ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [-End-] {My Playboy!! ขอโทษทีคนนี้ผู้ชายของฉัน}

    ลำดับตอนที่ #13 : MY PLAYBOY #12

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 317
      2
      9 เม.ย. 61


    MY PLAYBOY
    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ Chanyeol gifผลการค้นหารูปภาพสำหรับ jaehyun nct gif

    ----------------------------------------------------
    .She is mine.
    ----------------------------------------------------








    "คุณเเต่งตัวธรรมดาๆแบบนี้เหมือนอายุ 16 17 เลยนะ" เเจฮยอนมองสำรวจฉันหัวจรดเท้า ฉันก็เเค่ใส่กระโปรงเทนนิสกับเสื้อยืดทรงโอเวอร์ไซส์ ร้องเท้าก็ใส่ผ้าใบ

    "จริงๆฉันก็เเค่ 23 เองไม่ได้เเก่สักหน่อยนายจะบอกว่าฉันเเก่เเต่งเเบบนี้เลยดูเด็กสินะ" ฉันยู่ปากใส่เค้า เเหมเขาเองก็เหมือนกันนั้นแหละ กางเกงยีนส์ผ้าใบ เสื้อสีขาวสวมทับด้วยเเจ็กเก็ต...ดูกี่ทีก็หล่อชะมัด

    "ผมไม่ได้หมายถึงเเบบนั้นสักหน่อย" เขาพูดแกมขำ เเต่ฉันจะงอนจริงๆละนะ

    "ฝากไว้ก่อนเถอะ เข้าไปข้างในกัน!" ฉันลากแจฮยอนเข้าไปในสวนสนุกอย่างไม่รอช้า ครั้งสุดท้ายที่มานี่มันเมื่อไหร่กันนะ เเต่ตอนนี้ฉันตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกแล้วหล่ะ


    "เอาลูกโป่งมั้ย?" เเจฮยอนถามเมื่อเราเดินๆกันมาถึงซุ้มขายของพวกตุ๊กตา เครื่องประดับต่างๆ เเล้วมีลูกโป่งด้วย

    "เอาสิ ขอม้าโพนี่นะ" 

    "ไม่บอกก็รู้หน่า" เขาตอบ,

    "ฉันเดินไปดูตรงนี้แปปนะ" ฉันบอกเขาเเล้วเดินไปดูเครื่องประดับเล็กๆน่ารัก 

    "เอาอันนี้ครับ" เเจฮยอนชี้สร้อยข้อมือที่ฉันกำลังดูอยู่ให้คนขายหยิบให้ พอเขาจ่ายตังก็ยื่นมาให้ฉันอันนึง เขาใส่ไว้อันนึง เขาไม่ลืมที่จะยื่นลูกโป่งม้าโพนี่มาให้ฉันด้วย 

    "นี่ๆ ฉันยังไม่ได้พูดเลยว่าอยากได้"

    "เห็นจ้องนานละ ใส่ได้มั้ยเดี๋ยวใส่ให้" เขาดึงเเขนฉันไปเเละจัดการใส่สร้อยข้อมือที่มีจี้รูปม้าโพนี่กับสายรุ้งให้ฉัน ส่วนของเค้าเป็นเหมือนกันเเต่เป็นจี้ที่มีสีเงินไม่มีสีสันอะไร นึกภาพถ้าเขาใส่เเบบมีสีเหมือนของฉันสิ...คนคงคิดว่าเค้าเป็นเเน่ๆ

    "นี่เหมือนเรากำลังใส่สร้อยข้อมือคู่" ฉันพูดพลางชู้สร้อยข้อมือของตัวเองขึ้นมาดูสลับกับของเขา

    "ก็อยากให้เป็นอย่างงั้นแหละครับ"

    เราเล่นเครื่องเล่นเกือบทุกอย่างในสวนสนุก เเถมซื้อของน่ารักๆมาเพียบ โดยเเจฮยอนไม่ยอมให้ฉันออกเงินสักบาท คือฉันไม่ได้จนนะ คนอย่างซันนี่ทำไมถึงได้ถูกเปย์บ่อยอย่างนี้ เเต่พวกผู้ชายคงอยากให้ดูเหมือนเค้าให้เกียรติเรานั้นแหละ เเต่ประเด็นคือฉันก็มีไม่ค่อยชอบที่ใครมาจ่ายนั้นนี่ให้ เเต่ก็ช่างเขาเถอะ 

