คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Percy Jackson and the Stolen Chariot [Part 1]
Percy Jackson and the Stolen Chariot
เพอร์ซี่ย์ แจ็คสัน กับ รถม้าศึกที่ถูกขโมย
Part 1
ผมกำลังเรียนคาบวิทยาศาสตร์ที่ห้าขณะที่ผมได้ยินเสียงดังมาจากด้านนอก
ว๊าก!-โอ้!-ไฮย่า! เหมือนกับใครบางคนถูกโจมตีโดยสัตว์ปีกที่ถูกครอบครอง และเชื่อผมเถอะ... นั่นคือเหตุการณ์ที่ผมเคยเผชิญมาก่อน
ไม่มีใครในห้องเรียนสังเกตถึงความวุ่นวายนั้นเลย พวกเรากำลังทำแล็บ ดังนั้นทุกคนก็คุยกันอยู่ และมันก็เป็นเรื่องยากที่ผมจะมองไปข้างนอกหน้าต่างในขณะที่ผมกำลังทำเป็นล้างบีกเกอร์อยู่
และนั่นเอง! ที่นั่นมีเด็กผู้หญิงอยู่ที่ตรอกแคบๆ ถือดาบอยู่กับอาการอ่อนแรง เธอตัวสูงและมีกล้ามเหมือนกับนักกีฬาบาสเกตบอล ผมสีน้ำตาล เธอสวมกางเกงยีนส์ รองเท้าคอมแบ็ท และแจ็กเก็ตที่ทำจากผ้าหยาบๆ เธอกำลังฟันฝูงนกสีดำที่มีขนาดเหมือนกำลังออกล่าเหยื่อ ขนนกติดอยู่ที่เสื้อของเธอหลายแห่ง เธอมีแผลที่เลือดไหลลงมารอบๆ ดวงตาข้างซ้ายของเธอ เท่าที่ผมเห็น มีนกตัวหนึ่งยิงขนนกที่เหมือนกับลูกศร และมันก็ชนไหล่ของเธอเต็มๆ เธอสบถสาปแช่งและฟันมัน แต่มันก็บินหนีไปได้
โชคร้ายเหลือเกินที่ผมจำเธอได้ เธอคือแคลรีส ศัตรูเก่าของผมที่ค่ายฮาล์ฟบลัด โดยปกติแล้ว แคลรีสจะอยู่ที่ค่ายฮาล์ฟบลัดตลอดทั้งปี ผมไม่รู้เลยว่าเธอมาทำอะไรที่ย่านอัพเปอร์ อีสต์ไซด์ในตอนบ่ายๆ ของวันเรียน แต่เธอกำลังตกอยู่ในปัญหาใหญ่อย่างเห็นได้ชัด เธอเกือบจะตายแล้ว
ผมทำสิ่งเดียวที่ผมสามารถจะทำได้
“ครูไวท์” ผมเรียก “ผมขอไปห้องน้ำได้มั้ยครับ? ผมรู้สึกเหมือนผมกำลังจะอ้วก”
คุณรู้ใช่มั้ยว่าคำวิเศษสำหรับครูหลายๆ คนคือได้โปรด? โอ้...นั่นมันไม่จริงเลย คำวิเศษคือคำว่าอ้วกต่างหากล่ะ มันจะทำให้คุณออกจากห้องเรียนได้เร็วกว่าสิ่งอื่นใด
“ไป!” คุณนายไวท์เอ่ย
ผมวิ่งออกจากห้อง ถอดแว่นรักษาความปลอดภัย ถุงมือ กับผ้ากันเปื้อนที่ใช้ในแล็ป จากนั้นผมก็หยิบอาวุธที่เยี่ยมที่สุดของผมขึ้นมา ปากกาลูกลื่นที่ชื่อว่าริปไทด์
ไม่มีใครหยุดผมที่ห้องโถง ออกจากโรงยิม และผมก็เข้าไปในตรอกแคบๆ เวลาเดียวกับที่แคลรีสฟาดนกปิศาจด้วยสันดาบของเธอ เหมือนกับเธอกำลังทำโฮมรัน เจ้านกกระเด็นออกไปกระแทกกำแพงและไหลลงไปในถังขยะ มันยังคงเหลืออีกเป็นฝูงรอบๆ เธอ
