ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลืมรักร้าย

    ลำดับตอนที่ #44 : สำนึกผิดและถอนตัว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.37K
      14
      7 มิ.ย. 57

    “สวัสดีครับพี่วายุ... ขอโทษทีนะครับพี่ที่ผมมาช้าพอดีกว่าจะเสร็จธุระที่ร้านตัดชุดแต่งงานก็นานเลย ผมเลือกไม่ค่อยถูกนะครับมันสวยไปหมดทุกแบบเลย แล้วก็ต้องเลือกคนเดียวด้วยเพราะว่าที่เจ้าสาวไม่ยอมช่วย เฮ้อมันหน้าน้อยใจจริงๆเลยครับพี่”

    เรียวพูดกับวายุที่นั่งรอทานมื้อเย็นกับน้องชายต่างสายเลือดอยู่ที่ร้านอาหารหรูใจกลางเมือง สีหน้าของคนรอดูนิ่งจนคนที่พึ่งมาเริ่มหวั่นใจว่าคนจะหงุดหงิดที่คนนัดมาสายกว่าปกติเป็นชั่วโมงรึเปล่า แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือที่วายุมีทีท่าขึงขังแบบนั้นก็เพราะว่าไม่พอใจกับคำแก้ตัวที่ดูจะมีความสุขเกินหน้าเกินตาของเรียวต่างหาก

    “พี่ไม่โกรธผมใช่ไหมครับ... อ่าวแล้ววันนี้พาเจ้าหนูน้อยลมของอาเรียวมาด้วยหรอครับเนี่ย หน้ามุ่ยเหมือนคุณพ่อเชียว อาขอโทษนะครับที่มาช้าวันนี้อยากหม่ำอะไรเอาให้เกลี้ยงเลยนะครับหลานรัก อาเรียวเลี้ยงหนูเองเป็นการไถ่โทษดีไหม ไหนๆมาให้อาอุ้มให้หายคิดถึงหน่อยสิครับ”

    เรียวอ่าแขนไปให้หนูน้อยเหมือนต้องการให้น้องลมรู้ว่าเขาอยากอุ้มหนูน้อยมากแค่ไหน ตอนแรกวายุคิดว่าลูกชายตัวน้อยจะแบะปากทำท่าร้องไห้เพราะนิสัยไม่ชอบเข้าใกล้คนแปลกหน้าแต่ก็ต้องหน้าเหวอเมื่อหนูน้อยอ่าแขนกลับไปให้เรียวอุ้มเช่นกัน อาหนูจึงหัวเราะอย่างมีความสุขที่ในที่สุดหนูน้อยก็ไม่กลัวเขาเหมือนครั้งแรกที่เจอกัน อาจจะเป็นเพราะการกระชับมิตรก่อนจากกันเมื่อคราวก่อนก็เป็นไปได้ที่ทำให้น้องลมไว้ใจเขา พอไดอุ้มหนูน้อยเท่านั้นเรียวก็หอมแก้มซ้ายแก้มขวาอย่างมั่นเขี้ยว

    “ไปสนิทกันตอนไหนเนี่ยสองคนนี้ พี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”

    “ผมกับเจ้าตัวแสบของพี่เราสงบศึกกันแล้วครับ ผมหน่ะต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะสร้างพันธมิตรตัวน้อยคนนี้ได้ เล่นขอเล่นด้วยกันซะจนเหนื่อยเลยเนาะ ไหนหอมแก้มอีกทีสิ แก้มหลานใครเนี่ยหอมจริงๆเลย”

    วายุยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อเห็นลูกชายตัวเองหัวเราะเอิกอากอย่างน่ารัก ถึงแม้จะเป็นคนหวงลูกมากแค่ไหนไม่ค่อยให้ใครหน้าไหนเข้าใกล้แต่กับเรียวที่เขานั้นเห็นชายหนุ่มเป็นเหมือนน้องชายแล้วเขากลับไม่รู้สึกหวงอะไรมากนัก แต่ก็อดใจหวิวๆไม่ได้กลัวว่าลูกชายจะรักคนอื่นมากกว่าตัวเอง จึงต้องลูกขึ้นเดินเข้าไปใกล้หมายจะขอตัวลูกชายตัวน้อยคืนแต่แล้วสายตาก็ไปปะทะกับร่างบางที่คุ้นตาเดินตรงเข้ามา

