คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : =Wufan & Yifan= 1 = "คู่เกลียด"
Special part
"คู่เกลียด"
Wufan, Yifan & Ray, Xing
นั่งเครื่องมานานมันทำให้ชิงเมื่อยขบไปทั้งตัว
มือบางปิดปากของตัวเองที่หาวกว้างออกจนเกือบสุดกราม
เงยหน้ามองนาฬิกาบอกเวลาท้องถิ่นของรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ก็พบว่าเมื่อหักลบแล้ว
เวลาที่จีนตอนนี้เขาคงกำลังนอนหลับฝันหวานอยู่
ร่างบางมองป้ายบอกทางหาทางออกอย่างไม่คุ้นชินนักเพราะไม่ได้มาทีนี่หลายปีแล้วตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย
จนตอนนี้ก็เรียนจบรับปริญญาเป็นที่เรียบร้อยถึงได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง
"อ่า...ทางนี้สินะ"
พูดงึมงำเป็นภาษาจีนกับตัวเองก่อนเดินเรื่อยๆ ไปยังสายพานรับกระเป๋าสัมภาระ
"คนเยอะอะไรขนาดนี้เนี่ย..."
บ่นอุบเมื่อเห็นจำนวนคนอออยู่รอบสายพานเนื่องด้วยเที่ยวบินสายที่มานั้นผู้โดยสารเต็มลำ
ความสูงระดับปานกลางที่ไม่สามารถเทียบกับหุ่นคนตะวันตกได้ทำให้ร่างเล็กต้องก้มมองผ่านช่องว่างระหว่างตัวคนและกระโดดบ้างเป็นครั้งคราว
"อ๊ะ กระเป๋า!"
คนตัวเล็กอุทานออกมาอย่างดีใจ อย่างน้อยสัมภาระก็ไม่หาย
คร้านจะไปสื่อสารกับคนต่างชาติเพราะภาษาอังกฤษก็ไม่แข็งแรง
"ขอโทษครับ ขอโทษนะครับ"
พูดคำอังกฤษง่ายๆ ออกมาขอทางเข้าไปเอากระเป๋าแต่ก็มีคนชักสีหน้าไม่พอใจ
ตำหนิชิงเป็นภาษาบ้านเกิด กระเป๋าลากใบใหญ่และหนักมากจนแทบยกไม่ไหว
"อ๊ะ!"
กระเป๋าลากล้มลงไปทับเท้าผู้ชายร่างสูงคนหนึ่ง
"โอ๊ย! ไอนี่!"
"ขอโทษครับ ขอโทษจริงๆครับ"
ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขาเลยรีบลากกระเป๋าออกมาเร็วๆ จากตรงนั้น
ใจยังแป้วอยู่ก็ได้แต่ประโลมตัวเองว่ายังไงก็ไม่รู้จักกัน
มือบางกดโทรศัพท์หาพี่ชายที่อุส่าห์เคลียร์ตารางงานแน่นขนัดเพื่อมารับน้องที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปี
"พี่เรย์ อยู่ไหน?"
"เข้ามาในสนามบินแล้ว
ชิงล่ะอยู่ตรงไหน" คนตัวเล็กเงยหน้ามองหาจุดสังเกต
"หน้าร้านแมคโดนัลครับ"
"โอเค เห็นละ"
คนตัวเล็กวางสายพร้อมเงยหน้าขึ้น
พระเจ้า...
นั่นพี่จริงๆหรือ...
ร่างสะโอดสะองในชุดเสื้อยืดธรรมดากับกางเกงหนังสีดำทรงสกินนี่
พร้อมแว่นกันแดดสีดำโฮโลแกรมเข้ากับผมสีน้ำตาลอ่อน
เดินอย่างมั่นใจจนหลายคนเหลียวหลัง
"คนนั้นเรย์รึเปล่าน่ะ?"
"ใช่! เรย์จริงๆ ด้วย
มาทำอะไรที่นี่?!" ชายฝรั่งสองคนเหลียวหลัง พูดกันพร้อมสีหน้าตกใจ
เขาต้องรู้จักพี่แน่ถึงได้มีแววตาสนอกสนใจขนาดนั้น
"ยินดีต้อนรับสู่ฟลอริด้า"
พี่ที่แสนเฟอร์เฟคหยุดอยู่ตรงหน้า "คิดถึงมากเลย ชิงชิงของพี่"
ชิงตื่นจากการสังเกตคนรอบตัวเมื่อผู้พี่ดึงเข้าไปกอด
"ผมก็คิดถึงพี่"
"นั่งเครื่องมาเหนื่อยแย่เลยล่ะสิ"
"ครับ"
เรย์เข้ามาช่วยเข็นรถเข็นกระเป๋า ร่างระหงเดินผ่านสายตาคนมากมายที่จับจ้องมาอย่างไม่สนใจราวกับเป็นเรื่องชินชา
มีแต่ชิงนี่ล่ะที่ไม่ชิน...
"พ่อกับแม่เป็นไงบ้าง?"
"ก็ดีฮะ สุขภาพแข็งแรงดี
ยังชอบออกกำลังกายเหมือนเดิม"
"เหรอ ยังไปดีท๊อกซ์อยู่รึเปล่า?"
"ครับ"
"แล้วชิงไม่ไปทำบ้างล่ะ ดีนะ
พี่ก็ทำอยู่"
"ฮ่ะๆ ไม่ล่ะฮะ"
ปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิด แค่ฟังว่าเอาท่ออะไรสักอย่างเสียบเข้าทางก้นชิงก็จะอาเจียนออกมาแล้ว
"ช่วยยายหน่อยสิหนู
ยายไม่มีเงินกลับบ้าน" หญิงชราตรงเข้ามาจับแขนชิงที่กำลังช่วยเข็นรถกับพี่อยู่
"เอ่อ..."
"นี่ยาย
ไม่มีเงินกลับบ้านก็ไปหาตำรวจซะไป เลิกมาหากินกับนักท่องเที่ยวสักที" ภาษาอังกฤษคล่องปรื๋อของเรย์ทำให้หญิงชราผงะ
"พี่..แต่ว่าเขาอาจจะลำบาก..."
