ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรงเรียนมหาเวทย์อิดินเบิค

    ลำดับตอนที่ #3 : การทดสอบและเพื่อนใหม่ 30%

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.ค. 57


    เด็กหนุ่มเดินมุ่งหน้าตรงไปยังจุดทดสอบที่ห้อมล้อมไปด้วยคนมากมายจนตัวเขานั้นไม่สามารถที่จะเบียดเข้าไปข้างในได้เลย เขาได้แต่เดินไปเดินมาพยายามหาจุดที่จะแทรกเขาไปข้างใน

    นี่นายนะเป็นคนไทยใช่หรือเปล่าเด็กหนุ่มรีบกระโดดออกมาทันที เมื่อได้ยินเสียงของเด็กหนุ่มผู้เป็นเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มเช่นเดียวกับนัยน์ตาของเขาพูดขึ้นที่ข้างหู

    นะ นายคิดจะทำอะไรเรฟถามขึ้นหร้อมกับนำมือมากุมไว้ที่หูข้างที่เด็กหนุ่มคนนั้นพูดใส่

    เด็กหนุ่มคนนั้นระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั้น  กับท่าทางที่ตื่นตระหนกของเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า และนั้นก็ทำให้เรฟรู้สึกอายเป็นอย่างมาก

    ขอโทษๆ ฉันไม่คิดว่านายจะตกใจขนาดนั้นเด็กหนุ่มพูดไปหัวเราะไป

    ไม่คิดก็หัดคิดสิ เล่นมาพูดข้างหูแบบนี้ เป็นใครก็ต้องตกใจทั้งนั้นเรฟพูดกลับไปอย่างหัวเสีย

    ก็ขอโทษอยู่นี่ไง อย่าบ่นมากเลยนะ มาดีกันดีกว่าเด็กหนุ่มยื่นมือมาหาเรฟ ฉันชื่อเคียว ยินดีที่ได้รู้จัก

    เรฟทำหน้างงๆ ก่อนที่จะยื่อมือไปจับมือของเคียว

    ฉันเซเรฟ แต่ไม่ขอยินดีที่ได้...

    ยังไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะได้พูดจนจบ เคียวก็ปล่อยมือที่จับอยู่กับเรฟออก ก่อนจะมาปั้นหน้ายิ้มที่ทำให้รู้สึกอยากจะเอาเท้าไปละเลงเหยียบเล่นบนหน้า

    ยิ้มเข้าไว้สิเซเรฟ อย่างทำหน้าเซ็งแบบนั้นเดี๋ยวหน้าก็แก่เร็วหรอกเคียวพูดขึ้นพร้อมกับตบบ่าของเรฟ

    มีใครเคยบอกว่านายบ้าบางหรือเปล่า

    เคียวเริ่มทำหน้าเครียดเหมือนกับเขาจะไม่พอใจกับคำถามของเรฟ และนั้นก็ทำให้ผู้ถามรู้สึกไม่ดีไปด้วย

    ฉันคิดแล้ว ไม่มีนะเคียวตอบกลับไปด้วยใบหน้าที่จริงจัง ก่อนที่มันจะเปลี่ยนไปเป็นรอยยิ้ม

    ห๊ะ!”เรฟที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความมึนงง จ้องมองไปยังใบหน้าของเคียวตาไม่กระพริบ นี่นายจะบ้าหรือเปล่า มีใครที่ไหนเอาเรื่องแบบนี่มาคิดจริงจังกันบ้าง

    ก็ฉันไงเคียวชี้นิ้วไปที่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของตน

    ถึงนายจะดูบ้าๆเรฟถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะฉีกยิ้มออกมา แต่ฉันก็บ้าพอที่จะเป็นเพื่อนกับนาย

    เด็กหนุ่มทั้งสองจับมือกันอีกครั้งเพื่อแสดงถึงความเป็นมิตรให้แก่กันและกัน

    เอาล่ะ มาว่ากันเรื่องบททดสอบนี้กันดีกว่า

    ทันทีที่เคียวได้เข้าเรื่องการทดสอบ ใบหน้าของทั้งคู่ และบรรยากาศโดยรอบก็เริมตึงเครียดขึ้นมาทันที

    แล้วเราจะฝ่าผู้คน...

