คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ::Chapter 4:: เริ่มเดินหมาก
4
เริ่มเดินหมาก
ฉันมองหน้านายท่านนิ่งราวกับจะจ้องจับผิดอะไรซักอย่าง สรุปนี่เขาหายโกธรฉันแล้วใช่มั๊ย เอ้อ คนเรานี่ก็แปลกเนอะ เวลาโกธรก็โกธรมาก แต่เวลาโดนคนง้อนี่ก็ดันหายเร็วซะงั้น-O-
“ไม่โกธรกันแล้วเหรอ-O-?”
ฉันเอียงคอมอง พูดจาให้ลื่นหูเขาที่สุด
“เออ! ไม่โกธรแล้ว!”
“ขออีกทีได้มั๊ย ฟังไม่ถนัด แบบว่าลมมันแรง”
ในห้องดนตรีมีลมที่ไหนกัน ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย แบบนี้มีหวังโดนหักคอตายกลายเป็นผีเฝ้าห้องดนตรีเป็นแน่แท้>O<!!
“นายแกล้งฉันใช่มั๊ย-_-^” ฮั่นแน่ะ รู้ทันอีก
“เปล่านะ แต่จะเป็นการดีมากถ้านายท่านหายโกธรแล้วจริงๆ*O*”
นายท่านซาโซริจ้องหน้าฉันยังกลับจะกลืนฉันเข้าไปทั้งตัวแล้วย่อยด้วยเอนไซม์ก็ไม่ปาน ก่อนจะส่ายหัวอย่างเบื่อหน่าย วางขลุ่ยในมือไว้บนเปียโนแล้วหันมาประชันหน้าฉันอีกครั้ง
“เออ พูดก็พูด-_-^”
“เอ้า งั้นพูดสิ จะรอฟัง*O*”
“ขอโทษที่ตวาดใส่นายไป!! ฉันผิดเอง!! ได้ยินรึยัง!!”
ได้ยินเต็มสองรูหูเลยจ๊ะ นี่กะจะให้ทั้งโลกได้รับรู้เลยใช่มั๊ยว่าหายโกธรแล้วจริงๆ-O-
“ตะโกนแบบนี้แล้วไม่แน่ใจแฮะ สรุปหายโกธรแล้วจริงอ่ะ?”
“นี่นายโง่หรือโง่เนี่ย!!”
เอ๊ะ? แล้วมันต่างกันตรงไหนหว่า?
“อ่ะ โง่ก็โง่ แต่เรื่องยังไม่จบนะนายท่าน”
“นายจะทำไมอีก จะให้ฉันตะโกนขอโทษนายจนปากแทบฉีกอีกรึไง”
“ใช่ แต่ไม่ใช่ผม คาคุสึต่างหาก”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้าคาคุสึ?”
นอกจากเพนแล้วมีคนเป็นอัลไซเมอร์อีกคนด้วยเหรอเนี่ย ท่าทางจะแย่แฮะ
“จำไม่ได้เลยเหรอ?”
“ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามันเกี่ยวดองอะไรกับเจ้าคาคุสึนั่น=__=”
“ก็... ที่นายท่านไปพูดจาชวนท้าต่อยกับเจ้าคาคุสึไง”
ฉันเอียงคอมอง นายท่านที่ได้ยินดังนั้นถึงกับหน้าถอดสี เป็นคนละคนกับที่ด่าฉันจนร้องไห้เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว
“แล้ว... นายคิดว่าเจ้าคาคุสึมันจะเอาเรื่องฉันมั๊ย?”
“ถ้านายท่านไม่รีบไปขอโทษขอโพย เอาของไปบูชามัน มันต้องใช้ดาบซามูไรของชมรมเคนโด้คว้านท้องนายท่าน ควักตับควักไส้ แล้วเอาไปโยนให้ปลาหลังร.ร.กินแน่ๆเลย”
“เว่อร์ไปมั๊ง คว้านท้องเนี่ย”
“แค่เปรียบเปรยเฟ้ย!!”
