ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สมุดอมตะ

    ลำดับตอนที่ #1 : คนที่ถูกเลือก

    • อัปเดตล่าสุด 17 ม.ค. 53


        บทนำ
         
         ดาวดวงนี้นี้ชื่อว่า ไดฟ์ ตามตำนานของดาวไดฟ์บอกว่าเป็นชื่อของวีรบุรุษผู้ค้นพบแกนของดาวดวงนี้ (เหมือนแกนโลกน่ะ) แต่ทว่า แกนโลกของดาวไดฟ์กำลังจะหมดอานุภาพลงไปเมื่อ ไดฟ์ วีซอน ค้นพบมันเมื่อประมาณ180ล้านปีมาแล้ว แต่ก็ไม่มีใครสามารถพิสูจน์ได้ว่าทุกอย่างที่ตำนานเล่าเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ แต่มีหลักฐานว่าแกนโลกของดาวไดฟ์นั้นเคยดับไปชั่วขณะหนึ่งเมื่อ180ล้านปีก่อน แต่ได้ลุกโชนขึ้นใหม่ด้วยพลังของใครบางคน..

          ดาวไดฟ์เป็นดาวที่ค่อนข้างจะสวยงาม มีต้นไม้ใบหญ้าเหมือนโลกของเรา แต่พวกเขาไม่รู้ถึงประโยชน์ของมัน พวกเขารู้จักแต่
     "โซลาเมียม" ซึ่งชาวดาร์ฟซึ่งเป็นประชากรของดาวไดฟ์เรียกมันว่า "แหล่งพลังงาน" ของพวกเขา พวกเขารู้จักเพาะปลูกแหล่งพลังงานนั้นตั้งแต่ตอนที่รู้ว่ามันคือพืชชนิดหนึ่งของดาวที่เป็นสิ่งที่ให้พลังงานเพียงอย่างเดียวของดาว ซึ่งเป็นได้ทั้งเชื้อเพลิง อาหาร เครื่องอุปโภคต่างๆ นับว่าชาวดาร์ฟมีชีวิตอยู่ได้เพราะพืชที่ชื่อโซลาเมียมนี่ก็คงมิผิดนัก
     
         โซลาเมียม เป็นพืชที่มีลักษณะเป็นสีขาว (คล้ายรา) มีรสหวาน แพร่พันธุ์ได้รวดเร็วมาก น้ำหนักเบาราวกับเมฆ   คนจำนวนมากจึงนำมันมาดัดแปลงเป็นแผ่น เป็นก้อนและเป็นรูปร่างต่างๆได้มากมาย และขณะนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าชื่อซามูเอของตัวเอกเรื่องนี้แปลเป็นภาษาดาร์ฟได้ว่า "โซลาเมียม"หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ"ผู้ให้ชีวิต"...

         และต่อมาชาวดาร์ฟได้รู้ถึงพรสวรรค์ของตนเองที่ไม่มีผู้ใดมี คือควบคุมสิ่งต่างๆได้ดั่งใจแล้วแต่คนว่าใครจะควบคุมสิ่งใดได้  และต่อมาอีกประมาณ100ปี พวกเขาก็เริ่มแบ่งแยกกันเป็นเผ่าๆ เมื่อรู้ว่าพวกเขาแต่ละคนนั้นมีวิถีชีวิตและลักษณะทางร่างกายไม่เหมือนกันเลยแม้แต่น้อย พวกเขาจึงแยกเผ่าออกเป็น5เผ่าคือ 1. เผ่ามอนเตอร์ 2. เผ่ามาร 3. เผ่าแสง 4. เผ่านักรบ 5. เผ่ามนุษย์  และแยกธาตุได้7ธาตุ ซึ่งแต่ละคนจะมีได้เพียง1ธาตุเท่านั้น มี 1.ลม 2.น้ำ 3.ไฟ 4.ดิน 5.ไม้ 6.แสง 7.มืด แต่ถ้าผู้ใดมีธาตุมากกว่า1ธาตุในตัวเองจะถูกเรียกว่า "คาเรี่ยม"แปลเป็นภาษาดาร์ฟได้ว่า "ผู้ทำลาย"หรือ"ผู้ชำระ"
       
