ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คลังขยะ ..ธาราปริศนา..

    ลำดับตอนที่ #2 : เทศกาลประลองเวทย์ [ 08 / 05 / 52 ]

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 52


    เทศกาลประลองเวทย์ The Quartz รอบที่ 2 คู่ที่ 2
    เอลแซ็ค ซีสตริงค์  ปะทะ เรอาเรีย นาซีอัส
     
                    สถาบัน Quartz และ มหาเวทยาลัยเซนท์ โนเบิร์ก สามารถกล่าวได้ว่าเป็นสถาบันพันธมิตรที่มีมิตรภาพที่ดีต่อกันมากมาย ทั้งในด้านการบริหาร สวัสดิการ การแข่งขันทั้งในโรงเรียน และ นอกสถาบัน ก็ต่างชิงดีชิงเด่น และช่วยเหลือเกื้อกูลกันเป็นอย่างดี จึงไม่แปลกที่เมื่อ สถาบัณ Quartz จัดการแข่งขัน เซนท์ โนเบิร์ก ก็ช่วยเหลือทั้งทางสถานที่แข่งขันและกฎกติกาการประลอง
     
                    ..ร่างของชายหนุ่มผมสีม่วงรัตติกาลกำลังเดินทางอย่างเร่งรีบ ทุกย่างก้าวแฝงไปด้วยความร้อนใจ เพราะตอนนี้ เขาจะไปยังสถานที่แข่งขันช้ากว่าเวลาที่กำหนดเสียแล้ว
     
                    ความจริงวันนี้เขาเองก็ไม่ได้ตื่นสายอะไรนัก ออกจะเช้ากว่าการประลองครั้งที่แล้วด้วยซ้ำ แต่ทว่าการเดินทางครั้งนี้ค่อนข้างยาวไกล จะเรียกว่าเป็นการเดินทางข้ามโรงเรียนเลยก็ว่าได้ ทำให้เขาต้องเดินตากแดดมานานกว่า 2 ชั่วโมง
     
                    “ถึงสักที ..แฮ่ก.. แฮ่ก..” ชายหนุ่มครางพลางหอบอย่างอ่อนล้า..
     
                    สายลมเย็นๆพัดผ่านร่างกายของเขาอย่างแผ่วเบา เคล้าคลอมากับเสียงดนตรีที่บรรเลงขึ้นมาอย่างไพเราะจากตัววิหาร .. สถานที่ที่อยู่ตรงหน้าเขานั่นคือ วิหารเซเรนัส สิ่งก่อสร้างที่มีรูปลักษณ์ราวกับปราสาทสีขาวนวล มองจากภายนอกจะเห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์และความน่าเลื่อมใสที่ส่องประกายออกมาจากตัววิหาร..
     
                    เสียงเพลงอันไพเราะค่อยๆบรรเลงขึ้นมาอีกครั้ง เสียงที่อ่อนโยนราวกับแม่ที่คอยกล่อมลูกน้อย ทำให้เขาเคลิ้มไปชั่วนาทีหนึ่ง ก่อนจะได้สติ
     
                    “เสียงเพลง.. คู่แข่งของเราเป็นพวกใช้เสียงดนตรีอีกแล้วรึนี่!..” ชายหนุ่มบ่นเบาๆ ก่อนจะรีบก้าวไปตามเสียงเพลงอย่างเร่งรีบ
     
                    เขารีบเร่งฝีเท้าขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้ยินเสียงชัดเจนขึ้น ก่อนจะเลี้ยวขวาเข้าสู่ห้องโถงใหญ่ของวิหาร..
     
