ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] KYUMANCE COMIC l Kang x Kyu (feat. Hae x Eun)

    ลำดับตอนที่ #3 : issue 03 ; I`m Going Crazy

    • อัปเดตล่าสุด 21 ส.ค. 54






    โจคยูฮยอนผุดลุกขึ้นนั่งบน เตียงในเวลาบ่ายสองโมงเป๊ะ มองที่นอนข้างๆที่ควรจะมีผู้ชายตัวเตี้ยๆที่ชื่ออีทงเฮนอนเบียดอยู่กลับไม่ มีเสียอย่างนั้น ดีแล้ว.. กลับเองได้ไม่ปลุกคยูฮยอนให้หงุดหงิดเสียอารมณ์ ซึ่งมึงควรจะทำอย่างนี้ตั้งนานแล้ว แต่พอลุกไปอาบน้ำเท่านั้นล่ะ ไอ้คำที่เขานึกชมมันเมื่อกี้แทบอยากจะอ้วกลงชักโครกเสียให้หมด


    กระจกตรงหน้าเขาฉายภาพโจคยูฮยอนโหมดไม่พร้อมใช้ไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะให้ สาวๆมาพบเห็น ดวงตากลมโตที่ไร้คอนแทคเลนส์มองร่างตัวเองไม่ชัดนักแต่ก็พอเห็นรางๆว่ามี อะไรบางอย่างติดอยู่บนหน้าผาก




    ‘มึงนี่นอนกินบ้านกินเมืองดีจริงๆ
    จะนอนเผื่อชาติหน้ารึไง?
    -อีทงเฮ , ผู้ชายที่โคตรหล่อที่สุดในศตวรรษ-’





    “ไอ่เหี้ย…” อดไม่ได้ที่จะหยาบคายแต่เช้า เอ่อ.. บ่าย มือสวยขยำโพสอิททิ้งอย่างไม่ใยดี มันก็น่าเอะใจอยู่หรอกทำไมคนอย่างอีทงเฮถึงไม่มากวนประสาทเขา



    ใช้เวลาไม่นานนักตัวคยูฮยอนก็หอมฉุยด้วยกลิ่มแชมพูและครีมอาบน้ำ เปลี่ยนเป็นโหมดพร้อมใช้เรียบร้อย แต่ยังไม่สามารถอวดโฉมให้สาวๆกรี๊ดได้หรอกนะ


    สิ่งชวนหดหู่ใจนอนกองอยู่ในตระกร้าที่มุมห้องมาสองอาทิตย์แล้ว ร่างบางถอนหายใจเฮือก.. เขาเกลียดงานบ้าน แต่มันก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำเมื่อย้ายมาอยู่คนเดียว จะมีเรื่องเดียวล่ะที่เขายอมก็คือทำอาหาร ต่อให้ตายยังไงก็จะไม่มีวันแตะกะทะและตะหลิวอีกเด็ดขาด เพราะคยูฮยอนเคยเกือบฆาตกรรมหมู่เพื่อนๆ ที่มาทำงานที่ห้องเขามาแล้ว



    ต้องขอบคุณแม่ที่อย่างน้อยเขาก็ยังรู้จักแยกผ้าขาวผ้าสีก่อนซัก อ้อ! แล้วก็รู้จักใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มตอนน้ำสุดท้ายด้วยนะ! ผ้าจะได้หอมๆ



    มือสวยเหวี่ยงตระกร้าทิ้งอย่างไร้เยื่อใยหลังจากผ้าเน่าๆที่นอนอยู่ในตระ กร้าได้แปรสภาพไปแขวนผึ่งแดดผึ่งลมเรียงกันเป็นตับที่ราวตรงระเบียง ส่วนพวกบ๊อกเซอร์คยูฮยอนก็ยังมียางอายพอที่หลบมาตากไว้ข้างล่าง มันก็ไม่ดีนักหรอกที่จะให้สาวๆเงยหน้ามาเห็นบ๊อกเซอร์สีเหลืองอ๋อยลายชินจัง น่ะนะ - -*


