ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Memory evil สละหัวใจคุณชายแวมไพร์ต้องห้าม

    ลำดับตอนที่ #2 : Memory2

    • อัปเดตล่าสุด 15 มิ.ย. 55


    ย้อนกลับมาเวลาปัจจุบัน

                    ใช่แล้วล่ะที่ๆฉันกำลังเดินหาทางออดอยู่นี้กำลังเดินหาทางออกไปโรงเรียนที่ฉันกับคิมบัสย้ายมาเพราะระหว่างทางรถก็มาเสียซะได้คนขับรถบอกให้พวกราเดินต่อมาไม่ไกลแต่นี้ได้ข่าวว่าฉีนเดินมาเกือบข้ามคืนแล้วน่ะ-_-^^

                    ‘’พักกันหน่อยแล้วกันน่ะมาเนียฉันเดินต่อไม่ไหวแล้วล่ะ’’สีหน้าของคิมบัสเหนื่อยอ่อนอย่างเห็นได้ชัด

                    ‘’ได้สิงั้นเธอนั่งพักอยู่ตรงนี้ก่อนน่ะฉันจะลองไปสำรวจรอบๆนี้แปปนึง’’

                    ‘’อืม งั้นเธอก็อย่าเดินไปไกลนักล่ะ’’ คิมบัสนั่งลงบนขอนไม้ที่นอนอยู่ข้างทาง

                    สวบๆๆๆ มาเนียเดินออกไปทางด้านหลังที่คิมบัสนั่งอยู่

                    ว้าวทำไมทางนี้ช่างแตกต่างจากวิวทางนู้นนักน่ะ ดอกไม้กับผีเสื้อเต็มไปหมดเลยสวยจัง อ้อ!นั่นอะไรน่ะปราสาทนิ นั้นมันคือยอดปราสาทแน่ๆ แต่นี่มันเมืองไทยน่ะจะมีปราสาทได้ยังไงแถมยังอยู่ในป่าลึกด้วย เดินเข้าไปดูดีกว่า

                    ตึกๆๆๆ

                    St.Immortal High School

                    ชื่อโรงเรียนที่ฉันต้องย้ายมาอยู่นิ เห้ยจะเป็นไปได้ยังไงกัน นี่มันปราสาทร้างชัดๆอ่ะ มีแต่ก้อนอิฐตั่งตะหง่านเท่ากับตึก10กว่าชั้น แต่ดูไปดูมาก็ดูสวยแอบขนลุก แต่เอ๊ะ นั่นใครน่ะเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ผมสีเทาปนดำปนยุ่งนิดๆ จมูกโด่งยังกับไปยัดซิลิโคนมา(ต้องใช่แน่ๆเลยอ่ะ) ทำไมปากถึงได้ซีดหนักน่ะริมฝีปากบางราวกับผู้หญิงดูSexyที่ซู๊ด หน้าเรียวรับกับดวงตาที่เรียวเล็กดูมีเสน่ห์มากๆ คอก็ข๊าว..ขาววๆๆ ใส่ชุดเสื่อเชิ๊ดตัวในสีขาวทับกับสูทและกางเกงสีดำ อ๊ายยยเขาเป็นใครกัน>/////< หล่อที่สุดดดด

                    ‘’เธอ เป็นไปไม่ได้เธอจะมาได้ยังไงกันอินคริส…’’ ผู้ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแววตาสั่นระริก

                    ‘’เอ่อ..อฉันไม่ใช่อินคริสอะไรนั่นด้วยแล้วอันที่จริงฉันหลงทางมาแล้ว..วอันที่จริงฉันกำลังจะกลับตะ..แต่ว่าที่นี่มันคือโรงเรียนที่ฉันกำลังจะมาพอดี คงไม่ได้รบกวนนายหรอกน่ะ’’ การพูดกับผู้ชายหล่อๆๆนี่เป็นอุปศักย์ต่อฉันซะจริงๆๆ ฟู่ๆๆ ใจเย็น แต่เอ๋เมื่อกีเค้าเรียกฉันว่าอินคริสอย่างงั้นหรอแล้วทำไมแววตาเค้าถึงได้เศร้าสร้อยขนาดนั้นล่ะ

                    เอ่อ..ฉันจำผิดคนน่ะ แล้วเมื่อกี๊เธอพูดว่าอะไรน่ะ อย่าบอกน่ะว่าเธอคือนักเรียนแลกเปลี่ยนที่จะมาอยู่ที่นี่เค้าพูดเสียงเย็นไม่แสดงอารมย์ใดๆที่ฉันสามารถจะเดาได้เลย

                    อืม..ใช่ฉัน.นเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่จะมาอยู่ที่นี่ ฉันชื่อมาเนียแล้วนาย…”

