ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fiction] Nu'est :- Caffeine (Minhyun x Jr)

    ลำดับตอนที่ #6 : :: Caffeine - chp.06 ::

    • อัปเดตล่าสุด 6 มี.ค. 56






    Caffeine chapter 6
    13-03-06




                    “อารอนฮยองฮะ เมล็ดกาแฟหมดแล้วเหรอ” มินฮยอนถามขึ้นหลังจากหันไปหาของที่ต้องการในตู้อยู่นาน ตอนนี้เมล็ดกาแฟที่มีอยู่ก็พอจะทำกาแฟได้ไม่ถึงห้าสิบแก้วซึ่งคงไม่พอแน่ๆกับลูกค้ากลุ่มใหญ่ที่จะเข้ามาในช่วงเย็น

     

                    “อืม จริงๆโทรสั่งไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่ยังไม่มาส่งซะที” เจ้าของร้านตอบเสียงเครียด สงสัยว่าเขาคงต้องเปลี่ยนร้านสั่งเมล็ดกาแฟซะแล้ว หลายครั้งที่ร้านนี้มาส่งของไม่ตรงเวลาจนต้องเสียโอกาสในการขายไปบ่อยๆ พูดแล้วก็เหนื่อยใจ กับคนที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้ทำธุรกิจด้วยกันลำบาก

     

                    “อีกแล้วเหรอ งั้นเดี๋ยวผมออกไปซื้อสำรองไว้ก่อนดีกว่า” ร่างสูงพูดหน่ายๆก่อนจะถอดผ้ากันเปื้อนออก ตอนนี้ในร้านไม่มีลูกจ้างคนอื่นอยู่เลย ซึงชอลที่เป็นบาริสต้าอีกคนก็เพิ่งออกไปส่งกาแฟในบริษัทข้างๆเมื่อสักครู่ จะให้เร็นที่อยู่หลังร้านไปซื้อรายนั้นก็กลัวจะใช้เวลานานเกิน ส่วนอารอนเป็นถึงเจ้าของร้านจะวิ่งไปซื้อของเองก็ใช่ที่ ดังนั้นก็เหลือแต่เขาแล้วนี่แหละ

     

                    “อืม ฝากด้วยล่ะ รีบไปรีบกลับนะ” อารอนบอกขณะที่ยังคงง่วนอยู่กับออเดอร์ที่เพิ่งรับมา ชายหนุ่มพยักหน้ารับแล้วเดินออกมาหาคนรักที่นั่งทำอะไรบางอย่างอยู่กับแทบเล็ตยี่ห้อดังในมือ หูก็ใส่หูฟังอยู่จึงไม่รู้ว่าเมื่อสักครู่เขากับอารอนคุยอะไรกัน จงฮยอนเงยหน้าขึ้นมามองตามที่ถูกคนตัวสูงสะกิดพร้อมกับขมวดคิ้วทำหน้าสงสัย

     

                    “ผมจะออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ตครับ จงฮยอนจะไปด้วยกันไหม” มินฮยอนส่งรอยยิ้มประจำตัวให้กับคนตรงหน้า ร่างบางโคลงหัวอยู่นิดหนึ่งก่อนจะตอบตกลง





     

     

                    โชคดีที่ซุปเปอร์มาเก็ตที่มินฮยอนบอกอยู่ไม่ไกลจากมอคคาชิโน่นัก แค่ข้ามถนนไม่กี่สายก็ถึงแล้ว ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังรอสัญญาณไฟข้ามถนนที่ไม่ยอมเปลี่ยนสีสำหรับคนเดินเท้ามากว่าห้านาทีแล้ว และจนแล้วจนรอดมันก็เปลี่ยนสีจนได้ มินฮยอนยิ้มกว้างก่อนจะจับมือของจงฮยอนไว้เพราะกลัวคนตัวเล็กจะเดินไม่ทันเพราะสัญญาณไปตรงนี้สั้นเหลือเกิน แต่ไม่ทันที่จะได้ก้าวขาหรือพูดอะไร คนข้างตัวก็สะบัดมือของตัวเองออกอย่างแรง แรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา..


