คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : =+=Pray=+=
::Pray คำอธิษฐานที่ไม่อาจตอบสนอง::
ติ๊ดๆ...ติ๊ดๆ...
ร่างเล็กภายใต้ผ้าห่มขาวขยับเขยื้อนน้อยๆ แต่เสร็จกระนั้นก็นิ่งเฉยต่อ
ติ๊ดๆ...ติ๊ดๆ.....
พรึ่บ...ผ้าฝ้ายผืนบางถูกดึงขึ้นคลุมโปงเพิ่มกลบเสียงรบกวน แก่ร่างบาง
ติ๊ดๆ...ติ๊ดๆ....
ควับ...ผ้าห้มฝ้ายขาวผืนบางถูกเลิกขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง เผยให้เห็น ร่างอรชรที่ประกอบด้วย ผิวขาวเนียนใส
ริมฝีปากสีลิ้นจี่ได้รูปกระจับรับใบหน้าเรียว ตามรกตหวานเยิ้มที่ดูปรือๆด้วยความเพลีย ผมสีทองยาวประบ่าต้องประกายวาวกับแสงสุริยาแห่งรุ่งอรุณที่ลอดผ่านรอยแหวกม่าน ด้วยกายท่อนบนที่ลุกนั่งขึ้นมาทำให้เห็นว่าร่างนั้นเป็นเพศที่ตรงกันข้ามกับรูปลักษณ์นั่นอย่างเหลือเชื่อ
มือเล็กขาวเอื้อมไปหยิบมือถือที่โต๊ะข้างเตียง นิ้วเรียวกดปุ่มรับสาย ดูทีไม่ค่อยสบอารมณ์เมื่อเห็นเบอร์ที่โชว์อยู่
"มีอะไรเลโอลีโอ..." เสียงหวานใสแต่ยังย้ำว่าเป็นบุรุษเพศ(?!!)กล่าวทักเนิบๆ ดูท่าว่าความเพลียยังทำพิษอยู่ไม่น้อย
"เฮ้...ทำอะไรอยู่น่ะคุรา รอตั้งนานกว่าจะมารับสาย ห๊า..!" เสียงดังที่ออกทางตะโกนทำให้คุราต้องยื่นมือถือออกไกลจากหู
"นี่ เลโอลีโอ...นายฟังเสียงชั้นยังไม่รู้อีกเรอะว่าชั้นทำอะไร แล้วมาปลุกแต่เช้าเพื่อที่จะมาตะโกนบ่นใส่หูชั้นเร้อ!!" เสียงที่ยังคงไว้ซึ่งความสะลึมสะลือถึงแม้จะเริ่มดังก้อง แฝงด้วยความหงุดหงิด
"เออ จิงด้วย ท่าทางนายคงเพิ่งตื่นนอนชัวร์(คุรา//เออสิ) น่า...ขอโทษที..แหะแหะ.."
"แล้วโทรมาปลุกแต่เช้านี่มีธุระอะไรล่ะ" คุราค่อยๆยันกายลุกไปยังหน้าต่าง มือเรียวรูดเชือกพรึ่บเพื่อเปิดม่าน และต้องเอามือนั่นป้องตาเพราะแสงสว่างที่แรงกล้า ได้สาดส่องเข้ามาอย่างรวดเร็วจนรูม่านตาร่างบางปรับตัวไม่ทัน
" อันที่จริงก็ไม่ได้มีธุระอะไรที่สำคัญมากหรอกนะ แล้ว ที่จริงรู้มั๊ย ตอนนี้มันจะ11โมงแล้วไม่ได้เช้าแล้วนะคุราปิก้า (คุรา// อือ...หา...จิงอ่ะ) ฮะฮะ นายเนี่ยน้า ขี้เซาไม่เปลี่ยนเลยจิงจิ๊ง..." ทางฝ่ายเลโอลีโอก็ปล่อยก๊ากจากความเปิ่นของเพื่อนสนิท
"ช่างชั้น น่า...แล้วมีอะไรล่ะ"ใบหน้าแดงและร้อนผ่าวด้วยความอาย
"วันนี้ นายมาเยี่ยมพวกชั้นหน่อยสิ วันนี้วันอาทิตย์นายน่าจะว่างนะ" "มันก้อว่างนะ แต่.." "เอาน่าพวกเราไม่ได้อยู่ด้วยกันมานานแล้วนะ กอร์นก้อ บ่นคิดถึงนาย" เลโอลีโอ เริ่มหว่านล้อม..." อะ...เอางั้นก็ได้ จะให้ไปเจอที่ไหนล่ะ"
"เอาที่อพาร์ทเม้นชั้นนี่แหละ นายมาถูกนี่" "อืมๆ...แค่นี้นะเดี๋ยวจะไป" ว่าแล้วคุราก็รีบตัดสายทันที แถมปิดมือถืออีกต่างหาก.....
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“เฮ้ เลโอลีโอ อาหารเสร็จรึยัง”
“เสร็จแล้วๆ เฮ้ๆคิรัวร์มายกออกไปซิ”
“เฮ้ย เรื่องอะไรล่ะ เรียกกอร์นเซ่”
เฟี้ยว….โป๊ก!!
“เฮ้ย..ไรเนี่ย” วัตถุสีเงินยาวถูกฟาดเข้าหัวฟูๆเข้าอย่างจังจนเกิดรอยนูน
“ เฮ้..ไอเลโอ ทำไมต้องปาตะหลิวมาด้วยฟระ” เด็กหนุ่มผมเงินที่ถูกตัดแต่งพริ้วชี้ไปแต่ละทาง ลุกขึ้นจากการนอนบนโซฟา มือข้างนึงถือตะหลิวที่หยิบได้ข้างๆ ปากลับไปยังชายหนุ่มร่างสูงโย่งผมดำที่ยื่นหน้ามาจากห้องครัว ซึ่งเค้ารับมันได้อย่างสวยงาม
“ชิ ถามได้ มาถึงก็เอาแต่กินกะดูทีวี ไม่ช่วยอะไรซักอย่าง นี่นายตั้งใจจะ..”
