Lovey-Dovey Daddy แดดดี้...ที่เป็นมากกว่าพ่อ
เป็นโครงเรื่องของนิยายเรื่องใหญ่อีกที บอกเล่าความรักของพ่อมาเฟีย ชู้รักรุ่นเด็ก ลูกสาวริษยา และลูกชายเจ้าพ่อสวะ
ผู้เข้าชมรวม
141
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงพล๊อตที่ร่างไว้สำหรับเขียนนิยายเรื่องเต็มที่ไม่มีเวลาเขียน ผู้เขียนเสียดายที่ไม่ได้เขียนเรื่องเต็มเลยเอาพล๊อตมาลงเพื่อแบ่งให้เพื่อนๆได้อ่านสนุกกับผลงานที่ถึงแม้จะไม่สมบูรณ์ก็ตามของเรา
พล๊อตเรื่อง Lovey-Dovey Daddy แดดดี้...ที่เป็นมากกว่าพ่อ
17 ปีก่อน เด็กแว้น วเรณย์ กับสก็อย ชนิตรา วัย14 คู่หนึ่งหลังจากรักกันและใช้ชีวิตเหลวแหลกไปวันๆกับกลุ่มเพื่อน เกิดพบว่าชนิตราตั้งท้อง เด็กทั้งคู่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร เด็กชายเกิดมาจากมารดาที่ค้าบริการไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ ส่วนเด็กหญิงอยู่กับบิดาที่ติดเหล้า และทุบตีจนเธอหนีออกบ้าน ทั้งคู่ล้วนเป็นเด็กที่ถูกเลี้ยงมาอย่างทิ้งขว้าง แต่ต่างออกไป พวกเขารักกันด้วยใจจริง ทันทีที่รู้ว่าอีกชีวิตกำลังจะเกิดก็มีความคิดร่วมกันว่าจะสร้างครอบครัวให้ดีกว่าที่ตัวเองได้รับจากพ่อแม่ แต่ความฝันมันไม่ได้ง่าย จากเดิมที่อยู่ร่วมกันกับกลุ่มเพื่อนก็ต้องแยกออกมาเช่าห้องของตนเอง ช่วยกันหาค่ากินอยู่ และที่หนักที่สุดคือค่าฝากท้อง ค่าหมอ ยาบำรุง และค่าคลอดที่ต้องหาก่อนกำหนดคลอด ด้วยความที่อายุน้อยและไม่มีความรู้ นายจ้างส่วนมากไม่รับเข้าทำงานทั้งยังกดค่าแรง วเรณย์เริ่มจากทำงานรับจ้างทั่วไป แบกหาม ตัดอ้อย กรีดยาง เด็กเสริฟ กลับบ้านค่อนคืนทุกวัน ส่วนชนิตราที่ยังท้องอ่อนๆไปรับจ้างเป็นลูกมือช่วยในครัวของร้านอาหารแห่งหนึ่ง และแอบเอาของเหลือจากร้านมาประทังชีวิตทั้งคู่ แต่ต่อให้พยายามกันมากขนาดนี้ ค่าใช้จ่ายที่ต้องหามาเติมก็ยังไม่พอ ความเหนื่อยล้า การถูกกดดันจากทั้งที่ทำงานและเสียงนินทาของคนรอบข้าง ทำให้ทั้งคู่เริ่มมีปากเสียงกัน วันหนึ่งวเรณย์ทิ้งท้ายด้วยการบอกให้คนรักไปทำแท้งก่อนจะออกจากห้องเช่ามา ชนิตราร้องไห้หวั่นไหวไปกับความกดดันและคำพูดของคนรัก ก็ลองหาข้อมูลของการทำแท้งพบว่ามันอันตราย เธอกลัวมาก จึงไปหาเพื่อนที่เคยอยู่กลุ่มเหลวแหลกด้วยกัน เพื่อนถามว่ารักเด็กคนนี้หรือเปล่า
ด้านวเรณย์ด้วยความที่เงินที่หามาได้ทั้งหมดยกให้คนรักไปหมดทุกครั้ง จึงไม่มีติดตัวเลยสักบาทได้แต่ไปนั่งร้องไห้ในสวนสาธารณะ พบว่าที่นี่มีหลายครอบครัวมาออกกำลังกาย พ่อแม่สอนลูกเล่นว่าว ขี่จักรยาน ปิกนิก ดูมีความสุข นึกถึงตัวเองไม่เคยมีอะไรแบบนี้ ตอนเด็กยังต้องลงไปนอนบนพื้นข้างเตียง ตอนที่แขกมาหาแม่ ต้องนอนฟังเสียงครางค่อนคืนกว่าจะได้นอน จนตนโตหนีออกมา แล้วจู่ ๆก็คิดได้ว่า ถ้าคนรักไม่ยอมเอาเด็กออก ด้วยความสาวความสวยที่มี อาจลงเอยเป็นเหมือนแม่ตนเอง