ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SJ FIC] !!! SLAM DUNK !!! (KIHAE)

    ลำดับตอนที่ #10 : III Slam Dunk III ...10...

    • อัปเดตล่าสุด 24 มี.ค. 52


     

     

    ตั้งท่าจะพะบู๊มาแล้วร่วม สองนาที แต่ก็ยังไร้วี่แววของพระเอกที่จะมาช่วยนางเอกที่น่าสงสารคนนี้ ดังนั้นอีทงเฮจึงเริ่มใช้หัวสมองที่มีอยู่น้อยนิดคิดแผนสำรองเผื่อไว้ในกรณี ที่ฮยอคแจไม่สามารถเอาตัวคิมคิบอมมาได้ทันเวลา


    ข้อแรก.....
    ยอมโดนตบไปตามแผน แล้วถ้าคิบอมไม่มาจริงๆ ค่อยสวนกลับให้เจ็บกว่าที่เค้าโดนร้อยเท่า


    ข้อสอง.....
    ยอมโดนตบเหมือนเดิม และไม่ตบคืนเพื่อความเป็นเจนเทิลแมน(!?) ถึงคิบอมจะมาไม่ทันเดี๋ยวค่อยเอารอยช้ำไปทบต้นทบดอกกับอีฮยอคแจจอมแผนการก็ ได้


    และข้อสุดท้าย.....


    สู้ยิบตา!!! เป็นไงเป็นกันสิวะ กะอีแค่ผู้หญิงไม่ถึงยี่สิบคน ทำไมคนหล่อล่ำอย่างอีทงเฮจะสู้ไม่ได้ล่ะ


    จริงมั้ย???



    “ นี่ อีทงเฮ ” เอฟซีคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ ฟังแล้วขนลุกซู่ซ่าปาทังก้าปาทังกี้อย่างบอกไม่ถูก


    นิ้วมือนับสิบหักกรอบๆ พลางสาวเท้าเข้ามาใกล้คนที่หล่อน้อยกว่าเอริคมุนนิดหน่อย(เหรอ?) จนทงเฮต้องก้าวถอยหลังจนตัวติดกำแพง



    โอ๊ย~ เมย์เดย์ๆ
    สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤตแล้ว!!!




    สายตาสอดส่องหาทางหนีทีไล่เหมาะๆ หลังจากถูกตีกรอบด้วยหญิงงามราวผีเสื้อ(สมุทร) ที่พร้อมจะกระโดดเข้ามาขย้ำคอลูกกวางน้อยหน้าตาบ๊องแบ๊วอย่างเค้าได้ทุก เมื่อ


    “ ฟังพวกชั้นให้ดีนะ ” ถึงจะบอกอย่างนั้นก็เถอะ แต่ตอนนี้ เวลานี้ อีทงเฮปิดประสาทการรับฟังไปแล้วเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ เพื่อไปเพิ่มประสาทด้านการมองเห็นในระยะไกลให้มากขึ้นถึงร้อยเก้าสิบหลา


    เหงื่อกาฬเริ่มไหลย้อยลงมาจากไรผมสู่ปลายคาง ดวงตากรอกไปมาซ้ายขวาพร้อมการเขย่งปลายเท้าน้อยๆคล้ายนักบัลเล่ต์เพื่อมองหา คนที่หวังว่าจะมา มิเช่นนั้นทงเฮอาจจะต้องพึ่งท่าพี่โทนี่จา เฮียเจ็ทลี หรือไม่ก็คุณลุงเฉินหลง เพื่อเอาตัวรอดในเวลานี้


    “ อ๊ะ! ” ปากแดงร้องออกมาเบาๆเหมือนเสียงกระแอมในลำคอ เมื่อเล็งเห็นเส้นผมสีส้มๆที่โผล่เข้ามาในรัศมีของลูกตาทงเฮ แถมยังพ่วงหัวดำๆ หน้ามืดๆ แก้มบวมๆ(!?) ของคิมคิบอมมาอีกหนึ่งหน่อ


    แค่นั้นอีทงเฮก็แทบปล่อยโฮด้วยความโล่งใจ




    ....พระเอกขี่ไก่(!?) มาช่วยดาวพระศุกร์แล้วใช่มั้ยฮ้า~~~~ T o T




    ถึงมันจะดูบังเอิ๊ญ บังเอิญไปหน่อยที่ฮยอคแจพาคิมคิบอมมาได้ทันเวลาที่เค้าจะโดนตบพอดิบพอดี แต่ทงเฮก็ไม่ได้สนใจข้อเท็จจริงตรงนี้นัก เพราะสิ่งที่เค้ากำลังกังวลคือแผนการขั้นต่อไปต่างหากว่า..........



    เมื่อไหร่ยัยพวกนี้จะรุมเค้าซะทีล่ะ -*-
    มัวจะบ่นอะไรก็ไม่รู้อยู่ได้ แล้วคิบอมก็ไม่มาช่วยเค้าหรอก ฮึ!!!



