คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Love Bakery ตอนที่5 : ของฟรี
Love Bakery ตอนที่5 : ของฟรี
[:Ritz’s talk:]
“พี่เก่งเข้ามาทำอะไรในห้องริทอีกแล้วเนี่ย!”ผมเหวใส่พี่เก่งทันทีที่เข้ามาในห้อง
“พี่หิวข้าว=*=”
“แล้วทำไมไม่ไปซื้อกินล่ะ มารอริททำไม? พี่ก็รู้ว่าริทกลับค่ำ”
“ก็พี่อยากให้ริททำให้กินนี่-3-”พี่เก่งพูดด้วยน้ำเสียงยานๆก่อนจะเลื้อนไปนอนแผ่บนโซฟากลางห้อง
“เฮ้อ ช่วยไม่ได้นะ งั้นอดทนรออีกซักแปปนะฮะริทจะทำอะไรง่ายๆให้ทาน”เมื่อผมพูดจบก็เดินเลี่ยงเข้ามาในครัวแล้วเปิดตู้เย็นเพื่อจะทำเมนูง่ายๆให้คุณหมอสุดหล่อทาน แต่เมื่อผมเปิดประตูตู้เย็นออกมาก็ต้องพบกับ...
ความว่างเปล่า!!
ผมลืมให้พี่โตโน่แวะซุปเปอร์ก่อนกลับT^T
“พี่เก่ง!!~ ของในตู้เย็นหมดง่า พี่ลงไปซื้อให้หน่อยดิ”
“ม่ายยยยยยยย พี่ไม่มีแรงเดินแบ้ว หิวข้าวววววว”สาบานเถอะฮะว่าบุคคลที่กำลังนอนเป็นกระต่ายหมดแรงอยู่บนโซฟานี้มีคำนำหน้าชื่อว่า 'นายแพทย์'
“เฮ้อ งั้นเดี๋ยวริทมานะลงไปซุปเปอร์ข้างล่างแปปนึง”ผมพูดจบก็รีบคว้ากระเป๋าตังค์กับมือถือแล้วเดินออกจากห้องทันที
ระหว่างที่อยู่ในลิฟผมก็พยายามนึกถึงเมนูที่ทำง่ายและใช้เวลาไม่นาน แต่ว่าเมนูอาหารง่ายๆผมก็ไม่ได้เรียนมาเพราะผมเรียนแต่การทำอาหารฝรั่งฮะ แล้วแต่ละอย่างนี่...เกินครึ่งชัวโมงทั้งนั้น เดี๋ยวนะ! ทุกคนว่าถ้าผมทำไข่เจียวง่ายๆให้คุณหมอทานเค้าจะว่าผมมั้ยฮะ?
ตื้อดื่อ!~
ผมต้องรีบทำเวลาให้เร็วที่สุดเพื่อพี่ชายของผมจะได้ไม่ตายคาห้องไปซะก่อน เมื่อเข้ามาในมินิมาทผมก็รีบส่องหาวัตถุดิบหลักของเมนูคืนนี้เลยฮะ
ไข่อยู่ไหนน้อ~
อ้ะ! เจอแล้วฮะอยู่บนชั้นนั้นเองเหลืออยู่กล่องเดียวด้วยสิ
หมับ!
มือของผมจับลงบนกล่องไข่แต่ก็มีอีกมือนึงสัมผัสลงบนมือผมอีกที และเมื่อผมมองไปยังเจ้าของมือก็ต้องตกใจ
“อ้าว! พี่โตโน่มาซื้ออะไรฮะ?”
“ไข่..”ชะอุ้ย ไม่น่าถามก็เค้าจะหยิบกล่องไข่นี่หว่า
“อะ เอ่อ งั้นพี่โตโน่เอากล่องนี้ไปก็ได้ฮะ”ผมพูดแล้วยื่นกล่องที่อยู่ในมือไปให้พี่เค้า
“นายเอาไปเถอะ พี่กินบะหมี่(กึ่งสำเร็จรูป)ต้มอย่างเดียวก็ได้ พี่ไปก่อนนะ”พี่โตโน่รีบพูดแล้วยัดกล่องไข่ลงมาในมือผม
พี่เค้าดูแปลกๆไปนะฮะจากที่ผมสังเกต รู้สึกพูดน้อยกว่าปกติหรือว่าพี่เค้าจะรีบจริงๆ อืม...ก็อย่างนี้เเหละนะซุป'ตาร์เวลาอยู่ในที่สาธารณะ แต่ช่างเถอะตอนนี้ผมมีภารกิจที่สำคัญกว่านั้นคือการช่วยชีวิตนายแพทย์วาโยที่กำลังนอนแห้งอยู่บนห้องผม
...