ลูกของตนก็ต้องมานอนบนพื้นข้างเตียงเหมือนกันจะทำยังไง ก็รู้สึกไม่เป็นสุข หลังจากมองรอยยิ้มฟังเสียงหัวเราะของครอบครัวตรงหน้าก็ตัดสินใจว่า ตนอยากมีชีวิตครอบครัวแบบนี้บ้าง จึงกลับบ้านแต่ก็ไม่เจอแฟนจึงออกตามหา สุดท้ายได้ความจากเพื่อนว่าแฟนอยู่ รพ. ก็นึกว่าไปทำแท้งจริงๆ ก็ตกใจ แต่สุดท้ายก็ค่อยเบาใจว่าพอดีวันนี้เป็นวันหมอนัดทำอัลตราซาวด์ และวเรณย์ก็ต้องตกหลุมรักอีกครั้งเมื่อเห็นรูปก้อนเนื้อที่ดูแทบไม่รู้เรื่องนั้น ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันและกลับมาเริ่มกันใหม่
แต่นี่ไม่ใช่ตอนจบ ต่อให้แรงใจจะเต็มเปี่ยม ชนิตราที่ทำงานหนักและไม่ได้รับการบำรุงที่ดีสุดท้าย คลอดลูกตายโดยทิ้ง เด็กหญิงคนหนึ่งให้ วเรณย์วัย15เลี้ยง วเรณย์เสียใจจนแทบเสียสติแต่เมื่อลูกในอกจับนิ้วราวกับให้กำลังใจ วเรณย์ก็ตั้งมั่นว่าจะเลี้ยงลูกให้ดีแทนส่วนของคนรัก แต่ค่าใช้จ่ายเด็กเล็กแพงมากและมันไม่กล้าฝากคนอื่นเลี้ยงเพราะเคยได้ยินข่าวTVว่าคนเลี้ยงใช้ความรุนแรงกับเด็ก วเรณย์ที่ยังเด็กกลัวไปหมดทุกอย่าง แม้แต่การอุ้มเด็กก็มือสั่นไปหมด กระนั้นก็พยายามเรียนรู้จากบรรดาแม่ๆละแวกบ้านที่พอจะถามได้ วเรณย์รู้ว่าเด็กแรกเกิดควรต้องกินนมแม่ ถึงแม้จะแพง วเรณย์ก็กัดฟันจ้างแม่ลูกอ่อนแถวบ้านให้ลูกตนได้กินนมจากอกสองมื้อต่อวันโดยตนนั่งเฝ้า ส่วนเวลาอื่นก็ให้เด็กกินน้ำข้าวประทังไป เรื่องลูกเป็นปัญหาหนัก แต่การจะหางานที่พาลูกเล็กไปด้วยได้กลับยากเย็นกว่า สุดท้ายด้วยค่าใช้จ่ายมากทั้งไม่อยากให้ลูกตากแดดคลุกฝุ่นลำบากไปกับตน ทั้งยังสามารถอุ้มเด็กไปทำงานได้ วเรณย์จบลงไปทำงานเป็นเด็กเดินยากับเพื่อนเก่าที่ได้เงินเยอะงานสบายแทน
17 ปีผ่านไป วเรณย์ขึ้นเป็นมือขวาของธราธิปนักธุรกิจใหญ่ เจ้าพ่ออสังหาของประเทศ แต่เบื้องหลังประกอบธุรกิจค้ายา ค้ามนุษย์ พนัน ติดสินบน และวเรณย์ที่เป็นมือขวา ก็เป็นผู้รับผิดชอบด้านมืดเหล่านี้ให้นายทั้งหมด วเรณย์มีลูกน้องในสังกัดมาก ได้ชื่อว่าเป็นมาเฟียอันดับหนึ่งในวงการ วันหนึ่งหลังจากพาลูกน้องจัดการแก็งค้ายาหน้าใหม่ที่มาเหยียบถิ่นอย่างโหดเหี้ยม วเรณย์เลือกที่จะไปล้างเลือดลวกๆที่ซ่องในสังกัดที่ใกล้ที่สุด นอนกับผู้หญิงที่มายั่ว ก่อนกลับบ้านให้ทันมื้อเช้ากับลูกสาว กมลชนก ลูกสาวมาเปิดประตูบ้านต้อนรับด้วยความดีใจ แต่วเรณย์เพียงทักทายเรียบ ๆด้วยความเหนื่อยและปัดมือไม่ยอมให้จับก่อนจะปลีกตัวไปอาบน้ำทันที กมลชนกไม่เข้าใจ เธอเสียใจมาก ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าพ่อจะแสดงออกว่าใส่ใจเธออยู่ตลอดแต่ก็ยังรู้สึกว่าพ่อยิ่งมายิ่งเคร่งขรึมเย็นชาและสูงส่งเกินเอื้อม เพราะทุกคนชื่นชมพ่อให้เธอฟังว่าเขาเก่งขนาดไหนอยู่ตลอด แม้ว่าเธอจะไม่รู้เกี่ยวกับงานของพ่อนักแต่คู่ค้าที่มีอิทธิพลเจอและลูกน้องพ่อก็เล่าให้ฟังในเรื่องกว้างๆที่พอบอกได้อย่างความสามารถของพ่อในการปิดสัญญาใหญ่ๆระดับหิน