"ไม่ต้องสนใจคนพวกนี้หรอก
มิจฉาชีพทั้งนั้น" พูดจีนกับน้องแล้วมองจิกไปยังหญิงแก่ทำให้เธอต้องถอยออกไป
"วันหลังถ้าเจอคนมาขอเงินก็ทำเป็นไม่ได้ยินซะ
พวกมิจฉาชีพพวกนี้น่ารำคาญ"
ทำหน้าขู่ฟ่อเท่านั้นหญิงแปลกหน้าก็รีบเดินหนีไปทันที
ทั้งคู่ช่วยกันยกกระเป๋าขึ้นรถ
"พี่รู้ได้ไง?"
"เจอมาเยอะแล้วน่ะสิ
พี่รู้ว่าเธอมันประเภทขี้สงสาร
ท่องไว้นะว่าถ้าให้เงินเขาไปก็เท่ากับสนับสนุนให้เขาทำอาชีพผิดกฎหมาย
จะได้ไม่เป็นเหยื่ออีก" เรย์ขับรถออกจากสนามบินตรงไปยังถนนที่มีรถแน่นขนัด
"พี่นี่เจ๋งไปเลยอ่ะ ทั้งหน้าตาดีทั้งมั่นใจ
ทำไงชิงถึงจะเป็นแบบพี่บ้าง"
"แล้วชิงขี้เหร่ตรงไหน"
พูดทั้งที่ตายังมองถนน
"ไม่รู้สิ พี่รู้มั้ยตอนที่พี่เดินเข้ามาในสนามบินมีแต่คนมอง"
"เพราะพี่เป็นนายแบบที่เขารู้จักกันต่างหากล่ะ"
"..."
"แต่เชื่อพี่เถอะ
การเป็นคนที่ไม่มีใครรู้จักมันดีที่สุดแล้ว"
"ครับ"
"แล้วอีกอย่างนะ รู้เอาไว้ว่าผิวขาวๆ
ตัวเล็กๆ อวบๆ แก้มมีลักยิ้มของชิงชิงมีสเน่ห์ที่สุด ไม่ต้องคิดจะเป็นแบบพี่หรอก
พี่ก็เป็นพี่ ชิงก็เป็นชิง น่าอิจฉาที่สุดแล้ว รู้มั้ย"
มือเรียวหยิกแก้มนุ่มอย่างหมั่นเขี้ยวน้องที่แสนบอบบางและเสียความมั่นใจง่าย
"แล้วทำไงถึงจะดูมั่นใจแบบพี่ล่ะฮะ?"
ความมั่นใจของเรย์นั้นเป็นสิ่งที่คนพบเห็นชื่นชมและดูเป็นจุดเด่นจนใครๆก็ต้องเหลียวหลัง
"ก็แค่ยื่นหลังตรง ตัวตรง
เชิดหน้าหน่อย เท่านี้ก็พอแล้วสำหรับชิง แต่สำหรับนายแบบนางแบบมันไม่พอหรอก"
"มันต้องขนาดไหนเหรอ?"
"อยากรู้ก็ตามพี่ไปกองถ่ายพรุ่งนี้สิ"
สองพี่น้องคุยกันไปเรื่อยๆ
อย่างไม่มีช่วงเงียบตลอดทางกลับบ้านพัก ถามเรื่องส่วนตัวบ้าง
เรื่องพ่อแม่บ้างอย่างไม่รู้เบื่อ
ความคิดถึงที่มากมายแม้จะได้พูดคุยกันผ่านโปรแกรมแชทมันก็ไม่เคยพอ
ไม่เหมือนที่ได้คุยกันแบบเห็นหน้าอย่างนี้
“พี่ใส่กำไลหยกตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย
จำได้ว่าเจอกันครั้งสุดท้ายข้อมือพี่ยังว่างๆ อยู่เลย”
“อ้าว นี่ชิงไม่รู้เหรอ พี่ให้แม่ซื้อแล้วส่งมาให้จากจีนไง
หลังจากวันนั้นที่พี่ประสบอุบัติเหตุในกองถ่าย พี่รู้สึกว่าตัวเองดวงตกยังไงชอบกล
แม่บอกว่าคนจีนเชื่อว่าหยกเป็นอัญมณีที่กันโชคร้ายได้เลยขอให้แม่ส่งมาให้หน่อย”
“ใส่แล้วเข้ากับพี่มากเลยนะฮะ”
“แต่หนักไปหน่อยนะ จริงๆ
พี่อยากได้เส้นเล็กกว่านี้”
“ผมไม่นั่งรถพี่ตั้งนาน เครื่องรางเพิ่มขึ้นอีกแล้วเหรอเนี่ย”
คนน้องพูดเมื่อเปิดตู้เก็บของที่คอนโซลหน้ารถพร้อมทำสีหน้าอึ้งโดยที่สายตาของพี่ไม่เห็นเพราะกำลังจับจ้องอยู่บนท้องถนน
“เพิ่มมานิดหน่อยเอง
ไว้เสริมโชคลางนิดหน่อยน่ะ ช่วงนี้พี่ดวงตก เออนี่
แต่พี่ดูดวงมาเขาบอกว่าถ้าเจอเนื้อคู่ภายในปีนี้ดวงพี่จะขึ้นพรวดๆ เลยนะ คิคิคิคิ” เรย์ยิ้มเบิกบาน แค่พูดถึงเรื่องเนื้อคู่เขาก็เนื้อเต้นแล้ว
หลังจากเลิกลากับแฟนเก่าไปตั้งสามปีก็ไม่มีคนที่เรย์ถูกใจอีกเลย เอาแต่ทำงานงกๆ
จนเบื่อ เหงามากแล้ว อยากมีคนคุยด้วยบ้าง
“เนื้อคู่เหรอครับ?”
“อื้ม ก็เอาวันเกิดไปดู แต่เอ้ะ!
