ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลืมรักร้าย

    ลำดับตอนที่ #26 : ของขวัญที่เจ็บปวด

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.72K
      8
      4 พ.ค. 57

    หลังจากที่พาร่างบางที่ไร้สติขึ้นไปนอนบนเตียงกว้างแล้ววายุก็รีบโทรหาเลขาคนสนิทให้พาหมอมาที่เกาะส่วนตัวของเขาทันที พอสั่งการเสร็จวายุก็พาตัวเองขึ้นมานอนกอดแม่เนื้อนิ่มที่ยังสลบไม่ได้สติอยู่บนเตียงด้วยความกังวลและความกลัวสุดหัวใจว่าคนในอ้อมแขนจะเป็นอะไรไป

    “นายครับ....”

    “มาแล้วหรอ... มีใครตามนายมาที่นี่รึเปล่าวี”

    วีรยุทธมองหน้าผู้เป็นนายที่เต็มไปด้วยความกังวลก่อนจะรายงานสิ่งที่ตัวเองได้จัดการให้นายได้รู้

    “ไม่มีใครรู้ครับ คนของนายหญิงที่ตามค่อยดูนายและผมอยู่ก็ยังคงตามตัวปลอมของนายและผมตามปกติ พอนายโทรมาผมก็รีบไปรับหมอมาที่นี่ทันที”

    “ดีมาวี พาหมอเข้ามาได้.....”

    หมอวัยกลางคนเดินเข้ามาพร้อมกระเป๋าตรวจใบใหญ่ แต่พอกำลังจะลงมือตรวจวายุก็เอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดอีกครั้ง

    “หมอต้องสัญญาว่าจะเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับ....หมอ! พูดสิว่าเรื่องนี้จะเป็นความลับ... เพราะถ้าเกิดว่ามีใครรู้เรื่องนี้ไม่ใช่แค่หมอจะต้องตกงานแต่หมอจะได้หายไปจากโลกนี้ด้วยเข้าใจไหม.....”

    วายุส่งสายตาดุจเพชรฆาตไปที่หมอวัยกลางคนเหมือนต้องการจะสื่อสารว่าเขานั้นพูดจริงทำจริง หมอผู้โชคร้ายก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตารับปากไปเพราะกลัวค่ำขู่นั้น

    หมอได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาตรวจไปทั้งๆที่วายุก็ยังคงนั่งกอดเธออยู่อย่างนั้นไม่ยอมปล่อย เมื่อหมอตรวจเสร็จวายุก็เริ่มถามถึงอาการของแม่เนื้อนิ่มของเขา

    “ว่ายังไงหมอ... เมียฉันเป็นอะไร....”

    “เธอไม่ได้เป็นอะไรมากครับ....”

    “แล้วทำไมยังไม่ฟื้น... ไม่เป็นอะไรได้ยังไง หมออย่ามามั่ว”

    วายุใช้มือกระชากคอหมอเข้ามาใกล้ๆก่อนจะตะโคกเสียงใส่ดังลั่นไปหมด

    “ใจเย็นๆครับนาย...”

    วีรยุทธเห็นว่าเจ้านายกำลังจะสติแตกก็รีบเข้ามาขวางเพราะไม่อยากให้นายของตนใช้อารมณ์ไปมากกว่าเหตุผลในตอนนี้

    “ใจเย็น...ฮึใจเย็นๆอย่างนั้นหรอ ไอหมอนี่มันบอกว่าเมียฉันไม่เป็นอะไรทั้งๆที่เธอยังสลบอยู่แบบนี้ไม่ฟื้นสักทีแกยังจะมาบอกว่าให้ฉันใจเย็นอย่างนั้นหรอ”

    “ฟังคุณหมอก่อนเถอะครับนาย...นะครับเชื่อผม”

    วายุสูดหายใจเข้าปอดลึกๆก่อนที่จะตั้งสติคุยกับหมออีกครั้ง

    “พูดมาได้แล้วหมอ เมียฉันเป็นอะไร”

    “เธอไม่ได้เป็นอะไรมากครับแค่ร่างกายอ่อนแอแลพักผ่อนน้อยก็เท่านั้น ช่วงนี้ต้องดูแลและบำรุงเธอเป็นพิเศษหน่อยนะครับ เพราะอาจจะมีอาการแพ้ตามมาด้วย”

    “แพ้...แพ้อะไร”

