ตามฝัน ใน [ [[ADMISSION 55 ]]''

ลำดับตอนที่ #6 : การหายใจระดับเซลล์ม.4[[70%]]]

การหายใจระดับเซลล์

การหายใจระดับเซลล์คืออะไร??

มันก็คือ การสลายอาหารเพื่อให้ได้พลังงานนั่นเอง
(บทที่แล้วเราสลายอาหารแล้วไง ^O^)
แล้วพลังงานที่เรามาเรียนกันก็คือ ATP

ATP ชื่อเต็มๆของมันก็คือ Adenosine triphosphate ยาวจริงๆ = =
- เป็นพลังงานของ CELL ทุกชนิด
- 1 ATP = 7.3 kcal/mole จำด่วน น~
- ให้พลังงานไว้สำหรับ เช่น
   >> การเคลื่อนที่
   >> การขนส่ง (ส่งสารในร่างกายเราไรงี้อ่ะ)
   >> สร้างสารอินทรีย์

โครงสร้างของ ATP     (Adenosine triphosphate)

ดูจากรูปมีไรบ้างหว่า
- มี ฟอสเฟต 3 กลุ่ม
- อะดีนิน
- ไรโบซ

ให้ทายว่าพลังงานอยูไหนเอ่ย ย ?
ตรงฟอสเฟตไงเห็นมะตรง  ตัวดึ๋ยๆ ~ อ่ะ
ถ้าตัดมันออกมาทีละตัวเราจะได้พลังงาน  7.3 kcal/mole

รู้มั้ย ย?? ทำไมเราต้องเรียนพลังงานในรูป ATP เพราะมันใช้ง่ายได้พลังงานสูง ง ง~ นี่เอง 555
[ถ้ามากกว่า 5.95kcal/mole ถือว่าพลังงานสูง ง ง งงง ]

แหะๆ = = หายหน้าไปหลายวัน- -"
ขอติดเรื่องการสังเคราะห์และการสลาย ATP ไว้ก่อนนะ ><""

ไปเคลียร์กับเพื่อนก่อนแล้วเดี๋ยวมาลง ให้ น้ะ TOT

เราสับสนอยู่นิดนึงอ่ะ
เอาเป็นว่ามาเริ่มที่ไมโทรคอนเดรียก่อนน้า ^O^

ไมโทรคอนเดรีย

มันคืออะไรสักอย่างที่ชื่อคุ้นๆเหมือนเคยเรียนตอนม.4 ใช่มะ 555+

มันคือออร์แกเนลล์ที่สร้าง ATP อ่ะ

เดิมทีมันเป็นแบคทีเรียอยู่นอก เซลล์ แล้วถูกดึงเข้ามาได้ไงไม่รู้อ่ะ = =
ดังนั้นมันก็เลย
1. มี เยื่อหุ้ม 2ชั้น
2. มี ไรโบโซม สร้างโปรตีนไง ^O^
3. มี DNA จำลองตัวเองได้ด้วย
4. มีกระบวนการ phosphorylation ~เติมฟอสเฟตให้ ADPเป็น ATPอ่ะ 
               

*** ADP : Adenosine biphosphate  คือ มี ฟอสเฟต 2 ตัว จำได้มั้ยว่า ATPมันมีฟอสเฟต 3 ตัว
     ดังนั้น ADP มี ฟอสเฟต 2 ตัว เติมฟอสเฟต 1ตัวก็กลายเป็น ATP ที่มีฟอสเฟต 3 ตัวไง ^O^

ทีนี้มาดูภาพรวมนึดนึงว่า  การสลายอาหารเพื่อให้ได้พลังงานเนี่ยเป็นยังไง??
ที่เราสลายมี monosaccharide  หน่วยเล็กที่สุดของ คาร์โบไฮเดตร
                     amino acid                        "                  โปรตีน
                     fatty+glyceral                     "                  ไขมัน

แต่ละตัวสลายออกมาได้ไรมั้ง?

                 monosaccharide         -------------------------------------->  CO2  + H2O 
               fatty+glyceral        -------------------------------------->  CO2  + H2O
             amino acid               -------------------------------------->  CO2  + H2O + NH3

                                                                                                                 **  NH3 มาได้ไง ค่อยว่ากันนะ ^^
แถมมๆๆ >> กรดอะมิโนอ่ะมีหลายชนิดเช่น
                Glutamic  acid
                Asparatatic acid
แต่ระวัง !!!  Ascorbic acid ตัววนี้เป็นวิตามิน C นะ


การหายใจ (การสลายอาหารเพื่อให้ได้พลังงาน) แบ่งได้คือ ในเซลล์ นอกเซลล์

In vitro นอกเซลล์	ใช้ O2	Glucose+ O2----->CO2+ H2O	94 ATP
In vivo ในเซลล์	ใช้ O2	Glucose+ O2----->CO2+ H2O	36 ,38 ATP
	ไม่ใช้ O2	Glucose+ -----> สารอินทรีย์  (เช่น Alcohol)	2 ATP

