ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประวัติหลวงพ่อทวดเหยียบทะเลน้ำจืดและคุณอภินิหารพระเครื่องฯ

    ลำดับตอนที่ #6 : ประวัติการสร้างพระเครื่อง สมเด็จหลวงพ่อทวด ฯ

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.พ. 53


    ประวัติการสร้าง

    พระเครื่อง  สมเด็จหลวงพ่อทวด ฯ

    ______________

    ที่ปรากฏองค์ของท่านขึ้นมาในยุคนี้ได้  เพราะความฝัน คือ-

              คืนวันหนึ่งในปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๕ เวลาใกล้รุ่ง  ข้าพเจ้าฝันว่าได้พบท่าน ณ ที่แห่งหนึ่ง  ซึ่งอยู่ไม่ไกลวัดช้างให้เท่าใดนัก  ท่านได้มอบยาชนิดหนึ่งให้ข้าพเจ้ากิน   แล้วสวมมงคลรัดศีรษะให้อีก  แสดงว่าท่านได้รับข้าพเจ้าไว้เป็นศิษย์   เพื่อจะให้ข้าพเจ้าได้รับใช้งานของท่านในโอกาสต่อไป  เป็นการสนองพระคุณพระอาจารย์เสร็จแล้วท่านเดินจากข้าพเจ้าไป  ทางทิศที่ตั้งของวัดช้างให้รุ่งเช้าข้าพเจ้าคิดว่าสถูปศักดิ์สิทธิ์หน้าวัดช้างให้นี้  คงจะเป็นสถูปซึ่งได้บรรจุอัฐิของท่าน  หรือสมเด็จเจ้าพะโคะ  เมื่อสมันหลายร้อยปีมาแล้วเป็นแน่  ข้าพเจ้าปรารถนาจะไปที่วัดเพื่อสืบถามดู  แต่ในระยะนั้น  ข้าพเจ้ามีธรุกิจจำเป็นบางประการไม่สามารถจะไปได้ตามความตั้งใจ  โอกาสต่อมา  เมื่อวันที่    กุมภาพันธ์  พ.ศ.๒๔๙๗  ตรงกับวันพฤหัสบดี  ขึ้น    ค่ำ  เดือน ๓

                    เมื่อพวกเราได้ทำความเคารพ  ท่านอาจารย์ทิมธมมธโร   เจ้าอาวาสวัดช้างให้  ก็ได้สนทนาปราศรัยต่อกัน   วันนี้เป็นวันแรกที่ข้าพเจ้าได้มาเยี่ยมวัดช้างให้  และได้รู้จักท่านอาจารย์    ว่าโบสถ์ที่สร้างค้างอยู่นั้น  ท่านไม่คิดจะสร้างพระเครื่องไว้แจกจ่ายแก่ผู้สละทรัพย์ โมทนาสร้างโบสถ์บ้างหรือ  ท่านอาจารย์ตอบว่า  เคยคิดมา ๒ ปีแล้ว  แต่ไม่สำเร็จข้าพเจ้าจึงรีบบอกว่าถ้าเช่นนั้นข้าพเจ้าขอรับจัดสร้างขึ้นถวาย   ท่านก็ยินดีที่ข้าพเจ้าจัดทำให้  ข้าพเจ้าได้เรียนขอให้ท่านอาจารย์เลือกแบบพระ  ท่านจะเอาปางไหนตามใจท่านชอบ  แต่ข้าพเจ้าขอเพียงแต่เลือกสีของพระคือสีแดง  ทันใดนั้นข้าพเจ้าก็เกิดรู้สึกขนพองสยองเกล้าขึ้นมา  ทุกคนในที่นั้นได้เห็นเป็นประจักษ์  ข้าพเจ้าจึงพูดต่อไปว่า  ปรากฏการณ์เช่นนี้ที่มีต่อตัวข้าพเจ้า  ก็เห็นจะเป็นเพราะหลวงพ่อทวด ฯ ท่านมีความปิติยินดี  ที่พวกเราคิดจะสร้างพระเครื่องครั้งนี้  แต่เอาเถอะขอให้ท่านอาจารย์ ฯ เลือกแบบพระก็แล้วกัน  ทันใดนั้นข้าพเจ้าก็เกิดขนพองสยองเกล้าอย่างแรงขึ้นอีกครั้งหนึ่งและได้เห็นพระเครื่องลอยเด่นอยู่ตรงหน้า  เป็นรูปพระภิกษุชรานั่งขัดสมาธิอยู่บนดอกบัวมีสีพระองค์ดำ  ปรากฏการณ์อันอัศจรรย์ครั้งนี้โดยหลวงพ่อทวด ฯ  บันดาลให้ข้าพเจ้าได้เห็นเป็นมโนภาพอย่างชัดเจนยิ่งนัก  ข้าพเจ้าจึงดูนาฬิกาที่ข้อมือขณะนั้นเวลา ๑๓.๒๕ น. ข้าพเจ้าจึงได้เรียนให้ท่านอาจารย์ทราบว่า  ตามนิมิตโดยอำนาจของพ่อทวด ฯ ครั้งนี้  เนื่องจากท่านแนะนำให้สร้างพระเครื่องขึ้นแทนองค์ของท่านเอง  จำเป็นที่เราจะต้องปฏิบัติตาม  และขอให้ท่านอาจารย์เป็นสื่อการติดต่อกับวิญญาณของท่าน  ในพิธีการที่จะสร้างพระเครื่องทุกๆ ระยะโดยใกล้ชิดด้วย