    “เอ่อ...หมอขอแสดงความยินดีด้วยนะครับภรรยาคุณตั้งครรภ์ได้ประมาณสองสัปดาห์แล้วครับ หมอแนะนำให้พาเธอไปฝากครรภ์กับคุณหมอเฉพาะทางนะครับจะได้รู้วิธีการดูแลที่ถูกวิธี”

    วายุอึ่งไปกับสิ่งที่เขานั้นได้ยิน... นี่เขากำลังจะเป็นพ่อคนหรือนี้ เขากำลังจะมีครอบครัวที่อบอุ่นเป็นคนของตัวเองกับผู้หญิงที่เขารัก โอ้..... พระเจ้าในที่สุดสิ่งที่เขาถวิลหามาตลอดก็เป็นความจริง เขากำลังจะไม่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวตามลำพังอีกต่อไป.... วายุกอดร่างบางไว้แนบอกแกร่งน้ำตาใสๆไหลออกมาจากตาคมด้วยความปลาบปลื้มใจและหัวใจที่พองโตโดยไม่รู้ตัว

    “ที่รักขอบคุณครับขอบคุณที่ให้ของขวัญที่วิเศษสุดแก่พี่ พี่สัญญานะว่าจะรักษาของขวัญอันล้ำค่านี้เอาไว้อย่างดี รวมทั้งนัทด้วยนะคนดีฟื้นขึ้นมาฟังข่าวดีของเราเร็วๆนะครับพี่แทบจะรอไม่ไหวที่จะบอกข่าวนี้กับนัท”

    “หมอ....จะต้องเป็นคนดูแลเมียผม....”

    “อะ...อะไรนะครับ”

    หมอวัยกลางคนทำหน้าเหวอเหมือนคนเจอผีแค่เขาโชคร้ายมากพอแล้วเมื่อถูกมาเฟียหนุ่มลากตัวมารักษาเมีย นี่ยังต้องมารับหน้าที่เป็นหมอเจ้าของไข้ของเมียของเขาไปอีกเก้าเดือนอีกมีหวังเขาได้ตายจริงๆแน่คราวนี้

    “เอ่อผมเป็นแค่หมอรักษาโรคทั่วไปไม่ได้เป็นหมอสูติผมเกรงว่าจะดูแลเธอได้ไม่ดีพอ เอาเป็นว่าหมอแนะนำให้คุณ....”

    “ไม่....ฉันจะไม่ไปจ้างใครมาเพิ่มอีกทั้งนั้น หมอเป็นหมอแค่ดูแลคนไข้ที่กำลังตั้งครรภ์แค่นี้ก็คงไม่ยากเกินความสามารถมั่ง ยังไงก็แล้วแต่หมอไม่มีทางเลือกอะไรทั้งนั้น ฉันบอกให้หมอทำอะไรหมอต้องทำ เข้าใจไหมหมอ.... ตอนนี้หมออกไปได้แล้ว และคนของผมจะเอาข้าวของของหมอมาที่นี่ และจะพาหมอไปดูบ้านเรือนเล็กที่หมอจะไปพักในช่วงที่หมอจะมาอยู่ที่นี่...

    วีนายไปเตรียมทำสัญญาว่าจ้างมาให้หมอเซ็นด้วยจากนั้นไปเก็บข้าวของที่จำเป็นของหมอมาที่นี่ ถ้าให้ดีไม่ต้องกลับไปเอาอะไรหมอต้องการใช้อะไรซื้อใหม่ให้หมอทั้งหมด ขาดเหลืออะไรก็แจ้งวีเขาล่ะกันนะหมอ ขอบใจมากออกไปได้แล้ว....”

    “ไม่.... ผมไม่คิดว่า....”

    “ผมว่าหมอทำตามที่นายสั่งดีกว่าครับเชื่อผมสิ”

    หมอวัยกลางคนทำหน้าเครียดก่อนที่จะเดินตามวีรยุทธออกไปอย่างไม่มีทางเลือก เขาไม่หน้าโชคร้ายถูกเรียกตัวมาที่นี่เลย หมอได้แต่คิดอย่างปลงๆในใจ

    ...................................................................................................................

