คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : =KrisLay= 5 = "Complete"
--ตอน Complete--
“หม่ะม๊าไปไหนฮะ?” อี้ฟ่านเกาะขอบประตูห้องนอนถามป่ะป๊าเมื่อเห็นว่าขายาวๆก้าวเข้ามาในบ้านอย่างรวดเร็ว เร่งรีบเก็บของใส่กระเป๋า เอาผ้าเก่าไปซัก ต้องนอนเฝ้าเลย์ที่โรงพยาบาลอยู่อีกหลายคืน ใบหน้าหล่อดูเหนื่อยทว่ายิ้มอยู่ตลอด
“หม่ะม๊าจะคลอดน้องแล้ว” พูดพร้อมรอยยิ้ม “หม่ะม๊าปวดท้องตั้งแต่เมื่อเช้า ไม่เกินคืนนี้คงได้เห็นหน้าน้อง” มือหน้าลูบหัวทุยของลูกอย่างเอ็นดู อี้ฟ่านทำตาโต ปวดท้องจะคลอดเหรอ คลอดน้องนี่เป็นยังไงกันนะ? แล้วน้องจะออกมางอแงเก่งเหมือนฟ่านชิงรึเปล่า?
“น้องผู้หญิงหรือผู้ชายฮะ?” เด็กชายตัวน้อยถามขณะปีนขึ้นมาบนเตียงนอน ดูป่ะป๊าจัดกระเป๋าลวกๆอย่างเร่งรีบ
“ผู้หญิงสิ” คริสยิ้มกว้าง ตอบแบบเข้าข้างตัวเองทั้งๆที่จริงๆก็ไม่มั่นใจหรอกว่าเด็กในท้องเป็นผู้หญิงแน่ๆรึเปล่า
“ง่า...” อี้ฟ่านแบะปาก
ผู้หญิง... เด็กผู้หญิง...
น่ารำคาญจะตาย ขี้ร้อง เสียงแหลม เขาจได้ตอนที่ป่ะป๊าหม่ะม๊าพาไปบ้านญาติที่มีน้องผู้หญิง ร้องไห้ทั้งวัน แสนจะน่ารำคาญ
จัดกระเป๋าเสร็จคริสแวะไปหาลูกอีกสองคนในห้องเด็ก เขาจ้างพี่เลี้ยงมาช่วยดูแลและนอนเป็นเพื่อนเด็กๆระหว่างที่ง่วนอยู่กับการดูแลภรรยาที่โรงพยาบาล อู๋ฟ่านพี่ใหญ่นั่งอยู่บนเตียงตัวเองมองไปยังน้องตัวเล็กที่ซุกอ้อมกอดพี่เลี้ยงได้ยินเสียงสะอื้นคลอมาเบาๆขณะที่หญิงสาวพยายามปลอบด้วยคำพูดอ่อนหวานและการโยนตัว
“น้องร้องไห้ทั้งคืนเลยฮะ” อู๋ฟ่านฟ้องใหญ่ หน้ามุ่ยสุดขีด ไม่มีใครชอบเสียงเด็กร้องโยเยทั้งนั้น พี่เลี้ยงเองก็เหนื่อยใจแต่ฟ่านชิงติดแม่ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดพอไม่มีเลย์ อะไรๆก็ดูยาก
“โอ๋...” ร่างสูงรับเด็กร่างอ้วนปุ้มปุ้ยมาอุ้ม แม้แต่พี่เลี้ยงก็ยังยิ้มเหนื่อย
“ไปหาหม่ะม๊ากันนะครับคนเก่ง” พอได้ยินคำว่าหม่ะม๊าก็พูดคลอตาม ม๊า ม๊า ไม่ได้รู้เรื่องอะไรนักหรอกแค่แค่นี้ก็ศักดิ์สิทธิ์พอทำให้เด็กวัยขวบครึ่งหยุดงอแงไปได้ชั่วคราว
“แล้วน้องอู๋กับน้องอี้ล่ะฮะ?”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมารับไปดูน้องกันนะ”
.
.
.
ร่างบางอึดอัดเหลือเกินกับท้องวัยเก้าเดือนและอาการปวดบีบที่ท้องไม่หาย ถึงแม้ว่านี่จะเป็นครั้งที่สามที่ต้องทนกับอาการแบบนี้ แต่ก็ยอมรับว่าตื่นเต้นไม่ต่างจากครั้งแรกเลย หมอบอกว่าลูกตัวใหญ่ต้องผ่าออก ถึงแม้จะไม่ขัดข้องแต่ก็รู้สึกเสียดายอยู่เหมือนกันเขารอเวลาที่จะเห็นหน้าลูกมาเก้าเดือน คิดถึงจะตายอยู่แล้ว อยากเห็นหน้าเขาตั้งแต่วินาทีแรกแต่ก็คงต้องยืดออกไปอีกหน่อย คนกระตือรือร้นยิ่งกว่าเขาเสียอีกคงจะเป็นคนพ่อ อยู่ไม่ติดเลยทั้งวัน เดินไปเดินมาในห้องจนน่าเวียนหัวถามเขาอยู่ตลอดสองสามวันที่ผ่านมานี้ว่าจะตั้งชื่อลูกว่าอะไรดี ทะเลาะกันอยู่หลายรอบเพราะชื่อที่คริสเสนอมาหลายชื่อเขาไม่ถูกใจ แต่จนแล้วจนรอดก็ลงตัว
อี้ชิง
ชอบใช่ไหม...คนดี?
หนูดิ้นตอนที่ป่ะป๊าพูดชื่อนี้ขึ้นมานะ
ไม่รู้ว่าชอบหรือไม่ แต่เราติ๊ต่างเอาว่าหนูชอบนะ คิก...
“คริส?”