ถ้าพี่จะเจอเนื้อคู่ชิงก็ต้องเจอสิ ใช่มั้ย เพราะเราเกิดวันเดียวกัน”
“กะ ก็ใช่ครับ”
เกิดห่างกันสามนาทีแต่ที่บ้านกลับยึดติดให้เรียกพี่เรียกน้องอย่างกับห่างกันสักสามปี
“ถึงแล้ว บ้านรกไปสักนิดนึงนะ
พี่ไม่ค่อยได้จัด” ชิงยิ้มแหยเมื่อก้าวลงจากรถแล้วคิดถึงสภาพว่าของขลังจะเต็มบ้านพี่ขนาดไหน
รู้อยู่แล้วว่าพี่ฝาแฝดของเขาคนนี้ชอบเครื่องรางของนำโชคเพราะได้นิสัยแม่มา
ตอนพี่ย้ายมาที่อเมริกากับพ่อเพราะเรื่องธุรกิจ
แม่ก็ให้ของนำโชคติดตัวมาไม่กี่ชิ้น
จนตอนนี้พ่อกลับไปทำงานที่จีนแล้วแต่พี่ยังต้องอยู่ต่อเพราะเรื่องงาน
อยู่บ้านคนเดียวไม่มีคนปราม คิดไม่ออกเลยว่าจะซื้อของพวกนั้นมากขนาดไหน
“เข้ามาสิชิง”
“ครับ” อี้ชิงก้าวเข้าไปในบ้านที่พี่ค่อยๆ
ไล่เปิดไปไปเรื่อยๆ ไม่ได้รกและเหมือนบ้านแม่มดจนน่ากลัว
เพียงแต่ของบางอย่างถูกจัดเอาไว้แปลกๆ เท่านั้น เช่น
เอาคริสตัลเม็ดกลมๆเท่าหัวแม้โป้งไปห้อยไว้ใต้ดวงไฟ
กระถางต้นไม้ที่วางไว้ตรงทางเข้าบ้านและก็รูปวาดปลาคราฟในสวนญี่ปุ่นสวยๆ ดูสบายตา
ก็ไม่ได้แย่อะไรนี่นา
“หิวรึเปล่า
พี่ซื้อของมาเต็มตู้เย็นเลยเผื่อเราอยากทำอะไรกินเย็นนี้”
“เอ่อ ผมยังไม่ค่อย...”
กิ๊งก่อง...
“เดี๋ยวพี่เปิดเอง” ร่างเพรียววิ่งมาที่ประตูเร็วๆ อย่างตื่นเต้น
เมื่อเปิดประตูออกก็พบว่าเป็นบุรุษไปรษณีย์นั่นเอง
มาพร้อมกับกล่องขนาดกลางใบหนึ่งให้เรย์เซ็นรับของและเขาก็จากไป
“ในที่สุด ก็มาสักที!” เรย์ตื่นเต้นใช้เท้าปิดประตูแล้วโอบของนั้นอย่างถนอมเข้ามาในบ้าน
“อะไรเหรอครับ?”
ชิงถามเพราะเหมือนพี่จะรู้ว่าของภายในนั้นบรรจุอะไรเอาไว้
พี่ไม่ตอบแต่วางกล่องพัสดุลงแล้วรีบแกะ
“ทาคาซากิ ดารุมะ”
“มันคืออะไรหรือครับ
ชื่ออย่างกับ..ญี่ปุ่น?” ตุ๊กตาไม้กลมๆ ตัวสีแดง
ตาโตดูน่ากลัวทำให้ชิงรู้สึกขนลุก
“ใช่แล้ว เครื่องรางจากญี่ปุ่นน่ะ
เพื่อนพี่ไปมา พี่เลยฝากซื้อ”
“แล้วมัน...”
“เห็นที่ตาใช่มั้ยล่ะ
พื้นที่ตานี่ว่างอยู่ เขาเชื่อว่าตุ๊กตาดารุมะนี่ต้องการดวงตา ให้ผู้เป็นเจ้าของวาดตาให้มันข้างหนึ่งแล้วขอพร
สัญญากับตุ๊กตาว่าถ้าพรสำเร็จแล้วจะวาดตาให้อีกข้างนึง ให้ดารุมะช่วยยังไงล่ะ”
“อ่อ ครับ”
“นี่...” เรย์หยิบปากกาเคมีสีดำขึ้นมา
บรรจงวาดตาข้างหนึ่งให้กับเข้าตุ๊กตาสีแดงตัวกลม “ดารุมะจ๋า
ฉันวาดตาข้างนึงให้เธอแล้ว สวยใช่มั้ยล่ะ ถ้าอยากได้ตาอีกข้างนึงเธอต้องช่วยฉันนะ
ถ้าภายในปีนี้ฉันเจอเนื้อคู่ที่เขาเป็นคนดี นิสัยดี
เข้ากับฉันและครอบครัวของฉันได้
และถ้าเขาชอบฉันเหมือนกันฉันจะวาดตาให้เธออีกข้างหนึ่งตกลงนะ” ยิ้มหวานให้กับเครื่องรางของเล่นตัวใหม่
เรย์ยกเจ้าดารุมะขึ้นแล้วเอามันไปวางไว้เหนือตู้รองเท้าที่ทางเข้าบ้าน
“ชิงชิง เย็นนี้ทำอะไรกินกันเถอะ”
“ได้ครับ~ พี่อยากกินอะไรล่ะ?”
“อืม....อะไรก็ได้แต่ขอเป็นอาหารจีนนะ
พี่คิดอาหารจีนจะแย่อยู่แล้ว....”
ในบ้านหลังเล็กที่มีสองพี่น้อง วันหยุดของชิงเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น
วันรุ่งขึ้น
"ชิงชิง
เสร็จแล้วยัง รถจะมาแล้ว"
"ครับๆ"
เช็ดจานใบสุดท้ายแล้ววางลงในที่เก็บ เดินไปหยิบกระเป๋าสะพาย
ตามพี่ร่างเพรียวออกไปนอกบ้าน
"อยู่กับพี่ต้องเตือนให้พี่อย่ากินแบบยัดทะนานเหมือนเมื่อคืนรู้มั้ย
ชิงเกือบทำหุ่นพี่เสีย"
มีน้องจบเชฟมันก็แย่แบบนี้
อาหารทุกอย่างอร่อยไปหมดเลย ให้ตายสิ เรย์แอบโกรธตัวเอง บีบรูปหน้าสวยว่าพองออกมามากหรือเปล่า
ชิงชิงของคนพี่ลอบยิ้มอย่างมีความสุข
รถแวนคันหนึ่งเคลื่อนมาจอดเทียบที่หน้าบ้านในเวลาเดียวกัน
"Hey come on! ขึ้นรถกันได้แล้ว!"
หญิงสาวผมยาวเป็นลอนสีบลอนอ่อน ใบหน้าฝรั่งจ๋าเปิดประตูเลื่อนออกแล้วตะโกนดังลั่น
"ไปกัน" เรย์แตะแขนน้อง
"ชิงชิง นี่เจสเป็นเมเนเจอร์ของพี่
ส่วนที่ขับรถนั่นจอห์นพี่ชายของเจส พวกเธอนี่ชิงชิง น้องชายฝาแฝดฉันเอง"
"ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ" ชิงยื่นมือไปจับแต่เจสกลับยื่นมือมาดึงแก้มสองข้างของเขาซะงั้น
"ต๊ายยย หน้าตาน่ารักน่าหยิก
ทำไมดูน่าทะนุถนอมบอบบางอย่างนี้ล่ะลูก"
"ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นโครโมโซมเดียวกับเธอเลยนะเรย์"
จอห์นลอบมองผ่านกระจกมองหลังแล้วคิดว่าสองคนนี้มีบุคลิกที่ไม่เหมือนกันสักนิดมีเพียงใบหน้าเท่านั้นที่ยืนยันว่าทั้งคู่คือแฝดเพราะมันดูช่างแยกยากสำหรับคนนอกอย่างเขา
"อยู่จีนสบายกว่าไง
แล้วนี่ช่วยพูดภาษาอังกฤษซอร์ฟๆกับน้องฉันหน่อยนะ ภาษาชิงชิงยังไม่แข็งแรง
ยังไงก็ถือว่าช่วยๆ กันสอนแล้วกัน"
"ได้สิ น่าเอ็นดูเหมือนลูกกระต่าย
ฉันขอเรียกชิงชิงด้วยได้มั้ย ได้ยินเรย์เรียกแล้วมันน่อร๊อคอ่อ!"
"ตามสบายเลยครับ"
ชิงลูบแก้มตัวเองที่ขึ้นเป็นสีปอยๆ
"นอนก่อนก็ได้นะอีกนานเลยกว่าจะถึง"จอห์นพูด
"แล้วอีตาคุณชายสายเสมอล่ะออกมาหรือยัง?"
"แหม๊
เป็นห่วงเป็นใยกันดีจังเลยนะจ๊ะ ถ้าคู่ชิปรู้คงฟินระเบิดระเบ้อเลยโนะ"
"เจส..." เรย์กดเสียงต่ำ
"โอ๊ยย รู้แล้วๆ ไม่ชอบก็ไม่ชอบ
คุณอี้ฟ่านน่ะ..."
"ห้ามเรียกชื่อมันเพราะๆ"
"เออ อีตาอี้ฟ่านน่ะมันล่วงหน้าไปก่อนวันนึงแล้วเพราะมีถ่ายแบบให้
Voge ในสตูฯใกล้ๆกัน"
"อืม ดี จอห์นขับรถใจเย็นๆ นะไม่ต้องรีบ"
มือบางเอื้อมไปจับบ่าหนุ่มหล่อผมบลอนผู้ประจำตำแหน่งคนขับ
"โอเค นอนก่อนได้เลยเรย์
อีกนาน" รอจนพี่หลับไปคนน้องถึงได้ทีสะกิดถามเจสที่นั่งเช็คตารางงานของเพื่อนในไอแพด
"เจสครับ ใครคืออี้ฟ่านเหรอครับ?"
"ฉันนึกว่าเธอรู้จักเสียอีกนะเนี่ย"
หญิงสาวหันมาคุยกับร่างขาวจัดที่เบาะหลัง "ที่เป็นนายแบบไงคนที่แฟนคลับเขาเข้าใจว่าเป็นแฟนพี่เธอไง"
"ผมไม่เคยได้ยินชื่อเลยครับ"
"อีตาอี้ฟ่านน่ะก็เป็นนายแบบเหมือนกัน
เป็นจีนเชื้อแคนาดา แค่ถ่ายร่วมกันงานแรกก็เกลียดกันละ
หมอนั่นไม่รู้ไปเอ้อระเหยจีบสาวอยู่ที่ไหน
ปล่อยให้เรย์ถ่ายแบบไปก่อนแล้ววันนั้นดันเป็นตีมฟองสบู่
พี่เธอแช่น้ำสบู่จนผิวอักเสบเลยรู้รึเปล่า"
"อ๋อ!
เรื่องนี้ทราบอยู่ครับ"
"นั่นล่ะ หมอนั่นเลยโดนเรย์สวดยับตั้งแต่งานแรกเลย
แต่ผลตอบรับงานถ่ายขึ้นปกคู่กันก็ดีเกินคาด แฟนคลับคิดว่าสองคนนี้เป็นแฟนกัน เหอะๆ
ไม่รู้อะไรซะแล้ว ถึงสองคนนี้จะเคมีเข้ากันยังไงก็ไม่มีทางจะคบกันได้หรอก"
"แล้วที่กำลังจะไปนี่ก็ถ่ายคู่กันอีกเหรอครับ?"
"ใช่
ก็งานนี้เป็นถ่ายโปรโมทรีสอร์ทของ w.u .group หนึ่งในธุรกิจของครอบครัวอี้ฟ่านเขา
อ้อ รู้ใช่มั้ยว่าครอบครัวอี้ฟ่านน่ะรวยมาก ถึงได้มีเงินกวาดซื้อที่ดินแถวหาดไมอามี่มาสร้างโรงแรมน่ะ"
ชิงพยักหน้ารับรู้
"แล้วทำไมถึงต้องมาถ่ายโปรโมตโรงแรมด้วยกันล่ะครับ
ในเมื่อไม่ถูกกัน?"
"จริงๆจะพูดว่าไม่ถูกกันมันก็ไม่เชิงหรอก
สองคนนี้ก็เป็นเพื่อนกันเพียงแต่ชอบแขวะกันเท่านั้นเอง เมื่อเดือนก่อนบังเอิญไปเที่ยวผับเดียวกันแล้วมีรูปหลุดน่ะสิ
สองคนนี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายนึงอยู่ร้านเดียวกันสื่อดันโหมข่าวว่าแอบไปเดทกัน
เลยใช้กระแสมาขายซะเลย"
"ออ..."
"ชิงชิงต้องได้เห็นตอนถ่ายรูปคู่กันนะ
วันมะรืนนี้ รับรองเผ็ดลืม มืออาชีพทั้งคู่
ถ้าฉันไม่รู้จักสองคนนี้มาก่อนก็คงจิ้นอยู่เหมือนกัน"
เธอยิ้มสวยให้ชิงตามสไตล์สาวตะวันตก "แล้วเป็นไงมาไงถึงมาฟลอริด้าได้ล่ะ?"
"ผมเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยน่ะครับ
แม่อยากให้มาฝึกภาษาก่อนที่จะเริ่มทำงาน"
"จบอะไรมาล่ะ?"
"ผมจบ เชฟและการโรงแรม"
"ตายแล้ว! จอห์น!" มือสวยเอื้อมไปตบบ่าพี่ชายที่ขับรถด้านหน้า
"อะไร มีอะไร?!"
"เราได้เชฟสำหรับคืนปาร์ตี้บาบีคิวแล้วนะ"
"ไม่เห็นต้องทำเสียงน่าตกใจขนาดนั้นก็ได้นี่
ใครล่ะจะมาเป็นเชฟ?"
"ชิงน่ะสิ จบเชฟมา
เรารอดตายแล้วนะ" พร้อมด้วยหัวเราะเสียงดังอย่างมีความสุข พอกันทีสำหรับการลองผิดลองถูกเรื่องการหมักเนื้อ
"เสียงดังจริง"
เรย์ที่นอนหลับตาก่นขึ้นมาอย่างหงุดหงิด
"จ้า!
ขอโทษด้วยนะหล่อน!" หญิงสาวเท้าสะเอวว่าพร้อมเบ้ปาก
"ปาร์ตี้อะไรกันเหรอครับ?"
"ก็รีสอร์ทที่กองจัดไว้ให้เป็นบ้านเดี่ยวสำหรับห้าคน
หลังเรย์ถ่ายแบบเสร็จพรุ่งนี้กะว่าจะจัดฉลองต้อนรับชิงเสียหน่อยไง
งานนี้ต้องสนุกแน่ๆ เลยเนอะว่ามั้ย" มือสวยหยิกแก้มนิ่มอีกครั้ง
"อ๋าา ครับ"
"วู้ววว
ถึงแล้ว"
"เว่อร์วังอะไรปานนั้น..."
หญิงสาวผมบลอนเปิดม่านแล้วสำรวจทัศนียภาพนอกหน้าต่างเห็นทั้งโรงแรมในส่วนตัวตึกและรีสอร์ทแบบบ้านเดี่ยวสำหรับครอบครัวหรือกลุ่มที่ชอบความเป็นส่วนตัวมากเป็นพิเศษ
"อืม
เดี๋ยวเดินเข้าไปที่ลอบบี้ก่อนนะ ฉันจะไปหาที่จอด”
"ขอบคุณนะจอห์น
ขับรถนิ่มเหมือนเดิมเลย" เรย์ใส่แว่นกันแดด
ปิดปากหาวหวอดเปิดประตูบานเลื่อนแล้วก้าวลงจากรถ
"วันนี้ตอนบ่ายสองต้องเข้ากองแต่งหน้าละนะ
จะมีถ่ายริมหาดตอนเย็นๆ"
"ให้ชิงไปด้วยคงได้เนอะ"
เรย์ถามเจส
"ได้แหละปกติจอห์นก็ตามไป"
"ชิงชิง
บ่ายนี้ตามพี่ไปดูพี่ถ่ายแบบนะ" เรียกน้องมาเดินข้างกัน
แขนเรียวโอบรอบบ่าเล็กไปด้วย
"ไม่รบกวนใช่มั้ยครับ?"
"ไม่หรอก จอห์นก็ตามไปออกบ่อย
ชิงเป็นน้องพี่ไม่มีใครว่าอะไรหรอก"
"ถอยไปซิ
อย่ายืนเกะกะ" ชิงขยับตัวหนีเป็นรอบที่สามตั้งแต่เข้ามาในกองถ่าย
วันนี้เป็นการถ่ายแบบ outdoor ยามเย็นริมหาดไมอามี่
หลังจากที่แต่งตัวมาตั้งแต่บ่ายเรย์ก็ได้ลงถ่ายเสียทีเมื่อแดดยามบ่ายกำลังได้ที่แล้ว
ชิงได้แต่นึกชื่นชมอย่างภูมิใจว่าพี่สวยจริงๆและเป็นมืออาชีพมากๆ
คอนเส็ปการถ่ายโปรโมตคือสื่อถึงคนสองตนที่มาตามหาความรักที่นี่
ก็คือพี่กับคุณอี้ฟ่านซึ่งจะถ่ายร่วมกันในวันพรุ่งนี้
มองพี่เดินลงไปในทะเลรอบที่สามหลังจากขึ้นมาเติมหน้าและทากลิซเตอร์บนตัวใหม่
ร่างบางผู้พี่ผิวไม่ได้ขาวจัดแต่ก็ยังไม่ทิ้งความนวลเนียนแบบผิวเอเชีย
เสยปอยผมเปียกน้ำปลายๆ ขึ้นหลับตาเบาๆ ที่บริเวณที่น้ำทะเลสูงประมาณต้นขา
เผยให้เห็นบิกินี่ด้านใน กับผ้าคลุมไหล่ที่จวนจะตกบ่า
ดูเซ็กซี่และอ่อนหวานให้ชัตเตอร์ลั่นอีกแชะ ท่าทางที่ดูมีความสุขจนเกือบลืมภาพเมื่อครู่ที่ช่างกล้องบอกให้เรย์ลงไปนอนที่หาดจุดที่คลื่นจะซัดมาถึง
น้ำทะเลเข้าตาหลายครั้งจนแสบไปหมดถึงอย่างนั้นนายแบบมือโปรก็ไม่บ่นสักคำ
ตั้งใจถ่ายต่อจนเสร็จซีนนั้น
"คุณเจสครับ
ผมขอออกไปเดินดูรอบๆนะ"
"รอบๆไหน หาดน่ะเหรอ?"
"เปล่าครับหมายถึงรอบนอกโรงแรม"
ชิงเห็นด้านนอกมีร้านขายของสดกับพวกร้านกาแฟเต็มไปหมด
เผื่อทีจะได้ดูร้านซื้ออาหารเตรียมไว้สำหรับปาร์ตี้บาบีคิวและถือโอกาสดูเมืองของเขาไปด้วย
"ระวังหลงนะ
ใครชวนไปไหนอย่าไปรู้มั้ย มีเบอร์ฉันแล้วยัง?"
"มีแล้วครับ"
"งั้นถ้าถ่ายเสร็จแล้วฉันจะโทรตามนะ
แต่ถ้าหลงทางก็หาร้านอยู่สักร้านนึงเดี๋ยวฉันไปหา"
"ครับ ไม่ต้องห่วง
ฝากบอกพี่ด้วยนะ" เจสพยักหน้ามองดูแผ่นหลังเล็กที่เดินออกไปจากกองถ่าย
"น่าเอ็นดูจริงๆพ่อคุณเอ๊ย..."