                    เมื่อเข้ามาสู่ห้องโถง เขาก็พบกับหญิงสาวสีชมพูซอยสั้นที่กำลังจรดริมฝีปากกับขลุ่ยไม้สลักลวดลายงดงามเลาหนึ่ง เธอนั่งอยู่บนแท่นบูชาเบื้องหน้าเทวรูปพลางบรรเลงเพลงขับกล่อมอย่างเพลิดเพลิน เสียงเพลงค่อยๆแผ่วเบาลงเมื่อสาวน้อยเบื้องหน้าสังเกตเห็นเขา
     
                    “สวัสดีค่ะ เอลแซ็ค ซีสตริงค์ ดิฉัน เรอาเรีย นาซีอัส จากสาขา Hydereous ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” สาวน้อยผมสีชมพูเอ่ยเสียงหวาน วันนี้ เธอในชุดเดรสสีเดียวกันยาวถึงต้นขาและกางเกงรัดรูปขาสั้นสีดำ หากไม่ได้อยู่ใสสถานการณ์การประลอง เขาคงจะชมว่าน่ารักอยู่หรอก
     
                    “ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เขาตอบเสียงเรียบ ภายในใจหาวิธีรับมือผู้หญิงคนนี้ทันที
     
                    “การแข่งขันรอบที่ 2 คู่ที่ 2 เรอาเรีย ปะทะ เอลแซ็ค เริ่มได้!!” เสียงของผอ.ซิลวิเรียสดังแว่วมาจากสายลม ทันใดนั้นเอง ทั้งคู่ก็รีบขยับตัวอย่างรวดเร็วจนยากจะจับตามอง
     
                    เคร้ง!!
     
                    ดาบสีทองในมือของเอลแซ็คกระแทกกับขลุ่ยไม้อย่างรุนแรง แต่ถึงแม้จะเป็นขลุ่ยไม้ แต่เรอาเรียได้ใช้ไอเวทย์อัดพลังให้กลายเป็นคมดาบที่แข็งยิ่งกว่าเหล็ก! เอลแซ็คฉากหลบออกมา ก่อนจะพุ่งดาบแทงเข้าไปตรงๆ แต่เรอาเรียเร็วกว่า เพราะเธอเสกโล่มากันอย่างทันท่วงที ก่อนจะใช้ขลุ่ยไม้ที่กลายเป็นคมดาบแทงเข้าที่หน้าอกหมายจะแทงให้ทะลุหัวใจ!! เคราะห์ดีที่เอลแซ็คเอี้ยวตัวหลบทันเวลา ทำให้อาวุธนั้นโดนแค่เฉี่ยวๆ เรียกเลือดออกมาได้ไม่กี่หยด..
     
                    “ร..เร็วดีเหมือนกันนะครับ” เอลแซ็คฝืนยิ้มออกมา ขณะที่ภายในใจกำลังหาวิธีเอาชนะเด็กสาวอย่างว้าวุ่น
     
                    “ขอบคุณที่ชมค่ะ.. รับมือ เขตอาคม หมื่นบรรเลงเพลงคีตา!!” เรอาเรียตะโกนก้อง ก่อนจะจรดริมฝีปากบางเข้ากับฟลุ๊ตสีเงินยวงที่สาวน้อยเรียกออกมาจากความว่างเปล่า เสียงเพลงบรรเลงขึ้นมาอีกครั้ง หากแต่คราวนี้เป็นเพลงที่มีจังหวะรวดเร็ว
     
                    ทันใดนั้นเอง ด้านปลายของฟลุ๊ตก็ปรากฏโน้ตดนตรีจำนวนมากมายมหาศาลที่คาบเกี่ยวอยู่กับเส้นบรรทัดทั้ง 5 ของดนตรี โน้ตดนตรีทั้งหมดต่างพากันมาล้อมรอบตัวเขา แล้วหมุนวนราวกับพายุทอร์นาโดที่พร้อมจะดูดกลืนเขา!!!
     
                    ทันใดนั้นเอง พายุตัวโน๊ตก็หายไป พร้อมกับร่างของเรอาเรียและเอลแซ็คที่อันตรธานไปอย่างไร้ร่องรอย!!
     
                    ........
     