พ่อในTVที่เกี่ยวกับสัมปทานต่างๆ หรือการที่พ่อล้มคนเป็นสิบได้ด้วยตัวคนเดียว เธอรู้สึกว่าตนเองต้องเก่งมากขึ้นเพื่อที่จะคู่ควรเป็นลูกสาวของพ่อ กลายเป็นโรคImposter Syndrome โดยไม่รู้ตัว และยิ่งรู้สึกด้อยค่ามากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้า ผู้หญิงคนนั้น กมลชนกรู้ว่าพ่อมีผู้หญิงนอกบ้านแต่มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เข้ามาในบ้านได้และได้รับความสำคัญ นั่นคือ ชู้รักอันดับหนึ่ง ณัฐวดี เดิมผู้หญิงคนนี้เป็นเพื่อนสนิทที่เรียนรุ่นเดียวมากับกมลชนก แต่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบที่ทั้งคู่สานสัมพันธ์กัน ณัฐวดีไม่เพียงเป็นผู้หญิงสวย ยังฉลาด เธอสามารถสอบข้ามชั้นเรียนจนสอบติดมหาวิทยาลัยด้วยคะแนนอันดับหนึ่งของประเทศด้วยอายุน้อย และอีกปีก็จะจบปริญาอยู่แล้วทั้งที่กมลชนกพึ่งจะเข้าปี1 เธอเกลียดณัฐวดีแต่ที่มากกว่าคืออิจฉา กมลชนกจึงพยายามมากยิ่งขึ้นเพื่อจะไม่เป็นเด็กมีปัญหาและเก่งขึ้นในทุกด้านที่พ่อสนใจ จนปีนี้ เธอก็สามารถสอบได้เป็นอันดับหนึ่งของคณะเช่นกัน และจะมีแต่ตอนที่รายงานความสำเร็จเท่านั้นที่พ่อจะลูบหัวเธอ พูดมากขึ้น และยิ้มอย่างมีความสุขให้กับเธอคนเดียว ก่อนจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม เคร่งขรึมพูดน้อย กมลชนกจึงเสพติดความสำเร็จและต้องการความรักเป็นอย่างมาก แต่เบื้องหน้า เธอไม่กล้าบอกพ่อว่าไม่ชอบณัฐวดีเพราะรู้สึกว่าเป็นการยอมรับว่าตนเองแพ้ ดีที่ต่อหน้าเธอ พ่อปฏิบัติติต่อณัฐวดีอย่างเย็นชาเหมือนกันจึงยังพอทนร่วมชายคากันได้
ฝ่ายณัฐวดี แม้จะมีบอดิการ์ดไปรับส่งสองสาว เธอยังได้รับมอบหมายจากวเรณย์ให้คอยดูแลกมลชนกที่มหาวิทยาลัยและต้องคอยรายงานความเคลื่อนไหวกลับไปอยู่ตลอด หน้าที่นี้เป็นหน้าที่ที่เธอได้รับมอบหมายมาตั้งแต่วันที่เธอพบวเรณย์ครั้งแรกแลกกับเงินค่าขนมเล็กน้อย เพราะวเรณย์ห่วงลูกสาวมากว่าจะมีใครรังแก ยิ่งช่วงแรกที่เข้าโรงเรียนอนุบาลยังนั่งร้องไห้เฝ้าข้างห้องเรียนไม่ไปทำงานเพราะคิดถึง ณัฐวดีน้อยเห็นอยู่หลายวันจึงออกตัวรับมอบภารกิจตั้งแต่นั้นมา และตั้งแต่นั้นเช่นกันที่เธอตั้งเป้าจะเป็นเจ้าสาวของวเรณย์ และไม่เลือกวิธีเพื่อจะอ่อยวเรณย์ให้ได้ เธอไม่สนใจว่าใครจะว่าเธอเป็นเด็กเสี่ยใจแตก แม้แต่พ่อแม่ยังไล่เธอออกจากบ้านเพราะเข้าใจว่าเธอขายตัว และนั่นเข้าทางให้เธอมีข้ออ้างให้เธอย้ายเข้ามาในบ้านวเรณย์ที่แข็งนอกอ่อนใน
