Sexy Boy รีเทิร์นรักให้หัวใจนั้นคือเธอ - นิยาย Sexy Boy รีเทิร์นรักให้หัวใจนั้นคือเธอ : Dek-D.com - Writer
×

    Sexy Boy รีเทิร์นรักให้หัวใจนั้นคือเธอ

    เอแคลร์ ดาร์กเนส ตอนเด็กถูกผู้ใหญ่จับให้หมั้นแต่พวกเธอไม่ต้องการเมื่อจบพิธีพวกเธอก็ไม่ได้เจออกันเลยจนเวลาผ่านมา4ปี ชั้นม.ปลายปีสุดท้ายที่พวกเธอได้กลับมาคุยกันแล้วเรื่องวุ่นๆก็เกิดขึ้นพร้อมกับความรัก

    ผู้เข้าชมรวม

    116

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    116

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  20 ก.ค. 57 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทนำ

               “อะไรของแก ยัยนัทฉันกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด

               (นี่ยัยเอแคลร์สรุปพรุ่งนี้แกจะมา  Night Club  กับฉัน ซูเฟล่ แล้วก็วอฟเฟิลป่ะเนี่ย  แต่แกสัญญากับพวกฉัน3 คนไว้แล้วนี่นะแกห้ามเลี่ยง) เออแฮะ ฉันลืมไปแล้วนะเนี่ยว่า สัญญากับโดนัท ซูเฟล่ วอฟเฟิล ไว้แล้วว่าพรุ่งนี้จะไป  Night Club  ด้วยกัน  แต่พรุ่งนี้ฉันจะไปได้หรือป่าวก็ไม่รู้ ฉันจะบอกโดนัทยังไงดีเนี่ย ลองบอกเลื่อนดีกว่า

               “เฮ้ย!!! นัทเลื่อนได้ไหมอ่ะ ฉันถามเสียงเรียบ ฉันไม่พูดอะไร เพราะเงียบรอคำตอบจากโดนัท  แต่พอได้คำตอบแล้วฉันอยากจะบ้าตาย  TOT

               (โทษนะ เอแคลร์ เลื่อนไม่ได้หรอก  เออ เอแคลร์ ได้ข่าวว่าพี่ตาลจะไปเรียนต่อต่างประเทศเหรอ) ยัยนัทถามมาต้องตอบใช่ป่ะ(มันก็แน่สิ)

               “อื้อ  ฉันตอบกลับเสียงห้วน

               (แล้วไปวันไหนละ ฉันจะได้ไปส่งพี่ตาลขึ้นเครื่องด้วย)  นัทตอบกลับมาเสียงแจ๋ว

               “ไปวันศุกร์นี้  ขึ้นเครื่องเวลา  17.30 . ”  ฉันบอกแบบขอไปที ฉันไม่ไหวแล้วฉันง่วงนอนอ่า  เฮ้ย!!! ฉันจะไปนอนแล้ว วางได้ยังยัยนัทฉันถามไปเสียงห้วน

               (พรุ่งนี้แกต้องมานะเว้ย)

              “ โอ๊ย ไปคุยกันที่โรงเรียนก็ได้  แกจะเอะอะโวยวายทำไม ไม่เข้าใจ - - ”

               (เออๆ ก็ได้ บายเพื่อนแล้วเจอกัน)

