ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Inazuma Eleven Go] Snow of love!

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 : เริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 56


    บทที่ 1

            ในยามเช้าที่อากาศหนาวเย็นเช่นทุกๆวันของฮอกไกโด 'โรงเรียนฮาคุเร็น' โรงเรียนชื่อดังของฮอกไกโด ที่หอพักของโรงเรียนฮาคุเร็นในขณะนี้ มีชายหนุ่มที่มีใบหน้าสวยหวาน นัยน์ตาสีขี้เถ้าอ่อน ผมสีขาวนุ่มดุจกับแพรไหม ผิวขาวเนียนละเอียดราวกับหิมะ ยืนเหม่อมองออกไปยังท้องฟ้าเบื้องบน ในหัวตอนนี้ของเขาคงมีแต่คนคนหนึ่งลอยอยู่เต็มไปหมดในห้วงความคิดเป็นแน่


            "สวัสดีครับ~รุ่นพี่"เสียงสดใสกับคำพูดเช่นเดิมทุกๆวันดังขึ้นทักทายจากเด็กหนุ่มที่มีผมสีนํ้าเงินเข้มและนัยน์ตาสีฟ้าสดใส เสียงทักทายนั่นคงจะทำให้คนที่กำลังยืนเหม่อลอยอยู่ที่ริมระเบียงหลุดออกจากห้วงความคิดได้ดีที่เดียว

    [Yukimura’s Talk]

            ผมที่ดูเหมือนจะวิ่งลงบันไดของหอพักจากบนชั้นห้องของผมมายังห้องของรุ่นพี่ฟุบุคิ พร้อมกับคำทักทายเหมือนกับทุกๆวันนั้น ความจริงแล้วผมน่ะแอบมองรุ่นพี่อยู่ตั้งนานแล้วหล่ะ ผมแค่ทำท่าเหมือนวิ่งลงมาเท่านั้นเอง ผมก็มักจะทำแบบนี้ประจำแหละเพื่อที่จะได้มีเวลาแอบมองรุ่นพี่ได้นานๆยังไงล่ะ
     


            ผมน่ะแอบชอบรุ่นพี่มาตั้งแต่ที่ผมเห็นรุ่นพี่ครั้งแรกเลย ยิ่งพอรุ่นพี่เข้ามาคุยกับผม ผมก็ยิ่งชอบมากเข้าไปอีก จนตอนนี้เรามาฝึกซ้อมด้วยกันทุกๆวัน พวกเราก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้นไปอีก ผมล่ะดีใจสุดๆไปเลยล่ะที่ได้มีโอกาสสนิทกับรุ่นพี่ฟุบุคิแบบนี้


            หลังจากที่ผมทำท่าเหมือนวิ่งลงบันไดมา ผมก็เดินตรงเข้าไปเกาะริมระเบียงข้างๆที่รุ่นพี่ฟุบุคิยืนอยู่


            "สวัสดี! ยูกิมูระ วันนี้มาแต่เช้าเลยนะ"


            "ผมก็มาเวลานี้ทุกวันแหละ รุ่นพี่อะเบลอไปแล้วหรือไง? แต่ว่ายังไงวันนี้ผมก็จะทำท่าไม้ตายใหม่ของผมให้สำเร็จให้ได้เลย"วันนี้แหละ! วันนี้แหละ! ผมจะต้องทำท่าไม้ตายให้สำเร็จให้ได้!!


            "อื้ม! ตั้งใจดีมาก เรารีบไปฝึกกันเถอะ"รุ่นพี่พูดแล้วก็เดินมาจับมือผมลากลงบันได และตรงไปยังสนามของโรงเรียนฮาคุเร็นที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากหอพักมากนัก ว่าแต่รุ่นพี่จับมือผมด้วยยยยยแหล่ะ! มือของรุ่นพี่นุ่มนิ่มและอุ่นที่สุดเลย!


