ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fiction] Nu'est :- Caffeine (Minhyun x Jr)

    ลำดับตอนที่ #1 : :: Caffeine - chp.01 ::

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.พ. 56




    Caffeine chapter 1
    13-02-08






                    นี่เป็นความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นขึ้นจากประโยคนั้น..

                “ให้ผมเป็นคนที่เติมความหวานลงไปดีไหมครับ?”

     
     

                    อีกทั้งสัมผัสจาบจ้วงจากเจ้าของคำพูด คิมจงฮยอนก็ยังจดจำมันได้ดี

                    จูบแรก ของคิมจงฮยอน เป็นของคนๆนั้น

     

     

                    ผู้ชายที่คิมจงฮยอนบังเอิญพบที่พูซาน ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่มีรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจของคิมจงฮยอนเต้นแรงกว่าใคร ผู้ชายที่มาพร้อมกับกลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟ ผู้ชายที่ค่อยๆแทรกตัวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคิมจงฮยอนช้าๆ จนเมื่อรู้สึกตัวอีกที คิมจงฮยอนก็ขาดเขาไม่ได้ราวกับติดคาเฟอีนเข้าแล้วจริงๆ

     

                    ฮวังมินฮยอน

                    นายใช้ยาเสน่ห์สูตรไหนผสมกับกาแฟของนาย..




     

     

                    “ที่นี่มีห้องทำงานของฉันสองห้อง ตรงนี้คือห้องนั่งเล่น มีครัวเล็กๆอยู่หลังบาร์นั่น ทางนู้นเป็นห้องนอนของฉันเวลาที่ต้องค้างคืน” เสียงของจงฮยอนดังขึ้นในสตูดิโอชั้นที่ยี่สิบของตึกสำนักงานกลางเมืองที่เปิดขายเป็นสำนักงานและที่อยู่อาศัยไปในตัว คนตัวเล็กกำลังแนะนำส่วนต่างๆในสตูดิโอของตัวเองให้กับผู้มาใหม่ที่ยังดูทึ่งกับความกว้างขวางของสถานที่แห่งนี้

     

                    “นายนอนห้องนี้ ขอโทษทีถ้าจะบอกว่ามันเคยเป็นห้องเก็บของ” เจ้าของเรือนผมสีดำสนิทเงยหน้าขึ้นมาบอกชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆหลังจากเดินนำเข้ามาในห้องเล็กๆห้องหนึ่งที่มีเตียงและโต๊ะอ่านหนังสือถูกจัดเตรียมไว้ให้เพื่อต้อนรับการมาของผู้พักอาศัยคนใหม่ จะเรียกว่าห้องเก็บของก็ไม่เชิง เมื่อสองอาทิตย์ก่อนห้องนี้เป็นห้องเก็บงานศิลปะของจงฮยอนที่ไม่ได้ถูกนำไปขายหรือจัดแสดงที่ไหน ส่วนตอนนี้งานพวกนั้นถูกย้ายไปเก็บที่บ้านของช่างปั้นตุ๊กตาแล้ว

     

                    “อยู่ได้ใช่ไหม”

     

                    บาริสต้าหนุ่มพยักหน้ารับช้าๆ ปากที่มักจะช่างพูดอยู่เสมอในตอนนี้กลับปิดเงียบเพราะสิ่งที่เห็นมันช่างไม่คาดฝัน ตอนแรกที่จงฮยอนบอกว่ามีที่พักให้เขาในโซลมินฮยอนก็คิดว่าจะเป็นเพียงห้องพักรูหนูที่พอจะซุกหัวนอนได้ เขาไม่เคยกล้าคิดแม้แต่น้อยว่าคิมจงฮยอนจะยอมให้เขาอยู่ในที่ๆเดียวกับตัวเอง ถึงแม้จะแยกห้องนอนกันก็เถอะ แล้วอีกอย่างคือที่นี่ดูจะราคาสูงพอตัวด้วย คนธรรมดาอย่างฮวังมินฮยอนจะเอาอะไรมาจ่ายให้คุณหนูคิมกันล่ะนี่

     

                    “จัดของซะนะ อะไรไม่มีก็บอกฉันได้”

     

                    “เอ่อ..เรื่องค่าเช่าของผม..” ร่างสูงอ้ำอึ้งพลางยกมือขึ้นมาเกาหัว มินฮยอนกำลังรู้สึกหนักใจอย่างบอกไม่ถูก คำว่าเกรงใจขึ้นอยู่ในสมองเต็มไปหมด แต่ไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อร่างบางก็ชิงแทรกขึ้นมาซะก่อน

     

