ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {Period}[Fic-Red Velvet] The Princess' Pearl

    ลำดับตอนที่ #6 : -5-

    • อัปเดตล่าสุด 4 ม.ค. 58


    -5-

     

    แม้นิทานกล่อมเด็กนั่นจะสนุกน่าติดตามเพียงใด คุณหนูเบก็ยังคงนั่งนิ่งด้วยความประหม่าโดยมิได้สนใจเนื้อหาเรียงความแก่นสำคัญของมันแม้แต่น้อย ก็ในเมื่อบุคคลที่อยู่เคียงข้างนางมิใช่นักเล่านิทานธรรมดา หากแต่เป็นถึงองค์หญิงรัชทายาทแห่งแคว้นโนรัน

     

    “ถึงแม้อีกาจะบอกว่าเสือกับอินทรีย์อยู่ด้วยกันไม่ได้ อันที่จริงข้าว่าอยู่ได้นะ แล้วเจ้าคิดเห็นว่าอย่างไร”

     

    “อเอ่อ เพคะ”

     

    “จูฮยอน เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่”

     

    “เอ่อเปล่าเพคะ”

     

    “โกหกองค์หญิงน่ะมีโทษหนักนะบอกมาเถอะ เจ้าไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า หากเป็นเช่นนั้นข้าจะได้ปล่อยเจ้าไป”

     

    “มิได้เพคะ หม่อมฉันมิได้

     

    “เช่นนั้นแล้วเจ้าควรพิสูจน์”

     

    “พิสูจน์ยังไงเพคะ”

     

    “เงามืดของจันทรา เจ้าเคยอ่านไหม บทประพันธ์ชิ้นเอกของคิมยองชิน”

     

    “คเคยเพคะ”

     

    “ดี”

    องค์หญิงเพียงยกยิ้มขึ้นที่มุมปาก จูฮยอนรู้ดียิ่งกว่าดีเสียอีก เงามืดของจันทราคือเรื่องราวของ นามี หญิงสาวผู้ถูกส่งตัวเข้าไปในพระราชวังเพื่อถวายตัวแด่พระราชาซ็อก ในความคิดของใครหลายคนนางอาจดูน่าอิจฉา แต่ในความจริงนั้นนางช่างน่าสงสารเพราะต้องจากกับชายหนุ่มอันเป็นที่รัก และก่อนที่พวกเขาจะจากกัน “การเต้นรำใต้แสงจันทร์” ครั้งสุดท้ายของนางกับชายหนุ่มก็เกิดขึ้น แต่หลังจากคืนนั้น ชายหนุ่มก็ถูกประหารด้วยฝีมือขององครักษ์หนุ่มผู้ซึ่งรับหน้าที่คุ้มครองนามี โดยไม่มีใครล่วงรู้เลยว่าองค์รักษ์ผู้นั้นแอบหลงรักนามีตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ ด้วยความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนเช่นนี้ ในการอ่านจึงจำเป็นต้องใช้การตีความแทบทุกตัวอักษร อันที่จริงจูฮยอนได้อ่านเรื่องนี้ตอนยังเล็กจึงไม่รู้สึกอะไรมากนัก หากแต่พอโตขึ้นเด็กสาวก็ได้รับรู้ถึงความรู้สึกของตัวละครทุกตัว นางจำไม่ได้แล้วเหมือนกันว่าหยิบหนังสือเล่มนั้นมาอ่านบ่อยเพียงใด รู้เพียงแค่ว่าวรรณกรรมเรื่องนี้ถูกยกขึ้นหิ้งไปเสียแล้ว

     

    องค์หญิงรัชทายาทปิดหนังสือนิทานเล่มบางลงก่อนที่พระองค์จะเอื้อมไปหยิบ เงามืดของจันทราขึ้นมาเปิดกางแทน ใบหน้ากลมแป้นยิ้มน้อยๆด้วยความพึงพอใจอะไรบางอย่างที่คุณหนูเบก็กะการณ์คาดเดาไม่ได้