กล้องโปรที่ติดตัวมาจากจีนถูกยกขึ้นกดหลายครั้งเพราะบรรยากาศที่ดีเช่นนี้ถึงได้มีคนมาพักผ่อนเยอะแยะ
ร่างบางเดินดูนู่นนี่จนร้อนแสบผิวไปหมด
เห็นร้านกาแฟชื่อคุ้นจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหลบแดดร้อนระอุ
รู้สึกเกร็งอยู่ไม่น้อยตอนเดินไปต่อแถวสั่งอาหาร
จนถึงคิวของเขา
"เอ่อ..ผมอยากได้ โอ๊ย!"
"ขอโทษครับ!"
ผู้ชายที่เป็นคิวก่อนหน้าซึ่งสั่งเอสเปรสโซ่ร้อนหันหลังกลับมาชนเขาอย่างจังจนกาแฟร้อนในแก้วกระเฉาะโดนแขนขาวจัด
ผู้ชายใต้หน้ากากแมสกับหมวกแก๊บรีบเช็ดแขนให้ชิงด้วยทิชชู่
"ขอโทษจริงๆครับ"
"ไม่เป็นไรครับ"
พูดภาษาอังกฤษง่ายๆตอบไป "ผมรู้ว่าคุณคงไม่ได้ตั้งใจ"
งึมงำภาษาจีนกับตัวเอง
"..." ชายคนนั้นมองหน้าชิงแล้วขมวดคิ้ว
"อะไรหรือครับ?"
"คนจีนเหรอครับ?" ชายแปลกหน้าทักขึ้นมาเป็นภาษาจีน
"ครับ เอ่อ คุณก็คนจีนเหรอ?"
"ครับ ใช่แล้ว
งั้นเพื่อขอโทษผมเลี้ยงกาแฟคุณแก้วนึงอยากดื่มอะไรดีครับ?"
"ผมเอาไอซ์ลาเต้แล้วกันครับ"
"เอาไอซ์ลาเต้แก้วนึงครับ"
ชายร่างสูงสั่งทั้งๆที่ไม่ได้มองพนักงาน เขามองมายังชิงจนร่างเล็กรู้สึกแปลกๆ
"หน้าผมมีอะไรติดรึเปล่าครับ?"
"คุณไม่รู้จักผมเหรอ?"
ร่างบางยิ่งงงไปกันใหญ่ เพิ่งเจอกันครั้งแรกใครจะไปรู้จัก
"เราเคยเจอกันมาก่อนหรอครับ?"
"เปล่าครับ ผมแค่...สงสัย"
ร่างสูงถอดแมสออกเหลือเพิ่งหมวกแก้ป "ไม่รู้จักผมจริงๆเหรอครับ?"
ร่างบางอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าของคนตัวสูง
"หรือว่าคุณ..."
ร่างสูงนึกกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ
นั่นสิ เราดังขนาดนี้ใครมันจะไม่รู้จัก
คงตกใจแน่ๆที่ได้เจอนายแบบดังขนาดนี้
"เป็นโจรปล้นธนาคารที่ทางการประกาศจับอยู่ใช่มั้ยครับ!"
ดับมโนจนสิ้น...
"ผิดแล้วคุณ! ผมอู๋อี้ฟ่าน
นายแบบไง ไม่รู้จักเหรอครับ" ร่างบางส่ายหน้า
แต่ถึงกระนั้นอี้ฟ่านกลับไม่โกรธ
อาจเป็นเพราะใบหน้าหวานกับคำพูดขอโทษเสียงอ่อยนั่น
"ขอโทษครับ ผมไม่ทราบจริงๆ"
"ไอซ์ลาเต้ได้แล้วค่ะ"
อี้ฟ่านยื่นแบงค์ให้โดยปฏิเสธเงินทอน
"ขอบคุณสำหรับกาแฟนะครับ"
ชิงยื่นมือไปจะรับแก้วกาแฟมาแต่ร่างสูงกลับชูมันขึ้นไม่ให้ร่างเล็กรับไป
"ไปหาที่นั่งคุยกัน ดีมั้ยครับ?"
"โต๊ะก็ยังว่างตั้งเยอะ
ทำไม..."
"อยากนั่งกับคุณ ไม่ได้เหรอครับ?"
เห็นท่าทีกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของคนตรงหน้าแล้วอี้ฟ่านก็มั่นใจว่าไม่ใช่เรย์
หรือเรย์สวมรอยมาแกล้งเขา คงไม่ใช่แน่นอนถึงแม้หน้าตาจะคล้ายมากก็ตาม "ว่าแต่
คุณชื่ออะไร?"
"ผมชื่อชิง"
"ชิง? ดาวน่ะเหรอครับ?"
"ครับ"
"ดาว อ๋อ ชื่อเพราะจังนะครับ"
“ขอบคุณครับ”
“แล้วมาฟลอริด้านี่มาเที่ยวหรือครับ?”
“ครับ ก็ประมาณนั้น”
“มาครั้งแรกสินะครับ”
“ใช่ครับ ครั้งแรก”
“แล้วมีคนพาเที่ยวรึยังครับ
ผมมาฟลอริด้าบ่อย ถ้าไม่รังเกียจผมเป็นไกด์ให้ได้นะครับ
ถือเสียว่าขอโทษที่ทำให้ผิวสวยๆของคุณเป็นรอย”
“ผมคงไม่รบกวนหรอกครับ
พอดีว่ามากับพี่ ยังไงผมก็คงต้องอยู่กับพี่ ออกไปเที่ยวด้วยไม่ได้หรอกครับ”
อี้ฟ่านพยักหน้ารับรู้
สมองของเขาได้ข้อมูลเพียงไม่เยอะแต่ความรู้สึกบอกว่าคนๆ
นี้ต้องเป็นอะไรสักอย่างกับเรย์แน่ๆ
ไม่น่าจะบังเอิญมีคนหน้าคล้ายกันขนาดนี้และอี้ฟ่านก็บังเอิญเจอในวันที่เรย์น่าจะอยู่ฟลอริด้าด้วย
หรือว่า...นี่คือน้องชายฝาแฝดที่ยัยปากกรรไกรนั่นเคยให้สัมภาษณ์
“โถ่..เสียดายจริงๆครับ
ผมรู้สึกถูกชะตากับคุณแท้ๆ” ใบหน้าหล่อปั่นยิ้มต่อไป
“กับผมหรือครับ?”