                    ๓. ผู้เขียนให้ช่างแกะขึ้ผึ้งเหลืองทำแบบพระเครื่องเสร็จแล้วเก็บไว้  ๓ คืน  รุ่งเช้าแบบขึ้ผึ้งแปรสภาพ  คือในองค์พระเครื่องซึ่งมีสบงจีวรคลุมยังเป็นยังเป็นสีเหลืองตามเดิม  แต่ผิวเนื้อที่อยู่นอกสบงจีวร    เช่น ศอ ถึง พักตร  ลำแขนถึงนิ้วมือหน้าแข้งถึงปลายเท้า  เกิดเป็นสีดำอย่างเอาหมึกทา  ปรากฏการณ์อัศจรรย์นี้  ท่านพระครู ฯ  นั่งสมาธิถามท่านว่า  ใครทำให้แปรสภาพเช่นนั้น  ท่านตอบว่าสมเด็จเจ้าพะโคะเอง  แล้วท่านอาจารย์ ฯ ถามถึงความฝันของผู้เขียนที่พบว่าสมเด็จเจ้าฯ ทำพิธีสวมมงคลให้  ว่าใครเป็นผู้ทำให้  และทำให้เขาทำไม    ท่านตอบว่าสมเด็จเจ้า ฯ ทำให้เพราะเขาเป็นคนดี    และชอบทางนี้  เราจะใช้ ( หมายถึงงานสร้างโบสถ์ )

                    เมื่อมีข่าวว่าวัดช้างให้จะสร้างพระเครื่องขึ้น  พี่น้องชาวพุทธในแถบนั้นต่างคนต่างสนใจเป็นจำนวนมาก  ได้บุกป่า  ขึ้นเขาชักชวนกันไปหาว่านนานาชนิด  มาถวายแก่ท่านอาจารย์เป็นจำนวนมากมาย  ทางวัดก็ได้เตรียมการรอวันจะทำพิธีอยู่อย่างพร้องเพรียง  และได้ปฎิบัติตามหลวงพ่อทวด ฯ  แนะนำผ่านท่านอาจารย์ทุกประการ

    นายฮวด   ผู้ใหญ่บ้านเหมือน  ในตำบลลำพยาได้มาหาข้าพเจ้าพร้อมด้วย  นายชาติ  สิมศิริกำนัน  โดยบังเอิญเมื่อเขาทราบว่าข้าพเจ้ากำลังหาดินดำเพื่อสร้างพระเครื่อง  นายฮวดขอรับอาสาจะขุดและขนเอาดินว่านสีดำซึ่งมีอยู่ ณ  เชิงเขาแห่งหนึ่งไปส่งให้ถึงวัด  โดยไม่คิดค่ารถค่าแรงแต่ประการใด

                    ดินว่านนี้เป็นดินสำดำตามธรรมชาติ  อยู่เป็นทางซึ่งจะใต้ภูเขา  ชาวบ้านแถวนั้นเรียกกันว่า  กากยายักษ์หมายถึงกากยายักษ์ในเรื่องรามเกียรติ์  ชาวบ้านเอาดินนี้มาตากแห้ง  หรือย่างไฟกินแก้โรคผอมเหลือง  หรือโลหิตจาง  เขาว่าดีนักจึงเป็นที่หวงแหนของชาวบ้านแถวนั้น 

                    เมื่อได้เตรียมการพร้อมสรรพ  ถึงกำหนดฤกษ์ยามแล้วก็เริ่มลงมือพิมพ์  ( ผลของการพิมพ์พระเครื่องตลอดถึงวันเวลา  ซึ่งได้อธิบายมาแล้วข้างต้น )

                    ตามที่ผู้เขียน  ได้จัดการสร้างพระเครื่องหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดครั้งนี้  เพราะผู้เขียนฝันว่า  สมเด็จเจ้าพะโคะมาทำพิธีสวมมงคลให้   ผู้เขียนปรานาจะตอบแทนพระคุณสมเด็จ ฯ  ท่าน  แต่ไม่รู้ว่าท่านสถิตอยู่ที่ไหน  จึงเรียนถามท่านเจ้าคุณเทพญาณโมลี  วัดตานีนรสโมสร  ท่านเจ้าคุณกรุณาบอกว่าท่านไม่โล่ไปไหนตามข่าวลือ  อัฐิของสมเด็จท่านอยู่ในเขื่อนหรือสถูปหน้าวัดช้างให้  ผู้เขียนจึงสร้างพระเครื่องเป็นรูปพระภิกษุชราต่างองค์สมเด็จท่านและตามนิมิต    วัดช้างให้  ซึ่งปรากฏทราบกันมาดีแล้วผู้เขียนปรารภกับ  ท่านพระครูวิสัยโสภณว่า พระเครื่องนี้จะให้ชื่อว่า  พ่อท่านทวดตามความนิยมเรียกของคนถิ่นนั้นแต่  ท่านพระครู ๆ นั่งสมาธิถามท่าน  ท่านว่าไม่เอา  ถามต่อไปว่าจะให้ชื่อสมเด็จพะโคะหรือ  ท่านว่าชื่อนี้ให้เขารียกกันทางโน้น ( หมายถึงภูมิลำเนาเดิม  หรือวัดพะโคะ ) ถ้ากระนั้นจะชื่ออย่างไร ?   วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของท่านบอกว่า  ให้ชื่อ หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด   จึงให้ชื่อพระเครื่องแต่วันนั้นมา

     

                                                                                      อนันต์  คณานุรักษ์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×