร็วกว่าที่คิดเเหะ เหลือเวลาอีกเยอะกว่าจะถึงเวลาไปทำงานที่ร้านพี่กาฮี งั้นเอาเงินไปคืนคนเมื่อวานดีกว่า คิดได้ดังนั้นฉันเลยตรงไปที่บริษัทของคนที่ให้เงินฉันไว้เมื่อวาน มันออกจะไกลหน่อยเพราะต้องเข้าไปในเมืองเเถมยังอยู่ย่านธุรกิจอีก รถเยอะเป็นบ้ากว่าจะมาถึง พอเเหงนมองตึกนี้ก็ต้องร้องว้าวอ่ะ มันไม่ได้เป็นเเค่บริษัทสังหาริมทรัพย์ เเต่เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเงิน หุ้น การลงทุน คือเรียกได้ว่าการเงินครบวงจรเลย เเล้วตึกนี้มันก็ใหญ่เด่นเป็นสง่าท่ามกลางงานธุรกิจชื่อดังเเห่งนี้ด้วย

    "สวัสดีค่า ฉันมาขอพบประธานบริษัทนี้ค่ะ" ทันที่ที่ก้าวเข้ามาฉันก็ตรงมาที่เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ เเอบเหนื่อยนะทำไมมันต้องกว้างเเล้วเคาท์เตอร์มันต้องอยู่ไกลด้วยเนี่ยะ

    "ท่านประทานคนโตหรือคนเล็กค่ะ? เเล้วได้นัดไว้รึเปล่าคะ? เพราะตอนนี้ท่านไม่อยู่ค่ะ" ผู้หญิงที่อยู่หน้าเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์พูดกับฉันเเต่สายตาหน่ะมองฉันตั้งเเต่หัวจรดเท้า...เข้าในนะว่าเสื้อยืดกับกางเกงสามส่วนมันไม่เหมาะสมเเต่จะให้ทำไงหล่ะก็คนมันรีบอีกอย่างต้องทำงานด้วย ดีเเค่ไหนใส่ผ้าใบมา ไม่ใส่เเตะมาก็บุญเเล้ว 55555 ว่าเเต่มีคนโตคนเล็กด้วยเหรอเนี่ยะ เเต่ช่างเถอะ น้าจีวอนบอกว่าเป็นประธานบริษัทนี้ไม่คนเล็กก็คนโตสักคนนั่นแหละ

    "ไม่ได้นัดค่ะ เอ่องั้นถ้าเค้ามารบกวนฝากเงินนี้คืนให้เค้าด้วยนะคะ" ฉันยื่นเงินห้าล้านวอนให้ผู้หญิงคนนั้น

    "ให้เรียนว่าใครฝากมาคะ"

    "บอกว่าจากคนที่ถูกรถเขาชนเมื่อวานคะ" พูดจบฉันก็โค้งให้หล่อนเเละเดินออกจากร้านเพื่อจะไปทำงานที่ร้านของพี่กาฮีต่อ... สบายใจเเล้วหล่ะฉัน ที่ไม่รับเงินพวกนั้นมา















    "สวัสดีครับ ที่นี่ใช้บ้านคุณลีรึเปล่าครับ?"

    "ใช่ มีอะไร" ชายมีอายุหน้าตาไม่ค่อยรับเเขกออกมาพูดเมื่อเห็นว่ามีคนมาอยู่ที่หน้าบ้าน

    "ผมมาจากบริษัทโอกรุ๊ปนะครับ ท่านประธานอยากพบคุณ" ทันทีที่ได้ยินคำว่าโอกรุ๊ปชายสูงวัยก็มีท่าทีลนลานทันที

    "เอ่อ....เข้ามาก่อนสิครับ" จากสีหน้าที่ไม่พอใจในตอนเเรกกลับกลายเป็นกลัวขึ้นมาทันที เค้าเชิญผู้มาเยือนให้เข้ามาในบ้าน เเละสั่งให้ภรรยาหาน้ำหาท่ามาให้

    "สวัสดีครับ"

    "สวัสดีครับท่าน"

    "ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ครับ ทำตัวตามสบายเถอะ"

    "เอ่อ ผมขอพูดตรงๆเลยนะครับ ตอนนี้พวกเรายังไม่มีเงินคืนจริงๆ ลำพังการเป็นบุคคลล้มละลายก็ไม่สามารถหางานทำได้ด้วย ลูกสาวผมต้องทำงานห่ามรุ้งห่ามค่ำเพื่อหาเงินมาให้พวกเราได้ประทังชีวิตไปวันๆ"

    "ครับ เมื่อวานผมเจอเธอเเล้ว"

    "ว่าไงนะครับ...เเล้วไปเจอเธอได้ยังไงครับ?"

    "เธอทำงานที่ร้านไก่ทอด เธอชื่อซันนี่ เมื่อวานผมขับรถชนเธอเเต่เธอไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก" ลูกน้องของคนที่พวกเค้าเรียกว่าท่านประธานตอบเเทน

    "เธอไม่เห็นบอกพวกเราเลยว่าถูกรถชน เเต่ก็อย่างที่เห็น ลูกสาวผมไม่มีงานมีการดีๆทำ ต้องทำงานพาทไทม์ทั้งๆที่เรียนจบปริญญามาเเล้ว เธอไม่มีเวลาไปหางานทำ เราเลยอาศัยเเค่ค่าจ้างจากงานพาทไทม์ของเธอกินไปวันๆ" 

    "ท่านประธานรู้ว่าพวกคุณลำบากถึงได้ลดหย่อนเวลาการใช้หนี้ให้มาจนถึงทุกวันนี้ก็หลายปีเเล้วนะครับ ตอนนี้คงได้เวลาที่พวกคุณจะต้องใช้คืนได้เเล้ว" ลูกน้องของเค้ายังคงพูดเเทนเพราะรู้ดีว่าท่านประธานของพวกเค้าไม่ค่อยชอบอะไรที่มันยุ่งยากสักเท่าไหร่

    "เเต่พวกเราไม่มีจริงๆนะคะท่าน ต่อให้ท่านมาพังบ้านหรือเอาของมีค่าไปมันก็ไม่มีวันพอที่จะชดใช้หนี้มากมายที่พวกเราติดท่านหรอกค่ะ" ภรรยาของชายคนนั้นตอบด้วยตัวสั่นเทา

    "ผมไม่ได้จะมาทำร้ายพวกคุณ ผมอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของพวกคุณจริงรึเปล่าก็เเค่นั้น"

    "ครับลูกสาวพวกผมเอง นี้ไงรูปของเธอ" เมื่อเห็นว่าผู้ที่มาเยือนไม่ได้มีเจตนาร้าย เค้าเลยเอารูปลูกสาวตัวเองมาให้ชายคนนั้นดูเพื่อเป็นการยืนยัน ชายหนุ่มมองรูปของซันนี่อยู่สักพัก

    "แล้วผมก็มีข้อเสนอ...ที่จะทำให้พวกคุณหมดหนี้ 1000ล้านวอนที่ติดผมอยู่"

    "ข้อเสอนอะไรครับพวกเรายอมทำตามถ้าสามารถทำได้" พ่อของซันนี่พูดอย่างมีความหวัง

    "เเค่ขายลูกสาวของคุณให้ผม เเลกกับหนี้ 1000ล้านวอน"







    **(1000 ล้านวอน ประมาณ 30,960,488.55 บาทไทย)







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×