                    “ที่นี่ฉันซื้อไว้เอง นายไม่ต้องจ่ายค่าเช่า ถ้าอยากช่วยก็แค่ทำความสะอาดเท่าที่จะทำได้” จงฮยอนไหวไหล่ก่อนจะยิ้มบางๆออกมา “หรือไม่ก็ชงกาแฟให้ฉันฟรีทุกเช้า เข้าใจไหมคุณบาริสต้า”

     

                    ช่างปั้นตุ๊กตาเดินไปตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆก่อนจะเดินออกไป ทิ้งให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของตนอยู่ในห้องคนเดียว แต่เมื่อประตูห้องปิดลงเท่านั้นขาเรียวก็รีบจ้ำไปทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น ยกมือขึ้นมาปิดหน้าก่อนจะพึมพำอยู่กับตัวเองซ้ำไปซ้ำมา

     

                    “ทำอะไรลงไปคิมจงฮยอน นายทำอะไรของนาย ให้เจ้านั่นมาอยู่ด้วยแบบนี้มันดีแล้วเหรอเนี่ย!!” ใบหน้าใต้ฝ่ามือนั้นแดงเถือกจนลามมาถึงใบหู จนถึงตอนนี้จงฮยอนก็ยังไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองไดว่าทำไมถึงไม่หาที่อยู่ที่อื่นให้มินฮยอนทั้งๆที่ทำได้ ทำไมต้องให้มาอยู่ที่เดียวกับตัวเองแบบนี้ด้วย

     

                    “จะถูกมองว่าใจง่ายรึเปล่านะ..” สุดท้ายแล้วก็หนีไปพ้นความคิดด้านลบที่วนเวียนอยู่ในหัว ช่างปั้นตุ๊กตาเอนหลังพิงพนักโซฟาแล้วเงยหน้าขึ้นมองเพดาน หายใจเข้าออกลึกๆอยู่นานจนได้ยินเสียงประตูห้องเปิดออกพร้อมกับมินฮยอนที่ชะโงกหน้าออกมาก่อนตัว แล้วค่อยๆเดินออกมานั่งข้างคนรักราวกับเป็นเด็ก ฝ่ายจงฮยอนที่เรียกสติกลับมาได้แล้วก็หันหน้ามามองอีกฝ่ายแล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

     

                    “ตอนนี้ผมยังทำตัวไม่ถูก..” มินฮยอนพูดออกมาในที่สุด ดวงตาเรียวมองใบหน้าที่นับวันก็ยิ่งหวานขึ้นทุกทีในสายตาของเขาแล้วพูดต่อ

     

                    “ผมจะปรับตัวนะ ถึงผมจะยังไม่เหมาะสมกับจงฮยอนในหลายๆอย่าง แต่ผมสัญญาว่าจะเป็นแฟนที่ดีของจงฮยอนให้ได้นะครับ”

     

                    เมื่อจบประโยคช่างปั้นตุ๊กตาก็ทำเพียงแค่ส่งเสียงตอบรับในลำคอและพยักหน้าเล็กน้อยแล้วหันหน้าหนีไปอีกทางเพราะไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำอย่างไรดีกับคำพูดเมื่อสักครู่ ฝ่ายร่างสูงเองก็รู้ว่าคนตัวเล็กกำลังเขินหนักจึงได้แต่ยิ้มบางๆ จนเมื่อเวลาผ่านไปครู่หนึ่งจงฮยอนก็ลุกขึ้นยืน

     

                    “ด..เดี๋ยวฉันไปทำงานก่อนนะ นายมีอะไรก็มาเรียกก็แล้วกัน” ร่างบางพูดทั้งๆที่ยังไม่ได้หันมามองเขาก่อนจะเดินหนีเข้าไปในห้องทำงานที่เป็นห้องร่างแบบซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องนอนของเขา มินฮยอนที่วันนี้ถูกคนขี้อายทิ้งถึงสองครั้งจึงได้แต่นอนหงายลงไปกับโซฟาที่นั่งอยู่แล้วหัวเราะเบาๆ

     

                    หวังว่าชีวิตในกรุงโซลของเขาจะมีแต่สิ่งดีๆเกิดขึ้นเหมือนกับวันนี้ทุกวัน...








     

     

                    กว่าจงฮยอนจะเดินออกมาจากห้องร่างแบบอีกครั้งก็เย็นมากแล้ว ใบหน้าหวานติดคมนิดๆเต็มไปด้วยความฉงนหนักเมื่อภายในห้องนั่งเล่นนั้นปิดไฟเงียบและว่างเปล่าไม่มีวี่แววของมินฮยอนอยู่เลยซักนิดเดียว เมื่อสองสามชั่วโมงก่อนคนตัวสูงชะโงกหน้าเข้ามาบอกเขาว่าจะออกไปหาซื้อของเสียหน่อย เมื่อถามว่าอยากให้ไปด้วยรึเปล่าเจ้าตัวก็ตอบว่าไม่ คงเพราะเห็นว่าเขากำลังทำงานอยู่จึงไม่อยากรบกวน

     

                    แต่ไม่เลย..

