คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : III Slam Dunk III ...7...
เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็นตอนที่พระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้าไปอย่างเชื่องช้า สีสันของท้องนภากว้างเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความมืดทะมึน หลายชีวิตที่หลังจากซ้อมเสร็จก็ตรงรี่ไปอาบน้ำชำระเหงื่อไหล แล้วรีบเปลี่ยนชุดเพื่อที่จะได้กลับบ้านไปนอนพักเอาแรงเสียที
...แต่ทว่ายังเหลืออีกหนึ่งหนุ่มหน้าหวานที่ยังนั่งรอใครบางคนอยู่ในห้องเปลี่ยนเสื้ออย่างเดียวดาย
“ ชิ...ไปอาบน้ำถึงไหนวะ รอเป็นชาติแล้วนะโว้ย ” บ่นกับตัวเอง เพราะไม่มีใครเหลืออยู่ในห้องนั้นนอกจากทงเฮเลยสักคน
ร่างบางลุกขึ้นเดินไปเดินมาราวกับหนูจั่น สักพักก็นั่งลงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ขบกัดเล็บกับริมฝีปากอิ่มแดง แล้วก็ลุกขึ้นเดินอีกครั้งเป็นวัฏจักรซ้ำซาก
และด้วยอารามที่กำลังหงุดหงิดงุ่นง่านนั่นเอง ที่ทำให้ทงเฮไม่รู้สึกตัว เมื่อคนที่เค้ารอมากว่าครึ่งชั่วโมงเปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วสาวเท้าเข้ามาประชิดตัวเค้าอย่างรวดเร็ว
“ รอนานมั้ย? ” กลิ่นสบู่หอมฟุ้งลอยเข้ามาปะทะจมูกโด่งรั้น ยังไม่เท่าลมหายใจอุ่นๆที่รวยรินอยู่ข้างแก้มเนียนใส
ทงเฮสะดุ้งโหยง หันควับมาเจอคนหน้าหล่อในระยะที่ใบหน้าห่างกันไปถึงคืบแล้วอยากก็จะร้องกรี้ดให้ลั่นห้อง ถ้าไม่ติดว่ามันดูตุ๊ดแต๋วจนเกินไป
....ใครใช้ให้มันนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวอย่างนี้วะ!!!!!
สบถแหลกในใจ พร้อมกับรีบหลุบตาลงมองพื้น ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองสภาพที่ชวนให้ใจหวิวของคนตรงหน้า ไม่งั้นอาจมีได้เสียกันในห้องเปลี่ยนเสื้อชมรมบาสนี่แหละ!! -*-
เส้นผมสีดำสนิทเปียกลู่แนบกับใบหน้าคมสัน หยดน้ำเป็นละอองเล็กๆยังคงเกาะพรายอยู่ตามสัดส่วนต่างๆของร่างกายที่ไม่ได้ถูกปกปิดด้วยผ้าขนหนูสีขาว ผิวสีน้ำผึ้งช่วยขับกล้ามเนื้อแต่ละมัดทั้งแขนขาและหน้าท้องให้ดูเท่ห์ดูแมนกว่าหุ่นเล็กๆบางๆของทงเฮหลายเท่าตัว
ทงเฮพยายามคิดว่าการที่ตัวเองไม่กล้ามองหุ่นของคิบอม เป็นเพราะจะได้ไม่เก็บมันมาเปรียบเทียบกับหุ่นตัวเองแล้วก่อให้เกิดความอิจฉา....
ไม่ได้มีเจตนาหื่นกามหรือสะเทิ้นอายเวลาเห็นผู้ชาย(เกือบ)เปลือยหรอกนะ ...จริงๆ..!