    แต่สิ่งชวนหดหู่ใจประจำวันนี้ยังไม่หมด เมื่อหันมาเจอซากขยะทั่วห้องเพราะงานที่ต้องทำส่งอาจารย์ เมื่อก่อนคยูฮยอนไม่ค่อยเข้าใจแม่เท่าไรเวลาที่แม่บ่นกระปอดกระแปดเวลาเขาทำ ห้องรก แต่พอออกมาอยู่คนเดียวเขานึกซึ้งถึงพระคุณแม่ทุกครั้งที่เขาเป็นคนทำห้องรก เองและต้องมานั่งเก็บเอง เพราะมันเหนื่อยจริงๆ



    เกือบสี่โมงเย็นร่างผอมบางก็เดินสะโหลสะเหลล้มนอนแผ่หลาบนเตียง แค่ทำงานบ้านสองอย่างแต่กลับกินพลังงานเขาเสียจนอยากหลับเอาแรงทั้งๆที่ เพิ่งจะตื่นเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว




    RRRR~



    โอ้ยยยยยยยยย ทีตอนกูว่างล่ะไม่โทรมานะ ไอ้พวกนี้


    คยูฮยอนตะเกียกตะกายคว้าโทรศัพท์เครื่องสวยมาดูก็แทบจะกลิ้งตกจากเตียง.. บก.ฮีชอลโทรมาทำไมตอนนี้วะ นี่ก็ยังไม่ถึงเวลาต้องส่งต้นฉบับนี่นา หรือว่าถึงแล้ว แต่ไอ้หน้าหมีนั่นไม่ยอมส่งเมลมาบอกเขา



    “ฮัลโหล”


    “….” อ่ะ.. บ่นกูใหญ่ โอ้ยยย บุพการีผมยังไม่บ่นเท่าป้าเลยนะรู้ไม๊?


    “ก็ไอ้หน้าหมีที่อยู่ในห้องบก.น่ะ บอกว่าเดี๋ยวส่งเมลไปบอกอีกทีว่าต้นฉบับให้ส่งเมื่อไร จะโทษผมไม่ได้นะ”


    “….”


    “อ้าว ไม่ใช่เรื่องนี้หรอกเหรอ?” แล้วโทรมามีเรื่องอะไรวะ


    “….”


    “หา! เขาเป็นผู้ช่วยบก. ที่จะมาเป็นผู้ช่วยผ..ผมอ่ะนะ?”


    “….”


    “แ..แต่ ผมก็แค่นักเขียนธรรมดา ไม่เห็นจำเป็นต้องมีผู้ชงผู้ช่วยอะไรเสียหน่อย”


    “….”


    “อะไรนะ!? เขาจะมาแล้วหรอ เฮ้ย จริงป้ะน้ะ” ผละจากที่นอนนุ่มอย่างรวดเร็ว ชิบหายตายห่า มาแล้วจะให้อยู่ไหนเนี่ย ทำอย่างกับห้องเขาใหญ่เหลือเกินล่ะ เคยคิดกันบ้างไหมเนี่ยเจ้าแม่


    “แล้วผมจะให้เขาอยู่ที่ไหนล่ะ อ้าวเฮ้ย! วางสายทำไมเนี่ย ฮัลโหล เจ๊!” ชีวิตของเขาไม่เคยสงบก็เพราะคนจากสำนักพิมพ์นี้แหละ คราวนี้อะไรอีกล่ะมายุ่งวุ่นวายกับเขาเหลือเกิน




    โจคยูฮยอนขอยืนยันอีกครั้งว่าคิมฮีชอลเป็นมนุษย์ที่เขาภาวนาว่าอยากพบเจอเพียงแค่ชาตินี้ชาติเดียวเท่านั้นจริงๆ -*-






    K-Y-U-M-A-N-C-E-C-O-M-I-C






    “วันนี้มึงเป็นไรวะทำหน้าเหมือนเหม็นขี้แมว” อีฮยอกแจร้องทักเพื่อนสนิทระหว่างกินข้าวที่โรงอาหารคณะ คยูฮยอนจึงเหลือบตาขึ้นมองหน้าเพื่อนหลังจากนั่งเขี่ยข้าวอยู่นาน


    “ก็..ไม่มีอะไร กูแค่เบื่อโลก เบื่อชีวิต เบื่อสิ่งแวดล้อมเฉยๆ” ตอบเสร็จก็ก้มลงดูดน้ำอัดลมจากหลอด วันนี้คยูฮยอนรู้สึกอึนๆตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งพักเที่ยง ขนาดส่งงานไปอาจารย์ก็ชมว่างานดี แต่เขาก็ยังอึนๆกับชีวิตอยู่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร


    “มึงก็โดดตึกเล่นเถอะถ้างั้นอ่ะ เอาตึกคณะก็ได้ กูจะได้มีเพื่อนเป็นตำนานของคณะบ้าง แล้วกูจะเอาน้องแทยอนที่อยู่อักษรฯไปกินแทนมึงเอง ไม่ต้องเป็นห่วง” อีทงเฮว่าอย่างอารมณ์ดีพลางฉกไก่จากจานเขามากินหน้าตาเฉย


    “เตี่ยมึงสิโดด.. คนอื่นกูไม่ว่า แต่น้องแทยอนกูขอ คนนี้กูรักจริงอะไรจริง”


    “น้องเค้ารู้กะมึงป้ะเถอะว่ามึงจะแอ้มเขา เหอะ…” จบประโยคมือเรียวก็ตบลงกลางกระหม่อมทงเฮด้วยน้ำหนักไม่เบามือ อดไม่ได้ที่คนโดนตีจะสบถคำหยาบคายใส่ แต่คยูฮยอนไม่ได้สนใจเพราะเห็นผู้มาเยือนโรงอาหารที่เขามั่นใจว่าไม่ใช่คนใน คณะ หน้าตาคุ้นๆ… เฮ้ย! นั่นมันชเวซีวอน เดือนสถาปัตย์คนที่ไอ้เตี้ยเคยมาบ่นว่าชอบมายุ่งกับไอ้ฮยอกนี่หว่า สถาปัตย์กับศิลปกรรมอยู่ห่างกันตั้งเยอะ มีความจำเป็นอะไรต้องมากินข้าวที่นี่ด้วยล่ะ หรือว่าเพราะฮยอกแจ?




    และดูเหมือนว่าทงเฮก็เห็นเหมือนกัน ถึงได้ทำหน้าเหม็นขี้แมวแข่งกับเขาเสียนี่




    “มีความจำเป็นอะไรต้องมาเหยียบที่สินกำด้วยวะ ข้าวที่โรงอาหารถาปัตย์ไม่มีกินรึไง?” ทงเฮตวัดตามองร่างสูงโปร่งที่ยืนอยู่ไกลๆอย่างเอาเรื่อง เออ…แค่ส่วนสูงมันมึงก็แพ้แล้วล่ะกูว่า น้ำเสียงหงุดหงิดที่มีคยูฮยอนเข้าใจอยู่คนเดียวบ่งบอกว่ามันไม่พอใจนักที่ ฮยอกแจจะต้องเจอกับไอ้หล่อซีวอนนั่น


    “ทีพวกมึงไปกินข้าวที่โรงอาหารบัญชีตอนที่ไอ้คยูตามจีบน้องทิฟฟานี่ ก็ไม่เห็นเด็กบัญชีจะหาเรื่องซักคน” ยิ่งฮยอกแจแก้ต่างให้อีกฝ่ายก็ยิ่งทำให้ทงเฮหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม


    “แต่กูไม่ค่อยชอบพวกเด็กถาปัตย์ โดยเฉพาะไอ้นั่น กูหมั่นไส้”


    “มึงอย่าอคติให้มากนักสิ กูก็รู้จักซีวอนนะ ก็ไม่เห็นเขาจะเลวร้ายอะไร” คยูฮยอนกล้าสาบานต่อพระเจ้าเลยล่ะว่า อีกไม่กี่นาทีถ้าอีทงเฮหมดความอดทน มีพังโรงอาหารล่ะครับงานนี้



    แต่ก็ไม่… เหมือนคยูฮยอนดีดลูกอมฮอลล์เข้าไปในปากทงเฮ ให้ความเย็นของเมนโทลิบตัสเข้าไปดับอารมณ์เดือดปุดๆของมัน ทงเฮจึงแค่ถอนหายใจหนักๆแล้วหยิบแบล็กเบอร์รี่จากกระเป๋ามานั่งกดเล่นแทน (แต่เขาก็กลัวว่าบีบีมันจะแหลกคามือเจ้าของก่อนนี่สิ..)



