ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] KYUMANCE COMIC l Kang x Kyu (feat. Hae x Eun)

    ลำดับตอนที่ #5 : issue 05 ; Saying I Love You

    • อัปเดตล่าสุด 29 ส.ค. 54





    คุณเชื่อไหมว่าเวลาผ่านมาจะ เดือนนึงแล้วการ์ตูนของคยูฮยอนคืบหน้าไปได้นิดเดียว สาเหตุไม่ใช่เพราะเขาขี้เกียจหรอก เป็นเพราะเจ้าของเรื่องที่เขาเอามาเขียนนี่สิ ไม่มีความคืบหน้าให้เขียนได้ซักแอะ… ไอ้ทงเฮที่มัวแต่ป๊อดไม่ยอมบอกไอ้ฮยอกแจ จนตอนนี้ไก่ตัวผอมใกล้จะโดนคุณชายชเวซีวอนสอยไปกินอยู่ร่อมร่อ ทั้งที่คยูฮยอนพยายามหาโอกาสให้ไอ้ทงเฮทำคะแนนแล้วแท้ๆ และดูเหมือนไก่โง่ๆจะไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลย



    “อีกไม่กี่วันก็ต้องส่งต้นฉบับแล้ว…ผมยังคิดไม่ออกว่าต้องให้ทงเฮกับฮยอกแจ ทำยังไงต่อไปในเรื่อง คุณช่วยคิดหน่อยสิ” เรื่องการ์ตูนเขาคงไปปรึกษาใครไม่ได้นอกจากคิมยองอุนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ น่าแปลก… ที่เวลาอันสั้น แต่เขาสามารถพูดคุยกับคนที่เพิ่งรู้จักอย่างสนิทใจได้ ตอนนี้คยูฮยอนชินแล้วกับการที่เห็น ‘ผู้ช่วย’ ยองอุนเดินไปเดินมาในห้องเล็กๆนี้


    “ไหน..ดูซิ” หยิบกระดาษสามสี่แผ่นจากที่กองๆกันอยู่บนโต๊ะ ทั้งหมดนี้ยังไม่รวมที่โดนขยำทิ้งลงถังขยะอีกเป็นกระบุง ถ้าต้นไม้มาเห็นคงร้องไห้น่าดู..สิ้นเปลืองต้นไม้ไปเท่าไรกว่าจะได้กระดาษมา ให้เราใช้กัน “ก็…ให้ทงเฮมอมเหล้าฮยอกแจแล้วก็ปล้ำฮยอกแจซะ พอตอนเช้าก็ให้ทงเฮบอกว่าฉันจะรับผิดชอบนายเอง”


    “เอาดีๆดิ่” ถึงจะมีผู้ช่วยแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไร คำตอบไม่ต่างอะไรจากที่เขาชอบแซวไอ้ทงเฮเท่าไรเลย “นึกว่าถามผู้กำกับแล้วจะได้อะไรบ้าง… ตอบเหมือนเป็นผู้จัดซีรี่ย์น้ำเน่าให้แม่บ้านดูตอนบ่ายไม่มีผิด”


    “ก็ตอนนี้ฉันคิดไม่ออกนี่…ให้เวลาฉันคิดหน่อยสิ หรือไม่ก็เปลี่ยนพลอต”


    “ไม่ทันแล้ว.. ลงนิตยสารายเดือนไปตอนนึงแล้ว ขืนเปลี่ยนบก.อีทึกฆ่าปาดคอพอดี” อ่ะครับ ไม่เปลี่ยนก็ไม่เปลี่ยน


    “ตอนนั้นนายเล่าให้ฉันฟังว่าคนที่ชื่อซีวอนนั่นทำท่าจะมาจีบฮยอกแจ…ตอนนี้เขาเป็นไงบ้าง”


    “ซีวอนน่ะหรือ?” ถึงจะงงๆที่อยู่ดีๆผู้ช่วยเขาถามถึงบุคคลที่สามที่เขาเคยเล่าให้ฟังตอนที เริ่มวาดการ์ตูนเรื่องนี้ แต่คิมยองอุนคงจะกำลังคิดอะไรออก “เขาชอบเข้าทางแม่ฮยอกแจน่ะ บ้านมันรวยมาก รวยแบบโคตรรวยเลย แล้วพอไอ้นั่นจีบฮยอกแจก็ชอบหาเรื่องมาซื้อเครื่องประดับที่ร้านแม่ไอ้ฮยอก แจบ่อยๆ อ้างว่าแม่สั่งมาบ้างล่ะ ไม่ก็ซื้อไปฝากคุณป้า อย่างงี้ไม่ให้แม่ไอ้ฮยอกแจชอบใจหมอนั่นได้ไง พอเข้าทางแม่ได้มันก็ชอบหนีบฮยอกแจไปนู่นไปนี่บ่อยขึ้น ฮยอกแจเองก็คงจะรู้สึกดีๆด้วยล่ะมั้ง ผมกลัวจริงๆว่าถ้าฮยอกแจไว้ใจไอ้นั่นจนยอมทุกอย่าง ถ้าอยู่ๆไอ้ซีวอนเกิดเบื่อแล้วทิ้งมันไป มันคงเสียใจน่าดู ยิ่งซื่อๆ เชื่อคนง่ายอยู่”


    “ผมไม่ค่อยชอบใจไอ้ซีวอนนักหรอก… ดูท่าทางมันไม่ค่อยจริงใจเท่าไร คนเพอร์เฟคอย่างมันอยู่ดีๆก็คิดจะมาชอบคนอย่างไอ้ฮยอกแจเนี่ยมันแปลกๆ”



