ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic โน่ริท] Love Bakery!! ฉันจะสอนนายเจ้าชายของผม

    ลำดับตอนที่ #4 : Love Bakery ตอนที่4 : คัพเค้ก

    • อัปเดตล่าสุด 13 ม.ค. 56


    Love Bakery ตอนที่4 : คัพเค้ก




     

    [;Tono talk;]

     

    “การที่เราจะอบขนมได้เนี่ย ก่อนเราต้องมาเรียนรู้อุปกรณ์และส่วนผสมที่สำคัญก่อนนะฮะ”

     

    “^^”

     

    “พี่โน่ฟังริทอยู่ป่าวเนี่ย?”

     

    “อะ..อ่อ ฟังอยู่ๆ”

     

    ตอนนี้ผมอยู่ในห้องครัวของ Love Bakery ครับ วันนี้เป็นวันแรกที่ผมมาเรียนกับริท ตอนนี้เค้ากำลังสอนเกี่ยวกับอุปกรณ์ ส่วนผสมและขนมยอดฮิต ผมก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้างครับมัวแต่มองหน้าหวานๆของคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆ เวลาที่เค้าใส่ผ้ากันเปื้อนมันช่างเข้ากันสุดๆ ร่างเล็กๆขาวๆกับผ้ากับเปื้อนสีผ้าอ่อนดูแล้วนุ่มนิ่มยังไงบอกไม่ถูก

     

    “เออริทเกือบลืมแหนะ พี่โตโน่อยากจะทำเค้กอะไรไปให้แม่พี่ล่ะฮะ”คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมามองผม

     

    “เอ่อ...”หาชิบไม่เจอแล้วฮะ

     

    “คือริทคิดว่าถ้าพี่เรียนทำเค้กที่อยากทำเลยมันจะตรงจุดและใช้เวลาน้อยกว่าน่ะฮะ”

     

    “อ๋อใช่! พี่จะทำเค้กให้แม่ในงานวันเกิดน่ะ”อันนี้เรื่องจริงครับเพราะอีกไม่นานก็จะถึงวันคล้ายวันเกิดของแม่ผมแล้ว แต่เรื่องเค้กนี่ผมเอามันมาผสมกันเองแหละตอนนี้นึกอะไรได้ต้องพูดไปก่อนไม่งั้นเค้าจะสงสัยเอา

     

    “อืม แล้วพี่จะทำเค้กอะไรล่ะฮะ”

     

    “ไม่รู้สิ แต่ปกติแม่พี่จะจัดงานฉลองทุกๆปี พี่ว่าน่าจะเอาแบบหรูๆหน่อย”แม่ผมเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมเลยต้องจัดงานวันเกิดทุกๆปีและก็จะมีเพื่อนๆและแขกที่มีชื่อเสียงมาในงานค่อนข้างเยอะ

     

    “แล้วแม่พี่ชอบทานเค้กอะไร แบบเป็นสปันจ์เค้ก คัพเค้ก หรือเป็นชิ้นเล็กๆ”

     

    “ที่บ้านพี่จัดงานใหญ่น่าจะเป็นพวกคัพเค้ก แต่พี่คิดว่าแม่พี่น่าจะชอบกินสปันจ์เค้กแบบตกแต่งสวยอ่านะ”

     

    “งั้นริทว่าพี่น่าจะหัดทำคัพเค้กก่อนดีกว่า พอคล่องแล้วค่อยไปทำสปันจ์เค้กเพราะคัพเค้กมันจะง่ายกว่า”ผมฟังริทพูดพร้อมกับมองหน้าเค้าไปด้วย เวลาที่เค้าจริงจังก็ดูน่าหลงไหลไปอีกแบบนะเนี่ย:)

     

    “ครับผม^^!”