    “ข้าชอบบทนี้ วานเจ้าอ่านให้ฟังหน่อย”

    นิ้วเรียวยาวชี้ลงไปที่ตัวอักษรเรียงติดกันเป็นพรืด ดวงเนตรน้อยๆเบิกกว้างขึ้นราวกับต้องการความเห็นใจ ซ้ำยังเม้มพระโอษฐ์เข้าหากันจนดูเหมือนเด็กน้อยที่ร้องขอการเล่านิทานก่อนนอน ใช่ว่านางไม่เคยเป็น จูฮยอนออดอ้อนบิดาอยู่บ่อยครั้งเมื่อเยาว์วัย เวลาที่นางนอนไม่หลับ นิทาน นี่แหละเป็นหนทางแห่ง นิทรา ได้เป็นอย่างดี เด็กสาวยกยิ้มขึ้นด้วยนึกเอ็นดู ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงหวานหูอย่างเชื่องช้าและนุ่มนวลที่สุด

     

    “ถึงแม้สองขาจะก้าวเดินอย่างผิดๆถูกๆแต่นามีก็หาสนใจไม่ นางส่งยิ้มให้ชายหนุ่มผู้เป็นที่รักด้วยหัวใจที่ชุ่มชื้น ถึงแม้ลำคอจะแห้งผาก หากแต่นางรู้สึกได้ถึงความสุขที่กำลังเต้นระบำใต้แสงจันทร์อยู่รอบๆตัวนาง เหล่าผีเสื้อกำลังโบยบิน เฉลิมฉลองแด่ความรักของนางอันเป็นนิรันดร์ แม้แต่สายลมก็ยังคอยโอบกอดนางไว้ด้วยความอบอุ่น”

    คุณหนูเบหยุดเล่าพักหนึ่ง นางหันมองดูปฏิกิริยาของผู้ฟัง องค์หญิงคังยังไม่คลายยิ้มออก นัยน์ตาหวานช่ำนั่นทำเอานางไปไม่เป็นไปพักใหญ่ หัวใจของจูฮยอนกำลังเต้นไม่เป็นระส่ำ ไม่ใช่เพราะบทประพันธ์ในมือ หากแต่เป็นแววตาที่ดูสนอกสนใจนั่นต่างหาก องค์หญิงให้ความสำคัญกับนางมากเกินไป

    “ก่อนจะจากกัน มีเพียงสัมผัสจากปลายนิ้วของชายหนุ่ม เขาบรรจงปัดกระโปรงสวยของนางที่ถูกลากไปมาจนเลอะดินเมื่อครู่ และรอยยิ้มที่แสนเศร้านั้น เหมือนเขาจะรู้ชะตากรรมของตนดี แต่ก็ยอมจากไปโดยไม่ปริปากพูดอะไรให้นามีลำบากใจ ดวงตาทั้งสองคู่ประสานกันครู่หนึ่ง ก่อนจะ

     

    “พอๆ หลังจากนี้ข้าไม่ชอบแล้ว มันเศร้าเกินไป”

     

    “เพคะ อันที่จริงหม่อมฉันก็ไม่ชอบ มักจะอ่านๆแล้วหยุดไว้แต่เพียงเท่านี้เสมอ ตอนยังเด็กยังเคยฝันเลยว่าอยากเต้นรำแบบนามีบ้าง”

     

    “เจ้าเต้นรำเป็นด้วยหรือ”

     

    “ไม่เพคะ หม่อมฉันเพียงแค่วาดฝันไว้เท่านั้น”

     

    “งั้นมากับข้า”

    องค์หญิงคว้ามือของเด็กสาวไว้ก่อนจะเสด็จนำไปยังลานกว้างที่อยู่ไม่ไกลจากห้องหนังสือนัก ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสตั้งแต่ครั้งเมื่อสิบปีก่อนหวนคืนกลับมาเรื่อยๆเพียงเพราะได้อยู่กับคุณหนูเบ ช่างเป็นเรื่องน่าขัน ในเวลาปกติช่วงนี้พระองค์ควรนั่งอ่านหนังสือเพียงลำพังในห้องหนังสือ มิใช่ออกมาเที่ยวเล่นข้างนอกแบบนี้