               “เจอกันฉันกดตัดสายทิ้งแล้วล้มตัวนอนบนเตียงพลางยกมือซ้ายขึ้นและมองไปที่แหวนตรงนิ้วนางของตัวเอง ฉันถูกจับหมั้นกับดาร์กเนสตอนอายุ 14  ปี แต่ฉันกับดาร์กเนสไม่ได้อยากหมั้นกันแต่ผู้ใหญ่เขาเห็นว่าฉันกับเขาเหมาะสมกันเลยทำเรื่องหมั้นขึ้น พอจบพิธีฉันกับเขาก็ไปกันคนละทางตามที่ตกลงกันไว้  ป๊ากับม๊าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันกับเขาไม่ได้คุยกันตั้งแต่จบพิธีหมั้นนั้น ป๊า ม๊า ทำงานอยู่ต่างประเทศ ส่วนพี่บราวนี่ พี่ชายคนโตก็ไปเรียนอยู่ต่างประเทศ ได้สัก 3-4 ปีแล้ว(มั้ง) และแน่นอนว่าพี่สาวคนรองก็กำลังจะไปเรียนที่ต่างประเทศเหมือนกันกำหนดไปวันศุกร์นี้ เฮ้อฉันล่ะเซ็งจริงๆ ฉันพูดพลางหันไปมองนาฬิกาว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว O.O แล้วก็ต้องตกใจเมื่อมองว่าเป็นเวลา 23.33 . ตายแน่เดี๋ยวไปโรงเรียนหลังเพื่อนอีก นอนดีกว่า

                 เช้าวันต่อมา

                ฉันตื่นทำอะไรให้เสร็จเรียบร้อย และรีบออกจากบ้านเพื่อมาโรงเรียนอย่างเร็ว นี่เป็นปีสุดท้ายที่ฉันจะใช้ชีวิตอยู่ในรั้วของโรงเรียน ปีหน้าฉันก็จะเข้ามหาลัยและใช้ชีวิตอยู่ในรั้วมหาลัย ฉันคิดอะไรมาเรื่อยตามทางจนมาถึงหน้าโรงเรียนแล้วก็รีบแจ้นขึ้นมาบนห้องเรียนโดยเร็ว  แต่ตอนขึ้นไปหยุดอยู่หน้าห้องเท่านั้นแหละ ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นร่างผู้ชายที่ทำผมซอยสไลด์สีน้ำตาลอ่อน ดวงตาคมกริบสีตาออกเป็นสีเทา ริมฝีปากบางเฉียบสีอมชมพูน่าสัมผัส จมูกโด่งได้สันสวย โครงหน้าคมสวยอย่างกับผู้หญิง เพอร์เฟคมากจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ดาร์กเนสแน่นอนว่าเป็นคู่หมั้นของฉัน(เมื่อ 4 ปีก่อนเนี่ยนะ - - ) ฉันคิดอะไรไปเรื่อยแต่ก็ต้องหยุดความคิดทุกอย่างเมื่อคนในห้องเอ่ยปากเรียก

               “เธอ จะยืนอยู่หน้าห้องอีกนานปะดาร์กเนสถาม ฉันยังไม่ตอบแต่ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง ตอนนี้ก็เวลา  06.35. ฉันมองเวลาเสร็จก็เงยหน้าไปมองคนในห้อง แต่ก็ต้องหลบสายตาทันทีเมื่อคนที่อยู่ในห้องจ้องมองฉันอยู่ก่อนแล้ว  ฉันหลบสายตาแล้วตอบกลับเขาไป

               “ก็แล้วนายจะทำไม”ฉันถามไปเสียงเรียบ

               “ก็ป่าวนี่ แค่มันขวางหู ขวางตา” นายนั่นก็ตอบมาเสียงเรียบ แต่มันทำให้ฉันไม่พอใจ

               “นายว่าไงนะ!!!” ฉันพูดเสียงดัง

               “เธอจะตะโกนทำไมเนี่ย จะเข้ามาในห้องได้รึยัง” นายนั่นตอบฉันด้วยคำถาม ฉันไม่คิดที่จะเถียงอะไรอีก ก็เลยจำใจยอมเดินเข้ามานั่งที่นั่งของตัวเองในห้อง เมื่อเข้ามาในห้องฉันก็เอาการบ้านที่ยังไม่ได้ทำต่อจากเมื่อคืนขึ้นมานั่งทำ แต่ก็นั่งทำไปได้แปปเดียวแหละ ฉันรู้สึกเหมือนมีคนจ้องหน้าฉันอยู่ ฉันก็เลยผละออกจากหนังสือแล้วเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ แต่พอเงยหน้าขึ้นก็ต้องชะงักดาร์กเนสจ้องหน้าของฉันอยู่ แต่เขาจ้องหน้าฉันทำไมนะ???