                    เอลแซ็คลืมตาขึ้นมาช้าๆ พบว่าตอนนี้เขากำลังอยู่ในอาณาเขตดำมืดที่ไม่มีแม้แต่แสงไฟ
     
                    “ที่นี่.. มันที่ไหนกัน” เขาพึมพำเบาๆ ก่อนจะพบว่า ดาบสีทองคู่กายได้หายไปแล้ว สงสัยตอนที่ถูกโจมตี เขาคงทิ้งมันไว้ที่วิหารล่ะมั้ง
     
                    ฉับพลัน! เสียงเพลงบรรเลงขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เขาไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้!! เสียงเพลงดังออกมาจากทุกทิศทาง ทุกตัวโน๊ตลอยเข้าสู่หัวสมองเขา จนสมองแทบจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ!!
     
                    “อ้ากกก...!?!” เขากรีดร้องเสียงดัง แทบจะล้มลงไปนอนกับพื้น ในขณะที่เสียงเพลงก็เริ่มเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆแบบไม่สิ้นสุด! ร่างกายของเขาทรุดหนักลงเรื่อยๆ
     
                    ทันใดนั้นเองเสียงเพลงก็หยุดชะงักลง พร้อมกับเสียงหัวเราะสดใสของเรนาเรียที่ดังขึ้น
     
                    “คิกๆ.. หมดแรงแล้วเหรอเอลแซ็ค..” เสียงของเธอลอยแว่วมาจากส่วนใดของห้องก็มิอาจทราบได้ เอลแซ็คค่อยๆลุกขึ้นอย่างเหนื่อยอ่อน ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวสมอง ชายหนุ่มยิ้มบางๆเมื่อผลสรุปออกมาได้ตามที่ต้องการ..
     
                    “เรอาเรีย.. เธอพลาดไป..” เขากระซิบอย่างอ่อนแรง เสียงของอีกฝ่ายหยุดชะงักทันที ก่อนที่อีกฝ่ายจะกล่าวออกมา
     
                    “นายหมายความว่าไง!” เธอกล่าวเสียงเรียบ แต่ก็สามารถมองเห็นความกระอั่กกระอ่วนผ่านน้ำเสียงได้
     
                    “ที่เธอหยุดชะงักการโจมตี คงเพราะว่าพลังเวทย์หมดล่ะสิ.. หึ.. คงจะใช้แบบไม่บันยะบันยังเลยสิท่า” เขายั่วอารมณ์สาวน้อยที่ไม่เห็นตัวอย่างสนุกมือ
     
                    “ปากเสียนักนะ! ว่าจะไว้ชีวิต ตายซะเถอะ!!” เรอาเรียตะโกนก้อง แต่ช้าไป เอลแซ็คใช้เวลาที่ยั่วอารมณ์ของสาวเจ้า มารวบรวมไอเวทย์ที่กระจัดกระจายหลังจากถูกโจมตีของตน แล้วสร้างธนูเวทย์ลำใหญ่ขึ้นมา!!
     
                    “ทลายอาณาเขต ศรทลายนครา!!” ชายหนุ่มตะโกนก้อง แล้วยิงธนูขึ้นฟ้าอย่างรุนแรง ศรเวทย์แปรเปลี่ยนเป็นหอกสายฟ้าขนาดใหญ่ ก่อนจะพุ่งกระแทกกับสิ่งที่มองไม่เห็นเบื้องบน อาณาเขตแห่งเสียงเพลงที่ถูกโจมตีเริ่มปริร้าว และพลังทลายลงทันที!!
     
                    …..
     