     

    “ก่อนอื่นเราก็ต้องมาอุ่นเตาอบกันก่อนนะฮะ 180 องศา”คนตัวเล็กเดินไปตั้งอุณหภูมิในเตาอบแต่ด้วยความที่เตาอบมันติดอยู่ในความสูงระดับที่ริทต้องเอื้อมมือขึ้นไปจนเสื้อที่เค้าใส่อยู่เลิกขึ้น

     

    “อ้ะ!”ผมเป็นคนความอดทนต่ำครับ...ทนเห็นเอวขาวๆของเค้าที่โผล่ออกมาจากเสื้อไม่ไหวเลยเดินไปประกบหลังใช้มือข้างนึงเอื้อมไปปรับอุณหภูมิ ส่วนอีกข้าวก็ว่างไปบนเองขาวๆนั่น เจ้าตัวคงตกใจหน้าดูเลยร้องออกมาแล้วหันมาผลักผมออกด้วยความรวดเร็ว

     

    “ขะ..ขอโทษฮะ ริทแค่ตกใจ-///-”

     

    “พี่เห็นริทเอื้อมอยู่นานน่ะนึกว่าจะไม่ถึงซะแล้ว ว่าแต่สูงเท่าไหร่หรอ?”

     

    “พี่โตโน่! ริทไม่ได้เตี้ยนะ 171 ซม.ตามมาตรฐานชายไทยเหอะ>.<!”ทุบครับ ริทที่กำลังหน้าแดงเพราะโดนผมแซวหันมาทุบอกผม

     

    “เฮ้ย พี่แซวเล่นเฉยๆแล้วนี่ตกลงสูง 171 จริงดิ??”

     

    “พอเลยริทไม่เล่นด้วยแล้ว เดี๋ยวก็ไม่ได้เรียนกันพอดี”ริทเดินหนีผมไปเตรียมส่วนผสมต่างๆ ส่วนผมก็ได้แต่ยืนมองครับ^_^ ท่าทางตั้งอกตั้งใจของเค้าก็สามารถทำให้เค้าดูน่ารักไปได้อีกแบบ

     

    น่ารักไปซะทุกมุม คนอะไรก็ไม่รู้..

     

    “พี่โตโน่จะเรียนมั้ยเนี่ย?!”

     

    “ฮ..ฮะ เรียนๆ”คนตัวเล็กเหวมาใส่ผมแล้วล่ะครับ งั้นผมคงต้องไปทำคัพเค้กครั้งแรกในชีจิตของผมก่อนนะครับ แล้วเจอกันใหม่

     

    [;End Tono Talk;]

     

    [:Ritz talk:]

     

    ส่วนตัวผมคิดว่าการทำขนมคือชีวิต คือความรัก คือศิลปะและคือความสนุก แต่วันนี้พี่โตโน่ทำให้ผมรู้ว่ามันไม่ได้มีแค่นั้นฮะ...มันคือความลำบากด้วย--! คนอะไรวุ่นวายเป็นที่สุดเดี๋ยวใส่นู่นผิดนี่ผิด ผมล่ะเชื่อเลยฮะที่เค้าบอกว่าเค้าไม่เคยเข้าครัวมาก่อน

     

    “น้องริท...มีคนมาหาค่ะ”พี่เฟียพนักงานสุดสวยแสนใจดีของร้านเดินเข้ามาหาผมในครัว

     

    “ใครหรอฮะ?”

     

    “เห็นเค้าว่าจะมาสมัครงานน่ะ”อ๋อ สงสัยคงเป็นคนที่พี่เก่งหามาให้

     

    “งั้นให้เค้าเข้ามาหาริทข้างในเลยฮะ”พี่เฟียเดินออกไปเมื่อผมพูดจบ

     

    “งั้นพี่ออกไปรอข้างนอกแล้วกันนะ”พี่โตโน่ที่กำลังชื่นชมผลงานคัพเค้กเซตแรกในชีวิตเอ่ยขึ้น

     