               “เธอสบายดีนะเอแคลร์

               “ O.O ”

               “ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะดาร์กเนสถามฉัน

               “อะเอ่อ ป่าวหรอกก็แค่…”

               “ก็แค่อะไร!!”เขาพูดเสียงดุ แต่ทำไมเขาต้องดุฉันด้วย เอแคลร์งงค่ะ งงค่ะงง งงค่ะงง งงค่ะงงค่ะงงค่ะงง (เธองงเป็นจังหวะสามช่าเป็นด้วยเหรอเนี่ย เจ๋งอ่ะ ><

               “นายจำฉันได้ด้วยเหรอไง”  ฉันพูดกับเขาเสียงเรียบ แอบเหลือบมองคนตรงหน้าฉันอยากรู้จังว่าทำไมเขาจำฉันได้ ฉันเปลี่ยนไปตั้งเยอะนะ ทำไมเขาจำได้ แต่ก็ดีเหมือนกันฉันจะได้ป่วนเขา ฮ่าๆ

                “ขำอะไรของเธอ ประสาท อ่อแล้วที่เธอบอกว่าทำไมฉันจำเธอได้เหรอ

               “อื้อ ทำไมล่ะฉันถามด้วยความสงสัย

               “ก็เธอหน่ะ…” เอ๋แล้วทำไมเขาถึงเงียบไปล่ะเนี่ย ฉันที่เห็นว่าเขาเงียบเลยเงยหน้ามองเขาอีก กรี๊ด!!! ทำไมถึงได้ซวยขนาดนี้นะ ฉันเงยหน้าไปแปปเดียวเท่านั้นล่ะก็รู้สึกถึงลมหายใจของคนตรงหน้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เพียงเวลาแปปเดียวริมฝีปากของเขาก็ประทับลงมาบนริมฝีปากของฉัน เฮ้!!! เขาจูบฉันทำไมเนี่ย ฉันพยายามปฏิเสธเขา ผลักอกเขาให้ออกห่างแต่คนตรงหน้าไม่ยอมเขาใช้มือข้างหนึ่งของเขามารวบมือทั้ง 2 ข้างของฉันไว้ในมือเดียว ส่วนอีกมือหนึ่งของเขาก็ลูบไล้ไปตามตัวของฉัน หึ เล่นกับฉันอย่างนี้เหรอดาร์กเนส แล้วนายจะรู้ว่าฉันร้ายแค่ไหนเขาถอนจูบออก เขาปล่อยมือที่จับมือของฉันอยู่ให้เป็นอิสระ ดาร์กเนสทำท่าจะเดินออกไปจากห้องแต่ฉันก็ลุกขึ้นไปคว้ามือเขาแล้วยกมือขึ้นไปไว้ตรงท้ายทอย ฉันกดหัวของเขาลงมาเล็กน้อย และเขย่งปายเท้าขึ้นจากนั้นก็ประกบริมฝีปากสีกุหลาบน่าสัมผัสของฉัน ลงไปบนริมฝีปากสีอมชมพูของคนตรงหน้า คนตรงหน้าชะงักไปเล็กน้อยจากนั้นก็จูบตอบฉันมาเขาเร่งระดับความจูบจากอ่อนโยนไปเป็นเร่าร้อนและกับมาเป็นอ่อนโยนอีกครั้ง สลับกันอยู่อย่างนี้ ฉันกับเขาจูบกันเนิ่นนานและฉันเองที่รู้สึกเหมือนจะยืนไม่อยู่ ฉันเลยเอามือของตัวเองไปขยุ้มไว้ที่ไหล่ของเขาเพื่อเป็นที่ยึดหลักของฉัน เขาที่เห็นว่าฉันเริ่มยืนไม่ไหวเขาก็เอามือมาโอบรอบเอวของฉันให้เข้าไปใกล้ร่างกายของเขามากขึ้น เขาจูบฉันอีกสักพักแล้วก็ถอนจูบออกและก็ปล่อยฉันเป็นอิสระอีกครั้ง ฉันเงยหน้ามองคนตรงหน้า เขาไม่ได้พูดอะไรเขาแค่ดึงฉันเข้าไปกอดเบาๆแล้วกระซิบที่ข้างหูของฉันแต่ มันทำให้ฉันยิ้มได้เลยล่ะสิ่งที่เขาพูดหน่ะ J