    "ให้ฉันเลี้ยงมั่งเถอะ ฉันก็รวยนะ" ฉันบอกแจฮยอนอย่างอดไม่ได้ ก็เขาเอาเเต่จ่ายให้อย่างเดียว

    "ค่อยเลี้ยงคืนผมวันหลังไง"

    "อยากหาเรื่องนัดเที่ยวอีกก็บอกมาตรงๆเถอะ ฮ่าๆ" ฉันพูดออกไปอย่างรู้ทัน เเต่มันก็จริงไม่ใช่เหรอ

    "รู้ทันอีกแล้ว"

    "นี่ๆถ่ายรูปให้หน่อยได้มั้ย" ฉันยื่นไอโฟนให้เขาถ่ายรูปให้ คงเป็นรูปที่ร้อยเเล้วมั้ง เเต่เขาไม่บ่นหรือทำท่ารำคาญสักนิดเเถมยิ้มตลอดเวลาที่ฉันให้ถ่ายรูปให้ ฉันเห็นเขาแอบเอาไอโฟนมาถ่ายไว้ด้วย

    "นี่อย่าแอบถ่ายนะ มาถ่ายด้วยกันเลยดีกว่า" ฉันกวักมือเรียกเเจฮยอนให้เข้ามาถ่ายรูปด้วยกัน เขาก็ตามมา

    "จะดีเหรอ?"

    "ดีกว่านายแอบถ่ายฉันฝ่ายเดียวแหละน่า" ฉันรับไอโฟนคืนมาเเล้วกดถ่ายรูปเขารัวๆ ก่อนจะชูขึ้นเเล้วถ่ายรูปเราทั้งสองคนไว้ หลังจากนั้นพวกเราก็เเยกย้ายกันกลับ เขาอยากจะขับรถตามมาส่งฉันเเต่ฉันปฏิเสธไป เพราะวันนี้ทั้งวันเขาตามใจฉันมามากแล้วเเละคอยถือนั้นถือนี่ให้ตลอดด้วย พวกเราเที่ยวกันปาเข้าไปก็เกือบ 6 โมงเย็นเเล้ว




    จริงๆฉันไม่อยากกลับห้องหรอก กลัวว่าจะไปเห็นอะไรเข้า เเต่เพื่อนๆฉันพ่อเริ่มมีเเฟนก็พากันเงียบหายเอาเวลาไปใช้กับหวานใจของเเค่ละคน ส่วนคนอื่นๆนอกจากยัยเเท ฮโยยอน ซูยองที่ยังไม่มีเเฟนฉันก็ไม่เเน่ใจว่าพวกหล่อนคุยกับใครอยู่รึเปล่าจะมีก็เเต่ยัยเจสสิก้าเท่านั้นเเหละที่ฉันมั่นใจว่ายังไงก็โสดชัวร์ๆ.....มั้งนะ 

    "อุ๊ย!!" 

    ฉันตกใจจนอุทานออกมาเมื่อมาหยุดอยู่หน้าห้องประตูก็เปิดทันที เป็นชานยอลที่เปิดออกมา เขามองฉันงงๆ สำรวจตั้งเเต่หัวจรดเท้า เเต่ฉันกลัว่าเขาจะพูดอะไร หรือจะรู้ว่าฉันไปกับเเจฮยอนมา 

    "คิดว่าตัวเองอายุเท่าไหร่ถึงเเต่งตัวเเบบนี้" ชานยอลพูดเหมือนจะหลุดขำออกมาเมื่อเห็นว่าฉันเเต่งตัวยังไง เเถมยังถือลูกโป่งม้าโพนี่ไว้ในมือ ก็คนมันลืมเปลี่ยน หนอยย!ฉันน่ารักก็บอกมาตรงๆเถอะ ไม่ต้องทำมาเป็นพูดหรอก

    "23 ทำไมอ่ะ" ฉันพูดเเล้วเอามือจิ้มเเก้ม "ใจสั่นก็บอกมา หึๆ" 

    "มั่นหน้าจริงๆนะ มาก็ดีเเล้วพ่อกับเเม่ให้ไปดินเนอร์ที่โรงเเรมไอ่เลย์มัน"