    ร่างสูงจูงมือเล็กมาหยุดที่กลางลานพอดิบพอดี ซึ่งสถานที่นั้นก็ดันละม้ายคล้ายคลึงกับในบทประพันธ์ไม่มีผิดเพี้ยน ได้ก้าวเข้ามาอยู่ในรั้ววังหลวงตั้งหลายวันแต่แปลกนักที่จูฮยอนไม่เคยมาที่นี่ ดวงตากลมโตจ้องมองไปรอบๆอย่างอัศจรรย์ใจ ราวกับว่าวรรณกรรมเรื่องนั้นถูกแต่งขึ้นโดยอิงจากสถานที่จริง ซึ่งก็คือที่ที่นางยืนอยู่

    “เหมือนเหมือนมากเลยเพคะ”

     

    “เจ้าชอบมั้ย”

     

    “ชอบเพคะ”

     

    “ได้ยินอย่างนั้นข้าก็ดีใจ”

    สิ้นเสียงขององค์หญิงสาว พระองค์ค่อยๆขยับขาก้าวไปอย่างเป็นระเบียบ ทั้งยังดูงดงามในเวลาเดียวกัน ท่อนแขนเรียวโอบไหล่บางของเด็กสาวไว้ก่อนจะพาร่างกายนางขยับไปพร้อมกัน

    ยามเมื่ออยู่ภายใต้อ้อมแขนอันแสนบอุ่น จูฮยอนยังคงนิ่งอึ้งมิหาย นางเพียงแค่เล่าให้พระองค์ฟังไปเรื่อยๆเพียงเท่านั้น มิได้มีเจตนาจะให้พระองค์ทำความฝันของนางให้เป็นจริงหรือเรียกร้องความสนใจแต่อย่างใด แต่สิ่งที่องค์หญิงคังประทานให้เกินกว่านั้นมามากนัก แค่เพียงพระองค์ใช้จิตใจที่อ่อนโยนของพระองค์รับฟังความปรารถนาของเด็กสาวอย่างเต็มใจ แค่นั้นก็ดีมากพอแล้ว

     

    “ข้าไม่รู้ว่าจะยินดีหรือเสียใจดี ที่กระโปรงของเจ้าไม่เปื้อนดินเลย”

     

    ทำไมต้องเสียใจเพคะ”

     

                “ข้าปัดกระโปรงให้เจ้าเหมือนดั่งชายผู้นั้นมิได้”

               

                “แต่พระองค์ทำได้มากกว่านั้น เหตุใดพระองค์ถึงได้อยากเป็นดั่งชายหนุ่มผู้นั้นนัก ทั้งๆที่ท้ายที่สุดแล้วนามีก็ไม่ได้ครองคู่กับเขา”

     

                “เพราะเขาคือคนที่นามีรัก”

                น้ำเสียงจริงจังที่นานๆทีจะหลุดจากปากองค์หญิงขี้เล่นผู้นี้ทำเอาหัวใจจูฮยอนหยุดเต้นไปอีกระลอก นางไม่เข้าใจสิ่งที่พระองค์พูดเท่าใดนัก เพียงแต่แววตาที่ฉายแววกล้าหาญเด็ดเดี่ยว แต่ยังสุภาพอ่อนน้อมนั่นทำให้คำพูดเหล่านั้นมิใช่เรื่องธรรมดา นี่มิใช่การนั่งวิเคราะห์บทประพันธ์ หากแต่เหมือนกับการสื่อสารอะไรบางอย่างมากกว่า

                อะไรบางอย่างที่นางก็ยังไม่รู้และยังไม่เข้าใจ

     

     

     

     

                “ชชเวซังกุง แย่แล้วค่ะ! แย่แล้ว!