ติ๊งหน่องๆ.. เสียงกริ่งประตูขัดจังหวะคนทั้งสอง เด็กผมดำรีบรี่ไปยังประตูทันที
“เฮ้ กอร์น ดูก่อนนะว่าใคร” ชายผมดำในชุดสูทที่สวมทับด้วยผ้ากันเปื้อนระบายตรงปลาย(พอจิ้นแล้วอยากอ้วก) กล่าวทักก่อนที่เด็กชายจะแตะลูกบิด
“ อะ..ไม่เป็นไรหรอกไม่ใช่คุราปิก้า คุณเซ็นริทสึน่ะ” กอร์นตอบกลับมาพร้อมเปิดประตูส่วนฝ่ายเลโอลีโอก็ลาก
คิรัวร์เข้าครัวไป
“อืม ..งั้นช่วยดูแลข้างนอกด้วยนะ” เลโอยื่นหน้าจากห้องครัวมาวานทิ้งท้าย
“ อืม..เชิญครับคุณเซ็นริทสึ” กอร์นเบี่ยงตัวไปข้างๆหลบให้สาวร่างเล็กเดินผ่านเข้ามา
“ขอบใจจ๊ะ กอร์นคุง” เสียงหวานใสราวกับกำเนิดออกมาจากเครื่องดนตรีที่รังสรรค์อย่างปราณีตตอบกลับมา ร่างเล็กเดินไปวางห่อของที่ถูกผูกด้วยริบบิ้นสวยงามรวมกับห่ออื่นๆลงบนโต๊ะทานข้าวซึ่ง บนนั้นเต็มไปด้วยอาหารต่างส่งกลิ่นหอมกรรจาย และเด่นที่สุดเห็นจะเป็นเค้กครีมสดสองชั้น ตกแต่งด้วยผลไม้นานาชนิด พร้อมทั้งปกเทียนเล็กๆ18เล่มไว้รอบๆ
“แล้วคนอื่นๆละจ๊ะ กอร์นคุง”เซ็นริทหันไปถามเด็กชายที่เดินออกมาจาห้องครัวในมือถือแก้วน้ำที่มีไอน้ำจับเนื่องด้วยความเย็นจากน้ำภายใน เธอรับแก้วน้ำมาไว้ในมือพลางพยักหน้าน้อยๆเป็นเชิงขอบคุณ
“เดี๋ยวก็คงมาแหละครับ..(ติ๊งหน่องๆ..) นั่นไงมาพอดี” แล้วกอร์นก็รีบรี่ไปที่ประตูอีกครั้ง
“ใครมาน่ะกอร์น” เด็กหนุ่มผมเงินตะโกนถาม ในมือถือถาดไม้เดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับเลโอลีโอ
“เดี๋ยวนะ ..อะ สวัสดีครับคุณบิสเก็ต” เด็กชายกล่าวทักพร้อมกับรับห่อของจาก เด็กสาว(?) ที่เดินก้าวเข้ามาไปวางรวมๆกับห่ออันอื่นที่โต๊ะ
“เอ๋ ยายแก่ มา อุ๊ฟ!!!”ถาดที่เด็กชายถือลอยขึ้นสูงพร้อมกับร่างที่ลอยตามแต่ ถาดนั่นถูกรับได้อย่างแม่นยำและสวยงามของในถาดไม่หล่นกระเด็นแม้แต่น้อยด้วยฝีมือสาวน้อย(!!) ผมสีเกาลัดที่ถูกรวบขึ้นสูงไว้
(อิมเมจใหม่ของป้าบิสในภาคNGLอ่ะ)ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกผู้ในที่แห่งนั้น และเสียงหล่นตุ้บของร่างเด็กชายที่หล่นกระทบพื้นห้อง (และถ้าสังเกตดีๆแล้วจะเห็นว่าถุงมือเจ๊แกหายไปข้างนึง)
“อะ..เอ่อ…”สุรเสียงหวานใสกล่าวออกมาอย่างติดๆขัดๆ
“เฮ้อ…เฮ้ย..คิรัวร์แกนะแกเกือบไปแล้ว” เลโอลีโอ เดินไปดึงคิรัวร์ที่ถูกประทะด้วยถุงมืออัดเน็นนอนหมอบกระแต ทางด้านกอร์นก็ช่วยเอาถาดอาหารจากบิสเก็ตไปจัดวางที่โต๊ะ จึงทำให้บิสเก็ตมีโอกาสเดินไปหยิบถุงมือจากพื้นได้
“ยังปากเสียเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ” เธอเหน็บคิลทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินไปหาเซ็นริทสึ “ไงเซ็นริทสึ”
“สวัสดีค่ะ คุณบิสเก็ต” เธอยิ้มน้อยๆ
“เป็นไงบ้างล่ะช่วงนี้” เธอกล่าวถาม แล้วก็เดินไปยังโต๊ะอาหารเพื่อช่วยกอร์นจัดของ เช่นเดียวกับเซ็นริท
“ก้อดีค่ะ เรื่อยๆสบายๆ” เธอตอบขณะที่ง่วนจัดกองของขวัญให้เข้าที่ ของขวัญขนาดย่อมที่ถูกส่งมาเพื่อเจ้าของงานนี้ถูกตั้งเรียงไว้อย่างสวยงามบนโต๊ะ ด้วยฝีมือของสาวร่างเล็ก บิสเก็ต กำลังจัดจานอาหารให้เข้าที่
“นี่ กอร์น แล้วจะมีใครมาอีกบ้างล่ะ…อืม…นี่ นิงิริ ซูชิเรอะเนี่ย” เธอถามและพึมพำเบาๆทั้งท้ายเมื่อเธอเห็นอาหารนั้น
“ก็ เดี๋ยว อาจารย์วิงค์กับซุชิก้อคงใกล้มาถึงแล้วแล้วก้อมีอาจารย์ของคุราปิก้า ที่ไม่แน่ว่าจะมารึปล่าว เค้าเลยส่งของขวัญมาไว้ก่อน” เด็กชายตอบ ซักพัก เสียงกริ่งประตูดังขึ้นอีกครั้ง และเช่นเคยคนที่เป็นฝ่ายไปเปิดประตูรับก็คือเด็กชายผมดำ กอร์นคนเดิม