    “ เข้าใจแล้วใช่มั้ย? ” จู่ๆพวกหล่อนก็ถามคำถามที่ทงเฮไม่มีวันเข้าใจ เพราะเค้าไม่ได้สนใจฟังที่พวกหล่อนพูดเลยสักนิด


    “ หืม...? ” ทงเฮครางเสียงสูงแบบไอด๊อนท์อันเดอร์สแตนด์ซักกะติ๊ด หรี่ตามองข้ามไหล่ของเอฟซีคนหนึ่งไปก็เห็นคิบอมกำลังเดินเข้ามาใกล้ โดยมีฮยอคแจยืนหลบมุมลุ้นตัวโก่งอยู่ตรงหลังตึก




    คิบอมมาแล้ว...!!!




    เสียงในใจร้องบอกทงเฮอย่างนั้น แต่ที่น่าแปลกใจคือเหตุการณ์มันยังไม่สมบูรณ์เนื่องจากไม่มีการใช้กำลังเกิด ขึ้น ดังนั้นเพื่อไม่ให้ผิดแผนที่ได้วางเอาไว้ ทงเฮจึงต้องสวมบทสำออยด้วยการเบะปาก ทำท่าเหมือนนางเอกผู้ไร้ทางสู้โดยอัตโนมัติ



    “ ก็เรื่องของนายกับคิบอมยังไงล่ะ! ” คนตรงหน้าพูดเตือนความจำให้ แต่ยังไงทงเฮก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี


    “ เรื่องของชั้นกับคิบอม? ” ร่างเล็กเอียงคอฉงนทั้งที่ในใจร้อนเป็นไฟ ...ยิ่งเวลาที่คิบอมก้าวเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ เค้ายิ่งต้องทำตัวให้ดูน่าปกป้องให้มากที่สุด



    เพื่อก่อให้เกิดความรักอะไรอย่างที่ฮยอคแจว่านั่นน่ะ... -*-



    “ ใช่! ” พวกผู้หญิงพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยประโยคที่น่าจะเป็นอัปเปอร์คัทเด็ดๆ ซึ่งจะทำให้คิบอมได้ยินมันและเข้ามาออกโรงปกป้องทงเฮในที่สุด


    “ ถ้านายคิดจะคบกับคิบอมล่ะก็................... ”


    ในที่สุดหัวหน้าแฟนคลับอย่างแชอึนก็เงื้อมือขึ้นเสียที ทงเฮหลับตาปี๋ พยายามเอียงแก้มให้แชอึนตบได้อย่างถนัดถนี่ แล้วหลังจากนั้นเค้าจะได้กระโดดม้วนตัวสามรอบ แล้วราวดอฟอีกสักรอบครึ่ง ก่อนจะค่อยๆกลิ้งตัวหลบลงนั่งพับเพียบกุมแก้มข้างที่โดนฝ่ามือพิฆาต ร้องไห้อย่างชอกช้ำ จนคิบอมต้องเข้ามาปลอบด้วยความสงสาร หรือถ้าเป็นแบบละครอีกเรื่อง.....คิบอมก็จะตะโกนว่า ‘หยุดนะ’ ก่อนที่เค้าจะโดนตบ แล้วพูดอะไรเท่ห์สักประโยคเพื่อปกป้องทงเฮ และในที่สุดม็อบแฟนคลับก็จะสลายตัวไปอย่างผู้แพ้



    ตอนจบ...........ยังไงอีทงเฮก็ต้องเป็นผู้ชนะอยู่วันยังค่ำ!












    “ อย่าคิดนอกใจคิบอมล่ะ เข้าใจมั้ย!!! ”











    หล่อนพูดพร้อมกับวางมือลงบนไหล่ทั้งสองข้างของทงเฮด้วยความเชื่อมั่นและไว้วางใจอย่างยิ่งยวด




    O_____________________o?




    เหมือนได้ยินเสียงเอคโค่ดังก้องในหัวกลวงๆของอีทงเฮ พยายามคิดตีความหมายอยู่หลายตลบว่าที่แชอึนพูดนั้นต้องการจะสื่ออะไร แต่พอมองข้ามไหล่ของหล่อนไปเห็นสีหน้าอึ้งปนขำของคุณโกดมีนัมรูปหล่อ ตัวต้นเรื่อง ทงเฮก็แทบจะถึงบางอ้อในทันที


    “ แล้วไอ้เรื่องลามกอะไรนั่นน่ะ ก็เลิกสักทีเหอะ ...มันจะทำให้ลุคของแฟนคิบอมเสียซะเปล่าๆ ” ทงเฮกลายเป็นปลาทองพูดไม่เป็นเสียแล้ว ได้แต่ทำปากพะงาบๆ งับอากาศเล่นอยู่เป็นนานโดยมีเหล่าแฟนๆคอยให้คำแนะนำในการเป็นแฟนคิบอมที่ดี อย่างไม่ลดละ



    “ ที่นายเปลี่ยนมาสาวแตกได้ก็ดีแล้วล่ะ พยายามเข้าหน่อยเดี๋ยวก็ชิน หรือถ้าไม่เข้าใจอะไรตรงไหน ก็มาปรึกษาพวกชั้นก็ได้นะ ”


    “ อ้อ....แต่ถ้าวันดีคืนดี เกิดมีชะนีที่ไหนมาติดพันคิบอม ก็มาบอกพวกเราได้นะ เดี๋ยวพวกชั้นจะไปจัดการมารความรักของนายให้เอง!! ”
    ทำท่าประกอบเป็นเซอเลอร์มูนครบเซ็ต แถมขยิบตาให้อีกหนึ่งที....