    เวลาผ่านไปเกือบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงนัทชาก็ฟื้นขึ้นมาเธอรู้สึกได้ถึงอ้อมกอดอันอบอุ่นที่กอดรัดเธออยู่จากทางด้านหลังแต่ความรู้สึกนั้นก็อยู่ได้ไม่นานเมื่อความโกรธเกลียดประดังเข้ามาในความทรงจำที่โหดร้าย นัทชาพยายามที่จะผละตัวออกห่างจากวายุที่กำลังหลับสนิทอยู่ข้างๆตัวเธอแต่ดูเหมือนว่าการเคลื่อนไหวของเธอจะปลุกใครบางคนที่กำลังหลับอยู่ให้ตื่นขึ้น

    เมื่อรู้ว่าคนที่ตัวเองนอนกอดมานานเกือบทั้งวันรู้สึกตัวแล้วร่างหนาก็กอดรัดร่างบางให้แน่ขึ้น ก่อนจะกดจูบลงไปที่ต้นคอขาวเนียนของเธออย่างโหยหาอีกครั้ง

    “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะฉันอึดอัด...”

    นัทชาพูดออกมาเสียงเรียบเมื่อรู้ว่าถึงเธอจะพยายามดิ้นมากแค่ไหนก็ไม่สามารถที่จะหลุดออกไปจากวงแขนอันแข็งแกร่งนี้ได้

    วายุที่ไม่อยากทำให้แม่เนื้อนิ่งขัดอกขัดใจมากไปกว่านี้ก็ค่อยๆคลายวงแขนออกเหลือเพียงกอดไว้หลวมๆเท่านั้น

    “ที่รัก....นัทพี่ดีใจเหลือเกิน....ขอบคุณนะครับคนดี”

    วายุเอ่ยคำขอบคุณออกมาอีกครั้งเพราะเขาต้องการให้เธอรู้ว่าเขานั้นรู้สึกรักและขอบคุณเธอมากแค่ไหนจริงๆ

    “ขอบคุณขอบคุณอะไร... ขอบคุณที่ฉันหนีคุณไปไหนไม่ได้เลยต้องอยู่ให้คุณทรมานย่ำยีแบบนี้อย่างนั้นหรอ”

    “เปล่าที่รัก... ไม่เลย...ขอบคุณสำหรับครอบครัวที่สมบูรณ์ของเราที่กำลังจะเกิดขึ้นต่างหาก ขอบคุณที่ทำให้ฝันของพี่เป็นจริง....”

    วายุเลื่อนมือหนาลงไปลูบที่หน้าท้องแบนราบเหมือนต้องการจะสื่อให้ลูกในท้องรู้ว่าเขานั้นรู้สึกรักและหวงแหนหนูน้อยมาเพียงใด แต่ความรู้สึกของวายุนั้นช่างตรงกันข้ามกับนัทชาโดยสิ้นเชิงเมื่อหญิงสาวเหมือนจะเข้าใจในทันทีว่าเขานั้นต้องการจะสื่อให้เธอรู้ว่ากำลังจะมีอะไรเกิดมา ร่างบางน้ำตาไหลออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บปวดนี่เขาทำร้ายเธอจนมีห่วงโซ่ที่ไม่ได้ตั้งใจเกิดขึ้นมาเลยหรือ นี่เธอจะต้องถูกเขาลามขังเอาไว้ตลอดชีวิตเลยใช่ไหม

    “ไม่.....ไม่จริง....ไม่.... ฮือๆๆๆๆๆ”

    นัทชาปล่อยโฮออกมาอย่างบ้าคลั่งเธอไม่สามารับได้จริงๆกับเรื่องแบบนี้ ทำไมเขาถึงไม่ยอมปล่อยเธอไปทำไมเขาถึงได้จ้องที่จะทำลายชีวิตของเธออยู่ตลอดเวลา.... ใช่เขาทำลายชีวิตเธออย่างเลือดเย็นและเห็นแก่ตัวเธอก็จะทำลายความฝันและความหวังของเขาเช่นกัน มือบางยกขึ้นและทำท่าว่าจะทุบลงไปที่ท้องน้อยของตัวเอง แต่วายุก็คว้ามือนั้นเอาไว้ทันก่อนที่มันจะฝาดลงไปที่ท้องของเธอซึ่งตอนนี้กำลังมีลูกน้อยของเขานอนหลับอยู่

     

    “นัท! นั้นนัทจะทำบ้าอะไร นัทจะทำร้ายลูกของเราอย่างนั้นหรือนัท”