“ดูซิ พาใครมาด้วย” ความคิดเพียงลำพังของคนท้องแก่ถูกหยุดลงเมื่อประตูถูกเปิดออก ร่างใหญ่โตจูงเด็กที่เดินเตาะแตะมาด้วย ความสูงที่แตกต่างมากทำให้เวลาป่ะป๊าจูงลูกชายวัยขวบครึ่งดูลำบาก พอเห็นหม่ะม๊าเท่านั้นล่ะ มือน้อยสะบัดใหญ่นั่นออกแล้ววิ่งมากระโดดอยู่ข้างเตียง
“ฮือ หม่ะม๊า หม่ะม๊า” ได้แรงช่วยจากร่างสูงให้ขึ้นมากอดร่างของแม่บนเตียงได้สบายๆ เสียงร้องไห้ที่เหมือนจะคับแค้นใจซุกลงบนอกแม่ เลย์ยิ้มบาง ลูบหัวปลอบประโลม เด็กคงน้อยใจจู่ๆหายไปทั้งพ่อและแม่คงนึกว่าทิ้งกันไปซะแล้ว
“โอ๋ คนดี ป่ะป๊าหม่ะม๊าไม่ได้ทิ้งหนูนะครับ” เด็กในอ้อมกอดร้องไห้เสียงดังออดอ้อน ร่างสูงกดจูบลงบนหัวกลมของฟ่านชิงที่ร้องให้สะอื้นสั่น
“พรุ่งนี้ก็ได้เห็นหน้าน้องสาวแล้วนะ”
“คริส ยังไม่มั่นใจเสียหน่อยว่าจะได้ลูกสาว” เขาต้องตึงสามีกลับสู่โลกแห่งความจริงพี่ครั้งแล้ว คิดถูกหรือผิดนะที่ไม่อัลตร้าซาวน์ว่าเด็กในท้องเพศอะไร แต่แม้เลย์จะหน้ามุ่ยก็เถอะ คุณพ่อก็ยังหัวเราะ ไหวไหล่อย่างอารมณ์ดี แม้จะพูดว่าไม่มั่นใจว่าจะได้ลูกหญิงหรือชาย ร่างบางก็แอบกังวลอยู่ไม่ใช่น้อยที่เป็นแบบนี้ ทุกคนดูคาดหวังว่าจะได้ผู้หญิง จนทำให้เลย์เองรู้สึกกังวลไปด้วย
จะชายหรือหญิงกันนะ?
ตื่นเต้นจนจะแย่
.
.
.
เข้าห้องผ่าคลอดในคืนวันนั้น คุณแม่นอนหลับเพราะความเหนื่อยอ่อนจากการเสียเลือดและยาสลบ ตื่นขึ้นอีกครั้งตอนตีสาม เป็นการตื่นที่กระวนกระวายที่สุด ทั้งห้องไม่มีใครเลย มีแต่เขา ฟ่านชิงกลับไปแล้วตั้งแต่เย็น เลย์เจ็บแผล แค่จะก้าวลงจากเตียงยังลำบาก
“คริส” เสียงเรียกที่ระโหยโรยแรงจนแทบไม่ได้ยิน ไม่อาจนอนต่อได้ ใจของเขามันเต้นตึกตักแรงจะแทบออกมานอกอก เมื่อได้ยินเสียงใครสักคนผลักประตูเข้ามา
“ตื่นแล้วเหรอ?” เป็นสามีนั่นเอง
“คริส ลูกล่ะ?”
“แข็งแรงดีมากเลย น้ำหนักแรงคลอดตั้งเกือบๆสามพันกรัม” รอยยิ้มจุดขึ้นบนใบหน้าคม ลูบผมเขาอย่างอ่อนโยน กดจูบลงบนหน้าผากของภรรยา เลย์เก่งมาก เขาดีใจมาก
“แล้ว ชายหรือหญิงล่ะ?” สองมือจับแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของคริสเอาไว้แน่น แววตาที่เต็มไปด้วยความหวังจากคำตอบเกือบทำให้คริสไม่กล้าพูด เขาทำให้เลย์คิดมากเกินไปรึเปล่า
“ผู้ชายเลย์ ลูกชาย” หัวใจของคนตัวเล็กเหมือนเต้นผิดจังหวะ เพราะความอ่อนเพลียหรืออะไรก็ไม่รู้ได้ มือเล็กคลายแขนล้ำพร้อมแววตาที่สับสน
“เลย์...” เขาทำให้ร่างบางซีเรียสกับเพศลูกมากเกินไปรึเปล่า?
“คริส อึก คริสผิดหวังรึเปล่า” แววตากลมที่ช้อนมองมาทำให้ร่างสูงใจหาย หยาดน้ำใสคลอหน่วงจนแทบจะไหลออกมาจนคริสทำอะไรไม่ถูก อุ้งมือหนาทั้งสองข้างนาบลงบนดวงตาหวานของเลย์ ไม่ต้องการให้น้ำใสๆนั้นมันไหลออกมา
“ไม่เอาที่รัก วันนี้วันดี วันเกิดลูก ไม่เอาไม่ร้องไห้”
“อึก...แต่ว่าคริส” ทุกคนอยากได้ลูกสาวกันหมด ทำไม..ทำไม...
“ไม่เลย์ จะลูกชายลูกสาวก็รักเหมือนกันหมดนะ เออนี่ อู๋ฟ่านกับอี้ฟ่านก็อยากได้น้องชายไง มีน้องชายจะได้เล่นกันได้ทุกอย่างไง ดีจะตาย”
“ฮึก..อื้อ” มือหนายังคงทาบทับอยู่บนดวงตา ร่างขาวจัดยังคงสั่น
“ไม่เอาครับ ไม่ร้องไห้นะ”
“อึก...”
“ฮึบเข้าไป ฮึบ!” ยังมามีเวลาตลกตอนที่น้ำตาเลย์แทบจะไหล แต่มันก็สำเร็จนะ ร่างบางหัวเราะทั้งๆที่คลอเสียงสะอื้นไปได้
“ไม่ร้องไห้แล้วใช่มั้ย?”