    = [ ] =”



    น้ำตาแทบไหลพรากๆโดยไม่ต้องบิ้วท์ เพราะแต่ละคำของผู้หญิงพวกนี้กำลังทำลายภาพลักษณ์ความเป็นแมนของเค้าซะ ป่นปี้ไม่มีชิ้นดี แถมพูดตอนไหนไม่พูด ยังมาพูดพอดีกับตอนที่มีคิบอมยืนฟังอยู่ข้างหลังพวกหล่อนอีก


    แล้วทีนี้อีทงเฮจะมีหน้าไปจีบสาวที่ไหนได้อีกล่ะเนี่ย~~


    ฮือ~ …………



    “ พ....พวกเธอ...ไม่โกรธชั้นเหรอ? ” เอ่ยถามเผื่อว่าจะช่วยกระพือความริษยาที่เค้าได้ครอบครองคิบอมให้เหล่าแฟนๆ ได้โมโหขึ้นบ้าง แทนที่จะมาช่วยสนับสนุนเค้าเช่นนี้


    “ โกรธทำไม? ” แชอึนถามกลับ


    “ ก....ก็ชั้นแย่งคิบอม....... ” พูดชื่อคิบอมเสียงเบาเหมือนกระซิบ เพราไม่อยากให้คนข้างหลังได้ยินอะไรไปมากกว่านี้


    “ โอ๊ย! ถ้าเป็นนายก็แย่งไปเหอะ ดีกว่ามีชะนีที่ไหนมาแย่งล่ะกัน ”


    หลายคนพยักหน้าให้กับคำพูดของแชอึน และนั่นยิ่งทำให้หน้าของทงเฮหดเหลือครึ่งนิ้ว


    “ ต...แต่พวกเธอชอบคิบอมไม่ใช่เหรอ!? ”


    “ ก็ชอบ..... ” ลากเสียงยาวๆ พลางยิ้มหวาน
    “ แต่เวลาเห็นคิบอมอ่อนโยนกับนายตอนเช้า แล้วมันรู้สึกดีอ่ะ ” พูดพลางยกนิ้วโป้งขึ้นมาการันตี ความซาบซ่านในหัวใจ เพราะเห็นเค้ากับคิบอมสวีทกันตอนเช้า(!?)


    “ ใช่ๆ ได้อารมณ์ คุณชายหน้าตายกับยัยเซ่อซ่า มากๆ ” อีกคนพูดถึงชื่อหนังสือนิยายรักหวานแหวว ชวนอ้วก ที่สามารถจิ้นได้ว่าพระเอกคือคิบอม ส่วนนางเอกก็คือ อีทงเฮ....



    “ เพราะฉะนั้น ตอนนี้พวกเราก็เลยเปลี่ยนจากแฟนคลับคิบอมเฉยๆ มาเป็นแฟนคลับ.......... ”









    ผ่างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง














    Kibum x Donghae = KiHae love~ love~
















    สาบานได้ว่ากำลังเห็นตัวหนังสือเขียนว่า คิบอม ทงเฮ เท่ากับ ‘คิเฮ’ อยู่บนแผ่นกระดาษขนาดใหญ่ที่แต่งแต้มสีสันซะจนสวยสะดุดตาสะดุดใจ และคงจะสวยกว่านี้ หากมันจะไม่มีชื่อ อีทงเฮ ปรากฏอยู่บนนั้น!!!!



    โอ้ มาย ก็อดดดดดดด
    ลอร์ด บุดดาเบลสสสสสสสสสสสสสส
    เอาส้อมมาจิ้มกุให้ตายทีเถอะ....


    ทำไมเรื่องมันกลายเป็นอย่างเน้~~~~~~~~~~~~ TT TT




    ไม่รู้ว่าทงเฮทำเวรทำกรรมอะไรไว้ ทำไมถึงได้เกิดเรื่องอัปยศอย่างนี้ขึ้นกับเค้า...
    และพอมองสลับจากหน้ากระดาษ เป็นหน้าหล่อของคิบอมที่ยืนอยู่ไม่ไกล ทงเฮก็รู้สึกอยากมุดดินหนีอย่างยิ่งยวด



    อย่ามาทำเป็นอมยิ้มนะ ไอ้บ้า!!!!
    อายจะตาย อยู่แล้วนะเฟ้ย!!!!!



    ร้องบริภาษร่างสูงอยู่ในใจ น้ำตาปริ่มๆจะไหลด้วยความแซดโคตรๆ หากแต่หนึ่งในแฟนคลับกลับตีความภาพน้ำตาคลอหน่วยของทงเฮ เป็นอาการปลื้มปิติจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่




    ฮ่วย.....มันจะมีอะไรที่แย่ไปกว่านี้อีกมั้ยเนี่ย???