    “แล้วคัพเค้กพวกนั้นพี่เอาไปขายหน้าร้านก็ได้นะฮะริทไม่ว่า..เอ่อริทหมายถึงว่าถ้าพี่จะขายน่ะนะ”เมื่อผมพูดจบเค้าก็เดินออกไปจากครัวพร้อมกับคัพเค้กที่แสนจะภูมิใจ หลังจากนั้นไม่นานบุคคลที่ผมกำลังรอคอยก็เดินเข้ามา...ว่าที่พนักงานใหม่ของผม

     

    “สวัสดีครับ^o^”ว่าที่พนักงานใหม่ของผมเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูง(กว่าผม)โปร่ง ผิวขาว ผมสีน้ำตาอ่อน หน้าตาเหมือน..แมว ใช่ฮะพวกคุณอ่านไม่ผิดหรอกเค้าหน้าเหมือนแมวจริงๆฮะ

     

    “ผมชื่อเซน จะมาสมัครเป็นพนักงานเสิร์ฟที่นี่ฮะ^w^”

     

    “เราชื่อริทเป็นเจ้าของร้านนี้เอง ว่าแต่เซนเคยมีประสปการณ์จากที่อื่นมาก่อนรึเปล่า?”

     

    “อ๋อ เมื่อก่อนเซนทำงานในร้านไอติมน่ะ แล้วเซนก็พอจะอบขนมง่ายๆเป็นด้วยนะ”

     

    “อืมแล้วทำไม่เซนถึงอยากมาทำงานร้านของริทล่ะ?”

     

    “คือตอนนี้เซนอยู่กับน้องชายที่กำลังเรียนอยู่แค่ 2 คนก็เลยรับจ๊อปหางานหาเงินเอาไปส่งน้องเรียนแต่งานมันก็ไม่ค่อยมั่นคงเซนเลยอยากหางานประจำทำน่ะ”Y^Y น่าฉงฉาน อยู่กับน้องชายแค่ 2 คนแถมต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัวด้วย น่านับถือมาก

     

    “เอาเป็นว่าริทตกลงรับเซนเข้าทำงาน”

     

    “จริงหรอครับของคุณมากๆเลยนะครับ”เซนถลาเข้ามากอดผมด้วยความดีใจ

     

    “งั้นเซนเริ่มงานตอนนี้ได้เลยรึเปล่า คือวันนี้พี่ที่ประจำอยู่เค้าลาหยุดคนเลยไม่พอแต่เดี๋ยวริทจะจ่ายเงินล่วงหน้าให้นะๆๆ”จริงๆแล้วคือผมไม่อยากออกไปช่วยเสิร์ฟหน้าร้านฮะ เห็นผมร่าเริงสดใสแบบนี้แต่ผมไม่ชอบความวุ่นวายนะฮะยกเว้นกรณีที่ผมเป็นคนก่อความวุ่นวายน่ะนะ

     

    “อันนี้เป็นผ้ากันเปื้อนกับยูนิฟอร์มริทว่าเซนหน้าจะใส่ได้ ส่วนห้องแต่งตัวอยู่ทางโน้น”ผมยื่นผ้ากันเปื้อนแบบครึ่งตัวสีดำที่มีชื่อร้านปักอยู่ที่มุมซ้ายล่างให้เซน เค้ารับไว้พร้อมกันพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว

     

    ตอนนี้ผมก็คงต้องออกไปเช็คหน้าร้านสินะ...

     

    “กรี๊ดดดดดด คัพเค้กพวกนี้พี่โตโน่เป็นคนทำหรอคะ?”

     

    “พี่โน่เก่งจังเลย”

     

    “หนูเหมาหมดเลยได้มั้ยเนี่ย?”