“หอมที่จุงเบย^^~ ถึงจะเป็นแค่บะหมี่ก็เถอะ”
“ก็พี่เก่งเล่นมามานอนแห้งรอริทที่ห้องแบบนี้ ริทก็ต้องทำอะไรง่ายๆประทังชีวิตพี่ก่อนสิฮะ”ตอนนี้พี่เก่งได้รับพลังงานเข้าไปแล้วฮะ
“แล้วคิดยังไงถึงทำบะหมี่ให้พี่กินเนี่ย”พี่แกยังเคี้ยวบะหมี่อยู่เลยฮะ--”
“เมื่อกี้บังเอิญไปเจอพี่โตโน่ที่ซุปเปอร์ข้างล่างน่ะฮะ เห็นพี่เค้าบอกว่าจะกินริทก็เลยเอามั่ง”
“ช่วงนี้สนิทกับนายโตโน่นั่นจังเลยนะ”
“ฮะ ก็เค้ามาเรียนทำขนมกับริทแล้วเค้าก็พักอยู่ข้างล่างนี่เองเลยสนิทกัน”
“จริงดิ! เดี๋ยวนี้ไฮโซนะเนี่ยมีลูกศิษเป็นดาราด้วย แล้วช่วงนี้เป็นไงมั่งล่ะที่ร้านคนที่พี่ส่งไปโอเคมั้ย”
“อ๋อเซนน่ะนะ วันนี้ริทลองให้พี่เฟียสอนงานให้นิดหน่อย เค้าก็ขยันดีนะฮะเห็นว่าที่บ้านมีปัญหาเรื่องเงินด้วยริทก็เลยจะให้เค้ามาทำงานพรุ่งนี้เลย”พูดถึงเซนแล้วเค้าเป็นคนขยันนะฮะ วันนี้ลูกค้าเพราะพี่โตโน่มาอยู่ที่ร้านแต่เซนก็ไม่บ่นอะไรเลยซักนิดแถมยังยิ้มแย้มได้ทั้งวัน ทำงานงี้เนียบสุดๆ
“แน่นอนอยู่แล้วคนของพี่ผ่านมาตรฐานทุกคนไอ่น้องเอ้ย 55555555”
“=..=;;; ริทขอตัวดีกว่านะพี่ ง่วงและ ฝากเก็บจานด้วย กู๊ดไนฮะ” พูดจบผมก็รีบเผ่นเข้าห้องทันที เพราะดูท่าแล้วพี่เก่งคงต้องใช้ผมล้าจานเป็นแน่
เฮ้อ! เหนื่อยจริงๆเล้ย!!~ วันนี้คงต้องแช่น้ำอุ่นให้สบายตัวหน่อยแล้วมั้ง~
ระหว่างที่ผมกำลังจับชายเสื้อเพื่อถอดออกนั้นก็นึกถึงสัมผัสหนึ่งที่ร่างกายของผมจำได้อย่างอัตโนมัติ...เรื่องเมื่อตอนนั้นที่พี่โตโน่จับเอวผม
แค่สัมผัสด้วยปลายนิ้วเพียงไม่กี่วินาทีของเค้าก็สามารถทำให้ผมจดจำมันได้อย่างดี...สมแล้วแหละที่ทุกคนจะหลงสเนห์ของเค้า และนั้นก็รวมถึงผมด้วย
..
“Love Bakery ยินดีต้อนรับค้าป^______^”
“พี่ริทททท เฮียโน่อยู่มั้ยค้าาาา??” น้องๆแฟนคลับของพี่โตโน่ตรงดิ่งเข้ามาถามผมทางหน้าเคาท์เตอร์
“วันนี้พี่โตโน่ไม่ได้เข้ามาหรอกฮะ เห็นว่าพี่แกมีงานไม่ใช่หรอ”
“เอ๋? วันนี้เฮียไม่มีอีเว้นท์แล้วก็ไม่มีกำหนดเข้าตึกนี่หน่า”
“อาจจะเป็นงานด่วนน่ะ ยังไงก็นั่งรอในร้านก่อนก็ได้นะเผื่อพี่แกอาจจะเข้ามา”
“ค่าาา”
น้องๆแฟนคลับนี่ก็ว่านอนสอนง่ายเหมื่อนกันเนอะ จริงๆแล้วผมไม่รู้หรอกฮะว่าพี่โต่โน่จะเข้ามารึป่าว แต่ผมแค่อยากให้น้องๆเค้ามาอุดหนุนร้านผมเท่านั้นแหละ5555555555 เค้าเรียกว่าการเรียกลูกค้าทางอ้อมฮะ แล้วดูท่าน้องๆเค้าคงชอบทานเค้กอยู่พอควร...เอ่อ...ดูจากหุ่นน่ะนะ
[:End Ritz’s talk:]
[;Tono’s talk;]
“อ้าว พี่โน่วันนี้เข้าตึกด้วยหรอ เห็นว่าไม่มีงานนิ่”
“อืม อยู่คอนโดไม่มีไรทำ” ผมบอกปัดๆไปเพราะตอนนี้อารมณ์ผมไม่ได้อยู่ในโหมดที่จะพูดคุยกับใครได้ เมื่อผมพูดจบสต๊อปก็เกิดอาการเงิบเบาๆ เพราะปกติแล้วผมจะพูดจากวนบาทาชาวบ้านแต่วันนี้กลับมาแนวนิ่งเงียบ
จริงแล้วผมก็แค่นอยด์เรื่องริทเท่านั้นแหละครับ...คือพระพุธเจ้าก็บอกว่าการแย่งแฟนชาวบ้านมันเป็นเรื่องไม่ดี แต่ยังไงผมก็ยังอยากเป็นคนที่คนนั้นที่ได้ยืนอยู่ข้างๆริท ร่วมทุขร่วมสุขไปพร้อมๆกัน
เอ่อ... นี่ผมดราม่าไปรึป่าว? ถึงผมจะเป็นคนไม่ค่อยเอาไหนแต่เวลาผมรักใครแล้วรักจริงนะครับ!