    "อ้าวเหรอ งั้นฉันไปเปลี่ยนชุดแปป" ฉันจะไปเปลี่ยนชุดเเล้วเอาของมากมายนี่ไปเก็บเเต่เขากลับดึงเเขนฉันไว้

    "นี่มันสายมากเเล้ว ไปชุดนี้แหละ"







    สรุปคือกลายเป็นว่าตอนนี้ชานยอลกับเด็กที่ไม่สามารถระบุอายุได้ก็มาอยู่บนรถคันเดียวกันจนได้ ดีที่ฉันเเกะเปียออกไม่งั้นคนคงได้หัวเราะเยาะเเน่ๆเมื่อไปถึงที่โรงเเรมของเลย์อ่ะ

    "ไปถึงก็อย่าลืมทำตัวดีๆหล่ะ"

    "บอกตัวเองก่อนเถอะ"

    "ฉันจะทนทำตัวดีๆอีกหนึ่งเดือน ครบกำหนดเมื่อไหร่ก็หย่าซะ" 

    "ฉันไม่ลืมหรอกนะ" ฉันไม่มีวันลืมหรอกว่าลั่นวาจาไว้ยังไง เอาหน่า....เเค่ทนๆเอา นึกถึงพ่อเเม่ไว้ อีกแค่เดือนเดียวเท่านั้นแหละ

    "ก็ดี ฉันจะได้ไม่ต้องทนเห็นหน้าเธออีก"

    "ฉันเองก็จะไม่ต้องเห็นหน้านายกับความทุเรศที่นายพาคนอื่นมานอนมีอะไรกันทั้งๆที่ฉันก็อยู่ด้วย" ฉันเปล่าหงุดหงิดนะ ฉันเปล่าโมโหนะ...ฉันเเค่ไม่ชอบที่เค้าพูดแบบนี้

    "รับไม่ได้ก็ไปอยู่ที่อื่นสิตอนเธอไม่อยู่ฉันก็เอามาที่ห้อง เเถมห้องเธอฉันก็เคยใช้ด้วยนะ" ชานยอลยิ้มเยาะฉันอีกแล้ว

    "แหมที่งี้ทำเป็นไล่ พอฉันหายไปก็มาโมโหฟึดฟัด"

    "ฉันเเค่!.." เค้าพูดเเค่นั้นเเล้วเงียบไป

    "เเค่อะไร? ยอมรับเถอะว่านายกระวนกระวายใจทีฉันหายไปหน่ะชานยอล" ฉันกอดอกเพราะรู้สึกว่าฉันจะชนะเเล้วหล่ะ

    "คนอย่างฉันไม่เเคร์หรอกวาเธอจะหายหัวไปไหน ไม่มีวัน"

    "ก็ดี ถ้าฉันหายไปอีก....อย่ามาตามหาเเล้วกัน" ลมหายใจฉันขาดห้วง...เพราะไม่เเน่ใจว่าถ้าตัวฉันหายไปเขาจะกระวนกระวายใจอีกมั้ย

    'เอี๊ยดด'

    ชานยอลเบรกรถเเรงมากจนหน้าฉันจะทิ่ม เวลาไปไหนกับเขาที่ไรฉันต้องคอยระวังไม่ให้หน้าไปกระเเทกเวลาเขาเบรกรถเเรงๆแบบนี้

    "นี่! นายจะเอาให้หน้าฉันพังเลยรึไง"

    "ที่เป็นอยู่ก็ไม่ได้สวยนิ" ชานยอลลงจากรถไปโดยไม่มีการอ้อมมาเปิดประตูรถให้ฉัน ไร้ความเป็นสุภาพบุรุษอีกตามเคย มีดีเเค่เรื่องบนเตียงรึไงตาบ้านี้! เดี๋ยวนะฉันคิดอะไรออกมากันเนี่ย! ฉันสะบัดหัวไล่ความคิดทุเรศๆนี่ออกไปก่อนจะเดินตามเขาเข้าไปในโรงเเรม






    ------------------------------------------





    "นี่ถ้าไม่ได้เจ้าชาน หุ้นของบริษัทก็จะคงที่อยู่อย่างนั้นไม่ขึ้นจนทะลุเพดานเเบบนี้หรอก ถึงจะมีข่าวไม่ค่อยดีเรื่องผู้หญิงเเต่เรื่องบริหารลูกชายผมมันเก่งนัก"