ให้ตายเหอะ มีใครปกติซักคนรึเปล่าฟะร.ร.นี้ เจ้าเพนก็อัลไซเมอร์ เจ้าโทบิก็ปัญญาอ่อน ส่วนนายท่าน... ก็บ้าจี้ตามคำพูดคนอื่น=()=!
“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ นายท่านหายโกธรแล้วแน่ใช่มั๊ย?”
“ใช่”
“งั้นก็กลับห้องได้แล้ว นี่รู้สึกอึดอัดมากเลย ไม่ทันได้ฟังข่าวดีของเจ้าเพน”
“สนิทกันจังนะ”
“เหรอ? ขอบใจ”
“ทำไมนายต้องขอบใจ”
“ขอบใจที่นายท่านเห็นผมกับเจ้าเพนเป็นเพื่อนกัน”
“ฉันคงเห็นนายสองคนเป็นคู่เกย์กันมั๊ง พูดอะไรผิดประหลาด”
อุ๊ย ตรงจัง กำลังกังวลเรื่องนั้นอยู่เลย
“งั้นกลับห้องกัน คาบต่อไปจะเริ่มแล้ว อีก10นาทีจะหมดโฮมรูม”
“เออ ไม่ต้องพูดมาก ขอฉันเก็บขลุ่ยก่อน”
ว่าจบ นายท่านก็ม้วนตัว360องศาเพื่อเก็บขลุ่ย ฉันมองนายท่านอย่างซาบซึ้ง ยังไงเขาก็เป็นคนที่ฉันปลื้มมากอยู่ดี นายท่านที่เห็นฉันมองเขาด้วยสายตาแบบที่ว่าไปก็ทำหน้าทำตาสยองใส่ก่อนจะพูดว่า
“มองอะไรของนาย เห็นแล้วสยองจริงๆเลย”
โอเค กลับมาสถานการณ์ในตอนนี้ ตอนนี้กำลังหมดคาบเรียนสุดท้ายคือคาบเรียนฟิสิกส์ นายท่านเองก็ขอโทษขอโพยเจ้าคาคุสึไปแล้ว ถามว่าราบรื่นมั๊ย ราบรื่นดี ถ้าไม่นับเจ้าคาคุสึที่เกือบจะปากล่องดินสอใส่หน้านายท่านในคาบเรียนชีวะแล้วล่ะก็นะ ส่วนเจ้าเพน โคนันบอกว่าเจ้าเพนมันปวดท้องตั้งแต่คาบเรียนเคมี จนตอนนี้ยังไม่โผล่หน้ามาเลย เอาไงดีล่ะ ถามใครดีนะ ทำไมมันกระดากอายที่จะถามเรื่องข่าวดีจัง แบบนี้ต้องหาใครซักคน อืมม์ๆ ...
(O_O )( O_O)
แต่ไม่ทันจะได้หาต่อ ฝนเจ้ากรรมก็ดันตกลงมาแล้วซะงั้น!!
“เฮ้ย ไหนพยากรณ์อากาศบอกว่าวันนี้อากาศสดใสไงฟะ”
ทำไงดีล่ะ ร่มก็ไม่ได้พกมา รู้งี้ไม่น่าเชื่อไอ้พยากรณ์อากาศนั่นเลย คุโรสึจิก็อุตส่าห์เตือนแล้วแท้ๆ ช่วยไม่ได้แฮะ แบบนี้ต้องลุยมันไปทั้งอย่างนี้แหละ ลุย!
ตึก ตึก ตึก
พรืด
โครม!
