ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : 6
กลับมาละจ้า5555555555555555 แว้บมาแว้บไป แว้บไปแว้บมา ลงให้เท่านี้ก่อนนา
06.15 น.
กริ้งงงงง กริ้งงงงงง
เสียงนาฬิกาปลุกแผดเสียงร้องดังมาจากหัวเตียง ทว่าไม่มีหญิงสาวคนไหนมีท่าทีจะตื่นนอนเลยแม้แต่คนเดียว และมันคงจะร้องดังอยู่อย่างนั้น จนกว่าจะมีใครสักคนลุกไปปิดมัน
"อืม... ใครสักคนลุกไปปิดที" เจ้านาฬิกาปลุกพอจะใจชื้นขึ้นมาบ้าง หลังจากเห็นผ้าห่มของโดนัทขยุกขยิกไปมา แต่สุดท้ายความหวังของมันก็ดับลง เพราะหลังจากที่โดนัทพูดจบนั้น เธอก็เข้าสู่นิทราไปอีกครั้ง และมันก็คงต้องคอยเวลาสักพัก ให้เสียงดับไปเอง...
เวลาผ่านไป...
"ฮ้าวว เมื่อยตัวเป็นบ้าเลย ทำไมมันปวดขนาดนี้" ในที่สุดสาวน้อยนามลาเต้ก็ตื่นขึ้นก่อนเพื่อนๆเช่นทุกครั้ง เธอหันไปมองที่หัวเตียงของเธอ ก่อนจะเบิกตากว้าง ปากพะงาบๆ
"พวกแก!!! นี่มันจะแปดโมงแล้วววว ตื่นโว้ยย ตื่นนน" ท่าทางลาเต้จะจำได้ว่าเมื่อคืนพวกเธอนัดกันตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะได้ออกกำลังกาย เธอตะโกนปลุกเพื่อนๆลั่นห้อง แต่ไม่มีเพื่อนคนไหนขยับตัวกันเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายคงต้องใช้มาตราการขั้นสูงสุด...ปรับทัศนคติ!
"ไอ้พวกคุณนายตื่นสาย! ตื่นนน ไม่งั้นแม่จะด่าเรียงตัว บ่นกรอกหูตั้งแต่เช้ายันเย็นนะโว้ยยย" ณ จุดๆนี้ ขอบอกว่า ลาเต้ไม่ขอทนอีกต่อไป เธอมักจะกลายร่างจากสาวน้อยดวงตาใสซื่อ สุดแสนจะขี้อาย เป็นคุณนายแม่ได้ทุกเช้า เนื่องจากเพื่อนๆของเธอมีความขี้เซามากถึงมากที่สุด หากวันไหนพวกเธอตื่นสายขนาดนี้ล่ะก็ เตรียมตัวโดนคุณนายแม่เรียกไป 'ปรับทัศนคติ' ตามที่เพื่อนๆตั้งให้ได้เลย
การปรับทัศนคติตามที่เพื่อนๆตั้งให้นั้น คือการที่ต้องทนฟังเสียงบ่นเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง โดนใช้ให้ทำงานบ้านกันคนละอย่าง ชดใช้ที่พวกเธอตื่นสาย เพราะลาเต้คิดว่า เวลาที่นอนตื่นสายนั้น สามารถทำอะไรได้หลายอย่างเลยทีเดียว รวมถึงการออกกำลังกายวันนีี้ด้วย...
"จะตื่นไม่ตื่น ไอ้พวกขี้เซา" ลาเต้เริ่มถามอย่างใจเย็น แต่ขอโทษเถอะ ข้างในเริ่มระอุละนะ
"นับ 3"
"2"
"1"
พรึ่บ! เสียงตลบผ้าห่มดังขึ้นพร้อมกันทันที หลังสิ้นเสียงนับหนึ่งของลาเต้ เพื่อนๆของเธอรู้ดีว่า การแกล้งหลับต่อไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก แต่ถึงแม้จะต้องตื่นอย่างไม่เต็มใจ ก็ยังดีกว่าต้องปวดหูและปวดหลังจากการทำงานบ้านล่ะวะ!
"ตลอดอะพวกแก ไหนว่าจะตื่นเช้ามาออกกำลังกายกันไง นี่มันจะแปดโมงอยู่ละนะ"
"แก มันเมื่อยมากเลย ปวดไปหมด ไม่ไหวอะ" เสียงโอดครวญของพายลอยมาเข้าหูลาเต้ ก่อนที่เธอจะหันหน้าไปทางคนพูด พร้อมถอนหายใจ
"เฮ้อ ฉันก็เมื่อย แต่มันคือหน้าที่ อีกอย่าง มันก็ปวดแค่ช่วงแรกแหละ เดี๋ยวถ้าเราทำต่อเนื่อง มันก็จะชิน ที่เราปวด ก็เพราะร่างกายเราไม่เคยทำอะไรอย่างนี้ไง มันไม่ชิน เราต้องพยายามทนนะแก"
"ไปๆ แยกย้ายกันเก็บที่นอน ฉันจะไปเอาน้ำเปล่ามาให้ เดินกลับมาละใครยังเก็บไม่เสร็จ ไปวิ่งข้างล่างสองรอบ เข้าใจไหม?!"