    “มันไม่ใช่ลูกฉัน.... มันก็เป็นแค่ก่อนเลือดเป็นแค่มารหัวของที่คนชั่วๆอย่างแกเอามาใส่ในท้องฉันก็เท่านั้น... ฉันไม่เคยต้องการมันเลย ไม่ต้องการ ได้ยินไหมว่าฉันเกลียดมันเหมือนอย่างที่ฉันเกลียดพ่อของมัน เกลียด! ฮือๆๆๆๆๆๆ”

    เมื่อเห็นว่านัทชาอยู่ในอาการคุ้มคลั่งและจ้องแต่จะทำร้ายเลือดเนื้อเชื้อไขของเขากับเธอรวมถึงคำพูดร้ายๆที่เธอด่าว่าลูกของเขาต่างๆนานา ปมด้อยที่ฝังอยู่ในใจก็ทำให้วายุหน้ามืดตามั่ว ฝาดมือลงไปที่แก้มบางอย่างไม่ตั้งใจ พอมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่นัทชานั้นล้มฟุบหน้าลงไปกับหมอนแล้วร้องไห้ออกมา วายุมองมือขงตัวเองที่ทำร้ายหญิงคนรักอย่างอึ่งๆ นี่เขาทำร้ายเธอลงไปได้อย่างไร เขาทำร้ายเธอ....

    “นัท....พี่...พี่ขอโทษ....พี่แค่โกรธที่นัทว่าลูกของเราและยังคิดที่จะทำร้ายเขาอีกก็เท่านั้น พี่ไม่ได้ตั้งใจทำร้ายนัทเลยนะครับคนดี”

    มือหนาที่กำลังจะเข้าไปจับร่างบางที่ฟุบอยู่ที่หมอนต้องหยุดลงเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ ที่มุมปากสวยมีเลือดไหลลงมาแววตาของเธอที่จ้องมองมาที่เขานั้นมีแต่ความว่างเปล่าและเจ็บปวดตัดพ้องและต่อว่า

    “อย่าเอามือสกปรกๆของแกมาแตะต้องตัวฉัน.....”

    “นัท.....”

    เมื่อเห็นว่าท่าไม่ดีวีรยุทธที่ได้ยินเสียงเอะอ่ะตั้งแต่ต้นก็ถือวิสาสะเข้ามาทันที

    “นายครับ....”

    “วีนายไปตามหมอมาที่นี่...เดียวนี้....”

    “ครับนาย”

    วายุได้แต่ทรุดตัวลงนั่งข้างร่างบางที่ฟุบหน้าลงร้องไห้กับหมอนอยู่แบบนั้น เขาไม่รู้จะทำอย่างไรให้เรื่องมันดีกว่านี้ ทำไมนะเรื่องราวมันถึงได้เป็นแบบนี้ไปได้ เขาได้แต้โทษว่าเป็นความผิดของคนรอบข้างที่ทำให้นัทชาเปลี่ยนไปไม่เป็นคนเดิน ทั้งเรียว ซาโตชิ และพ่อแม่ที่แท้จริงของเธอที่พรากเธอไปจากเขา โดยที่ไม่ได้นึกถึงความผิดและเห็นแก่ตัวของเขาที่เคยทำเอาไว้กับเธอเลย

    เมื่อหมอมาถึงก็ต้องตกใจเพราะผู้หญิงที่เขาพึ่งตรวจเธอไปเมื่อช่วงเย็นกับมีสภาพเลือดกรบปากนอนร้องไห้อยู่บนเตียงอยู่แบบนั้น

    “เอ่อ...ขอหมอดูหน่อยนะครับ”

    นัทชาหมอหน้าหมอที่พึ่งเข้ามาใหม่กับวีรยุทธที่เธอพึ่งจะเห็นหน้าเป็นครั้งแรก เพราะตั้งแต่ถูกจับตัวมาที่นี่เธอก็ไม่พบใครเลยบนเกาะนี้เหมือนกับมีแค่เขากับเธอที่นี่เท่านั้น

    เมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของนัทชาวายุก็เลยพูดขึ้นมาแนะนำคนที่พึ่งเข้ามาใหม่ให้เธอได้รู้จัก เพราะรู้ว่าเธอกำลังสงสัยในเรื่องอะไรอยู่

    “นัท... นี่คุณหมอเกียนติกับวีรยุทเลขาของพี่เอง และคุณหมอคนนี้จะเป็นคนที่จะมาดูแลนัทและลูกตลอดเก้าเดือนนี้จนกว่านัทจะคลอดนะที่รัก”

