ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไตรภูมิ

    ลำดับตอนที่ #10 : นรกขุมใหญ่ ขุมที่ ๑–๕

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 49


             

    ท่านสาธุชนทั้งหลายและพระคุณเจ้าที่เคารพ ตอนนี้เป็นตอนที่ ๔ สำหรับการนำทัศนาจรนรก ความจริงก็ไม่ได้นำไปทัศนาจรแต่นรกอย่างเดียว แม้สวรรค์ พรหมโลกและนิพพาน ก็จะนำขึ้นไปด้วย ทีนี้พาบรรดาพุทธศาสนิกชนและบรรดาพระคุณเจ้าที่เคารพ มานั่งแอ๋อยู่ที่สำนักของพระยายมถึง ๒ ชุด ต่อจากนี้ไป เมื่อรู้เรื่องราวของพระยายมกันแล้วว่า พระยายมไม่ใช่พวกสัตว์นรก เป็นพวกของชาวสวรรค์ที่คอยมากีดกันไม่ให้คนลงนรกด้วยความเมตตาปรานี ความจริงท่านทำหน้าที่โดยไม่มีเงินดาวเงินเดือนอะไรทั้งหมด แล้วปรากฏว่าท่านก็ไม่เบื่อหน่าย จริยาของพระยายมก็ดี เจ้าหน้าที่ทั้งหมดก็ดี มีจริยาอย่างพรหม ฉะนั้น เราควรจะเรียกกันว่าพรหมก็ได้ หรือว่าใครจะค้านก็ตามใจ

            นี่เรามานั่งกันนานแล้วนี่ ลุกจากเก้าอี้แก้วมณีเสียทีดีไหม เดินทางกันต่อไป นี่พวกเราขออนุญาตพระยายมเสียหน่อย ประเดี๋ยวท่านจะหาว่าพวกเราไร้มรรยาท จะเข้าไปในเขตนรกต้องผ่านท่าน เมื่อเรามาลืมไหว้ท่านไป เมื่อเราจะกลับไปเราลาดีกว่า เอ้าลาท่านเสียทุกคน ลาท่านแล้วก็บอกท่านไว้ด้วยว่า เวลาตายมาแล้ว จะมาอยู่กับท่านที่นรกขุมไหนก็ตามใจ ประเดี๋ยวท่านทั้งหลายจะได้รู้ ว่านรกขุมไหนเราบำเพ็ญบารมีอะไรจึงมาอยู่กันได้ นี่ว่ากันถึงนรกขุมใหญ่ก่อนนะ หรือว่านรกขุมเล็กขุมน้อยอะไรก็ตามเถอะ ท่านต้องการนรกขุมไหน ถ้าได้ชมแล้วชอบใจขุมไหน กลับมาบอกกับพระยายม ว่าข้าพเจ้ากลับไปนี้แล้วจะบำเพ็ญบารมีอย่างนั้นอย่างนี้ เพื่อจะกลับมาอยู่นรกขุมนั้น เอ้า ตั้งใจไว้ให้ดีนะให้สัญญากันท่านไว้ ว่าจะกลับมาเป็นลูกศิษย์ท่านหรือจะบอกว่า ถ้าหากข้าพเจ้ากลับไปแล้ว รู้แล้วว่าโทษความชั่วเป็นอย่างไร ความจริงคนที่ตายมาแล้วไม่ใช่ว่าจะสิ้นทุกข์ คนที่ฆ่าตัวตายเพื่อหนีทุกข์ในโลกปัจจุบัน แต่ว่าเข้าใจว่าเมื่อตายไปแล้วนั้นมีความสุข ไม่มีความลำบาก นี่ไม่จริง ข้าพเจ้าเห็นแล้วว่าตายแล้ว ถ้าทำความไม่ดีไว้ก็จะกลายเป็นโทษหนัก มีความเดือดร้อนหนัก จะไม่ยอมมาอยู่ในสถานที่นี้อีกแล้วก็จะบำเพ็ญบุญบารมีอันใดไปสวรรค์ชั้นไหน