               “เธอมันร้ายมากนะเอแคลร์ ฉันตกใจมากเลยล่ะJ

               “หึ เพิ่งรู้เหรอว่าฉันร้าย นายก็เหมือนกันแหละร้ายสมชื่อเพลย์บอยจริงๆนะดาร์กเนส J

               “ว้าว เธอรู้ว่าฉันเป็นเพลย์บอยด้วยเหรอเนี่ย น่าดีใจจริงๆนะ ^^

               “เหอะๆ ก็ไม่ได้อยากรู้นักหรอกนะ”  ฉันพูด และก้มหน้าดูนาฬิกาของตัวเอง 07.17 . เร็วแท้ล่ะ การบ้านยังไม่เสร็จเลยนะ ฉันไม่สนใจดาร์กเนสอีก แล้วเดินกลับมานั่งที่โต๊ะของตัวเองแล้วก้มหน้าทำการบ้านต่อ ว้า เซ็งอ่ะ ยังแกล้งเขาไม่พอใจเลยแต่ชั่งเถอะเรายังอยู่ห้องเดียวกันอีกนานฉันจะแกล้งเขาเมื่อไหร่ก็ได้ ^o^ แต่วันนี้แกล้งพอแค่นี้แล้วกันนะ ฉันนั่งทำการบ้านต่อไปเรื่อยๆและไม่ได้หันไปมองคนที่นั่งข้างๆ อีกเลยสักนิด ฉันนั่งทำการบ้านจนเสร็จหันไปมองคนที่นั่งอยู่โต๊ะตรงกันข้าม อ้าว!!! เขาหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่นะสีหน้าของเขาดูอ่อนเพลียจังเมื่อคืนนอนดึกหรือไงนะ ฉันเดินเข้าไปดูเขาใกล้ๆแล้วก็ต้องตกใจเมื่อคนที่หลับอยู่ลืมตาขึ้นมาดู

               “เฮ้ย!!!”

               “ตกใจอะไรของเธอ แล้วเมื่อกี้เธอจะทำอะไรฉัน - -”

               “ป่าวสักหน่อย ฉันไม่ได้จะทำอะไรนายสักหน่อย

               “อาจารย์มาแล้วปลุกด้วยนะ ฉันเมื่อย

               “อื้อฉันตอบเขากลับไปเสียงเรียบ คนตรงหน้าแค่พยักหน้าแล้วก็ฟุบหน้าลงกับโต๊ะแล้วหลับต่อ เพื่อนๆเริ่มทยอยกันเข้ามาในห้องเรียนแล้วแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ฉันสนใจแต่คนตรงหน้าที่หลับตาพริ้มอย่างสบายอยู่แล้วมองดูเขา ขนตายาวจังสวยเหมือนผู้หญิงเลย ใบหน้าของเขานี่ได้คุณน้ามาหมดเลยหรือไงใบบหน้าจะสวยไปถึงไหนนะ ฉันที่นั่งจ้องหน้าคนที่กำลังหลับอยู่รู้สึกเหมือนมีใครเอามือมาจับไหล่เลยอ่ะ ฉันหันไปตีมือนั้นอย่างจังคนที่ถูกตีร้องโอดโอยด้วยความเจ็บ

    เพี๊ยะ!!!