    ยองอุนเงียบอยู่นานก่อนจะบอกสิ่งที่คิด “อืมม…ที่ฉันคิดออกนะ นายต้องเพิ่มบทบาทของนายซีวอนให้มากขึ้น แล้วก็เขียนให้ฮยอกแจมีความรู้สึกสับสนนิดหน่อยระหว่างทงเฮกับซีวอน อ่อ…ส่วนตัวทงเฮก็ต้องรู้สึกต่อฮยอกแจให้ชัดเจนกว่านี้ อย่างน้อยก็ต้องทำให้ฮยอกแจสับสนได้”




    พอความคิดเริ่มจุดประกายก็ปล่อยให้นักเขียนการ์ตูนรังสรรค์ผลงานต่อ ยองอุนจึงวางงานของคยูฮยอนไว้ที่เดิมพลางมองนาฬิกาที่ข้างฝา บ่ายโมงครึ่งแล้ว..กว่าคยูฮยอนจะตื่นก็เกือบเที่ยง ยังไม่มีข้าวซักเม็ดร่วงลงกระเพาะ เขาจึงคิดว่าน่าจะทำข้าวเช้ารวบเที่ยงให้ทั้งตัวเขาและคยูฮยอนเสียที แต่พอลุกจากเก้าอี้ก็สะดุดกับผมนิ่มสีชอกโกแลตที่ดูยาวขึ้นกว่าตอนที่เขา เพิ่งเจอกับร่างบาง ยั้งใจไม่ได้ที่จะลูบเล่น




    “ผมยาวแล้ว ไม่คิดจะตัดหรือ” ว่าพลางลองจับผมรวบขึ้นเป็นหางม้า


    “ยังอ่ะ แข่งกับไอ้ทงเฮไอ้ฮยอกแจอยู่ว่าผมใครจะยาวสุด” เด็กผู้ชายก็นะ..ชอบแข่งกันด้วยเรื่องที่ไร้สาระเสมอ แต่ขอให้ตัวเองเป็นคนชนะ มือเรียวสวยของคยูฮยอนผละจากปากกาตัดเส้นไปหยิบยางมัดผมที่อยู่ใกล้ส่งให้ เขา “คุณมัดผมให้หน่อยสิ มันร้อน ผมมันเคลียๆอยู่ที่คอแล้วรำคาญ”


    พอบอกว่าเขาจะเป็นคนดูแลคยูฮยอนแม้กระทั่งเรื่องในชีวิตประจำวันล่ะก็..ใช้เอาๆ อย่างกับตัวเองเป็นนายน้อยเชียวนะ ทูนหัวของบ่าว -*-




    “มัดเป็นจุกนะ มัดหางม้าแล้วปลายผมมันชอบทิ่ม จั๊กจี๋” อ่ะสั่งเข้าไป…


    “ได้ครับนายน้อย พ่อทูนหัวเจ้าชีวิตของบ่าว” พอได้ทีใช้เขาได้ล่ะก็หัวเราะคิกคัก ความสุขเขาล่ะ! คยูฮยอนที่นั่งวาด ตัดเส้น ถมดำอยู่นานจนได้กลิ่นหอมโชยมาจากห้องครัว… กลิ่นแกงกะหรี่! นี่ผู้ช่วยเขาทำแกงกะหรี่เป็นด้วยหรอเนี่ย? เจ๋งว่ะ ยิ่งกว่าคิมแทคกูที่เขาติดงอมแงมอีกนะน่ะ



    “โหยยย~ คุณทำแกงกะหรี่จริงด้วย” พอคนตัวโตเห็นนักเขียนผละจากงานก็เบี่ยงตัวให้ยื่นหน้ามาดมกลิ่นหอมจากหม้อ ทำหน้าแบบนี้คงหิวแล้วล่ะ


    “หิวแล้วล่ะสิ”


    “คุณทำเป็นด้วยหรอ” ใบหน้าน่ารักเลื่อนมาใกล้ร่างสูงจนเห็นดวงตาแป๋วระยะใกล้ เพิ่งสังเกตว่าวันนี้คยูฮยอนเปลี่ยนจากใส่แว่นกรอบดำมาเป็นกรอบสีแดงเลือด หมู


    “ฉันซื้อเครื่องแกงกะหรี่แบบสำเร็จรูปมา… ไม่ได้เก่งถึงขั้นทำเองเป็นหรอก”


    “แล้วนี่เสร็จยังอ่ะ อยากกินแล้ว”


    “เสร็จพอดี นี่ก็ว่ากำลังจะเรียกนาย พอดีนายลอยตามกลิ่นมาก่อน” ตักแกงกะหรี่ราดข้าวให้เยอะเป็นพิเศษอย่างเอาใจ


    “โหย~ ไม่ได้กินแกงกะหรี่มาตั้งนานแล้ว คิดถึงจัง” คนตัวเล็กว่าอย่างอารมณ์ดีพลางตักข้าวเข้าปาก “หึยย สุโก้ยยยยอ่า!”


    “มันอร่อยขนาดนั้นเลย?” ขำกับท่าทางโอเว่อร์ของอีกฝ่าย


    “ไม่ได้กินอย่างนี้ตั้งนานแล้ว ความจริงจะออกไปกินที่ร้านมันก็ได้นะ แต่พออยู่กับห้องทีไรก็ขี้เกียจออกไปไหนตลอด ถ้าพวกมันไม่โทรมาชวนให้ออกไปกินข้าวด้วยกันก็ไม่ค่อยไปไหนหรอก” วันนี้นักเขียนการ์ตูนอารมณ์ดีเพราะข้าวอร่อยถูกปากผู้ช่วยอย่างยองอุนก็ ดีใจแล้ว…




    ทุกวันนี้ความเคยชินของยองอุนคือการตื่นมาปลุกคยูฮยอนให้ตื่นทันเวลาเรียน ลากเด็กขี้เกียจไปอาบน้ำให้ได้ แล้วก็ทำอาหารให้กิน คอยออกความเห็นเวลาคยูฮยอนคิดงานไม่ออก เป็นเพื่อนกินเบียร์เวลาอีกฝ่ายบ่นถึงน้องแทยอน คอยรับฟังเรื่องของทงเฮและฮยอกแจที่คนตัวเล็กมักจะมาอัพเดทให้ฟัง ไล่เด็กติดเกมให้เข้านอนตอนช่วงตีสองตีสามแล้วตัวเขาถึงจะนอนหลับ