                    มินฮยอนอึ้ง ดวงตาเรียวหันมามองคนตัวเล็กกว่าด้วยความงงงวย และแล้วสัญญาณไฟก็กลับเป็นสีเดิมอีกครั้ง รถที่ติดอยู่เมื่อครู่ก็เริ่มขับเคลื่อนจากไป ทิ้งให้คนสองคนยืนโหวงอยู่ที่เกาะกลางถนนในขณะที่คนอื่นๆที่รอสัญญาณไฟอยู่ด้วยกันเมื่อสักครู่ข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งหมดแล้ว


     

                    “นายอย่าจับเลย.. ขนาดตัวฉันเองยังไม่ชอบมือของฉัน..”

     

                    ร่างเล็กพูดขึ้นเบาๆหลังจากดึงมือออกจากการเกาะกุมอย่างแรงจนคนข้างๆตนใจ ถามว่ามินฮยอนโกรธไหมเขาคงไม่โกรธอยู่แล้ว แต่เขาแค่อยากรู้ว่าทำไมคนรักถึงมีปฏิกิริยาตอบโต้รุนแรงขนาดนี้

     

                    “มือของฉันน่ะมันทำงานมากจนหยาบกร้านไปหมด บางที่ก็ถูกไหม้จนเป็นแผลเป็น มันไม่สวยนุ่มนวลเหมือนมือของคนอื่น ไม่มีอะไรชวนให้หลงใหลเวลาจับเลยสักนิด..”

     

                    มินฮยอนเงียบไปเหมือนสิ้นคำ นี่คงเป็นเหตุผลว่าทำไมจงฮยอนถึงไม่ยอมให้เขาจับต้องตัวนัก แค่ความคิดในด้านที่ตัวเองมองแค่นี้เองน่ะหรือ มินฮยอนหลุดยิ้มออกมาก่อนจะคว้ามือเล็กขึ้นมาจับใหม่ รอจนสัญญาณไฟเปลี่ยนสีอีกครั้งแล้วพาเดินข้ามถนนไปด้วยกัน ชายหนุ่มไม่ยอมปล่อยมือนั่นถึงแม้ว่าจะมาถึงอีกฝั่งแล้วก็ตาม จนเมื่อจงฮยอนเป็นฝ่ายจะดึงมือออกเอง

     

                    “ผมชอบมือของจงฮยอนนะรู้ไหม.. มือของจงฮยอนเป็นมือของคนทำงาน มีคนส่วนน้อยเท่านั้นที่จะมีมือแบบนี้ได้และผมก็เคารพพวกเขามากๆด้วย เป็นมือที่จงฮยอนควรจะภูมิใจนะ” บาริสต้าหนุ่มพูดออกมาพร้อมกับยิ้มกว้าง ฝ่ายคนฟังก็แทบจะหยุดเดินหลังจากเขาพูดจบ

     

                    ให้ตายเถอะ.. คนตรงหน้านี่เกิดมาเพื่อหลอมละลายน้ำแข็งในหัวใจของคิมจงฮยอนหรืออย่างไร?

     

                    ช่างปั้นตุ๊กตาไม่ได้ตอบอะไรกลับไปในขณะที่กำลังถูกร่างสูงเดินจูงมือไปเรื่อยๆตามทางเท้า ถึงแม้ว่าปากจะปิดเงียบแต่หัวใจดวงน้อยๆในอกซ้ายก็เต้นเร็วกว่าทุกครั้งที่เคยเป็นในระหว่างที่ได้อยู่กับมินฮยอนมา

     

                    จงฮยอนไม่รู้ว่าความรู้สึกแปลกๆที่ตื้นตันอยู่ในอกนี้มันคืออะไร..

     

                     และสงสัยเหลือเกินว่าทำไมการถูกฮวังมินฮยอนจับมือถึงได้รู้สึกดีขนาดนี้..





