ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บ่มเพาะจินตนาการวันละนิด

    ลำดับตอนที่ #2 : เก้าอี้คู่รัก

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ย. 52


    จะผิดไหมถ้าฉันจะรักใครที่มีเจ้าของ

    วันที่ 11/9/09 
    มา ณ จุดเดิม ที่ยืนรอสามีมารับ แต่วันนี้รู้แก้วเพราะโทรไปบอกแล้ว ทำเสียงอึกอัก เลยรู้ทันทีว่า งานนี้มาช้าแน่นอน 
    ไม่ได้การขืนยืนรอมีหวังเมื่อยแน่นอน หลังจากคิดได้ว่า ควรหาที่นั่ง ก็ส่งยิ้มให้กับแม่บัว ระงับโทสะ หนึ่งที 

    ก่อนที่จะพาร่างอันอวบอั๋นของตนเองซึ่งมีอายุอายุนามเข้าวัยกลางคน เดินหอบหิ้วสัมภารก (ขอเรียกว่า สัมภารก เพราะมันเกินจะเป็นสัมภาระได้) ทั้งกระเป๋าถือสีน้ำตาลภายในมีโน้ตบุ๊คตัวเก่ง 

    (ขอนินทาโน้ตบุ๊ค สักเล็กน้อยก่อนจะไปเขียนต่อ สงสัยเจ้าแก้วสารพัดนึกสองสามวันนี้ จะเจริญอาหาร มันหนักเหลือเกิน หาสาเหตุไม่ได้ เอาไว้จะมาเขียนนินทาต่อทีหลังนะ)

    กับกระเป๋าผ้าใบเล็กที่อัดแน่นไปด้วยสรรพสิ่งของมากมาย หยิบออกมาเรียงกันคงจะยาวเป็นกิโลมั๊ง (เว่อร์ไปหรือเปล่า) จากตำแหน่งที่แม่บัวตั้งอยู่ ต้องก้าวเท้าอย่างระมัดระวังมาอีกประมาณเกือบสิบก้าว หันมองไปทางขวามือ จะเห็นคู่รักคู่หนึ่งตั้งหน้าตั้งตารอคอยผู้มาเยือนอย่างขมักเขม้น 

    ทั้งคู่เดาได้ว่าเคยเป็นสีขาวมาก่อน แม้ปัจจุบันจะไม่ใสสะอาดและมีสีออกขุ่น แถมเนื้อหนังมังสาที่เคลือบก็หลุดร่อนเป็นหย่อม ๆ ก็ตาม แต่ก็ไม่เคยเห็นมีใครจะรังเกียจ ต่างพากันมุ่งหน้ามาหาทั้งคู่เมื่อยามต้องรอ หรือรู้สึกเมื่อย ทั้งคู่ทำหน้าที่ของตนเองอย่างแข็งขันด้วยขาทั้งสี่ที่ยืนอยู่บนก้อนหินก้อนเล็กก้อนน้อย 

    แม้บางครั้งต้องรับน้ำหนักของผู้คนที่ผ่านไปมาคนแล้วคนเล่า มากบ้างน้อยบ้างตามโอกาส เขาทั้งสองไม่เคยบ่นให้ใครได้ยิน ไม่นึกรำคาญใจ แม้ผู้ที่มาพักอาศัยจะมีจำนวนมาก และเอ็ดอึง แต่กลับเป็นผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างหาก ที่หันมามองด้วยสายตา และสีหน้าไม่พึ่งพอใจกับเสียงที่โวกเวกโวยวายของใครบางคน 

    เท่าที่เคยสังเกตุเห็น บางวันคู่ของมันก็อันตรธานหายไปจากตำแหน่งเดิม วันนั้นหากฉันได้มานั่งลงก็จะรู้สึกว้าเหว่ไปกับเขา เหมือนเฉกเช่นว่า เขาจะถ่ายทอดความเศร้าอาดูร ความคิดถึงใครบางคนส่งผ่านมาสู่กระแสพลังในตัว ฉันเองอยากภาวนาให้ผู้มีใจบุญนำพาคู่ของเขากลับมาไว้ยังตำแหน่งเดิมเหลือเกิน 

    แม้บางคราวทั้งคู่อาจเจอผู้รุกรานด้วยการถ่ายหนัก และถ่ายเบาทิ้งไว้ จนกลิ่นเหม็นโชยเป็นระลอกคลื่นตามกระแสลมที่พัดเอื่อย ฉันก็ยังคงเห็นเขาทั้งคู่ยืนหยัดอย่างทรนง และไม่ย่อท้อต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าของสถานที่  แม้บางครั้งจะเจอแดดร้อน เจอฝนกระหน่ำจนเปียกปอน นั่นก็ไม่ใช่สาเหตุให้ทั้งคู่ละทิ้งหน้าที่สำคัญนั่นได้ 

    ทำให้ฉันได้คิดว่า  การที่เรามีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ควรอดทนต่อสู้กับอุปสรรคโดยไม่ย่อท้อ บางครั้งอาจจะเจอกับสิ่งที่ทำให้ร้อนใจ หรือเสียวสันหลังไปบ้าง หากเรายังคงทำหน้าที่ของตนเองอย่างซื่อสัตย์ ก็ไม่ควรจะไปหวั่นวิตกกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น จงลุกขึ้นสู้ต่อไป  

    วันนี้คุณสามีออกมาเร็วกว่าที่คาดไว้ ทำให้เขียนได้ไม่ยาวมาก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×