“ เป็นอะไร โกรธหรือ? ” คิบอมโน้มหน้าลงมาใกล้คนแก้มแดง น้ำเสียงทุ้มต่ำแสดงความห่วงใยอย่างไม่ปิดบัง
“ ป...เปล่า ”
“ งั้นเป็นอะไรล่ะ หรือว่าไม่สบาย ” เอามืออังแก้มนิ่มอย่างถือวิสาสะ เป็นผลให้ทงเฮร้อนฉ่าไปทั่วร่างราวกับโดนช็อตด้วยกระแสไฟฟ้าแรงสูง
“ ม..ไม่ได้เป็นไร ปล่อยน่า~ ” พยายามปัดมือของอีกฝ่ายของจากแก้ม แต่คิบอมกลับไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น
“ ไม่ปล่อยหรอก ”
“ เอ๋....? ”
“ ชั้นจะไม่ปล่อยนายอีกแล้ว ”
กว่าทงเฮจะเข้าใจความหมายทั้งหมด ริมฝีปากอิ่มแดงก็ถูกกดทับลงมาโดยไม่ทันได้หลีกหนี อุ้งมือใหญ่ที่เคยสัมผัสแก้มเค้าอย่างแผ่วเบา ตอนนี้ได้ถูกเคลื่อนย้ายไปเกาะกุมที่ท้ายทอยบังคับองศาให้รสจูบธรรมดา กลายเป็นจูบร้อนที่แทบจะหลอมให้คนอย่างอีทงเฮเข่าอ่อนในชั่วพริบตา
“ อื้อ..!! ” ปลายลิ้นระอุแทรกซึมเข้ามาเมื่อทงเฮเผยอปากหอบหายใจ
คิบอมกวาดชิมรสหวานหอมจากเรียวลิ้นเล็กๆที่ตอบสนองอย่างเงอะงะของทงเฮ พลางเลื่อนมืออีกข้างลูบไล้เอวบางที่สั่นสะท้านด้วยความพึงใจอย่างยิ่งยวด แล้ว...
................
........
....
..
“ อ๊ะ!!! ” ร้องอย่างตกอกตกใจ พลางส่ายหน้าเร็วๆ
“ ไม่สิ นิสัยอย่างเจ้าหมวยเล็กนี่มันต้องโวยวาย เตะถีบก่อนค่อยสมยอมนี่หว่า ”
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน เมื่อเขียนมาถึงตรงนี้แล้วเกิดนึกขึ้นมาได้ว่า นิสัยอย่างน้องตัวเอง ไม่มีทางแน่ๆที่จะยอมถูกจู่โจมง่ายๆขนาดนี้
“ เฮ้อ~ ลบดีกว่า... ”
มือที่เคยเคาะแป้นพิมพ์ถี่รัวค่อยๆกด Back Space เป็นจังหวะ เพื่อลบฉากหวาบหวิวจากจินตนาการของยุนโฮ(แต่มีต้นแบบจริงๆมาจากคิบอมและทงเฮ -*-) ออกไปทีละตัวอักษรจนถึงจุดที่ต้องการจะพิมพ์ใหม่
“ เอาเป็นแบบตบจูบด้วยกว่ามั้ยนะ? ”
“ เฮีย!!!! ”
เสียงตะโกนดังลั่นก่อนตัวจะมา ทำให้ยุนโฮสะดุ้งโหยงและรีบกดปิดหน้าจอเวิร์ดตามสัญชาตญาณของวัวสันหลังหวะ -*- เพราะความเคยชินจากการหลบซ่อนนิยายรักที่มีต้นแบบนายเอกมาจากภรรยาสุดที่รัก คิมแจจุง มาเป็นเวลานาน ทำให้ยุนโฮค่อนข้างที่จะรอบคอบเมื่อจะต้องมาแต่งนิยายอีโรติกที่มีต้นแบบมาจากยัยหมวยสุดโหดขาวีนอีทงเฮ
.....ใส่รหัสไฟล์ไว้แม่งเลย ไอ้หมวยมันโง่คอมจะตายไป เปิดอ่านไม่ได้ร้อกกกก~ ฮิฮิ
คิดแผนการอันแยบยลไว้เสร็จสรรพก่อนจะแสลนหน้าออกไปต้อนรับน้องชายแท้ๆที่หน้าบูดมาแต่ไกล
สงสัยแผนล่อแมวด้วยปลาย่างจะไม่ได้ผลแฮะ....!
“ ว่าไง อาตี๋ของเฮีย ” ร้องทักเพื่อหวังสลายแอเรียฆ่าฟันที่ทงเฮแผ่ออกมา
“ แผนเฮียเนี่ยมันบรมห่วยเลย ถามจริงเหอะ เฮียใช้สมองหรือหัวแม่เท้าคิดกันแน่เนี่ย!!! ”
ทงเฮเท้าเอวพลางเหวี่ยงกระเป๋านักเรียนใบเก๋ทิ้งบนโซฟา ..โอ้ แม่เจ้า!! อาร์ตตัวแม่เข้าสิงน้องของยุนโฮแล้วหรือไงนี่
ทำไมมันขี้วีน อารมณ์ร้าย อย่างงี้ว้า~~?