    "นั่นน่ะสิครับ ผมคิดว่าหุ้นจะอิ่มตัวเพราะที่เป็นอยู่มันก็สูงสุดเเล้ว เเต่คุณชานยอลกลับทำให้เราประหลาดใจกับการบริหารที่ยอดเยี่ยมของเขา"

    "อ้าวนั่นไง ลูกชายคนเก่งของผมมาพอดี" 

    ฉันกับชานยอลมาถึงที่โต๊ะก็ต้องแปลกใจ เพราะคิดว่าเป็นการทานอาหารกับพ่อแม่ของชานยอลเฉยๆ เเต่ที่ฉันเห็นกลับมีผู้หลักผู้ใหญ่อยู่หลายท่าน เเถมมีคนรุ่นราวคราวเดียวกับฉันอยู่ด้วยนี่หน่า

    "สวัสดีครับทุกคน" ชานยอลทักทายทุกคนเเล้วเลื่อนเกาอี้ให้ฉันนั่ง ก่อนที่เขาจะนั่งลงข้างๆ ต่อหน้าคนอื่นนี่ดีจริงๆเลย เหอะ!

    "นี่เจ้าชาน หล่อเหลาเอาการเหมือนผมไม่มีผิด ฮ่าๆ" ดูท่าวันนี้คุณพ่อคุณแม่ของชานยอลคงมีเรื่องที่ทำให้มีความสุขสินะ

    "ส่วนนี้ก็หนูซันจากตระกูลลี ภรรยาที่เพียบพร้อมของเจ้าชานมัน" คุณพ่อเเนะนำฉันให้ทุกคนรู้จักพ่อกับเเม่ฉันไม่มาด้วยตามเคย ตอนนี้พวกท่านอยู่คูเวต ทำธุรกิจเจรจาเรื่องน้ำมัน

    "สวัสดีคะ" ฉันก้มหัวให้ทุกคนเล็กน้อย

    "สวยหล่อสมกันอย่างกับเทพบุตรเทพธิดาเลยนะคะ ดิฉันเองก็ขอเเนะนำลูกสาวตัวเองบ้างนะคะ นี่เรนะ เพิ่งกลับมาจากออสเตรเลียมาช่วยกิจการของดิฉันอยู่ตอนนี้" คุณป้าข้างๆเเนะนำลูกสาวของตัวเอง น่ารักดีนะตาโตๆเเก้มป่องๆ เเต่ว่าฉันเห็นเธอจ้องชานยอลตั้งเเต่เข้ามาเเล้ว เเละชานยอลเองก็ดูเหมือนจะสนใจ โอ๊ยน่ารำคาญจริง!

    "ส่วนลูกชายผมยังไม่มา ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะครับเจ้าหมอนี่สายตลอดเลย" คุณลุงทางขวามือพูด ว่าเเต่เขาหน้าคุนๆเหมือนจะเจอบ่อยๆในเเวดวงธุรกิจ

    "ไม่เป็นไรน่าๆ นี่เจ้าชานวันนี้น้าแกจะมานะ เอาเจ้าอึนเปียวมาด้วย"

    "น้าโซจินจะมาเหรอครับ? เเถมเอาเจ้าตัวเล็กมาด้วย?"

    "ใช่ๆ แหมนานเเค่ไหนเเล้วนะไม่ได้รวมญาติ พ่อว่าสักวันจะต้องจัดงานรวมญาติเราเเล้วหล่ะ จะได้มาเเสดงความยินดีกับความสำเร็จของแก พ่อภูมิใจจริงๆนะไอ่ลูกชายแกไม่เคยพลาดแม้เเต่ครั้งเดียว" ดูเหมือนคุณพ่อของชานยอลจะภูมิใจในตัวเขาเอามากๆ ปกติที่เห็นก็จะขรึมใส่เวลาเขาทำตัวเสเพล เเต่ก็ได้ยินมาบ้างแหละว่าชานยอลเก่งเเค่ไหนเรื่องธุรกิจ พ่อเขาเห่อขนาดนี้คงระดับเทพเลยมั้ง

    "ขอบคุณครับ" เขาพูดพลางหันมายักคิ้วให้ฉัน...เพื่อ?! จะอวดว่าตัวเองเก่งว่างั้น หมั่นไส้ซะจริงๆ

    "เเหมคุณชานยอลนี่เก่งมากๆเลยนะคะ เรนะคงต้องขอให้คุณมาสอนเรื่องการบริหารบ้างเเล้วหล่ะคะ" พูดไปก็ส่งสายตาเชิญชวนไปนะหล่อนหน่ะ เเหม...