หรือไปพรหมโลกก็บอกกับท่านไว้ เรื่องจะผ่านสำนักนี้ไม่เอา บอกกับท่านยังงี้ก็ได้นะ ถ้ามั่นใจในความดีของตัว เอาละคุยกันต่อไป ลาแล้วหรือยัง ลาแล้วก็ค่อยๆ ลุกมา เก้าอี้ตัวนี้สวยนะ ที่นั่งกันทุกตัวน่ะ เก้าอี้ เป็นเก้าอี้เก้ามณี นี่ถ้าเราได้ไปสักตัวก็เป็นมหาเศรษฐีใหญ่ ขายราคาได้หลายพันล้าน แต่ว่าที่บ้านของพระยายมท่านมีเก้าอี้รองนั่ง เห็นไหมล่ะดีกว่าเราตั้งเยอะ

            คราวนี้ออกมาจากสำนักของพระยายม ผ่านม่านสำหรับกั้นเขาเปิดให้แล้ว ออกมาแล้วลงบันไดเดินมาถึงที่ว่าง หันหน้าไปทางทิศใต้ก่อน หันไปแล้วทุกคน ซ้ายหัน หันหน้าไปทางซ้าย มองดูอะไรข้างหน้า เห็นไหม ในด้านทิศตะวันออก ตรงออกไปแล้วมองออกไปทางขวา ทางด้านทิศใต้ มองไปทางซ้ายทางด้านทิศเหนือ เห็นแสงเพลิงพวยพุ่งแสงสว่างของเพลิงพวยพุ่งขึ้นจับท้องฟ้า หาที่สุดมิได้ ไกลหาประมาณมิได้เลยสุดลูกตาที่เราจะมองเห็น ก็ยังไม่สุดแสงไฟ นั่นเป็นอะไรทราบไหม บรรดาท่านพุทธศาสนิกชน? แดนนี้แหละ ที่เราเรียกว่านรกขุมใหญ่ ๘ ขุม จำไว้ให้ดีนะ เดินไปอีกนิดเดียวเท่านั้นข้างหน้าของเราเห็นไหม นายนิริยบาลนำกลุ่มคนไปข้างหน้าประมาณ ๙ กลุ่มหรือ ๑๐ กลุ่ม  กลุ่มหนึ่งมีปริมาณเกินกว่า ๑๐ คน เดินเรียงรายกันเป็นแถวอย่างมีระเบียบ ทุกคนไม่ต้องล่าม ไม่ต้องผูก ไม่ต้องมัด ทุกๆ คนมีระเบียบ นายนิริยบาลเดินหน้า ทุกคนเขาเดินตามอย่างมีระเบียบ ไม่มีใครพูด ไม่มีใครจา มีแต่แสดงอาการซีดเซียวหวาดกลัว หวาดผวาอยู่ตลอดเวลา เพราะรู้ว่าตัวจะมีโทษ นี่แหละคนที่เกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว ไม่อยู่เขตของความดี มีความประมาท เป็นยังงี้

            เอาละ ดูกันต่อไป พวกเราเห็นแล้วใช่ไหม ถ้าเห็นแล้วทุกคนจะเดินตามอาตมามาตามเขาไป เดินให้ดีนะจะผิดทาง จะลื่นไหลลงนรกไป ทางในเมืองนี้ไม่มีหัวระแหงไม่มีขรุขระ เป็นทางเรียบๆ เป็นทางเลี่ยนๆ ระวังจะลื่น คนที่เดินตามน่ะหัวล้านหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ว่าคนนำน่ะหัวล้านแน่ คนหัวล้านนี่เขาไม่ประมาทหรอก ไอ้ที่ไหนมันเรียบๆ เลี่ยนๆ เตียนๆ ละมันลื้น เหมือนกับหัวของเขา เขาไม่ประมาท ข้างหลังมีหรือเปล่า โยมจ่าพัว ชระเอม บ้านบางพุดทรา จังหวัดสิงห์บุรี ตามมาหรือเปล่า ถ้าตามมาละก้อ เราเป็นคนพวกเดียวกันนะ เราเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน มา.