     

     

                    ดวงตาสีดำสนิทมองแผ่นหลังของคนตรงหน้าที่กำลังคุยเรื่องที่เขาไม่เข้าใจอยู่กับพนักงานในโซนกาแฟของซุปเปอร์มาเก็ตสำหรับคนต่างชาติแห่งหนึ่ง ที่นี่มีแต่ของแปลกๆที่ไม่มีขายทั่วไปในเกาหลี เช่นขนมหน้าตาประหลาด ของตกแต่งอาหาร เขาเคยขับรถผ่านอยู่หลายครั้งก็จริง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เดินเข้ามา เมื่อเห็นขนมเยอะแยะแบบนี้แล้วก็นึกอยากจะพาเร็นมาด้วย

     

                    “ที่อารอนฮยองไม่ให้เร็นออกมาซื้อของที่นี่ไม่ใช่เพราะเจ้านั่นเลือกกาแฟไม่เป็นหรอกครับ แต่เพราะขนมพวกนี้ต่างหาก” มินฮยอนพูดขึ้นมาเหมือนรู้ใจพลางชี้มือไปที่ชั้นแสดงสินค้า เมื่อร่างบางมองตามไปก็หลุดยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อสิ่งที่อยู่บนนั้นคือช็อคโกแล็ตกล่องโตหลายรสหลายยี่ห้อถูกวางอวดโฉมอยู่บนนั้น ไหนจะขนมอย่างอื่นที่เรียงรายอยู่บนชั้นอื่นๆอีก เจอแบบตุ๊กตากระเบื้องที่รักขนมมากกว่าชีวิตก็คงจะจ้องตาเป็นมันเลยสินะ

     

                    “ตอนอยู่พูซานเร็นไม่ได้กินเยอะขนาดนี้นะครับ เจ้านั่นกว่าจะใช้เงินได้นี่คิดแล้วคิดอีกอยู่นาน พอมาอยู่ที่นี่เท่านั้นแหละกินอย่างกับพายุ ผมล่ะงง” ระหว่างเดินอุ้มถุงเมล็ดกาแฟถุงใหญ่เดินไปที่เค้าท์เตอร์คิดเงินบาริสต้าตัวสูงก็ยังคงเผาเพื่อนสนิทไม่หยุดปากจนหันมาอีกทีก็เห็นคนรักไปหยิบช็อคโกแล็คกลับมาสองกล่องตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

     

                    “รายนั้นน่ะมีคนขุนดี แบคโฮมันก็กินเก่งเหมือนกันนั่นแหละ” จงฮยอนหลิ่วตาให้คนตัวสูงก่อนจะเร่งเดินไปจ่ายเงินก่อน ปล่อยให้มินฮยอนยืนต่อคิวต่อจากตน

     

                    “จงฮยอนจะกินเหรอครับ” เขาถามด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นคนตัวเล็กซื้อของหวานที่เจ้าตัวไม่ชอบ ถึงแม้พักหลังมานี่เขาเริ่มเปลี่ยนกาแฟของจงฮยอนจากอเมริกาโน่มาเป็นอย่างอื่นที่ลดความขมลงมาบ้างแล้วก็ตาม

     

                    “ซื้อให้เร็น” ช่างปั้นตุ๊กตาตอบเย้ยๆ ราวกับจงใจแกล้ง เขารู้ดีว่าเมื่อพูดอย่างนี้แล้วคนอย่างฮวังมินฮยอนจะมีปฏิกิริยาตอบกลับมาแบบไหน

     

                    “อีกละ นี่ตกลงรักผมหรือรักเจ้านั่นมากกว่ากันเนี่ย” ใบหน้าหล่ององ้ำลงอย่างเห็นได้ชัด มินฮยอนเป็นแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่จงฮยอนเอาใจใส่เพื่อนสนิทของตนอย่างซื้อของให้หรือแสดงความเป็นห่วง บางครั้งเขาก็อิจฉาเร็นที่ถูกจงฮยอนเอ็นดูมากขนาดนี้จนลืมคิดไปว่าตัวเองน่ะมาทีหลังแล้วยังโชคดีกว่าเป็นไหนๆ

     

                    ฝ่ายช่างปั้นตุ๊กตาเมื่อเห็นท่าทางเหมือนเด็กหวงของแล้วก็แอบยิ้มออกมานิดๆในขณะที่หยิบเงินออกมาจ่ายค่าช็อคโกแล็ต จงฮยอนเคยเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาดงโฮเพราะไม่รู้ว่ากับแค่การที่เขาคุยกับเร็นเพลินๆแล้วทำไมมินฮยอนต้องไม่พอใจด้วย ถึงแม้คำตอบจะทำให้เขาไม่ถามอะไรต่อเพราะกำลังพยายามปิดความรู้สึกแปลกๆที่ลิงโลดอยู่ในใจ

     

                ความรักความหวงมันบังตาก็เป็นแบบนี้แหละ

     

                    แหละหลังจากนั้นคิมจงฮยอนก็กลายเป็นคนนิสัยไม่ดีที่เอาตุ๊กตากระเบื้องแสนสวยตัวนั้นมาแกล้งมินฮยอนอยู่เสมอ..