         และเรื่องราวต่อไปนี้ จะเป็นเรื่องราวของเด็กชายเผ่านักรบที่เพิ่งได้เจอสมุดเล่มหนึ่งที่ชื่อ"สมุดอมตะ" ถ้าเขาเขียนอะไรลงไปในนั้น มันจะเป็นจริงขึ้นมาในเวลาไม่เกิน10นาที แต่สมุดเล่มนี้ต้องพึ่งพลังเวทย์ของเจ้าของมัน ยิ่งพลังเวทย์ของเจ้าของเยอะเท่าใด มันก็สามารถบรรดาลสิ่งที่ขอให้ได้มากขึ้นเท่านั้น ...




    ________________________________________________________________________________________
      


    พรวด!!

        "ฝัน?"
      เด็กคนหนึ่งตื่นขึ้นมาแล้วถามกับตัวเอง เขาถามตัวเองว่าเมื่อกี๊มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ฝันหรือ? แต่เขาเห็นพิธีกรรมเหล่านั้นราวกับเขาได้ไปอยู่ตรงนั้นด้วยซ้ำ เขาเงี่ยหูฟังในสิ่งที่อยู่รอบๆตัว  แต่กลับไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยแม้แต่น้อย เขาจึงสงบใจลงอีกนิดและย้อนกลับไปคิดเรื่องราวที่ตัวเขาเองเพิ่งได้ฝันไป
        
        ปราสาทที่มีอีกาส่งเสียงโหวกเหวก ฟ้าผ่าราวกับเสียงกรีดร้องของใครบางคน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างไม่น่ากลัวเท่าสายตาสีแดงก่ำที่มองเปลวเพลิงนั้น แต่เขาคิดได้เพียงเท่านั้น นาฬิกาปลุกก็ร้องเสียงดัง จนทำให้เขาสะดุ้งสุดตัว แล้วไปกดปิดปุ่ม

    "โถ่เว้ย! ไอ้นาฬิกาบ้าตกใจหมด!"  เขาตะโกนอย่างหัวเสียแล้วขว้างมันออกไปกระทบผนัง แล้วก็ลุกขึ้นแต่งตัวด้วยความโมโห

        
        ซามูเอคือคนที่ฝันเรื่องนี้แหละ เขามักมีความฝันที่รู้อนาคตเสมอๆ แม้แต่ตอนสัปหงก เขามักฝันเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เกิดกับตัวเขาเอง แม้ฝันจะเล็กน้อยแค่ไหน แต่มันก็เป็นความจริงทุกๆครั้ง เช่น เขาฝันว่าพรุ่งนี้เขาจะโดนไถเงินจากพวกนังเลงแถวบ้าน แล้วเขาก็โดนจริงๆและไม่มีทางหลีกเลี่ยงด้วย เขาจึงทำใจยอมรับมัน แต่ครั้งนี้เขาได้ภาวนาไว้ว่าขอให้มันไม่กิดขึ้นจะดีกว่า เพราะความฝันที่ต่อจากนั้นมันไม่ใช่ความฝันที่ดีเอาเสียเลยและเขาก็ไม่อยากให้มันเกิดในวันนี้เสียด้วย เพราะจะเป็นวันที่เขาจะไปสอบในโรงเรียนที่ได้ชื่อว่ามีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของดาวไดฟ์ 

