ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [-End-] {My Playboy!! ขอโทษทีคนนี้ผู้ชายของฉัน}

    ลำดับตอนที่ #2 : MY PLAYBOY #1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 466
      7
      9 เม.ย. 61


    MY PLAYBOY 



    -------------------------------------------------------
    .We are never go together.
    -------------------------------------------------------









    ตืดดดดด... ตืดดดดดด...

    โอ้ยใครมันโทมาเวลานี้ว่ะ คนจะหลับจะนอน....ว่างมากรึไงกัน
    "ฮาโหลววว" ฉันกดรับสายด้วยความงัวเงีย

    "ยัยซันนน!! แกลืมนัดฉันเหรอยะ!!" เสียงปลายสาย แว๊ดใส่ทำให้ฉันสะดุ้งตัวโหยง

    "อะไร! อะไรเปล่า ฉันเปล่าลืม อีกห้านาทีเจอกัน!!!" ทันทีที่เพื่อนบอกว่าลืมนัดฉันก็นึกขึ้นได้ทันทีว่าวันนี้มีนัดกับเพื่อน 5 นาทีเท่านั้นคือเวลาที่ตัดสินชะตากรรมไม่ให้ฉันโดนเพื่อนรักฉีกอกเรื่องที่สาย แหมก็ฉันมันสายประจำอยู่เเล้วนี้

    "กรี๊ดๆๆๆๆ อยู่ไหนนะ อยู่ไหนนะ!" ฉันควานหากุญแจรถในกระเป๋า พอตื่นก็วิ่งไปล้างหน้าเเปรงฟัน ไม่องไม่อาบมันละน้ำเนี่ย ไอ่กุญเเจรถก็ไปอยู่ซอกหลืบไหนของกระเป๋ากันนะ อย่าให้เจอนะเเม่จะเขวี้ยงใส่พื้นให้พังเลยแม่ม

    ตืดดดด ตืดดดดด

    โอ๊ยยยย ยัยเเทใจเย็นๆอย่าโทรจิกฉันนักเลยเเค่นี้ก็กลัวเเกจะเเย่เเล้วยัยเพื่อนบ้า

    "ฮาโหลเเทงกูของฉ้านน" ฉันกดรับสายด้วยความใจเย็น

    "นี่มันเลยมาสิบนาทีเเล้ว แกรู้มั้ยฉันมารอเเกเกือบชั่วโมงเเล้วนะ ลืมนัดฉันได้ยังไงกัน"

    "โถ่ก็รถมันติดนี่หน่า"

    "อย่ามาอ้างนะยัยกระรอกจอมขี้เกียจ พวกฉันรอแกคนเดียวเนี่ย เร็วๆหน่อยสิยะ!"

    "จ้า จ้า ฉันจะเหยียบให้มิดไมล์เลยเพื่อนรัก"

    "เออ เร็วๆเลยนะ!" พอเเทยอนวางสายไปฉันก็เจอกุญเเจรถพอดี 

    'แหมอาถรรพ์ของยัยเเทนี่กุญเเจรถยังต้องกลัวเเละยอมโผล่มาให้ฉันเจอเลยทีเดียว'
    ฉันบ่นพึมพพำกับตัวเองในขณะที่กำลังออกสตาร์ทรถ เเละเหยียบเกียร์เร่งออกตัวอย่างเร็วเพราะกลัวว่าจะโดนฉีกเป็นชิ้นๆถ้าไปสายกว่านี้