            "ยูกิมูระ ไม่สบายหรือเปล่าหน้าแดงแล้วนะวันนี้"รุ่นพี่ที่หันมาเห็นผมตอนเขินจนหน้าแดง เลยคิดเองเออเองว่าผมไม่สบายล่ะมั้ง รุ่นพี่เลยค่อยๆโน้มหน้าเข้ามาใกล้ๆหน้าของผมเพื่อจะเอาหน้าผากเจ้าตัวมาแนบกับหน้าผากของผม แต่ผมคงเขินแรงไปหน่อยเลยเผลอยืดแขนไปยันกับไหล่เล็กๆของรุ่นพี่เอาไว้ กั้นระหว่างผมกับรุ่นพี่ไม่ให้ใกล้กันจนผมละลายตายไปซะก่อน


            "อะ..เอ่อ ผมสบายดีครับรุ่นพี่" โอ้ยย ณ เวลานี้ผมไม่กล้ามองหน้ารุ่นพี่ตรงๆเลย ใกล้กันจนเขินจะแย่แล้ว ผมเลยได้แต่เสมองไปทางอื่น


            "อะ..โอเค..แต่ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืนล่ะ รีบบอกเลยนะ"รุ่นพี่มองมาที่ผมอย่างไม่ค่อยเชื่อในคำพูดของผมเท่าไร คงเพราะผมยังหน้าแดงอยู่แน่ๆเลย


            "อา..ครับๆ"ผมรีบตอบกลับ รุ่นพี่เลยโน้มตัวกลับไปเหมือนเดิม เฮ้อ หัวใจจะวายตาย


            แล้วรุ่นพี่ก็เดินจูงมือผมต่อไป ถึงตอนนี้ภายนอกผมจะดูปกติ แต่ในใจของผมตอนนี้มันกำลังตะโกนกู่ก้องอย่างโหยหวน ว่า 'เสียดายจังโว้ยยยยยยยยยยยยยยยย' เราน่าจะให้รุ่นพี่แนบหน้าผากมาก็ดี โธ่ อุส่าห์ได้โอกาสทองแล้วแท้ๆ โง่เองจริงๆเรา เมื่อโทษตัวเองต่อไปได้สักพัก ก็มาถึงสนามฝึกซ้อมซะแล้ว พอมาถึงรุ่นพี่ก็เลยปล่อยมือผมลง ทำให้ผมเสียดายนิดๆ รู้สึกอยากให้ระยะทางมันไกลกว่านี้ซักกิโล-สองกิโล
     



            "ตอนนี้ก็ได้เวลาเริ่มฝึกแล้วนะ ยูกิมูระ"


            "ครับ!"


            หลังจากที่ผมวอร์มอัพอุ่นเครื่องเสร็จสับเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ผมก็เริ่มรวมรวมสมาธิในการทำท่าไม้ตายอย่างจริงจัง รุ่นพี่ยืนพิงหลังกับขอบประตูโกล ยืนดูผมฝึกซ้อมและคอยให้คำแนะนำกับผม
            .

            .

            .

            .

            "เมื่อกี้ต้องรวบรวมพลังไปที่ขาให้มากกว่านี้นะยูกิมูระ!" รุ่นพี่เดินเข้ามาบอกกับผม
     

     


            และนี่คงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมชอบรุ่นพี่ล่ะมั้ง รุ่นพี่ฟุบุคิน่ะคอยดูแลผมอยู่เสมอๆ เป็นคนที่เอาใจใส่คนอื่นมากๆ เวลาผมฝึกก็จะมาอยู่เป็นเพื่อนผม และก็จะพยายามหาส่วนที่ยังไม่ดี บอกส่วนที่ต้องแก้ไขของผม บางเวลาที่ผมยังทำไม่ได้และเกิดท้อใจขึ้นมา รุ่นพี่ก็จะพยายามให้กำลังใจผมตลอดเลย


            "ขออีกรอบครับ!" ที่ผมยังมีกำลังใจฝึกได้อยู่จนถึงตอนนี้ ผมไม่ต้องบอก พวกคุณก็คงรู้ว่าเพราะใครนะครับ
            .