    “ไม่จำเป็นเพราะฉันไม่คิดว่าจะเก็บเด็กนี่เอาไว้ ถ้าหากหมอจะช่วยแนละก็ ช่วยเอามันออกไปจากตัวฉันที เดี๋ยวนี้”

    คำพูดของหญิงสาวทำให้ทุกคนในห้องตกใจ ไม่คิดว่ามันจะออกมาจากปากของผู้หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาสะสวยแบบนี้ได้ เพราะมันช่างดูเป็นคำพูดที่โหดร้ายเหลือเกิน

    “นัท.....”

    “ได้ในเมื่อหมอไม่ทำฉันจะทำเอง”

    ร่างบางทำท่าว่าจะทำร้ายตัวเองอีกครั้ง แต่ก็ม่ทันการเมื่อทั้งวายุและวีรยุทธเข้ามาจับตัวเธอเอาไว้

    “หมอทำอะไรสักอย่างสิเร็ว!

    หมอวัยกลางคนรีบขว้างเข็มฉีดยาที่มียาบ้างอย่างขึ้นมาก่อนที่จะกดเข็มนั้นลงไปที่ที่เนื้อนิ่มของคนที่กำลังคลุ้มคลั่งทันที ร่างบางเมื่อได้รับยาไปแล้วก็ดูเหมือนว่าจะสงบลง เธอค่อยๆปิดเปลือกตาลงอีกครั้งก่อนจะหลับไปในอ้อมแขนของวายุ

    “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร พวกคุณทำอะไรเธอ.... ไม่ผมไม่เอาด้วยแล้วพาผมกลับไปส่งที่ฝั่งเดี๋ยวนี้ ผมสัญญาว่าจะไม่บอกเรืองนี้ให้ใครรู้ แต่ผมจะไม่รวมมือกับพวกคุณทำร้ายเธออีกเป็นอันขาด”

    “ผมอออกไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น หมอต้องอยู่ที่นี่ ดูแลเธอดูแลเมียและลูกของผม หากเขาทั้งสองคนเป็นอะไรไปหมอได้เข้าไปนอนยาวในหลุมแน่ ทำอะไรก็ได้อย่าให้เธอคลั่งแบบนี้อีกเข้าใจไหมหมอ.....”

    หมอวัยกลางคนนิ่งเงียบไม่ตอบอะไรวายุทั้งสินจนวายุเริ่มโมโห เขาเจอเรืองเครียดมามากพอแล้ว และไม่ต้องการเล่นสงครามเงียบกับใครอีก เข้าเดินไปกดรหัสในตู้เชฟที่ซ้อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าก่อนที่จะหยิบเอามัจจุราชสีดำสนิทออกมา และจ่อไปที่หมอทันที

    “ฉันถามว่าเข้าใจไหม... ตอบสิ! ฉันเสียเธอและลูกไปไม่ได้หมอเข้าใจไหม เขาทั้งสองคนเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของฉัน ได้โปรดดูแลพวกเขาที....”

    ท่าทีที่แข็งกราวกลับดูอ่อนลงในช่วงท้าย วายุแทบจะหมดสิ้นเรียวแรงที่จะยื่นอยู่อีกต่อไปเมื่อเจอกับเรื่องที่เลวร้ายแบบนี้ เขาไม่รู้จริงๆว่าจะทำอย่างไรให้เธอรักและไม่ทำร้ายลูกที่กำลังจะเกิดขึ้นมา เขาไม่รู้จริงๆในตอนนี้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป”

    “ได้ผมจะช่วยคุณ แต่ถ้าคุณลงไม้ลงมือกับเธออีกเมื่อไร ผมจะไม่มีวันช่วยเหลืออะไรคุณอีก แล้วคุณจะฆ่าจะแกงผมยังไงก็เชิญ เพราะการทำร้ายคนมันไม่ใช่จรรยาบรรณของแพทย์ที่ผมรำเรียนมาอยู่แล้ว....”

    “ขอบคุณหมอ...ขอบคุณ.....”
    ..........................................................................................................................................................................
                 ขอโทษน้าที่หายไปสองวัน เขางานยุ่งมากเลยพอกลับมาถึงบ้านก็สลบเมือดไปเลยอ่า ขอโทษน้าคร้า 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×