“อะอื้อ” พยักหน้า อุ้งมืออุ่นคล้ายออกจากดวงตา “พาลูกมาหน่อยสิ” คนป่วยช้อนแววตามองร่างสูงกว่าเช่นเดิม คนตัวสูงยังคงยิ้มแย้มยินดี จูบลงบนริมฝีปากเขาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยมันทำให้เลย์หัวใจเต้นแรงกว่าเก่า แล้วเดินออกไปนอกห้องอีกครั้งเพื่อพาลูกมาตามที่เลย์ร้องขอ ความอุ่นยังคงซับซาบอยู่รอบดวงตา คริสทำแบบนี้ประจำเมื่อไม่อยากให้เขาร้องไห้ ไม่รู้ว่าไปเอาวิธีแบบนี้มาจากไหนแต่มันรู้สึกดีมาก มันทำให้เลย์หยุดร้องได้จริงๆ
“น้องมาแล้วค่ะคุณแม่” เสียงพยาบาลสดใสแม้ว่าตอนนี้จะตีสามกว่า เดินตามเข้ามาพร้อมคุณพ่อที่ตามประกบติดทุกย่างเก้าแม้แต่ตอนอุ้มขึ้นจากเปลส่งให้เลย์ก็เป็นคริสอีก จากประสบการณ์เลี้ยงลูกมาแล้วสามคนดูจะมีความชำนาญในการอุ้มเด็กเล็กมากขึ้นผิดกับตอนแรกๆมากโข
“ดูสิ เลย์ว่าหน้าเหมือนใคร” เนื้อตัวชมพูฝาดเลือดดูบอบบาง ใบหน้าหลับพริ้มอิ่มสุข ริมฝีปากเป็นกระจับเล็กๆ ผิวอ่อนของเด็กทำให้แก้มขึ้นเป็นริ้วจาง อยากให้ลืมตาจัง ดวงตากลมฉ่ำของเด็กน้อยคงน่ารักน่าเอ็นดู
“หน้าไม่เหมือนพี่ๆสามคนเลยนะ” ร่างบางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม ไม่ฉายแววซุกซนหรือคมเข้มเหมือนพ่อ ลูกคนนี้หน้าเหมือนเลย์มากกว่าคนอื่นๆ
“อืม ฉันว่าหน้าเหมือนเลย์มากเลย เหมือนเลย์ตอนเด็กๆ” คริสเคยเห็นรูปที่แม่เขาถ่ายไว้สมัยก่อน “โตขึ้นจะไม่ยอมให้ใครมาจีบเลย” คุณพ่อกล่าวด้วยเสียงจริงจัง กดจูบแผ่วเบาลงตรงกระหม่อมบาง ในหัวคิดว่าคงไม่มีใครที่จะรักลูกไปได้มากกว่าเขาอีก
“อะไรกันคริส พูดอย่างกับลูกเป็นผู้หญิง นี่ลูกชายนะต้องไปจีบคนอื่นสิ” ร่างบางพูดปนขำ
“ไม่รู้ล่ะ มีลูกน่ารักขนาดนี้ก็ต้องหวงเป็นเรื่องธรรมชาติ” นี่สินะที่บอกว่าอยากมีลูกเอาไว้วางกล้ามเป็นพ่อตาจอมโหด คิก...
.
.
.
ญาติผู้ใหญ่และคนรู้จักทยอยมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างครึกครื้น ไม่มีใครจะสนุกไปกว่าพี่ชายสามคนแล้วล่ะที่ได้กินนู่นกินนี่จากผู้ใหญ่ใจดีทั้งวัน ทั้งพ่อแม่คริสเองและพ่อแม่ของเลย์ก็ต่างดีใจที่ได้หลานชายมาอีกคนแม้ว่าตอนแรกจะหวังหลานสาวเอาไว้เยอะก็ตาม
“ได้หลานชายมาหมดเพราะคริสเก่งแท้ๆเลยนะเนี่ย” พ่อของเลย์ออกปากชมไม่ขาดจะกี่ปีกี่ชาติคนจีนก็ยกความดีให้ลูกชายหมดจนลูกตัวเองที่นอนปวดแผลหน้ามุ่ย
“ป๊าอ่ะ ชมแต่คริสเก่งหนูไม่เก่งหรอ?” คลอดมาตั้งสี่คนแถมผัวก็สามวันดีสี่วันไข่ขนาดนี้ เลย์สิเก่งไม่ใช่ผัวเลย์
“โอ๋...ลูกป๊าก็เก่ง อยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าล่ะ?” ช่วงแรกคลอดกินได้เยอะที่ไหนกัน กินได้แต่ของร้อนกับพวกผักต้ม บำรุงน้ำนม บำรุงนู่นนี่
“ไม่ฮะ” ตวัดเสียงคล้ายงอนปนหงุดหงิดที่กินของที่ชอบไม่ได้ แต่หลังจากนี้ระวังไว้เถอะ จะกินแบบจัดเต็มเลยคอยดู
เสียงหัวเราะครึกครื้นของผู้ใหญ่ที่คุยนู่นคุยนี่ปนเสียงเด็กที่ขนของเล่นมาเล่นกันอย่างสนุกสนานประหนึ่งห้องพักผู้ป่วยวีไอพีนี้เป็นบ้าน ร่างโปร่งของชายหนุ่มแปลกหน้าผลักประตูเขามา ทุกสายตาหันไปมองรวมทั้งเลย์ด้วย
“คุณอาแทยง” เด็กแฝดพูดขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน แทยงหยุดนิ่งเมื่อให้ผู้ใหญ่อยู่เต็มห้องก่อนทำความเคารพอย่างนอบน้อม
“ผม...เอาของมาเยี่ยมครับ” ดูเกร็งมากทีเดียวเมื่อเห็นสายตาของทุกคนที่เป็นคำถามอย่างชัดเจนว่า เขาเป็นใคร?
“อ่า..แทยงไม่เจอกันนานเลยนะ” เลย์ต้องแสดงตัวว่าชายแปลกหน้าคนนี้ไม่ได้หน้าแตกเพราะเข้าผิดห้องแต่อย่าใด ยันตัวลุกขึ้น รอยยิ้มบนจุดขึ้นบนใบหน้า เด็กหนุ่มเดินเข้าไปหาร่างขาวจัดแล้ววางกระเช้าผลไม้ที่แพคมาอย่างสวยงามไว้บนโต๊ะข้างเตียงผู้ป่วย
“พี่เป็นไงบ้างครับ?”
“อ่า..ก็ปกติของอาการหลังคลอดนะ แหะๆ ไม่น่าลำบากเราหิวของมาให้เลย” รู้สึกแปลกๆตอนเห็นสายตาอารมณ์ดีของสามีเปลี่ยนเป็นมองหรี่ตา
“ไม่ลำบอกผมเลยครับ เป็นยังไงบ้างฮะเจ็บแผลอยู่มั้ย?” คนตัวเล็กพยักหน้าเบาๆไม่โกหก “แล้วน้องเป็นไงบ้างครับ?”
“นี่ไง ผู้ชาย หลับปุ๋ยอยู่นี่” เตียงเด็กเล็กยังตั้งอยู่ข้างๆ อี้ชิงนอนหลับนิ่งอยู่ในนั้นภายใต้ผ้าห่มผืนนุ่มที่หุ้มกายเล็กไว้ให้อุ่น แทยงเดินไปดูน้องใกล้ๆ โดยมีคริสที่มาคอยยืนคุมเชิงอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หรี่ตามองเด็กหนุ่มด้วยสายตาไม่วางใจนักแต่ถึงกระนั้นแทยงก็ไม่อาจสัมผัสได้ถึงรังสีความอัมหิตที่ส่งมา
“ผมอุ้มได้มั้ยครับ?”
“ไม่!” คริสตอบแทบจะทันที
“ได้ครับ” สวนทางกับคนเป็นแม่
“เลย์!”