“อ้าว ซูชิ อาจารย์สวัสดีครับ” กอร์นรับห่อของจากทั้งคู่มายื่นให้เซ็นริท บิสเก็ตเดินออกมาไปยังผู้ที่มาใหม่
“เป็นไงไม่ได้เจอกันซะนาน เหมือนเคยเลยนะ วิงค์” บิสเก็ตเหลือบมองไปยังชายเสื้อที่แลบออกมาของวิงค์ด้วยความขัน
“อะ ขอโทษครับ และสวัสดีครับท่านอาจารย์” วิงค์รีบยัดชายเสื้อเข้ากางเกงอย่างรวดเร็ว
“ฮะฮะ เอาเถอะๆ” แล้วเธอก็ยิ้มอย่างอารมณ์ดี และเดินไปยังห้องครัว ก่อนที่ประตูจะปิดลง ชายผู้หนึ่งก็ได้เดินเข้ามา
“เอ๊ะ..นั่น อาจารย์ของคุราปิก้านี่” คิรัวร์ทักขึ้นเมื่อเห็น
“สวัสดีๆ” ชายคนนั้นโบกมืออย่างอารมณ์ดีไม่แพ้บิสเก็ตให้ทุกคน ประตูห้องถูกปิดลง คราวนี้ทุกๆคนก้อได้มารวมตัวกันอยู่ที่นี่เรียบร้อย อาจารย์ของคุราเอาของขวัญไปให้เซ็นริทเพื่อที่เธอจะได้เอาไปจัดวางต่อ
“เอ๊ะ ทำไมเอาของขวัญมาอีกละครับ” กอร์นถามขึ้นพร้อมกับที่ทุกๆคนหันไปมองชายหนุ่ม บิสเก็ตที่ถือถาดใส่แก้วน้ำส้มเย็น7แก้วแจกเพื่อแจกจ่ายแก่ทุกคนก้อมองตาม
“ปล่าววว นี่ไม่ใช่ของชั้นหรอก แต่มีคนฝากมาน่ะ”
“เอ ใครอ่ะ เฮ้ย..ป้าแล้วน้ำส้มชั้นล่ะ แอ้ฟ!!” คิรัวร์คราวนี้ถูกหมัดอัดเน็นเสยเข้าไปเต็มๆ
“เพราะปากเสียนี่$แหละ…น้ำส้มถึงได้ไม่มีจะให้ไงล่ะ” (ที่จิงมันหมดรินได้แค่7แก้วเจ๊แกเลยแก้เผ็ดคิลมันซะ)
ทุกคนต่างหัวเราะร่วนต่อความรันทดอันบังเกิดจากความปากเสียของคิล จนไม่ได้ใส่ใจกับของขวัญจากบุคคลปริศนานั่นอีก(ไอพวกอันไซเมอร์!!!แล้วถ้ามันเปงระเบิดมีหวังพวกแกเปงจุลแน่!!) เลโอแจกจ่ายพลุสายรุ้ง(เรียกไม่ถูกง่ะ ละไว้ในฐานที่เข้าใจละกันนะ) แก่ทุกคน และรอเวลาที่ คนๆนึงจะมาถึง เจ้าภาพของงานๆนี้
(ตัดฉากเลยละกันจะได้ไม่ยาวมาก)
ปัง!!!!!!!!!!!!! เฮ……. “สุขสันต์วันเกิดคุราปิก้า!!”
เสียงระเบิดดังพร้อมที่สายรุ้งและเศษกระดาษสีกระจายฟุ้ง สายรุ้งหลายเส้นตกลงมาบนหัวอาคันตุกะที่เพิ่งมาถึง
ในทันทีที่เค้าได้เปิดประตูเค้ามา หนุ่มร่างระหง ปัดสาย สายรุ้งออกจากผมทองประกาย ดวงตาที่ตะลึงงันจับจ้องไปยังทุกคนที่ยืนยิ้มแย้มหน้าบานให้เค้าและเบื้องหลังเป็นโต๊ะที่เต็มไปด้วยห่อของขวัญ อาหารและเค้กครีมที่เด่นตระหง่าน เทียนไขเล่มเล็กถูกจุดไฟขึ้นเมื่อไม่นาน(จารีบจุดทามม้าย!!!)
“เอ๋..นี่ มันอะไรกัน อ๊ะ..” ร่างบางถูก บิสเก็ตจับมือลากไปหยุดอยู่ตรงหน้าเค้กทันที
“เด๋วก่อน..นี่” ร่างบางยังคงหันซ้ายทีขวาที สายตาที่เต็มไปด้วยความงงงันและแปลกใจสอดส่ายไปยังทุกคนที่อยู่รอบๆ
“จะงงอะไรกันล่ะ คุราปิก้า” เลโอลีโอ พูดขึ้นใบหน้ายังยิ้มแย้ม ปนความขันนิดๆ
“นี่ เป็นsurprise birthday’s party ของนายไง” คิรัวร์ตอบยิ้มๆสองมือไขว้กันขึ้นที่หัว
“เอ..”
“น่าๆ คุรา”ทางอาจารย์คุราเอ่ยขึ้นบาง
“คะ ..ครับ..ขอบคุณทุกๆคนมาก” คุราส่งยิ้มอย่างซึ้งในน้ำใจของทุกๆคน ไม่น่าเชื่อเลยว่าเค้าจะได้รับอะไรเช่นนี้มา ทำให้เค้านึกความคิดเดิมขึ้นมา ‘ชั้นมีเพื่อนที่ดีที่สุดจริงๆ’
“ เอาล่ะคุรา เป่าเทียนสิ แล้วงานปาร์ตี้จะได้เริ่มขึ้น”คิรัวร์เริ่มเร่ง
“อะ อืม..” แต่ก่อนที่คุราจะเริ่มค้อมต่ำเพื่อเป่าเทียน เสียงเด็กหนุ่มก็ได้แย้งขึ้นมาก่อน
“เดี๋ยวก่อนสิคุราปิก้า” กอร์นแย้งและดึงมือของคุรา(จาดึงทามมายเนี่ย จะแต๊ะอั๋งคุราชั้นเรอะ!!)