                    “เธอไม่จำเป็นที่จะต้องรู้อะไรเกี่ยวกับฉันในตอนนี้หรอก เราคงต้องได้เรียนรู้กันอีกนาน.’’ เขามองตาฉันอย่างเย็นยะเยือก ราวกับเกลียดฉันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน

                    ‘‘งั้น..ฉันขอไปรับเพื่อนของฉันก่อนน่ะนาย’’

                    หึ เพื่อนอย่างนั้นหรอ คิดว่าเพื่อนของเธอที่ชื่อคิมบัสยังมีชีวิตอยู่อีกรึไง เขามองด้วยสายตาท้าทาย

                    นาย..นายทำอะไรเพื่อนของฉันแล้วนายรู้จักเพื่อนของฉันได้ยังไง!”ในสองของฉันในตอนนี้เต็มไปด้วยความว่างเปล่า นายนี่เป็นใครกันแล้วรู้จักกับเพือนของฉันได้ยังไง..?

                    ไม่ต้องรู้หรอก จับตัวเธอไป…!”

                    สิ้นเสียงคำสั่งคนมากมายมายห้อมล้อมรอบตัวฉันไปหมด พวกเขาสวมชุดสีดำปิดข้อเท้ามิดชิด หน้าตาซีดเซียวปราศจากเลือดฝาด ผมเผ้ารกรุงรังเป็นสังกะตัง เล็บมือยาวเฟือยสีดำแลดูสกปก

                    กรี๊ดดดดดดดดด! ปล่อยฉันน่ะปล่อยฉันเดี๋ยวนี้พวกแกจะทำอะไรฉันฉันแหกปากดังลั่นป่าโดยไม่สนว่าใครหน้าไหนจะมาด่าก็ตาม ถึงตอนนี้จะมีใครมาด่าฉันฉันก็ไม่สนใจทั้งนั้นล่ะชีวิตฉันต้องมาอันดับแรกทั้งนั้นแหละ

                    หุบปากได้แล้ว!!เจ้ามนุษย์เสียงดังหนวกหูน่ารำคาญ ไม่ต้องเอะอะโวยวายเสียทีจะได้ไหมฉันเตือนเธอแล้วน่ะ 

                    ไม่! ฉันไม่มีวันหยุดร้องแน่ๆถ้าหากนายยังไม่ปล่อยให้พวกของนายปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ตาบ้าเอ๋ยคิดว่านายเป็นใครกันบังอาจมาจับฉันได้ ขืนถ้าฉันโดนจับตัวไปอีกคนฉันก็ออกตามหาคิมบัสไม่ได้ล่ะสิ ฉันไม่มีวันเชื่อคำพูดของนายแน่ๆ

                    หยุดพูดมากได้แล้ว!จับตัวเธอไปข้างในได้เลย เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น มองมาที่เธอด้วยหางตา

                    ปล่อยฉันน่ะ!ฉันเดินเองได้ยังไงที่นี่ฉันก็ตั้งใจจะมาที่นี่อยู่แล้ว ไม่รู้ว่าจะหนีไปทำไมเหมือนกัน!”

                    ฮึ! เธออย่าดีแต่ปากไปเลย กี่คนแล้วที่พูดอย่างนี้เป็นต้องหนีไปทุกราย เอาตัวเจ้ามนุษย์นี่ไปได้แล้ว เพี้ยง!”ชายหนุ่มพูดจบยังไม่วายพ่นเวทย์ใส่หญิงสาวให้นิ่งไปไม่ให้สามารถพูดโต้ตอบได้แล้วค่อยจึงหันหลังเดินไปเบื้องหลังที่เป็นปราสาทอันสูงใหญ่แลดูลึกลับน่ากลัว

                    จากทางเดินที่ปูไปด้วยหินกรวดสีดำมืดหม่นนำทางไปยังตัวประสาทที่ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ศึกษาที่มีคนอยากเข้าไปมากที่สุด ตามทางปลูกกุหลาบสีแดงสดเป็นรั้วประดับมาถึงยังหน้าประตู

                    ในตัวประสาทประดับไปด้วยโคมไฟที่ห้อยระย้าลงมาหลากหลายโคม ม่านสีแดงเลือดหมูประดับตามหน้าต่างที่สูงยาวเกือบเมตร เทียนไขมากมายหลากหลายเล่มถูกจุดบนเชิงเทียนประดับรอบตัวปราสาท ถึงแม้จะมีแสงไฟมากมายแต่ก็ไม่อาจทำให้ปราสาทหลังนี้ลดความน่ากลัวและวังเวงลดน้อยลงไปเลย ตามทางปูไปด้วยพรมแดงผืนยาวขึ้นไปบนบันไดที่ทำจากหินอ่อนสีขาวนวล