     

     

    ~กริ๊ง~





    เสียงสวรรค์ที่ทงเฮเคยคิดว่าเป็นเสียงนรกดังขึ้นเพื่อเรียกให้นักเรียนกลับ เข้าชั้นเรียนตอนคาบบ่าย หญิงสาวหลายคนจับไม้จับมือให้กำลังใจทงเฮ ว่าให้สู้เพื่อความรักต่อไปมั่งเอย....ความรักไม่จำกัดเพศมั่งเอย....ให้จับ คิมคิบอมให้อยู่หมัดมั่งเอย....และอีกสารพัดสารพันที่ทงเฮแย้งไม่ทันว่าทั้ง หมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด ฝูงแฟนคลับคิเฮก็แยกย้ายกันกลับเข้าชั้นเรียกอย่างว่องไว ไม่เว้นแม้กระทั่งแชอึนที่กล่าวลากับเค้าคนสุดท้าย


    “ แล้วเจอกันในห้องนะ คิมทงเฮ ” ^^



    แน่ะ... -*-
    มีการเปลี่ยนนามสกุลให้เค้าเสร็จสรรพ โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากฝ่ายใด



    นี่ถ้าเกิดทงเฮมีลูกกับคิบอม ยัยนี่ไม่มาตั้งชื่อให้ลูกเค้าโดยพลการหรือยังไง!!!!!!!!!!!!!!



    คิดๆแล้วก็ปวดกบาล ทงเฮหลับตา ถอนหายใจแล้วนับหนึ่งถึงร้อยถึงพันแบบไร้เสียง ภาวนาให้ไอ้คุณโกดมีนัมมันกลับเข้าไปเรียนเหมือนกัน แต่พอเปิดตามาก็เจอหน้ารูปไข่ ตาคมๆเข้าในระยะใกล้ จนร่างเล็กต้องผงะถอยด้วยความตกใจ ก่อนจะร้องเสียงหลง...


    “ อ๊ากกกกกกกกก ”


    ร้องแล้วก็ปากสั่นเหมือนเจอผีตอนกลางวันแสกๆ ชะเง้อคอมองไปด้านหลัง ที่ๆน่าจะมีฮยอคแจยืนสังเกตการณ์อยู่ตรงมุมตึก ก็กลับเห็นแต่ความว่างเปล่า ไม่รู้ว่าไอ้ไก่มันอันตรธานไปจิกหาข้าวเปลือกกินที่ถนนข้าวสารหรืออย่างไร ถึงได้ปล่อยปลาน้อยไว้กับคิมคิบอมเช่นนี้


    “ เป็นอะไร? ” ถ้าเป็นใบ้หรือตาบอด หูหนวกเฉพาะตอนนี้ได้ ทงเฮก็อยากจะเป็น แต่ไอ้คำถามงี่เง่าพรรค์นี้ มันก็มีเพียงคำตอบเดียวเท่านั้นแหละ ที่ทงเฮพอจะนึกได้


    “ เปล่า... ” เสหลบสายตาขำๆที่ทอดมองมายังตัวเอง พลางกัดปากด้วยความคับแค้นใจที่ขามันไม่ยอมวิ่งหนีไปให้พ้นๆ อย่างใจนึก


    “ ทำไมหน้าแดง ”


    “ เปล่า! ” ขึ้นเสียงใส่เล็กน้อยเพื่อข่มขวัญคู่ต่อสู้


    “ ไหนเพื่อนนายบอกว่านายกำลังแย่ ”


    “ เปล่า...ชั้นไม่ได้เป็นอะไร ”


    “ เค้าบอกว่านายกำลังจะถูกพวกผู้หญิงรุม ”


    “ อะ....เอ่อ ” สมองน้อยๆพยายามประมวลผลอย่างด่วนจี๋ว่าจะเอายังไงกับไอ้แผนการที่กลับ ตาลปัตรเช่นนี้ แต่ก็ช้ากว่าคิบอมอยู่ดี เมื่อคนตัวสูงตัดความหวังที่ทงเฮจะตอแหลได้ออกไปอย่างง่ายดาย


    “ แต่ที่ชั้นได้ยิน.....เมื่อกี้ ”


    “ นายเข้าใจผิดนะ!!!!! ” สวนทะลุขึ้นกลางปล้องด้วยความร้อนตัว


    “ ตรงไหน? ” ขอซื้อทีเถอะ ไอ้อาการยืนเอามือล้วงกระเป๋าแล้วถามคนอื่นด้วยสีหน้ารู้ทันแบบนั้น


    อีทงเฮเครียดจนจะฉี่ราดกางเกงแล้วนะ อะฮือ~ T T


    “ ท...ทุกตรงนั่นแหละ ” แม่งมั่วเข้าว่า ...ขี้เกียจมานั่งสาธยายว่าคิมคิบอมกำลังเข้าใจผิดตรงไหนบ้าง


    “ ดูเหมือนนายจะอารมณ์ไม่ค่อยดีนะ ” คิ้วเข้มเลิกขึ้นนิดๆด้วยสีหน้าแปลกใจ แต่มองยังไงก็ยังไร้ความรู้สึกแบบจริงจังอยู่ดี


    “ ชั้น............. ”


    “ เป็นแฟนคิมคิบอม ไม่ดีตรงไหนกัน? ” เจอหมัดหลุนๆกระแทกหูแบบนี้ ความร้อนก็แล่นพล่านเหมือนหนูโดนยาเบื่อไปทั่วทั้งร่างของทงเฮ