“คริส” เสียงหวานกดต่ำ ไม่เข้าใจว่าทำไมคริสถึงได้ทำตัวเด็กขนาดนี้ แค่อุ้มลูกนิดหน่อยไม่ได้รึไงกัน? แน่ะ...ยังมาทำหน้า กอดอกไม่พอใจอีก
“ตกลงได้ไหมครับ?” แทยงหันมองป่ะป๊ากับหม่ะม๊าของเด็กน้อยสลับกันไปมา
“ขอคุณคริสสิครับ เขาไม่ใช่คนแล้งน้ำใจหรอก” อี้ชิงยิ้มบางให้แต่สำหรับคริสมันคือการกดดัน ว่าถ้าไม่ยอมหมายความว่าเขามันแล้งน้ำใจ
“ผมขออุ้มนะครับ คุณคริส” คนหนุ่มกว่าทั้งทำเสียงอ่อนแล้วกระพริบตาปริบๆแบบนั้นทำอะไรคริสไม่ได้หรอก แต่ที่ต้องยอมพยักหน้าส่งๆเพราะสายตากดดันจากกคนข้างหลังต่างหาก การพยักหน้าที่ดูรู้ว่าไม่เต็มใจแต่แทยงไม่ได้มาสนใจว่าคนตัวสูงจะมีความรู้สึกแอบแฝงอะไรอยู่ในนั้น ได้ก็คือได้ ไม่คิดตีความหมายให้มากความ
ตลอดเวลาที่เด็กอยู่ในมือของเด็กหนุ่ม คริสจ้องเขม็งไม่วางตา รอคอยจังหวะที่ลูกจะดิ้นหรือร้องไห้ อะไรสักอย่างเพื่อเป็นข้ออ้างให้แทยงวางลูกเขาลงเสียที
ไม่เลย...นิ่งสนิท..
ลูกพ่อ..ดิ้นเร็วสิ
“น้องชื่ออะไรครับ?”
“อี้ชิงครับ คริสตั้งเองเลยนะ จริงๆน่าจะเป็นชื่อผู้หญิงแต่ปรึกษาพ่อแม่แล้วเอาเป็นชื่อผู้ชายก็ได้” มือบางลูบหัวลูกที่มีผมขึ้นน้อยๆผะแผ่ว พยายามไม่สนใจสายตาอาฆาตของสามีที่มองมา เขาล่ะอยากจะถอนหายใจหลายๆครั้ง
“น้องน่ารักมากเลยครับ ผมอยากจะขอ...”
“ไม่ได้!!” คริสพูดเสียงดังมากจนอี้ชิงสะดุ้งตื่น อ้าปากร้องลั่นในอ้อมกอดของแทยง
“อ๋า...ทำไมคุณคริสเสียงดังล่ะครับ?” แทยงหน้าเหวอ พยายามโยนตัวปลอบแต่น้องร้องลั่นตกใจ จนเขาเกร็งไปหมด ทำอะไรไม่ถูกต้องส่งให้เลย์ช่วยทำให้หยุดร้อง
“คริส ทำไมเสียงดังแบบนี้” ให้ลูกหลับนิ่งๆไม่ได้รึไง รู้นะว่าหวงลูกแต่มันไม่เข้าเรื่องเลย
“ก็เพราะนายนั่นแหละ เมื่อกี้ว่าอะไร จะขอลูกฉัน ฉันไม่ให้หรอกนะ!” เด็กตัวแค่นี้จะมาขออะไร โรคจิต โชตะค่อน!
“ผมจะบอกว่าขอถ่ายรูปครับ”
“….”
ได้ยินเสียงถอนหายใจของเลย์พร้อมสายตาไม่พอใจทำให้ร่างสูงต้องปิดปากเงียบ นิ่งเหมือนจะโดนแม่ตีก็ไม่ต่าง อะไรล่ะ?! ก็ลูกคริส คริสหวงไม่ได้รึไง?!
“กะ ก็ฉัน”
“ถ้าทำให้ลูกร้องอีกครั้งเดียวนะคริส” สายตาของอี้ชิงที่มองแรงมายังเขา...
เออ คริสออกไปรอนอกห้องก็ได้
.
.
.
สองสัปดาห์หลังจากที่กลับจากโรงพยาบาลเป็นช่วงเวลาที่วุ่นวายสุดๆ เพราะเด็กเล็กต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษ เป็นช่วงเวลาต้องปรับตัวทั้งเด็กและคนอื่นๆในบ้าน สองแฝดถูกสั่งห้ามวิ่งในบ้านชั่วคราว สนามหญ้าหลังบ้านที่เก่าจึงกลายเป็นกองบัญชาการไปโดยปริยาย ส่วนฟ่านชิงไม่มีอะไรมาก ต้องเปลี่ยนแค่เวลาจุกนมยางหลุดเก็บขึ้นมาเองได้อย่างร้องไห้เสียงดังก็พอ
แต่สำหรับคนพ่อ...ต้องเปลี่ยนเยอะเลยล่ะ
“ป่ะป๊าไปทำงานแล้วน้า”
“จู๊บบบบบบบบบ (‘3’) (‘3’)” หอมแก้มสองแฝดหน้าทะเล้นสองคนแรงๆอย่างหมั่นเขี้ยว ตามมาด้วยฟ่านชิงที่นั่งเคี้ยวข้าวแก้มตุ่ย จับช้อนเองเป็นแล้วหลังจากที่หม่ะม๊าป้อนไม่ทันใจเอาเสียเลย
ทั้งที่ความจริงแค่นี้ก็ออกจากบ้านไปแล้วนะแต่มีอีกสองคนที่ลืมไม่ได้เลย อยู่ในห้องนั่งเล่น
“จ้องหม่ะม๊าตาแป๋วทำไม หืม?” เสียงพูดอ่อนหวานคลอหัวเราะของภรรยากับเด็กน้อยในอ้อมกอดเขาว่ากันว่าเด็กจะเริ่มรู้ได้จากสัมผัสว่าคนไหนรักเขาตั้งแต่เพิ่งเกิด เสียงหวานกับท่าทางน่ารักทำให้ร่างสูงยิ้มออกมาอย่างลืมตัว หย่อนกายนั่งลงข้างๆร่างขาวจัดในชุดสบาย ใบหน้าที่ไม่ได้รับการแต่งเติม อ่อนล้า แต่มีความสุขอยู่ในนั้น
“อี้ชิงตื่นแล้วเหรอ?” เอาใบหน้าเกยไหล่คนตัวเล็ก เด็กน้อยตัวแดงมองมายังหม่ะม๊าสลับกับป่ะป๊าด้วยดวงตากลมฉ่ำ
“ใช่ นี่คริสจะไปทำงานแล้วเหรอ?”