“แคลรีส!” ผมตะโกน
เธอจ้องผมอย่างไม่เชื่อสายตา “เพอร์ซี่ย์? นั่นนายกำลังทำอะไร“
เธอถูกบาดโดยฝูงลูกศรขนนกที่ผ่านหัวเธอไปอย่างรวดเร็วและแทงที่กำแพง
“นี่มันโรงเรียนของฉัน” ผมบอกเธอ
“โชคดีเหลือเกิน” เธอคำราม แต่เธอกำลังยุ่งกับการต่อสู้เกินกว่าที่จะบ่นได้ ผมเปิดฝาปากกา จากนั้นมันก็กลายเป็นดาบสัมฤทธิ์ยาว 3 ฟุต และเข้าร่วมการต่อสู้ ฟันไปที่ฝูงนกและป้องกันขนนกของมันให้ห่างจากดาบของผม ในตอนนี้แคลรีสกับผมถูกโจมตีฝูงนก จนกระทั่งนกทั้งหมดปล่อยขนนกน้อยลง
พวกเราหอบ ผมมีแผลเล็กน้อย แต่ไม่สำคัญนักหรอก ผมดึงลูกศรขนนกออกจากแขนของผม มันอยู่ลึกมาก และถ้ามันไม่พิษ ผมก็ปลอดภัย ผมหยิบอาหารทิพย์ออกจากแจ็กเก็ต ก่อนที่จะหักครึ่งแบ่งมันให้แคลรีส
“ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือของนาย” เธอพูดพึมพำ แต่ก็รับอาหารทิพย์จากผม
พวกเรากินอาหารทิพย์ไม่มาก เพราะอาหารทิพย์สามารถเผาคุณเป็นเถ้าถ่านถ้าคุณกินมันตามใจชอบ ผมเดาว่านั่นเป็นเหตุผลที่คุณไม่เคยเห็นเทพอ้วน อย่างไรก็ตาม ในไม่กี่วินาทีแผลของเราก็หายไป
เธอหยิบดาบใส่ฝัก ทำความสะอาดแจ็กเก็ตของเธอ “แล้วเจอกัน”
“เดี๋ยวก่อน!” ผมเรียก “เธอไม่สามารถหนีนะ”
“โอ้...แน่นอนว่าฉันทำได้”
“มีอะไรเกิดขึ้น? ทำไมเธอถึงออกมาจากค่าย? ทำไมนกพวกนั้นถึงตามล่าเธอ?”
แคลรีสผลักผม หรือไม่ก็พยายามล่ะนะ...ผมใช้ทริกของเธอ แค่ก้าวขาและปล่อยให้หมัดของเธอผ่านตัวผมไป
“เร็วๆ เข้า” ผมพูด “เธอเพิ่งเกือบจะถูกฆ่าที่โรงเรียนของฉัน นั่นมันทำให้มันเป็นเรื่องของฉันเหมือนกัน”
“มันไม่ใช่เรื่องของนาย!”
“ให้ฉันช่วย”
แคลรีสตัวสั่น ผมรู้สึกเหมือนเธอต้องการที่จะต่อยผมสักหมัดสองหมัด แต่ในขณะเดียวกัน ผมเห็นแววตาสิ้นหวังในดวงตาของเธอ เหมือนกับเธออยู่ในปัญหาใหญ่
“นั่นคือพี่ชายของฉัน” เธอบอก “พวกเขาเล่นพิเรนทร์กับฉัน”
“โอ้” ผมพูดอย่างไม่ค่อยประหลาดใจสักเท่าไหร่ แคลรีสมีพี่น้องมากมายที่ค่ายฮาล์ฟบลัด พวกเขาชอบหาเรื่องกัน ผมเดาว่ามันจะไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจตั้งแต่พ่อของเขาคือแอรีส เทพแห่งสงคราม “พี่ชายคนไหนล่ะ? เชอร์แมน? มาร์ค?”