    เรื่องราวเหล่านี้กลายเป็นกิจวัตรไปแล้ว…
    จนอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าคยูฮยอนเขียนการ์ตูนเรื่องนี้จบ
    เขาก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่กับคยูฮยอนอีกต่อไป
    ถึงเวลานั้น คิมยองอุนจะทำอย่างไร แม้แต่ตัวเขาเองก็นึกไม่ออกจริงๆ






    K-Y-U-M-A-N-C-E-C-O-M-I-C





    อยู่ดีๆอีฮยอกแจก็โทรเรียกคยูฮยอนให้ออกมากินข้าวนอกบ้าน ตอนแรกฮยอกแจจะบุกมาที่ห้องด้วยซ้ำแต่คยูฮยอนห้ามไว้ทัน… เพราะการ์ตูนที่เขายังวาดไม่เสร็จกองอยู่เต็มโต๊ะแล้วไหนจะคิมยองอุนผู้ช่วย เขาที่มาอยู่ห้องเดียวกันอีก ถ้าฮยอกแจรู้มีแซวยันลูกเข้าเรียนมหาลัยแน่ เลยเสนอให้หาร้านอร่อยๆกินข้างนอกดีกว่าและเขาเองหวังไว้ลึกๆว่าการออกมากิน ข้าวรอบนี้คงจะมีอะไรให้เขาเอากลับไปเขียนการ์ตูนบ้าง ซักนิดก็ยังดีนา..




    “แล้วผัวมึงอ่ะไม่มาหรือ ไอ้ทงเฮอ่ะ”


    “มันไปเที่ยวกับเพื่อนมัน เพิ่งบินกลับมาจากญี่ปุ่น ตอนนี้ก็มาอยู่กับพวกกู” โอ้โห ไอ้เตี้ย! กูนึกว่าที่มึงเงียบๆไปมึงไปทำคะแนนกับไอ้ฮยอก กลายเป็นว่าจะมีเมียใหม่ซะงั้น ไอ้หอยหลอด! กูอุตส่าห์เชียร์มึงนะเว้ย แล้วการ์ตูนกูจะจบยังไงเล่า?


    “จริงอ่ะ ไม่เคยเห็นมันเล่าเลย”


    “กูก็เพิ่งรู้เหมือนกัน เพื่อนมัน…ชื่อ อีซองมินน่ะ เป็นเพื่อนกับมันตั้งกะประถมแล้ว มันเล่าว่าสนิทกันมาก แล้วอยู่ดีๆ ตอนจะขึ้นม.ต้น ซองมินก็ย้ายไปเรียนที่ญี่ปุ่น แล้วเพิ่งบินกลับมาเพราะบ้านซองมินจะขยายกิจการที่เกาหลี ซองมินก็เลยกลับมาเรียนภาคอินเตอร์ที่มอเรา” มีตัวละครใหม่มาอีกแล้ว เราสี่ห้าคนสนุกสนานเหลือเกิน - -“


    “กูก็ไม่อะไรหรอกที่จะมีคนมาอยู่ที่ห้องเพิ่มอีกคน มีคนมาอยู่เยอะๆสนุกด้วยซ้ำ แต่อยู่ดีๆ ซองมินก็มาขอคุยกับกูแล้วก็บอกว่าเขาชอบทงเฮ ซองมินเขาขอร้องให้กูช่วยทำให้ทงเฮหันมาชอบเขา” เอาละครับ มีงานเข้าครั้งยิ่งใหญ่ซะแล้ว…


    “แล้วมึงจะทำไง”


    “ไม่รู้ดิ่ ใจคนน่ะมันบังคับกันไม่ได้ ไอ้ทงเฮจะชอบใครก็เรื่องของมัน แต่ซองมินมาขอร้องแบบนี้กู…ลำบากใจว่ะ” คยูฮยอนยิ้มกริ่มอย่างอ่านใจฮยอกแจออก อย่างน้อยๆ อกฟีบๆของมันก็เริ่มมีความรู้สึกหวงไอ้เตี้ยขึ้นมาบ้างแล้ว


    “กูกลัวทำไม่ได้แล้วซองมินต้องเสียใจเพราะฝากความหวังไว้กับกู” แต่พอฟังประโยคต่อไปของมันแล้วคยูฮยอนอยากจะกรีดร้องด้วยความขัดใจ มึงจะทำตัวเป็นพระรองซีรี่ย์ไปถึงไหน ยอมให้คนที่เขาชอบมึงไปได้กับอีกคนหรอ? เพื่อนกูบ้าไปแล้วหรือไง!


    “กูว่าทงเฮไม่คิดอะไรกับซองมินนอกจากเพื่อนหรอก… ถ้ามันชอบจริง มันคงจะหอบผ้าหอบผ่อนตามไปอยู่กับซองมินที่ญี่ปุ่นตั้งนานแล้วล่ะ”


    “พูดเหมือนมึงเป็นไอ้ทงเฮงั้นอ่ะ” อ่ะแน่นอน กูรู้เรื่องราวของพวกมึงสองคนดีจนเขียนการ์ตูนได้เลยนะ!