    นัทชาที่พึ่งเดินตามหลังเรียวเข้ามาเพราะขอทำใจสักพักก่อนในรถ เดินมาหยุดนิ่งเหมือนรูปปั่นหินเมื่อเห็นคนตรงหน้าที่ยืนอยู่เคียงข้างคู่หมั่นหนุ่มพร้อมทั้งหนูน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา ความจริงเธอเห็นทุกคนอยู่ไกลๆแล้วแต่เมื่อยิ่งเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นๆก็ยิ่งทำให้หัวใจของเธอชาวูบเนื้อตัวสั่นขึ้นอีกครั้ง แต่เธอก็ฝืนที่จะเดินเข้ามา เพราะไม่ต้องการวิ่งหนีความกลัวที่ไม่รู้สาเหตุของตัวเองอีกต่อไป และเมื่อเห็นทุกคนชัดๆเธอกับตัวแข็งถื่อและหัวใจก็แทบจะหยุดเต้น เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนี้มันต่างจากความรู้สึกเมื่อครั้งก่อนที่เจอผู้หญิงท่าทางคุกคามคนนั้นความรู้สึกตอนนั้นมันคือความรู้สึกโกรธเจ็บปวดและทรมานคับแน่นอยู่เต็มอกจนคลั่ง แต่ความรู้สึกที่เป็นอยู่ตอนนี้มันต่างออกไป ความรู้ที่ตัวชาเบาหวิวเหมือนวิญญาณจะหลุดลอยออกไป ความรู้หวงหาอาทรเหลือเกินเมื่อเห็นร่างน้อยๆในอ้อมอกของเรียว มันทำให้น้ำตาของเธอเอ่อคลออกมาโดยไม่รู้สาเหตุก่อนจะเอื้อมมือไปแตะลงบนใบหน้าน้อยๆของหนูน้อย และดึงตัวหนูน้อยออกจากอ้อมแขนเรียวก่อนจะกอดน้องลมเอาไว้แน่ กดจูบลงที่แก้มนิ่มหลายต่อหลายครั้งทั้งๆที่น้ำตาอาบหน้า ภาพตรงหน้านั่งทำให้เรียวงงงันไปหมด ทำไมคู่หมั่นสาวถึงได้อีกอาการแบบนี้ ทำไมเธอถึงได้ร้องไห้เหมือนอย่างคนกำลังจะขาดใจ...