“อืม” รอยยิ้มทรงเสน่ห์จุดขึ้นตรงมุมปาก
“อี้ชิงครับ ป่ะป๊าจะไปทำงานแล้วนะ ให้กำลังใจป่ะป๊าหน่อยเร็ว” อุ้มลูกให้นอนหงาย ประคองคออ่อนไว้ อี้ชิงเด็กน้อยมองร่างสูงด้วยแววตาสงสัย
“อี้ชิง ป่ะป๊าไปทำงานแล้วน้า” เสียงเข้มเอ่ยหยอกน่ารัก นิ้วยาวของคริสไล้เบาๆไปตามใบหน้ากลมเล็ก ลงมาถึงหน้าอกแล้วถูหลังมือของเด็กน้อยเบาๆ
หมับ...
มือที่เล็กกว่าเขาหลายสิบเท่ายื่นมากำนิ้วชี้เรียวยาวของป่ะป๊า จ้องใบหน้าหล่อนิ่งๆแต่สัมผัสเล็กนิ่มกับแววตาน่าเอ็นดูนั้นทำให้คนเป็นพ่อหัวใจพองโตอย่างบอกไม่ถูก
น่ารัก...
น่ารักมากๆเหมือนเด็กผู้หญิงเลยอี้ชิงของป่ะป๊า!
“คริส ไปทำงานได้แล้ว”
“….”
“คริส”
“….”
“คริสจะไปไม่ไป?” เสียงเข้มของเลย์ปลุกเขาขึ้นจากฝัน
“เลย์ ไม่ไปได้มั้ย ดูลูกสิ น่ารักขนาดนี้...”
“ไม่ต้องเลยคริส เมื่อวานก็อ้างไม่ไปเพราะจะอยู่กับลูกมาวันนึงแล้วนะ” มุกเก่าๆ เลย์รู้หรอกน่า เมื่อวานก็เอาใบหน้ามาไถๆเขาขออยู่กับลูก อุ้มลูก เอาหน้าไซร้เด็กทั้งวัน เอาแต่พูดพึมพำลูกสาวของป่ะป๊า คนที่โรคจิตท่าทางจะเป็นผัวเลย์เองมากกว่า
“ทำไมใจร้าย! เธอกีดกันไม่ให้พ่อลูกอยู่ด้วยกัน! มันบาปนะ!”
“ไม่ทำงานปล่อยให้ลูกเมียอดตายก็เป็นบาปเหมือนกันนั่นแหละ! ไปทำงานเดี๋ยวนี้เลย!”
“ใจทมิฬ”
“เฮ้อ นี่ แค่ไปทำงานแล้วตอนเย็นกลับมาก็เจอลูกแล้ว”
เออว่ะ...
แล้วจะให้อุ้มอี้ชิงตกลงมั้ย?”
“งั้นไปทำงานแล้วนะ” ร่างบางเอียงหน้าให้อีกคนหอมแก้มเร็วๆแล้วเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นอย่างอารมณ์ดี
“ป่ะป๊านี่ตลกเนอะ มาติดเชื้อมานะอี้ชิง” เสียงหวานเอ่ยพูดกับอี้ชิง มีเพียงเสียงอ้อแอ้ตอบกลับมาเบาๆราวกับเข้าใจ
.
.
.
เลย์เคยถามตัวเองตอนเป็นวัยรุ่นว่าจะได้ถ้าแต่งงานต้องมีครอบครัวใหญ่แค่ไหนจึงจะเรียกว่ามีความสุข?
“หม่ะม๊า!!” ร่างบางแทบทิ้งมีดเมื่อได้ยินเสียงหลงของอู๋ฟ่านวิ่งเข้ามาหาในครัว ใจหาย ไม่ใช่ว่าใครหัวล้างข้างแตกมานะ เลย์ยิ่งไม่ค่อยถูกกับเลือดอยู่
“มะ มีอะไรลูก?!”
“น้องตายแล้ว!!”
“ห๊ะ?!” เลย์จะเป็นลม “น้อง...น้องคนไหน?!”
“อี้ชิง!”
ร่างบางรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุตามแรงปรารถนาของลูกชายคนโต ภาพร่างเด็กน้อยขนาดประมาณหกสิบเซนอยู่ในอ้อมกอดของคนเป็นพ่อที่กำลังทำอะไรสักอย่าง
“คริสทำอะไรลูกหน่ะ?!”
“ชู่ว!” ร่างบางเผลอส่งเสียงดัง รบกวนเวลาของสองพ่อลูก
ร้องเพลงกล่อมลูกหรอ?
คุณพระช่วย...
ไม่เคยมีลูกคนไหนของเราที่ฟังเพลงที่คริสร้องแล้วนอนหลับมาก่อน...
ถึงว่าอู๋ฟ่านถึงตกใจนัก จนแม้แต่เลย์เองก็ยังไม่อยากเชื่อ
“ไหนขอฟังเสียงหัวใจลูกหน่อย” เลย์อยากรู้ว่าอี้ชิงหลับจริงหรือตายอย่างที่ปากลูกชายว่า เด็กน้อยตัวนิ้มในชุดประโปรงพองๆสีชมพูที่คริสจับแต่งนอนแปะตัวบนบ่ากว้างอย่างสบาย เลย์เอาหูแนบแผ่นหลังเล็กๆนั่น
หลับจริงๆด้วยแฮะ...
“อ้อนป่ะป๊าเก่งนะคนเนี๊ยะ วันก่อนฉันเอาเคราไปถูกหน้าก็หัวเราะใหญ่เลย ร้องเพลงให้ฟังก็หลับปุ๋ย”
“ดูท่าลูกเราจะประสาทสัมผัสไม่ค่อยดีนะคริส” ใครจะไปชอบตอหนวดแข็งๆ ขนาดเลย์ยังขยาดยกเว้นเวลา... เออ นั่นแหละ
“โอ๋...อ้อนหม่ะม๊าได้แค่อาหารอร่อยๆ ถ้าอ้อนป่ะป๊าจะได้ทุกอย่างบนโลกเลยน๊า จะเอาดาวก็ให้ได้”
เขาควรปล่อยให้สามีล่องลอยกับความฝันไหมนะ?
ครอบครัวของเลย์ตอนนี้กำลังจะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แล้ว
“อี้ชิง เรียกป่ะป๊าสิคะ ป่ะป๊า”
“ฮึ” อยากจะขำ ได้ยินเสียงคริสพูดกรอกหูลูกทุกวันราวกับพยายามสั่งตุ๊กตาเด็ก อี้ชิงวัยเจ็ดเดือน ร่างปุ้มปุ้ย นุ่มนิ่มมองใบหน้าหล่อตาใส เลย์อยากจะหัวเราะ เลย์เลี้ยงมาทุกวันอี้ชิงยังเรียกหม่ะม๊าไม่ได้เลย พูดอ้อแอ้ๆอยู่ตามประสา ความพยายามของคริสคงสูญเปล่า...