              สวัสดีคะฉันคือซันนี่ ลี ซันนี่ผู้หญิงธรรมดาที่พ่อเเม่เป็นนักธุรกิจเลยโดนจัดให้เป็นไฮโซสาวในเเวดวงคนมีเงิน เเต่ฉันไม่ค่อยจะปลี้มเท่าไหร่ที่ต้องไปออกงานบ่อยๆ โดนเเสงเฟลชทำให้เเสบตา เเละยังต้องไปกับพ่อแม่ในทุกทีที่มีการทำสัญญาธุรกิจกันของพวกมีเงิน ฉันเป็นนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายในมหาลัยชื่อดังของเกาหลี เเละเเน่นอนว่าฉันฮอตมากๆไม่ว่าจะในเเวดวงธุรกิจหรือในมหาลัย บวกกับเพื่อนสาวไฮโซของฉันอีกเเปดคน เวลาพวกเราอยู่ด้วยกันอย่าให้พูดถึงเรื่องออร่าเลยค่ะ มาเต็ม นั่นยิ่งทำให้ฉันถูกมองว่าเป็นเพลย์เกิร์ลเพราะมีข่าวกับหนุ่มไม่ซ้ำหน้า ...เเต่แหมคนเขาก็ว่ากันไปพวกนั้นเพื่อนฉันทั้งนั้น! ทำไงได้ละคะฉันมันอัธยาศัยดี ถูกจัดว่าเป็นผู้หญิงเเสนดีเเสนเพอร์เฟคในนิตยสารชื่อดังมาเเล้วนะ คนอาจคิดว่าฉันสร้างภาพ เปล่าเลยนั่นตัวตนฉัน เพราะถ้าตัดเรื่องพวกนี้ออกไปฉันก็เเค่ลูกกตัญญูที่โคตรรักครอบครัวคนนึงเท่านั้นแหละคะ

    "กว่าจะโพล่หัวออกมาจากโพรงต้นไม้นะยัยกระรอก!!" ซูยองเเว๊ดใส่ฉันคนเเรกทันทีที่มามาถึง ส่วนเเทยอนหน้าบึ้งใส่เรียบรอย งอนฉันชัวร์ๆไม่มั่วนิ่มเลยค่ะ

    "ดีนะที่วันนี้ยัยเห็ดฟานี่กับเหม่งยุนไม่ว่างมาด้วย ไม่งั้นฉันต้องรอยัยสองคนนั้นอีกนานโขเเน่ๆ" ยูริพูดเสริมด้วย ใช่คะเราสามคนที่เพื่อนๆพูดถึงคือสามคนที่โคตรจะสายตลอดทุกการนัดเจอกัน เเต่ถึงอย่างนั้นพวกหล่อนก็รอจนกว่าจะมากันครบ เเม้จะสายเเค่ไหนก็ตาม

    "ซอฮยอนไปเข้าห้องน้ำกับเจสิก้ามานู้นละ" ฮโยยอนพูดเมื่อเห็นว่าสาวสวยสุดหยิ่งในกลุ่มกับคนที่อายุน้อยสุดพากันเดินมาทางพวกเรา ซอฮยอนเด็กกว่าพวกเราเเต่สมองดีเกินไปเลยเรียนชั้นปีเดียวกับพวกเรา เธอมักจะห้ามให้พวกฉันกินอาหารขยะซึ่งมันไม่ถูกต้องที่จะห้ามผู้หญิงให้กินฟาสฟู๊ดเเละฉันก็บอกเธอไปหลายครั้งเเล้ว

    "กว่าหล่อนจะมาฉันเข้าห้องน้ำไปละเเปดรอบ" เจสสิก้าหรือซูยอนพูดพร้อมกับกอดอก

    "เอาหน่า ขอโทษที่สายนะ งั้นมื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง" ฉันพูดเพื่อขอไถ่โทษโดยการเลี้ยงข้าวพวกนี้ ที่พวกเรานัดกันดูเหมือนจะป็นเรื่องสำคัญเเต่เปล่าเลยคะ นัดกันมาช็อปปิ้ง อีกอย่างเเค่มาช็อปปิ้งพวกเราก็มักจะถูกถ่ายภาพไปลงนิตยสารว่าเรามาซื้ออะไรกันบ้าง เเต่งตัวเเบรนดือะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่ บลาๆๆๆ เวลาเดินเป็นกลุ่มคนนี้มองกันเลี้ยวหลัง ก็นะชีวิตที่ไม่มีอะไรของพวกไฮโซ