    กุก็อายเป็นน่ะเฟ้ยยยย!!!!! ถามอะไรแบบเน้~~~




    “ มัน.................. ” เจ็บใจตัวเองนัก ที่นึกหาคำพูดอะไรมันต่อกรคิบอมไม่ได้เลยสักประโยค ได้แต่ยืนโง่เง่าหน้าแดง หูแดง เป็นบื้อใบ้ให้คนอื่นเค้าหัวเราะเล่นอย่างนั้น


    แค้นโว้ยยยยยยยยยยยยยยย


    “ ช่างเถอะ ” จู่ๆคิบอมก็เลิกคาดคั้นซะงั้น


    “ นายไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ” มือใหญ่เอื้อมมาลูบกลุ่มผมสีอ่อนด้วยความเป็นห่วง


    ถึงทงเฮจะคิดว่ามันแต๋วไปหน่อย ที่ถูกผู้ชายด้วยกันยืนลูบหัวลูบหาง แต่อย่างน้อยมันก็คงดีกว่าการที่คิบอมดึงเค้าเข้าไปกอดแล้วจูบปลอบขวัญ เหมือนในหนังน้ำเน่าล่ะนะ -*-


    และอีกอย่าง.................................


    มือคิบอมก็อุ่นดีเหมือนกันแฮะ =////=




    “ เอาล่ะ ” คนพูดชักมือกลับ “ ถึงเวลาต้องเข้าเรียนแล้วนี่ ”


    ทงเฮพยักหน้าหงึกหงักว่าง่ายขึ้นมาทันตา (ก็ไม่รู้ว่าจะดื้อไปให้มันได้อะไรนี่นา~ =.,=)


    “ กลับเข้าไปเรียนเถอะ ” ไม่ทันได้ตั้งตัว มือของเค้าก็ถูกฉวยไปกุมไว้อย่างแน่นหนา จะสะบัดสะดีดสะดิ้งยังไงก็ไม่หลุด


    “ ห้องชั้น....ชั้นกลับเองได้ ปล่อยน่า~ ” อยากจะต่อท้ายว่า ‘เมิงจะจูงกุกลับห้อง เหมือนจูงคนตาบอดทำไมมิทราบ’ อยู่พอดี แต่พอเห็นสายตาที่ไล่มองตั้งแต่หัวจรดเท้า จนไปหยุดที่ขาข้างที่ทงเฮโกหกเอาไว้ ร่างเล็กก็เลยตรัสรู้ได้ในทันทีว่าตัวเองยังต้องแอ๊บแกล้งทำเป็นเจ็บขาต่อไป จนกว่าจะทำให้คิบอมตกหลุมรักได้ ตามแผนของเฮียยุน


    “ หรืออยากให้อุ้ม? ” ทงเฮสั่นหัวพั่บๆ ถือเป็นคำตอบว่าคิบอมสามารถจูงมือทงเฮกลับห้องได้อย่างไร้ข้อโต้แย้งใดๆ


    ระหว่างทางเดินกลับตึก คนตัวเล็กก็ได้แต่ก้มหน้าเดินงุดๆ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตาใครสักคน จนกระทั่งมาถึงหน้าห้อง


    “ ส่งแค่นี้แหละ ชั้นเข้าไปเองดีกว่า ”


    “ อืม.... ”


    คิบอมครางอืม ก่อนที่มือเรียวจะค่อยๆถอดออกจากการเกาะกุมที่ยาวนานจนมือรู้สึกได้ถึงความอุ่นร้อนจากอุ้งมือของอีกฝ่าย


    “ แล้วเย็นนี้ชั้นจะมารับ ” ทงเฮหยักหน้าให้ส่งๆ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป


    ไม่วายยังมีเสียงไล่ตามหลังมาให้แก้มได้ร้อนวูบอีกครั้ง















    “ แล้วอย่าคิดนอกใจชั้นล่ะ อีทงเฮ~ ”




















    = ////// =

     

     

     

     

     

    *+*+*+*+*+*+*+*+*




    กะว่าจะฆ่าไอ้พวกปากหอยปากปูทิ้งให้สิ้นซาก แต่เพราะนี่เป็นเวลาเรียน...จึงทำให้ทงเฮไม่สามารถจัดการอะไรใครได้มากนัก นอกจากคอยนั่งเขม่นเขี้ยวเคี้ยวฟันให้กับไอ้จดหมายกระดาษที่ถูกส่งต่อมาเป็น ทอดๆจนถึงโต๊ะของเค้าลูกเดียว



    ‘อย่าคิดนอกใจคิบอมล่ะ คึคึ’


    ‘ถ้ามึงคบชู้ จะมีหน่วยข่าวกรองแจ้นไปบอกสามีมึงแน่ เหอๆ’


    ‘รักนะ จุ๊บๆ from คิมคิบอม(ตัวปลอม) กร๊าก~’


    ‘รักนะ ไอ้โง่ วะฮะฮ่าๆๆๆๆ’




    และอีกสารพันสารพัดคำล้อจากไอ้มนุษย์หน้าบาน ชเวซีวอน ที่บังเอิญมาได้ยินประโยคเด็ดที่ไอ้คุณคิบอมทิ้งท้ายไว้พอดิบพอดี


    ฮึ่ย~ ท่านทงเฮคนนี้โกรธจนเลือดขึ้นหน้าแล้วนะเฟ้ยยยยย~!!!!!!