     

                    “คิดเอาเองก็แล้วกันนะคุณบาริสต้า” ร่างบางหันไปทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกมาจากเค้าท์เตอร์จ่ายเงิน ทิ้งให้มินฮยอนจัดการจ่ายส่วนของตัวเองให้เสร็จแล้วค่อยเดินตามมาทีหลัง





     

     

                    ระหว่างทางเดินกลับร้านก็มีแต่คนตัวสูงเท่านั้นที่พูดตัดพ้อหงุงหงิงไม่หยุด ส่วนคนตัวเล็กกว่าก็ได้แต่เดินกลั้นยิ้มฟังไปโดยไม่พูดอะไร แต่ก็ยอมให้มินฮยอนคว้ามือข้างที่ไม่ได้ถือของไปจับไว้ ช่างปั้นตุ๊กตาแอบเงยหน้ามองอีกฝ่ายที่ทำหน้าบูดเป็นบางครั้ง นึกขำอยู่เหมือนกันว่าแทนที่จะมาเดินจับมือกันอยู่แบบนี้ทำไมมินฮยอนถึงได้ไม่เปลี่ยนไปอุ้มถุงเมล็ดกาแฟนั่นสองมือทั้งๆที่มันหนักจะตาย

     

                    “ปล่อยก็ได้ กลัวจะไม่ได้จับรึไง” คนตัวเล็กพูดขึ้นพร้อมกับมองมือหนาของอีกคนที่จับมือของตัวเองอยู่ มือของมินฮยอนใหญ่..แล้วก็อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก..

     

                    “ไม่จับไว้ไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวจงฮยอนไม่ยอมให้ผมจับอีก” น้ำเสียงที่ยังคงบ่งบอกถึงอาการงอนอยู่นิดๆทำให้ร่างบางไม่ได้พูดอะไรต่อนอกจากอมยิ้มแล้วปล่อยให้อีกคนเดินจับมือตัวเองต่อไปแบบนั้นจนกระทั่งถึงร้าน ทันทีที่ผลักประตูเข้าไปมินฮยอนก็ต้องผละตัวไปทำงานทันทีเพราะตอนนี้ลูกค้าเริ่มเยอะ อารอนเองก็ไม่มีเวลาจะพูดคุยเหมือนกัน ส่วนเร็นที่จริงๆได้เวลาเลิกงานแล้วก็ยังต้องอยู่ช่วยงานหน้าร้านเหมือนกัน จงฮยอนนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิมโดยไม่ลืมทักคนที่นั่งอยู่ข้างๆ

     

                    “ไง ไอ้เสือ” คนถูกเรียกหันมายักคิ้วกวนๆให้ทีแล้วตอบกลับมา

     

                    “ว่าไงเจอาร์ คอลเล็คชั่นใหม่ไปถึงไหนแล้ว รอบนี้ป๊ากับม๊าฉันสั่งไปด้วยนำ ทำออกมาดีๆล่ะ” คังดงโฮถามถึงงานของเพื่อนสนิทที่เมื่อเร็วๆนี้เพิ่งมีงานแถลงข่าวคอนเซ็ปท์และเปิดจองไปสดๆร้อนๆ

     

                    “ตอนนี้กำลังแก้จุดเล็กๆน้อยๆอยู่ สิ้นเดือนก็เสร็จแล้วบอกป๊าม๊าได้เลย” ช่างปั้นตุ๊กตาตอบ สำหรบเขาแล้วงานครั้งนี้ยอมรับว่าไม่ได้ใส่ใจมากเท่าครั้งก่อน ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ทั้งๆที่นางแบบที่จ้างมาก็สวยดีอยู่หรอก แต่เขาไม่มีแรงบัลดาลใจสักเท่าไหร่นัก ก็เลยไม่ค่อยจะภูมิใจอะไรกับมันมากเท่าที่ควร

     