    “กูแค่เดาจากนิสัยมัน” ดริฟท์นิดหน่อยไม่ให้เป็นที่สงสัย “แล้วมึงกับซีวอนล่ะ”


    “หา? กูกับซีวอนเหรอ” ยังจะมาทำหน้างงใส่กูอีก “ก็ไม่มีอะไร.. ช่วงนี้เขามามาร้านแม่กูมาซื้อเครื่องประดับให้ญาติเขาบ่อยๆ ก็เลยเจอกันบ่อย แล้วเขาก็ชอบพากูไปกินนู่นเที่ยวนี่”


    “เดี๋ยวไอ้เตี้ยก็เหวี่ยงใส่อีกหรอก มึงก็รู้ว่ามันไม่ค่อยชอบไอ้ซีวอน” ได้ทีก็ขอเร่งไฟเพิ่มความแรงอีกนิด อีทงเฮ มึงฟังกูไว้นะ..ถ้ามึงได้กันจริงๆ อย่าลืมเลี้ยงเหล้ากูนะเว้ย กูออกจะเป็นเฮอึนซัพพอร์ตเตอร์ดีเด่นซะขนาดนี้


    “ก็วันก่อนมันเพิ่งเหวี่ยงใส่กูนี่ล่ะ พอมันรู้ว่าซีวอนบอกชอบกู” โหย! ดราม่าดีจริงๆเลยว่ะ ชอบๆ เล่าต่อเร็วเว้ย~ “กูก็บอกมันแล้วว่ากูไม่ได้อะไรกับซีวอน มันก็ไม่ยอมพูดกับกู กูเหนื่อยที่ต้องง้อมันทั้งๆที่กูไม่ผิดแล้วนะเว้ย กูเหนื่อยจริงๆ”


    “คยูฮยอน..กูคิดว่าไอ้ทงเฮมันแปลกขึ้นว่ะ ปกติกูจะชอบใคร ไปเที่ยวกับใคร เดทกับใคร ไม่เห็นมันจะมาสนใจกู แต่ช่วงนี้กูไปไหนกับคนอื่นที่ไม่ใช่มันกับมึงมันเป็นเหี้ยไรไม่รู้ชอบมา เหวี่ยงใส่กูจัง มึงคิดอย่างงั้นมะ?” กูคิดอย่างงั้นมาตั้งนานแล้วล่ะครับเพื่อน มึงเพิ่งรู้ตัวหรอ?


    “กูก็รู้สึกเหมือนกัน…” เนียนตอแหลต่อไป “มึงไม่เคลียร์กับมันตรงๆไปเลยล่ะ ก็ถ้ามึงไม่ชอบนิสัยมันก็บอกมัน มันจะได้ปรับปรุงตัว”


    “ก็อยากอยู่…แต่ตอนนี้กูไม่ได้อยู่กันสองคนแล้วมึงเข้าใจมะ? ซองมินตามติดทงเฮอย่างกับตังเม” เชี่ยล่ะ มีมารผจญซะอีก เอาไงดีล่ะ? คิดสิท่านโจ -*-






    “เอางี้..มึงไปบอกซองมินว่ากูอยากเรียนภาษาญี่ปุ่นคอร์สเร่งด่วน มึงพูดยังไงก็ได้ให้ซองมินมาแค่คนเดียว ที่เหลือเดี๋ยวกูจัดการเอง แต่มึงสัญญากับกูก่อนว่าถ้ากูลากซองมินออกจากไอ้ทงเฮได้มึงต้องรีบเคลียร์ กับมันให้จบๆ ก่อนที่ซองมินจะสงสัยกู โอเคป้ะ?”



    .
    .
    .
    .
    .
    .



    คยูฮยอนไม่รู้หรอกนะว่าอีซองมินนิสัยเป็นยังไง แต่ไอ้เรื่องกวนประสาทคนนี่ขอให้บอกเขาเถอะ ตอนนี้เขากับเวสป้าคู่ใจมารอซองมินอยู่ด้านล่างอพาร์ตเมนต์ที่ทงเฮอยู่กับ ฮยอกแจแล้ว เมื่อกี้ลองโทรไปหาไอ้ฮยอกมัน มันบอกว่าถ้าต้องไปคนเดียวซองมินจะไม่ยอมไป จะเอาทงเฮไปด้วยท่าเดียว เหตุเพราะไม่ไว้ใจคยูฮยอนและอยากให้ทงเฮอยู่เป็นเพื่อน ทั้งๆที่ทงเฮและฮยอกแจต่างก็เกลี้ยกล่อมแล้วว่าเขาไม่เป็นพิษเป็นภัยอะไรก็ ตาม…



    ท่าทางจะยากกว่าที่คิดไว้แฮะ




    แต่คนอย่างเขาไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอก ทิ้งทงเฮไปเรียนที่ญี่ปุ่นได้ตั้งหลายปีแค่หายหัวไปกับเขาแค่แปบเดียวมันไม่ขาดใจตายหรอกน่า


    ลิฟต์พาตัวเขาขึ้นมาที่ชั้นเก้า ระหว่างที่เดินกำลังจะถึงห้อง 908 ที่พวกมันอยู่ คยูฮยอนก็โทรไปหาฮยอกแจอีกรอบ


    “ฮยอกแจ… มึงบอกซองมินว่ากูมารออยู่หน้าห้องแล้ว กูจะรับเขาไปเอง” หลังจากวางสายชั่วอึดใจฮยอกแจก็เปิดประตูให้เขาเข้าไปในห้อง เจอทงเฮกำลังกอดปลอบผู้ชายตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมแขนมัน คงจะเป็นซองมิน…


    “ไม่เป็นไรหรอกน่า…มีคยูฮยอนอยู่ทั้งคน ถ้ากลัวหลงเดี๋ยวฉันบอกให้มันมาส่งซองมินก็ได้ อ้าว! พูดถึงก็มาพอดี” คนตัวเล็กในอ้อมกอดทงเฮจึงหันมามองเขา ตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจ คงไม่นึกล่ะสิว่าเขาจะบุกมารับถึงที่ ก่อนจะปั้นหน้าบ้องแบ๊วใส่ทงเฮต่อ



    โอ้โห แบ๊วจนอยากจะบ้องกกหูเสียจริงๆ
    คนอะไรตอแหลชะมัด - -*



    “ก็เราเพิ่งกลับมา..เรายังไม่ชินเส้นทางแถวนี้เลย ปกติไปไหนก็มีทงเฮด้วย อีกอย่าง..ฉันก็ไม่อยากรบกวนคยูฮยอนเขาด้วย”