“เห้ยพี่ๆไปหาไรกินกันมะ เดี๋ยวต๊อปเลี้ยงเอง”
“อารมณ์ไหนเนี่ย?”
“ก็เห็นช่วงนี้พี่โน่ชอบทำหน้าเคลียดเลยจะชวนไปปลดปล่อย นี่ไงไปกันหมดนี้แหละจะได้สนุกๆ เนอะพี่ตาม” สต๊อปหันไปขอความเห็นจากตูมตามที่นั่งท่องเนื้อเพลงอยู่บนโซฟา
“อือ ไปดิๆ พี่ชอบของฟรี55555555”
“พี่โน่เอาไง?”
“เออๆ ไปก็ได้วะ” จริงๆผมอยากอยู่คนเดียวเงียบๆนะเนี่ย แต่อยู่ดีๆน้องก็มายื่นของฟรีให้ พี่ชายอย่าโตโน่ก็ต้องรับไว้ตามธรรมเนียม
..
“ต๊อป วันหลังท่าจะเลี้ยงกรุณาชวนมาหลัง 6 โมงนะ...” คือผมเห็นด้วยกะตูมตามนะ เพราะตอนนี้เราสามคนตกเป็นเป้าสายตาของคนทั้งร้านเลยก็ว่าได้ ปกติแล้วถ้าพวกผมจะออกมากินข้าวในห้างใหญ่ๆแบบนี้ก็จะมากันช่วงค่ำเพราะคนจะไม่ค่อยสนใจ แต่นี่มันเพิ่งจะเที่ยง! สายตาคนที่เดินผ่านหน้าร้านไปและรวมถึงลูกค้าในร้านเลยจับจ้องมาที่พวกเรา
“เอาเหอะพี่ ถ้ามาป่านนั้นบัตรส่วนลดก็ใช่ไม่ได้อ่ะดิ” นั่นไง และแล้วก็เผยความลับออกมาจนได้
“คือถ้าไม่ได้ส่วนลงก็จะไม่ชวนพวกพี่มาใช่มั้ย?”
“โห พี่โน่ สงสารน้องหน่อยเหอะ อุส่าห์ได้บัตรส่วนลดมาเราก็ต้องใช้ให้คุ้มดิ”
“แถสีข้างจะถลอกหมดแล้วมั้ยนั่น” อดไม่ได้จริงๆครับ ต้องขอแซะมันหน่อย
“เห้ยๆๆ พี่โน่ดูนั่นดิๆๆๆ” สต๊อปเรียกผมด้วยหน้าตาตื่นๆเหมือนเจออะไรน่ากลัวมา แล้วชี้ไปข้างหลังผม
“อะไรว..ะ” เมื่อผมหันกลับไปมองก็พบกับความน่ากลัวอันนั้นครับ
อืม น่ากลัวจริงๆนั่นแหละ
เอาซะผมหนาวเลย
เพราะสิ่งที่ผมเห็นนั้นคือผู้ชายตัวเล็กผิวขาวกำลังคีบซูชิเข้าปากด้วยน่าตายิ้มแย้ม...ริท แต่ประเด็นคือตรงข้ามริทนั้นมีผู้ชายคนนึงนั่งอยู่ด้วย...นายเก่ง
-Pitchin-
อืม นั่นแหละ ดอง
ไม่อยากแก้ตัวเพราะรู้ตัวดี555555
ตอนนี้ปิดเทอมแล้วไงเลยมาอัพได้
ปล.ตอนนี้อยู่ไทยแล้วเด้อ ช้อป กิน เที่ยวกระจาย!
ความคิดเห็น