                    ฉันถูกลากปนกระชากตั้งแต่เข้ามาในตัวปราสาทตอนนี้อีตาบ้านี่พาฉันขึ้นมาตามบันไดวนที่มีหลายแยกมากมาย นี่มันโรงเรียนหรือเมืองกันแน่นะระหว่างทางที่ฉันถูกดึงมานี่ฉันผ่านไปมาตั้งหลายห้องแต่ไม่มีวี่แววว่าเขาจะหยุดที่หน้าประตูห้องไหนเลย นี่ฉันปวดขาแล้วน่ะ -_-*

                    ถึงแล้ว..อย่าทำตัวให้มากเรื่องละ อ้อ..แล้วก็อย่าคิดว่าเธอจะหนีออกไปจากที่นี่ได้จนกว่าจะจบเทอมตามหลักสูตรที่โครงการแลกเปลี่ยนบอกไว้เขาพูดหน้านิ่งแววตาเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่อืมม..เกือบลืมไป เพี้ยง

                    แฮกๆๆ ฉันเกือบคิดว่าตัวเองจะพูดไม่ได้แล้วซะอีกอีตาบ้า !” อย่าหวังว่าฉันจะทำตามที่นายบอกถึงนายจะเป็นตัวอะไรฉันก็ไม่กลัวนายหรอก ฮึ้ยๆๆ!!

                    เอาละเชิญพักผ่อนตามสบาย เป็นคืนสุดท้าย55+” นายนี่พูดพลางทำสายตาเจ้าเลห์

                    ทำไม..ถึงพูดแบบนั้นกัน อ๋อถ้าคิดว่าเรื่องเรียนละก็ฉันสบายอยู่แล้วต่อให้การบ้านท้วมหัวฉันก็ตามเพราะว่ามันไม่ใช่ตัวขี้เกียจแบบนาย อ่อนายแล้อาหารฉันล่ะอยู่ไหนล่ะหรือว่า..ต้องลงไปหากินเอาเองด่าพร้อมหลอกถามไปเลยซะใจที่สุดด ง่าแต่ว่าตอนนี้ฉันหิวจนจะกินบ้านทั้งหลังได้แล้วนะเนี่ย

                    ฉันจะคอยดูละกัน แต่ขอแสดงความเสียใจอาหารอย่างที่เธอเคยกินอยู่นี่ที่นี่ไม่มีหรอกนะมีแต่อย่างอื่น..ตอนนี่เธอคงไม่อยากกินแน่ๆรอพรุ่งนี้ทำพิธีเสร็จเธอก็คงจะได้กิน ตอนนี้หลับไปก่อนล่ะกัน

                    ปัง!!

                    อ๊ากก!อีตาบ้าฉันหิวจะตายอยู่แล้วนะ ไม่ได้กินอะไรมาเป็นวันๆๆ ไม่คิดว่าโรงเรียนนี้จะยากจน จนไม่มีอะไรให้นักเรียนกิน

                    ปังๆๆๆ!!!

                    เปิดเซ่ อีต้าบ้า อ้ายผีดิบ เปิดเดี๋ยวนี้น่ะ อ๊ายยยๆๆๆ

                    ก็ได้ๆๆวันนี้ฉันจะยอมนายก่อนก็ได้แต่แค่วันนี้วันเดียวเท่านั้นหล่ะ ฮ้าวว..เริ่มง่วงนอนซะแล้วฉันเอนตัวล้มลงบนเตียงไม้ที่กว้างใหญ่อย่างกับจักรวาล โคมไฟระย้าประดับคริสตัลสีชมพูใสย้อยลงมาเหนือกลางเตียง ก้อนอิฐสีน้ำตาลหม่นที่เป็นกำแพงห้องประดับไปด้วยม่านสีแดงสดขลิบทองถูกจับจีบอย่างงดงาม ดูยังไงก็ไม่เบื่อเลยคนอื่นคงต้องคิดอิจฉาฉันแน่ๆที่อยู่ดีๆก็มาได้เรียนได้มาอยู่โรงเรียนหรูๆอย่างนี้คิดแล้วก็มีความสุขซะจริง

                     แต่ว่าตอนนี้ล่ะคิมบัสไปอยู่ที่ไหนน่ะนายนี่จับตัวคิมบัสไปอยู่ที่ไหนกัน ฉันต้องรีบหาตัวคิมบัสให้เร็วที่สุดก่อนที่เขาจะทำอะไรเพื่อนของฉัน ฉันจะไม่มีวันเชื่อคำพูดที่หลอกลวงของนายเป็นแน่ๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×