“ อะไรกัน ไม่ได้ผลหรอกเหรอ? ” เกาหัวงุนงง สงสัยเหลือเกินว่าทำไมคิบอมถึงไม่หลงเสน่ห์น้องหมวยของเค้าหรืออย่างไร
“ ได้ผลสิ! ” ทงเฮกัดฟันพูดเสียงเครียด
“ อ้าว~ แล้วมาด่าเฮียทำไมล่ะเนี่ย แผนใช้ได้ผลก็ต้องขอบคุณเฮียสิ ถึงจะถูก ” ทงเฮปรายตามองพี่ชายขุ่นๆจะว่าไปมันก็น่าขอบคุณอยู่หรอก หากว่าสถานการณ์จะไม่พลิกโผให้เค้าต้องตกเป็นรองเช่นนี้
“ ไม่รู้ล่ะ สรุปคือ..แผนเฮียได้ผล แต่มันก็ไม่ใช่ผลดี ”
“ ..... ”
ยุนโฮกรอกตาไปมาอย่างหมดปัญญาเถียง ในเมื่อทงเฮมักจะควานหาเหตุผลแบบแถๆ มาสนับสนุนความคิดของตนเองได้อยู่เสมอ ...ป่วยการณ์เปล่าที่จะไปนั่งเถียงเอาความ
“ เออ ถ้าอย่างนั้นก็คิดหาทางเอาเองล่ะกัน ”
งอนครับ อย่างนี้มันต้องงอน ...ชิชะ อุตส่าห์ช่วยคิด ช่วยแปลงโฉมให้ซะจนเกือบหาสามีได้อยู่แล้วเชียว แล้วอีทงเฮยังมีหน้ามีตีตราบาปให้พี่ชายคนนี้เป็นคนผิดอีกนะ
ใช่ซี้~ เฮียทำอะไรก็ผิดหมดนั่นแหละ! (กัดผ้าเช็ดหน้า)
“ อา~ ” ร้องเสียงหลง เมื่อเห็นยุนโฮตั้งท่าจะลุกออกไป โดยไม่สนใจปัญหาโลกแตกของน้องชายตาดำๆ ทงเฮจึงรีบยื้อยุดฉุดกระชากร่างของผู้เป็นพี่ให้กลับมาช่วยกันระดมสมองเป็นการด่วน
“ แหม...แค่แผนเฮียใช้ไม่ได้ผล ก็ไม่เห็นต้องงอนเป็นตุ๊ดเลยนิ ” คิ้วกระตุกเพราะประโยคง้อของไอ้หมวยเล็กมันฟังทะแม่งๆ แต่เอาเถอะ เห็นแก่ว่ามันน่ารัก? จะยกโทษให้ล่ะกัน
“ แล้วทงเฮจะให้เฮียทำยังไงล่ะ คิดแผนให้ก็แล้ว คิมคิบอมเข้าชมรมก็แล้ว ทงเฮก็ไม่เห็นจะหายอารมณ์เสียเลยนี่นา เฮียจนปัญญาแล้วจริงๆนะ! ” ตัดพ้อพลางทิ้งก้นลงนั่งข้างๆน้องชายสุดที่รักอันดับหนึ่งแบบนอยนิดๆ (ถ้าไม่นับเมียรัก คิมแจจุง)
“ อ่า...ก็มันผิดแผนไปนิดหน่อย ฉันก็เลยเซ็งหนิ เฮีย..” ทงเฮตอบอ้อมแอ้ม ใช้นิ้วชี้จิ้มกันจึกๆแบบเด็กน้อยสำนึกผิด
“ เออ ว่าแต่มันผิดแผนยังไงล่ะ ”
“ เรื่องของเรื่องก็คือ... ”
และแล้วเจ้าปลาน้อยก็เริ่มเล่าเรื่องให้พี่ชายฟังอะเกน ประหนึ่งเป็นตอนต่อของมหากาพย์ ‘เจ้าปลาตัวร้ายกับนายคิมคิ’ ยังไงยังงั้น ส่วนยุนโฮผู้พี่นั้นก็ตั้งใจฟังเหลือหลาย ...เพราะมันคือบทต่อไปของนิยายติดเรทของเขานั่นเอง! (วะฮะฮ่าๆๆ)
“ เฮียว่าไง? ” ทงเฮถามขึ้นหลังจากเล่าจบจนหมดน้ำลายไปเป็นลิตรๆ คิ้วเรียวขมวดปมน้อยๆให้รู้ว่าเจ้าตัวกำลังตั้งใจฟังความคิดเห็นของผู้เป็นพี่มากเพียงใด
“ มันก็ไม่ได้ผิดแผนไปเท่าไหร่หรอก เรียกได้ว่าเฮียก็คิดอยู่แล้วล่ะว่าเรื่องมันต้องเป็นอย่างนี้ ” ยักไหล่ประมาณว่า กูคิดแล้ววววววว...
