ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลืมรักร้าย

    ลำดับตอนที่ #43 : นางร้าย 100%

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.34K
      5
      5 มิ.ย. 57

    ”พี่เรียวหายไปไหนมาคะทั้งคืน ไหนบอกว่าจะออกไปธุระไม่นาน”

    นัทชาถามคู่หมั่นหนุ่มทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในบ้านของเธอ เพราะพอเธอรู้สึกอาการดีขึ้นจากเมื่อวานเธอก็ถามหาเขาไปทั่วบ้านแต่ก็ไม่เจอพอโทรเข้าไปหาเขาก็ไม่รับสาย นัทชาเป็นห่วงเขามากเพราะตั้งแต่รู้จักกันมาเรียวไม่เคยหายไปโดยที่เธอไม่สามารถติดต่อได้แบบนี้เลย พอเขากลับมาเธอจึงไม่รอช้าที่จะเข้าไปถามเจ้าตัวว่าเขานั้นหายไปไหนมาข้ามคืนข้ามวันแบบนี้

    “แบตพี่หมดหน่ะครับ แล้วนี่นทเป็นยังไงบ้าง ปวดหัวอยู่ไหม ขอโทษนะพอดีพี่ไม่ได้เจอเพื่อนคนนี้มานานเป็นปีพอเจอหน้ากันก็เลยติดลมแล้วก็ลืมโทรบอกนัทก่อน แต่เอ๋เราเป็นอะไรมากรึเปล่าปกติพี่หายไปไหนมาไหนเป็นวันๆไม่เห็นจะตามหาเลย ไอเราก็น้อยใจคิดว่าแฟนไม่รัก”

    “ก็ทุกครั้งนัทรู้ว่าพี่ไปไหนและนัทก็โทรตามพี่ได้หนิ แต่นี่อะไรหายไปไหนมาเป็นคืนเป็นวันแล้วก็กลับมาซะเย็น เพื่อนที่ไม่ได้เจอกันเนี่ยสงสัยจะรักกันมากนะคะถึงขนาดอยู่กันทั้งวันทั้งคืนยังไม่หายคิดถึงแบบนี้”

    นัทชาพูดด้วยความน้อยใจ ที่เรียวไม่น่ารักเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ถ้าหากเขามีใครคนอื่นจริงเธอก็จะยอมรับมันและปล่อยเขาไปเพียงแต่ต้องการให้เขานั้นบอกกับเธอตรงๆเท่านั้น เพราะเธอจะเคารพทุกการตัดสินใจของเขาไม่ว่าอะไรก็ตามเขาก็ยังเป็นพี่ชายที่แสนดีของเธอเสมอ และคนอย่างเขาก็ควรที่จะได้มีโอกาสพบเจอคนที่ดีกว่าเธอ และยิ่งคิดเธอก็ยิงสงสัยว่าความทรงจำที่หายไปของเธอนั้นมันเลวร้ายมากมายขนาดไหนกัน ทำไมหัวใจของเธอถึงเลือกที่จะลืมมัน และเมื่อวันก่อนตอนที่เธอเจอผู้หญิงแปลกๆคนหนึ่งในร้านอาหาร เธอคนนั้นเข้ามาทักเธอราวกับว่ารู้จักกันมาก่อนแต่ดูแล้วเธอคนไม่ได้เป็นมิตรกับผู้หญิงคนนี้มากนักเพราะดูท่าทางที่คุกคามของเธอแล้วหากเธอเคยรู้จักกับผู้หญิงคนนั้นจริงๆก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก และเมื่อมองหน้าผู้หญิงคนนั้นนานๆเข้าเธอก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจอย่างบอกไปม่ถูก จากนั้นสติเธอก็หลุดลอยไปไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ต้องให้เรียวพากลับมาสงบสติอารมณ์ที่บ้านจนเผลอหลับไป ความรู้สึกเจ็บอย่างบอกไม่ถูกและความรู้สึกโกรธแค้นนั้นมันหมายความว่าอย่างไร แต่ที่แน่ๆก็คือผู้หญิงคนนั้นพูดกับเธอเป็นภาษาไทย เธอรู้ได้อย่างไรว่าเธอสามารถฟังและพูดภาษาไทยได้.....