“ปา...”
ห๊ะ!!
“ลูกเรียกป่ะป๊าแล้ว! เรียกแล้ว! วะฮ่ะฮ่า! เห็นมั้ยเลย์ฉันชนะ! ฮ่าๆ! ” เลย์ก็อึ้งไปเหมือนกันที่ได้ยินเขาท้าพนันว่าอี้ชิงจะเรียกชื่อใครได้ก่อน เป็นไปได้ยังไงในเมื่ออี้ชิงอยู่กับเลย์บ่อยกว่าร่างสูงอีก!
คริสหอมแก้มลูกแรงๆแล้วจับอุ้มด็กน้อยเต้นรำไปรอบๆ หลังจากเรียกสติคืนกลับมา ร่างบางเบ้ปากแล้วเอ่ยเย้ยกลับไปบ้าง
“เหอะ แต่ลูกสามคนก่อนหน้านี้เรียกชื่อหม่ะม๊าก่อนทุกคนแหละ”
ยังไงเลย์ก็ชนะด้วยจำนวนคน
“อี้ชิงคนดี เคยเห็นคนแพ้แล้วพาลมั้ยคะ?”
“คริส!!!”
ครอบครัวบางครั้ง ก็ไม่ใช่แค่ความรัก
“อี้ชิงกินอีกสิลูก ทำไมหนูกินไปนิดเดียวเอง” เลย์พูดกับลูก ร่างบางมีสีหน้าที่กลุ้มใจเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยผลักชามข้าวของตัวเองออกห่างตัวแสดงว่าไม่กินแล้ว ทั้งๆที่กินไปแค่สองคำ ข้าวที่เขาตักมันยังเหลือพูน กับข้าวก็เต็มถ้วย แถมยังอมข้าวอีกต่างหาก
เลี้ยงลูกมาสามคนไม่เคยมีปัญหาเรื่องกินเลย เลย์ถึงได้เข้าใจว่าทำไมพ่อแม่ถึงเครียดกันนักเมื่อลูกไม่ค่อยกิน เมื่อได้เห็นแขนลีบเล็กกับหัวโตๆนั่น…
“กินอีกนิดนะลูก เดี๋ยวหม่ะม๊าป้อน” พยายามคะยั้นคะยอ ตักจ่อปากก็แล้วแต่อี้ชิงก็ยังเบือนหน้าหนีไม่กิน เบ้ปากต่อต้านเป็นเรื่องปกติของเด็กวัยสามขวบที่จะชอบปฏิเสธ
“ไม่เอาหม่ะม๊า”
เสียงถอนลมหายใจของภรรยามันทำให้คริสรู้สึกแย่ไปด้วย อี้ชิงกินยากเหลือเกิน ชอบกินแต่ของที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ หรือไม่ก็กินนมเสริมสารอาหารซึ่งจริงๆมันก็ไม่ดีเท่าของสดที่เลย์ตั้งใจทำให้กินทุกวัน
“อี้ชิง ทำไมหนูไม่กินข้าวคะ?” พอได้ยินเสียงเข้มของป่ะป๊าร่างน้อยก็ทำหน้าจ๋อย ก้มหน้าคางชิดอกไม่กล้าตอบ รู้ว่าป่ะป๊าถ้าใจดีก็ดีมาก แต่ถ้าดุก็ดุสุดๆ
“หนูไม่กินข้าวแล้วถ้าคืนนี้หิวจะทำยังไง เดี๋ยวหนูจะปวดท้องนะ”
“แต่หนูไม่อยากกินแล้ว”
“หนูต้องกิน หนูไม่กินแล้วจะเอาอาหารที่ไหนไปเลี้ยงสมอง”
“....”
“หนูตัวเล็กมากเลยรู้มั้ย ดูพี่ฟ่านชิงสิ พี่กินเก่งเห็นมั้ย พี่แข็งแรง” ป่ะป๊าชี้ไปยังพี่ที่นั่งอยู่ข้างหม่ะม๊า เคี้ยวข้าวอย่างอร่อยไม่พูดไม่จา คริสกับเลย์ไม่เคยต้องหนักใจ
“....”
“กินข้าวให้หมด เร็วค่ะคนดี แค่นี้เองไม่เยอะ”
บางครั้งครอบครัวต้องการความห่วงใย
คริสเอาช้อนของตัวเองตักข้าวจ่อปากอี้ชิงบ้าง แต่เด็กน้อยเอาหน้าหลบ คริสไม่ยอมแพ้แต่อี้ชิงก็ไม่อยากกิน เด็กที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางปัดช้อนจากมือป่ะป๊าจนกระเด็นแล้วปัดถ้วยข้าวลงพื้นหกกระจัดกระจาย
“หนูไม่กิน!”
ทั้งโต๊ะเงียบ อู๋ฟ่าน อี้ฟ่านก็เงียบ เลย์ก็ไม่กล้าจะไม่พูดอะไร แม้แต่ฟ่านชิงก็ยังต้องหยุดเคี้ยวแต่คนที่หน้าซีดที่สุดคงจะเป็นอี้ชิง เพราะสายตาของป่ะป๊าที่มองมามันไม่ใช่ความเหนื่อยแบบเมื่อกี้ มันคือความโกรธ ป่ะป๊าโกรธแล้ว...
ร่างสูงลุกขึ้นเก็บช้อนที่ถูกปัดกระเด็น โกยข้าวที่หกใส่ถ้วยแล้วเอาไปทิ้งถังขยะ หยิบช้อนคันใหม่แล้วกลับมานั่งที่เดิม แต่ไม่พูด คริสไม่คุยกับลูกแล้ว เขาไม่พอใจเวลาเห็นลูกก้าวร้าวแม้ว่าจะยังเด็กมาก ไม่ได้ถือสาแต่รู้ว่าอี้ชิงกลัวเวลาเห็นเขาโกรธ ต้องแกล้งโกรธลูกบ้างเพื่อให้ลูกจำว่าไม่ควรดื้อกับเขา
เมื่อหัวหน้าครอบครัวลงมือกินต่อ ทุกคนก็กินต่ออย่างเงียบๆ บรรยากาศอึดอัดกว่าที่ควรจะเป็นจนแม้แต่เด็กยังรู้สึกได้ อี้ชิงอ้าปากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่กล้า สายตาคมของป่ะป๊าไม่มองมาอีกแล้ว มันทำให้เขากลัว
ให้ป่ะป๊าคะยั้นคะยอแบบเมื่อกี้ยังดีเสียกว่า
“ป่ะป๊า...” มือเล็กเอื้อมไปแตะแขนแข็งแรงแต่คริสก็ยกมือออกไม่ให้จับ ลูกหน้าเสียเลย์เห็นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ร่างเล็กตักข้าวถ้วยใหม่ให้ลูก คราวนี้อี้ชิงยอมกินแม้จะไม่ค่อยเต็มใจมากนัก
น้องเล็กที่สุดในบ้านเกาะอยู่ตรงขอบประตูห้องนอนมองดูร่างสูงใหญ่ที่กำลังสอนการบ้านพี่สองคน หลังจากที่เจ้าตัวไปอาบน้ำกับหม่ะม๊าจนตัวหอมมาแล้ว
ป่ะป๊าจะยังโกรธอยู่มั้ยนะ?
