ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF B.A.P] โปรเจ็ค :: ปิดเทอมเดอะซีรี่ย์

    ลำดับตอนที่ #1 : โปรเจ็ค :: ปิดเทอมเดอะซีรี่ย์ ๑.สอบแก้ [BangLo]

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 56



    “อ่าวๆ ทุกคนเงียบหน่อย” เสียงเข้มติดสำเนียงบ้านๆของครูประจำชั้นดังขึ้น แต่ดูท่าว่าจะไม่มีผลไรตอบกลับมาเลย นอกจากเสียงที่ดังขึ้นมากกว่าเดิม

    “เฮ้ยเงียบหน่อยสิวะ!!! ไอพวกเด็กบ้านี่” ได้ผล...นักเรียนทั้งหลายเงียบลงพร้อมกับนั่งหน้าสลอนสงบเสงี่ยมทันที ครูวัยหนุ่มยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ

    “ดีมาก เชื่อฟังแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย วันนี้ทุกคนคงรู้แล้วสินะว่าเรามาทำอะไรกัน...ครับ”

    “ถ้าไม่รู้พวกผมคึงไม่มาหรอกครับ”

    “เงียบไปเลยไอตาตี่ ถ้าไม่ติดว่าฉันเป็นครูดีเด่นหนึ่งปีซ้อนนี่ตบคว่ำไปนานแล้วนะเว้ย!

    “ชิ! ไอดำเอ้ย”

    ตึ่ง!!

    คนเป็นครูตบต๊ะเสียงดังอย่างเหลืออดก่อนจะชี้นิ้วคาดโทษไปยังเด็กหนุ่มตาตี่ที่นั่งอยู่หลังห้อง

    “อ..ไอ้เด็กนี่หนิ ฉันเป็นครูแกนะเว้ย!

    “ก้หัดทำตัวให้เหมือนครูหน่อยสิวะ!

    “ฉันควรทำยังไงกับแกดีวะเนี้ย? ...ช่างเหอะ เอาล่ะ วันนี้เราจะมาทราบผลสอบกันนะ ซึ่ง!.....” ร่างสูงเว้นวรรคไปชั่วขณะเพื่อหยุดหายใจ แต่หารู้ไม่ว่าเด็กนักเรียนกำลังลุ้นจนแทบจะคว่ำโต๊ะกันอยู่แล้ว

    “...............ครูจะไม่บอก”

    “โหยยยยยยย~!!” ...ครูนี่กวนตี-นชิ-บหาย... นั่นคือสิ่งที่นักเรียนทุกคนในห้องคิด”

    “อะไรๆ ครูติดไว้ให้ดูหลังห้องแล้วโว้ย” นิ้วยาวๆชี้ไปยังกระดาษรีไซเคิลสีน้ำตาลเก่าๆที่ติดเรียงอยู่หลังห้องตามรายวิชา

    “เห็นแล้วนะ ครูไปล่ะ” ว่าแล้วก็โบกมือลานักเรียนที่น่ารัก(ไปฆ่า)ของตัวเองและเดินจากไป

    “เดี๋ยวครับครู ครูจะไม่พูดตักเตือนอะไรพวกเราหน่อยเหรอครับ นี่วันสุดท้ายของปลายเทอมสองแล้วนะครับ” เสียงของหัวหน้าห้องดังขึ้น ร่างของครูประจำชั้นชะงักก่อนจะหันมามองด้วยความหน่ายๆ

    “เวลาฉันพูดไปพวกแกเคยฟังด้วยเหรอวะ? พูดไปกี่ครั้งๆก็ไม่เคยทำตาม ไอพวกเด็กเว-ร...” พูดจบก็เดินออกจากห้องไปแบบเท่ห์ๆเหมือนพระเอกหนัง แต่ดูให้ตายยังไงก็ไม่เหมือน

    .

    .

    .

    ร่างสูงบางกำลังไล่ดูผลคะแนนของตัวที่อยู่หลังห้องทีละใบอย่างอารมณ์ดี

    “ผ่าน.........................ผ่าน..................ผ่าน................ผ่าน..............ผ่าน......................ผ่าน............ผ..เห้ย!!! ไอร่ำวพเอนื้ยวพดส้!!!” เสียงเล็กโวยวายออกมาทันทีเมื่อเห็นคะแนนบสุดท้าย ...ทำไมวะ ทำไม!...

    “เป็นไรวะเซโล่ โวยวายซะห้องเกือบแตก” เพื่อนตาตี่ถาม คนถูกเรียกหันไปมองด้วยสายตาที่เหมือนจะร้องไห้

    “มึงดูดิ ไหงมันเปนงี้วะ! T[]T” นิ้วเรียวชี้ไปยังใบคะแนนที่แปะอยู่บนฝาผนัง คนตาตี่เอียงคออย่างสงสัยก่อนจะเดินเข้าไปดูใบคะแนนที่ไอ้เพื่อนตัวขาวมันชี้ให้ดู

    ชเว จุนฮง  35/60  ตก

    “เห้ย! เป็นไปได้ไงวะ?!

    “นั่นดิ! ทำไมวะ กูมั่นใจนะเว้ยว่ากูอ่านมาแล้ว กูผ่านชัวร์ๆ แล้วนี่อะไรวะ”

    “เออว่ะ แต่ทำไมกูลอกมึงแล้วกูผ่านวะ?” ร่างบางหันขวับไปมองอย่างไม่เชื่อหู ส่วนอีกฝ่ายก็ได้แต่ทำหน้าตาเฉยเมยเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา

    “ว่าไงนะ!! มึงลอกข้อสอบกูอ่อ!!!