    พอจบคาบสุดท้าย ซึ่งเป็นวิชาอิสระ ทงเฮเลยได้โอกาสจัดการพร้อมกันสองคนในทีเดียว ไล่ไปตั้งแต่อีฮยอคแจ บุคคลที่ไปเล็มหาข้าวเปลือกกินที่ไหนก็มิทราบ ปล่อยทิ้งเพื่อนปลาให้ถูกคิบอมหิ้วกลับมา ให้ขายหน้าประชาชีถึงหน้าห้อง จนถึงชเวซีวอน ไอ้พวกปากวอนส้นทีน ที่วันๆนึงถ้าไม่ได้กัดหรือแขวะเค้า คงจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ พาลไปถึงปวดท้อง ถ่ายไม่สุดเป็นแน่แท้ -*-


    “ มึงหายไปไหนมาวะ! ” เปิดประเด็นได้ตรงเป้าจนคนที่นั่งคร่ำเคร่งอยู่กับหนังสือเรียนต้องสะดุ้งโหยง


    “ อยู่ใกล้กันแค่นี้ มึงจะตะโกนเพื่อ...? ”


    “ ก็ตอบมาสิ ว่ามึงหายไปไหนตอนที่คิบอมเข้ามาช่วยกู ”


    “ ใครช่วยใคร? ” เป็นมนุษย์จำพวกชอบใส่เกือก ที่แสล๋นหน้าเข้ามาในวงทั้งที่ไม่มีคนเชื้อเชิญ


    “ ไม่รู้สักเรื่องจะตายมั้ย? ” ทงเฮท้าวเอว ตอกซีวอนกลับ ...มึงน่ะ รายต่อไป ไม่ต้องรีบ ได้โดนทั้งมือทั้งเท้าของท่านทงเฮคนนี้แน่!


    “ ไม่ตาย ” พูดพลางยักคิ้วหลิ่วตาแบบอ้อนหมัดสุดๆ


    “ แต่เลี้ยงไม่โตวะ! ”


    ต่อด้วยเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊าก น่าจับขี้เถ้ายัดปากมากมาย แต่ก่อนที่ทงเฮจะได้ทำการฆาตกรรมเพื่อนร่วมชั้น ฮยอคแจก็ชิงตอบคำถามที่ทงเฮถามไว้เมื่อครู่ซะก่อนที่ร่างบางจะได้ฆ่าคนขึ้น มาจริงๆ


    “ รยออุคโทรมาบอกว่าอาจารย์คิมเรียกพบน่ะ ”


    “ เรื่อง? ” สองเสียงประสานขึ้นมาแทบจะพร้อมกัน


    “ กูสอบตก ”


    “ แค่นั้นอ่ะนะ! ” คนตัวขาวจัดขมวดคิ้ว


    “ มึงก็ด้วยนะ อีทงเฮ ” พยักเพยิดไปที่คนตรงหน้าที่เบิกตากว้างแบบไม่อยากจะเชื่อ



    ......นี่กุสอบตก(อีกแล้ว)หรือนี่!!!!??????



    “ หา!!!!! ” ร้องแบบตกอกตกใจ ทั้งที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องอะเมซซิ่งอะไรที่สองคนนี้สอบตก เนื่องจากวันๆก็ไม่เคยได้ตั้งใจเรียนอยู่แล้ว


    “ แล้วกูล่ะ? ” ซีวอนถามขึ้นบ้าง ในขณะที่ฮยอคแจส่ายหน้าแทนคำตอบ


    “ ผ่านฉิวเฉียดเหอะมึงอ่ะ ”


    “ จริงดิ!? ” น่าแปลกใจไม่น้อยสำหรับคนเรียนระดับท็อปอย่างซีวอนที่จะผ่านแค่ฉิวเฉียด


    “ เออ ” ปากแดงๆของฮยอคแจงับลง ทิ้งประโยคสุดท้ายไว้แค่ในใจว่า.....



    ชเวซีวอน ฉิวเฉียดจะได้เต็ม.......เพราะหมั่นไส้!



    “ เรื่องไอ้ฉ่อยช่างมันก่อนเหอะ ” น้ำเสียงของทงเฮที่พูดมีแววร้อนรนอยู่ไม่น้อย “ แล้วทำไมรยออุคไม่โทรหากูล่ะ!? ”


    “ เพราะกูบอกว่ามึงมีธุระ เดี๋ยวกูจะไปแทนมึงเอง ” ธุระของทงเฮที่ฮยอคแจว่า ก็คือการโดนรุมตบนั่นเอง


    “ แล้วอาจารย์คิมว่าไง? ”


    “ สอบซ่อมอาทิตย์หน้า ”


    “ เฮ้ย! เร็ววะ แล้วกูจะอ่านหนังสือทันมั้ยเนี่ย~ ”


    ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก เรื่องบาสยังลูกผีลูกคนอยู่ ไหนจะเรื่องภารกิจพิชิตใจคิมคิบอมอีกล่ะ แล้วนี่ยังมีเรื่องสอบซ่อมมากวนหัวใจให้คันเล่นอีก