    วายุที่เห็นภาพตรงหน้าก็มีอาการไม่ต่างจากหญิงสาวเท่าไรนักเขากำมือแน่นเพื่อระบายความรู้สึกที่สับสนในหัวใจ ภาพของผู้หญิงที่ตัวเองรักหมดหัวใจภาพของเมียและแม่ของลูกกอดลูกชายตัวน้อยร้องไห้อย่างไม่แคร์สายตาใครอยู่ตอนนี้นั้นมันเหมือนมีดที่แหลมคมบาดลึกทิ่มแทงหัวใจของเขา เขารู้ว่าเธอความจำเสื่อมรู้ว่าเธอกำลังจะกลายไปเป็นของคนอื่นในไม่ช้า ทุกวันคืนหลังจากที่รู้เขาก็พยายามหาทุกวิถีทางเพื่อจะได้มีโอกาสแก้ตัวกับเธอและพาหัวใจรักเธอกลับคืนมาสู่เขาอีกครั้งแต่มันก็ไม่มีโอกาสเลยที่เขาจะได้เข้าใกล้เธอแม้จะรู้ว่าเธออยู่ไหน เพราะครอบครัวของหญิงสาวที่ขัดขวางเขาทุกวิถีทาง แต่วันนี้เธอกับมายืนร้องไห้กอดลูกของเขาและเธอที่เป็นเหมือนกับสายใยผูกมัดเขากับเธอเอาไว้ หัวใจของคนเป็นพ่อและสามีแทบจะสลายเมื่อคิดว่าถ้าหากครั้งหนึ่งตัวเองไม่ได้ทำผิดพลาดนอกใจคนตัวเล็กที่อยู่ต่อหน้าคนนี้ วันนี้เขาคงจะมีความสุขอยู่กับครอบครัวที่สมบูรณ์แบบและเพียรพร้อม ไม่ต้องมาพลัดพรากกันอยู่อย่างนี้ ความจริงแล้วมันไม่ใช่ความผิดของใครเลยมันคือความผิดของเขาแต่เพียงผู้เดียวเพราะเขาไม่หนักแน่พอถึงได้หลงใหลไปกับมายาดวงแขที่เอาทั้งเรือนร่างและเงินทองชื่อเสียงเข้ามาเสนอ เพราะตัวเขาที่ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง.... แล้วเขาจะไปโทษคนตรงหน้าหรือเรียวได้อย่างไรในเมื่อเรื่องราวเป็นแบบนี้เพราะตัวเขาเอง.... ยิ่งคิดได้ยิ่งเจ็บปวดนี่เขาทำร้ายใครลงไปบ้างทั้งผู้หญิงที่เขารักทั้งผู้ชายที่เขารู้สึกไม่ต่างไปจากน้องชายแท้ทั้งลูกชาย ทุกคนต้องเจ็บปวดเพราะเขาลูกต้องขาดแม่ แม่ต้องพลัดพรากจากลูกเพราะจำเรื่องราวอะไรไม่ได้ และชายคนหนึ่งต้องหัวใจสลายเพราะเสียผู้หญิงคนรักไปหากเขายังดึงดันแย่งเธอกลับมา.....

    “นัทเป็นอะไรรึเปล่า....”

    เรียวถามคู่หมั่นสาวหลังจากที่อึ่งอยู่นานกับภาพตรงหน้า เรียกสติของคนที่หลุดออกไปไกลให้กลับมา

    “ขอโทษคะ.... นัทไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกัน....ขอโทษนะคะ...”

    หญิงสาวพูดพรากมองหน้าหนูน้อยที่ไม่มีทีท่าว่ากลัวเธอเลยแม้แต่น้อยอย่างไม่วางตา น้องลมเหมือนรู้ว่าผู้หญิงที่กอดตัวเองอยู่นั้นก็คือแม่ผู้ให้กำเนิดจึงไม่มีทีท่ากลัวหรือขัดขืนอะไรเมื่อถูกกอดกลับกอดตอบและส่งยิ้มไร้เดียงสาให้เธออย่างน่ารัก ทำให้นัทชาเอามือข้างหนึ่งขึ้นมาปาดน้ำตาก่อนจะหอมแก้มหนูน้อยอย่างเอ็นดู ก่อนเธอจะรู้สึกเหมือนอุ่นๆที่ฝามือ ใช่เลยน้องลมปล่อยระเบิดใส่แม่ซะแล้ว นัทชายิ้มอย่างไม่รังเกียจแต่วายุกลับเดินเข้ามาหาเธอแทนและยื่นมือไปทำท่าเหมือนจะขอรับลูกชายกลับมา นัทชามองหน้าของวายุนิ่งเหมือรู้สึกปวดหัวแปลบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกจนเรียวต้องเข้ามาใกล้ๆและรับหนูน้อยส่งให้ผู้เป็นพ่อไป

    วายุเห็นท่าทางของหญิงสาวไม่ดีก็เป็นห่วงยืนอุ้มหนูน้อยที่ทำท่าจะร้องไห้เพราะรู้สึกไม่สบายตัวด้วยท่าทางลังเลว่าจะพาลูกชายจอมแสบไปเปลี่ยนผ้าอ้อมหรือจะอยู่ดูอาการของผู้เป็นแม่ของลูกดี