“เอ๋..ทำไมหรอ”เสียงหวานถามราวกับแสร้งทำ ซึ่งคงมีแต่เซ็นริทเท่านั้นที่รับรู้
“นายยังไม่ได้อธิษฐานเลยนะ” กอร์นเพ่งสายตามุ่งมั่นไปยังคุรา
“นั่นสิๆ” เลโอและทุกคนต่างพยักหน้ารับ ยกเว้นเซ็นริท(มีใครสังเกตมั๊ยว่าซูชินี่ไปได้พูดอะไรเลยตั้งแต่เริ่มเข้าฉาก)
“แต่ว่า..” คุรากระซิบอย่างแผ่วเบา จนเกือบทุกคนไม่ได้ยิน
“อธิษฐานสิคุราปิก้า ถ้าไม่อธิษฐานเป่าเทียนไปมันก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ”กอร์นยังส่งสายตาราวกับว่าสิ่งนั้นเป็นเรื่องร้ายแรง
“อะ..แต่ว่า..ชั้น..” คุราส่งสายตาเลิ่กลั่กมองยังเค้กที กอร์นที ทุกคนที
“มีอะไรอย่างนั้นหรอ คุราปิก้า” เสียงหวานประหนึ่งเครื่องดนตรีของเซ็นริทเอ่ยแฝงไปด้วยความห่วงใยและเคลือบแคลง
“ปล่าว..คือ..เฮ้อ…เธอคงได้ยินเสียงหัวใจชั้นสินะ” คุราถอนหายใจแล้วส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนและดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความเศร้าสร้อย
“มีเรื่องอะไรงั้นหรอคุรา”
“เสียงกอร์นถามขึ้น.. “เกิดอะไรขึ้นน่ะ เล่าได้มั๊ย” เด็กผมเงินยังรุกถามต่อ
"คือว่า ชั้นไม่ชอบอธิษฐานน่ะ..."
คุราที่ทำท่าจะหยุดพูดเพียงแค่นี้แต่กลับต้องเล่าต่อเมื่อเค้าเห็นสายตาเพื่อนๆที่จับจ้องมา
"ก็ ชั้นเคยเกิดเรื่องฝังใจจากการอธิษฐานมา.."คราวนี้คุราหยุดพูดจริง ไม่สนต่อสายตาที่จับจ้องมา ซึ่งเค้าก็ได้จ้องตอบชั่วแว้บแล้วก้มหน้างุดเพื่อหลบมัน
"เล่าต่อได้มั๊ยว่าเกิดอะไรขึ้น ได้มั๊ยจ๊ะ" เธอค่อยเอื้อมมือมาแตะคุราเบาๆเป็นเชิงปลอบไปด้วย
"นายอย่าเก็บงำเรื่องไว้คนเดียวสิคุรา เรายังไม่เป็นที่ไว้วางใจพองั้นรึไง" คิรัวร์ถึงแม้ตะพูดแบบไม่มีเจตนาแต่มันก็กระทบถึงอีกฝ่ายและบางคน(วิงค์เดินอย่างใจเย็นเพื่อไปดับเทียน เพราะท่าทางถ้าปล่อยไว้อีกมีหวังเทียนหมดเล่มแน่) คุราเนื้อตัวเริ่มสั่นเทาพร้อมด้วยนัยน์ตามรกตเริ่มรื้นชื้นด้วยหยดน้ำตา
"นี่ คิรัวร์" กอร์นพูดปรามเหมือนบิสเก็ตที่ส่งสายตาปรามมาเช่นกัน ทำให้คิลรู้ตัวว่าได้พูดสิ่งที่ไม่ควรไปแล้ว
"ชั้น ขอโทษนะ..คือว่าชั้น..." เลโอลีโอและอาจารย์คุราปิก้าเดินเข้าแตะเชิงโอบปลอบคุราที่เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความเศร้าที่เริ่มประดังเข้ามา
"นายไม่เห็นต้องขอโทษเลยนะ"เลโอพูด พลางยื่นผ้าเช็ดหน้าสีขาวมาให้เค้าซับน้ำตา เหตุการณ์ช่วงนึงแวบเข้ามาในหัว(ในฟิคหวานๆตอนที่เรฟาเอาผ้าเช็ดหน้าให้คุราน่ะ ใครยังไม่อ่านไปอ่านซะ) คุรารับผ้ามาหันไปมองทุกๆคนก่อนที่จะก้มมุดหน้าไปอีกครั้งพร้อมซับน้ำตา
"เอาล่ะช่างเถอะนะ ทำใจให้สบายวันนี้วันเกิดนายน้า ยิ้มร่าเริงหน่อยสิ " อาจารย์ของคุรา(ตานี่มันไม่คิดจะมีชื่อหรือไงเนี่ย) เดินผละออกไป เพื่อไปหยิบไฟแช็กในครัว
"ชั้นไม่คิดว่าทุกไว้ใจไม่ได้นะ..."คุราหันมองทุกคน และคิรัวร์ที่เบือนหน้าหนี "...มันเป็นสิ่งที่ชั้นไม่อยากจะเล่าและนึกถึงมันอีกน่ะ ขอโทษนะ...อะ กอร์น....." เด็กชายแตะหลังมือคุราเบาๆ ความอบอุ่นแผ่ซ่านอย่างหน้าประหลาด
"เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ปล่อยให้มันเลยผ่านไปสิ จะเก็บมาฝังใจทำไมล่ะ.."...
