ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กบฏหัวใจซาตานร้าย

    ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 3 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 136
      1
      18 มิ.ย. 58

    “อาหารเป็นยังไงบ้างครับคุณพรีม อร่อยมั๊ย” คำถามห่วงใยที่คอยส่งมาให้อยู่ไม่ขาด ทำให้พริมามองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างพิจารณาอีกครั้ง อภิวัฒน์เป็นคนหน้าตาดีเธอไม่เถียง  ใบหน้าหล่อเหลาออกตี๋นิดๆ เพราะได้เชื้อสายจีนมาส่วนหนึ่งปนกับความเข้มที่เธอไม่แน่ใจว่าจากส่วนไหนของประเทศ ผิวขาวที่ไม่ซีด เรือนร่างสูงใหญ่ที่บอกได้ดีว่าเขาดูแลตัวเอง และไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า นพ.หนุ่มคนนี้จะให้ความสนใจเธอแทนที่จะเป็นคนอื่นที่อยู่ในสายงานหรืออยู่ในระดับเดียวกัน

    “อาหารอร่อยมากค่ะ ขอบคุณนะคะที่พามา นี่ก็ใกล้จะบ่ายแล้ว เรากลับเข้าโรงพยาบาลกันดีกว่าค่ะ ฉันไม่อยากทิ้งแม่ไว้คนเดียว”

    “คุณพรีมจะว่าอะไรมั๊ย ถ้าผมจะขอเป็นเพื่อนกับคุณอีกสักคน ถึงแม้ว่าผมจะอยากเป็นมากกว่าเพื่อนก็ตาม” คำถามที่ตรงประเด็นทำพริมาเหลือบมองร่างสูงตรงหน้าอย่างไม่เชื่อหู

    เขาเอาจริง และรุกฆาตเร็วมากจนเธอคิดอะไรไม่ออก

    “เอ่อ!!... คุณหมอแน่ใจแล้วเหรอคะ ฉันไม่ใช่คนสวย ไมได้มีอะไรดี แถมฐานะยังเทียบกับคุณหมอไม่ได้ มองคนอื่นที่มีดีและคู่ควรไม่ดีกว่าเหรอคะ” ด้วยเพราะไม่อยากให้ความหวังเขาไปมากกว่านี้ เธอจึงควรที่จะตัดไฟตั้งแต่ต้นลม

    “คุณพรีมครับ ผมผ่านอะไรมาเยอะนะ ผมรู้ว่าใครคู่ควรไม่คู่ควร ผมมองคุณด้วยจิตใจและนิสัย  และการที่คนเราจะมีดีหรือคู่ควรมันไม่ได้วัดจากหน้าตา ฐานะทางสังคมหรอกนะครับ เพราะถ้าผมมองแบบนั้นจริงๆ ผมคงแต่งงานแต่งการไปนานไม่ปล่อยให้ตัวเองโสดมาจนอายุสามสิบสองหรอก” นัยน์ตาสีเข้มหม่นแสงลงจนคนมองอดใจหวิวไม่ได้ เธอไม่ได้อยากให้ทำให้คนที่หยิบยื่นทั้งไมตรี มิตรภาพ ต้องเสียใจและเสียความรู้สึก

    “ถ้าคุณหมอไม่รังเกียจคนจนที่ไม่ได้มีอะไรเลยอย่างพรีม พรีมก็รับคุณหมอเป็นเพื่อนอีกคนค่ะ  แต่คงเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันไม่ได้ เพราะคุณหมออายุมากกว่าพรีมหลายปี เป็นพี่ชายคงได้ใช่มั๊ยคะ” คำว่าเพื่อนหรือพี่ชายทำให้หัวใจสั่นหวิวได้ไม่ต่างกัน แต่ก็ยังดีกว่าเป็นได้แค่คนรู้จักล่ะน่ะ อภิวัฒน์ได้แต่บอกตัวเองในใจ ก่อนที่จะส่งยิ้มขอบคุณหญิงสาวที่ตรงหน้าที่ยอมรับไมตรีที่เขาหยิบยื่นให้

    “ขอบคุณคุณพรีมมากนะครับ ที่ไม่ปฏิเสธผม” ใบหน้าหล่อเหลาระบายไปด้วยความยินดี ไหนจะรอยยิ้มกว้านั่นอีก

    “ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่ต้องมีคุณแล้วมั๊งคะ เรารู้จักกันมากขึ้นแล้วนี่” คำพูดติดจะขี้เล่นและเป็นกันเองของเธอยิ่งทำให้เขามีความสุขมากขึ้น