    “ไม่เป็นไรหรอกน่า… ฉันเองที่เป็นคนไปรบกวนซองมิน อะไรที่ฉันทำได้ฉันก็ต้องทำให้ซองมินสิ” ตอแหลมากูก็ตอแหลกลับล่ะครับ หึหึหึ


    “แต่เรา…”


    “ไม่ต้องแต่อะไรแล้วล่ะ…” ฉีกยิ้มหวานแต่เคลือบยาพิษให้ พลางก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ “นี่มันก็เย็นมากแล้ว ถ้าซองมินไปช้ากว่านี้ ก็คงจะต้องกลับดึกมากแน่ๆ งั้นเราไปกันเถอะ” คว้าข้อมือเล็กออกแรงกระชากจนร่างเล็กปลิวออกจากโซฟา


    “’กูขอยืมตัวซองมินแปบนึงนะ เดี๋ยวกูพามาคืน”


    “เออ ไม่ต้องรีบก็ได้นะกูไม่ว่า” ทงเฮว่าติดตลก คยูฮยอนจึงมองหน้าซองมินที่เจื่อนลงเพราะทงเฮดันสนับสนุนให้ไปกับเขาอีกนั่น


    “ฮยอกแจ กูไปนะ” บอกลาเหมือนมีความนัย คยูฮยอนขยิบตาส่งซิกส์ให้มัน มันเองก็ขยิบตากลับมา หวังว่ามึงจะทำสำเร็จละกัน กูช่วยมึงได้แค่นี้แหละ


    .
    .
    .
    .
    .



    พอประตูห้อง 908 ปิดสนิท บทบาทสมมุติเมื่อครู่ก็ไม่จำเป็นต้องเล่นอีกต่อไป ตอนนี้อีซองมินจะได้พบกับโจคยูฮยอนโหมดดาร์คไซด์แล้วล่ะ


    “โอ้ย! จับแขนเราเบาๆสิ เราเจ็บนะ” สำออยจริงๆ พ่อคนผิวบาง!


    “นายก็เลิกดิ้นแล้วก็เลิกโวยวายสิ ไม่เหนื่อยหรือไง” ว่าแล้วก็เหวี่ยงซองมินเข้าไปในลิฟต์ ถ้าไม่ทำตัวดัดจริตเหมือนเป็นคนอ่อนแอ บอบบาง เหมือนเป็นพวกลูกคุณหนู ซองมินจะน่ารักกว่านี้อีกสามเท่าตัวเลยล่ะ


    พอลิฟต์เปิดออกซองมินก็พูดรัวเหมือนเมื่อกี้เขาเอาสกอตเทปปิดปากไม่ให้พูด “แล้วเราจะไปกันยังไง ถ้ารถไฟใต้ดินน่ะเราไม่ไปหรอกนะ เราไม่ชอบคนเยอะๆ มันอึดอัด” เขาไม่ได้ตอบกลับไป เพียงแต่จูงคนที่เดินอ้อยอิ่งไปที่ๆเขาจอดรถเอาไว้


    “เรานั่งมอเตอร์ไซค์ไม่เป็น” สีหน้ากระอักกระอ่วนใจ ไม่รู้ว่าที่ซองมินพูดจะจริงไหม แต่คยูฮยอนไม่สนใจหรอก นั่งไม่เป็นก็ต้องนั่งให้เป็น


    “ไม่เป็นก็ต้องนั่ง ก็เรื่องมากเอง ฉันมีตัวเลือกให้นายแค่นี้แหละ” ไม่แคร์ด้วยว่าซองมินกำลังทำหน้าหงิกงอจวนจะร้องไห้อยู่ร่อมร่อ ร้องสิ! ร้องเลย ร้องให้ถึงชั้นเก้าให้ไอ้ทงเฮได้ยินเลยนะ ร้องไปเลย


    “เราจะบอกทงเฮ”


    “เชิญ.. จะใส่สีตีไข่ว่าฉันขี่พานายเข้าซอยเปลี่ยวแล้วฉุดนายไปข่มขืนข้างพงหญ้าเลย ก็ได้นะ ฉันไม่ว่า” ใส่หมวกกันน็อกเรียบร้อย ก้าวขึ้นคร่อมรถ เสียบกุญแจสตาร์ทเครื่อง


    “ขึ้นเร็วๆเซ่! ชักช้ายืดยาดชะมัด”


    “นายคยูฮยอน!” ซองมินกรีดร้องอย่าหงุดหงิด ก่อนจะขึ้นรถด้วยท่าทีเงอะงะ และไม่ปล่อยให้โอกาสแกล้งหลุดมือ ช่วงที่ซองมินเผลอ คยูฮยอนก็ออกรถเร็วจนตัวซองมินเสียหลักเซถลาชนกับหลังเขาเข้าอย่างจัง


    “นี่คยูฮยอนกะจะฆ่าเราให้ตายหรือไง!” มือเล็กกอดเอวเขาไว้แน่น คงกลัวเขาแกล้งเหมือนเมื่อกี้แหง


    “ฉันไม่พานายไปตายหรอกน่า…ความสนุกมันไม่ได้มีแค่นี้หรอก” เร่งความเร็วขึ้นช่วงจะลงจากสะพานชัน เล่นเอาซองมินกรี๊ดใส่หูเขาจนชาไปเลย แขนที่กอดเอวเขาไว้ก็รัดเสียแน่นจนเกือบจะหายใจไม่ออก กลัวอะไรนักหนากะอีแค่นั่งมอไซค์






    K-Y-U-M-A-N-C-E-C-O-M-I-C





    ก่อนหน้าที่คยูฮยอนจะออกไปรับซองมิน เขาเคลียร์พวกกองกระดาษที่วาดการ์ตูนเอาไว้จนหมด แถมยังบีบบังคับให้ผู้ช่วยยองอุนปกปิดเรื่องที่เขาเป็นนักเขียนการ์ตูนไว้ ด้วยและก็ช่วยเล่นเป็นบทพี่ชายของเขา ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะยอมเล่นด้วยกับเขาไหม แต่ลองไม่ยอมสิเขาจะไปฟ้อบก.ฮีชอลกับบก.อีทึกว่าผู้ช่วยของเขาอู้งาน!