                    ภายในวิหารเซเรนัส ห้องโถงที่เคยมีคนอยู่บัดนี้กลับว่างเปล่า.. ทันใดนั้นเอง สายลมชุดใหญ่ก็แผ่พุ่งออกมาจากใจกลางห้องโถง พร้อมกับการปรากฏตัวของชายและหญิงคู่หนึ่ง ราวกับว่าสายลมที่พัดผ่านไปปิดบังร่างของพวกเขาไว้ในอีกมิติหนึ่ง
     
                    “แฮ่ก..ๆ หนอย นี่นายแกล้งยั่วฉันเพื่อทำลายเขตอาคมเรอะ” เรอาเรียว่าเสียงเขียว ดวงหน้างามทำหน้าเบื่อเล็กน้อย ก่อนจะหยิบฟลุ๊ตขึ้นมาบรรเลงบทเพลงต่อ
     
                    “ไลท์นิ่ง สไตรค์ !!” ศรสายฟ้าถูกยิงออกจากคันศร พุ่งทะลวงไปด้วยความเร็วที่ยากจะจับตามอง! เรอาเรียเบิกตากว้าง แต่จังหวะนี้จะให้เธอหลบคงเป็นไปไม่ได้!
     
                    ฉัวะ !
     
                    ศรเวทย์ทะลวงไปที่หัวไหล่ของร่างบาง แต่กลับพุ่งเฉี่ยวหัวไหล่ของเธอไปอย่างไม่น่าให้อภัย เรอาเรียสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงสำรวจหัวไหล่ของตนเอง แผลนั้นค่อนข้างบาง ถึงจะเป็นทางยาว แต่ไม่ถึงกับอันตราย
     
                    “อ่อนโยนต่อคู่ต่อสู้ ไม่ใช่วิธีการรบที่ดีเท่าไรนะ..อ๊ะ..” เด็กสาวกล่าวเสียงเรียบ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงตื่นตระหนก เมื่อบุคคลที่ควรอยู่ข้างหน้าเธอกลับปรากฏตัวอยู่ด้านหลัง พร้อมกับเอามีดสลักลายจงอางคู่จ่อที่คอของเธอ..
     
                    “..จะถือว่าเป็นคำชมละกันนะครับ”ชายหนุ่มกล่าวพลางกลั้วหัวเราะ
     
                    “ลอบกัดผู้หญิง ไม่ดีเลยน้าเอลแซ็ค..” เรอาเรียกล่าวเสียงแผ่วเบา ก่อนที่ร่างกายของเธอจะสลายไป..
     
     
                    เป๊าะ!!
     
                    ทันใดนั้น ร่างของหญิงสาว ก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง หากแต่บาดแผลน้อยกว่าบุคคลที่เขาโจมตีเมื่อครู่นัก
     
                    “ตั้งแต่.. เมื่อไร..” ชายหนุ่มถามเสียงเรียบ ใบหน้าคิ้วขมวดเต็มที่
     
                    “ตั้งแต่นายทำลายอาณาเขตเวทย์ฉันได้ไง หึๆ.. ไม่คิดว่าจะต้องทำลายภาพลวงตาหลังจากสร้างได้ไม่นาน” เรอาเรียกล่าวพลางระบายยิ้มออกมา ในมือปรากฏขลุ่ยไม้เล่มเดิมที่เธอเคยนำมาเป็นคมดาบ บัดนี้ ได้เวลาที่เธอจะได้ใช้มันอีกครั้ง..
     
                    “รู้ไหม.. ทำไมฉันได้ฉายาว่า ธิดาแห่งบทเพลง...” เรอาเรียกล่าวแผ่วเบา ก่อนจะจรดริมฝีปากที่ขลุ่ยไม้..
     
                    เสียงดนตรีบรรเลงขึ้นมาอย่างแผ่วเบา.. เสียงทำนองช้าๆ..มีกลิ่นไอของธรรมชาติแว่วมาตามบทเพลง ..
     