    “พี่พาน้องลมไปเปลี่ยนผ้าอ้อมก่อนเถอะครับเดี่ยวผมอยู่เป็นเพื่อนนัทเอง เธอมีอาการแบบนี้บ่อยหน่ะครับเดี๋ยวให้นั่งพักแล้วหาชาอุ่นๆให้ดื่มคงดีขึ้น ผมกับนัทจะรออยู่ที่โต๊ะนี่แหละครับครับพี่”

    “อืมงั้นเดี๋ยวพี่สั่งชาให้นะ แล้วเดี๋ยวพี่มา”

    “ครับ ..... นัทนั่งลงก่อนนะครับเดี่ยวดื่มชาเหมือนทุกทีคงดีขึ้น”

    เรียวคิดถึงทุกครั้งที่เธอมีอาการแบบนี้แล้วสาวใช้คนสนิทของเธอจะเอาชาสมุนไพรมาให้ดื่มและเธอก็จะอาการทุเลาลงทุกครั้ง เขารู้สึกสงสัยเรื่องชานี่อยู่แล้วตั้งแต่นึกออกเมื่อกี้ การให้เธอดื่มชาอย่างอื่นดูก็จะเป็นการพิสูจน์ว่ามันจะช่วยเธอเหมือนย่างเช่นทุกครั้งได้หรือไม่ หากได้ชานั้นก็อาจจะไม่มีอะไรผสมอยู่อย่างที่เขาคิด และหากไม่ได้เชื่อเลยว่าเขาจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านเลยไปแน่

    “ชามาแล้วนัทดื่มก่อนนะจะได้ดีขึ้น”

    นัทชารับชามาดื่ม เธอดื่มจนหมดอาการปวดหัวก็ไม่ทุเลาลงเลย และเมื่อเห็นหน้าวายุที่เดินกลับเข้ามาเธอก็ยิ่งปวดหัวมากยิ่งขึ้น

    “นัท...ไม่หายหรอ...”

    “มะ...ไม่....ไม่หาย....”

    “งั้เราไปโรงพยาบาลกันนะนัท พี่วายุครับผมคงต้องพานัทไปโรงพยาบาลก่อนเอาไว้วันหลังเรามาทานข้าวกันใหม่นะครับ”

    เรียวจะเข้าไปพยุงนัทชาแต่เธอกลับผลักมือหนาที่เข้ามาออก

    “อย่า.... แตะต้องตัวนัท.....”

    “นัท.....”

    นัทชาลุกขึ้นด้วยสีหน้าที่ซีดขาวเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้าเรียวไปหมด ก่อนที่เธอจะเดินออกไปจากร้านและขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เรียวมองตามรถที่ขับออกไปด้วยความเป็นห่วงวายุเองก็วิ่งตามออกมาเช่นกัน

    “นานไม่รีบตามเธอไปล่ะ ท่าทางเธอดูไม่ดีเลยนะให้ขับรถเองแบบนั้นเดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะว่ายังไง”

    วายุต่อว่าเรียวที่ยืนนิ่งด้วยความเป็นห่วงคนที่พึ่งขับรถออกไป

    “ปล่อยเธอไปเถอะครับพี่ ผมเชื่อว่านัทสามารถดูแลตัวเองได้ บางทีการปล่อยให้เธอไปค้นหาความทรงจำที่หายไปมันอาจจะดีกว่าที่จะเข้าไปขวางทางเธอเอาไว้....”

    “แต่เธอดูท่าทางจะปวดหัวมากนะเรียว ฉันว่านาย....”

    “ไม่ใช่ผมไม่เป็นห่วงเธอครับพี่ แต่เป็นเพราะผมรักเธอมากและไม่อาจเห็นเธอทนทุกข์ทรมานอยู่แบบนี้ได้อีกต่อไป เชื่อผมเถอะครับว่านัทจะปลอดภัย เธอรู้ขีดจำกัดของตัวเองดี เธอจะไม่เป็นอะไร....”

    เรียวพูดเสียงเบาหวิวเขาเองก็เป็นห่วงหญิงสาวไม่น้อยแต่การที่ปล่อยให้เธอได้จัดการกับตัวเองมันอาจจะดีกว่า แต่สิ่งที่เขาหวาดกลัวมากกว่าในตอนนี้นั้นก็คือผลที่ตามมาหากเธอจำทุกสิ่งได้ต่างหาก

    “ผมกลัวครับพี่.....”