    ครืด ครืด ครืด

    “ผมรับโทรศัพท์แป๊บนึงนะ” อภิวัฒน์ส่งยิ้มบางๆ ให้กับหญิงสาวก่อนที่จะเบือนหน้าหนีไปอีกทางเพื่อรับโทรศัพท์

    “อภิวัฒน์ครับ อะไรนะครับ” เสียงอุทานของชายหนุ่มพร้อมกับใบหน้าที่หันขวับมามองเธอด้วยสีหน้าตื่นตระหนกทำให้เธอพลอยตกใจไปด้วย

    “ได้ๆ ให้เด็กๆ ทำกันไปก่อน ถ้าเสร็จแล้วก็ย้ายเข้าไอซียูเลย เดี๋ยวผมเข้าไปดู” อภิวัฒน์มองใบหน้าหวานที่ตื่นตระหนกร่วมกันกับเขา แล้วไม่อยากจะบอกสิ่งที่เขาได้ยินมา แต่ก็ต้องพูดเพราะสิ่งที่ได้ยินเกี่ยวกับเธอโดยตรง

    “มีอะไรรึเปล่าคะ คนไข้ทรุดเหรอคะ”

    “ครับ ทรุดหนักอย่างไม่มีสาเหตุ ทั้งๆ ที่ตอนแรกก็ดูแข็งแรงดี เอ่อ คือ” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างไม่มั่นใจแต่ด้วยเรื่องนี้สำคัญทำให้เขาต้องพูดถึงแม้ว่าจะทำให้เธอเสียใจก็ตาม

    “แม่พรีมทรุด หัวใจหยุดเต้น ตอนนี้กำลังช่วยชีวิตอยู่ครับ”

    เหมือนมีสายฟ้าฟาดลงมาที่กลางใจ ดวงตาคู่สวยวาววับไปด้วยน้ำตา ภาพแม่ที่ยิ้มให้เธอก่อนที่จะออกมา ยังคงติดอยู่ในใจ ภาพแม่ที่สุขภาพแข็งแรงขึ้นทำให้เธอแทบจะไม่เชื่อหูว่าสิ่งที่เขาพูดมันเป็นเรื่องจริง แต่สีหน้าซีดเผือดและแววตาลุแก่โทษที่ส่งมาทำให้เธอหลอกตัวเองไม่ได้...

    “ไม่จริงใช่มั๊ยคะ แม่พรีมไม่ได้เป็นอะไรมากใช่มั๊ย ฮือๆ ฮึกๆ ฮือๆๆ” พริมาเอ่ยถามเขาด้วยเสียงสั่นเครือน้ำตานองหน้า เอ่ยถามด้วยหวังว่าสิ่งที่เขาพูดจะไม่ใช่เรื่องจริง

    “พรีมต้องเข้มแข็งนะ ตอนนี้ทีมแพทย์กำลังช่วยเหลืออยู่” และโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในกระเป๋า ทำให้อภิวัฒน์รีบคว้าขึ้นมารับสาย

    “ว่ายังไง!!

    หัวใจกลับมาเต้นเป็นปกติแล้วครับพี่โอห์ม ตอนนี้ใส่ tube* แล้ว กำลังจะย้ายเข้าไอซียูครับ

    “อืม ดีมาก พี่ฝากด้วยนะ เดี๋ยวพี่จะเข้าไปดูเอง” มือหนากดวางโทรศัพท์ก่อนที่จะยื่นผ้าเช็ดหน้าของตัวเองให้หญิงสาวซับน้ำตาที่ไหลนองบนใบหน้า มันช่างเป็นภาพที่คล้ายเข็มมาทิ่มแทงหัวใจเขาเสียเหลือเกิน ความตื่นตันและความสุขที่เพิ่งได้รับจากการพัฒนาความสัมพันธ์มลายให้ไปจนหมดสิ้นเมื่อได้ยินข่าวร้ายเมื่อสักครู่

    “แม่พรีมปลอดภัยแล้วนะครับ  กำลังจะย้ายเข้าไอซียูจะได้ดูอาการได้อย่างใกล้ชิด พรีมไม่ต้องเป็นห่วงนะ พี่จะดูแลแม่พรีมเอง” มือหนาเอื้อมไปกอบกุมมือเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างปลอบใจ และใจเขาก็ชื้นขึ้นมานิดๆ เมื่อใบหน้าพยักหน้าตอบรับพร้อมส่งรอยยิ้มบางๆ มาให้

    และเมื่อทั้งคู่มาถึงที่โรงพยาบาล อภิวัฒน์ก็ตรงดิ่งเข้าห้องไอซียูที่มารดาของหญิงสาวพักรักษาตัวอยู่ทันที บุคคลแรกที่เขาเข้าหาคือ แพทย์เฉพาะทางที่ประจำอยู่ที่นั่นพร้อมกับพริมา