    “ฮยอกแจ…ฮยอกแจใช่ไหม?” อิหอยนี่ก็นะ..สะเหร่อจริงๆ นอกจากไม่รับรู้ถึงออร่ารังเกียจจากไอ้เตี้ยแล้ว ยังเดินเข้ามาคุยกับเมียมันอีก อกแตกตายแน่มึง หึหึ


    “อื้อ ซีวอนมาทำอะไรแถวนี้ เด็กถาปัตย์ไม่มีอะไรต้องมาเรียนแถวสินกำนี่”


    “วันนี้ไม่มีเรียนแล้ว ก็เลยมาเปลี่ยนบรรยากาศหาข้าวกินแถวนี้” คยูฮยอนรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นกองขี้ควายท่ามกลางสงครามเกาหลียังไงไม่รู้ บรรยากาศมาคุเหลือเกิน เขาจึงเลียนแบบทงเฮบ้างด้วยการหยิบมือถือมาเล่นเกมให้ดูยุ่งๆและไม่ถูกลาก เข้าบทสนทนา


    “เออ เขียนแบบอ่ะ จารย์ให้เขียนไอโซสามมุมแบบ top front side น่ะ เรายังงงงๆอยู่นิดหน่อย ซีวอนช่วยสอนได้ไม๊”


    “ได้ แต่ต้องมีของตอบแทนนะ”


    “อะไรล่ะ รีบบอกดิ่ เราไปรบกวนซีวอนตั้งหลายรอบ เกรงใจนะน่ะ”


    “ล้อเล่นน่ะ ไม่ต้องหรอก” ไม่พอ…มีแอบยิ้มกริ่มแล้วหันมามองไอ้ทงเฮอีกน่ะ “แวะไปที่ร้านแม่ฮยอกแจตอนนี้เลยได้ไม๊.. มีเรียนรึเปล่า”


    “มีอิ๊งน่ะ แต่เราฝากเพื่อนเซ็นชื่อได้ เราเองก็ขี้เกียจเรียนเหมือนกัน” ว่าแล้วมันก็หันมาเขา เพราะดูท่าจะคุยกับทงเฮยากในเวลานี้ “คยูฮยอน.. กูฝากมึงเซ็นชื่อหน่อยนะ ได้ม๊า~ น๊า~”


    “อ…เออๆ มึงจะไปก็รีบๆไปเถอะ เดี๋ยวเพื่อนมึงรอนาน”


    “เฮ้ย ขอบใจเว้ย งั้นกูไปนะ เออ…แล้วคืนนี้มึงจะดอทป้ะ?”


    “ไม่รู้เว้ย” ยิ้มแหยๆให้มัน พลางส่งสัญญาณให้มันรีบๆออกไปจากเขตอันตรายจากการทำลายล้างของทงเฮเสีย



    .
    .
    .
    .
    .
    .




    “เหอะ… ไอโซง่ายๆแค่นั้นกูก็เขียนเป็น มันเคยอ้าปากถามกูซักคำป้ะ แม่ง.. ตอนนั้นกูก็บอกว่ากูจะช่วยมัน แม่งก็ชิงไปดรอปซะก่อน เหี้ย..” คืองี้…ต้องเท้าความให้ฟังนิดนึงว่าตอนปีหนึ่งเรามีเรียนเขียนแบบอยู่ตัวนึง ซึ่งเป็นสิ่งที่ฮยอกแจไม่ถนัดโคตรๆ มันจึงไปดรอปเพื่อรักษาชีวิตการเรียนในรั้วมหาลัยไว้ ประจวบเหมาะกับที่มันไปรู้จักไอ้ซีวอนพอดีในช่วงที่มันลงเรียนเขียนแบบ อีกรอบ นี่ล่ะ…ไอ้ทงเฮถึงมานั่งปวดใจเอาตอนนี้


    “กูก็บอกแล้วว่าให้มึงจับแม่งมอมเหล้าแล้วก็เอาๆกันซะก็จบ มันจะได้เป็นเมียมึงเต็มตัวซะที กูล่ะเบื่อปัญหาผัวเมียละเหี่ยใจของพวกมึง” ตอนนี้เราย้ายทัพจากที่คณะมายังห้างใกล้ๆมหาลัย แน่นอนว่าเราโดดอิ๊งมานั่งแกร่วในร้านไอติมเพราะเพื่อนหมดอารมณ์จะเรียน คยูฮยอนก็พลอยไม่อยากเรียนด้วย เลยพามันมาพักใจกับไอติมเย็นฉ่ำเผื่อใจของมันจะเย็นขึ้นมาบ้าง