    “......”

    วายุมองหน้าชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆอย่างสงสัย

    “ผมกลัวว่าถ้าหากเธอจำเรื่องราวทั้งหมดได้เธอจะยิ่งเจ็บปวดและผมอาจจะเสียเธอไป.. ผมอยู่ไม่ได้หากไม่มีเธอ....คุณลุงคุณป้าบอกว่าให้ผมช่วยเธอโดยการไม่พูดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับเมืองไทย เพื่อที่เธอจะได้ลืมเรื่องราวร้ายๆที่เกิดขึ้นที่นั้น และเธอจะได้เริ่มต้นใหม่ แต่การที่ผมได้เห็นเธอเจ็บปวดอยู่กับความทรงจำเลวร้ายที่หายไปตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมามันก็ทำให้ผมสงสัยว่า การช่วยให้เธอลืมเรื่องราวทุกอย่างมันจะเป็นผลดีหรือผลเสียกันแน่ เพราะนัททรมานมากเหลือเกินครับพี่ ทุกครั้งที่เธอพยายามคิดพยามที่จะจดจำทุกอย่างให้ได้เธอจะปวดหัวเจ็บปวดแทบตาย เธอร้องไห้ทุกครั้งที่พูดพร่ำถามผมว่าทำไมเธอถึงรักษาตัวเองไม่ได้ทั้งๆที่เธอเป็นหมอ เธอต้องทิ้งอาชีพที่เธอรัก ต้องทิ้งความฝันที่มีเพราะเธอไม่กล้ากลับไปทำงานหากยังรักษาตัวเองไม่ได้  ผมเฝ้าบอกเธอตลอดเวลาว่าไม่ว่าเธอจะเคยเจอกับเรื่องราวเลวร้ายอะไรมาผมก็ยังจะรักเธอ เธอคือแสงสว่างในชีวิตของผม เธอคือทุกอย่าง......”

    เรียวแทบจะร้องไห้เมื่อพูดถึงความกลัวที่ตัวเองมีให้วายุฟังวายุที่อุ้มน้องลมอยู่มองผู้ชายตรงหน้าด้วยความเข้าใจ ความเข้าใจที่เขาไม่เคยมีให้ใครและกับเรื่องใดมาก่อนเพราะมั่วแต่คิดถึงแต่กับเรื่องของตัวเอง มั่วแต่คิดว่าตัวเองเกิดมาไม่มีอะไรและถูกถอดทิ้งอย่างไม่ใยดี เขาจึงเอาแต่ไขว้คว้าอย่าเห็นแก่ตัวโดยไม่สนใจว่าจะทำร้ายใครไปบ้าง

    วายุดูออกตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาพบกับเรียวว่าชายหนุ่มคนนี้รักเมียของเขามากมายแค่ไหน แต่เขากลับทำเป็นมองไม่เห็นและเอาแต่เฝ้าว่าร้ายคนตรงหน้าว่าจะเข้ามาแย่งดวงใจของเขาไป ทั้งๆที่เขาเองต่างหากที่ทำหัวใจของตัวเองแหลกสลายและหล่นหายไปนานแล้ว จนกระทั่งเรียวมาพบและเก็บมันขึ้นมาปัดฝุ่นทำความสะอาดจนสวยงามดั่งเดิม วายุเอื้อมมือไปตบไหล่เรียวเบาๆเหมือนต้องการจะให้กำลังใจเขา

    “อย่ากลัวไปเลยนายเป็นคนดี ไม่ว่ายังไงเธอก็จะเลือกนายอยู่แล้ว....”