    "ได้สิครับผมยินดีเสมอ"

    "ตอนนี้คงไม่ได้หรอกค่ะ ชานยอลกำลังสอนซันอยู่พอดีเลย เว้นเเต่ว่าคุณจะมาศึกษาด้วยกันนะคะคุณเรนะ" ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำไมถึงได้พูดออกไปแบบนั้นนะ ฉันไม่ได้หึงนะ เปล่านะ....

    "ได้เหรอค่ะ? ว้าวดีจังเรนะจะได้ไม่เหงามีคนเรียนด้วยเยอะๆ" อ่าวยัยนี่ฉันประชดไม่รู้ตัวรึไง

    "ชานยอลคะ เปิดคอร์สสอนการบริหารธุรกิจเถอะคะมีเเต่คนสนใจจะเรียนกับคุณ" ฉันพูดไปยิ้มไปประนึงว่าภูมิใจในตัวสามีมากกกกกกกกกกกกก เเต่เปล่าเลยประชดล้วนๆ

    "หึงเหรอ?" จู่ๆชานยอลก็มากระซิบฉันในขณะที่ผู้ใหญ่ก็คุยกันตามประสา ฉันเลยส่ายหัวให้เเล้วขยับปากว่า 'ไม่มีทาง' เค้าเลยหันไปส่งยิ้มให้เรนะต่อ เเหวะๆๆๆๆ แหวะ!เออฉันจะไม่สนใจเพราะวันนี้ฉันก็ไปกับเเจฮยอนมา ถือว่าหายกันฉันจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิด!



    "พ่อครับ ขอโทษด้วยนะครับทุกคนที่ผมมาสาย เครื่องดีเลย์เลยมาสายน่ะครับ" เสียงนึงดังมาจากข้างหลังทำให้ฉันหันไปมอง

    "อ้าวโดยอง!"

    "อ้าวซันนี่!"

    "สองคนนี้รู้จักกันเหรอ" คุณพ่อของชานยอลถาม

    "ค่ะ เพื่อนกันตังเเต่สมัยมัธยม" ฉันบอกท่านไป โดยองโค้งให้ทุกคนเเล้วมานั่งข้างๆคุณพ่อของเขา

    "นี่ลูกชายของผมเองครับ กำลังเรียนปริญญาเอกอยู่ที่อังกฤษอีกไม่กี่วันจะวันเกิดของภรรยาลูกชายเลยกลับมาร่วมงาน" เขาเเนะนำลูกชายให้ทุกคนรู้จัก โดยองเนี่ยะนะเรียนปริญญาเอกแล้ว...ฉันจำได้ว่าเขาไม่ค่อยสนใจเรียนตอนอยู่มัธยมเลยนะ เเต่ไปเรียนต่างประเทศถ้าจบเร็วก็สามารถต่อชั้นที่สูงกว่าได้เลยนี่หน่า พัฒนาไปไกลเยนะเพื่อนเเจฮยอนเเต่ละคน

    "ส่วนนี้ชานยอลลูกชายประธานปาร์ค ข้างๆคือหนูซันภรรยาของเขา เเละนี้ก็หนูเรนะลูกของคณะกกรรมการบริหารทีมเดียวกับพ่อ" เขาเเนะนำทุกคนให้ลูกชายรู้จัก โดยองดูจะอึ้งๆกับการที่ฉันถูกแนะนำว่าเป็นภรรยาของชานยอล
    เขาเลยส่งสายตาอึ้งๆมาฉันเลยได้เเต่พยักหน้าเป็นเชิงว่า มันคือความจริง พวกเราทานอาหารเเละพูดคุยกันไปจนกระทั่งถึงเวลากลับ

    "ผมกลับก่อนนะครับคุณพ่อ คุณแม่ ลาละครับคุณลุงคุณป้า" ชานยอลกล่าวลาทุกคน ฉันเองก็โค้งตามเเละพวกเราก็จะเดินออกมาจากโรงเเรม เเต่โดยองก็ตามมา ยัยเรนะนั่นด้วย หล่อนวิ่งไปหาชานยอลเดาเลยว่าเเลกเบอร์ชัวร์