    ยิ่งพยายามคิดอาการปวดหัวของเธอก็กำเริบขึ้นมาอีก จนต้องทรุดนั่งลงกับโซฟา ทำให้เรียวถึงกับตกใจด้วยความเป็นห่วง

    “นัท...”

    “นัทไม่เป็นอะไรคะ..... พี่เรียวอะไรสัญญากับนัทสักข้อได้ไหมคะ...”

    “หลายข้อก็ได้ พี่ให้เราได้ทุกอย่าง”

    “ถ้าเกิดมีใครสักคนเข้ามาถ้าพี่รู้สึกดีๆให้กับคนๆนั้น พี่ต้องบอกนัทตรงๆนะคะ นัทจะไม่ว่าจะไม่ดึงรั้งอะไรพี่เอาไว้ แค่บอกนัทตรงเท่านั้นที่นัทต้องการ เพราะถึงเราจะไม่ได้เป็นคู่หมั่นกันหรือแต่งงานกัน เราก็ยังเป็นพี่น้องกันได้ นัทรู้คะว่านัทไม่มีค่าอะไรมากมายที่จะมาเรียกร้องพี่เรียวแบบนี้ แต่อย่าให้คำโกหกหลอกลวงมาทำลายความสัมพันที่เรามีให้กันเลยนะคะ เพราะถ้าหากนัทต้องรู้ด้วยตัวเองว่าพี่ปิดบังอะไรนัทเอาไว้มันคงเป็นเรื่องที่นัทคงจะยากที่จะทำใจรับไหวเพราะเท่ากับว่าที่ผ่านมาระหว่างเราไม่เคยมีความซื่อสัตย์ต่อกันเลย.... นัทขอเพียงแค่นี้พี่เรียวให้นัทได้ไหมคะ”

    เรียวดึงตัวนัทชาเข้ามากอดเพราะอยากจะให้คนในอ้อมแขนรับรู้ถึงความรู้สึกของเขาในตอนนี้ว่ามันรู้สึกอย่างไร

    “ครับพี่สัญญา แต่มันคงจะไม่มีวันนั้น.... วันที่พี่ทรยศต่อนัทและความรักที่พี่มีใครนัทแน่ๆ เพราะถ้าหากไม่มีนัทพี่ก็จะไม่รักใครอีก และอย่าพูดอีกนะครับว่าตัวเองไม่มีค่า เพราะนัทมีค่ามากสำหรับพี่และทุกคนในครอบครัวของเราทั้งสองคน อย่าคิดมากนะครับคนดี พี่ไปเจอเพื่อนเก่ามาจริงๆ เขาเป็นผู้ชายและเป็นคนดีมากด้วยเอาไว้ถ้ามีโอกาสพี่จะแนพนำให้นัทรู้จักดีไหมครับ พี่ไม่มีวันนอกใจนัทหรอกครับ..... เชื่อใจพี่นะเรื่องแบบนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้นแน่นอนพี่รับประกัน”

    เรียวผละตัวออกมาจากนัทชาก่อนที่จะกดจูบลงไปที่หลังมืออ่อนนุ่มของหญิงสาวอย่างรักใคร่

    “แล้วถ้าเกิดกลับกันนัทกลายเป็นคนที่มีความลับต่อพี่ และเป็นคนทรยศพี่ล่ะคะ พี่จะให้อภัยนัทและยังคงรู้สึกกับนัทเหมือนเดิมรึเปล่า หรือพี่จะเกลียดนัทไปเลย”

    “มันก็แล้วแต่ว่านัทจะใจร้ายทำแบบนั้นกับพี่ได้ลงคอจริงๆรึเปล่า แต่ถ้าหากนัททำขึ้นมาจริงๆ พี่คงจะไม่มีแรงเหลืออยู่อีกต่อไป แม้กระทั้งแรงที่จะโกรธหรือเกลียดยังไม่มี เพราะพี่ไม่สามารถที่จะตัดนัทออกไปจากใจพี่ได้.....”