"เข้าใจจ้า/จ้า/ได้จ้ะ"
คล้อยหลังลาเต้ พาย โดนัท และลาวา ที่ยังไม่ตื่นดีนักก็รีบกระโดดลงจากเตียง พับเก็บที่นอนอย่างรวดเร็ว อะไรที่มันทำให้ลาเต้หายหัวร้อนได้ ก็ควรรีบทำ ใครมันจะไปอยากวิ่งล่ะ แค่นี้ก็ปวดจะแย่
"เอ้า น้ำ กินให้หมดนะ นายมอคค่าสั่งมา"
"เออ แกเป็นคู่หูกับมอคค่าใช่ไหม เป็นยังไงบ้าง"
"กะ ก็...ก็ไม่เป็นไง เขาก็รุ่นเดียวกับเราแหละ ไม่เห็นมีอะไรเลย ไม่มี ไม่มี" เอาล่ะ ลาเต้ขี้อายคนเดิมกลับมาแล้วสินะ ว่าแต่ทำไมเธอต้องพูดตะกุกตะกักด้วยนะ!
"ไม่มีอะไรแล้วหน้าแดงทำไมอะ" ลาวาเห็นลาเต้พูดตะกุกตะกัก หูแดงหน้าแดงก็เริ่มแหย่เพื่อนรัก
"ไม่มีอะไร! ไปอาบน้ำกันเดี๋ยวนี้เลย! ไปๆๆ"
"อะไรวะ เขินเหรอเพื่อน"
"จะไปไหม ไม่งั้นจะให้ไปวิ่งแทนนะ"
"ไปจ้า ไม่ถามแล้วจ้า"
หลังจากไล่ให้เพื่อนๆไปอาบน้ำแต่งตัวแล้ว ลาเต้เองก็กลับมาคิดว่าจะไปอายอะไร นายนั่นไม่เห็นมีอะไรเลย นอกจากหน้าตาดีแล้ว ยังพูดมากอีกต่างหาก แต่เอ้ะ...หน้าเราแดงจริงๆเหรอ! เธอสะบัดหัวสองสามทีก่อนจะย้ายร่างกายตัวเองเตรียมของที่จะออกไปข้างนอกในวันนี้
ถ้าถามว่าทำไมสี่สาวถึงดูมีเวลาว่างมากถึงขนาดเข้านอกออกในโรงเรียนได้สบาย เหมือนไม่มีการเรียนการสอนที่โรงเรียนนี้ ก็เพราะมันเป็นช่วงปิดเทอมน่ะสิ! พวกเธอเพิ่งปิดภาคเรียนไปเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง แต่ถึงอย่างนั้น ทำไมไม่กลับบ้านหาครอบครัว ขอบอกเลยว่า... ครอบครัวสั่งมาจ้า ไม่ต้องกลับบ้านจนกว่าจะมีคำสั่งเรียกให้กลับ ไม่ก็จนกว่าพวกเธอจะจบจากโรงเรียนนี้เท่านั้นแหละ แต่พวกเธอชินแล้วล่ะ อยู่กันสี่คนแบบนี้สบายใจดีออก ดีกว่าต้องออกข้างนอกให้บรรดาญาติๆเหน็บแนม อวดลูกอวดรวยให้ฟัง น่าเบื่อจะตาย!