“ อ้าว...เฮียคิดไว้แล้ว แล้วทำไมไม่บอกชั้นล่ะ!? ”
“ ก็คิดว่าทงเฮจะรู้แล้วเหมือนกันนิ ”
“ ใครจะไปรู้! ” คนน้องเริ่มขึ้นเสียงใส่ นี่ถ้ามันกระโดดงับหัวยุนโฮได้คงทำไปแล้ว (แต่ที่ไม่ได้ทำ เพราะกระโดดไม่ถึงหัวนั่นเอง หึหึ)
“ รู้ไม่รู้ก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่นา ทงเฮ... ” ยุนโฮใช้น้ำเย็นเข้าลูบ
“ ยังไง เฮียก็มีแผนสำรอง ไว้ให้อยู่แล้วล่ะหน่า~ ”
“ จริงเหรอ เฮีย..? ” นัยน์ตาของทงเฮวิบวับ มองพี่ชายด้วยความเลื่อมใส
อยากจะยกย่องยุนโฮให้เป็นปรมาจารย์ด้านความเจ้าเล่ห์เพทุบายชั่วร้ายสามานย์ซะจริงๆ
“ อือ! ” ยุนโฮพยักหน้าถี่ๆ มั่นใจในแผนตัวเองเต็มร้อย
“ ทงเฮรู้จักคำนี้มั้ยล่ะ
. ”
“ อันผู้กล้า ยังพลาดท่า ‘มารยาหญิง’ !!! ”
*+*+*+*+*+*+*+*+*
“ เฮ้อ~ ” เสียงถอนหายใจหนักๆดังขึ้น เมื่อทงเฮมองดูสภาพตัวเองผ่านกระจกบานใหญ่ในห้องนอน
ความแมนกุ ป่นปี้หมดเลย T_T ...เสียงคร่ำครวญอาลัยอาลวรณ์ถึงอีทงเฮเวอร์ชั่นโหดเถื่อน(!?) หายไปหมดเพราะเฮีนยุนเค้าจับโมดิฟายด์ใหม่ยกชุดเสียแล้ว
“ เฮียเสื้อนี่มันบ๊าง บาง แล้วรัดติ้วเลยอ่ะ ชั้นหายใจไม่ออก ” บ่นถึงเสื้อเชิ้ตตัวใหม่ที่พี่ชายตัวหามาให้ เอ่อ...จะว่าไงดีล่ะ ใส่แล้วก็สวยดีอยู่หรอก แต่อึดอัดชะมัด!
“ อย่างนี้แหละดีแล้ว ” พูดพร้อมค่อยๆบรรจงทาแป้งเด็กบนแก้มนุ่มนิ่มของน้องชายเหมือพ่อจะพาลูกไปส่งโรงเรียนอนุบาลยังไงยังงั้น เพราะถ้าให้อีทงเฮทาเองแล้วล่ะก็...มีหวังได้กลายเป็นเด็กดอยแน่ๆ
“ แล้วชั้นต้องทำอย่างที่เฮียว่าจริงๆเหรอ ”
“ ไม่ทำก็ได้นะ แล้วแต่ทงเฮ ” ช่างประชดจริง พี่ใครวะ -*-
“ โธ่ เฮียก็รู้ว่าชั้นยั่วใครก็ไม่เป็น อ่อยใครก็ไม่ได้ ” ทงเฮเอ่ยด้วยความท้อแท้ใจ
“ แล้วเมื่อวานล่ะ ทงเฮทำได้ไง ”
“ เมื่อวานก็ส่วนของเมื่อวานสิ แค่วันเดียวมันก็ไม่เท่าไหร่ แต่นี่ต้องแต่งแบบนี้ไปทั้งอาทิตย์ ชั้นต้องตายแน่ๆเลย เฮีย ”
“ ไม่ตายหรอกน่า เชื่อเฮียสิ ผู้ชายร้อยทั้งร้อย มันพ่ายมารยาทั้งนั้นแหละ ”
“ แต่คิมคิบอมมันตายด้านนะ เฮีย ” ทงเฮเถึยงกลับเพราะเจอมากับตัว