                    “มารับเร็น?” เขาถามกลับพลางเอื้อมมือไปหยิบคุกกี้ที่เพื่อนสนิททานอยู่เข้าปากไปชิ้นหนึ่งก่อนจะเบ้หน้าออกมาเพราะรสหวานที่ไม่ถูกกับตัวเองเอาเสียเลย

     

                    “อือ เพิ่งมาเมื่อกี้เอง พอเดินเข้ามาลูกค้าก็เต็มร้านเร็นเลยขออยู่ช่วย เออว่าแต่แกเป็นไงบ้าง” คังดงโฮชินกับนิสัยกินยากของเพื่อนอยู่แล้วจึงไม่พูดอะไร ที่เป็นห่วงน่ะคือความสัมพันธ์ของเพื่อนคนนี้กับเจ้าบาริสต้าตัวสูงที่เป็นแฟนคนแรกของมันมากกว่า

     

                    “ก็ดี” ฝ่ายคนพูดน้อยก็ตอบน้อยซะจนคนถามเหนื่อยใจ ไม่รู้ว่าดีนี่จงฮยอนเข้าใจว่าเขาถามเรื่องอะไรรึเปล่า เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลอ่อนถอนหายใจก่อนจะพูดออกมา

     

                    “มีอะไรก็ปรึกษามาก็แล้วกัน”

     

                    “ขอบใจนะคุณผู้เชี่ยวชาญ”

     

                    จงฮยอนตอบยิ้มๆแล้วตบหลังเพื่อนสนิทเบาๆ เขารู้ดีว่าดงโฮเป็นห่วงเขาเพราะช่วงแรกๆก็มีแต่หมอนี่เท่านั้นที่คอยรับฟังเวลาเขามีปัญหาหรือไม่เข้าใจอะไร ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีคังดงโฮคนนี้ก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีเสมอต้นเสมอปลายตลอด อย่างน้อยจงฮยอนก็คิดว่าตัวเองยังโชคดีที่ถึงแม้จะมีเพื่อนเพียงคนเดียวแต่อย่างน้อยเพื่อนคนนี้ก็ยังอยู่ข้างเขาตลอดเวลา

     

                    “สรุปเลือกได้รึยังว่าจะเลี้ยงตัวอะไร” เสียงของคังดงโฮดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาพูดกับคนรักของตัวเองที่ยืนอยู่ด้านในเค้าท์เตอร์ มินกิมุ่ยหน้าลงเหมือนจะยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกอะไรดี

     

                    “เร็นอยากได้แมว แต่ไม่รู้จะเอาพันธ์อะไรดี มีคนแนะนำมาว่าให้ซื้ออเมริกันชอร์ทแฮร์ แต่ขนมันไม่ฟูอย่างที่อยากได้” ฝ่ายตุ๊กตากระเบื้องก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียยงที่ยังลังเลอยู่ ถึงตรงนี้จงฮยอนก็เริ่มจะสนใจบทสนทนานี่แล้วล่ะ

     

                    “แล้วกระต่ายล่ะ ไม่เอาแล้วเหรอ” ดูเหมือนประโยคของเพื่อนสนิทของเขาจะยิ่งทำให้ชเวมินกิเบะปากมากกว่าเดิม

     

                    “กระต่ายก็อยากเลี้ยง แต่สงสารมันอ่า ต้องพาไปลับฟันด้วยนะ เลี้ยงแมวนั่นแหละทำหมันทีเดียว แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าจะเอาพันธุ์อะไร” เร็นบ่นอุบพลางช่วยมินฮยอนกับอารอนทำกาแฟเท่าที่ตัวเองจะทำได้ ช่างปั้นตุ๊กตาเหล่มองหน้าคนข้างๆพอดีกับทีดงโฮทำหน้าเซ็งแล้วพึมพำกับตัวเอง

     

                    “มีเสืออยู่แล้วจะเลี้ยงแมวทำไมอีก..”