     

    ทันทีที่ผมเปิดประตูครัวเพื่อออกไปตรวจความเรียบร้อยผมก็ได้ยินเสียงเหล่านั้น และเมื่อผมกวาดสายตามองไปรอบๆก็เจอกับที่มาของเสียง วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งกำลังเกาะเคาท์เตอร์แคชเชียร์เพื่อที่จะซื้อคัพเค้กที่ซุป'ตาร์โตโน่เป็นคนอบเองกับมือ

     

    “ใจเย็นๆครับๆทุกคนโปรดอยู่ในความสงบและต่อแถวตามลำดับ หนึ่งคนต่อหนึ่งชิ้นเท่านั้นนะครับ^^”สมกับที่เป็นซุป'ตาร์จริงๆฮะ พี่โตโน่ที่ยืนอยู่หลังเคาท์เตอร์เอ่ยปากบอกเหล่าแฟนคลับของเค้าด้วยน้ำเสียงเรียบๆแต่มีสเนห์และก็ได้ผลมากฮะเพราะทุกคนเหมือนตกอยู่ในโอวาทของพี่โตโน่ทันทีที่เค้าเอ่ยประโยคนั้นจบ

     

    “อร่อยไม่อร่อยผมไม่รู้นะครับเพราะเพิ่งเคยทำครั้งแรกยังไม่ได้ชิมเลยด้วย^^”

     

    ผมเดินเข้าไปช่วยพี่เฟียที่ทำหน้าที่แคชเชียร์อยู่ข้างพี่โตโน่ เพราะดูจากลักษณะแล้วคนเรียบร้อยๆขีอายอย่างพี่เฟียคงจะรับมือกับกลุ่มแฟนคลับไม่ไหว

     

    “อ้ะ นี่ไงมาแล้วครับอาจารย์ของผม”แต่ก่อนที่จะถึงพี่เฟีย พี่โตโน่ก็ดึงผมเข้าไปโอบไหล่และเเนะนำต่อแฟนคลับของเค้า ส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆฮะ

     

    “อร๊ายยยยย น่ารักๆๆๆๆ อาจารย์เฮียเอวบางร่างเล็กน่าเก็บกลับบ้านมากเลยอ๊าาาาา แล้วพี่ชื่ออะไรคะเนี่ย?”เดี๋ยวนะ! อะไรคือน่าเก็บกลับบ้าน? ผมเป็นคนนะฮะ!

     

    “ริทฮะ^_^”

     

    “กรี๊ดดดดด ยิ่งเวลายิ้มยิ่งน่ารัก หนูของสมัครเป็นแฟนคลับพี่ริทนะคะ><!”หนึ่งในแฟนคลับพูดขึ้นแล้วหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปผม อึ้ย!!~ ผมก็เขินเหมือนกันนะเล่นมาชมกันตรงๆแบบเนี้ย-///-

     

    “แหะๆ เชิญเลยฮะ^-^”

     

    “นี่คือได้ใหม่แล้วลืมเก่าเลยใช่มั้ย?”พี่โตโน่ที่ยืนนิ่งอยู่นานพูดขัดขึ้นกลางวง

     

    “โห ก็พี่เค้าน่ารักนิ่เฮีย”

     

    “เอ้าๆ ได้คัพเค้กแล้วก็กลับกันได้แล้วผมก็จะกลีบตึดแล้วนะเนี่ย”พี่โตโน่พูดทีเล่นทีจริงใส่เหล่าแฟนคลับ จากนั้นกลุ่มชุลมุนเล็กที่ก่อตัวขึ้นก็ค่อยๆสลายตัวไปจนหมด

     

    “เป็นไงมั่งละพนักงานใหม่ รับเค้าเข้าทำงานรึเปล่า?”พี่โตโน่พูดขึ้นเมื่อเราทั้ง 2 เดินกลับเข้ามาในครัว

     

    “รับครับตอนนี้คงจะเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ อ้ะ! นั่นไงมาพอดีเลย”ผมมองไปทางเซนที่เดินออกมาจากห้องแต่งตัวในชุดยูนิฟอร์มของร้าน

     

    “พี่โตโน่!!”เซนทำตามันวาวเมื่อเห็นพี่โตโน่ที่ยืนอยู่ข้างผม

     