หากแต่วันหนึ่ง วเรณย์รู้สึกตัวขึ้นมาท่ามกลางกองซากรถ มองร่างตัวเองนอนจมกองเลือดตรงหน้า และตระหนักได้ว่า ตอนนี้ตนเป็นวิญญาณ มันจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างเดียวที่จำได้คือ ลูกสาว มันรู้ว่ากำลังจะมีคนร้ายไปตามล่ากมลชนก มองรอบตัวรู้ว่าอีกไม่ไกลจะถึงมหาวิทยาลัย วเรณย์รีบวิ่งไป และพยายามขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครได้ยินหรือมองเห็น จนไปเจอกับคนที่วเรณย์รู้จักดีคนหนึ่ง ธัชพล ลูกชายที่กำลังเรียนปี3ของ ธราธิป เจ้านายเจ้าพ่ออสังหาของตน และบังเอิญว่าสามารถสิงร่างได้ วเรณย์จึงใช้ร่างธัชพลไปช่วยลูกสาว
ธัชพล เจ้าชายแห่งภาคอสังหาของประเทศ ขึ้นชื่อเรื่องความขยะ มีดีแค่หล่อและรวย ทุกวันสร้างเรื่องเดือดร้อนตั้งแต่ซิ่งรถผิดกฎหมาย เมามีเรื่องชกต่อย(แพ้) อาละวาดในโรงพัก ใช้จ่ายเงินราวสายน้ำ จนแทบเป็นงานหลักที่วเรณย์ต้องคอยตามเก็บกวาดให้อยู่เสมอ และวันนี้ ก็มีข่าวหน้าหนึ่งเรื่องวิวาทของธัชพลอีกแล้ว เพียงแต่เป็นครั้งแรกที่ข่าวเขียนว่ามันชกต่อยชนะ สร้างความประหลาดใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก หลังจากช่วยลูกได้พวกคนร้ายที่ไม่รู้ใครหนีไป วิญญาณวเรณย์ถูกผลักออกมา กมลชนกที่ถูกธัชพลที่ตนมองว่าเป็นขยะช่วยไว้ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เกิด แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็ได้รับโทรศัพท์ว่าพ่อประสบอุบัติเหตุ กมลชนกรีบไปโรงพยาบาลโดยมีวิญญาณวเรณย์ตามไปด้วย และพบว่าร่างวเรณย์ยังไม่ตาย แต่นอนหมดสติอาการโคม่า และมีณัฐวดีนั่งร้องไห้ แปลกใจว่าทำไมณัฐวดีรู้เรื่องก่อนกมลชนก ทั้งหมดได้ความจากลูกน้องพ่อว่ามีคนลักพาตัววเรณย์ไป และดูเหมือนวเรณย์จะหนีออกมาได้แต่ประสบอุบัติเหตุ และเพราะมีคนร้ายตามไปเล่นงานกมลชนกด้วยจึงจะเพิ่มกำลังบอดิการ์ดอีกเท่าตัว วเรณย์ได้ฟังดังนั้น ก็ห่วงลูกสาวมากนึกถึงธัชพลขึ้นมาได้ จึงไปหาธัชพลที่หลังจากถูกสิงครั้งหนึ่งก็มองเห็นวิญญาณพ่อ วเรณย์ขอให้ธัชพลช่วย ตามตื้อทุกวิธี ทั้งรบกวน สร้างความรำคาญ โน้มน้าว อ้อนวอน ข่มขู่ ธัชพลที่เคยเห็นแต่ด้านดุดันร้ายกาจน่ากลัวของวเรณย์ตอนมาตามแก้ไขปัญหาวุ่นวายให้มันมาหลายปี ประหลาดใจมากที่อีกฝ่ายมีด้านแบบนี้ด้วยจึงกลั่นแกล้ง จนกระทั้งธัชพลเจอคู่อริ ถูกลากไปรุมกระทืบ จึงยอมให้วเรณย์สิ่งร่างเพื่อสู้กู้หน้าให้ตนแลกกับช่วยลูกสาว แต่แม้จะตกลงกันแล้ว2คนเหมือนน้ำกับไฟ ทะเลาะกันทุกเรื่อง
วเรณย์จำไม่ได้ว่าใครคือคนร้ายและมีจุดประสงค์อะไร สิ่งที่จำได้คือลูกสาวกำลังอยู่ในอันตราย จึงพาธัชพลไปห้องทำงานตนหาเบาะแส พบว่าห้องถูกค้น ในกองเอกสารที่กระจาย ธัชพลพบอัลบั้มรูปของกมลชนกวัยเด็ก ด้วยความเป็นคนคลั่งรักลูกสาวมาก วเรณย์จึงอดใจเล่าอธิบายเรื่องราวของรูปต่างๆไม่ได้ ทำให้ธัชพลรู้จักพ่อลูกคู่นี้มากขึ้นจนรู้สึกอิจฉาอยู่บ้าง ขณะเล่าด้วยความสุข วเรณย์เหลือบไปเห็นที่ปฏิทินว่าจะถึงวันเกิดกมลชนกแล้ว จึงขอให้ธัชพลช่วยไปซื้อของขวัญให้ลูก ก่อนออกจากห้องทำงานยังให้หยิบตุ๊กตาหมีที่ตนเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าว่าจะให้เป็นของขวัญวันเกิดติดมือมาด้วย