                    ~..♫♫♪♪♫♪♪♪♫♫♪..~
     
              “เวทย์แสง..” เอลแซ็คพึมพำ พร้อมกับกำคันธนูไว้แน่น สาวน้อยเบื้องหน้าบรรเลงบทเพลงอย่างช้าๆ แต่เสียงมีพลัง ฉับพลัน ก้อนพลังแสงขนาดยักษ์
     
                    ..คีตาแห่งความฝัน แสงจันทร์แห่งความเพียร ..จงร่วมร้องบรรเลง …Holy Eternal Blast!!” สาวน้อยประกาศก้อง ก่อนจะระเบิดก้อนพลังขนาดเท่ารถม้าพุ่งเข้าใส่เขาด้วยความเร็วราวกับจรวด!!
     
                    โธ่เว้ยยย!”
     
                    ตู้มมมมมมมมมมม!!
     
                    ร่างของเขา ปะทะเข้ากับก้อนพลังแสงอย่างจัง ก่อนจะลอยละลิ่วไปไกลลิบตา แล้วกระแทกกับแท่นบูชาจนถล่มลงมาอย่างแรง!! ทั่วร่างกายของเขามีบาดแผลรอยไหม้กระจายอยู่ทั่วร่างกาย
     
                    แค่กๆ.. นี่มันพลังบ้าอะไรกันเนี่ย!!” เขาสบถ ร่างกายของเขาบาดเจ็บไปทั่วทั้งตัว ภายในการโจมตีครั้งเดียว เขาค่อยๆรวบรวมพลังเวทย์ก่อนจะฝืนร่างกายลุกขึ้นมาช้าๆ
     
                    หืม.. พลังน้อยไปงั้นเรอะ หึๆ.. พลังเวทย์ของฉันเหลือน้อยแล้วสิ มาตัดสินกันเลยดีกว่า!!” เรอาเรียประกาศก้อง ก่อนจะจรดริมฝีปากที่ฟลุ๊ตอีกครั้ง
     
                    ก้อนพลังของเรอาเรียเริ่มสะสมตัวอีกครั้ง.. คราวนี้ กลับเป็นพลังที่มหาศาลกว่าคราวที่แล้วมาก ..
     
                    เอลแซ็คมองภาพข้างหน้าด้วยสีหน้าสงบนิ่ง .. เธอเองก็มีเหตุผลที่จะชนะ.. เขาเองก็มีเหตุผลที่จะชนะ
     
                    คีตาแห่งความฝัน….”
     
                    “จิตวิญญาณแห่งสายฟ้า..”
     
                    “.....แสงจันทร์แห่งความเพียร”
     
                    “….มนตราแห่งอัสนี”
     
                    “ ..จงร่วมร้องบรรเลง …”
     
              “ ..จงกู่ก้องตามวิถี ... ”
     
              Holy Eternal Blast!!
     
                    Electrical Destroyer Drake!!
     
              ..ก้อนพลังสีขาวนวลเปล่งแสงออก ก่อนจะระเบิดออกมาจากห้วงอากาศที่ไม่มีตัวตน รูปร่างของมันแปรเปลี่ยนเป็นพยัคฆ์ขาวร่างยักษ์ที่มุ่งออกไปทำร้ายเป้าหมายอย่างรุนแรง!!..
     
                    ..ประจุไฟฟ้ามากมายในอากาศค่อยๆรวมตัวกัน ก่อนจะกลายเป็นกระแสไฟฟ้าขนาดยักษ์ระหว่างฝ่ามือของชายหนุ่ม ก่อนที่สภาพของมันจะแตกออกและแปรเปลี่ยนเป็นมังกรสีเหลืองนวลที่บิดตัวไปมาอย่างสง่างาม พร้อมกับบุกทะลวงออกไปทำลายเป้าหมายให้สิ้นซาก !!..
     
                    สองขั้วพลังยักษ์ใหญ่ปะทะกันในอากาศอย่างรุนแรงเกิดเป็นแรงอัดอากาศไปทั่ว !! สายลมที่เกิดจากการปะทะและบีบอัดของทั้งสองค่อยๆพัดพาข้าวของต่างๆในวิหารให้ปลิวหายไปสิ้น ยกเว้นแต่เพียงองค์เทวรูปที่ยังคงยืนหยัดอยู่อย่างสง่างาม..
     
