คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : :+: ความรู้สึก&คราบน้ำตา:+:
ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงบริษัทสักที หลังจากที่ทั้งคู่ต้องติดแหงกอยู่บนรถนานร่วมชั่วโมง
สีสม ไม่ว่าวันไหนรถก็ติด แต่อย่างน้อยตาลก็ดีใจอย่างหนึ่ง ที่อย่างน้อยเขาก็มีเพื่อนร่วมทาง
ที่แสนน่ารัก (ไม่เห็นก็ชมแล้ว....เจ้าชู้จริง) เมื่อรถจอดสนิทแล้วเขาหันไปทางเบาะข้างคนขับ
เขาอดส่งเสียงอุทานด้วยความแปลกใจไม่ได้ เขายิ้มกว้างก่อนที่จะส่งเรียดเธอ
“ถึงแล้วครับน้ำ.....ตื่นเถอะ” เขาเรียกหน้าตาของเขาปิดความดีใจครั้งนี้ไม่มิด ทำเอาหญิงสาว
แปลกใจจนต้องเอ่ยถาม
“เป็นอะไรคะ....หน้าตาดีใจจัง”
“ผม....เห็นคุณแล้วน่ะสิ แต่ก็แค่ลางๆนะ”
โอ๊ยขนาดลางๆยังดูดี ตัวจริงจะขนาดไหนว่ะ ชักอยากเห็นแล้วสิ
“หรอคะ ดีใจจังเลย แค่นี้น้ำดีใจแย่แล้วละค่ะ” เธอเองก็อยากให้เขาเห็นเธอที่สุดเหมือนกัน
ไม่รู้ทำไม ต่อให้ใครต่อใครไม่เห็นเธอ ขอแค่เขาผู้ชายตรงหน้าคนนี้เห็นเธอก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว
“ผมว่าอีกไม่นาน ผมต้องเห็นคุณได้แน่ๆ ผมหวังอย่างนั้น”
“ค่ะน้ำก็หวังอย่างนั้น.....เหมือนกัน”
“เราไปกันเถอะครับ.....คุณจะได้ไปพักที่ห้องไง” ตาลนำหน้าน้ำเดินขึ้นตึกไปโดยมีน้ำตามไปห่างๆ
ตาลเดินมายังห้องทำงานของเขา แล้วนำเข้าไปในห้องก่อน สายน้ำสะดุดกับป้ายหน้าห้อง
“พสธร คุณารัฐกิจ ประธานกรรมการ เอ๊!! คุ้นชื่อนี้จังเคยได้ยินที่ไหนนะ หล่อนคิด แต่แล้วหล่อนก็วางความคิดนั้นลงก่อนจะเดินตามชายหนุ่มเข้าไป ห้องของเขาอยู่บนชั้น15ของตึกหลังนี้ เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่พอสมควร และของในห้องถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ และสิ่งที่สะดุดตาหญิงสาวคือ
ทุกอย่างในห้องส่วนมากจะเป็นสีขาว ไม่ว่าจะเป็นโซฟา สีผนัง โต๊ะทำงานหรือแม้แต่ปากกา
“ท่าทางตาลหลงใหลสีขาวๆมากๆนะคะ ” เธอพูดขณะหยิบปากกาสีขาวขึ้นมาดู
แล้วเลขาของชายหนุ่มก็เดินเข้ามาพอดี เป็นจังหวะเดียวกับที่เห็นปากกาลอยได้ ทำเอาเธอหน้าซีด
“ปากาลอยได้ กรี๊ดดดดดดดดดด!!” เธอร้องพลางชี้มือไปที่นั่น สายน้ำตกใจรีบเอาปากาวางลงที่โต๊ะดังเดิมทันที
“คุณพิมครับ....ตาฝาดแต่เช้าเลยนะครับ เห็นไหมมันไม่ลอยสักหน่อย” เธอหันไปกู้สถานการณ์
“ประทานโทษค่ะคุณตาล.....สงสัยคงละเมอไปเอง” เธอมองปากามองแล้วมองอีกก็เห็นมันวางบนโต๊ะอย่างเธอ เธอจะคิดอย่างไรได้นอกจาก หลอน ไปเอง
“รับชา หรือ กาแฟ ดีคะ” เลขาสาวหันไปถามต่อ