"ใช่แล้ว..ลืมมันไปซะไม่ต้องใส่ใจอะไรกับมันอีกนะ.."บิสเก็ตเอ่ยต่อ
"นั่นสิ ลืมๆมันไปซะ เอ้า..อธิษฐานแล้วเป่าเทียนซะ" เลโอลีโอ ลากคุราเค้าใกล้โต๊ะอีก และได้เห็นว่าเทียนได้ถูกจุดใหม่อีกครั้ง คุราหลับตาเพื่อนึกอธิษฐาน เหตุการณ์วันวานค่อยๆแทรกซึมเข้ามายังความนึกคิด
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
"อธิษฐาน ผมชอบจะอธิษฐานครับ ภาวนา ผมชอบภาวนาเช่นกัน ก้อ การภาวนาเพื่อบรรลุในคำอธิษฐานเป็นสิ่งที่เผ่าผมต้องทำนี่นา" เด็กชายตัวน้อยผมทองต้องแสงสุริยาวาว เอ่ยตอบคำถามที่ชายหนุ่มซึ่งนั่งบนท่อนไม้ข้างๆได้ถามไปเมื่อครู่
"แล้วถ้ามันไม่ใช่สิ่งที่เผ่าเธอต้องทำล่ะ" ชาย ร่างสูงที่ปกปิดด้วยอาภรณ์ยาวมิดชิดยังคงถามเรื่อยเปื่อยต่อไป อันที่จริงเค้าก็ไม่ได้ใส่มากนักหรอกเพียงแต่ชวยคุยเรื่อยๆเท่านั้นเอง
"นั่น สินะครับ แต่ยังไงๆผมก็ชอบ เวลาเราอธิษฐานเราย่อมอธิษฐานเพื่อขอสิ่งที่เราอยากได้ ทำให้เรามีสุข เพราะงั้นผมคิดว่ามันเป็นสิ่งดี ยังไงๆก็ชอบครับ" ถึง แม้คำพูดจะออกเข้าใจยากตามประสาเด็กแต่กระนั้นก็ยังเข้าใจในความหมาย ร่างสูงหันมามองหน้า เด็กน้อยที่เล่นกับกระรอกที่เพิ่งคลานเข้ามาใกล้
"แสดงว่า ไม่เคยผิดหวังต่อคำอธิษฐานสินะ"...........
"เฮ้..เรฟา นายรอชั้นก่อนสิ เฮ้..เรฟา.." เด็กน้อยวัยราวสิบกว่าปี วิ่งผ่าป่าดงเพื่อไล่ตามเพื่อนที่อยู่ข้างหน้า ผมสีทอง
สั้น พริ้วตามแรงเคลื่อนไหว ใบหน้าออกตระหนกหวาดกลัว
"เฮ้ เรฟา อะ โอ้ย!!" เด็กน้อยสะดุดรากไม้ใหญ่ล้มลง
" เรฟาๆ...โอ้ย.." เด็กหนุ่มพยายามยันกายลุกขึ้น แล้วพยายามวิ่งตามเพื่อนไปต่อ และไปสิ้นสุดอยู่ที่ บ้านหลังเล็กดูอบอุ่นและเชื้อเชิญ บ้านที่เค่คุ้นเคยเป็นอย่างดี ไม่มีแสงใดๆลอดออกมาจากหน้าต่างซึ่งเป็นสิ่งปกติยิ่งนักในยามวิกาล เด็กน้อยค่อยๆเปิดประตูบ้านเข้าไปช้าๆ...
พรึ่บ...ไฟทุกดวงในบ้านวาบขึ้น(ไฟจากตระเกียงน่ะ เผ่าคูลล์คงไม่ไฟฟ้าหรอกนะ) เศษกระดาษสีปลิวว่อน
"สุขสันต์วันเกิดคุรา.." เพื่อนสนิทที่รุ่นราวคราวเดียวกันรี่เข้ามากอดเด็กน้อยที่ยืนตะลึง และซักพักเค้าก็กอดตอบเพื่อนคนนั้น
"อื้ม..ขอบคุณมากเรฟา..ขอบคุณฮะ พ่อแม่คุณพี่นักเดินทาง ทุกๆคนขอบคุณมากครับ"
เรฟาพาคุราปิก้าน้อย ไปหาทุกๆคน เค้าได้รับของขวัญจากหลายคนมากมายเป็นสิบ และสุดท้ายก็ของคุณพี่นักเดิน
"เอ้า นี่ เจ้าหนูไม่มีอะไรมากหรอก เป็นของที่ทำเองน่ะ”เค้ายื่นตุ๊กตานางฟ้าซึ่งแกะสลักอย่างประณีตด้วยไม้
"ฮิฮิ ขอบคุณมากครับ" คุรายิ้มตอบรับด้วยความดีใจอย่างสุดซึ้ง หญิงสาวผมบรอนด์ทองหยิกยาวเค้ามากอดคุราปิก้าอย่างแนบแน่นและหอมแก้มเค้าฟอดใหญ่
"โตขึ้นอีกแล้วสิเนี่ยลูกรักของแม่" เธอกล่าวน้ำเสียงหวานใสอบอุ่น
"ฮะ..ขอบคุณมากครับ ขอบคุณทุกๆคน เป็นวันเกิดที่ดีจริงๆ"เด็กน้อยยิ้มแย้มด้วยความปิติ
"เฮ้..คุราเป่าเทียนได้แล้วนะ" เรฟาทักขึ้นแล้วลากคุราไปหยุดตรงหน้าเค้กผลไม้ก้อนใหญ่ ปักเทียนไว้12เล่มรอบๆ
"เอ้าๆ..เจ้าหนูเร็วๆ มีคนเค้ารอกินเค้กอยู่เนี่ย" ชายนักเดินทางพูดล้อๆไปยังเรฟาทำให้ทุกคนในที่นั้นหัวเราะพรืดออกมาและเรฟา ที่หน้าแดง..น้อยๆด้วยความเขิน ตาจ้องไปยังเพดาน
"ฮะฮะ ที่แท้นายมาก็เพื่อจะกินเค้กฝีมือแม่ชั้นล่ะสิฮะฮะ.." คุรากระเซ้าเรฟานิดๆอย่างได้ที
"เอาเหอะน่า..หยุดได้แล้ว" ทุกคนหัวเราะร่วนเบิกบาน เมื่อคำอธิษฐานจบลง เทียนทุกเล่มถูกเป่าดับ งานเลี้ยงดำเนินขึ้นด้วยความสนุกสนานและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
' มีความสุขจัง ขอให้ผมได้อยู่กับทุกๆคนอย่างนี้ตลอดไป ขอให้คำอธิษฐานนี้ของผมเป็นจริงด้วยนะครับ'
'ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย..เรฟา...ทุกคน..พ่อแม่...ทำไมๆ...ทำไมต้องฆ่าทุกคน..ฮึก..ม่ายนะ...ม่ายยยย....ทุกคนอย่าทิ้งผมไป....ทำไมล่ะ...คำอธิษฐานของผมทำไมไม่เป็นจริง...ทำไมผมถึงไม่ได้อยู่กับทุกคน..ฮึก...