    คำที่วายุพูดปลอบเรียวนั้นมันเหมือนกับเป็นคำที่เขาต้องการจะบอกกับตัวเองเช่นกันว่าถ้าหากเธอจำเรื่องราวทุกอย่างได้เธอก็คงจะเลือกเรียวไม่ใช่เขาอยู่ดี เพราะกับเขานั้นมีแต่ความทรงจำที่เลวร้ายมอบให้เธอ เขามันเป็นรักร้ายๆที่เธอต้องการลืม ไม่ใช่ผู้ชายคนนี้ที่มีแต่รักที่บริสุทธิ์มอบให้เธอ

    ระหว่างทางที่วายุนั่งรถกลับที่บ้านพักของตัวเองเขากอดลูกชายเอาไว้แนบอก สายตาเหม่อมองออกไปนอกรถก่อนจะหันกลับมาพูดกับน้องลมที่ดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่าตอนนี้พ่อของตัวเองนั้นจะทำอะไร

    “น้องครับเราจะกลับบ้านกันนะลูก พ่อคิดแล้วล่ะว่าจะปล่อยแม่เขาไป แม่เขากำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนที่ดีกว่าพ่อ อาเรียวไงครับ.... น้องลมอย่าโกรธพ่อนะครับที่พ่อทำแบบนี้ ที่พ่อไม่สามารถทำให้ครอบครัวของเรากลับมาสมบูรณ์ได้ พ่ออยากให้หนูรู้เอาไว้ว่าแม่เขารักหนูมากขนาดวันนี้เขาจำหนูไม่ได้แม่เขายังกอดและหอมหนูไม่ต่างจากตอนที่หนูยังเล็กกว่านี้ แต่เพราะพ่อเองที่ทำเลวร้ายกับแม่หนูเอาไว้มากมายเหลือเกินพ่อถึงต้องปล่อยแม่ไป เพราะมันอาจจะช่วยให้ความผิดที่พ่อเคยทำเอาไว้เบาลงได้ หากพ่อยังดึงดันที่จะรั้งแม่เอาไว้มันก็จะทำให้ทุกคนเจ็บปวด แต่ถ้าหากพ่อยอมเป็นคนยอมแพ้และจบเรื่องราวที่พ่อได้ก่อขึ้นมาเองนี้ลง คนที่เจ็บก็จะมีแต่พ่อเท่านั้น พ่อสัญญาครับว่าพ่อจะไม่ยอมให้หนูขาดอะไรเลยในชีวิต พ่อจะให้ทุกอย่างกับหนูและความรักของพ่อทั้งหมดจะเป็นของหนู เพราะหนูคือของขวัญที่ล่ำค่าที่สุดที่แม่ของหนูมอบให้กับพ่อ และพ่อจะไม่เอาใครเข้ามาแทนที่แม่ของหนูเป็นอันขาด ต่อไปนี้จะมีแค่เราสองคนพ่อจะเป็นทั้งพ่อและแม่ให้หนูเองนะครับ.....”

    “ป๋อ....ย้อง.....”

    น้องลมเอามือจับแก้มสากที่มีคาบน้ำตาไหลรินลงมา และกอดคอพ่อเอาไว้แน่นเหมือนต้องการจะปลอมให้เขาหยุดร้อง วายุยิ้มออกมาบางๆ เขาจะยอมเป็นคนที่เดินจากไปเพราะเขานั้นมันก็เป็นได้แค่ส่วนเกิน และเขาไม่อยากทำผิดไปมากกว่านี้จึงเลือกที่จะจากไปดีกว่าดึงรั้งในสิ่งที่ไม่มีวันเป็นไปได้ เขาจะไม่โทษคนอื่นอีกต่อไปเพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะเขาเองไม่ใช่ใคร และคนที่สมควรจะเจ็บปวดมันก็คือเขามันสมกันแล้วจริงๆ.....
    .......................................................................................................................................
                มาแว้วจร้าาาาาา วันนี้มาด้วยตอนที่เรียกได้ว่าหลายๆคนอาจจะมองนายวายุวายร้ายของเราต่างออกไป และสงสัยว่าหากวายุถอยออกไปแล้วเรื่องจะเป็นอย่างไรต่อไป อันนี้ต้องค่อนติดตามกันเองน้าจร้า รักทุกคนน้าคร้า จุ๊ฟๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×