“ขอชาสักแก้วพอ ผมทานกาแฟมาแล้ว ขอบคุณ” เขาตอบแล้วเลขาสาวก็ก้าวออกจากห้องไป
“ฉันขอโทษ....ฉันไม่ได้ตั้งใจ” เกือบทำเขาลำบากอีกแล้ว ซุ่มซ่ามจริงๆขนาดเป็นคนก็ซุ่มซ่ามเป็นวิญญาณยังไม่ละความซุ่มซ่ามอีก จริงๆเลยฉัน
“อย่าคิดมากสิครับ แต่ระวังนิดละกัน เดี๋ยวเลขาผมจะช็อกเอา” เขาหัวเราะ
“ตามสบายนะ ถือว่าห้องของผม เหมือนของคุณแล้วกัน” เขาพูดขณะที่นั่งที่โต๊ะทำงาน
“ค่ะ ขอบคุณนะ แค่คุณพาน้ำออกมาก็ดีใจมากแล้วละค่ะ” เธอพูดหากแต่ไม่ละสายตาไปจากวิวที่เธอกำลังมองอยู่ เวลาเคลื่อนผ่านไปโดยมีน้ำทำโน่นทำนี้ไปเรื่อยเปื่อย เธอแอบมองเขาเป็นระยะ
เวลาตาลทำงานเขาเงียบจริงๆแทบไม่พูดกับเธอเลย แต่ก็เงยหน้าจากกองเอกสารมายิ้มให้เธอเป็นระยะ ส่วนน้ำก็เหมือนจะใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งให้กำลังใจเขาอยู่ที่โซฟามุมห้องตลอดเวลา
เธอรับรู้ได้ถึงสัมผัสบางอย่าง อ่อนที่จะทำลายความเงียบนั้นลง เธอเดินไปหาเขาพลางก้มลงกระซิบเบาๆที่ข้างหูของเขา
“เพื่อนใกล้คุณมาถึงหน้าห้องแล้ว ฉันไม่อยากให้คุณเผลอพูดกับฉันเดี๋ยวเพื่อนคุณมาได้ยิน”
แล้วเธอก็เห็นเขาพยักหน้าน้อยๆ ก่อนที่จะกลับไปนั่งที่โซฟานุ่มๆตัวเดิม
“สวัสดีนัท.....เข้ามาสิ” ยังไม่ทันทีนัทจะก้าวเข้าไปในห้องเสียงเพื่อนของเขาก็ดังออกมาเรียกเขาซะแล้ว “มันรู้ได้ไงวะ แปลกจริง“ นัทพูดกับตัวเอง ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป
“แกรู้ได้ไงว่าฉันมา” นัทถาม
“มีคนบอกแล้วกัน ไม่ต้องรู้หรอก” เขาพูดพลางส่งยิ้มหวานให้หับโซฟา
“เฮ้ย ไม่สบายเปล่าว่ะ ยิ้มให้โซฟาอยู่ได้” นัทพูดพลางแตะที่หน้าผากตาลเบาๆ ทำเอาหญิงสาวยิ้มอีกรอบที่เห็นเพื่อนซี้สนทนากันอย่างออกรส
“บ้าสบายดี มาๆนั่งๆคุยเรื่องาน” ตาลพูดพลางพลักเพื่อนไปนั่ง
“ฉันมีข่าวมาบอกแก เอาเรื่องไหนก่อนมีข่าวดีและข่าวร้าย”
“ดีก่อนสิ ว่ามา” ตาลพูดด้วยสีหน้าจริงจัง สายน้ำเดินตรงมาที่ชายหนุ่มและกระซิบเบา
“น้ำไปรอข้างนอกนะคะ คุณจะได้คุยงานกัน” เขาส่ายหน้าแต่ดูเหมือนเธอจะไม่ฟังจึงหันไปกระซิบกับเธอ ”ไม่ต้องครับไปนั่งเถอะครับ ว่าง่ายๆสิคนดี”
ทีนี้สายน้ำก็ว่าง่ายขึ้นมาทันทีกลับไปนั่งที่เดิมของเธอิ ตามคำสั่งที่อ่อนโยนของเขา
“แกกระซิบอะไรวะ....” นัทพูดเมื่อเห็นเพื่อนรักพึมพำอยู่คนเดียว
“เปล่า ว่ามาไหนข่าวแก” ตาลเปลี่ยนเรื่อง หันมาสนใจข่าวของเพื่อนต่อ
“ข่าวดี ฉันติดต่อที่เอลเอเรื่องส่งเพชรได้แล้ว ฉันจะให้บริษัทแกส่ง โอเคมั้ย”