“ครับ ก็คุณน่ะ
หน้าเหมือนใครสักคน เอ...ผมนึกไม่ค่อยออกเสียด้วยสิ”
“คงไม่ใช่ว่าเจอในฝันอะไรแบบนั้นหรอกใช่ไหมครับ?”
พูดติดตลก ชิงเคยได้ยินบ่อยจากที่เพื่อนเล่นๆ กัน
“ถ้าใช่ก็คงดีนะครับ
ถ้าคุณจะให้เกียรติเข้ามาอยู่ในฝันของผมสักคืน”
“คุณพูดให้เกียรติผมเกินไปแล้วครับ”
ร่างบางยิ้มน้อยๆ จรดปากลงกับหลอดค่อยๆ ดูดกาแฟในแก้ว
“แต่ถ้าอยู่ในฝันยากไป
อยู่ในห้องผมน่าจะง่ายกว่านะครับ”
"แค่กๆ!"
ชิงสำลักหลังจากได้ยินแบบนั้น อี้ฟ่านหัวเราะอย่างเอ็นดู มือหนาหยิบทิชชู่
โน้มตัวไปใกล้ ประคองใบหน้าหวานซึ่งไอหน้าแดง ร่างสูงช่วยเช็ดปากที่เลอะ
"คุณ แค่ก!"
"นิ่งๆสิครับ" ได้สำรวจใบหน้าหวานใกล้ๆอี้ฟ่านยิ่งพอใจ
ผิวขาวจัด ตาหวานอย่างที่เขาชอบ แถมใสซื่อขนาดนี้...
น่าทำให้แปดเปื้อน...
"พอแล้วครับ ขอบคุณ"
มือบางรับทิชชู่มาเช็ดเอง ร่างสูงจึงนั่งลงกับที่
"คุณเหมาะกับลาเต้ดีนะครับ"
"ยังไง"
"คุณดูหวานเหมือนลาเต้"
"คุณ!"
"อะไรครับ ฮ่าๆ
ผมหมายถึงหน้าคุณหวาน"
"..."
"แล้วริมฝีปากคุณล่ะ
หวานเหมือนกันมั้ยครับ?"
"ผมจะไม่คุยกับคุณแล้วนะ!"
"เดี๋ยวสิครับ หน้าแดงทำไม
เขินผมรึเปล่าเนี่ย?"
"ผมไม่ได้เขิน ผม ผม
ผมโกรธต่างหาก!"
นั่นสินะ หม่ะม๊าบอกว่า
คนดีๆเวลาถูกจีบจะโกรธ
“ก็ได้ครับ โกรธก็โกรธ” เย้าเท่านี้ก็พอแล้ว
ไม่อยากให้โกรธไปมากกว่านี้ “แล้วคุณพักอยู่โรงแรมไหนล่ะครับ
ให้ผมพาไปส่งมั้ย?”
“อยู่ w.u. รีสอร์ทครับแต่ไม่ต้องไปส่งผมหรอก
ผมกลับเองได้”
“บังเอิญจังเลย ผมก็อยู่โรงแรมเดียวกัน แผลน้ำร้อนลวกของคุณคืนนี้มันต้องพองแน่ๆ
ถ้ายังไงผมเอายาไปให้ที่ห้องคุณดีกว่านะครับ” ร่างสูงหยิบเอามือถือของคนตัวเล็กที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมาแล้วกดโทรออกเบอร์ตัวเอง
“อันนี้เบอร์ของผมครับ”
“ผมไม่ได้ขอ...”
“ผมอยากให้ ผมต้องรับผิดชอบกับการที่ทำให้คุณบาดเจ็บ นะครับ
แค่ทายาเท่านั้นแล้วหลังจากนั้นผมจะไม่ยุ่งกับคุณแล้ว นะครับ นะ” และตอนนี้อี้ฟ่านก็มั่นใจกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นแล้วว่าคนๆ
นี้ต้องเป็นน้องชายฝาแฝดของเรย์แน่ๆ
“ก็ได้ครับ” ชิงอ่อนใจกับลูกตื้อของร่างสูง
พอเขาอนุญาตให้มาได้ก็ดีใจอย่างกับลูกหมาที่ได้ถาดนม “ผมขอตัวก่อนนะครับ
ออกมานานแล้วกลัวพี่จะเป็นห่วง”
“อ้อ ได้เลยครับเดี๋ยวผมไปส่ง”
พอชิงลุกผู้ชายเจ้าชู้คนนี้ก็ทำท่าจะลุกด้วย
“ไม่ต้องครับผมกลับเองได้”
“ผมส่งแค่หน้าร้านก็ได้ครับ” ได้ยินแบบนั้นคนตัวเล็กก็คร้านจะขัดใจ “คืนนี้ค่ำๆโทรหาผมนะครับ
ผมจะเอายาไปให้”
“ครับ”
รับปากไปแบบนั้นๆทั้งที่ในใจคิดอยู่แล้วว่าจะไม่โทรไปเด็ดขาด
“อย่าให้ผมรอเก้อนะครับ” โน้มตัวให้หน้าเสมอคนตัวเล็กแล้วพูดเสียงต่ำๆ
แบบที่อี้ฟ่านใช้อ้อนสาวๆของเขาทุกคน
มั่นใจล้านเปอร์เซ็นว่าถ้าไม่ใช่หินก็ต้องหวั่นไหว!
“อะ อื้อ”
ชิงทำอะไรไม่ถูกได้แต่ตอบตัดบทด้วยเสียงในลำคอ งับหลอดดูดกาแฟแล้วเดินหนีไปเร็วๆ
“เจอกันคืนนี้นะครับ!” มองแผ่นหลังเล็กเดินห่างออกไปเรื่อยๆ
หน้าตาน่าเอ็นดู
ถ้าคนอย่างอี้ฟ่านได้มาครอบครองอยากรู้จริงๆ
ว่าแฝดพี่จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขนาดไหนถ้ารู้ว่าน้องตัวเองคือคนที่เสือร้ายอย่างเขาหมายปอง
งานนี้ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
...