เอาล่ะ ทุกคนคงไม่เข้าใจเอฟเฟคอันบ้าบอด้านบน จะขออธิบายแบบสโลวโมชั่นแล้วกัน ฉัน... ที่ตัดสินใจจะวิ่งลุยฝนกลับบ้าน หลังจากออกตัววิ่งได้3ก้าว หินเจ้ากรรมที่พนะเจ้าแห่งความซวยประทานมาก็มาขวางเท้าเข้า คงไม่ต้องบอกนะว่าไงต่อ แน่นอน... ฉันลื่นล้มไม่เป็นท่าอย่างที่เห็นนี่แหละ
“ทำไมชีวิตฉันถึงเป็นแบบนี้กันนะ...”
ฮึก...
เอ๊ะ?
ทำไมถึงรู้สึกอุ่นๆบนดวงตากันล่ะ
เอ๊ะ?
นี่ฉันร้องไห้เหรอ?
ทำไมล่ะ?
ทำไมมันไม่ยอมหยุดไหล?
“ไม่ไหวจริงๆด้วย... หยุดไม่ได้ได้เลย... นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
“ว่ากันว่า... คนบ้าจะไม่เป็นหวัด...”
ฉันปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่รู้สาเหตุ ยันตัวขึ้นในท่านั่ง ก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของร่มสีแดงลายกบสีเขียวที่บัดนี้ร่มคันนั้นก็มาอยู่เหนือหัวฉันซะแล้ว
“แต่คนปากไม่ตรงกับใจอย่างนายก็เป็นหวัดได้ไม่ใช่เหรอ?”
“เพน...?”
“หล่อๆแบบนี้มีคนเดียวนั่นแหละ คิดยังไงถึงจะวิ่งลุยฝนกันห๊ะ?”
เพนตวาดใส่ฉันที่ยังนั่งน้ำตาคลอเบ้าอยู่ ทำมันถึงไม่มีแรงจะเถียงอะไรเลยนะ “นายว่าใครปากไม่ตรงกับใจกัน” คำง่ายๆแบบนั้นฉันกลับพูดไม่ออกเลย
เพนก้มตัวลงมานั่งประชันหน้ากับฉันในระดับสายตา ก่อนที่เข้าจะลูบหัวฉันเบาๆ
มือของเจ้าบ้านี่...
อุ่นจังแฮะ...
“ไม่รู้ทำไม... ทั้งที่คิดว่าไม่เป็นไรแล้ว แต่มันกลับไหลออกมา”
ตอนนี้ฉันคงดูเหมือนนางเอกเอ็มวีที่โดนพระเอกหักหลังแล้วมานั่งร้องไห้ท่ามกลางสายฝนสินะ?
“ไม่เห็นเป็นไรเลย...”
เพนเลื่อนมือที่ลูบหัวฉันลงมาที่แก้มที่อาบไปด้วยน้ำตาของฉัน
“ฮึก... ฮึก...”
“แค่ไม่ได้ฟังข่าวดีของฉัน ไม่เห็นต้องร้องไห้เลยนี่นา^: :^”
เป็นคำปลอบใจที่แสนเรียบง่าย แต่มันกลับทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นได้...
“เจ้าบ้า... ไม่เห็นจะเท่เลย...”
ฉันพูดเสียงเบา สบตาเจ้าหัวหน้าห้องตรงหน้า
“ฉันมันไม่เท่อยู่แล้วแหละ^: :^”
ว่าจบ เขาก็พยุงตัวฉันขึ้น ก่อนจะยิ้มกว้างให้ฉัน
“หยุดร้องไห้ได้แล้ว เดี๋ยวฉันไปส่ง^: :^”
“จริงนะ...TT^TT”
“แน่นอน”
“เพน...”
“อะไรล่ะ?”
“ฉันอยากรู้ข่าวดี”
มันช่างกระดากปากเหลือเกิน แต่ก็ดันถามออกไปแล้ว
“อืม นั่นสินะ นายไม่ได้ฟังนี่นา”
“เราจะเริ่มเล่นเกมส์นั้นกันวันพรุ่งนี้นะ^: :^”
ความคิดเห็น