ตามตารางเลยจ้า
ถามว่าทำไมพลังงานในเซลล์น้อยกว่านอกเซลล์เพราะ แบบใช้ออกซิเจนหายไปกับความร้อน
                                                                       แบบไม่ใช้ออซิเจน อยู่กับสารอินทรีย์เยอะไปหน่อย = =

** สิ่งมีชิวิตเกือบทุกชนิด หายใจได้ 2 แบบ (ในเซลล์แบบใช้และไม่ใช้ O2)
    บางชนิดแบบเดียว คือ ในเซลล์ไม่ใช้ออกซิเจน : Diplomonad , Parabarasid (ไม่มีไมโทรคอนเดรีย!!)

การหายใจแบบใช้ออกซิเจน

มี 4 ขั้นตอน
- Glycolysis                                                 เกิดที่ ไซโตพลาซึม
- Acetyl coenzyme A                                  เกิดที่ Maxtrix  
- Kreb's cycle                                             เกิดที่ Maxtrix  
- Oxidative posphorylation                        เกิดที่ inner membrane 

มาดูภาพรวมของกระบวนการ หายใจแบบใช้ออกซิเจนกัน

**ภาพข้างบนใคร งง ถามได้น้ะ ^^

ก่อนเข้ากระบวนการ ไกลโคไลซิส ขอแนะนำรถบรรทุก 2ตัวก่อน เอ้ย ตัวรับไฮโดรเจนทั้ง 2ก่อน
>> NAD รับ H2ตัว  พอมันรวมร่างกันก็จะมีหน้าตา NADH
>> FAD รับ H 2ตัว พอมันรวมร่างกันก็จะมีหน้าตา FADH2
**เวลาจำก็จำตอนมันรวมร่างเลยนะ ^O^
**(ภายใน H มีอิเล็คตรอนพลังงานสูงอยู่)
เราจะมาเจาะลึกกับกระบวนการ ไกลโคไลซิสกันนะ

ไกลโคไลซิส
-เกิดได้ทั้งใช้ และไม่ใช้ ออกซิเจน
-เกิดที่ ไซโตพลาซึม


** ภาพมันอาจดู งงๆนะ ไม่เข้าใจไรก็ถามเราได้น้ะ TOT 

Acetyl coenzyme A  

หลังจาก กระบวนการไกลโคไลซิสผ่านไปแล้ว
ไพรูเวททั้ง 2 ตัวก็เดินทาง
เข้าสู่ ไมโทคอนเดรีย
ในส่วนที่เรียกว่า Maxtrix 
ซึ่งมันเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ ไม่ต้องไปสนมัน- -"
เอาเป็นว่าผลลัพธ์สุดท้าย
ได้ 1 CO2 
      1 NADH
**แต่ๆๆอย่าลืมนะว่ามันมาด้วยกัน 2 ตัว ดังนั้น ถ้ารวมกัน 2 ตัว สิ่งที่ได้คือ
      2 CO2 
      2 NADH
**และก็จาก ไพรูเวท (3C) ก็จะเหลือเป็นตัวละ (2C)

Kreb's cycle  
                           

มันคือวงกลมมหัศจรรย์- -"
ที่ทำให้เราปวดหัวได้ เมื่อมองมัน -- *
พอๆ นอกเรื่องมาเยอะแระ

เอาเป็นว่าที่เราต้องรู้เกี่ยวกับวงกลมมหัศจรรย์นี้คือ ผลิตภัณฑ์ที่ได้
1 วงล้อได้
-  2 CO2
- 1 ATP
- 3 NADH
- 1 FADH
นั่นเอง ง!!
แต่ในที่นี้ เรามี (2C) จากกระบวนการอะซิติ้ว 2ตัวจำได้มั้ย??
ดังนั้น ในครั้งนึงจะมีการ หมุนวงล้อมหัศจรรย์ 2 รอบ - -"
ผลลัพธ์ที่ได้คือ
- 4 CO2
- 2 ATP
- 6 NADH
- 2 FADH

 
------------แต่ก่อนที่เราจะไปถ่ายทอดอิเล็คตรอนกัน เรามาสรุป 3กระบวนการแรกก่อนน้ะ------------

 

ขั้นตอน/ผลิตภัณฑ์	CO2	ATP	NADH	FADH
GLYCOLYSIS	0	2	2	0
ACETYL CO A 2 รอบ	2	0	2	0
KREB’S CYCLE 2 รอบ	4	2	6	2

** เดี๋ยวพวก FADHกับ NADH จะไปแปลงร่างกลายเป็น ATP ต่อไปใน การถ่ายทอดอิเล็คตรอน จ้ะ ^O^

นี่คือสถานที่ๆจะเกิดการถ่ายทอดอิเล็คตรอนนั่นเอง = =
มองออกมั้ยเอ่ย ย
ไอตัวสีน้ำตาลคือ ชื่อ ขบวนการในการถ่ายทอดอิเล็คตรอน(เดี๋ยวมาต่อทีหลังนะว่ามันเป็นยังไง)
สีชมพูคือชื่อในไมโทรคอนเดรียจ้า