    "นี่ฉันได้เล่าให้พวกเเกฟังยัง" ฮโยยอนเปิดประเด็นทันทีที่นั่งเรานั่งลงบนเก้าอี้ในภัตตาคารหรูของห้างดังกลางกรุงโซล

    "วันๆแกเล่าตั้งหลายเรื่องจนแกเองยังจำไม่ได้เลย" ยูริบ่นเพื่อนสาวขาเม้าท์ที่ชอบพูดเรื่องซ้ำๆกับเธอบ่อยๆทั้งๆที่เคยเล่าให้ฟังเเล้ว

    "แกลองพูดมาถ้าฉันเคยฟังเเล้วฉันจะบอกว่าเคยฟังเเล้ว" ฉันตอบไปอย่างที่เคยตอบทุกครั้งที่นางจะเล่าอะไรให้ฟัง

    "คือว่า พวกเเกรู้จักทายาทโรงเเรม L ที่เพิ่งมาเปิดในโซลมั้ย"

    "อ่อนักธุรกิจชาวจีนอ่ะนะ" แทยอนถามกลับ

    "ใช่"

    "เหมือนจะเคยได้ยินข่าว เพราะเปิดตัวโรงเเรมซะใหญ่โตเลยนี่ ฉันว่าจะลองเข้าไปพักซักครั้ง" เจสสิก้าพูดเเต่ก็ในมือก็ปัดหน้าจอไอโฟนเเละมืออีกข้างก็ถือเเก้วกาแฟมาจิบไปด้วย

    "ฉันเคยเห็นเเล้วชื่อเลย์ หล่ออ่ะ" ซูยองพูด

    "ใช่ๆ"

    "เเล้วมันทำไมอ่ะ เเกจะจีบเขาเหรอฮโยยอน เเกเพิ่งเป็นข่าวกับนายเเรปมอนส์เตอร์ลูกเจ้าของค่ายเพลงดังไปเองนะ พักก่อนเถอะเเก" แทยอนปรามเพื่อนให้เพลาๆเรื่องจีบหนุ่มลงบ้าง

    "เปล่า ฉันไม่ได้จะจีบเขา เขาต่างหากมาจีบฉัน พูดเเล้วจะหาว่าคุย ต่างชาติแบบนี้ยังไม่เคยลอง คิกๆ" ฮโยยอนพูดไปหัวเราะไปอย่างเขินอาย ยัยนี่ไม่เคยสนเวลาโดนจีบ จะจีบเฉพาะคนที่สนใจเท่านั้นประมาณว่า ถ้าไม่ชอบไม่ต้องมายุ่งเเต่ถ้าชอบเดี๋ยวจีบเองไรงี้

    "จริงเหรอ เมื่อไรกันยะ" ยูริถาม

    "เมื่อตอนไปงานเปิดโรงเเรมของเขานั่นแหละ พ่อกับเเม่ของฉันถูกเชิญไปแต่คุณแม่ท่านไปไม่ได้ฉันเลยไปแทน เเล้วเราก็เจอกัน" ฮโยยอนพูดไปทำหน้าเคลิ้มไป ประนึงว่าฉันเจอคนที่ใช่ซึ่งพวกฉันเคยเห็นหน้าเเบบนี้ของหล่อนมาบ่อยเเล้ว

    "แกนี้สุดๆเลย คิกๆ" พวกเราหัวเราะท่าทางของฮโยยอน

    ตืดดดดด ตืดดดดด โทรศัพท์ของฉันสั่นฉันเลยล้วงขึ้นมาดูเป็นคุณพ่อที่โทรมา

    "นี่ๆ ฉันขอรับโทรศัพท์แปปนะ.....ฮัลโหลค่ะคุณพ่อ" ฉันบอกเพื่อนๆก่อนจะหันมารับสายพ่อ