            .

            .

            .
            "ตื้ด!..ตื้ด!..ตื้ด!"สักพักเสียงโทรศัพท์ของรุ่นพี่ฟุบุคิก็ดังขึ้น


            "ฝึกไปก่อนนะ ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ก่อนแปปนึง"รุ่นพี่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วตะโกนบอกผม
     


            แล้วรุ่นพี่ก็เดินออกไปคุยโทรศัพท์ สักพักก็เดินกลับมาพร้อมกับรอยยิ้ม มีเรื่องอะไรดีๆกันนะเดินยิ้มมาเชียว ด้วยความสงสัยผมจึงเปิดปากถามออกไป


            "มีเรื่องอะไรดีๆหรือเปล่าครับเนี่ย"


            "มีสิ! แต่ว่าจะบอกหลังจากที่ฝึกเสร็จแล้วนะ" โหยย รุ่นพี่ทำไมต้องทำให้ผมตื่นเต้นด้วยเนี่ย


            "บอกตอนนี้ไม่ได้หรอ ผมอยากรู้แล้วนะ"ผมทำหน้ายู่นิดๆ ก็คนมันอยากรู้หนิ ทำไมชอบทำให้อยากรู้ แล้วก็ไม่ยอมบอกด้วยเนี่ยยยยย

     

            "เอาน่าๆ ถ้าฝึกเสร็จเมื่อไร จะบอกทันทีเลย จะได้มีกำลังใจในการฝึกด้วยไง" รุ่นพี่พูดพลางยื่นมือเรียวมาขยี้หัวของผม จนยุ่งไม่เป็นทรง

     

            แต่ว่านะกำลังใจในการฝึกของผมก็ยืนอยู่ตรงหน้าของผมแล้วนี่ไง ไอเรื่องพรรณนั้นเป็นกำลังใจในการฝึกของผมไม่ได้หรอกนะครับ-3-  รุ่นพี่ที่เห็นท่าทางของผมที่เหมือนจะไม่ยอมนั้น จึงพูดดักขึ้นมาซะก่อน

     

            "ถ้าทำตามที่บอก พรุ่งนี้จะเลี้ยงไอศกรีมแท่งนึงนะ" รุ่นพี่เล่นมุกนี้ได้ยังไงงงงง คิดว่าผมจะยอมหรือไงกันเนี่ย ไอมุกหลอกเด็กพรรณนี้น่ะ

     

             "ก็ได้ครับ" รุ่นพี่คิดถูกแล้วล่ะครับ!(อ่าวเห้ยยไหง่งี้ฟะ- -) ถึงผมจะอยากรู้มากเท่าไรนะ แต่ยังไงเถอะนะ ของฟรีก็ต้องมาก่อนอยู่แล้วล่ะ


            "โอเค! ดีมาก กลับไปฝึกต่อกันเถอะ"
            .


            .


            .

     
            .


            .
         ... 19.00 น. ...


            "วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะ"รุ่นพี่พูดแล้วเดินเข้ามาหาผม


            "แต่ว่า! มันยังไม่สำเร็จเลยนะครับรุ่นพี่ ผมอยากจะฝึกให้มันสำเร็จเร็วๆอะ"



            "เดี๋ยวก็ได้เจ็บตัวจริงๆหรอก..แล้วนี่มันก็เริ่มมืดแล้วนะ หิมะก็เริ่มตกแล้วด้วย"รุ่นพี่พยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้ผมเลิกฝึกต่อ คงเพราะตอนนี้สภาพผมมอมแมมไปทั้งตัวจนดูไม่ได้ บวกกับตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมืดและหิมะก็เริ่มโปรยปรายแล้วด้วย