        ว่ากันว่าโรงเรียนเอสเปอร์แห่งนี้รับนักเรียนที่ความสามารถไม่ใช่เงินทอง ถึงทางโรงเรียนจะรับนักเรียนที่ฐานะทางการเงินหรือบุญญาธิการของบุพการีที่มีตำแหน่งสูงลิบฟ้าในดาวไดฟ์ เขาก็ไม่สามารถทำได้อยู่ดี เพราะว่าซามูเอไม่มีทั้งเงินและพ่อแม่ให้ช่วย เขาจึงต้องทำเองทุกอย่างตั้งแต่ยังจำความได้ และที่ที่เขาซุกหัวนอนก็ไม่ใช่ที่ไหน เป็นที่ที่ชาวไดฟ์เรียกกันว่า แหล่งชำระทรัพย์สิน
    หรือเรียกสั้นๆว่า กองขยะ

        กองขญะของดาวไดฟ์ไม่ใช่กองขยะแบบของโลกเราที่มีทั้งขยะสกปรกโสโครกต่างๆหมักหมมกันเป็นเวลานานจึงส่งกลิ่นเหม็นเน่าเพราะการย่อยสลายของจุลินทรีย์ต่างๆ แต่ที่ดาวไดฟ์ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีวันสลาย ถ้าสิ่งใดชำรุดหรือเสียหายจะนำมาทิ้งที่กองขยะและทางเทศบาลจะนำมันไปรีไซเคิลแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้ไม่มีวันจบสิ้น

        "บ้าน" ของเขาเป็นลักษณะเพิงหมาแหงนที่ทำจากโซลาเมียมเนื้อแข็งที่ถูกตีแผ่อย่างมีประสิทธิภาพ ในบ้านของเขามี1ห้องขนาดราวๆ 10ตารางเมตร ซึ่งเป็นได้ทั้ง ห้องนอน ห้องฝึก ห้องประดิษฐ์ ห้องกินข้าว และห้องครัว มีเตียงนอนที่ทำจากโซลาเมียมผสมไม้ หมอนก็คือโซลาเมียมเส้นที่ถักเป็นลักษณะสี่เหลี่ยม แต่เหลี่ยมไม่แหลมเท่านั้นเอง หมอนนั้นนุ่มราวกับขนห่าน เบาราวกับปุยเมฆและมีสีขาวนวลข้างๆมีโต๊ะตัวโตทำจากไม้เนื้อแข็งแท้ ขามันหักไป2ข้างแต่ซามูเอเอาไม้มาต่อเข้าไป เวลานั่งมันเลยไม่เสมอกันเท่าใดนัก เก้าอี้ก็ใช้วัตถุดิบเช่นเดียวกับโต๊ะ โคมไฟใช้โซลาเมียมบริสุทธิ์ที่ขโมยมาจากเศรษฐีหน้าโง่บางคน มันให้แสงสว่างได้หยั่งกับดวงอาทิตย์ดวงย่อมๆเลยทีเดียว 

        เขารีบแต่งตัวด้วยชุดเก่งที่สุดที่แย่งมาจากขอทาน สูทสีหม่นๆเพราะสีตก ใส่รองเท้าที่นำเศษผ้ามาปะข้างๆเพราะโดนหนูแทะทั้งๆที่รูเล็กนิดเดียว 
         
         เขารีบเหาะไปสถานที่โรงเรียนเอสเปอร์อย่างรวดเร็วโดยไม่รู้เลยว่า จุดเริ่มต้นความฝันที่เขาฝันนั้น จะเป็นความจริงในอีกไม่กี่ชั่วโมงนี่แหละ เพราะว่า... เขามีจุดมุ่งหมายคือ แก้แค้นคนที่ฆ่าพ่อแม่ของเขาและตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเป็นที่1ในดาวและเป็นวีรบุรุษเช่นไดฟ์ วีซอน และโรงเรียนนี้จะทำให้ความฝันของเขาเป็นจริงได้อย่างแน่นอน!!  แต่ตอนนี้คงได้แต่ฝันลมๆแล้งๆไปก่อน เพราะเขายังไม่รู้พลังของตัวเอง ยังไม่รู้ว่าตัวเองเก่งอะไรทั้งๆที่มันมีและเขาใช้อยู่ทุกวัน แถมยังไม่รู้ว่าคนที่ฆ่าพ่อแม่ของเขาเป็นใครอีกด้วย
        

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×