    'ฮัลโหลลูกรัก ลูกอยู่ที่ไหนตอนนี้'

    "ซันออกมาเที่ยวกับเพื่อนค่า กำลังมานั่งทานข้าวกัน"

    'เย็นนี้กลับมาที่บ้านด้วยนะ พ่อกับเเม่มีเรื่องจะคุยด้วย'

    "โอเคค่ะ แหมคิดถึงหนูก็พูดตรงๆสิ คุณพ่อคุณแม่เรียกหนูได้ตลอดเวลาอยู่เเล้ว"

    'ลูกสาวของพ่อนี่น่ารักจริงๆ เจอกันเย็นนี้นะลูก'

    "รับทราบค่าท่านประทานลี" ฉันกดวางสายเเละกลับมาอยู่ในบทสนทนากับเพื่อนๆต่อ เเละอาหารก็มาเสิร์ฟพอดี

    "ทำไมของเเกน่ากินจังยัยซัน" เเทยอนจ้องอาหารตรงหน้าฉันเหมื่ออยากกินมันให้ได้ พวกเรานานๆทีถึงจะมากินอาหารพวกนี้เพราะสวยๆอย่างเราไดเอทคือสิ่งสำคัญของชีวิต พูดเเล้วเศร้าที่เวลาเห็นเบค่อนอยู่ตรงหน้าเเต่ไม่สามารถไขว่คว้ามาได้....

    "อ่ะ อ้าปาก" ฉันตักอาหารในจอนของฉันป้อนเเทยอนเเละหล่อนก็อ้าปากรับอย่างว่าง่าย

    "อร่อยป่าว" ฉันถาม

    "อร่อยมากกกกกกก" เเทยอนทำหน้าฟินสุดๆ

    "ยัยคู่เตี้ยนี้ไปหวีดกันไกลๆได้ป่ะ มีเเต่พวกแกเนี่ยะที่พวกฉันคิดว่าคงไม่ชอบผู้ชาย เบี้ยนป่ะวะเนี่ย" ซูยองทำหน้าหมั่นไส้ใส่ฉันกับเเทยอน

    "ฉันเบี้ยนกะแกก็ได้นะ อ้าปากสิอ้าาา" ฉันเลยหยอกโดยการตักอาหารป้อนยัยซูยองซึ่งหล่อนก็เบหน้าหนีฉัน

    "อย่านะ มันขนลุก" ซูยองว่า

    "ฉันเบี้ยนกะแกได้ทุกคนเเหละ เพราะฉันรักเพื่อนรักของฉันทุกคนนน" ฉันพูดพร้อมกับตักอาหารเข้าปากซึ่งเป็นช้อนใบเดียวกับที่ใช้ป้อนเเทยอน พวกเขาก็หัวเราะในความไร้เดียงสาของฉัน ก็ฉันรักเพื่อนฉันนี่หน่า ยัยพวกนี้อยู่กับฉันมาสิบกว่าปีเเล้ว เป็นเพื่อนตายเลยแหละ

    "เจอกันน้า จุ๊บแก้มหน่อย" ยัยแทที่หายงอนฉันเเล้วบอกลาฉันพร้อมกับเอาเเก้มมาเเตะเเก้มฉันตามประสาเพื่อนสาวด้วยกัน

    "บ๊ายบายเจอกันในเเชทกลุ่มนะทุกคน" เจสสิก้าว่าก่อนที่พวกเราจะเดินไปที่รถของตัวเองเเละขับออกมา







    ----------------------------------------------------






         ฉันตรงมาที่บ้านเพราะวันนี้มีนัดกับพ่อแม่ ปกติเเล้วฉันอยู่คอนโดตัวคนเดียว ไม่ใช่ว่าบ้านมันเเคบหรอกนะ บ้านฉันมันใหญ่มาก มากจนฉันขี้เกียจเดินเวลาจะลงไปกินข้าวที่ห้องอาหาร หรือจะเดินไปเข้าห้องน้ำในห้องของตัวเอง หรือเเม้เเต่เดินออกจากบ้านเพื่อมาที่โรงรถ