ตากลมจับจ้องอย่างใคร่รู้ร่างเตาะแตะเดินเข้าไปหาป่ะป๊าที่ยืนหันหลังให้เขา ค่อยๆเกาะขาเรียวยาวนั่นเบาๆ
“ป่ะป๊าขา” เงยหน้ามองผู้ชายที่ตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่ชีวิตเห็นโลกมาสามปีของเขาจะเคยรู้จัก ป่ะป๊าตัวใหญ่ที่สุด ดังนั้นเวลาที่ได้ขี้คอป่ะป๊าอี้ชิงจะรู้สึกว่าไม่มีใครมาทำอันตรายเขาได้
อี้ชิงถึงชอบป่ะป๊าที่สุด...
“อะไรคะอี้ชิง?” ตอบกลับมาด้วยเสียงนิ่งๆที่เด็กสามขวบสัมผัสได้ว่ายังไม่ใช่เสียงป่ะป๊าคนเดิมที่เคยเรียกเขา
“ป่ะป๊าอุ้มหน่อย” ชูแขนขึ้นสองข้างอยากให้คนตัวสูงอุ้มแต่กลับถูกปฏิเสธ
“ไม่เอาค่ะ ป่ะป๊าจะสอนการบ้านพี่ก่อน ดึกแล้วหนูไปนอนได้แล้วไป” แล้วก็ไม่สนใจอีกชิงอีก
ความห่วงใยมักมาในหลายรูปแบบ
บางครั้ง มันก็ออกจะเข้าใจยาก
เด็กน้อยเดินคอตกกลับไปยังห้องของป่ะป๊ากับหม่ะม๊า ที่ๆเขามาหลบภัยทุกครั้งที่ฟ้าร้องเสียงดัง แม้ว่าอี้ชิงจะมีเตียงเป็นของตัวเองรวมห้องกับพี่ๆแต่กลับไม่ชอบนอน เด็กน้อยชอบเวลาที่ได้นอนซุกอกอุ่นของหม่ะม๊า หรือตอนที่แขนหนักของป่ะป๊าทับอยู่บนตัวแล้วลมหายใจอุ่นๆเป่ารดใส่หัว
ก้าวขึ้นเตียงใหญ่ที่ค่อนข้างจะลำบากเกินตัวเด็กสามขวบแต่หม่ะม๊าก็ช่วย กำลังอ่านหนังสือให้พี่ฟ่านชิงฟัง อี้ชิงคลานเข้าไปซุกอกนิ่มของแม่ ชอบมุดหน้าอยู่แบบนั้นเสมอเวลาโดนพี่แกล้งหรือรู้สึกแย่
“อี้ชิง?” เสียงหวานต้องหยุดเล่าเรื่องลงกลางคันเมื่อได้ยินเสียงกระซิกๆที่คล้ายร้องไห้ของลูก
“โอ๋ หนูร้องไห้ทำไม?” เลย์เห็นที่ลูกไปเกาะประตูห้องพี่มาแล้วแหละ คงจะไปง้อป่ะป๊ามามือบางลูบหัวเล็กเบาๆปลอบใจ ยิ่งทำให้เด็กน้อยร้องหนักขึ้น
“ฮือ...ป่ะป๊า ป่ะป๊า”
“โอ๋ ป่ะป๊าโกรธหนูได้ไม่เกินสองชั่วโมงหรอกน้าคนเก่ง” ลูกร้องไห้ตัวโยนเสียจนอี้ชิงเอ็นดู โดนป่ะป๊าแกล้ง น่าสงสารจริงๆ คืนนี้คงต้องกอดปลอบ ร่างบางไม่ใจร้ายขนาดว่าจะไล่ลูกกลับไปนอนเตียงของตัวเอง
คริสแกล้งแรงไปรึเปล่า?
ร่างสูงใหญ่กลับมายังเตียงนอนของตัวเองเมื่อส่งลูกๆสามคนขึ้นเตียงไปแล้ว เหลือแต่ตัวแสบของเขาที่ไม่รู้ว่าหายไปไหน แต่แล้วก็ได้คำตอบ เมื่อกลับมายังห้องที่มือสลัว เปิดไฟไว้แค่หัวเตียง ภรรยานอนหลับไปแล้ว แต่มีก้อนอุ่นอยู่หนึ่งอัตราที่ซุกตัวอยู่บนที่ของเขา
“ป่ะป๊าขา ยังโกรธหนูหรอคะ”
ป่ะป๊าที่ทำตัวแข็งแกร่ง เย็นชา กลับแหลกสลายลงเป็นชิ้นส่วนเมื่อลูกยื่นมือมาหาเขา แบะปากพร้อมน้ำตาที่เอ่อคลอตากลมใสจนแทบจะไหล
พัง..