“ ใครจะตายด้านกับน้องเฮียด้ายยยย~ ” ยุนโฮลากเสียงยานๆแบบมีเลศนัย “ ไม่เชื่อ... ทงเฮก็ลองลงไปดูที่หน้าบ้านสิ ”
พอได้ยินอย่างนั้น เจ้าตัวเล็กก็กระพริบตาปริบๆ งงไปสามวินาที ก่อนที่ยุนโฮจะดันหลังทงเฮเวอร์ชั่นสาวน้อยให้ออกไปดูเซอร์ไพรส์ที่หน้าบ้าน
“ อ๋า!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ”
เสียงร้องตะโกนบวกกับใบหน้าตื่นตะลึงเกิดขึ้น เมื่อสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าคือ รถยุโรปคันละหลายสิบล้านวอนสีดำเป็นมัน แถมพ่วงมีด้วยโกดมีนัมรูปหล่อที่ยืนล้วงกระเป๋าอยู่ข้างรถด้วยท่วงท่าสบายๆ แต่ยังสามารถหล่อชิบหายได้ในสายตาของทงเฮ
....คิมคิบอมนั่นเอง!!
“ นะ...นายมาทำอะไรที่นี่ ” ชี้หน้าคนหล่ออย่างไร้มารยาท ลืมตัวไปเสียสนิทว่าจะต้องรักษากริยาแบบกุลสตรีเอาไว้อย่างที่ยุนโฮเสี้ยมสอนมา
“ ชั้นมารับ ” จบประโยคสั้นๆ กินเอาใจความรวมทั้งหมด ไม่รู้ว่าจะประหยัดน้ำลายช่วยชาติหรืออย่างไร เฮ้ย!! พูดให้มันเคลียร์กว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไงวะ...
“ มารับทำไม? ”
“ ขานายหายแล้วงั้นเหรอ? ” คิบอมเลิกคิ้วถาม ในขณะที่ทงเฮหน้าซีดเป็นปลาต้ม ...กรุเสียรู้อีกแล้ววววว
“ อะ...อ๋อ ยังไม่หายหรอก ยังๆ ” ทำเป็นทรุดตัวลงไปกุมข้อเท้า สีหน้าเหยเก
...ฮึ่ย!! ทำไมเราถึงได้โง่อย่างนี้วะเนี่ย...ลืมได้ทุกทีว่าตัวเองต้องแกล้งทำเป็นเจ็บขา
นี่กรุเป็นปลาทองรึเปล่านะ ทำไมความจำสั้นจัง T^T~
“ แล้วไปหาหมอมาหรือยัง ” โกดมีนัมสาวเท้าเข้ามาใกล้ พลางย่อตัวลงถามเสียงเรียบ
“ เอ่อ ปะ..ไปมาแล้ว ”
“ หมอว่ายังไง ”
“ หายเร็วๆนะ....เอ๊ย!! ไม่ใช่! หมอบอกว่า อีกนานกว่าจะหาย ”
“ อืม... ” คิบอมครางในลำคอ ก่อนจะยืดตัวขึ้นยืนอีกครั้งและส่งมือมาให้ทงเฮที่ยังทำหน้างงๆอยู่
“ อะไร? ”
“ ขอมือ ”
“ ชั้นไม่ใช่หมานะจะได้มาขอมงของมือ...!! ” ว่ากลับเสียงขุ่น
“ จะช่วยพยุง ” คำตอบของคิบอม ทำให้ทงเฮหน้าแตกละเอียดจนเหมือนยินเสียงเพล้งๆดังก้องในหัว
นี่ถ้าเมิงจะพูดอะไร ก็ช่วยระบุประธาน กริยา และกรรมลงไปในรูปประโยคหน่อยได้มั้ยห่ะ!!???