    “มึงยังไม่มีเมีย มึงไม่เข้าใจกูหรอก” ตาโตเริ่มแดง เสียงมันเริ่มดังจนคนในร้านหันมามอง เอ่อ..อย่าเข้าใจผมผิดน๊า~ “มึงเป็นแค่คนคอยรับฟัง แต่มึงไม่ได้มารู้สึกแบบที่กูรู้สึก มึงไม่เข้าใจหรอก”


    “แล้วทำไมกูจะไม่เคยอกหัก ทำไมกูจะไม่เคยเจอมือที่สามแบบที่มึงเจอ ทำไมกูจะไม่เข้าใจ แต่มึงมานั่งซึมอย่างนี้มันไม่ใช่ตัวมึงเลยว่ะ จริงอยู่ที่กูรู้สึกดีที่เพื่อนกูไม่ลุกไปต่อยไอ้เหี้ยนั่น อย่างน้อยมึงก็จะได้ไม่เป็นตัวร้ายในสายตาไอ้ฮยอก แต่กูไม่คิดว่ามึงจะนั่งยอมแพ้แบบนี้… อ้าว! ทำไมมึงไม่กินเชอรี่วะ”


    “ไม่อ่ะ กูไม่ชอบ” ทงเฮที่ดูจะรู้สึกกับคำพูดของเขาแล้ว เลยตอบกลับอย่างอ้ำอึ้ง ปกติแล้วฮยอกแจจะเป็นคนกินเชอรี่แทนมันตลอด เขาไม่ได้แอ้มหรอก มันเองก็เหมือนจะนึกถึงความหลังครั้งก่อนก็เลยเบือนหน้าหันไปดูวิวนอกกระจก แทน


    “เสียดายออก..” จัดการเชอรี่ลูกนั้นเข้าท้องแถมด้วยเอาก้านเชอรี่เข้าไปพันเป็นปมด้วยลิ้น “นี่..ดูดิ่ กูพันก้านเชอรี่ด้วย มาดูเร็ว!”


    ทงเฮหัวเราะเบาๆ ..แสดงว่าอารมณ์มันเริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว “ไอ้เหี้ย.. มึงไม่ต้องโชว์หรอกว่ามึงจูบเก่ง”


    “ทำไมอ่ะ.. กูอยากอวดนี่”






    “ถ้ากูไม่ได้ชอบฮยอกแจ กูอาจจะจีบมึงก็ได้” มันพูดลอยๆขึ้นมา แต่ชวนให้ขนลุก “แต่เสียอยู่สองอย่าง…”


    “….”



    “มึงไม่ใช่ฮยอกแจ และกูก็ไม่อยากเอากะมึง” พูดจบมันก็หัวเราะใส่


    “ไอ่เหี้ย..” ใช่ซี๊! กูไม่ใช่อีฮยอกแจนี่ กูมันของตาย ถ้ามึงอกหักเพราะมัน มึงไม่ต้องวิ่งร้องไห้โฮๆมาหากูนะ ห่า…





    K-Y-U-M-A-N-C-E-C-O-M-I-C





    “ไอ้ทงเฮหรอ? กูเพิ่งแยกกับมันมาซักพักใหญ่ๆอ่ะ แล้วนี่มึงอยู่ไหนเนี่ย ร้านแม่มึงหรอ?” หลังจากจอดเวสป้าลูกรักเข้าที่เรียบร้อย อีฮยอกแจก็โทรมาด้วยเรื่อง… กลัวทงเฮจะงอนน่ะแหละ


    “….”


    “มึงอยู่กับเพื่อนมึงที่ชื่อซีวอนด้วยป้ะเนี่ย… นั่นไง! กูว่าและ กูได้ยินเสียงมัน แล้วมันไปทำอะไรที่ร้านแม่มึง”


    “….”


    “มาเอาชุดเครื่องประดับที่แม่มันซื้อไว้อ่ะหรอ เหอะ… พวกไฮโซสิท่า”


    “….”


    “ก็ว่าทำไมมึงต้องพูดจาสุภาพกับมัน เมื่อตอนบ่ายกูก็งงๆ ปกติมึงไม่ใช้คำพวกนี้”


    “….”