    "ซันบันของเเม่" ฉันเดินเข้าไปกอดคุณแม่ให้หายคิดถึงและท่านก็หอมฉันฟ๊อดใหญ่เลย

    "มาเเล้วเหรอลูกรัก" คุณพ่อเอ่ยทักทาย

    "มาเเล้วค่า วันนี่เตรียมอะไรให้ซันทานเอ่ย" ฉันวิ่งเข้าไปกอดคุณพ่อ....ผู้ชายที่ฉันรักที่สุดในโลก

    "ของโปรดลูกทั้งนั้นแหละ ป่ะไปทานข้าวกันพ่อมีเรื่องจะคุย"

    "ได้เลยค่า" เห้อ เพิ่งทานไปเองเเท้ๆ ต้องวิ่งบนลู่วิ่งกี่ชั่วโมงกันนะเพื่อชดเชยสิ่งที่กินเข้าไปในวันนี้  (;_;)







    ----------------------------------------------






    ณ คฤหาสน์ตระกูลปาร์ค

    "อะไรนะพ่อ!!"

    "แกจะให้ฉันพูดอีกกี่ครั้งห่ะ!" ชายมีอายุผู้เป็นพ่อเหนื่อยหน่ายกับท่าทีที่ก้าวร้าวของลูกชายตัวเองเต็มที เวลาพูดอะไรขออะไรจะโวยวายก่อนตลอดเเบบนี้ทุกทีเลยหน่า ถ้าไม่ติดว่าจะเป็นผู้สืบทอดวงตระกูลเเละทรัพย์สินอีกเป็นหมื่นหมื่นล้านนี้จะตัดหางปล่อยวัดไปซะให้เข็ด

    "คุณค่ะ อย่าตวาดลูกแบบนั้นสิ ชานยอลจ๊ะใจเย็นๆเเล้วฟังเหตุผลก่อน" ผู้เป็นแม่ห้ามปรามสองพ่อลูกที่ไม่ค่อยลงรอยกันก่อนจะเกิดสงครามขึ้น

    "ผมไม่เข้าใจ นี่เรายังต้องไปง้อใครอีก เงินมีเยอะขนาดที่ว่าชาตินี้ถึงชาติหน้าหรือชาติไหนๆก็ใช้ไม่หมด อีกอย่างผมทำงานบกพร่องตรงไหนทำไมยังต้องไปทำธุรกิจเพิ่มอีกและยังจะจับผมคลุมถุงชนแบบไม่เต็มใจอีก นี่มันอะไรกัน" ลูกชายหัวเเก้ใหัวเเหวนจอมโวยวายใส่มาเป็นชุด เขาเพิ่งอายุ 24 ได้ผู้หญิงยังไม่ครบประเทศต้องมาโดนจับคลุมถุงชนเเบบไม่เต็มใจอีก

    "แกไม่เข้าใจหรอก มันไม่ใช่เเค่ธุรกิจ พ่อกับเเม่ตั้งใจจะดองแกกับลูกสาวตระกูลลีมาตั้งนานเเล้ว เเละพ่อไม่อยากผิดสัญญา"

    "ไร้สาระชะมัด สมัยนี้ใครเค้าบังคับเรื่องเเต่งงานกันบ้างละครับ?"

    "นี่ฉันไม่เคยคิดอยากจะไปก้าวก่ายชีวิตเเกหรอกนะ อยากได้อะไรก็หาให้ แกจะเจ้าชู้ยังไงฉันก็ไม่เคยว่า แต่ครั้งนี้ฉันขอหล่ะ เห็นแก่หน้าพ่อบ้าง"

    "เเล้วผมจะได้อะไร?" ชานยอลถามผู้เป็นพ่อ 

    "แกยังจะอยากได้อะไรอีกห่ะชานยอล ทุกอย่างของฉันเป็นของเเกทั้งหมดเเล้ว" ชานยอลได้ฟังดังนั้นก็นิ่งไป และเกิดความคิดบางอย่างขึ้นในหัว