“ อ๋อ ” ครางตอบ พลางส่งมือให้คิบอมอย่างประหม่า ...โธ่เว้ย ก็แค่หล่อกว่านิดเดียว อย่ามาทำเป็นเก็กได้มะ เคืองนะโว้ยยย~
จิตใจด้านมืดของทงเฮร้องต่อว่าคนที่ทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจผิดแปลกไปจากปกติ คิบอมไม่ได้ล่วงเกินอะไรให้ทงเฮรู้สึกตะขิดตะขวงใจ ชายหนุ่มเพียงแค่จับมือเรียว พลางช่วงพยุงเดินจนกระทั่งถึงตัวรถและเปิดประตูให้เข้าไปนั่งเท่านั้น
“ ลุงชาง ไปได้เลยครับ ” พอทุกอย่างพร้อม เสียงทุ้มห้าวก็เอ่ยบอกกับคนขับด้านหน้าให้ออกรถ
“ ครับ คุณชาย ”
สิ้นคำตอบรับ รถยนต์ราคาแพงก็แล่นออกจากหน้าบ้านของยุนโอทันที โดยมีน้องชายหน้าสวยของเจ้าของบ้าน นั่งตัวเกร็งอยู่ทางเบาะด้านหลัง ข้างๆโกดมีนัมรูปหล่อ
“ ฮ้า~~ ต้องอย่างนี้สิ ยัยหมวย ” บุคคลที่ยืนหลบมุมดูอยู่ข้างต่างร้องเยสเบาๆ
“ ไม่เสียแรงที่เฮียอุตส่าห์ปั้นมากับมือ ” หัวเราะคิกคัก ก่อนจะเดินกลับเข้าไปยังห้องทำงานต่อ
....คิดตอนต่อไปได้อีกแล้วล่ะน๊า~~ คึคึ
*+*+*+*+*+*+*+*+*
“ นายรู้จักบ้านชั้นได้ยังไง? ”
ทงเฮเอ่ยถามหลังจากที่บรรยากาศภายในรถเงียบวังเวงราวกับอยู่ในป่าช้า ก็จะอะไรซะอีกล่ะ...ถ้าไม่เป็นเพราะคนที่นั่งข้างๆเค้านั้นคือ คิมคิบอม มนุษย์ผู้รักษาน้ำลายยิ่งชีพ ด้วยการไม่เสวนากับผู้อื่นเกินความจำเป็น ถ้าไม่เป็นเพราะอึดอัดที่ต้องนั่งเฉยๆโดยไม่พูดจากัน ทงเฮก็คงไม่ต้องกลายเป็นชวนคุยก่อนอย่างนี้หรอก เฮอะ....!!!
“ พี่คังอิน ” คนฟังเลิกคิ้วสูง
“ นายถามที่อยู่ชั้นจากพี่คังอินงั้นเหรอ ”
“ อืม.. ” อีกฝ่ายหลับตานิ่ง แต่ยังมีมารยาทครางเบาๆในลำคอ แทนคำว่า ...ใช่
แหม....อวัจนภาษา ระดับไฮคลาสนะ พ่อคู้ณณณณณ~~
“ อันที่จริง นายไม่เห็นต้องลำบากมารับชั้นเลยนี่นา ”
“ พูดเหมือนนายเดินไปเรียนเองได้ ” น้ำเสียงนิ่งๆ บวกกับการลืมขึ้นของนัยต์ตาดำสนิท ทำให้ทงเฮเผลอใจสั่น เพราะดวงตานั่นเหมือนจะมองทะลุผ่านร่างของเขายังไงยังงั้นเลย
“ ก็.....ก็ ” ตะกุกตะกัก เหงื่อแตกพลั่ก
“ ชั้นเกรงใจนาย ” สุดท้ายก็จับเอาเหตุผลของคนดีมาประดับบารมีความเป็นอุเคะผู้เพียบพร้อมจนได้ หึหึ
“ ไม่ต้องหรอก ” คิบอมพูดเสียงขรึม
“ เมื่อวานนายก็เกรงใจชั้นอยู่แล้วนิ ....ทั้งบอกให้มาส่งที่ชมรม ทั้งบอกให้รับผิดชอบเข้าชมรมแทนนาย ดูยังไงนายก็เกรงใจจะตาย จริงมั้ย??? ” หันมาถามอย่างนี้ สู้พูดตรงๆมาเลยดีกว่าว่า อีทงเฮเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองขนาดไหน อย่าประชด แดกดัน กุเลย =_____= กุเจ็บปวดนะเนี่ยยยย~~
“ มีใครเคยบอกรึเปล่าว่านายกัดเจ็บ ”
“ หืม? ”
“ อ่ะ...เปล่าๆ ไม่มีอะไรหรอก ” ทงเฮส่งยิ้มหวานเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี แม้ว่าในใจจะอยากด่าไปให้ถึงบรรพบุรุษก็ตาม
จากนั้นทั้งคันรถก็ตกอยู่ในความเงียบเช่นเดิม เพราะทงเฮขี้เกียจชวนคุยหรือไม่ก็เพราะคิบอมรักความสงบ ทิวทัศน์ที่มองผ่านกระจกค่อยๆเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ โชคดีหน่อยที่วันนี้รถไม่ติดมาก และก็เป็นวันแรกที่ทงเฮมาโรงเรียนอย่างสบายตัว ไม่ต้องห้อยโหนเป็นลิง เป็นค่างบนรถเมล์ หรือเดินจนน่องปูด มาโรงเรียนอย่างทุกวัน
อันที่จริง.....มีคนมารับนี่มันก็ดีเหมือนกันน๊า~~
“ ถึงแล้วครับ คุณชาย ” คิดอะไรอยู่เพลินๆ ก็มีอันสะดุดกับเสียงคนขับรถที่อยู่ด้านหน้า และการหยุดเคลื่อนที่ของทิวทัศน์รอบตัว
อา~ ถึงแล้วเหรอ เร็วชะมัด!