    “ขอบคุณนะคะที่อยู่เป็นเพื่อนนัทเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากมาตลอด ขอบคุณที่รักนัท”

    “มีแค่คำขอบคุณหรอ ไม่มีคำว่ารักหรือครับ”

    ไม่มีครั้งไหนที่นัทชาจะบอกเขาว่ารัก จนบ้างทีเขาก็น้องใจเธอที่ไม่เคยเอ่ยคำนั้นออกมาให้ได้ยิน จึงมีหลายครั้งที่เขาถามเธอแบบนี้เพื่อว่าเธอจะเผลอหลุดปากออกมาบ้าง แต่ก็ไม่เลย เพราะเธอนั้นปากแข็งมากกว่าผู้ก่อการร้ายซะอีก นี่ถ้าเธอพลีชีพได้เวลาที่เธอถูกเขาถามว่ารักเขาไหมสงสัยตอนนี้เธอคงจะตายแล้วฟื้นเป็นร้อยรอบแล้ว เรียวถอนหายใจอย่างปลงๆแต่เพียงไม่นานคนที่เห็นท่าทีหงอยๆของอีกฝ่ายก็ส่ายหน้าอย่างเอื้อมๆกับความขี้งอนของเขา

    “พี่เรียวหน้าจะรู้นะคะว่านัทรู้สึกยังไง.... หึหึ อย่าทำหน้าบูดแบบนั้นสิเดี่ยวแก่นะ โอ๋ๆ”

    “พี่ไม่พูดกับเราแล้วโป้ง!

    “อ่าวเป็นสะอย่างนั้นไป แต่อยากงอนก็งอนไปเลยนะเพราะนัทคงจะไม่ง้อ ตัวโตซะเปล่าแต่กลับขี้ใจน้อย ระหวังเถอะหัวจะล้านเอานะคะพี่ชาย หึหึ”

    ..........................................................................................................................................................................
          
    วันนี้เรียวพานัทชาออกมาร้านตัดชุดแต่งงานเพราะว่าไม่กี่เดือนเขาและเธอก็จะแต่งงานกันแล้วจึงต้องรีบช่วยกันเตรียมงาน ระหว่างที่ลองชุดแต่งงานอยู่นั้นนัทชากลับรู้สึกสงสัยว่าว่าที่เจ้าสาวทุกคนจะมีความรู้สึกแบบเธอบ้างรึเปล่า ความรู้สึกของเธอตอนนี้คือเธอไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายหรือตื่นเต้นอะไรเลย ทั้งที่มันควรจะมีความรู้สึกแบบนั้น แต่ทำไมเธอถึงได้ไม่รู้สึกอะไรเลย เธอนั่งมองเรียวหยิบเอาหนังสือแบบชุดแต่งงานเล่มนั้นเล่มนี้มาให้เธอดูอย่างกระตือรือร้น เมื่อเห็นท่าทีของคู่หมั่นหนุ่มเธอก็ทำได้แค่เพียงพยักหน้าและยิ้มรับกับความคิดเห็นของเขาเท่านั้น

    “นัทเบื่อมากไหมครับที่พี่พานัทออกมาร้านตัดเสื้อวันนี้....”

    เรียวเอ่ยขึ้นมาลอยๆขณะที่เดินเคียงคู่กับเธออกมาจากร้านตัดเสื้อชื่อดัง หญิงสาวที่กำลังใจลอยอยู่หันหน้ากลับมาหาเขาด้วยความสงสัย

    “ทำไมพี่เรียวถึงถามแบบนั้นล่ะ”

    เรียวยิ้มน้อยๆก่อนที่จะคว้ามือบางของเธอมาจับและเดินเคียงคู่กันต่อ

    “พี่แค่รู้สึกเหมือนกับว่าบังคับนัทให้แต่งงานกับพี่ยังไงไม่รู้ วันนั้นที่พี่ขอนัทแต่งงานนัทคงจะลำบากใจมากสินะ”

    “พี่เรียว.....”