    "ก็ได้ครับพ่อ ผมจะเเต่ง....แต่ผมจะให้เวลายัยคนที่ผมต้องแต่งงานด้วยทั้งๆที่ไม่เคยเห็นหนังหน้าแค่หกเดือน ถ้ายัยนั่นร้องขอหย่าเมื่อไหร่ พ่อต้องให้ผมหย่าเละจะไม่มีการบังคับอะไรผมอีกทั้งสิ้น" ข้อต่อรองของลูกชายทำให้ผู้เป็นพ่อเเอบหวั่น ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าลูกตัวเองจะทำอะไรหรอก เเต่เพราะรู้ว่าลูกชายคนนี้มันขึ้นชื่อเรื่องผู้หญิง เขาไม่เคยง้อใครเลย เเละก็แอบกลัวว่าลูกสาวเพื่อนจะทนไม่ไหว เเต่ก็ยังดีกว่าผิดคำพูดเเหละน่า

    "ตกลง ฉันรับเงื่อนไขแกทุกอย่าง" ผู้เป็นพ่อจำใจยอมรัขข้อเสนอของลูกชายเพราะมันคงเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้เขายอมเเต่งงานได้

    "หนูซันเธอน่ารักนะลูก ไม่รู้ว่าเคยเจอกันรึยัง ลี ซันนี่น่ะจ๊ะที่ออกข่าวบ่อยๆ" ผู้เป็นเเม่พยายามพูดเกลี่ยกล่อมใก้ลูกชายตัวเองใจเย็นลงอีก เเต่ทันทีที่เขาได้ยินชื่อลี ซันนี่เค้าก็รู้ทันทีว่าเป็นใคร รอยยิ้มร้ายการผุดขึ้นที่มุมปากของชานยอล ยัยซันนี่ที่เปลี่ยนผู้ชายเป็นว่าเล่นน่ะเหรอ หึ! เดี๋ยวเจอคนอย่างปาร์คชานยอลจะได้รู้ว่าผู้หญิงไม่มีสิทธิ์เห็นผู้ชายเป็นของเล่น เเละเธอซันนี่....ต้องมาเป็นของเล่นของฉัน หึๆ

    "ยัยไฮโซที่ตัวเล็กคนนั้นเหรอครับ....อ่าผมว่างานนี้สนุกเเน่" ชานยอลยิ้มอย่างมีเลศนัยทำให้เเม่ของเค้ายิ่งรู้สึกหวั่นใจว่าเค้าจะทำอะไรต่อจากนี้กันเเน่ ไม่ใช่ว่าจะทรมาณลูกสาวเพื่อนจนทนไม่ไหวเเล้วมาขอหย่าหรอกนะเห้อ






    ------------------------------------------





    "ฮ่าๆ คุณพ่อกับคุณเเม่ต้องล้อหนูเล่นเเน่ๆใช่มั้ยค่ะ ฮ่าๆ" ฉันขำทันทีที่คุณพ่อกับคุณเเม่พูดเรื่องเเต่งงาน จะบ้าเหรอฉันเพิ่งจะ 23 เองนะ พวกท่านต้องล้อฉันเล่นเเน่ๆ

    "ไม่ได้ล้อเล่นจ๊ะซันนี่ หนูต้องเเต่งงานกับทายาทตระกูลปาร์ค"

    พรวดดดด!! ทันที่ที่ฉันได้ยินว่าทายาทตระกูลปาร์ค ตระกูลปาร์คไหน ขออย่าให้เป็นปาร์คที่คิดไว้เถอะ

    "ซันนี่ น่าเกลียดจังลูกทำไมพ่นออกมาอย่างนั้นแหละดูสิเนี่ยะ" คุณแม่ของฉันรีบเอาทิชชู่มาเช็ดปากที่เลอะเทอะของฉัน