     

                    มันไม่รบกวนเลยจริงๆถ้ามินฮยอนจะขอให้เขาออกไปเป็นเพื่อน เพราะบนกระดาษที่เขานั่งขีดเขียนอยู่เมื่อสักครู่มันไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับงานเลยสักนิด จงฮยอนแค่หนีเข้ามาอยู่คนเดียวเพราะว่าตัวเองนั้นรู้สึกแปลกๆเวลาที่อยู่ด้วยกันกับอีกฝ่ายแค่สองคนแบบนี้ สายตาของร่างสูงที่รู้สึกได้ตลอดแบบนั้นมันทำให้หัวใจดวงนี้เต้นรัวเหมือนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

     

                    แต่สุดท้ายแล้วจงฮยอนก็ต้องมานั่งเป็นห่วงอีกคนหนึ่งที่หายไปนานเกินไปแล้ว มินฮยอนเพิ่งเข้ามาอยู่ในโซลจริงๆจังๆก็วันนี้เอง เจ้าคนตัวสูงนั่นจะหลงทางรึเปล่านะ

     

                    จงฮยอนกดโทรศัพท์โทรออกทันทีหลังจากเดินหาเจ้าเครื่องมือสื่อสารของตนอยู่นาน เพราะความร้อนรนจึงทำให้เขาไม่ทันสังเกตว่ามันวางอยู่บนโต๊ะในห้องร่างแบบนั่นเอง ยิ่งเสียเวลาไปมากเท่าไหร่ร่างบางก็ยิ่งเป็นห่วงอีกฝ่ายที่จู่ๆก็หายเงียบไป

     

                    น่าแปลกที่จงฮยอนจำเบอร์ของมินฮยอนได้ทั้งๆที่แม้แต่เบอร์คนในครอบครัวเขายังจำไม่ได้เลยสักคน คนตัวเล็กรอสายอยู่นานจนใจรู้สึกไม่ดีขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดเสียงตอบรับจากปลายสายก็ทำให้เขาต้องแอบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

     

                    “อยู่ไหน” คนผมดำถามเสียงห้วน ความเป็นห่วงเริ่มเปลี่ยนเป็นความโมโหที่อีกคนรับโทรศัพท์ช้า

     

                    “กำลังจะขึ้นลิฟท์กลับไปแล้วครับ.. จงฮยอนเป็นห่วงผมเหรอ?”

     

                     นิ้วโป้งกดตัดสายทันทีที่ได้ยินคำหยอดไม่รู้จักเวล่ำเวลาของอีกฝ่ายก่อนจะโยนโทรศัพท์มือถือของตนลงกับโซฟานุ่มอย่างหัวเสีย อุตส่าห์เป็นห่วงแทบตายยังจะมีหน้ามาทำเสียงระรื่นใส่อีก หายไปไหนไม่บอกกล่าวตั้งสามชั่วโมงนี่มันน่าโมโหนักฮวังมินฮยอน!
     

                    ระหว่างที่คนตัวเล็กกำลังโมโหอยู่บนห้องคนที่เพิ่งโดนตัดสายใส่ก็ยืนมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือด้วยความงุนงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ มินฮยอนหอบของที่ซื้อมาเดินเข้าไปในลิฟท์ ริมฝีปากหยักยกยิ้มอย่างอารมณ์ดีเมื่อได้กวนประสาทคนรัก
     

                    จะน่ารักไปถึงไหนกันนะ คิมจงฮยอน....




    ________________________________________________________________________________________________________________________________



    13-02-08

    เลือกวันอัพตอนแรกวันที่ออกทีเซอร์เพลงHelloของน้องเลย ทีเซอร์ตัวแรกออกเมื่อตอนบ่าย ได้ดูกันแล้วรึยังคะ
    ท่าทางจะเป็นเอ็มวีรักสามเศร้าที่เศร้าหนักเลย;__; แถมยังเป็นมินเจของเราซะด้วยนี่สิ
    ส่วนปิ่นก็จิ้นก็มโนกันไปสนุกสนานเรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ ไม่รอดหรอกเรื่องแบบนี้ ฮ่าๆๆ
    ยังไงก็ฝากเด็กๆนิวอีสท์ไว้ด้วยนะคะ เดบิ้วท์จะครบปีแล้ว เย่!!

    แล้วเจอกันคราวหน้าค่ะ ^^



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×