เดินมาใกล้ๆ นายนิริยบาลจะได้เกรงใจว่าพวกมนุษย์ขึ้นมากันตั้งเยอะแยะ ไม่กล้ารวมพวก โดยเฉพาะผู้นำปาเข้าไปตั้ง ๒ ล้านแล้ว มาไปด้วยกัน เดินมาครู่หนึ่ง ตอนนี้เห็นหรือไม่ มองไปด้านซ้าย ด้านที่เราเดินเป็นทางราบรื่น ลองไปดูซิ มีอะไรเป็นทะเลเพลิง เป็นบริเวณใหญ่คล้ายๆ กับบ่อ แต่บ่อนี้ไม่ใช่บ่อเล็กๆ เรามองเท่าใดก็ตาม ไม่เห็นที่สุดของขอบบ่อ คือมองด้านนี้แล้วก็ไม่เห็นด้านโน้น ไม่ใช่บ่อลึกเฉยๆ นะ บ่อเป็นบริเวณเว้าลงไป เป็นที่ลึกลงไปมีพื้นเบื้องล่าง พื้นเบื้องล่างเป็นเหล็กหนาถูกไฟเผาจนแดงโชน ขอบข้างๆ ทั้ง ๔ ขอบ ก็ปรากฏว่าเป็นเหล็กเหมือนกัน ถูกไฟเผาจนแดงโชนเหมือนกันหมด ในบริเวณนั้นเต็มไปด้วยไฟ หาที่ว่างจากไฟไม่ได้เลย อันนี้เราเรียกอะไร ภายในระหว่างไฟนั้น ปรากฏว่ามีสรรพาวุธต่างๆ มีอาวุธนะ มีหอก มีดาบ มีอะไรต่ออะไรเกะกะระรานไปหมดถูกไฟเผาจนแดงมีแต่ความคมจัด นี่เป็นยังงี้ คนเขาจึงบอกไม่ถูกในบริเวณนั้นมีอะไรบ้าง คนวิ่งเกลื่อนหมด เท้าเหยียบพื้นเหล็กงี้แดงโชน ร้อน ร่างกายมีไฟเผาอยู่ตลอดเวลาแล้วเวลาวิ่งก็กระทบ หอกบ้าง ดาบบ้าง ทวนบ้าง ค้อนบ้าง ทุบตีฟันเข้ามา ถูกหอกเสียบดิ้นเร่าๆๆ ร้องครวญคราง หลุดจากหอกไปกระทบดาบ มาจากไหนไม่ทราบฟันฉับเข้า ขาดโน้นขาดนี่ แต่แล้วก็ติด ปั๊บ พอถูกฟันขาดแล้วก็ติด ตายไม่ได้ ไม่มีอาการตายที่นี่เขาไม่ตายกัน ถ้าตายแล้วไม่เป็นการทรมาน แล้วในบริเวณนั้นมีนายนิริยบาลตัวใหญ่ๆ เดินได้อย่างสบาย นายนิริยบาลนี่ไฟไม่ลงโทษ เดินไปอย่างสบาย มีความเย็นสบาย คล้ายๆ เราเดินในที่โล่งๆ มีลมพัดฉิวๆ น้อยๆ เย็นสบาย เพราะว่าเขาไม่มีบาป พวกสรรพาวุธต่างๆ ก็ดี ไฟก็ดี ลงโทษแต่คนที่มีบาป แต่คนที่ไม่มีบาปไม่ลงโทษสำหรับท่านที่ตามอาตมามา อย่าเหยียบลงไปนะในนั้น อย่าเผลอเดินลงไป ถ้าบังเอิญท่านทั้งหลายที่ตามมาที่นี่เป็นพระอริยเจ้าไฟนรกจะดับ อย่าลงไปนะ ในที่นี้เคยเกิดเรื่องกันมาแล้ว พระมาลัยกับพระยายม ท่านมาทีไรท่านย่องลงไปในขุมนรก ไฟของเขาก็ดับสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นก็พากันพักชั่วครู่ชั่วคราว อันนี้เป็นจริยาที่ไม่ดี อย่าทำ ในเมื่อเขามีกรรมก็ต้องได้รับโทษ เราก็ทรงอุเบกขาอย่างท่านพระยายมท่าน เรียกว่าเข้าเมืองตาหลิ่วก็หลิ่วตาตาม อย่าไปฝืนกฎระเบียบของเขา เอา เป็นอันว่าท่านทั้งหลายเห็นแล้วใช่ไหมว่านรกนี้เต็มไปด้วยไฟ ไฟเผาตลอดเวลา มีสรรพาวุธประหัตประหารตลอดเวลา สัตว์ทั้งหลายมีแต่ความทุกข์ทรมาน จะหาเวลาไม่รู้สึกตัวนิดหนึ่งไม่มี นรกขุมนี้เขาเรียกกันว่าอะไร เขาให้ชื่อว่านรกขุมที่ ๑ นะ นรกขุมใหญ่ขุมที่ ๑ เขาให้ชื่อว่า สัญชีพนรก แล้วสัตว์ที่เสวยทุกขเวทนาอยู่ในนรกนี้มีอายุถึง ๕๐๐ ปี ๕๐๐ ปีของนรกขุมนี้นะ นรกขุมหนึ่งมีอายุไม่เท่ากัน ๕๐๐ ปีนรก ทีนี้ เรามานั่งเทียบกันดูวันเดือนปีของนรกกับมนุษย์เฉพาะนรกขุมนี้ ๕๐๐ ปี นับในมนุษย์ ๙ ล้านปีของเรานะ เป็นหนึ่งวันในนรกขุมนี้ แล้วก็เดือนหนึ่งมี ๓๐ วันเหมือนกัน แล้วปีหนึ่งมี ๑๒ เดือนเหมือนกัน คูณกันเข้าไป อย่าลืมนะว่าสัญชีพนรกนับในปีของมนุษย์นี่ ๙ ล้านปีเป็นหนึ่งวันของนรก แล้วเดือนหนึ่ง ๓๐ วัน ปีหนึ่ง ๑๒ เดือน สัตว์ที่ต้องเสวยทุกขเวทนาอยู่ในขุมนรกนี้ ๕๐๐ ปีนรก มันนานเท่าไรก็ลองคิดดู ถ้าหากว่าสัตว์ที่ทำกรรมมาเข้านรกขุมนี้ทำบาปอะไร ก็ตอบว่า ไม่เคารพในกรรมบถ ๑๐ แต่ว่าอย่างเบานะ ไม่เคารพในกรรมบถ ๑๐ ทั้งหมดเป็นอย่างเบา ตานี้ ถ้าหนักลงไปอีกนิดล่ะ? ถ้าหนักลงไปอีกนิด ก็ลงนรกขุมที่ ๒ นรกขุมที่ ๒ นี่ชื่อว่า กาฬปุตตะนรก นรกขุมนี้ว่าถึงอายุเลยดีกว่า สัตว์ที่เสวยทุกขเวทนาอยู่ในนรกขุมนี้ เสวยทุกขเวทนาอยู่ถึง ๑๐๐๐ ปีนรก แล้วก็ ๑๐๐๐ ปีนรกน่ะท่านอย่าคิดว่า ๙ ล้านปีของเราเป็น ๑ วันนะ ไม่ใช่ยังงั้น นรกขุมนี้มีกรรมหนักกว่า แล้วก็อายุก็มากกว่า ถ้านับปีในเมืองมนุษย์ได้ ๓๖ ล้านปี เป็น ๑ วันในนรกขุมนี้ เห็นไหมล่ะไม่เท่ากันเสียแล้วซิ นรกขุมที่ ๑, ๕๐๐ ปี เทียบ ๑ วันของเขานี่ ๙ ล้านปี นรกขุมที่ ๒ นี้ชื่อกาฬปุตตะนรก ต้องเสวยทุกขเวทนาอยู่ ๑๐๐๐ ปีนรก เทียบกับเมืองเราได้ ๓๖ ล้านปี เป็น ๑ วันของเขา แล้วก็ ๓๐ วัน เป็น ๑ เดือน ๑๒ เดือนเป็น ๑ ปีเหมือนกัน แล้วนรกขุมนี้เขาลงโทษกันด้วยอะไร  นี่กรรมบถ ๑๐ นา ไม่เคารพในกรรมบถ ๑๐ แต่ว่าหนักกว่านั้นไปนิดหนึ่ง ไม่เคารพมากไปหน่อยหนึ่ง คือว่านรกขุมนี้เขา.อ๋อ บริเวณหรือเกือบจะลืมเสียแล้ว ใครสะกิดข้างหลัง ใครมาสะกิดข้างหลังถามว่าบริเวณน่ะ มีอะไรบ้าง ลืมบอกไป