    “เรื่องไอ้ทงเฮอ่ะหรอ… มันก็เป็นงี้อยู่แล้วไม่ใช่หรอ ผีเข้าผีออกตามสภาพอากาศ เออ…ตอนนี้มันคงถึงบ้านแล้วล่ะ”


    “เออ… มันไม่โกรธ ไม่งอนมึงหรอกน่า สาบาน… เชื่อกูมึงเคยผิดหวังป้ะ?”


    “….”


    “เรื่องที่แมนยูแพ้ไม่เกี่ยวซะหน่อย อย่ารวมๆ มึงเชื่อกูเถอะน่า… เสร็จธุระร้านแม่มึงก็รีบๆกลับไปหามันไป มึงก็รู้ว่ามันไม่ชอบอยู่คนเดียว”


    “….”


    “เออ.. อย่างน้อยระหว่างรอมึง มันคงไม่ผูกคอตัวเองเล่นบนเขื่องหรอกน่า”


    “….”


    “มึงยังมีอารมณ์ดอทอีกหรอ เมื่อคืนเผาโฟโต้ชอปไปยังมีแรงเหลือรึไง กูไม่ไหวล่ะ กูอยากนอน เดี๋ยวพรุ่งนี้กูไม่หล่อ น้องแทยอนจะไม่รักกู เออๆ.. แค่นี้ล่ะ บาย” ปิดฝาพับโทรศัพท์หย่อนใส่กระเป๋ากางเกงพอดีกับที่เท้าก้าวถึงชั้นห้าของ อพาร์ตเมนต์ วันนี้ทางอพาร์ตเมนต์สะเหร่อซ่อมลิฟท์กัน คยูฮยอนจึงจำใจต้องขึ้นบันไดหนีไฟอย่างเสียไม่ได้ โอ่ยยย เหนื่อยชิบหาย อีกนิดเดียว..จะถึงห้อง แล้วก็จะนอน น๊อนนน นอน นอนยาวยันเช้าเลย จะได้ไม่โทรมไปอวดน้องแทยอนที่น่ารักของเขา ฮิ้ง~



    เลี้ยวขวากำลังจะถึงห้อง 513 ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นเงาตะคุ่มๆ เหมือนเป็นคนอยู่ตรงหน้าห้องเขา ชิบหายล่ะ.. คยูฮยอนปลดกระบอกซูมออกจากบ่ามาถือในมือ ถ้าเกิดเป็นขโมยนะ พ่อจะเอาซูมฟาดๆๆ ให้จมกองเลือดตายเลย คอยดูเถอะ! ว่าแล้วไนกี้แอร์ก็ค่อยๆ พาคนใส่ย่องเบาจนถึงระยะประชิดตัว




    “อ้าวเฮ้ย!” ไอ้หน้าหมีที่สำนักพิมพ์นี่หว่า? โอ๊ยย นี่เขาต้องด่าว่าชิบหายเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันถึงจะพอเนี่ย นี่ถึงขั้นมานั่งหลับรอหน้าห้องแบบนี้ คงไม่คิดจะเช่าห้องใกล้ๆนี้อยู่หรอก



    นอกจากพ่อ แม่ พี่ เพื่อน
    คยูฮยอนไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับห้องและข้าวของส่วนตัว
    แล้วนี่เขาต้องให้ใครก็ไม่รู้มาแชร์ห้องอยู่ด้วยเนี่ยนะ!!


    ท่านโจคยูฮยอนคนหล่อ คนเก่งที่สุดในสามจักรวาล คิดสิ…
    เพื่องาน… งานทำให้เราได้เงิน เงิน… ทำให้เราอยู่ได้ โจคยูฮยอนต้องใจเย็นๆกับผู้ให้เงิน


    ถ้าพูดดีๆ สงบปากสงบคำกับเขา ก็คงจะอยู่กันได้ล่ะมั้ง?
    ลองดูซักตั้งก็ได้(วะ!)



    “คุณ… คุณ ตื่นเถอะ” ย่อตัวลงเขย่าคนที่นั่งหลับคุดคู้อยู่หน้าห้องเขาพลางหันซ้ายแลขวา ระหว่างที่เขาไม่อยู่ต้องมีคนเห็นหมอนี่อยู่หน้าห้องแน่

    “หือ?”