     

                    “อะไรนะ”

     

                    “เปล๊า มะรืนนี้จะพาไปซื้อแล้วนะคิดดีๆ เลือกไม่ได้ไม่พาไปแล้วนะ” ดงโฮพูดขู่ทันทีเพราะกลัวว่ามินกิจะได้ยินที่ตัวเองพูดอยู่เมื่อครู่ ฝ่ายจงฮยอนก็ยิ้มมุมปากนิดหนึ่งก่อนที่เสียงหัวเราะของเพื่อนสนิทจะดังขึ้นเมื่อเจ้าตัวโดนเร็นถลึงตาใส่ แบคโฮหันมาขยายความให้กับเพื่อนสนิท ทำทีเป็นไม่สนใจสายตานั้น

     

                    “เร็นงอแงจะเลี้ยงสัตว์ในคอนโดน่ะ แต่ฉันไม่ค่อยอยากเท่าไหร่ ถ้ามะรืนนี้ยังเลือกไม่ได้ก็อด”

     

                    “ใจดำ!” ตุ๊กตากระเบื้องยู่หน้าก่อนจะกระแทกกระบอกวิปปิ้งครีมใส่คนรักซะหนึ่งที ยังดีที่ตอนนี้เสียงในร้านค่อนข้างดังไม่งั้นคนตัวเล็กมีหวังโดนยองมินเอ็ดเอาแน่ๆ

     

                    “แมวเหรอ.. ที่บ้านฉันมีเมนคูนอยู่นะ ขนฟู เลี้ยงง่ายด้วย แต่ตัวใหญ่ไปหน่อย” จงฮยอนที่เงียบอยู่นานพูดขึ้นมา ก่อนจะพูดเสริมเมื่อถูกเพื่อนสนิทหันมามองด้วยความประหลาดใจ “ของพี่จองอา มันชอบอยู่ชั้นสอง นายไปไม่เคยเจอหรอก”





     

     

                    แต่แทนที่จะช่วยให้ชเวมินกิตัดสินใจได้ว่าจะเลี้ยงตัวอะไรกลับยิ่งทำให้คนตัวเล็กคิดมากกว่าเดิมอีก ตุ๊กตากระเบื้องตัวสวยจึงเดินกอดกล่องช็อคโกแล็ตที่จงฮยอนซื้อให้ขึ้นรถของแบคโฮไปเงียบๆเพราะกำลังใช้ความคิด ส่วนช่างปั้นตุ๊กตากับบาริสต้าตัวสูงเองก็ใช้เวลาไม่นานนักในการเดินมาถึงสตูดิโอ

     

                    อาจเป็นเพราะมือที่ถูกจับไว้กระมังที่ทำให้ตนกับคนข้างๆเดินไปพร้อมกันได้เร็วขนาดนี้

     

                    คิมจงฮยอนคิดขึ้นในขณะที่มินฮยอนชี้ให้ดูดาวดวงหนึ่งที่กำลังส่องแสงแข่งกับแสงไฟปลอมๆของพื้นโลกอยู่บนฟ้า ชายหนุ่มบอกว่าแปลกที่ได้เห็นดาวดวงเล็กๆในเมืองใหญ่อย่างโซล..









    ________________________________________________________________________________________________________________________________


    13-03-06

    ใครที่คิดถึงแบคเร็น ปิ่นพาแบคเร็นมาส่งแล้วนะคะ
    หนูเร็นเป็นไงบ้างคะ ดูแง่งอนขึ้นเยอะเลย จุดนี้ตาแบคเริ่มคุมไม่อยู่แล้วค่ะ ฮ่าๆๆ
    ตอนแต่งค่อนข้างจะกังวลเกี่ยวกับทามไลน์ กลัวไม่ตรงกับในตุ๊กตากระเบื้อง
    แต่งฟิคคู่มันลำบากตรงนี้เองค่ะ งืออออ
    แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ รับรองหวานน้ำตาลพุ่งกระฉูด กรุณาเตรียมสเปรย์ฉีดมดด้วยค่ะ ^^

    ตอบคอมเม้นท์ดีกว่า
    NoeyNt โอ๊ะ ได้ฟอลทวิตปิ่นมารึเปล่าคะ ปิ่นว่าปิ่นเห็นอยู่นะคะ 0w0
    InoRi ขอบคุณค่า
    Coniglio ตามมาเม้นท์ให้ในเด็กดีด้วย ขอบคุณมากๆค่า TT ตอนนี้บอร์ดซ่อมเสร็จแล้ว ปิ่นลงไว้ในบอร์ดด้วยแล้วนะคะ^^
    My Not คนแบบเจต้องเจอมินฮยอนนี่แหละค่ะ ละลายน้ำแข็งบ้าง คิคิคิ







     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×