ในหัวร่างสูงเริ่มคิดหาแผนการที่จะเอาคนตัวเล็กมานอนงอแงใต้ผิวสีแทนของเขา
แค่คิดก็อดใจรอไม่ไหวแล้ว!
จอห์นเลือกที่จะไม่ตามน้องสาวกับเรย์ไปที่กองถ่ายเพราะขับรถมาหลายชั่วโมงมันทำให้เขารู้สึกอ่อนเพลียเต็มกำลัง
เมื่อมีคนมาเปิดห้องพักให้ความเงียบสงบ
สวยงามและเป็นส่วนตัวของห้องพักมันเย้ายวนอยากให้ล้มตัวลงนอนสักงีบก่อนที่จะตื่นขึ้นมาเดินเล่นบริเวณโรงแรมที่เปิดให้บริการอย่างไม่เต็มรูปแบบคนจึงไม่พลุกพล่านมากนักซึ่งก็ดีแล้ว
เขาชอบแบบนี้
จอห์นเดินเล่นมาจนถึงลอบบี้พนักงานก็เชื้อเชิญให้เขาลองดื่ม
Welcome drinkที่โรงแรมจัดไว้ให้ซึ่งเขาก็ยินดีอย่างยิ่ง
ระหว่างที่กำลังดื่มน้ำหวานเย็นชื่นใจก็มองบรรยากาศไปรอบๆ
มีคนเดินขวั่กไขว้ซึ่งร่างสูงมั่นใจว่าเป็นทีมงานที่มาถ่ายทำโปรโมทโรงแรมทั้งหมด
คนอื่นที่จะเข้ามาพักในโรงแรมในช่วงนี้ได้นอกจากทีมงานแล้วคงต้องมีอภิสิทธิ์จริงๆถึงจะได้เข้าพักโรงแรมระดับห้าดาวก่อนใคร
“อ้าว ชิง ไปไหนมา?”ระหว่างคิดอะไรเพลินๆ
จอห์นก็เห็นคนตัวเล็กเดินเข้ามาพอดี
“เดินเล่นแถวๆโรมแรมน่ะครับ”
“เหรอ เข้าห้องพักก่อนมั้ยเอากุญแจฉันไปก่อน”
จอห์นเห็นคนตัวเล็กหน้าบูดบึ้งจึงแนะนำไปแบบนั้น
สงสัยคงจะร้อนเพราะวันนี้แดดแรงอยู่พอตัว
“ก็ดีครับ ขอบคุณนะฮะ” แนะนำทางเดินไปให้เสร็จสรรพชิงก็เดินไปห้องเองเพราะเขาอยากนั่งตากลมเย็นๆอยู่ตรงนี้อีกสักครู่
นานๆจะได้มาพักตากอากาศในที่ดีๆแบบนี้แถมยังฟรีอีก
“สวัสดีจอห์น”
“อ้าว คุณอี้ฟ่าน สวัสดีครับ”
“มาถึงนานแล้วยังครับ?”
“มาถึงตั้งแต่ตอนสายๆน่ะครับ”
“แล้วเรย์?”
“มีถ่ายอยู่นี่ครับแล้วคุณอี้ฟ่านไม่มีซีนต้องถ่ายวันนี้เหรอครับ?”
“ไม่มีหรอกครับ มีถ่ายเป็นวันพรุ่งนี้แล้วนี่ได้กุญแจเข้าที่พักแล้วยังครับ?”
“อ่อ
เรียบร้อยแล้วล่ะครับห้องพักสวยมากเลย วิวก็ดีผมชอบ”
“ดีใจที่ได้ยินแบบนั้นนะครับ
อ้อแล้วนี่พักอยู่ห้องไหนเหรอครับผมจะบอกให้พนักงานเขาเอาผลไม้ไปสมนาคุณเป็นพิเศษ”
“พักวิลล่าห้อง 227 ขอบคุณมากนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ
ขาดเหลือหรืออยากให้ช่วยอะไรบอกพนักงานหรือบอกผมก็ได้นะครับ”
“ใจกว้างเหมือนเดิมเลยนะครับคุณอี้ฟ่าน”
“อย่าเกรงใจเลยจอห์น
ตามสบายนะครับ ผมขอตัวก่อน”
“เชิญครับๆ”
ร่างสูงเดินออกจากล๊อบบี้พร้อมรอยยิ้มร้ายในใจ
เขายื่นมองอยู่พักนึงแล้วเห็นจอห์นยื่นกุญแจห้องให้กับคนตัวเล็ก รู้ได้เลยว่าต้องพักห้องเดียวกันแน่และตอนนี้เขาก็ได้รู้แล้วว่าห้องไหน
เสร็จฉันล่ะ เจ้ากระต่ายน้อย!
[50%]
Talk ชี้แจงสักนิด
สวัสดีค่าา หายกันไปนานเลยเนอะ วันนี้กลับมาต่อก็มาเปิดตอนของรุ่นลูกกันแล้วทุกคนคงงง ฮ่าๆๆๆ ตอนของพ่อแม่ก็ใช่ว่าจะสิ้นสุดลงแค่นั้นนะคะ เพียงแต่มีอารมณ์แต่งรุ่นลูกก่อนเลยอยากขอมาต่อตอนนี้ก่อนค่ะ
พอร์ทเรื่องของลูกตระกูลอู๋ทั้งสี่คนก็อยากให้เป็นแนวอ่านสบาย เปรี้ยวอมหวาน อาจจะมีดราม่านิดหน่อยแต่ไม่ถึงกับจบเศร้านะคะไว้ใจได้ อิอิ
อุ้มอยากให้รสชาติของฟิคนี้มันออกมากลมกล่อมในแบบของอุ้มมากที่สุดค่ะ ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะคะ
อ้อ ลืมบอกไป พอร์ทเรื่องที่แต่งไปแล้วตอนนี้คือ ตี๋ใหญ่สองคน กับ เรื่องของนายใหญ่ฟ่านชิงนะคะ ส่วนเรื่องของอี้ชิงน้องเล็ก หมวยเล็กของเรายังคิดไม่ออกเลยอ่า... ;___;
ไม่เป็นไร แต่งสามคู่นี้ให้จบก่อน ส่วนยัยหมวยว่ากันอีกทีเนอะ (ใครอยากอ่านแนวไหนบอกได้นะคะ)
ใครอยากอ่านพอร์ทเรื่องของนายใหญ่ฟ่านชิงบ้าง ยกมือขึ้น!
ความคิดเห็น