    เกิดเป็นอีทงเฮช่างลำบากแท้หนอ~ T T


    “ เออ กูก็กลุ้มอยู่เหมือนกัน ” ฮยอคแจยกมือขึ้นกุมขมับ ก่อนจะเอาหน้าจมลงไปตรงกลางหนังสือเรียนที่เปิดค้างเอาไว้บนโต๊ะ


    “ พวกมึงจะกลัวอะไร ....ในเมื่อมีท่านซีวอนคนนี้อยู่ทั้งคน ”


    “ หมายความว่ามึงจะติวให้พวกกูเหรอ? ”


    “ ย่อมได้ ” ซีวอนพยักหน้าพร้อมด้วยรอยยิ้มของผู้ที่มีเมตตาเหลือเฝือ











    “ ถ้าพวกมึงจะไปโบสถ์กับกูวันอาทิตย์นี้นะ ” ^^










    ทงเฮเคยบอกหรือยังว่าเค้ามีเพื่อนที่เป็นพวกลัทธิคลั่งศาสนากับเค้าอยู่คนหนึ่ง.... -*-
    และไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามที่ต้องพึ่งพามันแล้วล่ะก็....ชเวซีวอนมักจะตั้งเงื่อนไขอยู่หนึ่งข้อ ซึ่งนั่นก็คือ.....


    ไปโบสถ์...และสวดมนต์เพื่อพระเจ้ากับซีวอนนี่~~


    ไม่ใช่ว่าทงเฮเป็นพวกไม่มีศาสนาหรอกนะ แต่....เอ่อ....แค่คิดสภาพว่าต้องไปโบสถ์กับไอ้มนุษย์ตนนี้แล้ว (เหล่มองชเวซีวอน) .....ก็พาลให้รู้สึกเสียวสันหลังวาบยังไงก็ไม่รู้สิ =__=a



    รู้สึกเหมือนว่าถ้าไปกับซีวอนแล้วทงเฮจะห่างไกลคำว่า ศาสนา ขึ้นไปอีกหลายขุม....



    “ ว่าไง? ” ซีวอนเอียงคอถามพร้อมรอยยิ้ม สองเพื่อนซี้มองหน้ากันอย่างชั่งใจโดยใช้การสื่อสารผ่านโทรจิตว่าจะเอายังไงกันดี...


    “ เออ ” ฮยอคแจตอบสั้นๆง่ายๆ ในขณะที่ทงเฮอ้าปากเหวอเพราะนึกว่าฮยอคแจจะปฏิเสธไปเหมือนอย่างที่เค้าคิด




    ทำไมบีหนึ่ง ถึงคิดไม่ตรงกับบีสองแล้วล่ะ??? T o T




    “ เยี่ยมไปเลย! ….แล้วมึงอ่ะ? ”


    หันหน้ามาถามเค้าด้วยความคาดหวังคำตอบ จนแลเห็นประกายวิบวับในตาของซีวอนได้อย่างชัดเจน แต่ระหว่างที่กำลังตัดสินใจอะไรไม่ถูก เสียงใสๆก็ดังขึ้นจากทางประตูหน้าห้อง


    “ ทงเฮ!!!! คิบอมมารับแน่ะ!!!! ” คือเสียงจากแชอึนนั่นเอง และดูท่าว่าพวกผู้หญิง(แฟนคลับคิเฮ)ในห้องจะพลอยทำเสียงหึ่งๆแบบผึ้งแตกรัง ตามอย่างแชอึน จนทงเฮนึกอยากจะเอาดีดีทีมาฉีดไล่ให้รู้แล้วรู้รอด


    “ สามีมึงมารับแล้วอ่ะ! ” นี่ก็อีกตัวที่ต้องฉีดดีดีทีเข้าปาก -*-


    ทงเฮหันไปตวัดตาเขียวๆพลางแยกเขี้ยวใส่ซีวอนอย่างคับแค้นและคาดโทษ ก่อนจะเดินลากเท้าอืดๆไปยังหน้าประตูที่มีร่างสูงยืนรออยู่


    “ เก็บของเสร็จหรือยัง? ”


    “ ยังเลย ” สะบัดหน้าน้อยๆอย่างมีจริต....


    ถึงจะอารมณ์เสียเพราะแผนการไม่เป็นไปตามคาดมาทั้งวัน แต่คนอย่างทงเฮก็ไม่ลืมสิ่งที่เฮียยุนสอนมาหรอกนะ ...ไม่งั้นจะเสียเวลาเรียนไปทำไมให้เมื่อยตุ้ม จริงมะ?