>>จำได้มั้ยว่า ก่อนหน้านี้เราได้ NADH ,FADH มาตั้งหลายตัว
     ก้อนสีม่วงๆคือโปรตีน มีก้อนที่1 2 3 4
      NADH จะเข้าก้อนที่ 1
      FADH จะเข้าก้อนที่ 2




ดูตามภาพเลยนะ เรามาดูด้าน ETC ก่อนนะ
ที่บอกว่า NADH จะเข้าก้อนที่ 1 หมายถึง พลังงานสูงใน H เข้าไปจ่ะ
แล้วสิ่งที่ไม่ได้เข้าไป คือ H
งงล่ะสิ= =
เอางี้
เราเปรียบ H เป็นส้ม
 2 e เป็นผลส้มข้างใน
 2 H เป็นเปลือกส้ม
นึกออกมั้ย ^O^
คือ ผลส้มเข้าไป
แล้วทิ้งเปลือกส้มเอาไว้ข้างนอก

FADH ก็เหมือนกัน
เดี๋ยวมาต่อ

แหะๆ
มาลงอีกนิดนุง = =
เราแก้อยู่นิดนึงนะ

>> NAD รับ H2ตัว  พอมันรวมร่างกันก็จะมีหน้าตา NADH
>> FAD รับ H 2ตัว พอมันรวมร่างกันก็จะมีหน้าตา FADH2
**เวลาจำก็จำตอนมันรวมร่างเลยนะ ^O^
**(ภายใน H มีอิเล็คตรอนพลังงานสูงอยู่)



ภาพที่เราทำไว้มันหายไปแล้วอ่ะ =[]=
งั้นขอพูดเรื่องการถ่ายทอดอิเล็คตรอนต่อ แต่ไม่มีภาพนะ โทดที T^T
เพื่อนๆเห็นมั้ยว่า H+มันถูกปั๊มเข้าไปข้างบน มากขึ้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มากขึ้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มันก็จะแพร่เข้ามาในเทริกซ์ (ไปดูในด้าน chemiosmosis นะ) 
โดยผ่านโปรตีนตรงchemiosmosis อ่ะซึ่ง
ไอโปรตีนตรงนั้น
จะมีโจรสลัดซุ่มอยู่นั่นคือ adp+pi มันรอวิ่งราวพลังงานสูงจากe-ที่มีอยู่ในH+
พอ H+ผ่านเข้ามาปุ๊บ ก็โดนพวกมันวิ่งราว 
แล้วรวมร่างกันกลายเป็น ATP นั่นเอง ง !!
ADP+Pi------------------->ATP ไำง
แค่นั้นแหละพี่น้อง เราก็จะได้ ATPจะกระบวนการนี้ >W<

ตรงนี้จะเป็นการสรุปการถ่ายทอดอิเล็คตรอนล่ะเน้อ!!~
สรุปแล้วการถ่ายทอดe- มี 2 กระบวนการคือ
 >>Electron transport chain : ถือว่ามันเป็นเหตุ (ถ้าไม่มีมันก็ไม่มี Chemiosmosis)
-ส่งผ่าน e-
-pump proton
-produce  H2O

 >>Chemiosmosis : นี่ก็คือ ผล= =
-Proton ไหล = =
-produce ATP

***ขอเน้นๆอีกอย่างนึงคือ  การส่งต่ออิเล็คตรอนน่ะ มี2 แบบคือ ประตู1-->3--->5 กับ  2-->3--->5 นะจ้ะ!

ทีนี้ถ้าเรายับยั้ง ETC กับChemiosmosisล่ะ  จะเกิดอะไรขึ้น
>>Electron transport chain 

-ส่งผ่าน e- ไม่ได้

-pump proton ไม่ได้

-produce  H2O ไม่ได้
-สร้าง ATP ไม่ได้ 

 >>Chemiosmosis 

-สร้าง ATP ไม่ได้ นั่นเอง = w=" โอเค๊??

และแล้วเราก็สิ้นสุดการหายใจระดับเซลล์เย่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่
แต๊
แต่
แต่ว่า า 
ไหนเรามาลองนับกันดิ๊ ว่าสิ้นสุดการสลาย Glucose1โมเลกุลเนี่ย
ได้กี่ ATP
36 ไม่สิ38
เห้ย
แล้วมันเท่าไหร่กันแน่ฟระ
มันก็ได้ทั้ง2แบบน่ะแหละ
แต่เซลล์ ตับ
ตับ ตับ ตับตับเนี่ย = =
พิเศษกว่าชาวบ้าน 38 ONLY
แล้วทำไม เดี๋ยวก็38 เดี๋ยวก็ 36อ่ะ อยากรู้มะ
มาดูกัล ล~