    “ผมเป็นแฟนครับพี่เลยนะครับ พี่มาทำอะไรที่นี่เนี่ย แล้วริทรู้จักกับพี่เค้าหรอ?”เซนรีบยิ่งคำถามใส่ผมกับพี่โตโน่

     

    “พี่โตโน่มาเรียนทำเค้กกับริทน่ะ แต่คิดว่าพี่เค้าคงจะกลับแล้วแหละ”

     

    “อื้อๆพี่มีธุระที่ตึกนิดหน่อยน่ะงั้นพี่กลับก่อนนะ”พูดจบพี่โตโน่ก็เดินออกไปจากครัว

     

    “โอ้โห ริทนี่เก่งจังมีลูกศิษย์เป็นถึงซุปเปอร์สตาร์เลยหรอเนี่ย>.< เซนคิดไม่ผิดจริงๆที่มาทำงานร้านนี้”

     

    “555555 ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ออกหน้าร้านกันดีกว่าจะได้เริ่มงานกัน”บทสนทนาของผมกับเซนจบลง ผมกับเค้าเดินออกมาหน้าร้านเพื่อเริ่มการทำงาน

     

    [:End Ritz Talk:]

     

    [;Tono Talk;]

     

    “หายไปไหนมาทั้งวันเนี่ยพี่โน่กลับมาซะเย็นเลย"ทันทีที่ผมเดินเข้ามาในห้องพักรวมของศิลปินผมก็ได้ยินคำถามของพวกน้องๆ

     

    “ช่วงนี้ไอ้โน่มันชอบไปอยู่ร้านเบเกอรี่เปิดใหม่ตรงข้ามตึก ไม่รู้ว่าติดใจขนมหรือคนในร้าน”และแล้วพี่แนนก็พาเข้าเรื่องนี้จนได้ แต่ผมไม่สนใจและเลือกที่จะนั่งเล่นเกมเงีบยๆบนโซฟา

     

    “เห้ยจริงดิพี่โน่เนี่ยนะ ไม่จริงหรอกปกติมีแต่คนวิ่งตามจะจับพี่โน่แต่พี่ก็ไม่เคยจะหันไปมอง แล้วทำไมวันนี้พี่โตโน่สุดหล่อของผมถึงไปไล่ตามคนอื่นได้เนี่ย อยากรู้จริงว่าผู้หญิงคนนั้นมีอะไรดีถึงทำให้พี่โน่เปลี่ยนไป”ตูมตาม น้องชายสายเลือดอีสานของผมพูดขึ้นจนทำให้ทุกสายตาในห้องจดจ้องมาที่ผม

     

    “ก็ไม่ได้ไปตามเค้า พี่แค่ไปนั่งเล่นเฉยๆ”

     

    “เช้าถึงเย็นถึงนี่เรียกว่าไปนั่งเล่นหรอ”อันนี้เสียงพี่แนนครับ

     

    “เห้ย พี่ก็ว่าไป”

     

    “แล้วนี่ตกลงเค้าเป็นใครหรอพี่”ตูมตามถามด้วยความสงสัย

     

    “เจ้าของร้าน”ผมตอบออกไปเพื่อตัดปัญหาและก้มหน้าเล่นเกมตรงหน้าต่อ

     

    “เจ้าของร้านเบเกอรี่ที่อยู่ตรงข้าม...'ริท' อะนะ??”ผมหันไปมองต้นเสียงอย่างรวดเร็วเพราะสต๊อปที่เงียบอยู่นานเอ่ยประโยคเด็ดขึ้น

     

    “รู้จักด้วยหรอ?”