ทงเฮหน้าเหรอหรา ในขณะที่คิบอมพยักหน้ารับ ก่อนจะเปิดประตูออกไปยืนเต็มตัวด้านนอก
“ อ๊ะ! ” กำลังจะก้าวตามออกไปบ้างก็มีอันชะงักเมื่อเห็นมือใหญ่ที่ยื่นมาตรงหน้า
“ คิดว่าจะเดินเองได้หรือไง ” ประโยคเดียวก็เข้าใจแล้วว่า คิบอมจะช่วยพยุงเดินจนกว่าจะถึงห้อง
บอกตามตรงว่าไม่ได้อยากทำตัวเหนียมอายเป็นสาววัยขบเผาะเวลาที่มีหนุ่มหล่อๆยื่นมือมาช่วยพยุงหรอกนะ แต่ด้วยบทบาทที่เฮียยุนเสี้ยมสอนมาให้เป็นซุปเปอร์อุเคะ ทำให้ทงเฮยอมพยักหน้าตกลงเกือบจะทันทีที่ยื่นมือไปวางบนอุ้งมือของคิบอมอย่างว่าง่ายเหลือเชื่อ พร้อมกับแก้มแดงสุกปลั่งเหมือนมะเขือเทศ
โอ้วว ไอ้จอร์จ กุเป็นอะไรไปแล้วนี้~~!!???
อยากจะกระตุกมือกับแล้วทึ้งหัวตัวเองเพราะอาการเต้นในจังหวะแซมบ้าของหัวใจไม่รักดี (แหวะ! สำนวนเฮียยุนชัดๆ) แต่พอมือถูกกุมด้วยไออุ่นจากคิบอมเท่านั้น อีทงเฮก็กลายเป็นแมวน้อยเชื่องๆ ที่ยอม(แกล้ง)เดินขากะเผลกๆตามคิบอมแต่โดยดี
อุแม่เจ้า เคะกว่านี้มีอีกมั้ยกุ TwT
แม้จะก่นด่าตัวเองในใจ แต่ที่การกระทำตรงกันข้ามนั้น สาเหตุหนึ่งก็มาจาก...............
“ ทำให้คิมคิบอมหลงรัก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ”
เสียงตะโกนคล้ายสียงกรีดร้องโหยหวนอยู่ไม่น้อย อีทงเฮทะลึ่งพรวกลุกขึ้นจากที่นั่งด้วยความตกใจที่ได้ยินภารกิจอันหนักหนาสาหัสเหลือเกินสำหรับเขา
ทำให้โกดมีนัมหลงรักเนี่ยนะ!!!