    โสตประสาทหูของเขาตอนนี้ติดเซนเซอร์กันเสียงโวยวายของซองมินไว้ แค่ตลอดทางที่คยูฮยอนขี่มอเตอร์ไซค์จากอพาร์ตเมนต์ฮยอกแจจนถึงอพาร์ตเมนต์ เขาซองมินทั้งกรี๊ดทั้งโวยวายแถมยังทำร้ายร่างกายเขาอีกต่างหากและไอ้ ทุกอย่างที่ว่ามาซองมินทำมาตลอดทางเลยล่ะ เชื่อเขาเลย… หูอื้อไปหมดแล้วเนี่ย



    “กลับมาแล้วครับ…พี่” จงใจเน้นคำว่าพี่ จนผู้ช่วยของเขาเงยหน้าจากแมกกาซีน… เฮ้ย! FHM ฉบับใหม่ออกแล้วเร๊อะ เขาต้องขอยืมต่อซะแล้ว มีของสวยๆงามๆล่ะไม่มีแบ่งปัน


    ‘อย่าลืมที่ตกลงไว้ล่ะ’ ทำปากขมุบขมิบพลางขยิบตาส่งซิกส์ไป ผู้ช่วยของเขาพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจก็โล่งอกไปนิดนึง


    “นี่พี่ชายฉัน พี่ยองอุน…นี่ซองมิน เขาจะมาสอนภาษาญี่ปุ่นให้ผม” ซองมินโค้งตัวลงทำความเคารพ ส่วนผู้ช่วยเขาที่ตอนนี้เพิ่งเป็นพี่ชายแบบสดๆร้อนๆก็ก้มหัวรับและยิ้มตาม มารยาท


    “ตามสบายละกันนะ…” เหอะ.. ตามสบายละกันนะ ห้องใครกันแน่ห๊ะ? อยากจะเถียงแต่ติดที่อีซองมินที่เขาหนีบมาด้วยนี่สิเลยจำเป็นต้องสงบศึกไว้ ก่อนแล้วหันมาแกล้งคนตัวเล็กที่ยืนทำอะไรไม่ถูกต่อ


    “มานั่งนี่สิ” หย่อยตัวลงกับพื้นแล้วชี้ตรงโต๊ะญี่ปุ่นที่เขาเพิ่งตั้งเสร็จ “ฉันมีตั้งหลายอย่างแน่ะที่อยากรู้” ยกหนังสือเรียนภาษาญี่ปุ่นประเภทเรียนรู้ด้วยตัวเองมาตั้งไว้บนโต๊ะเตี้ย แต่ก่อนน่ะ คยูฮยอนเคยคิดจะเอาดีด้านภาษา กะว่าจะเรียนไว้สอบชิงทุนไปเรียนที่ญี่ปุ่น ดินแดนที่อุดมไปด้วยการ์ตูนที่เขาชอบ แต่เพราะติดขี้เกียจและช่วงม.ปลายเขาเริ่มติดเกมออนไลน์ขั้นหนัก ความฝันลมๆแล้งๆก็มีอันล้มเลิกไป




    บรรยากาศการเรียนตรงหน้ายองอุนดูชุลมุนวุ่นวาย คุณครูซองมินที่คอยจ้ำจี้จ้ำไชนักเรียน(ที่แกล้งทำเป็นหัวช้า)อย่างคยูฮยอน ให้จดจ่ออยู่กับการเรียน ไม่รู้ป่านนี้แผนที่คยูฮยอนวางไว้ให้ฮยอกแจเคลียร์กับทงเฮจะสำเร็จหรือยัง เพราะทางนี้ก็พยายามยื้อเวลาอย่างสุดกำลังเช่นกัน





    “ประโยคนี้ต้องใช้คำช่วยอะไร は หรือ を”


    “を…มั้ง?”


    “を อะไรเล่า! ที่เราสอนน่ะลืมแล้วหรือคยูฮยอน ไอ้ตัวที่ขีดเส้นใต้ไม่ได้เป็นกรรมเสียหน่อย จะ を ทำไม เราอธิบายให้ฟังไปห้ารอบแล้วนะ”


    “ก็ฉันไม่รู้นี่นา”


    “นี่คยูฮยอน…ถามจริงๆเถอะ” วางปากกาลง ยกแขนขึ้นเท้าคางกับโต๊ะใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักจ้องมาทางเขาเขม็ง


    “ถามอะไร?”


    “เลิกแกล้งเราเสียทีได้ไหม จริงๆแล้วคยูฮยอนไม่อยากเรียนภาษาญี่ปุ่นแต่อยากแยกเราออกจากทงเฮใช่ไหม?”


    “นายบอกฉันก่อนสิว่าทำไมฉันถึงต้องทำแบบนั้นด้วย” มองนาฬิกาข้างฝา… เกือบสองทุ่มแล้ว ป่านนี้มันเคลียร์กันเสร็จยังวะเนี่ย กูจะได้ปล่อยลูกคุณหนูนี่กลับเสียที


    “เพราะคยูฮยอนชอบทงเฮของเรา เราดูออกนะว่าคยูฮยอนคิดไม่ซื่อกับทงเฮ เราจะบอกไว้เลยนะว่าเรารักทงเฮ เราไม่ยอมให้ใครแย่งทงเฮไปง่ายๆหรอก”


    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” โอ๊ยยยย!! กูฮา มีอะไรน่าขำไปมากกว่านี้ไหมเนี่ย กูกะไอ้เตี้ยอ่ะนะชอบกัน บ้าแล้วไอ้ลูกคุณหนู ไอ้ทงเฮที่รักของนายน่ะมันชอบฮยอกแจ รู้ไว้ด้วย!