    ไม่เคียวผู้แทรกขึ้นมา นายลองคิดดูให้ดีๆนะ จำนวนคนมากมายที่กำลังเบียนกันจนแน่น กับเวลาการทดสอบที่มีอยู่อย่างจำกัด คิดว่ามันสมเหตุสมผมกันเหรอ

    มันก็...เรฟลองคิดภาพตามหลักเหตุและผล ทำให้เขาเริ่มรู้สึกถึงความไม่เข้ากัน เหมือนที่เคียวได้บอกไว้จริงๆ

    “ผู้คนมากมายนั้นต้องเป็นตัวล่อแน่นอน สิ่งที่เราต้องหาก็คือเส้นทางที่จะพาเราไปยังสถานที่ทดสอบของจริง”

    ดวงตาของเรฟเปิดกว้าง หัวใจของเขาเริ่มเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น

    “แล้วเส้นทางนั้นอยู่ไหนกันล่ะ”

     “เรื่องนั้น”เคียวฉีกยิ้มพร้อมกับหัวเราะในลำคอเบาๆ “ถ้าฉันรู้เราคงไม่ได้รู้จักกัน”

    แปะ!

    เรฟตบหัวของเคียวอย่างรวดเร็ว ความตื่นเต้นที่เขานั้นเคยมีแทบจะหายไปจนหมดสิ้น

    “นายมาตบฉันทำไมเนี่ย”

    “นายนั้นแหละ ทำเท่รู้หมดทุกอย่าง แล้วมาจบด้วยการบอกว่าไม่รู้ ฉันอุส่ามีอารมณ์ร่วมไปด้วยแล้วนะ ไอ้บ้า”เรฟตะคอกใส่เคียวอย่างหัวเสีย

    “แล้วฉันไปบอกนายตั้งแต่เมื่อไรว่ารู้ นายนั้นแหละที่บ้า คิดเองเออเองแล้วมาโทษฉัน”เคียวรีบเถียงกับไป

    “นี่แกหาว่าฉันบ้าเหรอ”

    “ก็เออสิ ถ้าไม่ใช่แก แล้วจะมีใครที่เป็นบ้ากันล่ะ”

    เรฟกัดฟันด้วยอารมณ์ที่เสียแบบสุดๆแต่ แล้วจู่ๆน้ำตาของเคียวก็เริ่มไหลออกมาพร้อมกับเสียงหัวเราะที่บ่งบอกถึงความสุข

    “นะ นายเป็นอะไร”

    “เปล่าๆ”เคียวยังคงหัวเราะต่อไปไม่หยุด เหมือนกับน้ำตาของเขาที่ไม่ว่าจะปาดออกเท่าไรก็ไม่หมด  “ฉันก็แค่รู้สึกสนุกนะ เพิ่งเคยได้เถียงเริ่องไร้สาระแบบนี่กับใครเป็นครั้งแรกนะ”

    เรื่องในอดีตช่วงวัยเด็กของเรฟทำให้เขาเข้าใจความรู้สึกของชายที่อยู่ตรงหน้าได้ทันที ความรู้สึกโดดเดียวอ้างว้างเต็มไปด้วยความเหงานั้นเป็นยังไง แต่ตัวของเขานั้นยังมีเฟที่คอยมาเล่นกับเขาตอนเลิกเรียน  แต่นั้นมันก็ไม่สามารถช่วงให้ความเหงาหายไปได้ แล้วเคียวล่ะ เด็กหนุ่มคนนี้ต้องทดสู้ความความรู้สึกแบบนั้นมานานแค่ไหนกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×