บอกว่าลูกต้องได้ของขวัญจากพ่อและแม่ เท่ากับต้องมีสองชิ้น ดังนั้นขาดอีกชิ้นหนึ่ง ทั้งสองไปห้างกัน และอย่างทุลักทุเลทะเลาะกันที่สุดก็ได้ของขวัญเป็นสร้อยคอ แน่นอนว่าใช้เงินธัชพล ก่อนจะกลับมาที่โรงพยาบาล กมลชนกกำลังมีปากเสียงกับณัฐวดีเรื่องดูแลพ่อ ก่อนที่กมลชนกจะตัดสินใจกลับบ้านไปเอาเครื่องใช้ของพ่อและตน วเรณย์สังเกตว่าบอดิการ์ดมีท่าทางผิดปรกติจึงตามออกมาพบว่าเป็นคนร้าย จึงให้ธัชพลขับรถไล่ตาม ส่วนตนโดดขึ้นรถไปกับลูกสาว แล้วก็พบว่าคนร้ายคือลูกน้องคนสนิทของตนเอง ความจริงกมลชนกก็ไม่ใช่เด็กสาวสู้ไม่เป็น และไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกลักพาตัวเพราะงานของพ่อ เมื่อเห็นท่าไม่ดี เด็กสาวจึงก่อกวนคนที่ลักพาตัวจนรถพุ่งลงข้างทาง พอดีกับที่ธัชพลตามมาทันให้พ่อสิงร่าง ทั้งคู่ช่วยกันคว่ำพวกคนร้ายจนหมอบส่งตำรวจ หลังโทรไปถามอาการร่างพ่อจากณัฐวดีว่าไม่มีใครไปรบกวน ทั้งหมดกลับไปตั้งหลักที่บ้านและทำแผลเพราะไม่อยากเป็นข่าว ระหว่างนั้นกมลชนกถามว่าทำไมธัชพลถึงมาเกี่ยวข้องกับพ่อตนได้ ในสายตาเธอ ธัชพลเป็นตัวปัญหาที่ทำให้พ่อของเธอเหน็ดเหนื่อย และเป็นตัวตนที่ผลักดันให้เธอเป็นลูกสาวที่ดีแทนเพื่อเรียกร้องความสนใจจากพ่อ เพราะเห็นว่าหากทำเรื่องชั่วตนอาจจะเป็นเหมือนคนนี้ที่สนใจไม่ใช่พ่อตนเองแต่จะเป็นลูกน้องพ่อมาแก้ปัญหาแทน สุดท้ายถูกทิ้งมากกว่าเดิม วเรณย์ที่ไม่เคยยอมให้ไอ้หนุ่มหน้าไหนเข้าใกล้ลูกสาว พยายามเต็มที่ที่จะเป็นไม้กันหมาก่อกวน ธัชพลจึงได้โอกาสนินทาพ่อให้ลูกสาวฟังต่อหน้าเจ้าตัว และทำให้กมลชนกเปิดใจเล่าเรื่องพ่อในมุมของเธอออกมา ระหว่างนั้น วเรณย์สังเกตว่ามีคนมานอกบ้านจึงออกไปดู เป็นโอกาสให้สองหนุ่มสาวได้รู้จักกันมากขึ้น ธัชพลเดินสำรวจบ้าน พบว่าในตู้โชว์ในห้องของกมลชนกมีตุ๊กตาหมีเรียงอยู่เต็ม จึงนึกถึงของขวัญวันเกิดขึ้นมาได้ ว่าวันนี้เป็นวันเกิดพอดี จึงกลับไปที่รถเพื่อไปเอาของขวัญมาให้ กมลชนกดีใจมาก ธัชพลจึงเล่าเรื่องพ่อในอีกมุมที่กมลชนกไม่รู้ให้ฟัง ก่อเกิดเป็นความรู้สึกดีๆต่อกันระหว่างทั้งคู่ ฝ่ายพ่อ พบว่าคนหน้าสงสัยมาเฝ้านอกบ้านจริงๆ กลัวว่าบอดิการ์ดคนอื่นในบ้านก็จะเชื่อใจไม่ได้ จึงกลับมาบอกให้ธัชพลหาทางโน้มน้าวกมลชนกขอค้างที่บ้านให้ได้ เช้ามาธัชพลกับกมลชนก ถูกนายใหญ่ ธราธิป พ่อของธัชพลและหัวหน้าของวเรณย์ส่งคนมาเรียกตัวไปพบ ถามที่มาที่ไปว่าทำไมถึงมาหาเรื่องให้ตนเองอยู่ในอันตรายด้วยการไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของวเรณย์ แล้วก็ถามว่าทั้งคู่คบกันหรือเปล่า ก่อนที่เด็กทั้งคู่จะปฏิเสธเพื่อให้มีข้ออ้างไปไหนมาไหนด้วยกัน วเรณย์จึงบอกให้ธัชพลยอมรับว่าคบกันออกไป ธราธิปประหลาดใจมากเพราะลูกชายขยะของตนไม่น่าจะเข้าตาคนเด็กดีอย่างกมลชนกได้ จึงถามอีกหลายคำถามที่เป็นส่วนตัวว่าทั้งคู่โกหกหรือเปล่า วเรณย์จึงช่วยกระซิบคำตอบที่เกี่ยวกับลูกสาวข้างหูให้ธัชพลแม้จะไม่เต็มใจก็ตาม ต่อให้ยังมีสงสัย แต่ธราธิปก็ข้ามไปพูดถึงเรื่องที่อาจจะเป็นสาเหตุของเรื่องราวทั้งหมดนั่นคือ Pandora Box ในวงการใต้ตินกล่าวกันว่ามีคนรวบรวมหลักฐานการกระทำความผิดของนักการเมืองและนักธุรกิจมากกว่าร้อยคนในประเทศตลอดระยะหลายปีที่ผ่านมาไว้ในไฟล์ที่ชื่อว่า Pandora Box ซึ่งจะถูกนำขึ้นประมูลใต้ดินในอีก1เดือน และวเรณย์เป็นคนเดียวที่ได้ตกลงเป็นตัวกลางติดต่อระหว่างเจ้าของPandoraกับทางฝ่ายประมูล คนที่ต้องการจะชิง Pandora จึงเป็นไปได้ว่าจะพยายามเค้นว่าเจ้าของเป็นใครเพื่อตามไปชิงก่อนที่จะถูกประมูล ซึ่งแม้แต่ธราธิปที่เป็นเจ้านายวเรณย์ก็ยังไม่ยอมบอก หันไปถามกมลชนกก็ส่ายหน้าไม่รู้เรื่องเช่นกัน แต่ยังไงเจ้าของPandora ต้องติดต่อมาก่อนประมูลแน่ ถึงจะไม่รู้ว่าด้วยวิธีการใด วเรณย์จำเรื่องเกี่ยวกับ Pandora ได้อย่างลางเลือน จึงให้ธัชพลอาสาทำงานแทนในตำแหน่งมือขวาของตนในระหว่างหนึ่งเดือนนี้เพราะยังไงใน Pandora เป็นไปได้ว่าจะมีข้อมูลของธราธิปด้วย และวเรณย์ก็สงสัยว่าเบื้องหลังทั้งหมดนี้จะเป็นธราธิปเสียเอง เพราะต่อให้ตนเป็นตัวกลางกับฝ่ายประมูล ข้อมูลชื่อก็ยังเป็นความลับอยู่ดีนอกจากคนใกล้ตัวเป็นหนอน กมลชนกได้ยินก็ขออาสาทำงานเป็นผู้ช่วยด้วยเพราะอยากรู้ว่างานของพ่อเป็นอย่างไร และต้องการหาว่าใครกันแน่ที่ทำร้ายพ่อใครห้ามก็ไม่ฟัง สุดท้ายด้วยความเป็นห่วงลูกจะไกลตาและต้องช่วยเป็นที่โค้ชให้ธัชพลทำงาน วเรณย์จึงได้แต่ยอมให้ไปด้วยกันทั้งหมด แม้ว่าจะไม่อยากให้ลูกสาวเข้ามาเจอเรื่องเลวๆที่พ่อทำก็ตาม ดังนั้นตลอด1เดือน ต่อมา เด็กทั้งสองจึงเข้ามาในโลกอีกใบที่ไม่เคยต้องพบเจอมาก่อน ตรวจควบคุมซ่อง ได้รับบททดสอบที่หญิงขายบริการมาร้องไห้ขอให้ปล่อยตัวไป กำจัดศัตรูที่มาขายยาล้ำเขต เข้าเจรจาเรื่องสัมปทานในช่องว่างทางกฎหมายและการเสนอตังทอน การอุ้มลูกหนี้ที่เบี้ยวหนี้มาเจรจาอย่างสนิดสนม โดยมีวเรณย์คอยสอนอย่างใกล้ชิดด้วยความกระอักกระอวน ทั้งหมดแม้จะสนุกตื่นเต้นแต่ เด็กทั้งคู่ตัดสินใจว่าหลังจากนี้จะยุบธุรกิจมืดเหล่านี้ไม่ทำอีกถ้าถึงคราวตนได้สืบทอดกิจการ และผิดจากที่คาดแม้ว่ากมลชนกจะสะเทือนใจกับงานของพ่อ แต่ในที่สุดยอมรับว่าตนไม่มีสิทธิวิจารย์
ที่โรงพยาบาลนอกจากกมลชนกที่มานอนเฝ้าร่างวเรณย์ทุกวันหลังเลิกงาน มีเพียงณัฐวดีคนเดียวที่อยู่เฝ้าตลอดไม่ห่างไปไหน ยิ่งเวลาผ่านไปใบหน้าที่เคยงดงามทรุดโทรมลงจนน่าตกใจ แม้แต่กมลชนกยังเกลียดไม่ลงเหมือนเคย มากกว่าครึ่งเดือน ในที่สุดณัฐวดีไม่นั่งเหม่อข้างเตียงคนไข้อีกต่อไป โดยที่บอดิการ์ดไม่ระวัง หญิงสาวแอบหนีไปที่บ้านวเรณย์ มัดแม่บ้าน ก่อนจะเก็บเงินสด เอกสารสำคัญทั้งของวเรณย์ ตนเอง