               “โอ๊ยๆ ตีฉันทำไมเนี่ยหะ

               “อ้าวแกเองเหรอโดนัท โทษทีว่ะไม่นึกว่าจะมาเงียบๆ (' ') ”

               “เงียบบ้านแกเหรอเอแคลร์ ฉันเรียกแกอยู่นานล่ะ

               “จริงเหรอว่ะ ฉันไม่ได้ยินว่ะ

               “แกนั่งเหม่ออะไรอยู่ว่ะ

               “ฉันเหม่อเหรอ -0-  ”

               “เออดิ นั่งเหม่อไรอยู่ว่ะ โดนัทพูด

               “เออ เหม่อไรอยู่ เรียกตั้งนานแล้วแกก็ไม่ตอบพวกฉันสักทีซูเฟล่พูดเสริม

               “มิสมาสอนแล้วไปนั่งทีเถอะวอฟเฟิลที่เงียบมานานเปิดปากพูดทันทีที่ได้เวลาเข้าสอนของมิสโคดี้ แล้วก็เดินกลับไปนั่งข้างแดร็กคลูร่า ทั้งโดนัทและซูเฟล่ก็เดินกลับไปนั่งที่เหมือนกัน ส่วนฉันเมื่อเห็นมิสโคดี้เปิดประตูห้องเข้ามาก็เลยหันไปปลุกดาร์กเนสทีนั่งหลับ ฉันเอื้อมมือไปเขย่าแขนของเขาแต่เขาก็ไม่ยอมตื่นฉันก็เลยเรียกชื่อเขา

               “ดาร์กเนส

    เงียบ

               “ดาร์กเนสนี่ตื่นสิมิสมาแล้วนะ!!!” ฉันพูดพร้อมกับเขย่าแขนเขาไปด้วย แล้วคนที่ปลุกอยากปลุกเย็นก็ลืมตาขึ้นมามองหน้าฉันอย่างสงสัยว่า อาจารย์มาแล้วเหรอฉันลยพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้เขารู้ว่าใช่ เขาก็ลุกขึ้นมานั่งเรียนตามปกติของเขา ฉันก็เลยหันมาสนใจที่มิสโคดี้สอน พรุ่งนี้พี่ตาลก็ไปต่างประเทศแล้วสิ ฉันก็อยู่บ้านคนเดียวสบายจังเลย ^^ มิสโคดี้สอนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ มันเป็นวิชาที่ฉันไม่ชอบและไม่ถนัดที่สุดเลย ฉันแอบหันไปมองคนข้างๆ เขาดูจะสนใจกับวิชานี้มากต่างกับฉันที่ไม่สนใจเลยสักนิดเดียว เฮ้อ!  ฉันที่นั่งมองเขาก็ต้องชะงักไป เมื่อเขาพูดเบาๆเพื่อให้เราได้ยินกันแค่ 2 คน

               “มองหน้าฉันทำไมเขาพูดกับฉันทั้งๆที่ตาของเขายังจ้องมองกระดานอยู่เลย

               “ใครมองนายกัน อย่ามามั่วนะฉันพูดเสียงเรียบแต่เขาตอบฉันมาอย่างกวนประสาท

               “เหรอ ฉันเชื่อเธอได้เรอะเขาตอบกลับมาเสียงเรียบอีกเหมือนเคย แล้วเราก็เถียงกันไป เถียงกันมาจนโดนมิสโคดี้ว่าแล้วก็พลอยโดนลงโทษกันไปทั้งสองเลย ฉันไม่น่าคุยกลับนายเลย อีตาบ้าดาร์กเนส ฮึ่ย!!! 

              “พวกเธอคุยอะไรกันคะ ดาร์กเนส เอแคลร์ ฉันขอลงโทษพวกเธอที่ไม่ตั้งใจฟังในสิ่งที่ฉันสอน ออกไปยืนนอกห้องจนกว่าจะหมดคาบเรียนมิสโคดี้พูดเพราะอ่ะอร๊ายย!!! แต่ก็แค่พูดประชดแหละ ใครๆก็รู้ว่าถ้ามิสแกโกรธจะเป็นยังไง เหอะ - -* 

               “อะไรนะคะ!!! / อะไรนะครับ!!!” ฉันกับเขาตอบพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

               “ฉันบอกให้เธอ 2 คนออกไปยืนนอกห้องจนกว่าจะหมดคาบเรียนเข้าใจไหม!!!”

               “ค่ะ / ครับ ทั้งฉันและเขาก็ออกมายืนหน้าห้องโดยไม่เต็มใจ ตามบทลงโทษของมิสโคดี้ เฮ้อๆๆๆ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น