     

    “หนูไปกินร้านนั้นบ่อยแล้วพี่ หนูกับริทอะเพื่อนกัน”

     

    “สนิทกันด้วยรึป่าว?”ผมถามต่อ

     

    “ก็สนิทนะช่วงที่ริทเพิ่งปิดร้านหนูก็ไปทุกวัน”เจ๋งเป้ง! ทีนี่ผมก็มีข้ออ้างอีกอย่างเพื่อไปหาริทแล้วครับ

     

    “ไม่สนใจเค้า แต่ถ้าเรื่องเค้ามันแปลกๆนะพี่โน่”ไอ้ตูมตามมันเริ่มเเซวผมอีกครั้ง ส่วนคนอื่นๆก็ได้แต่นั่งยิ้ม

     

    “ไม่บอกแล้วเว้ย จะเล่นเกม”ผมจบบทสนทนาแบบดื้อแล้วเล่นเกมต่อทันที แต่แอร์เย็นๆตอนบ่ายแก่ๆแบบนี้มันช่างน่านอนซะเหลือเกิน ว่าแล้วก็นอนกันเถอะครับ...

     

    ...

     

    เวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้วเนี่ย ผมลืมตาขึ้นแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง อ่าเริ่มค่ำแล้วนี่แล้วทำไมไม่มีใครปลุกผมเลยนี่กะจะขังผมไว้ในห้องนี้เลยใช่มั้ยเนี่ย= =! เฮ้อกลับคอนโดดีกว่า ไม่ว่าเปล่าผมก็เดินออกจากห้องแล้วไปที่ลานจอดรถเพื่อที่จะเดินทางกลับคอนโด

     

    รถยุโรปสีดำคันหรูของผมเคลื่อนออกจากตึก แต่สายตาผมก็มองไปเห็นบุคคลร่างบางคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้านหน้าร้าน Love Bakery ที่ปิดไฟลงหมดแล้ว ผมจึงวนรถกลับไปที่ร้านทันที

     

    “จะกลับคอนโดหรอ ขึ้นมาสิพี่ก็กำลังจะกลับเหมือนกัน”ผมขับรถไปจอดตรงหน้าคนๆนั้นและกดกระจกถาม เจ้าตัวตกใจนิดๆที่มีรถเคลื่อนมาจอดตรงหน้า

     

    “อ้ะพี่โตโน่! จะกลับหรอ งั้นริทไม่เกรงใจแล้วนะ”ริทพูดด้วยน้ำติดตลกแล้วขึ้นมานั่งบนที่นั่งข้างคนขับ

     

    “ขายดีมั้ยวันนี้”

     

    “ยอดทะลุเป้าเลยฮะคิดว่าคงจะเป็นเพราะมีพี่โน่มายืนที่เคาท์เตอร์ที่แหละฮะ5555555”

     

    “ก็ดีแล้วนิ่ เดี๋ยววันหลังพี่จะไปยืมอีกร้านริทจะได้มีลูกค้าเยอะๆ”

     

    “555555555555 เอ่อ ว่าแต่พรุ่งนี้พี่โตโน่จะมาเรียนรึป่าวฮะ”

     

    “อืมมมม คิดว่าน่าจะไปได้นะพี่ไม่ค่อยแน่ใจแต่คิดว่าอาจจะมีประชุม งั้นพี่ขอเบอร์ริทหน่อยสิเผื่อจะได้โทรบอก”

     

    “08x-xxxxxxx โทรมาได้ตลอด 24 ชม.เลยฮะ^^”

     

    “งั้นพี่จะโทรไปบอกตอนตี 2”

     

    “ช้ะ! ริทแค่ล้อเล่นเฉยๆแต่ถึงพี่โทรมาริทก็ไม่ได้ยินอยู่ดีแหละฮะเพราะริทหลับลึก5555”เมื่อเค้าพูดจบรถของผมก็มาถึงคอนโดพอดี พวกเราเดินออกจากลานจอดรถใต้ตึกและเข้าไปในตัวคอนโดเพื่อจะขึ้นลิฟ

     

    “วันนี้พี่ขอขึ้นไปส่งริทที่ห้องได้มั้ย”ผมเอ่ยขึ้นทันทีที่เราเข้ามาอยู่ในลิฟ

     