ทำไมล่ะ..ฮึก....ทำไม!!!! พอที...ฮึก...เกลียดที่สุดๆ..เกลียด...การอธิษฐาน...เกลียดๆ...เกลียด!!!!!!!'
กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งผสมกับกลิ่นเหม็นไหม้จากเพลิงอันร้อนแรงที่ลุกไหม้ทั้งหมู่บ้าน สติทั้งหมดวูปลงใบหน้าสุดท้ายที่เห็นใกล้ๆ....
..............................................................................................
"เฮ้...คุราปิก้า" เลโอลีโอเรียกสติคุรากลับคืนมา ภาพที่เค้าเห็นตรงหน้าคือเค้กครีมปักด้วยเทียนที่ส่งควันลอยขึ้นมา จากความร้อนที่มอดไหม้ไส้เทียนอันเป็นเชือก...งานเลี้ยงดำเนินไปอย่างสนุกสนาน ถึงแม้จะไม่เหมือนวันนั้น...วันเกิดเมื่อ6ปีก่อน ค่ำคืนก่อนการที่สูญเสียทุกสิ่ง...
'ขออย่าให้ได้เสียน้ำตา ขออย่าให้ได้โศกเศร้าจากคนๆนั้นอีก...ขอให้คำอธิษฐานได้ตอบสนองซักครั้งเถอะนะครับ'
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ภายในห้องพักในโรงแรมเล็กๆ...บรรดาของขวัญถูกวางไว้ที่พื้นปลายเตียงนอนสีขาว ส่วนคุราปิก้าก็นอนสลบไสลอยู่บนเตียง อาจเป็นเพราะด้วยความเหนื่อย...หรือเพราะ ด้วยขวดที่อยู่ในมือของคุราปิก้า ซึ่งตอนนี้ ตกลงบนพื้นด้วยน้ำหนักของตัวขวดแก้วคริสตัลซึ่งถูกเจียระไนมาอย่างดีและมือที่คลายตัวออกของคุรา ของเหลวสีแดงกุหลาบที่บรรจุภายในขวดแก้วไหลออกซึมพื้นพรมเกิดเป็นรอยเปื้อน กลิ่นจางๆระเหยออก
ขวดแก้วนี้ คุราได้มาจากห่อของขวัญหนึ่ง ตอนแรกเค้าคิดว่าสิ่งนั้นเป็นน้ำหอม แต่แค่เค้าได้สูดดมเค้าไปเพียงนิด ทำให้สติทั้งหมดก็ค่อยๆวูบลง...ร่างบางค่อยๆเอนลงกับพื้นเตียงอย่างแผ่วเบา
"หึหึ ได้ของขวัญจากชั้นแล้วสินะ เจ้าหนู" สุรเสียงที่เยือกเย็น ลอดมาจากไหนไม่มีใครรู้ แต่เพียงซักพักก็ปรากฏชายร่างสูงเดินออกมาจากเงามืด แสงอ่อนๆจากโคมไฟข้างเตียงทำให้เห็นใบหน้าเรียวคมเข้มของชายหนุ่ม ผมสีนิลถูกปล่อยให้ปรกหน้าผากอย่างมีสไตล์แต่กระนั้นก็มิอาจปกปิดรอยสักบนหน้าผากได้ ดวงตาที่ดำสนิทราวท้องฟ้ายามรัติกาลที่แสนเยือกเย็น อ่อนลงวูบหนึ่งเมื่อเค้ามองไปยังร่างอรชรซึ่งสลบไสลบนเตียง
เค้าค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ เสื้อคลุมหนังยาวถูกถอดออกวางพาดกับเก้าอี้ใกล้ๆ เหลือเพียงแต่เสื้อบางสีดำและกางเกงที่เป็นสีดำเข้าชุด เตียงขาวยวบลงเพราะน้ำหนักของชายหนุ่ม มือใหญ่ ค่อยๆเกลี่ยเส้นผมนุ่มสีทอง เผยให้เห็นหน้าผากขาว มือใหญ่เลื่อนลงมาประทับเบาๆบนดวงตาทั้งสองข้าง มือที่เลื่อนขึ้นด้านบนช้า เผยให้เห็นเปลือกตาที่ค่อยเปิดขึ้นมาตามมือชายหนุ่ม ดวงตาที่ประกายสีมรกตราวกับมณีน้ำเอก ขณะนี้ดูเลื่อนลอยและว่างเปล่าไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ
"ลุกขึ้นมาสิ คุราปิก้า" ร่างสูงออกคำสั่ง คุราลุกขึ้นนั่งอย่างว่าง่าย ดวงตาเลื่อนลอยยังคงจ้องตรงไปข้างหน้า
"เขยิบเข้ามาแล้วจูบชั้นสิ" ร่างบางเขยิบมา ริมฝีปากนุ่มค่อยๆประทับลงกับริมฝีปากร่างสูง ที่นั่งอยู่ริมเตียง สภาพกึ่งนั่งกึ่งนอนของคุราตอนนี้ดูเย้ายวนยิ่งนัก ร่างสูงค่อยๆจับมือเล็กทั้งสองข้างของคุราที่เอื้อมมาประคองหน้าเค้าไว้ แล้วเค้าจึงจับร่างนั้นกดลงกับเตียง โดยไร้ซึ่งการขัดขืน