    "ซันนี่เดี๋ยวๆ" โดยองเรียกฉันไว้ฉันเลยหยุด

    "ว่าไง"

    "เธอไม่ได้กลับมาคบกับไอ่เเจมันหรอกเหรอ"

    "เปล่า ใครบอกนายเเบบนั้น"

    "มันส่งรูปมาให้ดู เห็นพวกเธอไปเที่ยวด้วยกัน จะว่าไปเธอก็ใส่ชุดนี้อยู่นิ" โดยองมองฉันหัวจรดเท้า โถ่มันน่าอายนะเฟ้ย

    "ใช่ไปเที่ยวด้วยกันมาวันนี้ที่สวนสนุก"

    "ว่าไงนะ" จู่ๆเสียงทุ้มต่ำก็ดังขึ้นข้างหลังฉัน เสียงของชานยอลนั่นเอง

    "อะไร?" ฉันหันไปมองเขาด้วยความงงว่าเขาโผล่มาตั้งเมื่อไหร่

    "ฉันขอตัวยัยนี่กลับบ้านก่อนนะ" ชานยอลพูดกับโดยองก่อนจะลากฉันไปขึ้นรถ ฉันเลยหันไปบอกโดยองว่าไว้ค่อยคุยกันใหม่หมอนั่นก็เข้าใจ ว่าเเต่ชานยอลเขาโมโหอะไรอีก แค่ฉันคุยกับโดยองเนี่ยนะประสาทเกินไปละ

    "นี่ นายเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีกเนี่ย" ฉันถามเาเมื่อพวกเราอยู่บนรถเเล้ว

    "เธอพูดว่ายังไงกับไอ่นั้นนะ"

    "นี่ถ้าจะมาว่าเรื่องที่คุยกับโดยองล่ะก็บอกเลยว่าปัญญาอ่อนมาก เขาเป็นเพื่อนฉันมานานมากละ เพื่อนกันเฉยๆหน่ะ"

    "ไม่เกี่ยวกับไอ่นั้น เกี่ยวที่เธอพูดเรื่องอะไรกับมัน"

    "เรื่องอะไร"

    "เธอไปเที่ยวกับไอ่เเจฮยอนมาเหรอ" ชานยอลกดเสียงต่ำลงจนน่ากลัวเเล้วหันมามองฉันอย่างเกรี้ยวกราด

    "นี่นายแอบฟังเหรอ?!"

    "อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ฉันถามก็ตอบ!"

    "เออใช่เเล้วจะทำไม"

    "ร่านนักนะ!" ชานยอลพูดพร้อมกับเบรกรถ โอ๊ยหมอนี้เป็นพรีเซ็นเตอร์ผ้าใบเบรกรึไง เบรกรถเเทบจะทุกตอนเเทบเบรกแบบจอดสนิทในครั้งเดียวด้วย -*-

    "ร่านอะไร? เเค่ไปเที่ยวเนี่ยะนะ! นี่นายจะไม่ให้ฉันทำอะไรเลยเหรอ กะอิเเค่ไปเที่ยวเนี่ยนายมาโมโหทำไม ไหนบอกคนอย่างฉันจะไปไหนก็ไม่สนใจนิ มาทำแบบนี้เหมือนนายหึงเวลามีเรื่องอะไรของฉันที่เกี่ยวกับเเจฮยอนนายก็ไม่เคยพอใจ พอฉันพูดว่านายหึงนายก็บอกว่าไม่มีวันหึงคนเเบบฉัน นายเป็นบ้าอะไรกันเเน่ห่ะชานยอล!"

    "โถ่เอ้ย!" เขาสบถออกมาเหมือนทำอะไรไม่ได้ เรานิ่งเงียบกันสักพักเขาก็สตาร์ทรถอีกครั้ง เเต่ดันสตาร์ทไม่ติด

    "สมน้ำหน้าชอบเบรกดีนัก รถมันคงรำคาญเบรกอยู่ได้ไม่งั้นพวกก็อบลินน์ก็คงเเกล้งนายอยู่เพราะนายมันบาปหนา" ฉันชอบนักตอกย้ำคนด้วยการกวนทีนเนี่ยะ

    "หยุดพูดอะไรปัญญาอ่อนสักทีเถอะ" ชานยอลพูดพร้อมกับลงรถไปเช็คดูว่ามีอะไรพังหรือเปล่า ฉันก็ลงตามไปด้วยเพราะอยากรู้ว่าอะไรมันพัง



    'ครืน ครืน' ฟ้าเริ่มร้องเเละฝนก็ค่อยๆลงเม็ดเเละ 'ซ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา' ฝนเทลงมาเหมือนฟ้ารั่ว นี่มันฤดูอะไรฝนหลงฤดูเหรอ หรือพระเจ้าแกล้งเรากันนะ เรารีบวิ่งไปเปิดประตูรถ เเต่มันดันเปิดไม่ออก!!