"เสร็จละจ้า" เสียงร่าเริงของลาวา สาวน้อยมากความสามารถ โดยเฉพาะความแสบความซน บอกเลยลาวาคนนี้ลาวาสมชื่อจริงๆ ไปทางโน้นทีทางนี้ที ก็สามารถทำให้คนอื่นหัวร้อนได้สบาย
"วันนี้พวกฉันขี้เกียจทำกับข้าวอะ เมื่อยตัวมาก เราลงไปหาอะไรกินที่โรงอาหารดีกว่าไหม ป่านนี้น่าจะยังมีอะไรให้กินพอประทังชีวิตอยู่นะ" โดยปกติแล้วหอพักของนักเรียนทุกห้องจะมีครัวในตัว เนื่องจากท่านผอ.ของโรงเรียนนี้เห็นว่าการให้เด็กๆหัดทำอาหาร ทำขนมกินที่ห้องบ้างก็เป็นสิ่งที่ดี จะได้พอจะมีฝีมือทำอาหารให้ตัวเองไม่อดตายในอนาคต... ว่างั้นก็ได้
จริงๆแล้วพายกับโดนัทพอจะมีทักษะการทำอาหารอยู่พอสมควร พวกเธอมักจะไปร่วมกิจกรรมกับชมรมทำอาหารอยู่เสมอ ลาวากับลาเต้จึงเลือกให้สองคนนี้รับหน้าที่ทำอาหารไปโดยปริยาย แต่เพราะผลกระทบจากการออกกำลังกายเพียงครั้งเดียว ทำให้พวกเธอเลือกที่จะไม่ทำอะไรเลยในวันนี้ และเกลี้ยกล่อมให้เพื่อนๆอีกสองคนลงไปหาอะไรกินข้างล่างแทน
"เอางั้นก็ได้ แต่เดี๋ยวฉันแยกไปเดินเล่นต่อนะ แล้วเจอกันที่ห้องอาหารว่างเหมือนเดิม"
"ฉันก็กะว่าจะไปห้องสมุดยืมหนังสือสักเล่มสองเล่มเหมือนกัน"
"อย่างแกเหรอลาวา จะไปห้องสมุดยืมหนังสือ เรียกว่าไปหาที่เย็นๆนอนมากกว่าไหม"
"แหม รู้ทันตลอดไอ้พาย แกก็ไม่ต่างกับฉันไหม"
"พอๆหิวแล้ว ตอนนี้เราควรลงไปกินข้าวก่อน นี่มันจะแปดโมงครึ่งแล้วเพื่อนเอ้ยย"
สิ้นเสียงตัดจบของโดนัท สี่สาวไม่พูดพร่ำทำเพลง ต่างคนต่างเดินไปเก็บของเตรียมตัวลงไปกินอาหารเช้ากันทันที
ห้องอาหารของโรงเรียนนั้นอยู่อาคารถัดไปจากหอพักของพวกเธอ ใช้เวลาเดินเพียงห้านาที ก็ถึงแล้ว เมื่อเปิดประตูเข้ามาฝั่งซ้ายจะเป็นฝั่งอาหาร เด็กนักเรียนที่นี่สามารถหยิบถาดและเดินไปหาแม่ครัว และเลือกอาหารที่ตัวเองอยากกินอยู่หลังตู้กระจก ให้แม่ครัวตักให้ ส่วนฝั่งซ้ายนั้นจะเป็นฝั่งเครื่องดื่ม ที่นี่จะมีตู้น้ำมากมายวางเรียงราย ภายในมีน้ำรสชาติต่างๆให้นักเรียนรวมไปถึงบุคลากรภายในโรงเรียนได้เลือกดื่ม และตอนนี้สี่สาวก็ได้เข้ามาภายในห้องอาหารแล้วเรียบร้อย และทันใดนั้นเกือบทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่พวกเธอ ก่อนที่คนเหล่านั้นจะหันไปซุบซิบถึงหน้าตา การแต่งกาย โดยเฉพาะแว่นตาอันใหญ่หนาเตอะของสี่สาว อย่างไรก็ตามขอบอกเลยว่าพวกเธอเห็นจนชินเสียแล้ว ลาวาผู้ดูเหมือนหิวโหยมากที่สุดรีบเดินตรงไปหยิบถาดและก้าวยาวๆไปมุมตักอาหารทันที ตามมาด้วยโดนัท พาย และลาเต้
ขนาดพวกเธอนั่งกินข้าวอยู่ตรงนี้ เสียงนกเสียงกาก็ยังซุบซิบเรื่องหน้าตาของพวกเธอไม่หยุด และดูท่าทางจะดังขึ้นเรื่อยๆด้วย แม่จะทนไม่ไหวนะ จะเม้าก็เม้าไปสิ แต่ให้พวกเธอกินข้าวสงบๆได้ไหม ลาวาชักจะทนไม่ไหวละนะ!
ปึก!
สิ้นเสียงวางช้อนส้อม(อย่างรุนแรงในสายตาคนอื่น)ของลาวา ทั้งห้องอาหารเงียบเสียงลงทันที แต่ลาวาหาได้แคร์ไม่ เธอลุกขึ้นไปเก็บจาน ก่อนจะกลับมาบอกเพื่อนๆว่าจะไปห้องสมุด หาที่เงียบๆนอนสักหน่อย คล้อยหลังไปไม่นานสามสาวที่เหลือก็รีบลุกไปเก็บจาน และแยกย้ายไปทำธุระของตัวเองทันที โดยที่มีสายตาของคนในห้องมองตามตลอดเวลา จนกระทั่งร่างของลาเต้ผู้เดินเป็นคนสุดท้ายลับหายไปนั่นแหละ สถานการณ์ภายในห้องจึงกลับเข้าสู่ปกติ เว้นเสียแต่ว่ามีประเด็นให้คุยมากกว่าเดิม นั่นคือ 'อารมณ์รุนแรงของลาวา' จะไม่เป็นอะไรเลยถ้าพวกปล่อยข่าวการวางช้อนส้อมที่ออกจะรุนแรงนั้น ปล่อยข่าวอย่างไม่ใส่สีตีไข่ แต่ดูท่าการแต่งเรื่องให้ลาวาเป็นคนอารมณ์ร้ายจะสนุกในสายตาคนอื่นไม่น้อย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น