    “ขำอะไร? เราน่าขำตรงไหนมิทราบ” อูยยย มาโหมดดุแล้วครับ น่ากลัวจังเลย~ คยูฮยอนกลัวจังเลยน๊า~


    “เอาอะไรคิดว่าฉันชอบไอ้ทงเฮมัน…นี่! ฉันจะบอกนายไว้ด้วยนะว่าถึงทงเฮจะไม่ชอบฉัน แต่มันก็มีคนที่มันชอบอยู่แล้ว และที่แน่ๆคือไม่ใช่นายแน่นอน”


    “ใคร!! ทงเฮชอบใคร!? บอกเรามาเดี๋ยวนี้นะ!!” ทุบโต๊ะดังปังแถมยังเอื้อมมือมาเขย่าตัวเขาอีก โอ๊ยย! สนุกจังเว้ย ยั่วโมโหไอ้ลูกคุณหนูช่างแอ๊บได้เนี่ย


    “ไม่รู้! ฉันไม่รู้!! ถึงฉันรู้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องบอกคนที่เพิ่งรู้จักกันอย่างนาย แล้วก็เลิกเขย่าตัวฉันซักที โอ๊ยย!” เห็นทำตัวบอบบาง ไม่นึกว่าแรงจะเยอะขนาดนี้ แอ๊บชัดๆ


    “เราจะกลับ!” พอไม่ได้ดั่งใจก็ลุกพรวดพราดแบบไม่ทันตั้งตัว เออ…รู้ตัวก็ดี กลับไปเลยไป๊!


    “สัญญากับทงเฮซะดิบดี คยูฮยอนจะปล่อยให้เรากลับเองคนเดียวหรอ?” ไม่ลืมที่จะแหวทิ้งทวน อยากจะเถียงกลับใจแทบขาด แต่อยู่ๆดีก็ปวดท้องขึ้นมาซะงั้น… โอยยย ปวดดดดดดชะมัดเลย


    “ค…เอ้ย พี่ยองอุน… พี่ขับรถไปส่งซองมินทีสิ” คนถูกเรียกทำตาโต ไม่ยอมหรอก.. ปล่อยให้นั่งดูบอลสบายใจเฉิบมานานพอแล้ว ต้องให้ผู้ช่วยได้ลิ้มรสฤทธิ์เดชของคุณหนูซองมินเสียบ้าง


    “ทำไมฉันต้องไป?”


    อยากจะกรี๊ดใส่หูแต่ติดที่ไม่มีแรง “อยู่ดีๆผมก็ปวดท้อง ผมขับรถเองไม่ไหวหรอก พี่ขับรถไปส่งทีนะ เดี๋ยวผมไปด้วยก็ได้”


    คิมยองอุนทำเป็นหูทวนลม คยูฮยอนจึงต้องสวมบทคยูฮยอนที่อ่อนแอ บอบบาง น่าทะนุถนอมแบบที่ซองมินชอบทำบ้าง ล้มตัวนอนกับพื้นดิ้นไปมา ร้องโอดโอยเหมือนเจ็บปวดเจียนตาย


    “โอ้ยยย~” พอผู้ช่วยเห็นเขาลงไปนอนกลิ้งลุกพรวดสาวเท้ายาวๆมาตรงที่เขานอน


    “ปวดมากเลยหรือ?”


    “อื้อ” ไม่ทันตั้งตัวตัวคยูฮยอนก็ลอยหวืออยู่กลางอากาศ เพราะผู้ช่วยเขาช้อนตัวเขาขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขน และด้วยสภาพล่อแหลมแบบนี้ทำให้หน้าเขาต้องซบลงกับอกกว้างอย่างช่วยไม่ได้


    “เฮ้ย! อุ้มทำไม ปล่อย!”


    “ก็น้องไม่สบายนี่นา… พี่ชายก็ต้องดูแลสิ จริงไหม” มองหน้าคนที่โดนอุ้มอยู่ด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ คิดผิดแล้วล่ะท่านโจที่ดึงคิมยองอุนเข้ามาในแผนนี้ “ส่วนนาย…ซองมินน่ะ เดี๋ยวฉันขับรถไปส่งละกัน อยู่อพาร์ตเมนต์เดียวกับฮยอกแจใช่ไหม”



    คยูฮยอนได้แต่สวดมนต์อ้อนวอนพระเจ้าอยู่ในใจ
    ขออย่าให้ซองมินเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ไอ้ทงเฮฟังทีเถิด…
    โอ้ยยย! โคตรอายเลยเว้ย!





    K-Y-U-M-A-N-C-E-C-O-M-I-C




    เห็นหลังไวๆของอีซองมินเดินเข้าอพาร์ตเมนต์ไปแล้วก็โล่งอก จบเสียทีกับแผนบ้าๆ สำหรับไอ้ฮยอกแจ แต่ถึงคราวต้องเคลียร์กับคนที่นั่งเบาะคนขับแล้วล่ะ


    “ทำไมเมื่อกี้ต้องอุ้มผมต่อหน้าไอ้ลูกคุณหนูนั่นด้วยเล่า!”