    “เออ แต่กูเปลี่ยนไปบางข้อไง ไม่คิดว่ามันจะถูกว่ะ” ยิ้มหวานแฉ่งให้เพื่อนตัวสูงที่จะร้องไห้อยู่รอมร่อ

    “ฮิอออออออออออออออออออ~ ไอเชี่ยมุนจงออบ มึงมันเลว มึงมันชั่ว ไอเพื่อนทรยศ โฮฮฮฮฮฮฮฮ~ TOT” ร่างของจุนฮงถลาเข้าแปะกับฝาผนังด้วยความเจ็บปวดใจ ..ทำไมกัน ทั้งๆที่เค้าตั้งหน้าตั้งตาอ่านแทบตาย ผลที่ได้? เสลดเป็ด! TOT...

    “ไม่เป็นไรนะจุนฮงจัง สู้ต่อไป...ทาเคชิ” จงออบเดินเข้าไปตบบ่าคนที่แปะกับฝาผนังร้องไห้กระซิกๆ

    “ทาเคชิพ่อง.. เก็บคำพูดไว้ต่อยอดความสูงเหอะไอเชี่ยมุน! กูเกลียดมึง! กูโป้งมึง 5 นาที โฮฮฮฮฮฮ~ TOT

    .

    .

    .

    ห้องพลศึกษา

    ร่างบางเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องพลศึกษาเล็กๆของโรงเรียน ยืนถอดหายใจปลงกับชีวิตสักพักจึงเปิดเข้าไป กวาดสายตามองหาเป้าหมาย ...ไม่เจอ ครูหายไปไหนกันหมด...

    “ครูครับ... อยู่รึเปล่า?” ไม่มีเสียงตอบรับใดๆกลับมา จุนฮงเดินตรงไปยังโต๊ะของครูประวิชาที่สอนห้องตนเอง

    “หูยยยยย~” เสียงทุ้มติดห้วนดังเล็ดลอดออกมาจากใต้โต๊ะ จุนฮงมองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้มาจากทางอื่นก่อนจะเอี้ยวตัวไปข้างหน้ากุ้มลงมองต้นเหตุของเสียง ใต้โต๊ะทำงานปรากฏร่างของบุคคลซึ่งกำลังเพลิดเพลินกับการอ่านหนังสือในมือเหลือเกิน แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่ลงไปอ่านใต้โต๊ะทำไม?

    “ครูบังยงกุก!!

    “เห้ยย!!” ร่างที่อยู่ใต้โต๊ะรีบพุ่งขึ้นมาแทบจะทันทีแถมยังไม่ลืมแอบหนังสือที่อ่านซ่อนไว้ข้างหลังพร้อมยิ้มแฉ่งให้ร่างบางที่จ้องตนตาแป๋ว ...ครูเป็นบ้าอะไรวะ...

    “ว..ว่าไงจุนฮง”

    “ครูลงไปอ่านหนังสือข้างล่างทำไมครับ?”

    “ห..ห้ะ? อ..อ๋อ ข้างบนมันมีแสงน่ะ ครูมองไม่เห็นเลยลงไปอ่านข้างล่าง” งสูงแถอย่างหน้าด้านๆ ใครเชื่อก็ควายเรียกพี่แล้ว...

    “อ๋อครับ...” แต่ไอเด็กนี่ดันเชื่อซะนี่!! เวรกรรมจริงๆ...

    “แล้วนายมาหาครูนี่มีอะไรรึเปล่า”

    “ผม..ตกวิชาของครูน่ะครับ” จุนฮงก้มหน้าหงอยๆ เล่นเอาคนตรงหน้าคิดสงสาร

    “ครูเพิ่มคะแนนให้ผมไม่ได้เหรอครับ! อีกแค่คะแนนเดียวผมก้จะผ่านแล้วอ่ะ! นะๆๆๆๆๆ อีกนิ๊ดเดียวเอง” จู่ๆไอคนที่ก้มหน้างุดๆก็เด้งตัวขึ้นมาเล่นเอาซะคนเป็นครูต้องใจเกือบหงายหลัง

    “ม..ไม่ได้!!

    “ทำไมอ่ะครู แค่คะแนนเดียวเอง นะๆๆๆๆ”

    “ไม่ได้เว้ย! ครูเป็นแค่ครูฝึกสอน ถ้าแบบนั้นแล้วครูคยอื่นรู้ล่ะก็มีหวังตายอย่างเขียด”

    “ฮึก....ครูอ่า T[]T

    “ไม่ต้องมาครูอ่งครูอ่าเลย สอบแก้เอาดิวะ ...อ่ะ เอาไป มานั่งข้างๆนี่” ว่าแล้วก็ควานหาข้อสอบบนโต๊ะเพื่อให้ไอเด็กตัวขาวนี่เลิกตอแยสักที จัดการยกเก้าอี้ของครูโต๊ะข้างๆมาให้นั่ง จุนฮงรับใบข้อสอบมาอย่างกระฟัดกระเฟียดแล้วกระแทกตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างแรง

     

    1 ชั่วโมงผ่านไป

    “ครู...ครู....ครูยงกุกโว้ยยยยยย!!!” จุนฮงเขย่าร่างของยงกุกที่นอนฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ร่างสูงสลึมสลือตาปรือขึ้นมา

    “หือออออออ อาไร~

    “เสร็จแล้ว” มือเรียวยื่นกระดาษคำตอบไปให้ ส่วนไอคนที่กำลังงัวเงียได้ที่ก็ได้รับมาแบบมึนๆ ยงกุกนั่งตรวจไปได้สักพักก็หันมามองคนที่จ้องตัวเองตาแป๋ว

    “แน่ใจนะว่าคิดแล้ว?”

    “ทำไมอ่ะ”

    “ไม่ผ่าน” ประโยคสั้นๆก็ทำให้ไอเด็กตัวขาวลุกขึ้นมาโวยวายอีกรอบ

    “ไหงงั้นอ่ะครู ผมตั้งใจทำแล้วนะ! ครูโกงปะเนี่ย”

    “ตลกแล้วไอเผือก ฉันมีจรรยาบรรณความเป็นครูพอเว้ย!” ยงกุกเขกตัลูกศิษย์ปากเสียไปหนึ่งที แล้วหยิบกระดาษคำตอบแผ่นใหม่ขึ้นมาให้

    “ทำใหม่?!!