ถ้ามีเอฟเฟ็กเป็นการ์ตูน สปริงคงดีดออกมาจากตัวเขาพร้อมนุ่นที่กระจัดกระจาย
“ทำไมหนูไม่ไปนอนเตียงตัวเอง?” ทำใจแข็งทั้งๆที่ลูกอ้อนเขาอย่างสุดพลัง พูดคะ ขา อี้ชิงเป็นเด็กฉลาด เวลาอยู่กับหม่ะม๊าจะพูดครับพูดฮะเหมือนพี่ๆ แต่อยู่กับเขาจะพูดคะขา เพราะรู้ว่าเขาชอบให้พูดแบบนี้ ลูกรู้วิธีเอาใจคนรอบตัว
“ป่ะป๊าขาหนูขอโทษ” บีบน้ำตาให้สงสาร ร่างสูงแทรกกายลงนอนในเตียง ขยับในท่าสบายแล้วให้ลูกแปะตัวลงกับหน้าอกแข็งแรงของเขา
“หนูรักป่ะป๊า ฮึก... ( ;__; )” อ้อนขนาดนี้ใครเป็นพ่อก็ตายทุกราย กลิ่นหอมของแป้งเด็กมันทำให้เขาต้องฝังปลายจมูกคมลงกับกลุ่มผมหยักนิดๆที่ได้มาจากหม่ะม๊า อี้ชิงคือหุ่นเด็กจำลองของเลย์ เหมือนกันแทบทุกตารางนิ้วยกเว้นปากกับจมูกที่ได้เขาไป
ถือเป็นหุ่นตุ๊กตาที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์
“แต่หนูทำผิด หนูไม่กินข้าว แล้วจะเอาแรงที่ไหนมาเล่น เอาอาหารที่ไหนมาให้ร่างกาย ดูสิแขนหนูเล็กนิดเดียวเอง” คริสกำแขนลูกให้ดู มันเล็กมากจริงๆ แต่ก็นะ มือคริสก็ใหญ่มากเช่นกัน
“หนูรักป่ะป๊า”
“หนูไม่กินข้าวหม่ะม๊าเสียใจนะรู้มั้ย หม่ะม๊าอุส่าห์ทำกับข้าวให้หนูกินแต่หนูปัดตกแบบนั้น หม่ะม๊าจะรู้สึกยังไง”
“ฮือ...หนูรักป่ะป๊า”
“ฟังที่ป่ะป๊าพูดรึเปล่า?” ทำไมเขารู้สึกว่าลูกยังคงต่อต้านเขาอยู่นะ?
เลย์หัวเราะพรืดเมื่อแอบฟังบทสนทนาของพ่อลูกอยู่เงียบๆ อดใจไม่ไหว ว่าจะไม่ยุ่งแล้วก็ทนไม่ได้ ค่อยๆพลิกตัว ลากหมอนเข้าไปใกล้แล้วกอดร่างพ่อลูกเอาไว้เบาๆ
น่ารักจริงๆเลยนะคู่นี้
“ขอโทษหม่ะม๊าก่อนเร็ว หนูทำให้หม่ะม๊าเสียใจนะวันนี้” ส่งร่างน้อยเข้าสู่อกแม่ อี้ชิงคลานทับร่างขาวจัดแล้วแปะหน้าลงกับแก้มขาวนวล พูดไปด้วยหอมแก้มไปด้วยจนน้ำลายเลอะเป็นทาง
“หม่ะม๊า ขอโทษฮะ”
“อื้อ...วันหลังก็กินเยอะๆสิคนเก่ง ป่ะป๊ากับหม่ะม๊ารักหนูนะถึงได้ว่า”
“อื้อ...”
“พรุ่งนี้กินเยอะๆให้หม่ะม๊าดีใจได้มั้ย?” เสียงหวานเอ่ยขอ
“หนูอยากกินสปาเก็ตตี้กุ้งของหม่ะม๊า” เลย์หรี่ตามองร่างบนอกแล้วยิ้มบาง
“ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ทำให้กิน แต่หนูกินแต่เมนูนี้ไปตลอดไม่ได้หรอกนะ มันได้สารอาหารไม่ครบ”
“อย่าดื้อกับหม่ะม๊าด้วย ป่ะป๊าไม่ชอบ” เสียงเข้มยังตามมาย้ำ เลย์ส่งร่างนิ่มกลับเข้าสู่อกแกร่ง ลูกพูดจ๋อยๆอ้อนพ่อเต็มกำลังสูบจนแม้แต่เลย์ยังอดอิจฉาไม่ได้เลย
บางครั้ง ครอบครัว มีความรัก ความห่วงใย มันคงไม่พอ
มันต้องมีการให้อภัย...
เผื่อว่าวันนึง ที่คนทั้งโลกทิ้งเราไป
จะได้เหลือครอบครัวที่ยังคงอยู่กับเรา....
“ป่ะป๊าไม่โกรธแล้วใช่มั้ยคะ?”
“ถ้าหนูดื้ออีกป่ะป๊าก็จะโกรธอีก”
“แต่ตอนนี้ไม่โกรธแล้วใช่มั้ยคะ?” ยันตัวขึ้นมองหน้าพ่อ เอามือจิ้มคางสากๆที่เวลาเอาแก้มถูมันจะรู้สึกจั๊กจี๋
“อืม ไม่โกรธแล้ว ตัวเล็ก” ยิ้มหวานให้ลูกที่ยิ้มแป้น
“จุ๊บๆหนู” คริสทำตามที่เด็กน้อยขอ ผงกหัวจูบปากแดงเป็นกระจับของลูก “ลูบหัวหนูด้วย” ทำตามที่ขอทุกอย่างราวกับเป็นทาสเด็ก
“อื้อ... หนูรักป่ะป๊า”
“รักป่ะป๊าแค่ไหน?” เป็นคำถามที่ยาก สำหรับเด็กตัวแต่นี้
“รักป่ะป๊า...เท่า..ตัวป่ะป๊าเลย” คริสชอบประโยคนี้
เพราะเคยถามลูกว่ารู้ไหมโลกใหญ่แค่ไหน ลูกตอบว่าไม่รู้ แต่รู้ว่าตัวป่ะป๊าใหญ่ที่สุด ใหญ่กว่าต้นไม้ ใหญ่กว่าภูเขา ถึงได้รักป่ะป๊าเท่าตัวป่ะป๊า แสดงว่ารักนั้นต้องใหญ่มากๆ
ครางงิ้งๆของลูกในอกแข็งแรงที่อกอุ่น ทาบทับด้วยแขนนิ่มของหม่ะม๊าบนตัว เป็นค่ำคืนที่เด็กน้อยไม่ต้องกังวลว่าจะมีอะไรโผล่มาที่ปลายเท้า หรือหน้าต่าง หลับสนิทจนยิ้มพริ้มตลอดคืน
ครอบครัวของเลย์ตอนนี้สมบูรณ์จนจะถึงที่สุดแล้ว
มีเลย์เป็นแม่
มีตัวแสบที่คอยทำให้ยิ้มสองอัตรา
มีเด็กกินเก่งที่ทำให้เขามั่นใจในฝีมือการทำอาหารหนึ่งอัตรา
มีหน่วยอ้อนให้ใจอ่อนหนึ่งอัตรา
แล้วก็มีสามี...ที่เลย์รักที่สุดหนึ่งอัตรา
ครอบครัวของเลย์ตอนนี้ สมบูรณ์ที่สุดเลยล่ะ...
กำลังคิดจะแต่งสเปเชี่ยลของสองพ่อลูกคริส อี้ชิงอยู่ค่ะ ด้วยแรงปรารถนา //หัวเราะแรง
ความคิดเห็น