"ว่าง่ายดีจริงๆเลยนะ ถ้าไม่ใช่เพราะยาก็คงไม่มีทางเป็นแบบนี้สินะ" ร่างสูงกระซิบแผ่วเบาอยู่ข้างหู ถึงแม้เค้าจะรู้ว่าไม่มีทางที่เสียงนั้นจะผ่านเค้าโสตประสาทคุราแม้แต่น้อย ร่างสูงประทับจูบอย่างรุนแรงแก่ร่างบาง ซึ่งเผยอรับตามเพราะความรุนแรงและฤทธิ์ยา(สงสัยใช่ม้า ว่ายาอะไร เราก้อมะรุอะรุแต่ว่ามันใช้เปงยาปลุกกะควบคุมคนได้แล้วกันนะ)
ลิ้นฉ่ำล้วงเข้ากวาดต้อนลิ้มรสความหอมหวานภายใน มือทั้งสองข้างที่เหลือ ต่างกระชากทึ้งเสื้อของร่างบางออกมา กองไว้ที่พื้น จากปากไล้เลื่อนไป ขบเม้มใบหูซึ่งทำให้ร่างบาง ครางออกมาเบาๆ
"อา....." เสียงหวานปานระฆังแก้ว ยังอารมณ์ของร่างสูงให้ประทุขึ้น ซอกคอขาวนวลเป็ยรอยจ้ำแดงเนื่องจากการขบ
ปลายลิ้นโลมเลียยอดอก และขบกัด ปลายลิ้นยังคงไล้ลงมาตรงท้องน้อย...จากนั้นก็มาที่หว่างขา...ร่างสูงชื่นชมส่วนนั้นด้วย การเอาปาก..ครอบครอง..และไล่ระดับมาจนมิด ก่อนที่จะรูดขึ้นลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง
" อา....อา....อา....." ร่างบางครางด้วยความเสียวที่แผ่ซ่านทุกสรรพางค์ ร่างสูงรูดขึ้นลงแรงและเร็วยิ่งขึ้น พร้อมใช้ปลายลิ้นดันดุนส่วนปลายเล่น
"อะ..อะ..อา..อ๊า.." คุรามาถึงจุดสุดยอดและปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมา ร่างสูงดูดกลืนเข้าไปอย่างหิวกระหาย ร่างสูงจับขาคุราพาดไว้ที่ไหล่ จากนั้นก็สอดใส่ของๆตนๆอย่างรวดเร็วจนมิด "อ๊า...." ร่างบางกระตุกขึ้นจากความเจ็บ ร่างสูงขยับกายเข้าออกอย่างรุนแรงและรวดเร็วแต่แรกเริ่ม แถมยังทวีความรุนแรงมากขึ้น เลือดซิปค่อยๆไหลไปตามเรียวขา
"อ๊า..อ๊า..อ๊า...อ๊า..." ร่างบางกระตุก เสียงครางลอดออกมาประสานกับจังหวะการกระแทกของร่างสูงราวกับเป็นการบรรเลงเพลง จนในที่สุดร่างสูงก็ปล่อยน้ำของตนยังร่างบางเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของอย่างเต็มที่
ร่างสูงหอบเบาๆพอๆกับร่างบาง(เป็นฉากYที่ไร้อารมณ์จริงจริ๊ง) ร่างสูงจูบร่างบางแผ่วเบา..และกระซิบข้างหู
"เอาล่ะ ตื่นได้แล้วล่ะเจ้าหนู" สิ้นเสียง มือใหญ่ก็ประทับที่ดวงตาคุราปิก้าอีกครั้ง เมื่อมือนั้นถูกยกขึ้นมาเปลือกตาขาวก็ได้ปิดสนิทอีกครั้ง แต่ซักพักดวงตาก็ค่อยๆขยับปรือขึ้น
...ดวงตามรกตที่ยังคงพร่า จดจ้องไปยังบุคคลตรงหน้า...แล้วภาพก็ค่อยชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ....
"อะ...แก!!!!คุโรโร่!!!!!" คุราตะโกนก้องเมื่อบุคคลตรงหน้าเด่นชัดขึ้น เค้าสำรวจตัวเองที่เปลือยเปล่า พบว่าที่หว่างขาเปรอะเปื้อนด้วยน้ำสีขาวขุ่นและหยดเลือด ผ้าปูที่นอนเปือกชื้นด้วยเหงื่อ
"ไง เจ้าหนูของชั้น....เสียงแผ่วเบาของคุโรโร่ก้องอยู่ริมหู" ร่างสูงขึ้นคร่อมร่างบางอีกครั้ง.
“แก..จะทำอะไรน่ะ" คุราเริ่มดิ้นขัดขืนอย่างรุนแรงแต่ก็ไม่สามารถทานกำลังของอีกฝ่ายได้ คุโรโร่ ยกมือร่างบางยืดไว้เหนือหัวและกดทับไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว
"คึ..ปล่อยนะ ไอบ้า!!..อุ๊บ..." คุโรโร่จูบร่างปากบางเพื่อปิดปากอย่างแรก เลือดน้อยๆไหลซิบออกมาตามรอยแตก ลิ้นชุ่มกวาดต้อนภายในทั่ว...อีกฝ่ายพยายามใช้ลิ้นตัวเองต้อนอีกฝ่ายออกแต่สุดท้ายก็กลายเป็นการตอบสนอง..ต่อการจูบอย่างดูดดื่ม...ร่างสูงเลื่อนไปขบติ่งหูอันเป็นจุดอ่อน
"อะ.." ร่างบางพยายามสะกดกลั้นเสียงคราง
ร่างสูงไล่ขบเม้มตามซอกคอระหงจนเกิดเป็นรอยแดงมากขึ้น ยอดอกถูกขบกัดอย่างรุนแรง..