    "ปะ ปาร์คไหนคะ " 

    "ปาร์ค ชานยอล" คเมื่อฉันได้ยินคำว่าปาร์คชานยอลออกมาจากปากคุณพ่อก็เเทบจะเป็นลมล้มพับ นายปาร์คชานยอลที่มีข่าวว่าทิ้งผู้หญิงง่ายๆเหมือนใช้กระดาษทิชชู่เนี่ยะนะ นายนี้เคยเป็นหัวข้อเม้าท์ประจำวันของฉันกับเพื่อนๆอยู่ว่าเขามันเสือร้าย เเค่คิดก็ไม่อยากจะยุ่งด้วยเเล้ว

    "คือ...หนูรักคุณพ่อคุณเเม่มากนะคะ หนูทำทุกอย่างเพื่อคุณพ่อคุณแม่ได้ เเต่เรื่องนี้หนูว่ามันเหนือบ่ากว่าเเรงหนูไปหน่อยหน่ะคะ" ฉันพยายามพูดให้มีเหตุผลมากที่สุดเพื่อให้พ่อกับเเม่เปลี่ยนใจ

    "เพราะลูกได้ยินข่าวไม่ดีมาเกี่ยวกับเขาใช่มั้ย? ลูกเคยเจอเค้าจริงๆรึยัง อย่าเพิ่งตัดสินคนจากข่าวสิลูก" คุณเเม่พูดอย่างมีเหตุผล เเต่มันไม่ได้ได้ผลเเะละไม่ได้ทำให้ฉันอยากเเต่งงานกับเขาเลยสักนิด

    "เห้อ ลูกรัก...พ่อกับคุณปาร์คเป็นเพื่อนยากกันมานาน เราสัญญากันไว้เเล้วว่าจะดองครอบครัวเป็นหนึ่งเดียวกัน พ่อเองก็ไม่เคยคิดอยากบังคับลูกหรอก เเต่ลูกจำได้มั้ยว่าลูกอยากได้ที่ดินเเถวๆชานเมืองไว้เปิดเป็นโรงเรียนให้เด็กที่ยากจนหน่ะ ที่ตรงนั้นเป็นของตระกูลปาร์ค มันมีมูลค่าทางจิตใจกับพวกเขามาก ขนาดพ่อเสนอเงินมากมายเพื่อซื้อเซอร์ไพรส์ลูกเขาก็ไม่ยอมเเต่ดันยกประเด็นเรื่องเเต่งงานขึ้นมาเเละบอกว่าถ้าลูกตกลงเขาจะยกที่ตรงนั้นให้ฟรีๆ" ฉันฟังสิ่งที่คุณพ่อเล่าก็เริ่มเกิดความลังเลขึ้นมา ฉันว้อนท์ที่ดินตรงนั้นมากกกกก เพราะฉันอยากทำโรงเรียนให้เด็กยากจนที่ไม่สามารถมาเรียนในเมืองได้ หรือไม่มีเงินมากพอที่จะเรียนหนังสือ เเละที่ตรงนั้นมันเหมาะเพราะอยู่เเถวๆชานเมืองพอดี

    "พ่อทำเพื่อลูกนะ พ่อบอกตรงๆพ่อไม่ชอบข่าวพวกนั้นที่บอกว่าลูกยุ่งกับผู้ชายไปทั่ว ใจคนเป็นพ่อที่เลี้ยงลูกมาตั้งเเต่เด็กๆมันเเทบจะสลายพอเห็นสื่อประโคมข่าวแบบนั้น"

    "โถ่คุณพ่อคะ คุณพ่อควรเชื่อในตัวหนูไม่ใช่ข่าวพวกนั้น พ่อก็รู้ว่าหนูเป็นคนยังไง ผู้ชายพวกนั้นก็เพื่อนหนูทั้งนั้นแหละคะ"