“ไม่ใช่” เธอกล่าว น้ำเสียงเธอดูหวาดระแวงกว่าที่ผมเคยได้ยิน “พี่ชายอมตะของฉัน ฟีบี้กับเดมอส”
พวกเรานั่งกันอยู่ที่ม้านั่งขณะที่แคลรีสเล่าเรื่องให้ผมฟัง ผมไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ในการกลับไปโรงเรียน คุณนายไวท์เพิ่งสั่งพยาบาลให้ส่งผมกลับบ้าน และคาบที่หกเป็นคาบการงาน คุณเบลไม่เคยเช็คเรื่องเข้าเรียนหรอก
“เท่าที่ฉันเข้าใจ...” ผมพูด “เธอเอารถของพ่อเธอมาขับโดยที่ไม่ได้ขออนุญาต และมันก็หายไป”
“มันไม่ใช่รถ” แคลรีสคำราม “มันเป็นรถม้าศึกสงคราม และเขาอนุญาตให้ฉันเอาออกไปได้ มันเหมือนกับการ...ทดสอบ ฉันถูกสั่งให้เอารถไปคืนตอนดวงอาทิตย์ตก แต่“
“พี่ชายของเธอขโมยมันไป”
“ม้าศึกขโมยมันไป” เธอแก้ “พวกเขามีม้าศึกจำนวนมาก เข้าใจมั้ย และพวกเขาก็ไม่ต้องการให้มีคนอื่นขับม้าศึก ดังนั้นพวกเขาเลยขโมยม้าศึกไปจากฉัน และกำจัดฉันด้วยลูกศรที่มาจากขนนกโง่ๆ นั่น”
“สัตว์เลี้ยงของพ่อเธอเหรอ?”
เธอพยักหน้าอย่างทุกยาก “พวกเขาป้องกันวังของเขา อย่างไรก็ตามถ้าฉันไม่สามารถหาม้าศึกเจอ...”
เธอทำท่าเหมือนกับเธอยอมแพ้แล้ว ผมไม่ได้ดูถูกเธอ ผมเคยเห็นแอรีสคลั่งแล้ว และนั่นก็ไม่ใช่ภาพน่าดูเลยแม้แต่นิดเดียว ถ้าแคลรีสสอบตก เขาก็จะทำโทษเธอ ทำโทษอย่างหนักเลยล่ะ
“ฉันจะช่วยเธอเอง” ผมพูด
แคลรีสถลึงตาใส่ผม “นายจะช่วยฉันทำไม? ฉันไม่ใช่เพื่อนนายสักหน่อย”
ผมไม่สามารถเถียงได้เลย แคลรีสร้ายกับผมเป็นล้านครั้ง แต่ยังไงผมก็ไม่ตกลงกับความคิดของเธอหรือของคนอื่นที่จะสู้กับแอรีสตัวคนเดียว ผมพยายามจะอธิบายกับเธอ เมื่อได้ยินเสียงผู้ชายคนหนึ่งพูดว่า “โอ้ ดูสิ...ฉันคิดว่าเธอร้องไห้อยู่”
วัยรุ่นชายยืนพิงเสาโทรศัพท์ เขาสวมกางเกงยีนส์ตุ่นๆ เสื้อเชิ้ตสีดำ แจ็กเก็ตหนัง และผ้าพันคอพันรอบหัวของเขา มีดคาดอยู่ตรงเข็มขัด สีตาของเขาคล้ายๆ กับสีของไฟ
“ฟีบี้” แคลรีสกำหมัด “ม้าศึกอยู่ไหน นายขโมยมันไปเหรอ?"
“เธอทำหายนี่” เขาพูดหยอกล้อ “อย่าถามฉันเลย”
“นาย“ แคลรีสหยิบดาบขึ้นมาและพุ่งเข้าใส่ แต่เขาหายตัวไป ทำให้เธอฟันดาบเข้ากับเสาโทรศัพท์
ฟีบี้ปรากฏตัวขึ้นที่ม้านั่งข้างๆ ผม เขากำลังหัวเราะแต่เขาหยุดเมื่อผมหยิบริปไทด์ขึ้นมาและตวัดดาบไปที่คอหอยของเขา
“คุณควรจะคืนม้าศึกมาดีกว่านะ” ผมบอกฟีบี้ “ก่อนที่ผมจะโมโห”
เขายิ้มเยาะและมองอย่างก้าวร้าว “นี่คือแฟนตัวกระจิ๊ดของเธอเหรอ แคลรีส? เธอต้องสู้โดยให้คนอื่นช่วยแล้วหรือไง?”
“เขาไม่ใช่แฟนฉัน!” แคลรีสดึงดาบออกมาจากไม้ค้ำโทรศัพท์ “และเขาก็ไม่ใช่เพื่อนของฉัน เขาคือเพอร์ซี่ย์ แจ็คสัน”
อะไรบางอย่างเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ของฟีบี้ เขาดูประหลาดใจ หรืออาจจะสงสัยด้วย “ลูกชายของโพไซดอน? คนเดียวที่ทำให้พ่อของฉันโกรธน่ะหรือ? โอ้...นั่นเยี่ยมไปเลย แคลรีส เธอกำลังเดทอยู่กับศัตรูงั้นหรือ?”