            "ครับ..ตกลงครับรุ่นพี่"ตอนแรกก็ไม่ยอมหรอก...แต่พอเห็นรุ่นพี่ทำหน้าเป็นห่วงเราก็ดันเผลอคล้อยตามไปซะงั้น


            ต่อจากที่ผมรับคำนั้น ผมและรุ่นพี่ก็เดินกลับหอพักด้วยกัน พวกเราอยู่หอพักเดียวกันนะครับ แต่ว่าห้องของรุ่นพี่อยู่ชั้น 3 ส่วนห้องของผมจะอยู่ชั้น 4 ผมเลยขออาสาเดินไปส่งรุ่นพี่ถึงหน้าประตูห้อง ถึงรุ่นพี่จะปฏิเสธเพราะบอกว่าไปเองได้ไม่ต้องลำบาก หรือจะบอกว่าเกรงใจนั่นแหละ ถึงอย่างงั้นก็เถอะ แต่ผมอยากไปส่งนี่นา หลังจากเถียงกันได้สักพักผมก็เป็นฝ่ายชนะ ผมเดินขึ้นมาส่งรุ่นพี่ถึงห้อง แล้วรุ่นพี่ก็กล่าวขอบใจผมเล็กน้อยที่เดินมาส่ง


            "อ้อ เกือบลืมแหน่ะ! เรื่องที่จะบอกน่ะ"นี่ถ้าผมไม่เดินขึ้นมาส่งรุ่นพี่ คงไม่มีทางได้รู้ใช่มั้ยครับเนี่ย  หลังจากนั้นผมเลยรอฟังคำพูดที่รุ่นพี่จะพูดอย่างใจจดใจจ่อ

     

            " วันพรุ่งนี้จะมีการไปเข้าค่ายที่ไรมงกันเป็นเวลา 1เดือน! สนใจจะไปด้วยกันมั้ย ยูกิมูระ"


            "ห้ะะ! หนึ่งเดือนเลยหรอครับ" คำพูดของรุ่นพี่ทำเอาผมตกใจไม่น้อยเลยทีเดียว แหมก็โหตั้งหนึ่งเดือน อย่างนี้ผมก็มีเวลาอยู่กับรุ่นพี่สองต่อสองน้อยลงต้อง1เดือนแหน่ะ -3-


            "เอาน่าๆ สนุกแน่นอน รับรองเลย!"


            คำพูดล่าสุดของหนุ่มร่างบางผมสีหิมะดูท่าจะไม่ได้เข้าหูคนที่กำลังยืนก้มหน้าคิดอย่างหนักกับคำเชิญก่อนหน้านี้อยู่

     

            ถ้าเราไม่ไปก็ไม่ได้อยู่กับรุ่นพี่เลย เพราะยังไงรุ่นพี่ก็ต้องไปอยู่ดี แต่ถ้าไปก็มีโอกาสได้อยู่กับรุ่นพี่ถึงจะน้อยลงก็เถอะ แต่ถึงยังไงผมก็ต้องเลือกอย่างหลังอยู่แล้วล่ะ!


            "อา...ตกลงครับ"


            "โอเค!ตกลงนะ ดีมาก คืนนี้อย่าลืมเก็บของซะล่ะ พรุ่งนี้เจอกันที่สนามฝึก 6 โมงเช้านะ"

     

     

            "ครับๆ"


            รุ่นพี่หันหลังกำลังจะเดินเข้าไปในห้อง แต่แล้วรุ่นพี่ก็หันกลับมายิ้มให้ผมและบอกคำคำนึง คำที่ทำให้ผมนั้นหลับฝันดีไปได้ทั้งคืนเลยล่ะ


            "ราตรีสวัสดิ์นะ! ยูกิมูระ"
     

            .

            .

            "ครับ! ราตรีสวัสดิ์ เช่นกันครับ" 







    ถ้าภาษาแปลกๆ ก็ขอโทษด้วยนะคะ ยังมือใหม่อยู่ค่ะ
    ฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ 



    cinna mon
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×