    “เออ!!

    “โหยยยยย~ ครูยงกุก ครูไม่สงสารเด็กตาดำๆอนยย่างผมบ้างเหรอ หื้มมมมม~” จุนฮงเริ่มเข้าไปคลอเคลียกับแขนของยงกุกทำเอาใบหน้าของครูหนุ่มเริ่มขึ้นสี ...ทำไมไอเด็กนี่มันตัวนุ่มนิ่มจังวะ...

    “ท..ทำๆไปเหอะน่า อยากจะผ่านมั้ย? แล้วเลิกคลอเคลียสักที! ครูรำคาญ!” ร่างสูงผลักหัวของจุนฮงออกเบาๆ

    “ฮืออออออ ครูใจร้าย ผมโป้งครู 2 นาที T[]T“ คนตัวขาเริ่มงอแงอีกรอบแต่ก็ยอมหันกลับไปทำข้อสอบใหม่อีกครั้งโดยมีสายตาของครูใจร้ายมองอยู่ตลอด ...มันน่ารักดี...

     

    1 ชั่วโมงผ่านไป

    “เสร็จแล้ว!!” ยงกุกสะดุ้งกับเสียงที่ตะโกนออกมา เขารับข้อสอบมาตรวจแล้วหันมองคนข้างๆอย่างหน้าตาย

    “ไม่ผ่าน...”

    “อะไรวะ! อีกและ!” จุนฮงแทบจะทิ้งหัวตัวเองเมื่อได้ยินคำเดิมที่มันช่างเสียดแทงใจเหลือเกิน ร่างสูงลอบยิ้มกับท่าทางน่ารักของลูกศิษย์ตัวขาวแล้วหยิบกระดาษคำตอบแผ่นใหม่มาให้อีก

     

    1 ชั่วโมงผ่านไปอีกครั้ง

    “ไม่ผ่าน”

     

    1 ชั่วโมงผ่านไปอีกครั้งและอีกครั้ง

    “ไม่ผ่าน”

     

    1 ชั่วโมงผ่านไปและของและอีกครั้ง

    “ยังไม่ผ่าน”

     

    1 ชั่วโมงผ่านไปและของและของโคตรและอีกครั้ง

    “ไม่ผ่าน”

    “ไม่ทำแล้ว T^T

    “ทำไมล่ะ? ยังไม่ผ่านเลยนะ”

    “ก็เพราะไม่ผ่านสักทีไงผมถึงไม่อยากทำแล้ว เอาไว้พรุ่งนี้แล้วกันนะครู ตอนนี้ผมโคตรหมดแรงเลยเหอะ ลาล่ะครับ” จุนฮงลุกขึ้นก้มหัวให้ยงกุกหนึ่งทีแล้วเดินกระฟัดกระเฟียดออกจากห้องไป

    “เดี๋ยวจุนฮง!” งบางชะงักก่อนจะหันมาทำตาแป๋วใส่ยงกุก

    “ครับ?”

    “น..นายกลับบ้ายังไง”

    “บินไปครับ” ร่างสูงแทบจะล้มทั้งยืนเมื่อได้ยินคำตอบหน้าตายของลูกศิษย์ ...นี่ถ้าไม่เห็นว่าน่ารักพ่อจับยัดท่อแปีปแล้วถ่วงลงน้ำจริงด้วย...

    “ชเว จุน ฮง”

    “ฮ่ะๆ ไม่รู้สิครับ รถเมย์ล่ะมั้ง”

    “........ให้ครู.....ไปส่งมั้ย?”

     

    “อืม...........ถ้ามันไม่ทำให้ครูลำบากก็โอเคครับ” คำตอบที่ได้แทบจะทำให้ยงกุกวิ่งสี่คูณร้อยไปสตาร์ทรถรอ จุนฮงส่งยิ้มหวานให้หนึ่งทีก่อนจะเดินลงไปรอข้างล่าง ร่างสูงที่ยืนเอ๋อหลงกับรอยยิ้มนางฟ้านั้นเมื่อได้สติก็รีบกวาดของทุกอย่างใส่กระเป๋าแล้ววิ่งจ้ำอ้าวตามลงไป

    .

     

    .

     

    .

    ยงกุกเดินนำหน้าเด็กตัวขาวที่กำลังสะพายเป้เดินเตาะแตะตามมา จุนฮงหยุดชะงักเมื่อเห็นรถที่จะไปส่งตนกลับบ้าน ...นั่นมันชอปเปอร์ไม่ใช่เหรอวะ?!...

    “ครู! ฯณ๔ครูอ่อ?” เด็กตัวขาวถามอย่างตื่นเต้น ไม่คิดว่าชาตินี้จะมีบุญได้นั่งรถโก้ๆแบบนี้ ยงกุกจัดการขึ้นคร่อมชอปเปอร์สุดแล้วหันมาขมวดคิ้วใส่

    “ก็เอไง...ขึ้นมาสิ” โยนหมวกกันน็อคไปให้เด็กตาวิบวับ จุนฮงพยักหน้ารัวๆและรีบวิ่งขึ้นไปนั่งก่อนที่ชอปเปอร์สุดเท่ห์จะพุ่งตัวออกไปอวดสายตาผู้คนที่อยู่นอกรั้วโรงเรียน

     

    “นี่จุนฮง!” เสียงคนที่มีหนาที่ขี่รถพาคนซ้อนท้ายส่งบ้านดังขึ้น จุนฮงเอี้ยวตัวไปข้างหน้าจนแนบชิดไปกับแผ่นหลังแกร่งเพื่อที่จะฟังได้ถนัดๆ ยงกุกสะดุ้งเล้กน้อยแต่ก็เกือบพารถลงข้างทางแล้วเหมือนกัน ...ไอเด็กบ้านี่หนิ...