และกมลชนกรวมถึงปืนในช่องลับทั้งหมดใส่กระเป๋าเดินทาง สุดท้ายเปิดตู้ของสะสมของกมลชนก เอามีดกรีดท้องตุ๊กตาหมีของขวัญวันเกิดจากพ่อทุกตัวเอาUSBออกมาจนครบ แล้วโทรหากมลชนกว่ามีเรื่องสำคัญเกี่ยวกับ Pandora จะบอกให้ไปรอในที่กำหนด ก่อนจะขับไปโรงพยาบาล หลอกล่อบอดิการ์ด ขโมยตัวร่างวเรณย์ที่ไม่ได้สติขึ้นรถ จากนั้นมารับกมลชนกขึ้นรถในที่ตกลงกันไว้ แต่ไม่ให้ธัชพลที่มาด้วยขึ้นรถ วิญญาณวเรณย์รีบตามขึ้นรถไปกับลูกทันที ธัชพลจึงได้แต่เร่งขับตามแล้วก็พบว่านอกจากตนเอง มีรถคันอื่นขับตามมาเช่นกัน ทั้งหมดไล่ตามกันมาแบบนี้
กมลชนกถามว่าเกิดอะไรขึ้น ณัฐวดีจึงเฉลยว่า ความจริงแล้ว Pandora Box เป็นความพยายามรวบรวมข้อมูลของวเรณย์ตลอดหลายปี เพื่อที่จะขายข้อมูลเอาเงินหนีไปต่างประเทศเริ่มต้นชีวิตใหม่ หลุดพ้นจากอาชีพนี้ วเรณย์ไม่ต้องการให้ลูกสาวต้องมาอยู่ในอันตรายแบบนี้กับตนไปตลอดชีวิต กมลชนกเสียใจที่เรื่องสำคัญแบบนี้ณัฐวดีถึงรู้แต่ไม่ใช่ลูกสาว ณัฐวดีจึงบอกว่ามันอันตรายที่กมลชนกจะรู้ และคนร้ายก็คงคิดว่าลูกสาวสุดที่รักน่าจะรู้มากกว่าชู้รักที่ถูกเย็นชาใส่ เมื่อคนฟังยังเศร้าจึงเล่าเพิ่มว่าวเรณย์อยากจะเป็นพ่อที่ดูดีที่สุดในสายตาลูกสาว อีกอย่างกมลชนกบอกเองตอนเด็กว่าอยากได้พ่อหล่อเท่เคร่งขรึมเย็นชาเหมือนในหนังเองนี่นา ที่สำคัญวเรณย์ไม่ต้องการให้ลูกน้องดูถูกเพราะเรียนไม่จบ ม2 วันไหนว่างจึงมาแอบเรียนหนังสือข้างหน้าต่างที่โรงเรียนตอนที่มาแอบดูลูกตอนเด็ก ณัฐวดีเจอเลยโดดเรียนมานั่งเรียนชั้นที่โตกว่าเพราะอยากอยู่ใกล้คนหล่อ ไปๆมาๆกลายเป็นคู่เรียนหนังสือด้วยกันอย่างลับๆตั้งแต่นั้น ไม่งั้นวเรณย์ที่ความรู้น้อยจะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในวงการได้ยังไงถ้าใช้แต่สมองกลวงๆกับกำปั้น ณัฐวดีที่เคยหลงรักแค่หน้าตาวเรณย์ตอนเด็กจึงรักกว่าเดิมเพราะความทุ่มเทพยายามเพื่อความก้าวหน้าของวเรณย์นั้นน่าหลงใหลมากกว่า น่าเศร้าที่อ่อยหนักขนาดนี้ก็ไม่เคยล่วงเกินเธอเลยสักครั้ง ตั้งแต่นั้น วเรณย์เป็นแรงบัลดาลใจให้เธอเรียนจนเป็นหนึ่งระดับประเทศเพื่อจะสามารถตอบทุกคำถามที่วเรณย์แก้ไม่ได้ และวันนี้เธอจะทำให้ความฝันของวเรณย์เป็นจริง กมลชนกมองชู้รักของพ่อที่เธอเคยเกลียดและอิจฉามาตลอดราวกับไม่เคยเห็นมาก่อน ผิดกับที่วิญญาณวเรณย์ที่ฟังอยู่มองด้วยความหวาดกลัว ณัฐวดีขับรถด้วยความเร็วและไปตามทางอย่างช่ำชองราวกับวางแผนไว้ จนในที่สุดสามารถสลัดรถที่ตามมาได้ หากขณะที่กำลังจะวางใจ ก็มีรถขับออกมาชนจากทางขวาเต็มแรง ณัฐวดีบาดเจ็บหนัก กมลชนกบาดเจ็บเล็กน้อย แต่แรงกระแทกทำให้วิญญาณวเรณย์กลับเข้าร่าง คนร้ายลงจากรถเข้ามาจะมาจับทั้งสาม หลังจากอดทนกับอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากการนอนนานๆได้ วเรณย์ก็สู้กลับคนร้าย แม้จะสามารถเก็บได้หมด แต่คนร้ายกำลังแห่กันมาอีก วเรณย์จึงได้แต่ฝากณัฐวดีที่เจ็บหนักกับคนแถวนั้นพร้อมเงินปึกใหญ่เป็นค่ารักษา ขู่ว่าถ้าคนเป็นอะไรไปจะมาตามเก็บถึงบ้าน วเรณย์มองหญิงสาวที่ทำเพื่อมันมาตลอดชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนตัดใจหิ้วกระเป๋ากับปืนพาลูกสาวขับรถคนร้ายหนีไป