    "เเละเขาคิดกับลูกเป็นเพื่อนเหรอพวกนั้นนะ เข้ามาหาลูกสาวพ่อเพราะลูกสาวพ่อทั้งสวยทั้งเก่ง"

    "ไม่เอาหน่าคุณพ่อขา...ตกลงคะ หนูจะเเต่งถ้ามันทำให้พ่อกับเเม่สบายใจ หนูเต็มใจทำเพื่อพ่อกับเเม่คะ" ฉันตัดสินตกลงว่าจะเเต่งงาน ขุ่นพระขุ่นเจ้า วัย 23 อันพ่องใสของฉันกำลังจะหายไป ฮืออออออออ อยากจะกรีดร้องโว้ยยยยย เเต่พอเห็นพ่อกับเเม่เป็นกังวลเรื่องฉันมันก็อดไม่ได้ที่จะทำให้พวกท่านสบายใจ เเต่งเเล้วค่อยเเยกกันอยู่ก็ได้นิ เพราะทางนั้นก็คงไม่อยากเเต่งเหมือนกันเเหละหน่า เเต่งๆไปก็ไม่เป็นไรหรอกมั้ง

    "เเม่ดีใจที่มีลูกสาวน่ารักและกตัญญูเเบบนี้ที่สุดเลยลูก หนูรู้มั้ยว่าพ่อกับเเม่ภูมิใจในตัวหนูมากเเค่ไหน เเต่เเม่ขออย่างนึงนะลูกรัก แม่ขอให้หนูอดทน อดกลั้นทุกๆอย่าง อย่าปล่อยให้อารมณ์มาตัดสินเเละอย่าให้ความโมโหมาทำให้หนูขาดสติ หนูผ่านมันมาได้เเละหนูจะต้องไม่กลับไปเป็นเเบบนั้นอีก" ฉันรู้ว่าที่เเม่พูดคืออย่าให้ตัวตนของฉันอีกบุคลิกนึงออกมา จริงๆมันก็ไม่ได้เลวร้ายนิ เพราะถ้าฉันโมโหมากๆ ฉันก็เเค่จะไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรไปบ้างเเค่นั้นเอง เเค่ปากร้ายขึ้น อารมณ์ร้ายขึ้น บวกกับการที่เรียนเทควันโด ยูโอ คาราเต้มา ทำให้ฉันเคยโมโหเเล้วชกต่อยกับผู้ชายสมัยมัธยมต้นมาเเล้ว เพียงเพราะพวกนั้นเอารองเท้าของฉันไปซ่อน จริงๆเด็กผู้หญิงทั่วไปควรร้องไห้ไปฟ้องครูเเต่ฉันไม่ พวกมันจะต้องเจอดีที่มาล้อเล่นกับฉัน

    "ค่ะคุณแม่ หนูไม่ใจร้อนเเบบเมื่อก่อนหรอกค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ"

    "งั้นพ่อจะตอบตกลงกับทางนู้นเเล้วนัดวันดูตัวนะลูก" ฉันพยักหน้ารับยิ้มๆ






              ต่อจากนี้มันจะเป็นยังไงนะ ฉันยอมรับว่ากังวลอยู่ไม่น้อยเลยหล่ะคิดเเล้วก็ใจหายนี้ฉันจะเเต่งงานก่อนเพื่อนเหรอเนี่ยเห้อ อาร์ไอพีให้กับวัยสาวของฉัน เเต่ก็นะนายปาร์คชานยอลอะไรนั่นไม่มีวันได้มีอิทธิพลอะไรต่อชีวิตฉันแน่ เพราะถ้าเเต่งฉันตั้งใจว่าจะทำข้อตกลงกับเขาว่าจะหาเรื่องหย่ากันเเล้วให้เหตุผลว่าเราไม่กันม่ายด้ายยย พ่อกับเเม่ทุกคนคงไม่อยากให้ลูกมีคู่ชีวิตที่ไม่โอเคหรอกจริงป้ะหล่ะ หึๆ......





    ---------------------------------------------------





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×