    “ครับ?”

    “ว..แวะกินไอติมกันมั้ย?”

    “ไอติมเหรอ?! เอาสิๆๆๆ ผมอยากกินไอติม!” เด็กตัวขาวดีใจจนออกนอกหน้า ยงกุกยิ้มเล็กน้อยกับนิสัยเด็กๆของลูกศิษย์ม.ปลายจึงหักเลี้ยวเข้าร้านไอติมเล็กๆที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากโรงเรียนเท่าไหร่นัก

    ชอปเปอร์คันเท่ห์จอดเทียบริมฟุตบาทหน้าร้านไอติม จุนฮงกระโดดลงจากรถแทบจะทันทีทั้งที่ยังจอดไม่สนิท ร่างบางรีบวิ่ดุ๊กดิ๊กเข้าไปในร้าน จับจองที่นั่งเสร็จสรรพ ยงกุกที่เคลียร์เรื่องจอดรถเป็นที่เรียบร้อยก็เดินเข้ามานั่งยังฝั่งตรงข้ามกับไอเด็กเผือก

    “สวัสดีค่ะ Baby’icecream ยินดีต้อนรับค่ะ” หญิงสาวหน้าน่ารักเดินเข้ามาพร้อมกับเมนูของร้าน เธอยื่นใบเมนูให้กับทั้งคู่แล้วยิ้มหวาน

    “ผมเอา......อันนี้” จุนฮงชี้ไปยังรูปไอศกรีมช็อกโกแลตประดับตกแต่งไปด้วยเยลลี่และป๊อกกี้ ข้างบนถูกวิปครีมสีขาวทับอย่างพูนๆ พนักงานสาวพยักหน้ารับและก้มลงจดรายการในกระดาษ

    “ของผมเอาเป็นรสสตรอเบอร์รี่สองลูกครับ” เธอจดยุกยิกๆลงในกระดาษอีกครั้งแล้วจึงเก็บเมนูเดินออกไป

    “ผมไม่อยากจะเชื่อว่าครูจะกินไอติมรสนี้”

    “ทำไมล่ะ”

    “ก็หน้าครูมันไม่เหมาะกับอะไรหวานๆนี่”

    “ทำไมถึงว่าครูไม่เหมาะ”

    “ก็หน้าครูเถื่อน...” คำตอบที่ไร้เดียงสา แต่ก็ทำเอาคนฟังเก็บเหงือกลงทันที ...ตบมันคว่ำตรงนี้จะเป็นไรป่ะวะ...

    “เห้ยๆๆใจเย็นเว้ยครู ถึงหน้าคึรูเถื่อนแต่ครูก็หล่อนะ ผมยังชอบเลย” ไปพูดเปล่ายังยกนิ้วยืนยันความหล่อให้กับคนตรงหน้า ร่างสูงยิ้มน้อยยิ้มมหญ่เหมือนคนบ้า

    ไม่นานนักไอศกรีมที่สั่งก็ได้ฤกษ์มาเสิร์ฟ  ร่างบางที่ดูจะตื่นเต้นไม่รอช้ารีบช้อนแล้วจ้วงเอาๆเหมือนอดอยากมานานนับปี

     

    “ช้าๆก้ได้ จะรีบไปออกรบรึไง? กินเลอะเทอะเหมือนเด็กห้าขวบเลย” พูดแล้วเอื้อมมือไปเช็ดปากให้เด็กห้าขวบในร่างมัธยมปลาย และทุกอย่างก็เหมือนหยุดหมุน เมื่อสายตาของทั้งสองประสานกัน ใบหน้าขาวที่มองจากระยะไกลก็ว่าน่ารักแล้ว ได้มามองในระยะประชิดแบบนี้มันทำให้ดูน่ารักมากเข้าไปอีก อาจจะน่ารักกว่าผู้หญิงหลายคนด้วยซ้ำ จุนฮงจ้องตาคมจนใบหน้าเริ่มแดงก่ำ เมื่อตั้งสติได้จึงสะบัดหน้าหนีแล้วหยิบทิชชูมาเช็ดปากเอง

    “ค..ครูอ่า! ผ..ผมไม่ใช่เด็กห้าขวบนะ!” ตอนนี้ชเวจุนฮงอยากจะระเบิดตัวเองตายมาก เขิน...เขินจริงๆ

    “ก.ก็ไม่ใช่ก็เหมือนใช่นั่นแหละ” ไอคนนี้ก็ไม่ได้เขินน้อยไปกว่ากัน ยังดีที่พอจะเก็บอาการหน้าแดงได้อยู่บ้าง

    “ฮึ่ย! กินไอติมของครูต่อไปเลย!” ร่างบางฮึกฮัดอย่างขัดใจก่อนจะกลับไปจ้วงไอติมเข้าปากอย่างเดิม

     

    ถึงเวลาที่ต้องไปส่งไอเด็กเผือกนี่กลับบ้านจริงๆซะที ยงกุกขี่ชอปเปอร์คู่ใจไปตามทางที่คนซ้อนท้ายมันบอก แต่รู้สึกว่าจะวกไปวนมาวนนู้นวนนี้จนเขาเริ่มมึน ...จำทางกลับบ้านตัวเองไม่ได้รึไงไอเบื๊อก - -...