            บริเวณของนรกขุมนี้ก็เหมือนกัน มีกำแพงทั้ง ๔ เป็นเหล็ก แล้วก็มีพื้นเป็นเหล็กถูกไฟเผาจนแดงโชน โน่น เห็นไหม ภายในบริเวณของขุมนรก นายนิริยบาลตัวใหญ่ๆ จับสัตว์นรกนอนลงไป แล้วก็ไปเอาเส้นบรรทัดมาตีบรรทัด คนหนึ่งจับทางด้านหัวเชือกหนึ่ง อีกคนหนึ่งจับทางอีกหัวหนึ่ง ขึงตามยาวของตัวสัตว์ ขึงตามขวางของตัวสัตว์บ้าง อีกคนหนึ่งดึงสายบรรทัดลงมาตีเป๊ะลงไป สายบรรทัดนั่นเป็นของอะไร? เป็นสายเหล็กที่ถูกเผาไฟจนโชน แล้วพื้นที่นอนก็เป็นแผ่นเหล็กที่ถูกไฟเผาจนแดงโชน แล้วไฟก็เผาตลอดเวลา เมื่อตีเส้นลงไปแล้วเขาก็นำเลื่อยมาเลื่อยตามรอยเส้นนั้น ตามยาวก็ดี ตามขวางก็ดี บางทีคนหาเลื่อยไม่ทันก็เอาขวานบ้าง เอามีดโต้บ้างมาสับตามรอยนั้น สัตว์ในขุมนี้ต้องเสวยทุกขเวทนาอย่างนี้ถึง ๑๐๐๐ ปีนรก หนักลงไปนิดหนึ่ง ไม่เห็นยากเลย นี่คนที่ไม่รู้จักความดีนะ เป็นมนุษย์ เป็นมนุษย์นี่ดีแล้ว เลือกทางไปสวรรค์ก็ได้ พรหมโลกก็ได้ เลือกทางไปนิพพานก็ได้ แต่ว่าไม่มีใครต้องการ ส่วนใหญ่ต้องการมาลงนรก จำไว้ก็แล้วกัน เออนี่ ท่านที่ติดตามมานี่ ๒ ขุมนี่ชอบใจขุมไหน? ชอบใจขุมไหน? หรือว่าไม่ชอบเลย? ไม่ชอบเลยก็ตามใจ ถ้าชอบใจขุมไหนละก้อ จำเอาไว้นะกลับขึ้นไปละก้อกลับไปบ้าน ไปจำภาพของนรกขุมนั้นไว้ แล้วก็จำปฏิปทาที่เขาปฏิบัติว่าเขาบำเพ็ญบารมีคือไม่ยอมเคารพในกรรมบถทั้ง ๑๐ ประการ ขนาดเบา ขนาดหนักไปนิด ขนาดหนักไปหน่อย จนกระทั่งถึงขนาดหนักที่สุด ได้มีโอกาสมาลงนรกขุมใหญ่ ความจริงก็สบายดี ตานี้ว่ามา ๒ ขุมแล้วก็ลืมไป

            เมื่อเราออกจากนรกขุมที่ ๑ นะ มันก็ต้องผ่านนรกขุมบริวาร ถึงจะมาลงขุมที่ ๒ ได้ แต่ว่านรกบริวารจะเอาไว้รวมสรุปพูดตอนหลัง ตอนนี้มาดูนรกขุมที่ ๓ นรกขุมที่ ๓ นี่เป็นยังไง อ๋อ เขาเรียกว่า สังฆาฏนรก แถมเขาเขียนป้ายไว้ เห็นไหม เห็นป้ายไหมป้ายใหญ่เบ้อเร่อเชียว ว่าขุมนี้ชื่อว่าสังฆาฏนรก มีอายุ ๒๐๐๐ ปีนรก มีอายุไม่เท่ากันนะ อายุละคูณด้วย ๒ เสมอไป คราวนี้ที่ร้ายที่สุดคือนับปีเมืองมนุษย์ไม่เท่ากันอีก เทียบปีในมนุษย์ได้ ๑๔๕ ล้านปี เท่ากับ ๑ วันของเขา แย่ไหมจำไว้นา สังฆาฏนรก มีอายุอยู่ในนรกได้ ๒๐๐๐ ปี ๒๐๐๐ ปีนรก แล้วก็เทียบเมืองมนุษย์ได้ ๑๔๕ ล้านปีเป็น ๑ วันของเขา ทีนี้การลงโทษ การลงโทษนี้ไม่เหมือนกันแฮะ มองดูไปในขุมนรกขุมนี้ซิ นอกจากมีกำแพงเหล็กไฟเผาจนแดงโชน มีพื้นเหล็กไฟเผาจนแดงโชนแล้ว ก็มีภูเขากลิ้งมาในทิศทั้ง ๔ นั่นเป็นภูเขาเหล็ก คือว่า เหล็กก้อนใหญ่คล้ายๆ ภูเขานั่นเอง มีไฟเผาจนแดงโชนเป็นเหล็กแดงกลิ้งไปกลิ้งมา กลิ้งเข้าหากัน บดบรรดาสัตว์ทั้งหลายให้แหลกเหลวไป เมื่อเขาเหล็กเลยไปแล้ว สัตว์ทั้งหลายก็กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ คือร่างกายเต็มตามเดิม แล้วก็วิ่งหนีภูเขานั้นต่างๆ วิ่งไป วิ่งไปไปเจอนายนิริยบาลเข้าพ่อก็ล่อด้วยค้อนใหญ่บ้าง ล่อด้วยหอกบ้าง แทงเสียบ้าง ตีเสียบ้าง สัตว์ทั้งหลายเหล่านี้ก็วิ่งหนีนายนิริยบาล ไอ้ที่วิ่งหนีน่ะวิ่งไปไหน? วิ่งไปบนพื้นเหล็กแดง แล้วไฟก็เผาอยู่ตลอดเวลา แย่ไหม? แย่จริงๆ นะ พื้นก็เป็นเหล็กแดงไฟก็เผาอยู่ตลอดเวลา วิ่งไปวิ่งมาไปเจอะเอาเขากลิ้งมาจากทิศโน้นอีกหนีไม่พ้น ภูเขาทับลงไปบี้แบน ไม่ตาย ตายไม่ได้เพราะเขาต้องการทรมานนี่ เขาต้องการทรมานจะตายได้อย่างไร ไม่ตายหรอก เอาละนรกขุมนี้ ท่านทั้งหลายที่ติดตามมาใครอยากจะลงบ้าง ดีเหมือนกัน สบายดีนะ มีภูเขาบดเล่นวิ่งบนพื้นเหล็กแดง วิ่งในกองไฟถูกนายนิริยบาลทุบตีเอา หรือว่าเสียบแทงเอาบ้าง โทษอะไร? ไม่เคารพในกรรมบถ ๑๐ หนักลงมาคือใจทรามลงไปอีกนิดหนึ่งจากขุมที่ ๓

            ตานี้ มานรกขุมที่ ๔ มาดูกันให้ดี นรกขุมนี้ท่านเรียกว่า โรรุวนรก นี่ว่านรกกันเสียให้เสร็จนะ เดี๋ยวจะไม่จบ นรกขุม ๔ เรียกว่าโรรุวนรก อายุของสัตว์นรกขุมนี้มีอายุเท่าไรล่ะ? ๔๐๐๐ ปีนรก ๔๐๐๐ ปีนรกนะ ไม่ใช่ ๔๐๐๐ ปีในเมืองมนุษย์ ทีนี้มาดูวันเปรียบเทียบ ได้ ๒๓๔ ล้านปีเมืองมนุษย์เป็น ๑ วันของเขา แล้วก็อยากจะรู้ว่านรกนี้เป็นกี่ล้านปีของมนุษย์ก็คูณกันเอาเองก็แล้วกันนะ เพราะบอกไว้แล้วนี่ ว่าเดือนหนึ่งมี ๓๐ วัน ปีหนึ่งมี ๑๒ เดือนเหมือนกัน การลงโทษในนรกขุมนี้ นรกขุมนี้ตามบาลีท่านเรียกว่า ปทุมนรก ปทุมดอกบัว ปทุมนรกนี้มี ๒ ขุมด้วยกัน คือขุมที่ ๔ กับขุมที่ ๕ ถ้าถามว่าโทษอะไรก็ตอบได้ว่าอย่างเดียวกัน ว่าไม่เคารพในกรรมบถ ๑๐ มากยิ่งขึ้น ทีนี้ในบริเวณนี้ก็มีกำแพงเหล็ก ๔ ด้านเหมือนกัน มีพื้นเป็นเหล็ก แล้วตรงกลางไฟยิ่งร้อนขุมมากขึ้นเท่าใดไฟยิ่งร้อนมากขึ้นเท่านั้น ไฟนี้ไม่มีเปลว หาเปลวไม่ได้ ตานี้ บริเวณกลางของนรกขุมนี้มีดอกบัวขึ้นสะพรั่ง ท่านจึงเรียกว่าปทุมนรก แต่ดอกบัวนี้อย่าเข้าใจว่าแบบเดียวกับดอกบัวที่เราบูชานะ ไม่ใช่ยังงั้น ไม่ใช่ดอกบัวที่เราบูชาพระ เป็นดอกบัวเหล็ก ดอกบัวเหล็กก็ใหญ่มาก กลีบก็เป็นเหล็ก มีไฟเผาจนแดงโชน การลงโทษในนรกขุมนี้นายนิริยบาลไม่ต้องมีเพราะไม่ต้องการไล่ตีสัตว์นรก สัตว์นรกทุกคนที่เข้าไปนรกขุมนี้แล้ว เขาก็บังคับให้ขึ้นไปนั่งบนดอกบัว จำให้ดีนะ ทีนี้เมื่อขึ้นไฟบนดอกบัวแล้วกลีบบัวก็บานขึ้น บานก็เป็นเหล็กแดงมีกระแสไฟพวยพุ่งออกมาจากกลีบ คราวนี้ดอกบัวก็ถูกไปเผาจนแดง ไฟกรดก็ยังเผาอยู่ตลอดเวลา พลุ่งอยู่ตลอดเวลาเขาบังคับ คือกฎของกรรมบังคับให้สัตว์ค่อยๆ ก้มหัวลง ขึ้นไปยืนบนดอกบัวแล้วนา เอาขาแหย่ลงไปในระหว่างกลีบ กรรมมันบังคับให้ตัวค่อยๆ ก้มลงๆๆ ในที่สุดก็จุ่มลงไปในโคนของกลีบดอกบัว มือทั้งสองข้างก็ยันลงไปในโคนของกลีบดอกบัว เมื่อพร้อมแล้วกลีบดอกบัวก็งับเข้ามาเป็นกลีบเหล็ก ร้อนก็ร้อน คมก็คม หัวจรดลงไปถึงแค่คาง มือจมลงไปถึงแค่ข้อมือ เท้าทั้งสองจมลงไปถึงแค่ข้อเท้า เจ็บก็เจ็บร้อนก็ร้อน ถูกไฟเผาอยู่ตลอดเวลา ดอกบัวเหล็กก็รัดเข้าไว้ ความทุกข์ทรมานก็คงอยู่อย่างนั้นนานหนักหนาจนกว่าจะสิ้นอายุ ๔๐๐๐ ปีนรก เสียงร้องระงมไปหมด แต่ร้องไม่ค่อยดังนัก เพราะไอ้ปากมันไปจมอยู่ในดอกบัว เสียงมันเลยขาด ท่านจึงให้นามว่าโรรุวนรก นรกขุมนี้ เท่าที่ได้ฟังมาพอใจไหม? พอใจก็เชิญนะลงมาได้ ถามว่าบำเพ็ญบารมีอะไรจึงจะลงนรกขุมที่ ๔ ได้ ก็บอกว่าไม่เคารพในกรรมบถ ๑๐ หนักขึ้น ทำใจให้ทรามมากขึ้น ไม่เคารพในพระพุทธเจ้าให้มากขึ้น ใช้ได้แล้ว

            คราวนี้เรามาดูนรกขุมที่ ๕ ต่อไป นรกขุมที่ ๕ ที่มีนามว่า มหาโรรุวนรก มหาแปลว่าใหญ่ โรรุวนรกแปลว่านรกใหญ่ นรกดอกบัวใหญ่ หรือนรกร้องใหญ่ นรกร้องใหญ่นี่มันแย่นะ โรรุวเขาแปลว่าร้อง แต่มีดอกบัวเรียกว่าปทุมนรก แต่ว่าชื่อของนรกเขาแปลว่าร้องเสียงดัง ก่อนจะถึงวิธีการร้อง ก็มาพูดถึงอายุก่อน อายุนรก สัตว์ขุมนี้ ๘๐๐๐ ปีนรก เทียบกับเมืองมนุษย์ได้ ๙๒๑๖ ล้านปีเป็น ๑ วัน แล้วก็คูณเอาเองนะ บอกไว้แล้วนี่ อย่าลืมว่ามหาโรรุวนรกมีอายุ ๘๐๐๐ ปีนรก แล้วก็เทียบกับเมืองมนุษย์ได้ ๙๒๑๖ ล้านปีเป็น ๑ วัน ทีนี้การลงโทษ นรกขุมนี้มีดอกบัวเหมือนกัน มีกำแพง ๔ ด้านเหมือนกัน แล้วก็มีดอกบัวตั้งสะพรั่งเหมือนกันเป็นดอกบัวที่น่าหวาด ไม่น่าชม แต่ว่าใกล้ๆ ดอกบัวมีแหลนหลาวปักเอาปลายขึ้น มีไฟลุกโชนเหมือนกัน เรื่องนรกไม่มีไฟไม่มี ทีนี้สัตว์ทั้งหลายที่ชอบลงนรกขุมนี้เขาทำยังไง? บังคับให้ขึ้นไปอยู่บนดอกบัว ดอกบัวนี้งับไม่กางงับไม่แน่นสนิทเหมือนดอกบัวขุมก่อน ขุมก่อนงับแน่นสนิทหนีไม่ได้ ดอกบัวขุมนี้มีกลีบคมเป็นกรด คมมากเหลือเกิน ร้อนมากกว่า สัตว์ขึ้นไปบนนั้นแล้วถูกความร้อนเผาเพราะอำนาจของความร้อนเต้นเร่าๆๆๆ เต้นเพราะความร้อน เต้นไปเต้นมากลีบดอกบัวมันก็บาดเข้าไปอีก ไอ้ไฟก็เผาเนื้อแซ่บเข้าไปในที่สุดถูกไฟเผาหนักเข้า เต้นหนักเข้า เนื้อหนังก็หล่นลงมา หมากิน นายนิริยบาลเลี้ยงหมาเหมือนกัน เหมือนอาตมา อาตมาก็เลี้ยงหมา แต่หมาเขามาปล่อย แต่นั่นมันเป็นหมานรก พนหล่นลงมาแล้วก็ปรากฏว่ามาเสียบบนแหลนบนหลาว เสียบแหลนหลาวเข้าไฟก็เผาเนื้อหล่นลงมาหมากิน แทะเหลือแต่กระดูกไม่ตายหรอก พอเหลือแต่กระดูกมันเจ็บแสบเหลือเกิน ร่างกายจับเข้าเป็นกายใหม่ พอเป็นกายเต็มแล้ว นายนิริยบาลก็เอาหอกเที่ยวไล่แทง บังคับให้ขึ้นไปอยู่บนดอกบัวอีกตามเดิม ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่อย่างนี้ถึง ๘๐๐๐ ปีนรกสบายๆ โทษอะไร ก็ไม่ต้องบอกกันมาก กรรมบถ ๑๐ ยังไงล่ะ ไม่เคารพ เอาละ บรรดาพุทธบริษัทและพระคุณเจ้าที่เคารพ วันนี้เห็นจะผ่านกลุ่มนรกไม่ได้นานเสียแล้ว เพราะเวลามันหมด เหลือเวลานาที ๒ นาทีเท่านั้น เป็นอันว่าวันนี้พักตรงแค่นี้ก่อนนะ แล้วก็ยังไม่กลับ นอนพักมันอยู่ตรงนี้แหละ นอนพักมันอยู่ตรงขอบนรกขุมที่ ๕ นี่ก่อน ยังไม่ต้องกลับ พวกเราไม่หิวไม่โหยอะไรนี่ แล้วก็นอนดูให้สบายถึงการลงโทษ มองดูให้สบายถึงจริยาของพระยายม อ้อ ของนายนิริยบาล ไม่ใช่พระยายม แล้วก็ดูการทุกข์ทรมาน จะได้จำเอาไว้ เวลาที่พักผ่อน ถ้ารู้สึกว่าร่างกายสบายก็เดินไปดูนรกตั้งแต่ขุม ๕ ถึงขุม ๑ จำปฏิปทาไว้ ถ้าอยากจะมาขุมไหนกลับไปบ้านตั้งใจบำเพ็ญบารมีแบบนั้น เขาอนุญาตให้มา ทางนรกไม่ปิดบัง

            เอาละทุกท่านเวลานี้ เวลาก็หมดเสียแล้ว ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชน และพระคุณเจ้าที่รับฟังทุกท่านสวัสดี.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×