    นัทชาเอ่ยเสียเบาก่อนจะหยุดเดินทำเอาเรียวต้องหยุดเดินเช่นกันก่อนที่เขาจะรั่งร่างบางเข้ามากอดและซบหน้าลงกับไหล่ของเธอ

    “ขอโทษนะนัท.... ที่พี่ทำให้นัทต้องลำบากใจ ขอโทษที่พี่อยู่ไม่ได้โดยไม่มีนัท พี่ขอโทษ”

    นัทชากอดตอบเรียวเช่นกัน เธอเองก็รู้สึกผิดกับเขาอย่างบอกไม่ถูก เธอรักเขาเหมือนพี่ชายคนหนึ่งและเธอรู้ดีว่ามันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่นได้ แต่เธอก็ไม่สามารถจะทำร้ายเขาด้วยการบอกปฏิเสธได้ เพราะเขานั้นอยู่เคียงข้างเธอมาตลอดในช่วงเวลาที่เธอรู้สึกแย่ๆก็มีเพียงเขาเท่านั้นที่อยู่เคียงข้าง และเธอก็รู้ว่าเขานั้นรักเธอมากมายแค่ไหน เธอจะทำร้ายผู้ชายคนหนึ่งที่รักเธอมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร เธอทำไม่ได้จริงๆ

    “อย่าคิดมากนะคะ นัทไม่ได้รู้สึกฝืนใจหรือลำบากใจอะไรเลย กลับรู้สึกเหมือนเอาเปรียบพี่มากกว่า เอาเปรียบที่ทำให้พี่ไม่มีโอกาสได้ไปเจอผู้หญิงๆดี แต่ต้องมาจมปลักอยู่กับผู้หญิงที่ไม่ขาวสะอาดแล้วอย่างนัท ทั้งๆที่พี่ควรจะมีโอกาสได้อยู่เคียงคู่กับคนที่ดีกว่านี้แท้ๆ”

    “นัทเป็นผู้หญิงที่มีค่าที่สุดในชีวิตของพี่ และจะไม่มีผู้หญิงคนไหนมาแทนที่นัทได้ ถึงวันหนึ่งนัทจะทิ้งพี่ไปแต่พี่ก็จะไม่มีใครอีก หัวใจของพี่มันเป็นของนัทเพียงคนเดียวเท่านั้น”

    ทั้งสองยืนกอดกันอย่างนั้นเงียบๆ ไม่มีเสียงพูดคุยอะไรกันอีก จนกระทั่งเรียวผละตัวออกห่างจากหญิงสาวก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาส่งยิ้มอบอุ่นให้กับเธอก่อนจะยกมือบางที่กุมอยู่ขึ้นมาจูบ

    “วันนี้พี่จะพาเราไปทานข้าวกับเพื่อนสนิทพี่ที่เคยบอกเราเอาไว้ เราจะได้เชื่อสักทีว่าเขาหน่ะไม่ใช่ผู้หญิงที่ไหน แต่เป็นผู้ชายรูปหล่อคนหนึ่งต่างหาก เตือนเอาไว้ก่อนเลยนะว่าอย่าตกหลุมรักเขาคนนี้เป็นอันขาด แต่ความจริงแล้วเราเคยเจอเขามาก่อนแล้วล่ะ แต่พี่ไม่แน่ใจว่าเราจะจำเขาได้ไหม”

    เรียวพูดอย่างไม่มั่นใจว่าเธอจะจำวายุได้หรือไม่ เขาเองไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับวายุกับเธอเลยตลอดเวลาที่ไปอยู่อิตาลีด้วยกัน แต่ครั้งนี้เขาคิดว่าคงไม่มีเสียหายอะไรหากเขาจะให้เธอได้พบกับวายุ เพราะวายุเปรียบเสมือนพี่ชายแท้ๆของเขา ยังไงๆซะตอนเขาและเธอแต่งงานกันเธอก็ต้องเจอวายุอยู่ดี เพราะเขากะจะเอาวายุมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว

    “นัทเคยเจอเขาแล้ว....”

    “ครับ ที่เมืองไทยตอนที่เราไปเที่ยวที่นั้นด้วยกัน”

    พอพูดถึงเรื่องเมืองไทยเธอก็เกิดอาการสั่นขึ้นมาน้อยๆหัวใจเบาหวิวอย่างบอกไม่ถูก เธอคิดว่าอาจจะเป็นเพราะเธอมีความทรงจำที่เลวร้ายที่นั้นจึงทำให้เธอมีอาการเช่นนี้ เธอไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานมากแล้ว ในตอนแรกๆที่อ้อมมาอยู่ที่นี่และพูดคุยกับเธอเป็นภาษาไทยบ้างครั้งก็มีบ้านเวลาที่เธอใจลอยหรือเหม่อๆแล้วเธอจะรู้สึกเช่นนี้ แต่หลังๆมานี้อ้อมและผิงสามารถเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นได้รวกเร็วจนสามารถสื่อสารเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือนก็ทำให้เธอไม่ได้ยินบทสนทนาพูดคุยเป็นภาษาไทยอีก แม้กระทั้งเวลาที่สองแม่ลูกมาอยู่ใกล้ๆเธอทั้งสองก็ยังพูดคุยกันเป็นภาษาญี่ปุ่น หลายครั้งที่เธอสงสัยว่าทำไมแต่แล้วก็ได้คำตอบกลับมาจากคนสนิทว่าพวกเธอทั้งสองคนต้องการฝึกภาษาเพราะต้องใช้ในชีวิตประจำวันทุกวัน จึงอยากจะพูดคุยกันเป็นภาษาญี่ปุ่นมากกว่า และตั้งแต่นั้นเธอก็ไม่ได้คาดคั้นหรือถามถึงสาเหตุอีกเลย จนกระทั่งวันนี้ที่เรียวเอ่ยถึงคนที่เขาบอกว่าสนิทนักสนิทหนาที่เมืองไทยขึ้นมา เธอถึงได้มีความรู้สึกแบบนี้กลับมาอีกครั้ง และยิ่งเมื่อวันก่อนที่มีผู้หญิงท่าทีแปลกๆมาพูดคุยกับเธอเป็นภาษาไทยด้วยท่าทีคุกคามอีกมันก็ทำให้เธอในตอนนี้แทบจะคุมสติไม่อยู่

    “นัท...ไม่เป็นอะไรนะ”

    “เปล่าคะนัทแค่รู้สึกแปลกๆ เวลานึกถึงเรื่องที่เมืองไทยทีไรนัทรู้สึกเหมือนกับใจสั่นๆทุกที นัทกลัวคะ.....”

    “นัท...ไม่ต้องกลัวนะนัท ถ้าอย่างนั้นวันนี้เราอย่าพึ่งไปเจอพี่วายุเลยดีกว่า เอาไว้วันหลังให้นัทโอเคกว่านี้ก่อน....”

    “วายุ.....”

    เมื่อได้ยินชื่อที่คู่หมั่นหนุ่งเอ่ยขึ้นนัทชาก็ยิ่งรู้สึกแย่ลงปอีก ทำไมแค่ชื่อๆเดียวถึงทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดได้มากมายขนาดนี้.... แต่ถ้าหากเธอเอาแต่วิ่งหนีอยู่แบบนี้และไม่พยายามที่จะคุมสติตัวเองให้อยู่ เธอก็จะไม่มีวันกู้ความทรงจำที่หายไปคืนมาได้ ถึงแม้ปีหนึ่งที่ผ่านมานี้ใครต่อใครจะพยายามบอกให้เธอเลิกล้มความตั้งใจที่จะรักษาตัวเองให้สามารถจำเรื่องราวที่ขาดหายไปมากแค่ไหน แต่ด้วยความที่เธอเป็นหมอและเธอก็ยังอยากที่จะกลับไปทำงานที่เธอรักอีกครั้งในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดไม่ใช่ในสภาพแบบที่เธอเป็นอยู่ทุกวันนี้ ที่เอาแต่เจ็บป่วยอยู่บ่อยๆเพราะอาการปวดหัว และอาการสั่นและหวาดกลัว เธอเป็นศัลยแพทย์เธอไม่ควรมาเป็นแบบนี้ และเธอจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ความทรงจำที่ขาดหายไปคืนมา ถึงแม้มันจะเจ็บปวดและทรมานมากแค่ไหนก็ตาม