    “เลี้ยวนี่เลยครู ทางนี้ๆ! ...อ่าว ครูหยุดไมอ่ะ” ร่าวบางเหวงออกมาทันทีเมื่อจู่ๆไอคนทีทให้ซ้อนดันเลี้ยวจอดข้างทางซะงั้น

    “คิดจะแกล้งครูรึไง”

    “อะไร ผมเปล่า” จุนฮงทำตาแป๋วไร้เดียงสา แต่ขอโทษ...คนอย่างบังยงกุดอาบน้ำร้อนมาก่อนเว้ย เรื่องอะไรจะไม่รู้ว่าเด็กนี่พายามแกล้งให้เขามึนหัวเล่น

    “จุนฮง...ไม่เล่น” ร่างสูงพูดเสียงเข้ม คนซ้อนท้ายจิ๊ปากอย่างขัดใจเล็ก้อยบ่นมุบมิบงุ้งงิ้งๆคนเดียว

    “ก็ได้ๆ ตรงไป เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา แล้วก็เลี้ยวซ้ายอีก เลี้ยวขวาอีกหน่อย....” ยงกุกมองคนที่ยังไม่เลิกแกล้งนิ่งๆ แต่มันก็ดูน่ากลัวมากทีเดียว

    “ตรงไปแล้วเลี้ยวซอยข้างหน้านั่นครับ..” จุนฮงตอบเสียงอ่อนก้มหน้างุดๆ  ร่างสูงอมยิ้มก่อนจะออกรถไปตามที่อีกคนบอก

     

    เอาจริงๆนะ บ้านของไอเด้กเผือกนี่ไม่ได้อู้ลึกลับหรืออะไรเลยแต่เจ้าตัวมันทำลึกลับเองต่างหาก  ชอปเปอร์เคลื่อนตัวเข้ามาจอดที่หน้าเดี่ยวสีครีมขนาดกลบางที่ปลูกต้นไม้เต็มไปหมด จุนฮงกระโดดลงทันทีที่รถจอดสนิท

    “ขอบคุณครับที่มาส่ง ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้นั่งชอปเปอร์ ผมรู้สึกว่าตัวเองโคตรเท่ห์อ่ะ”

    “ขอบใจนายที่แกล้งให้ครูหลงทางด้วยละกัน”

    “ครูอ่า! ไม่คุยกับครูแล้ว -3-“ ใบหน้าหวานสะบัดหนีเพราะความงอนก่อนจะเปิดประตูรั้วเดินเข้าบ้านไป

    “จุนฮง!!” เจ้าของฃื่อกันมาตามเสียงเรียกพร้อมกับทำหน้าสงสัย

    “อย่าลืมอ่านหนังสือมาสสอบแก้ล่ะ! พรุ่งนี้เจอกัน 10 โมงนะ!!

    “ครับ!! ผมจะต้องผ่านให้ได้ บ๊ายบาย” ร่างบางโบกมือโหยงๆแล้วเดินเข้าบ้าน ยงกุกฉีกยิ้มจนเหงือกแทบปริแล้วขับชอปเปอร์กลับที่พักของตัวเองอย่างมีความสุข

    ตกดึก

    “โอ้ยยยยยยยยยย~!!!! ทำไมทันยากงี้วะ TOT” เสียงใสๆบ่นออกมาเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ เขานั่งอ่านมันมาตั้งนานแล้วนะ แต่อ่านเท่าไหร่ก็จำไม่ได้สักที สุขศึกษามันยากหรือสมองของเขามันมีรอยหยักในสมองน้อยกันแน่

    ยูยองแจ!!! เปิดประตูให้ฉันเข้าไปเดี๋ยวนี้นะ!!! ไอหมู!!’ จุนฮงสะดุ้งโหยงกับเสียงที่ตะโกนอยู่หน้าบ้าน เขารีบเดินมามองยังนอกหน้าต่าง ร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่งกำลังยืนเกาะรั้วตะโกนเรียกเจ้าชองบ้านข้างๆอย่างอารมณ์เสีย

    หุบปากเดี๋ยวนี้นะไอครูเหยิน!!! อย่าคิดว่าพ่อแม่ไม่อยู่แล้วจะทำตัวกร่าได้นะเว้ย!!!’ สักพักก็ต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงตะโกนตอบรับไปยังบุคคลหน้ารนั้ว ร่างอวบๆของเพื่อนข้างบ้านแถมยังเป็นเพื่อนร่วมห้องของเขายืนเท้าเอวชี้หน้าคู่กรณีอยู่บนระเบียง

    ถ้านายไม่ลงมาเปิดประตูให้ดีๆ ฉันก็จะตะโกนอยู่ตรงนี้แหละ อย่าคิดว่าไม่กล้านะเว้ยยูยองแจ!!!!!’ จากั้นก็มีเสียงทะเลากันดังโหวกเหวกไปทั่วะตามมาอีกระรอกจนจุนฮงอยากจะหนีจากบ้านหลังนี้ไปซะให้ได้ ...แล้วแบบบนี้จะอ่านหนังสือรู้เรื่องเหรอ จะผ่านรึเปล่าเนี้ย T^T...

    ครืดดดดดดดด....ครืดดดดดดด...

    จุนฮงหันไปมองโทรศัพท์เคสสีชมพูของตัวเองที่นอนดิ้นๆอยู่บนที่นอน ร่างบางเบ้ปากนิดๆก่อนจะเดินไปหยอบขึ้นมาดูว่าเป็นใคร

    -ตี๋มุน-

    “ว่าไงเชี่ยมุน” นิ้วเรียวกดรับสายอย่างเซ็ง แต่เสียงที่กรอดผ่านสายไปนั้นเซ็งยิ่งกว่า

    “ฮือออ มึง...กูเกลียดไอครูดำ กูเกลียดมัน ฮิอออออออ T^T” ปลายสายปล่อยโฮออกมาทำเอาจุนฮงถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก

    “มึงเป็นเสลดเป็ดอะไรครับ เล่าให้มันชัดๆดิ๊”

    “กูไม่เล่า! กูเจ็บ ฮือออออออ T^T” สาบานว่าถ้าไอคนที่โทรอยู่ตรงหน้า จะตบกบาลแยกเลยจริงๆ

    “งั้นแค่นี้นะ กูต้องอ่านหนังสือ”