    “มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอยู่ๆ คนไข้ถึงได้ทรุดลงเร็วแบบนี้ เมื่อเช้าอาการยังดีอยู่เลย ยาคีโมคงไม่ทำให้ทรุดลงเร็วขนาดนี้”

    “ไม่รู้เหมือนกันครับพี่โอห์ม เพราะอยู่ๆ คนไข้ก็หมดสติหัวใจหยุดเต้นไป เท่าที่ตรวจดูผลเลือดก็ไม่ได้มีอะไรที่ผิดปกติ แต่เห็นพยาบาลบอกว่ามีญาติมาเยี่ยมคนไข้แล้วพอหลังจากที่ญาติกลับไป คนไข้ก็หมดสติครับ” รายงานที่ได้รับไม่ได้ให้ความชัดเจนแก่อภิวัฒน์เท่าไหร่ แต่ที่เขาสะกิดใจคือญาติที่มาเยี่ยมมากกว่า เพราะตั้งแต่คุณศรีสอางค์เข้ารับการรักษา ญาติเพียงคนเดียวที่เขาเห็นและรู้จักคือพริมา และจากประวัติ ทั้งคู่ก็ไม่ได้มีญาติที่ไหน .. แล้วญาติที่แพทย์รุ่นน้องพูดถึงคือใครกันนะ

    อภิวัฒน์เดินเข้าไปตรวจดูร่างกายของคุณศรีสอางค์คร่าวๆ หลังจากที่ย้ายเข้ามาในไอซียู ก็ไม่ได้พบความผิดปกติอะไรเหมือนกับที่รุ่นน้องรายงาน สัญชาตญาณบอกเขาว่าคุณศรีสอางค์ไม่ได้ช็อคจนหมดสติด้วยตัวโรค แต่เกิดจากสิ่งอื่น บางสิ่งที่รบกวนจิตใจจนทำให้หมดสติไป ชายหนุ่มจึงรีบกลับไปยังหอผู้ป่วยที่คุณศรีสอางค์พักก่อนหน้า โดยไม่ลืมเรียกพริมาที่ยืนดูอาการมารดาที่หน้าเตียงให้ตามมาด้วย

    พริมาก้าวยาวๆ ตามร่างสูงของแพทย์หนุ่มที่เดินนำหน้าด้วยความสงสัยและกังวลใจ เพราะหลังจากที่ชายหนุ่มรับรายงานจากแพทย์อีกคนแล้ว สีหน้าของเขากังวลและเครียดจัดอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน

    “หมอโอห์มคะ เราเจอซองนี้บนเตียงของคนไข้หลังจากที่ย้ายเข้าไอซียูแล้วค่ะ” พยาบาลคนสวยที่เคยแซวก่อนหน้านี้ยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลขนาดเท่ากระดาษ A4 ให้โดยที่หน้าซองไม่ได้จ่าอะไร อภิวัฒน์จึงยื่นซองนั้นคืนให้กับพริมา เพราะมันเป็นการเสียมารยาทและผิดจรรยาบรรณอย่างมากหากเขารับแล้วมาเปิดดูเองทั้งๆ ที่ญาติของคนไข้ยืนอยู่ด้วยกัน ถึงแม้ว่าซองนั้นจะไม่ได้เขียนอะไรไว้ แต่ความรู้สึกบอกเขาว่าซองๆ นี้เป็นของคุณศรีสอางค์แน่นอน

    พริมารับซองสีน้ำตาลมาอย่างงงๆ ก่อนที่จะเปิดซองนั้นออก แล้วก็พบว่าภายในซองมีกระดาษหลายแผ่นอยู่ด้านใน มือเรียวสวยหยิบมันขึ้นมาดูด้วยความสงสัยแล้วกระดาษทั้งหมดที่อยู่ในมือก็ร่วงหล่นพร้อมกับร่างระหงที่ทรุดตัวลงจนอภิวัฒน์คว้าเธอไว้แทบไม่ทัน และจากหางตาของก็ทำให้เขาเห็นว่าอะไรที่อยู่ภายในซองนั่น  เมื่อคว้าร่างของพริมาไว้ได้ ชายหนุ่มก็ไม่ลืมที่จะเก็บซองและสิ่งที่อยู่ภายในนั้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะมีคนอื่นได้เห็นมัน

    นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมในซองนั่นถึงได้มีรูปของพริมาเปลือยกายอยู่บนที่นอนได้!!’



    มาช้าไปนิดฮะ ช่วงนี้งานราษฏร์ งานหลวงรุมเร้า

    พิริสา

    ร้ากฝุดๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×