กว่าอาทิตย์ทั้งสองไร้ร่องรอย ในที่สุดธัชพลได้รับโทรศัพท์ไม่แสดงเบอร์ เป็นวเรณย์ ธัชพลถามถึงกมลชนกแต่ถูกตัดบท วเรณย์ขอให้เป็นตัวกลางขาย Pandora Box ธัชพลจึงเสนอว่า ถ้าไม่มีข้อมูลของบ้านตนเองจะช่วย หรือไม่ก็ขอซื้อข้อมูลของบ้านตัวเองไม่ให้คนนอกซื้อ วเรณย์เห็นแก่ที่อีกฝ่ายเคยช่วยเหลือ ซึ่งแต่แรกก็รู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายต้องขอแบบนี้ไม่งั้นคงให้คนอื่นเป็นแทนไปแล้ว จึงตกลงโดยมีข้อแม้ว่าต้องทำให้ธราธิปหยุดล่าตนก่อน จึงจะไม่ให้มีข้อมูลธราธิปในการประมูล แต่ไม่ขายให้ ธัชพลประหลากใจว่าวเรณย์รู้ได้อย่างไรว่าเป็นฝีมือพ่อตนเองเบื้องหลัง วเรณย์ไม่บอก แต่ขู่ว่าถ้าธราธิปไม่หยุดจะส่งข้อมูลให้ศัตรูทุกคนของมัน ธัชพลได้แต่ตกลง ก่อนวางสายวเรณย์ทิ้งท้ายว่า ถ้าธัชพลกล้านอกใจลูกสาวล่ะก็ ข้อมูลพวกนี้ก็จะ(บังเอิญ)รั่วไหลเหมือนกัน และบอกให้ธัชพลเร่งทำงานเร่งตามมาสมทบอย่างไม่เต็มใจ เพราะกมลชนกที่อยู่ข้างๆส่งสายตาอ่อนพ่ออย่างหนัก
การประมูลราบรื่น ขั้วอำนาจใหม่ในประเทศเกิดขึ้น เงินโอนเข้าบัญชีสวิสของวเรณย์เต็มจำนวนบวกเงินทำขวัญที่ธัชพลให้พ่อเติมเข้าไปให้ด้วย โดยกล่อมธราธิปว่า ตนเป็นคนรักกมลชนก วเรณย์ที่รักลูกสาวมากไม่มีทางทำร้ายบ้านฝั่งลูกเขยแน่(ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด) ธราธิปเลยถามว่าจะให้เตรียมจัดงานแต่งพรุ่งนี้เลยดีหรือเปล่า
ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ณัฐวดี ที่ถูกบอดิการ์ดหลายคนเฝ้าทั้งกลางวันกลางคืนถูกลักพาตัวโดยคนชุดดำอีกกลุ่ม หญิงสาวถูกถุงดำครอบหัวตลอดทางหลายชั่วโมงสุดท้ายรู้สึกว่าตนขึ้นมาบนเรือกลางทะเลลำหนึ่ง คำพูดรอบด้านเต็มไปด้วยคำขู่ฆ่าที่เจ็บปวดที่สุดถ้าเธอไม่บอกว่าวเรณย์อยู่ที่ไหน หญิงสาวพยายามข่มความกลัวไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรแม้แต่คำเดียว พร้อมน้ำตานองหน้ายอมรับความตายด้วยความเศร้านึกถึงวเรณย์สุดใจ เห็นคนยังไงก็ไม่ยอมจำนน คนร้ายในที่สุดเอาถุงดำที่ครอบหัวหญิงสาวออก
และเบื้องหน้านั้น .... ท่ามกลางแสงแดดจ้าฟ้าครามที่สดใสที่สุด
วเรณย์ ที่คิดถึงมาตลอดอยู่ตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มล้อเลียน...หล่อบาดใจเหมือนกับครั้งแรกที่เธอเคยตกหลุมรักเมื่อตอนเด็ก
“ยัยขี้แย พอดีมีตั๋วเครื่องบินเหลือ สนใจหนีตามพ่อไหม”
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ broskev ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ broskev
ความคิดเห็น