    “ไม่คะเราจะไปพบเพื่อนของพี่เรียววันนี้ นัทอยากรู้ว่านัทจะจำเขาได้เหมือนอย่างที่จำพี่อ้อมได้ไหม และถ้าหากนัทจำเขาไม่ได้นัทก็จะหาสาเหตุให้ได้ว่าทำไมนัทถึงจำและลืมแค่คนบ้างคนเท่านั้น.... นัทอยากพบเขาคะพี่เรียวพานัทไปนะคะ”

    เรียวเองทำหน้าหนักใจไม่น้อยเมื่อวันก่อนที่คู่หมั่นสาวสติหลุดไปเขายังใจหายไม่หาย เขาไม่เคยเห็นเธอเป็นแบบนั้นมาก่อน และก็ไม่อยากเห็นเธอเป็นแบบนั้นอีก เพราะถ้าเธอเจ็บเขาเองก็เจ็บเช่นกัน แต่เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะจำวายุได้หรือไม่ และถ้าหากเธอจำไม่ได้เป็นเพราะอะไรกัน ทั้งๆที่เธอสามารถจำอ้อมและผิงได้

    “อืม... แต่ถ้ารู้สึกไม่ดีรีบบอกพี่เลยทันทีนะครับแล้วเราจะกลับบ้านกันทันที”

    “คะ... และก็มีอีกเรื่องหนึ่งที่นัทอยากจะขอร้องพี่ อย่าบอกเรื่องนี้กับพ่อและแม่รวมทั้งพี่ซาโตชิกับคนอื่นๆให้รู้นะคะ”

    “ทำไมล่ะนัท...”

    “นัทอยากหายจากอาการพวกนี้คะพี่เรียว นัททรมานมากเหลือเกินที่ต้องอยู่ด้วยอาการที่เหมือนกับคนป่วยแบบนี้นัทรับไม่ได้ นัทเป็นหมอแต่นัทรักษาตัวเองไม่ได้ทำไม.... มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆนัทรู้ ทุกครั้งเวลาที่นัทพยายามที่จะตั้งสมาธิเพื่อนึกถึงเรื่องราวต่างๆให้ออกนัทก็จะรู้สึกปวดหัวมากจนแทบจะระเบิด นัทรู้ดีคะว่านัทไม่ควรจะหักโหม แต่ทำไมนัทถึงยังจำอะไรไม่ได้สักที....”

    เรียวนึกคิดไปถึงทุกครั้งที่คู่หมั่นสาวมีอาการปวดหัวเธอและเขาก็เอ๊ะใจอะไรขึ้นมาบ้างอย่าง ใช่ทุกครั้งที่เธอมีอาการแบบนี้อ้อมคนสนิทของเธอจะรีบเอาชาสมุนไพรมาให้ดื่มเหมือนกับว่ามันเป็นยาอะไรบ้างอย่างและเมื่อเธอดื่มมันเข้าไปอาการปวดหัวก็จะทุเลาลงอย่างประหลาด ทำไมเขาถึงไม่เคยสงสัยอะไรในเรื่องนี้มาก่อน

    “นัทอยากกลับไปทำงานอีกครั้งคะพี่เรียว นัทอยากกลับไป....ฮือๆ”

    “เราจะช่วยกันนะนัทเราจะช่วยกัน นัทจะต้องหายพี่สัญญา”

    เรียวกอดนัทชาอีกครั้งอย่างต้องการจะให้กำลังใจ เขาจะไม่ยอมให้เธอต้องรู้สึกเจ็บปวดตามลำพังแน่ๆ 
    ..........................................................................................................................................................................
    มาอัพให้ครบร้อยเปอร์เซ็นแว้วจร้า คิดถึงที่รักทุกคนจังเลยยยยยย รักพวกตัวเองน้า จุ๊บๆ ฝันดีคร้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×