    "ยัยบ้าเธอปิดประตูรถเหรอ"

    "ก็ใช่น่ะสิ"

    "โถ่เอ้ยฉันไม่ได้เอากุญแจลงมาด้วยนะ"

    "ก็ใครจะไปรู้หล่ะตาบ้า!"

    "ยัยบื้อเอ้ย!" ชานยอลล้วงมือถือออกมากดโทรเรียกคนขับรถของที่บ้านให้มารับพวกเรา เเต่ในตอนนี้พวกเราก็เปียกโชกกันจนชุ่มไปถึงข้างในเเล้ว ฉันหันไปเห็นที่นั่งรอรถประจำทางเลยเรียกเขาให้ไปหลบฝนที่นั่นก่อน

    "นี่ ไปหลบฝนตรงนั้นกัน" ฉันวิ่งไปกระชากแขนเขาให้วิ่งตามไปเมื่อมาถึงฉันก็ทิ้งตัวลงนั่งตรงม้านั่งทันที หนาวจังเลยเเฮะ

    "ยัยบื้อเอ้ย" เขาพูดพร้อมกับมองฉัน

    "นายเองก็บื้อ ทำไมไม่เอากุญเเจรถลงไปด้วย"

    "เเล้วเธอจะลงตามมาทำไมล่ะ!"

    "ก็.."

    เปรี้ยงงงงง!!!!

    "กรี๊ดดดดดดดดดดดดด" ฉันกำลังจะอ้าปากเถียงเเต่ตกใจเสียงฟ้าซะก่อน ฉันไม่ชอบเอาซะเลย เเล้วตอนนี้ฉันมุดหัวอยู่ตรงอกใครกันเนี่ยะ...

    "เวลานี้ยังจะอ่อยอีก" ชานยอลพูดทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง เเละผละออกจากเค้า

    "ฉันไม่ได้อะ"

    เปรี้ยงงงงงงง!!!

    "กรี๊ดดดดดดดด" ฉันกระโดดเข้าไปกอดเขาอีกครั้งอย่างลืมตัว

    "กะอิเเค่เสียงฟ้าร้องจะอะไรนักหนา"

    "ก็คนมันกลัวนี่!"

    "อยากกอดก็ขอตรงๆไม่ใช่สำออยเเบบนี้" เขาพูดเเบบนี้ทำให้ฉันอยากจะกระโดดไปกอดเสาเเทน คนมันเผลอตัวไม่ได้ตั้งใจป่ะอิตาบ้านี่ เเต่เเขนฉันก็ยังคงไม่ปล่อยจากคอเขาเเถมยังตัวสั่นมากๆทั้งกลัวเเละหนาวด้วย

    "ฉัน ฉันหนาว" ฉันบอกเขาไปทั้งๆที่ตัวสั่นอยู่อย่างงั้น ทำไมหนาวเเบบนี้เนี่ย มันจะหนาวเกินไปแล้ว คนขับรถของชานยอลก็มาช้าเหลือเกิน

    "่อ่ะ" ชานยอลถอดสูทของตัวเองออกมาคลุมให้ฉัน ฉันเลยมองเขาอย่างขอบคุณ เเล้วเอาหัวฉันเเนบกับอกต่ไปอย่างนั้น...

    "มองอะไร? ฉันเเค่ไม่อยากอยู่กับศพเธอตามลำพังก่อนที่คนขับรถจะมา" เกือบดีแล้วไอ่บ้าถ้าไม่เเช่งฉันให้เป็นศพหน่ะ

    "ถ้าฉันตายจะมาหักคอนายคนเเรก" ฉันกระชับสูทของเขาให้เเน่นขึ้นเพราะมันเริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆ




    ---------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×