"คึซ..."ร่างบาง เม้มริมฝีปากแน่น ความเจ็บเริ่มทวีความแรง เมื่อ คุโระใช้เลิกจิกเนื้อขาวของคุราแล้วกรีดเป็นแผลยาว...เลือดแดงสดไหลซึมออกมา คุโรโร่ไม่รอช้าที่จะเข้าไปโลมเลียมันทันที
"คึซ...อะ.." ร่างบางยิ่งขบริมฝีปากแน่นเพื่อสะกดกลั้นความเจ็บจนเลือดไหลซิปออกมาเพิ่ม "เลือดนายนี่...ช่างน่าลิ้มลองจริงๆเลยนะ"
"แก!!! อ๊า...." คุราต้องรีบเม้มปากอีกครั้งเพราะความเสียวส่านที่แผ่พุ่งขึ้นมา คุโรโร่ ใช้นิ้มบีบคลึงส่วนนั้นเล่นราวกับช่วยสร้างอารมณ์ให้ร่างบาง ปลายเล็บสะกิดเล่นอยู่นานจนเลือดเริ่มไหล...คุโระใช้ปากครอบครองแล้วรูดขึ้นลงอย่างรวดเร็ว ปลายลิ้นดันส่วนปลายเล่น และซับเลือด
"อ๊า...อ๊า...อ๊า...." คุโรใช้ปากมอบความสุขแก่ร่างบางอย่างหิวกระหาย จนร่างนั้นปล่อยน้ำ ออกเปรอะเปื้อนใบหน้า
ของผู้ที่มอบความสุขนั้น ร่างสูงใช้มือ ปาดซับน้ำที่เปรอะเปื้อน แล้วเลียมันอย่างกระหายทำให้ร่างบาง หน้าแดงเรื่อ ความอับอายและอดสูแผ่ทั่วทุกอณู คุราที่ตั้งตัวไม่ทันถูกยกสะโพกขึ้นมาพักไว้ตรงตักและนำไปพาดที่บ่าของคุโรอย่างไม่รู้ตัว...ทันใดนั้นเอง.....คุโรก็กระแทกเข้าไปจนมิดในทีเดียวคุราสะดุ้งสุดตัวและ....
“อึ้กกกกกก.....อ๊าาาาาาาาา!!!!!!”
เสียงแหลมเล็กปนแหบแห้งของร่างบางกรีดร้องสุดเสียง น้ำใสประกายเล็ดลอดออกจากดวงตาที่ปิดแน่น ด้วยความเจ็บจากแรงกระแทก มือที่ถูกปล่อยเป็นอิสระกำผ้าปูที่นอนแน่น เลือดจากหว่างขาค่อยๆซึมที่นอนส่วนร่าง ร่างสูงยังคงกระแทกเข้าเรื่อยๆ น้ำตาพรั่งพรูไหลออกมาจากดวงตาสีเพลิง ที่เบิกโพลงด้วยความเจ็บของการกระแทกที่รุนแรงและป่าเถื่อนเข้าทุกทีๆ คุราสะอื้นไห้กับความเจ็บปวด ความเศร้า เคียดแค้นและอดสูมีมากขึ้นตามความเร็วที่เพิ่มขึ้น
คุราพยายามใช้เรียวแรงที่มีผลักดันคุโรโร่ออกไป แต่หาได้เกิดผลอันใด คุโรโร่ ถอดแท่งเนื้อที่เปื้อนด้วยเลือดออกมาและก็กระแทกเข้าไปอีกครั้ง.....
“อ๊ะ..อ๊า..อึ้กๆๆ”
คุราสะอึก น้ำตาและความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสปะดังเขามาอีกครั้ง..เลือดละน้ำใสๆไหลรินออกมาอย่างห้ามไม่ได้ แต่คุโรโร่ยังคงชักเข้า-ออก ทำอย่างนี้โดยเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น ทุกครั้งที่แท่งเนื้อเสียดสี คุราก็จะร้องระงมด้วยความเจ็บปวดที่แฝงความพอใจ
“อ๊า..อา....อา.....อา...แฮ่กๆๆ”คุราครางอย่างเหนื่อยหอบเมื่อคุโรโร่ซอยถี่ยิบขึ้น....ดวงตาที่พร่ามัวด้วยหยาดน้ำตา ความเจ็บที่แผ่ซ่านทำให้สติเกือบทั้งหมดของคุราที่ใกล้จะดับวูบลง แต่แล้วสติของร่างบางก็ถูกเรียกคืนกลับมาจากการกระแทกครั้งสุดท้ายที่รุนแรงและป่าเถื่อนอย่างที่สุด
"อ๊าาาาาาาาา..........." ร่างบางสะดุ้ง โก่งตัวขึ้นด้วยความเจ็บที่แล่นปร๊าดด.. น้ำสีขาวขุ่นถูกปล่อยออกมาพร้อมที่คุโรโร่ถอดของเค้าออกมาด้วย เลือดและน้ำสีขาว ทะลักไหลเปรอะเปื้อนทั่วผ้าปูที่นอนบริเวณนั้น
น้ำตาใสของคุราปิก้ายังคงไหลพรากไม่หยุด ลมหายใจหอบถี่กระชั้นและไม่เป็นจังหวะจากการสะอื้นดูรุนแรงจนหน้าตกใจ ทั้งหัวใจและร่างกายที่ถูกย่ำยี ความเศร้าและเคียดแค้นเกาะกุมหัวใจอย่างเต็มเปี่ยม คุโรโร่ โน้มตัวใช้ลิ้นเลียซับน้ำตา คุรารีบเบี่ยงหน้าหลบ เสียงสะอื้นดังขึ้นเรื่อย คุโรโร่ ส่ายหน้าอย่างระอา "อะไรกัน...นี่เป็นของขวัญวันเกิดแท้ๆ เป็นทั้งของขวัญวันเกิดและการล้างแค้นให้เพื่อนของชั้น..." เค้าโน้มไปพูดใกล้คุรา ที่สะดุ้งเฮือก เมื่อเค้าเข้ามาพูดใกล้ๆ
คุโรโร่ จากไปปล่อยให้คุรา นอนสะอื้นและน้ำตาไหลพราก...ทั้งคืน....มีแต่ความเศร้า อดสู เคียดแค้น ปนเปกันไปหมด......
'ขอให้ผมได้อยู่กับทุกๆคนอย่างนี้ตลอดไป ขออย่าให้ได้เสียน้ำตา ขออย่าให้ได้โศกเศร้าจากคนๆนั้นอีก...'
"ฮึก...ทำไมล่ะ...คำอธิษฐานของผม ทำไม...จะตอบสนองให้ไม่ได้ซักครั้งรึไงกัน..ฮึก...ทำไม.."
เสียงสะอื้นคงดังก้องทั่วห้องทั้งคืน น้ำตาไหลพรากไม่หยุด ความโศกเศร้าเกาะกินหัวใจเรื่อย...และเสียงพร่ำถาม....
ทำไม..."คำอธิษฐานที่ไม่อาจตอบสนอง".....ถึงได้เกิดขึ้นกับตัวเค้าเรื่อยมา.......
+จบ+
ความคิดเห็น