    “เอาสิฮะแต่ระวังจะเป็นข่าวนะฮะ”ผมคุยเรื่อยเปื่อยกับริทไปเรื่อยๆจนลิฟขึ้นมาหยุดอยู่ที่ชั้น 8

     

    ริทนำทางผมไปยังห้องของเค้า และตอนนี้ผมกับเค้าก็ลังยืนอยู่หน้าห้อง 806 ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นห้องของริทส่วนเจ้าตัวตอนนี้กำลังล้วงหาคีย์การ์ดที่อยู่ในกระเป๋าเป้

     

    “เมื่อเช้าริทก็ว่าริทเอาไว้ในนี้นะ หายไปไหนแล้วเนี่ย”ริทบ่นกับตัวเองพร้อมกับค้นกระเป๋าหาคีย์การ์ด

     

    “อยู่ในกระเป๋าตังรึป่าว”

     

    “ริทว่ามันหน้าจะอยู่แถวนี้น้าาาา”ริทลากเสียงยาวๆแล้วค้นต่อ

     

    แกร๊ก!

     

    ประตูตรงหน้าพวกเราเปิดออกพร้อมกับชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ตัดผมสั้น ผิวขาว(มาก) หน้าตาตี๋ๆใส่เสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีฟ้า ผมรู้จักเค้าครับเพราะเค้าเป็นผู้ชายที่ได้ครอบครองหัวใจของริทอยู่ในตอนนี้...'นายเก่ง'

     

    “เห็นเสียงดังอยู่ตั้งนานก็นึกว่าใคร”นายเก่งพูดขึ้น

     

    “พี่เก่งอยู่ในห้องก็ไม่บอกปล่อยให้ริทหาการ์ดอยู่ตั้งนาน อ้ะ พี่โตโน่เข้ามาก่อนมั้ยฮะ”ริทคุยกับนายเก่งก่อนที่จะหันมาถามผม

     

    “ไม่ล่ะ พี่ว่าจะกลับห้องแล้ว ราตรีสวัสดิ์”

     

    “ราตรีสวัสดิ์ฮะ”ผมเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับอาการเจ็บจี๊ดที่หัวใจ

    ทำไมผมต้องมาเจอแฟนของเค้าในห้องของเค้าด้วย และดูจากการแต่งตัวของนายเก่งก็แสดงว่าเค้าอาศัยอยู่ด้วยกันสินะ เค้าเป็นแฟนกันถึงขนาดอยู่ด้วยกันขนาดนี้คงจะไม่เลิกกันง่ายๆหรอก ระหว่างที่ผมคิดอยู่นั้นตาผมก็เริ่มแสบและส่ิงที่ตามมาก็คือ..น้ำตาผมไม่สามารถกลั้นมันไว้ได้ ผมรู้สึกเหมือนโดนไม้ท่อนใหญ่อัดลงที่หัว ผมไม่รู้ว่าผมควรจะตัดใจหรือรุกต่อไปดี ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วสิ...



     

    -Pitchin-
    ขอบอกก่อนเลยว่าฟิคเรื่องนี้ไม่ดราม่าค่ะ
    แต่มันจะมาเป็นครั้งคราวเพื่อสีสัน5555

    ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและคอมเม้น
    ไรท์ดีใจมากกกกกกก><!เมื่อได้เห็นว่ามีคนเข้ามาอ่านเข้ามาเม้น
    ปล.ช่วงนี้อาจจะอัพช้าเพราะไรท์มันเรียนหนักมากจริงๆ
    ม.3แถมยังเรียน 2 ภาษา=ตายทั้งเป็น

    ท้ายที่สุดนี้ก็อยากจะบอกว่า
    รักรีดเดอร์ รักโน่ริท!!

    Twitter: @hirazawayui
    สำหรับคนที่อยากได้ ฟอลกันเข้ามาเยอะๆนะคะ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×