    “เดี๋ยวววววว~! มึงอ่า กูเล่าก้ได้ T[ ]T”ตาหวานกรอกไปมาอย่างเหนื่อยใจ จุนฮงกระโดดขึ้นไปนอนแผ่หลาบนเตียงเพื่อรอฟังเหตุการณ์ณืจากเพื่อนตัวเตี้ย

    “ก็แบบ ตอนนั้นอ่ะ...#%**&$)*^$%$@#%(&^# ฮืออออออ @#(*+_()(&|_&&^$$#*&*(*&*(^$#!@@!$#@#^ ฮือออออ )&&*%^%##&_+_)*(*&)(*^^ แล้วก็ $#$%)(&_ ฮืออออออออ $%#(_(*&_)*((*&^&%%%$#$)|+_(|+|+)((*&&$&^^(*_)+_*&$#$@)_|......” ปลายสายเล่าไปปล่อยโฮไปจนคนฟังแทบจะฟังไม่ออกแต่ก็ต้องทนฟังไปเพราะเดี๋ยวมันจะน้อยใจจนคิดฆ่าตัวตายขึ้น เขาจะแย่เอา - -

    “สรุป”

    “ไอดำนั่นมันปรับกูตกวิชามันด้วยอ่ะ เกี่ยวไรวะ แม่.ง! T^T

    “สมน้ำหน้า ..แต่มึงไม่ได้สอบแก้ของครูยงกุกตอนนี้ใช่ป่ะ?”

    “เออ ทำไมวะ?” ...นั่นสิจุนฮง ทำไม? ........มันก็แค่รู้สึก อยากสอบแก้วิชานี้คนเดียว

    “ก็...เอ่อ...ก็..ก็ ก็ของครูยงกุกแม่.งโคตรแก้ยากเลยเว้ย โคตรของโคตรยากเหอะ ยากโคตรพ่อโคตรแม่อ่ะ”

    “จริงเหรอวะ? ข้อสอบไม่ใช่ชุดเดิมเหรอ?”

    “เอ่อ..เออใช่ ข้อสอบคนละชุดกัน ยากกว่าชุดเดิมมาก กูอยากให้มึงอ่านหนังสือเยอะๆไง จะได้แก้รอบเดียวผ่าน”

    “กูรู้สึกสงสารมึงจับใจเลยว่ะเซโล่” ...ไม่ต้องก้ได้ กูรู้สึกมีความสุขมาก...

    “อ่อ แหะๆ”

    “เอ่อ! แล้ววันนี้มึงกลับบ้านกับใครวะ กูเห็นมึงซ้อนท้ายชอปเปอร์ออกนอกโรงเรียนไป” ประเด็นเก่าเพิ่งสางไป ประเด็นใหม่ก็ถูกประเคนมาให้อีกแล้ว

    “อ๋อ...ครูยงกุก ครูแกอาสามาส่งที่บ้าน แถมยังพากูไปเลี้ยงไอติมด้วย” จุนฮงยิ้มแก้มแทบปริและดูดี๊ด๊ามากเมื่อพูดถึงเรื่องของคนคนนี้

    “เลี้ยงไอติม? ครูยงกุกเนี้ยนะ? ทำไมเวลาสอนแกดูดุๆจังวะ ไม่น่าเชื่อว่าจะใจดีขนาดนี้”

    “อื้อ! โคตรใจดีเลยเหอะ ทั้งเท่ห์ทั้งใจดี ผิดกับในห้องเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ” ร่างบางกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงอย่างสนุกสนาน พอนึกถึงภาพลักษณ์ของบุคคลที่สามในระหว่างการสอนกับตัวตนจริงๆแล้ว ช่างไม่เหมือนเอาซะเลย

    “เสียงมึงโคตรดี๊ด๊าอ่ะชเว คิดอะไรกับครูเหงือกนั่นปะ?” จบประโยคนั้นร่างจุนฮงก็แทบจะคะมำล้มคว่ำจากเตียง รีบเด้งตัวขึ้นมานั่งตัวตรง หน้าขาวๆที่ตอนนี้เริ่มขึ้นสี หัวใจที่เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ

    “บ...บ้าป่ะวะ! จะคิดอะไรได้ไง นั่นครูนะเว้ย!

    “ทำไมวะ ครูเหงือหนั่นอายุห่างกว่าพวกเราไม่กี่ปีเอง”

    “ก..กูไม่ได้หมายถึงเองอายุเว้ย! ไม่คุยกับมึงแล้วไอเชี่ยมุน!” ว่าแล้วก็กดตัดสายเพื่อนตาตี่ทิ้งแล้วซุกหน้าแดงๆของตนลงกับหมอน

    “อ่านนหนังสือ! ใช่! อ่านหนังสือ” รีบกุลีกุจอไปอ่านหนังสือสำหรับสอบแก้ในวันพรุ่งนี้ต่อ แต่ดูท่าเนื้อหามันไม่ค่อยจะเข้าหัวเท่าไหร่นัก เพราะในหัวของเขาตอนนี้มีแต่ภาพของครูประจำวิชานี้เต็มไปหมด ...จะรอดมั้ย ชเวจุนฮง!...

     

    .

    .

    .