    “ งั้นก็ไปเก็บสิ เดี๋ยวชั้นรอ ” ว่าแล้วก็ยืนกอดอกรออย่างที่พูดจริงๆ ทงเฮผงกหัวเชื่องๆ แล้วเดินกะเผลกกลับไปที่โต๊ะอย่างว่าง่าย


    “ เฮ้ย! ตกลงแผนกูเวิร์คใช่มั้ยล่ะครับเพื่อน~? ” ฮยอคแจเขยิบมาทำกระซิบกระซาบกับเพื่อนตัวน้อยที่อยู่ในโอวาทของโกดมีนัมสุด หล่อจนน่าแปลกใจ


    “ เวิร์คกับเตี่ยมึงสิ! ” ทงเฮตวาดใส่ด้วยน้ำเสียงที่ถูกเก็บไว้ให้อยู่แค่ในระดับที่จะได้ยินกันเองในวงแคบ


    “ อ้าว~ ” ฮยอคแจเกาหัวแกรกๆ กำลังจะอ้าปากถามต่อ แต่ร่างบางก็สะบัดตูดเดินไป
    ออเซาะสามีเป็นที่เรียบร้อยเสียแล้ว




    แหม....ไอ้นี่ -*- ได้ผัวแล้วลืมเพื่อนเชียวนะ!




    “ เสร็จแล้วล่ะ ” ทงเฮยิ้มหวานให้คิบอมที่ไม่ได้พูดอะไรโต้ตอบแล้วฉวยกระเป๋าของทงเฮไปถือให้ ก่อนจะเดินนำไปข้างหน้าโดยไม่เหลียวหลังมามอง


    เออ ดีวุ้ย.....ลมเพลมพัดจริงนะ คุณพี่
    ทีเมื่อตอนกลางวันยังแทบจะอุ้มเค้ากลับห้องอยู่เลย ทีตอนนี้มาทำเก็กมาดนิ่งเรียกคะแนนสาวๆ


    เฮอะ!!!!!


    ปากอิ่มตึงบ่นขมุบขมิบแบบไร้เสียง ตอนแรกก็ตั้งใจจะเดินตามไปแบบเงียบๆ แต่พอนึกถึงมารยาที่น่าจะลองงัดขึ้นมาใช้ดูบ้าง เสียงร้องแบบอ่อยๆจึงหลุดรอดออกมาจากปากบางๆนั่น


    “ อะ....โอ๊ย….. เจ็บ...จัง~ ” ว่าแล้วก็ทำเป็นกุมข้อเท้า เดินตัวบิดตัวเบี้ยวเป็นกุ้งนางถูกน้ำร้อนสาด


    คิบอมหันมามองคนช่างสำออยแวบนึง ก่อนจะคล้องสายสะพายของกระเป๋าทงเฮไว้ที่แขน แล้วย่อตัวลงนั่งยองๆ จนคนที่บ่นว่าเจ็บขาถึงกับงงไปชั่วครู่กว่าจะเข้าใจความหมายของคนตัวโตได้



    “ ขึ้นมาสิ ”



    ลูกไม้ของเฮียยุนใช้ได้ผลดีเกินคาด! ทงเฮได้แต่อึกอักทำอะไรไม่ถูก จะว่าอายก็อายแต่ในใจลึกๆก็แอบดีใจอยู่เหมือนกัน ที่ทำให้คิบอมยอมลงให้ได้ถึงขนาดนี้



    ถ้าไม่คิดหลงตัวเองมากจนเกินไป....
    ไม่แน่ว่าคิบอมอาจจะ.....




    ....ชอบเค้าแล้วก็ได้....





    “ เร็วสิ ” ได้ยินคำเร่ง ก็เกิดอาการอ้ำอึ้งต่อมาทันที


    “ ต....แต่..ชั้น...ตัวหนักนะ ”


    “ ขึ้นมาเถอะน่า ”


    “ นายอายคนอื่นเค้าบ้างมั้ยเนี่ย~ ”


    “ ชั้นเมื่อยแล้วนะ ”


    “ ...แค่นี้นายก็เมื่อยแล้ว ถ้าต้องแบกชั้นไปถึงชมรม นายจะแบกไหวได้ยังไงกัน? ” เบ้ปาก นึกตำหนิคนตัวสูงที่ไม่ทนเอาเสียเลย แค่นั่งยองๆรอเค้าไม่ถึงนาทีก็บ่นว่าเมื่อยซะแล้ว



    “ เมื่อยปาก....ขี้เกียจพูดมาก ” เพราะ ไม่เห็นหน้าคนพูดว่ามีสีหน้าอย่างไรตอนพูดคำๆนี้ ทงเฮเลยเกิดนึกหมั่นไส้พ่อคนพูดน้อยขึ้นมาซะอย่างนั้น ร่างเล็กจึงเดินอาดๆไปทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงบนหลังของคิบอมอย่างไม่ปราณี



    ฮึ!! ไม่อยากเมื่อยปาก งั้นก็เมื่อยไปทั้งตัวก็แล้วกัน!!!!!



    โถมใส่ไม่ยั้ง... ความอายความเขินหายหมด เหลือแต่ความหมั่นไส้ล้วนๆที่ทำให้อีทงเฮขึ้นขี่หลังคิมคิบอมอยู่ในตอนนี้


    “ .......... ”


    และเพราะทงเฮไม่สามารถเห็นหน้าที่คนแบกตนเองได้เช่นกัน ที่ทำให้เจ้าตัวไม่รู้เลยว่า...........







    คิมคิบอมกำลังยกมุมปากขึ้น จุดยิ้มที่ใครเห็นเป็นต้องแปลกใจจนตาค้างเลยล่ะ!!!!!!










    TBC.

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×