                    ความพยายามของหญิงสาวเริ่มจะประสบผลเมื่อคู่ต่อสู้เริ่มเพลี้ยงพล้ำ.. มังกรสีเหลืองรัดเข้าที่ร่างของพยัคฆ์ขาวแต่กลับถูกคมเขี้ยวนั้นกัดจนไม่สามารถขยับไปไหนได้.. ทันใดนั้นเอง!!
     
                    ร่างกายของพยัคฆ์ขาวและเจ้าของกระตุกอย่างแรง ก่อนที่จะเริ่มอ่อนแรงลง! เลือดสีม่วงคล้ำไหลออกมาจากปากของเธอ.. เธอพยายามมองไปที่คู่ต่อสู้ พบว่าอีกฝ่ายใช้หน้ากากครึ่งหน้าปิดปากและจมูกเอาไว้ เมื่อเธอเห็นดังนั้น เธอจึงคิดออกอยู่อย่างเดียว..
     
                    พิษ....
     
                    ร่างบางของสาวน้อยสลบลงไป.. เมื่อเจ้าของพลังเสียศูนย์ พยัคฆ์ขาวก็เริ่มอ่อนแรง มังกรอัสนีกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบ ก่อนที่มังกรอัสนีจะใช้ร่างยาวของมันพันรัดรอบกลุ่มไอเวทย์ของพยัคฆ์ขาวเอาไว้ และ..
     
                    ตู้มมม!!!
     
                    ร่างของทั้งสองพลังระเบิดออกอย่างรุนแรง พร้อมกับแรงอัดอากาศที่กระจายไปทั่ว!! ข้าวของต่างๆถูกอัดจนกระจัดกระจายอีกครั้ง ! เอลแซ็ครีบคว้าร่างของเรอาเรียที่สลบไปมาไว้ในอ้อมแขน แล้วรีบเผ่นทันที!
     
                    ครืนนนน!!...โครม!
     
              แรงอัดอากาศสงบลงอย่างรวดเร็ว ข้าวของภายในวิหารต่างกระจัดกระจายไปทั่ว แต่ตัววิหารยังคงอยู่อย่างมั่นคงได้อย่างน่าอัศจรรย์ ส่วนพวกเขาทั้งสองน่ะหรือ ?..
     
                    ฟู่ .. รอดตัวไปแฮะ คิดอยู่แล้วเชียวว่าเทวรูปนี่จะมีเขตอาคมชั้นสูงอยู่ ถึงได้ทนเวทย์ของเราได้..เอลแซ็คกล่าวอย่างโล่งอก ก่อนจะหันมาดูหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขน..
     
                    แค่นี้ ก็คงชนะแล้วสินะ...เขาพึมพำเบาๆ..
     
                    ภาพโฮโลแกรมของผอ.ซิลวิเรียสปรากฎขึ้นมาอีกครั้ง.. หากแต่คราวนี้เธอดูกังวลเล็กน้อยเมื่อเห็นสถานที่แข่งขัน..
     
                    ยินดีด้วยจ๊ะ เอลแซ็ค ซีสตริงค์ เธอเป็นผู้ชนะในการแข่งขันรอบที่ 2 คู่ที่2 !!” เธอประกาศก้อง .. ชายหนุ่มยิ้มอย่างดีใจ ก่อนที่คำพูดต่อไปจะทำให้เขาแทบจะร้องได้..
     
                    แต่ทว่า.. วิหารนี่ พวกเธอสองคนต้องช่วยกันทำนุบำรุงให้มันดีขึ้นแล้วล่ะ ฉันขอสั่งให้พวกเธอสองคนทำให้วิหารนี่กลับมาเป็นเหมือนเดิม ไม่งั้นห้ามกลับโรงเรียนจ๊ะ !”
     
              อะไรน้า~!!”
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×