    “ก็นายบอกว่าปวดท้อง”


    “ก็ไม่ได้ปวดจนเดินไม่ได้เสียหน่อย แค่พยุงก็ได้อ่ะ ทำไมต้องอุ้มด้วยเล่า” เถียงจนหน้าแดงแปร๊ดแล้วน่ะ คยูฮยอนสนุกที่ได้แกล้งซองมิน ยองอุนเองก็สนุกที่ได้แกล้งคยูฮยอนเหมือนกัน เหมือนโดนกรรมตามสนอง


    “งั้นเมื่อกี้ก็โกหกน่ะสิ”


    “ผมไม่ใช่คนขี้โกหกซะหน่อย ก็ปวดจริงๆนี่…ถึงตอนนี้มันจะไม่ค่อยปวดแล้วก็เถอะ”


    “เถียงซะหน้าดำหน้าแดงขนาดนี้คงไม่ปวดแล้วล่ะฉันว่า” เคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ จ้องเข้าไปในตาแป๋วแหววที่ตอนนี้เบิกโตเพราะอีกฝ่ายขยับตัวมาจนจะชิดตัวตน แล้ว “จริงๆเมื่อกี้ฉันน่าจะแกล้งบอกซองมินไปนะว่าความจริงแล้วเราน่ะเป็นแฟนกัน น่าจะสนุกดีเนอะ”


    “สนุกกับผีสิ! ถ้าซองมินเอาไปบอกพวกไอ้ทงเฮ โอ้ยยย มีล้อยันลูกบวชแน่ๆ แล้วถ้าคุณทำงั้นจริงนะ ต่อให้คุณเป็นเจ้านายผมก็ไม่เอาไว้หรอก”


    “ก็ลองเล่นดูสิ บทนี้ไม่เห็นจะยากเลย” ตาคมเผลอมองริมฝีปากอิ่ม นานจนเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ เราสองคนใกล้กันมากขึ้น ใกล้…จนได้ยินเสียงหายใจของร่างบาง ใกล้…จนปลายจมูกแตะจมูกอย่างแผ่วเบา ใกล้…จนอีกเพียงนิด ริมฝีปากเขาคงจะได้ลิ้มรสหวานฉ่ำจากปากช่างเจรจาแน่




    “คุณ….” เสียงนุ่มของคยูฮยอนเรียกเขาเสียงแผ่วเบา เสียงนุ่มแบบนี้ ปากจะนุ่มไหมนะ?




    RRRRR~



    เสียงโทรศัพท์จากเครื่องของคยูฮยอนแผดเสียงเรียกเจ้าของดั่งปลุกให้เราตื่น จากความเพ้อฝันเมื่อครู่ เราทั้งคู่ต่างก็ผละออกจากกันอย่างรวดเร็วเหมือนถูกของร้อนแล้วเสหน้าหันไป คนละทาง



    “เหวยมึง” พยายามปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ มือข้างที่ไม่ได้ถือโทรศัพท์ถูกโบกให้ลมพัดมาที่หน้าเขา อยู่ดีๆก็รู้สึกหน้าเห่อร้อนขึ้นมาเสียเฉยๆ “กูพาซองมินมาส่งแล้วนะ ตอนนี้เขาคงขึ้นลิฟต์ไปแล้วล่ะ”


    “อ๋อ…อืมๆ ขอบใจมึง” เสียงไอ้ฮยอกแจสั่นเครือแบบที่เขาไม่เคยได้ยิน


    “เฮ้ย เสียงมึงแปลกๆ เป็นอะไรเปล่าวะ”


    “แปลกหรอ…กูไม่เป็นอะไรเสียหน่อย” ยิ่งมันปฏิเสธก็ยิ่งไม่เนียน อีฮยอกแจ มึงเป็นอะไรก็บอกกูสิ!


    “แล้วตกลงมึงเคลียร์กันยัง?”


    “ไม่รู้ว่ะ…” อ้าว ไอ้เหี้ย กูอุตส่าห์ถ่วงเวลาไว้ให้ตั้งนาน ใช้ไม่ได้เลยมึงเนี่ย


    “ไหงเป็นงั้นอ่ะ”




    “ทงเฮบอกว่ามันรักกู…” ตบเข่าดังฉาด ในที่สุดไอ้เตี้ยก็กล้าเสียที นึกว่าต้องรอไอ้ซีวอนงาบไก่ไปกินใต้น้ำซะแล้ว




    “กูก็เลยถามมันว่าถ้ากูไม่รักมันล่ะ มันก็บอกว่ามันจะทำให้กูรักมันเอง”


    “….”


    “ตอนนั้นกูก็เมา มันก็เมา ก่อนหน้าที่กูจะเข้าเรื่องเคลียร์กะมัน กูเป็นคนชวนให้มันกินเหล้า กูจะได้กล้าพูดเคลียร์กับมัน”


    “แล้ว…ไงต่อ”


    “กูไม่รู้ว่าไอ้ทงเฮมาอยู่ใกล้กูตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกที…กูกับมันก็..จูบกันแล้ว”



    เหมือนกูเมื่อกี้เลย… แต่ดีที่กูแค่เกือบ



    “คยูฮยอน…กูไม่รู้ว่ากูจะทำยังไงต่อไปดีว่ะ ซีวอนก็ดีกับกูแล้วก็เพิ่งบอกว่าเขาชอบกู แล้วไอ้ทงเฮอีก กูก็ไม่ได้รังเกียจอะไรมัน แต่มันก็ทำให้กูสับสน กูไม่รู้…ไม่รู้จริงๆ”









    Talk ;

    ใครที่เล่นทวิตเตอร์ ยังไงก็แวะไปอ่านฟิค #Siwon3Mias ได้นะคะ
    เราต่อฟิคแต่งกับไรต์เตอร์อีกสามคน เสิร์ชในทวิตเตอร์ก็เจอเลยค่ะ กำลังเข้มข้นเลย
    (แต่ไรต์เตอร์กดดันสุดแสน 5555)

    ปล. เรื่องการเว้นวรรค มันเป็นที่คอมอ่ะค่ะ มันจะเว้นวรรคในประโยคที่เราพิมพ์แทรก
    คำบางคำที่ควรจะติดกันมันก็จะเว้นวรรคไป ไม่รู้จะแก้ที่ต้นเหตุยังไงนอกจากจะตามอีดิตเอง = =;;
    ยังไงก็จะพยายามแก้นะก๊ะ








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×