“ได้สิ ไม่มีปัญหา เงินน่ะมีหรือจะไม่เอา” ตาลหัวเราะและตบบ่านัทเบาๆ
“แล้วข่าวร้ายน่ะ แย่มากมั้ย”
“ก็แย่นะ สำหรับแก เรื่องมีอยู่ว่า ยัยนุชมันโทรมาบอกฉันว่า เจอแฟนแกที่ฝรั่งเศส หล่อนบอกว่าจะมาหาแกที่นี่” สีหน้าของตาลแสดงให้เห็นชัดว่าเขาไม่สบายใจอย่างมาก
แววความเสียใจฉายขึ้นแวบหนึ่งบนดวงตาของเขาก่อนจะจางหายไป แต่เขาก็ไม่สามารถปิดบัง
สายน้ำที่เฝ้าดูเขาตลอดชนิดไม่คลาดสายตา ทั้งคู่สบตากันหากแต่เพียงชั่วครู่ แล้วหญิงสาวก็
ก้าวออกจากห้องไป
เขาอยากตามเธอไปเหลือเกิน หากแต่ทำเช่นนั้นไม่ได้เขาจึงหันไปสอบถามนัทต่อ
“แกมั่นใจนะ.....เรื่องเชอร์รี่น่ะ”
“มั่นใจสิ.....ถึงมาเตือนแกก่อนไง ระวังให้ดีแล้วกัน”
นัทพูดสายตาของเขาที่มองเพื่อนรักบ่งบอกถึงความกังวลและห่วงใยไม่น้อย
“ขอบใจมาดที่มาบอก” ตาลยิ้มเจื่อนๆ
“มาบอกเท่านี้แหละ ฉันต้องรีบกลับ มีอะไรก็โทรไปได้นะ”
แล้วนัทก็หายไปอีกคน ทิ้งให้ตาลอยู่เพียงลำพัง
........................................................
“ทำไมนะฉันต้องวิ่งออกมาด้วย เขาไม่ได้เป็นแฟนฉันสักหน่อย แฟนเก่าเขามามันเกี่ยวอะไรด้วย”
เธอพูดกับตัวเองด้วยน้ำตาคลอเบ้า เธอปาดน้ำตา น่าแปลกทำไมเธอถึงร้องไห้ล่ะ
ความเข้มแข็งของเธอหายไปไหน สักวันเราก็ต้องจากกันทำไมต้องเสียใจ
ทำไมต้องนึกถึงเขาด้วย เธอพยายามต่อสู้กับความคิดของตัวเอง หากแต่ตอนนี้เธอไม่มีแรงพอ
เธอจึงปล่อยให้น้ำตาค่อยๆรินไหลเพื่อชำระล้างความเศร้าโดยไม่ทราบสาเหตุของเธออกไป
“น้ำหายไปไหนมารู้มั้ยตาลห่วงน้ำแค่ไหน”
เขาพูดสีหน้าของเขาดูร้อนรนและไม่สงบเหมือนที่เคยเป็น
“ไปเดินเล่นมาค่ะ กลับกันเถอะ น้ำเหนื่อยอยากพัก”
เธอพูดเสียงสั่นระริกหากแต่พยายามสะกดน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ชายหนุ่มรู้
แต่เธอก็ไม่สามารถปกปิดเขาได้ ถึงแม้เขาเห็นเพียงลาง แต่จากที่เขาเห็นและได้ยิน มันบอกเขา
ว่าเธอร้องไห้มาอย่างหนัก
“กลับกันครับ น้ำอย่าร้องไห้สิ” ตาลพูดขณะที่นั่งอยู่ในรถ บรรยากาศอึมครึมก่อเกิดขึ้นในใจของเขาและเธอมากขึ้นทุกทีๆ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อย่าสนใจเลย มันไม่เกี่ยวกับคุณ” เธอตะคอกใส่เขา
“ได้ผมไม่ยุ่ง ต่อไปนี้อยากทำอะไรตามสบายเลย” เขาเอ่ยเสียงแข็ง
....ใช่สิเรามันไม่เกี่ยวกัน แฟนคุณกำลังจะมา เดี๋ยวคุณก็ลืมฉัน น้ำคิดพลางร้องไห้เงียบ.....
.......................................
ผู้อ่านที่รัก.....รบกวนคอมเม้นหน่อยจ้า อยากรู้ว่ามันดี/ไม่ดีตรงไหนอ่าค่ะ
ขอบคุณ จุ๊ฟๆ!!! *o*
ความคิดเห็น