    “คุณ…เอ่อ คุณจากสำนักพิมพ์ใช่ไหม” สภาพหอบที่นอนหมอนมุ้งมาเหมือนย้ายบ้านแบบนี้ ชัดเจนครับชัดเจน ย้ายมาเป็นฝุ่นไรในห้องเขาชัวร์

    “อือ… โห๊ยยย ฉันมารออยู่ตั้งนาน”



    โจคยูฮยอนคนหล่อใจเย็นๆนะ…คิดถึงเงินเข้าไว้ เดี๋ยวอารมณ์ก็ดีเอง
    ถึงเขาจะเริ่มอารมณ์ตึงๆ จนใกล้จะเปลี่ยนเป็นโหมดคยูซิล่าแล้วก็ตาม




    “ผมก็ต้องไปเรียนสิ… ไม่ได้วาดการ์ตูนอย่างเดียวเสียหน่อย” และสภาพของเขาก็บ่งบอกชัดว่าไปเรียนจริงๆ ไม่เชื่อเดี๋ยวให้ดูบัตรนักศึกษาก็ได้เลยเอ้า


    “โอเคๆ ฉันรู้” ยองอุนรีบระงับอารมณ์อีกฝ่ายไว้ รอบนี้เขายอมเป็นฝ่ายผิดก็ได้…เพราะเขาเป็นคนหน้าด้านมาขออาศัยที่ของเด็ก หนุ่มร่างบอบบางแต่ท่าทางพร้อมจะเงื้อมือเอากระบอกซูมฟาดหัวได้ทุกเมื่ออยู่ นี่นา



    ตัวก็บางนิดเดียว…ทำเป็นนักเลงไปได้ โถ่.. ไอ้ลูกหมาเอ้ย!




    “แล้วนี่… คุณ?”


    “จะเข้าห้องก็รีบๆไขประตูเสียที จะได้เอาข้าวของเข้าไปเก็บ จะทำอะไรก็ทำ” คยูฮยอนตบหน้าผากตัวเองเบาๆ นั่นไง..เป็นตามที่คาดเป๊ะ


    “ห้องผมเล็กจะตาย ผมอยู่คนเดียวยังอึดอัดเลย คุณจะไปอยู่ได้ไง แล้วคุณชื่อแซ่อะไรผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำ เรายังไม่รู้จักกันเลยนะ จะให้มาอยู่ด้วยกันได้…อุ๊บ!” พูดยังไม่จบก็ถูกมือใหญ่ตะปบปิดทำได้เพียงส่งเสียงอู้อี้ มือที่ว่างอีกข้างก็คว้ากุญแจในมือนักเขียนการ์ตูนขี้บ่นมาไขประตู พอประตูปลดล็อคก็เหวี่ยงร่างบอบบางเข้าไปในห้องเสียพลางเตะสมบัติบ้าที่เขา เอามาตามเข้าไปและไม่ลืมจะปิดประตูล็อกเรียบร้อย


    “ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย!!” อยู่ดีๆมาปิดปากลากเข้าห้อง กูตกใจนะแสรดดด


    แต่ดูท่าอีกฝ่ายจะไม่สนใจสิ่งที่คยูฮยอนโวยวายสักนิด “ฉัน…คิม ยองอุน จากนี้ไปจะเป็นผู้ช่วยนักเขียนการ์ตูนโจคยูฮยอน ถึงแม้ว่าเรื่องการวาดการ์ตูนฉันอาจจะช่วยไม่ได้เท่าไร ถ้าเรื่องการกินอยู่หรือเรื่องชีวิตประจำวันฉันจะช่วยดูแลเอง นี่เป็นคำสั่งของบก.อีทึกให้มาดูแลนาย”


    “อ่อ… อีกอย่าง ฉันแก่กว่านาย เรียกฉันว่าพี่ยองอุนก็ได้นะ”


    .
    .
    .
    .
    .



    คยูฮยอนอยากจะบ้าตาย…
    เรื่องบ้าๆแบบนี้นี่เป็นคำสั่งของบก. หรอ? นี่คิดอะไรกันอยู่เนี่ย!?









    Talk ;

    เนื้อเรื่องอาจจะยืดเยื้อนิดนึง แต่มันคือฟิค 'KYU'MANCE นี่เนอะ
    ก็เลยอยากใส่ความเป็นคยูฮยอนลงไปเยอะๆ มันสนุกดี เขียนตัวทงเฮก็สนุก
    ถ้าชอบก็คอมเม้นต์ให้ชื่นใจหน่อยนะฮร๊าฟ m(_ _)m






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×