“ฉันไม่ได้เดทกับเขา!”
ดวงตาของฟีบี้เปล่งประกายเป็นสีแดงจ้า แคลรีสกรีดร้อง เธอตีอากาศอย่างแรงเหมือนกับเธอกำลังถูกโจมตีโดยแมลงที่มองไม่เห็น “ขอร้อง...อย่า!”
“คุณทำอะไรกับเธอ?” ผมเรียกร้อง
แคลรีสกระเด็นไปที่ถนน เธอแกว่งดาบอย่างบ้าคลั่ง
“หยุดซะ!” ผมตะโกนสั่งฟีบี้ ผมแทงดาบลึกเข้าไปที่คอหอยของเขาอีกเล็กน้อย แต่เขาก็หายตัวไป แล้วปรากฏตัวอยู่ที่ด้านหลังของเสาโทรศัพท์
“อย่าตื่นเต้นไปน่า...แจ็คสัน” ฟีบี้พูด “ฉันแค่แสดงในสิ่งที่เธอกลัวแค่นั้นเอง” ประกายค่อยๆ เลือนหายไปจากดวงตาเขา
แคลรีสล้มลง เธอหอบอย่างหนัก “นายมันน่ารังเกียจ” เธอพูดกระหืดกระหอบ “ฉันจะ...ฉันจะแก้แค้นนาย”
ฟีบี้หันหน้ามาหาผม “แล้วนายล่ะ...เพอร์ซี่ย์ แจ็คสัน? นายกลัวอะไร? ฉันจะหามัน นายรู้ใช่มั้ยว่าฉันจะทำอย่างแน่นอน”
“ส่งม้าศึกคืนเถอะ” ผมพยายามจะทำเสียงเรียบ “ผมเคยสู้กับพ่อของคุณแล้วครั้งหนึ่ง คุณไม่ต้องกลัวผม”
ฟีบี้หัวเราะ “ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว แต่แค่กลัวตัวมันเอง นี่ใช่สิ่งที่พวกเขาพูดหรือเปล่า? ให้ฉันบอกนายเกี่ยวกับความลับของนายมั้ย เลือดผสม ฉันกลัวเหลือเกิน ถ้านายต้องการม้าศึกคืน ก็เข้ามาและเอาไปได้เลย มันอยู่ตรงข้ามกับแม่น้ำ อยู่ในที่ที่นายควรอยู่อะไรทำนองนั้นน่ะ”
เขาดีดนิ้วแล้วหายไปในไอน้ำสีเหลือง
และตอนนี้ผมจะต้องบอกคุณแล้ว ผมเคยเจอเทพและอสูรกายต่างๆ มากมายที่ผมไม่ชอบ แต่ฟีบี้ชนะเลิศรางวัล ‘เทพและอสูรกายที่ผมไม่ชอบ’ ไปเลย ผมไม่เคยได้ ‘A’ ที่โรงเรียนเลย ดังนั้นผมจึงใช้เวลาแทบจะทั้งชีวิตจัดการกับพวกอ่อนหัดที่ทำให้ผมและเพื่อนของผมกลัว ในตอนที่ฟีบี้หัวเราะเยาะผมและการทำให้แคลรีสล้มโดยทำแค่การจ้องเธอเท่านั้น ผมต้องการที่จะสอนบทเรียนให้แก่เขา
ผมฉุดแคลรีสขึ้น ใบหน้าของเธอมีเหงื่อออกเต็มไปหมด “ในตอนนี้...เธอต้องการความช่วยเหลือหรือยังล่ะ?” ผมถาม
To Be Continued
นิยายเล่มนี้เป็นเล่มพิเศษที่ Rick Riordan แต่งคั่นระหว่าง Percy Jackson เล่ม 4 กับ 5 นะครับ มีเรื่องสั้น 3 เรื่องและสัมภาษณ์ตัวละครต่างๆ ประวัติตัวละคร ฯลฯ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของเรื่องสั้นที่อยู่ในเล่มนี้ครับ
แปลสามชั่วโมงกว่าๆ =[]= ปวดหัวมาก ช่วยติชมด้วยนะครับ เจอคำผิดหรือคำแปลกๆ บอกผมที่คอมเม้นท์ได้เลยนะครับ เป็นนักหัดแปลครับ J
เป็ดพิษ
ความคิดเห็น