     

    เด็กตัวขาวเดินออกจากบ้านเตรียมพร้อมกับการไปสอบเต็มร้อย! รอยยิ้มหวานถูกส่งให้กับท้องฟ้ายามสายๆด้วยความสดใส

    “อ้าวเซโล่! ไปโรงเรียนด้วยเหรอวะ?” จุนฮงหันไปตามเสียงเรียกก็เจอกับเพื่อนข้างบ้านร่างอวบกำลังอยู่ในชุดนักเรียนเหมือนกันเขา

    “เออ กูจะไปสอบแก้ แล้วมึงไปทำไมวะ”

    “กูจะเอาของไปส่ง ใจจริงกูก็ไม่ได้อยากไปหรอกถ้าไอครูเหยินมันไม่บังคับ” ร่างอวบหน้าบูดขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงเหตุผลที่ต้องไปโรงเรียน

    “ถึงว่าล่ะ เมื่อคืนโคตรเสียงดัง”

    “โทษทีว่ะ ...ไปโรงเรียนกันเว้ย” มืออวบๆกวัดให้เซโล่เข้ามาหา แล้วจูงกันไปเหมือนเด็กอนุบาล

     

    “แยกกันตรงนี้นะ กูไปหาครูเหยินคิมฮิมชานล่ะ” ยองแจโบกมือลาแล้ววิ่งขึ้นตึกไปอีกทาง ส่วนเขาก็เดินไปห้องพลศึกษาเช่นเคย จุนฮงเปิดประตูเข้าไปแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง กวาดตามองหาเป้าหมาย ร่างสูงกำลังก้มหน้าทำงานงุดๆอยู่ที่โต๊ะไม่รับรู้ถึงการมาของเขาเลย ขายาวๆค่อยๆก้าวหาเป้าทีละนิด จน...

    ปัง!!!!

    “ครูยงกุก!!!!!!

    “ว้ายตาเถรยายกินลำไยน้ำลายยายไหลย้อน!!!!!” ร่างบางตบโต๊ะเสียงดัง ทำเอาคนที่นั่งทำงานอยู่ถึงกับสมาธิแตกรีบเด้งตึวขึ้นมากุมหน้าอกด้วยความตกใจ

    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ครูขี้ตกใจอ่ะ”

    “ก็นายเล่นมาไม่ให้ซุ่มให้เสียงแถมยังตบโต๊ะเสียงดังอีก ครูก็ต้องตกใจสิ ....มาถึงแล้วก็มาเลย เอาไปทำ” คนเป็นครูยื่นข้อสอบพร้อมกระดาษคำตอบให้จุนฮงที่กำลังยืนหัวเราะร่าอยู่อย่างนั้น ดวงตาคมเหล่มองคนตรงหน้าเป็นนัยว่าให้หยุด นิ้วเรียวยาวชี้ไปยังเก้าอี้ตัวข้างๆเชิงบอกให้มานั่งตรงนี้ ส่วนร่างบางก็ทำตามอย่างว่าง่ายก่อนจะก้มหน้าทำข้อสอบไป

     

    1 ชั่วโมงผ่านไป

    “เสร็จแล้ว!” จุนฮงยื่นกระดาษคำตอบให้คนข้างๆ ร่างสูงควานหาใบเฉลยสักพักจึงเริ่มตรวจ

    “มั่นใจว่าอ่านมา?”

    “มั่นใจ”

    “ไม่ผ่าน” ยงกุกพูดหน้าตายพร้อมกับยื่นกระดาษคำตอบใบใหม่มาให้ จุนฮงกระฟัดกระเฟียดแต่ก็ยอมทำใหม่ตามเคย

     

    1 ชั่วโมงผ่านตไปอีกครั้ง

    “เสร็จ! คราวนี้แม่.งต้องผ่านชัวร์อ่ะ” คนตัวขาวยื่นกระดาษคำตอบพร้อมกับความมั่นใจเต็มเปี่ยม

    “ถ้าไม่ผ่านล่ะ”

    “ผ่านแน่ๆ” เขาตอบอย่างมั่นใจ ร่างสูงยิ้มเยาะก่อนจะลงมือตรวจอีกครั้ง

    “โหจุนฮง! นายนี่สุดยอดเลย!” ยงกุกโผลงออกมาอย่างเหลือเชื่อจนคนที่นั่งข้างๆรีบบึ่งเข้ามาดูด้วยรอยยิ้มฉีกกว้าง

    “*[+++++++]*

    “ทำไปตั้งหลายรอบแล้วยังไม่ผ่านอีก!

    -_________-+++” ไอคนฉีกยิ้มกว้างแทบจะหุบยิ้มลงไม่ทัน ส่งสายตาเชิงชังไปให้ ยงกุกหัวเราะชอบใจแล้วส่งกระดาษคำตอบแผ่นใหม่ให้อีกครั้ง

     

    1 ชั่วโมงผ่านไปอีกแล้ว

    “ครั้งที่หนึ่งไม่ผ่าน ครั้งที่สองไม่ผ่าน ครั้งที่สามยังไงมันก็ต้องผ่านวะ!!” ร่างสูงหันมองใบหน้ามุ่งมั่นว่าตัวเองต้องผ่าน เมื่อรับมาตรวจก็ต้องขมวดคิ้วเป็นปม

    “จุนฮง.....เสียใจด้วยนะ”

    “น..นี่..นี่ผมยังไม่ผ่านอีกเหรอ?! อะไรวะ! ทำไมมันไม่เหมือนในหนังเลยอ่ะ โหยยย~” จุนฮงลุกขึ้นมากระฟัดกระเฟียดอีกครั้ง เขาอยากจะทิ้งหัวตัวเองซะตรงนี้ ...ทำไมวะ ทำไม!!!!...

    “นายผ่านแล้ว”

    “นั่นดิทำไมวะ!! .....ห้ะ?!!!!!!!!!!!! อะไรนะครู พูดอีกที ขอชัดๆ”

    “นาย ผ่าน แล้ว”

    “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!!! ผ่านแล้วๆๆๆๆๆ >[ ]<” เด็กตัวขาววิ่งไปทั่วห้องด้วยความดีใจก่อนจะกระโจนเข้ามากอดร่างสูง ยงกุกตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก เขินก็เขินอยากจะมุดดินหนีแต่ก็ทำไมไม่ได้

    “อ..เอ่อ จุนฮง”

    “ผ่านแล้วๆๆๆๆ >[ ]<

    “จ..จุนฮงปล่อยครูก่อน” เมื่อได้สติว่ากำลังทำอะไรอยู่ร่างบางก็รีบเด้งตัวออกกลับมานั่งก้มหน้างุดๆ ส่วนร่างสูงก็กลับไปทำงานของตัวเองต่อเพื่อแก้เขิน

    “ครู...”