“ อือ~ ”
“ เฮียคิดว่ามันง่ายนักหรือไง ” ทงเฮว่าเสียงเครียด ต่างจากยุนโฮที่ยิ้มแย้ม ..อารมณ์ดีผิดปกติ
“ ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก ”
“ ทงเฮลองคิดดูนะว่าถ้าหากคิมคิบอมหลงรักทงเฮขึ้นมาเมื่อไหร่ ถึงแม้ว่าทงเฮจะหายเจ็บขาแล้ว แต่คิบอมก็ยังต้องอยู่ในชมรมเดียวกับคนที่ตัวเองชอบต่อไปแน่ๆ และพอเป็นอย่างนั้น ก็ถือว่าคิบอมจะกลายมาเป็นสมาชิกถาวร ”
“ แล้วชั้นก็จะไม่ถูกไล่ออกจากชมรม! ” คนตัวเล็กต่อเสียงใส นัยต์ตาพราวระยับไปด้วยความหวัง
“ ถูกต้อง ” ยุนโฮพยักหน้า
“ แต่เฮีย ” ทงเฮเริ่มทำหน้าไม่มั่นใจ “ คนอย่างไอ้หมอนั่น....ไม่มีทางชอบชั้นหรอก ”
“ อ้าว ...ทำไมล่ะ ”
“ ก็ผู้ชายส่วนใหญ่ เค้าชอบแบบนี้กัน ไม่ใช่เหรอเฮีย ” พูดพลางทำมือวาดบนอากาศเป็นทรวดทรงองค์เอวของหญิงสาวที่น่าจะเป็นที่ต้องตาต้องใจมากกว่าอกแบนๆตูดปอดๆของอีทงเฮ
“ แต่คิบอมอาจเป็นผู้ชายส่วนน้อยเหมือนเฮียก็ได้นะ ” ยุนโฮยกตัวอย่างตัวเอง ที่รักและเทิดทูนคนสวยอย่างแจจุงมากกว่าสาวๆที่ล้อมหน้าล้อมหลัง เมื่อครั้งยังเป็นเพลย์บอยตัวฉกาจ (เคยเป็นด้วยเรอะ!?)
“ ง่า........ ” ทงเฮทำปากบู้ เหมือนยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ จนยุนโฮต้องพูดเสริม
“ เอาน่า เชื่อเฮียสิว่าทงเฮก็มีดีให้คนหลงรักเหมือนกันนะ ” เข้ามาลูบหัวน้องรักอย่างเอ็นดู
“ แต่ชั้นก็ไม่เคยมีแฟนมาจนป่านนี้เลยนี่ ” คำพูดที่แสดงถึงอาการน้อยใจ ทำให้ยุนโฮนึกค้าน
....เพราะทงเฮไม่สนพวกผู้ชายที่เข้ามาจีบ และคิดว่าตัวเองนั้นแมกมากกกกกก(ประชด)
ดังนั้น น้องน้อยผู้น่ารักของเค้า จึงไม่เคยมีแฟนเลยจวบจนกระทั่งตอนนี้น่ะสิ
“ แล้วอีกอย่างคือ ชั้นไม่ชอบทำตัวเคะๆ ” บอกถึงปณิธานอันมุ่งมั่นจนยุนโฮได้แต่ลอบถอนหายใจ
“ วันนี้ก็ทำแล้วนี่นา ”
“ ก็มันแค่วันเดียวเองนิ ” ทงเฮเถียง
“ จะวันเดียวหรือกี่วัน ถ้าลูกผู้ชายตัวจริง เค้าก็จะไม่บ่นกับเรื่องหยุมหยิมพรรค์นี้หรอกนะ ทงเฮ... ”
คาดไว้ไม่ผิดว่าต้องเล่นจุดอ่อนเรื่องความแมน เพราะเมื่อพูดคำว่า ‘ลูกผู้ชาย’ ขึ้นมาทีไร อีทงเฮมีอันต้องเกิดลุกฮึดจากคำๆนี้ทุกที
“ เฮียว่าชั้นคิดมากเหมือนผู้หญิงงั้นเรอะ! ” มันเริ่มเสียงแข็งแล้วคับท่านผู้อ่าน -*-
ทงเฮตวัดตามองพี่ชายเคืองๆ แต่ขอโทษนะคับทุกท่าน ...ไอ้อาการอย่างนี้มันมองค้อนชัดๆ!!!
แล้วยังมีหน้ามาพูดปาวๆว่า ตัวเองแมนอีกนะ
เดี๋ยวพ่อจับใส่พาน ถวายคิมคิบอมเลยดีมั้ยเนี่ย???
“ ไม่เหมือน(น้อย)หรอก แต่เฮียแค่พูดความจริง ”
“ งั้น............... ”
ยุนโฮกลั้นใจระหว่างที่ทงเฮทำหน้าเหมือนคิดหนัก และสุดท้ายคำตอบที่ได้จากการขยับริมฝีปากบางๆเป็นคำพูดสองพยางค์ก็คือ
“ ก็ได้ ”
นั่นเอง..............
TBC.
ความคิดเห็น