    “ว่า?”

    “ว่างป่ะ?”

    “..ทำไม?”

    “......ไปส่บงผมหน่อยดิ” ยงกุกรีบหันควับมามองอีกคน จุนฮงพยายามเบนสายตาไปทางอื่นเลี้ยงไม่จ้องตอบ

    “ก็...ก็..ก็ ผมอยากนั่งชอปเปอร์!”  ร่างสูงหัวเราะออกมาเบาๆเพราะประโยคเด็กเผือกข้างๆก่อนจะเก็บของทั้งหมดลงในกระเป๋าเนื่องจากมันไม่ได้สำคัญมากนัก เอากลับไปทำที่บ้านคงไม่เป็นไร

    “จะนั่งอยู่ทำไมล่ะ ไม่อยากซ้อนท้ายรึไง” จุนฮงยิ้มแฉ่งรีบวิ่งดุ๊กดิ๊กลงไปรอซ้อนท้ายข้างล่าง ร่างสูงอมยิ้มเล็กน้อก่อนจะเดินตามเด็กไม่รู้จักโตออกไป

     

    ชอปเปอร์ของยงกุกเข้ามาจอดยังหน้าบ้านของจุนฮงเหมือนอย่างเมื่อวาน คนซ้อนท้ายกระโดดลงจากรถ โค้งขอบคุณยงกุกที่มาส่งแล้วเดินเข้าบ้านไป แต่จู่ๆเจ้าตัวก็วกกลับมาหาตนอีกครั้ง

    “มีอะไรรึเปล่า? ลืมกุญแจบ้าน?”

    “เปล่า...คือ ครูจะเข้าไปดื่มน้ำในบ้านผมหน่อยมั้ย?” จุนฮงพูดอย่างเก้ๆกั้งๆ ทั้งเขิน ทั้งทำตัวไม่ถูก จู่ๆก็ชวนคนอื่นเข้าบ้าน บ้าไปแล้ว!

    “อ..อ่า คอแห้งพอดีเลย” ร่างสูงไม่ขัดขืน ออกจะรู้สึกดีใจด้วยซ้ำ ยงกุกจอดชอปเปอร์ข้างๆรั้วแล้วเดินเข้าบ้านตามจุนฮงไป

    งสูงจับจองโซฟาหน้าทีวีเป็นที่นั่ง ก่อนกวาดสายตาไปรอบๆบ้าน พอดีกับที่จุนฮงเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับแก้วน้ำในมือ

    “น้ำครับ”

    “ขอบใจนะ....พ่อแม่นายไม่อยู่เหรอ?”

    “ไปทำงานแต่เช้าแล้วครับ ไม่มีใครอยู่หรอก ...ครูจะกินขนมป่ะ เดี๋ยวผมหยิบมาให้”

    “ไม่เป็นไรๆ” ร่างสูงปฏิเสธ แต่รู้สึกว่าไอเด็กนี่มันยัดเยียดอยากจะให้เขากินให้ได้

    “ไม่ต้องเกรงใจหรอกครู คนกันเอง! เดี๋ยวผมไปหยิบให้”

    “บอกว่าไม่ต้องไง ไอดื้อ” ยงกุกฉุดแขนร่างบางที่กำลังลุกขึ้นไปหยิบขนมมาให้จนเจ้าตัวเซล้มลงมาทับบนตักเขาพอดี สายตาทั้งคู่ประสานกันเป็นครั้งที่สอง แต่ดูท่าว่ารอบนี้มันทำให้ใจสั่นกว่าปกตินี่สิ! ไม่มีใครขยับเขยื่อนเหมือนทุกอย่างถูกหยุดเอาไว้ให้อยู่กับที่หมือนกำลังหยุดหายมใจ ใบหน้าคอมค่อยๆเลื่อนไปใกล้ๆใบหน้าหวานของคนบนตักอย่างช้าๆจนในทีสุดระยะห่างระหว่างริมฝีปากทั้งสองก็สิ้นสุดลง เป็นจูบที่ไม่จาบจ้วงไม่ลึกซึ้งแต่ยาวนาน มันช่างหวานและ...ไม่อยากหยุด

    “อ๊ะ...” ร่างบางรีบผละออกแล้วเด้งตัวกลับมานั่งปิดหน้าที่อีกฟากหนึ่งของโซฟา

    “อ..เอ่อ..จุนฮง ครู...”

    “ผมต้องตายแน่เลย เพราะครูคนเดียว”

    “ครูขอโทษ” ยงกุกเอ่ยออกมาพร้อมกับใจที่เต้นรัว กลัว..กลัวเหลือเกินว่าคนตรงหน้าจะเกลียดเขา

    “ผมรู้สึกแปลกๆ ครูทำให้ผมเป็นแบบนี้ ผมตายแน่” จุนฮงค่อยๆเลื่อนมือที่ปิดหน้าออกก่อนจะมองมาที่เขา

    “ทำไมล่ะจุนฮง”

    “เวลานึกถึงครูทีไรผมก็รู้สึกว่าร่างกายมันร้อนๆ หน้าก็เริ่มแดง เลือดในร่างกายมันไหลเร็วมาก มันทำให้...มันทำให้หัวใจผมเต้นแรง ครูรู้มั้ยว่าผมเป็นอะไร บอกผมหน่อยสิ” ร่างสูงชะงักกับประโยคที่พรั่งพรูออกมา ตาใสแจ๋วของจุนฮงจ้องมาเพื่อต้องการคำตอบจากตัวเขา แล้วจะให้ตอบแบบไหนล่ะ...

    “ครูก็ไม่รู้เหมือนกันว่านายเป็นอะไร.......

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                                                 

                                             ……………………แต่เวลาครูคิดถึงนายทีไร ครูก็เป็นแบบนี้ทุกที”




     

    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×