                นางกำนัลสาววิ่งกระหืดกระหอบมาแต่ไกล เป็นเหตุให้ชเวซังกุงต้องหัวหมุนอีกคราว นางเดาไม่ออกแล้วว่าคราวนี้จะได้เจอกับปัญหาอะไรอีก ตั้งแต่เรื่องหนูตัวเล็กๆไปจนถึงจระเข้ตัวใหญ่นางก็เคยผ่านมาหมดแล้ว ทีนี้ยังจะเหลือปัญหาอะไรให้พวกนางกำนัลสาวพวกนี้ตื่นเต้นตกใจอีกเล่า

     

                “มีอะไรกัน เจ้าก็ใจเย็นๆ ค่อยๆพูด”

                เสียงขรึมกล่าวอย่างสุขุม ชเวซังกุงขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะหันไปมองตามที่เด็กสาวชี้ เมื่อเห็นต้นเหตุของความโกลาหลนี่หญิงชราก็ต้องอ้าปากตะลึงงันด้วยความตกใจ กลุ่มหมอกควันสีขาวดังอาชาพยศกำลังลุกท่วมพระตำหนัก

     

                “เย็นไม่ได้แล้วล่ะค่ะ! ตอนนี้ไฟไหม้ที่ตำหนักจางซอนดัง จนลามไปที่ห้องหนังสือแล้วค่ะ!

     

                “แล้วองค์หญิงอยู่ที่ไหน”

     

           “มไม่ทราบค่ะ

     

                “ไปสิ!! ไปตามหาตัวองค์หญิงให้พบ! อย่าให้พระองค์เป็นอะไรไปเป็นอันขาด!

                หญิงชรากล่าวเสียงแข็งก่อนที่นางจะรีบรุดไปหาพระราชาคังเพื่อทูลข่าวร้ายนี้ให้ทราบ พวกทหารทุกฝ่ายต่างพากันตักน้ำมาสาดใส่ไฟสีแดงฉานที่กำลังลุกโหมอย่างรุนแรงและไม่มีท่าทีจะดับลงได้ง่ายๆ แม้ในตอนนี้จะเป็นสภาวะคับขัน แต่ทุกคนย่อมรู้กันว่าบุคคลที่ทุกคนกำลังเป็นห่วงที่สุดตอนนี้ก็คงไม่พ้นองค์หญิงคังซึลกิ

     

     

     

     

                “งานสำเร็จดีใช่มั้ย”

           เสียงกล่าวจากเด็กสาวที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ถามเรียบๆ ใบหน้าสวยปรายตามองเหล่าทหารหนุ่ม และด้วยสายตาที่เฉียบคมนั่นไม่แปลกเลยที่เหล่าทหารจะยอมอยู่ในโอวาทแต่โดยดี คงจะด้วยเหตุผลนี้กระมัง แคว้นกามันจึงได้ชื่อว่าแม่นยำนักเรื่องการรบการทหาร

     

                “พะยะค่ะองค์หญิงซนซึงวาน

                สิ้นเสียงจากนายทหารหนุ่ม องค์หญิงซนจุดยิ้มที่มุมปาก แผนการขั้นแรกของพระองค์กำลังดำเนินไปได้ด้วยดี ผิดแล้ว องค์หญิงคังซึลกิมิใช่เป้าหมาย หากแต่เป็น

                เบจูฮยอน ต่างหากที่พระองค์ต้องการ คุณหนูเบผู้นั้น       

             

                “ดี งั้นเริ่มส่งคนเข้าไปหาจูฮยอนได้เลย” องค์หญิงซนกล่าว   “อย่าให้นางมีรอยขีดข่วนแม้แต่ปลายเล็บ มิเช่นนั้นพวกเจ้าได้ไปนอนในตารางแน่”

     

     






     

    --------------------------------------------------------------

    โอยยยยยยยยยยยยยย ดองนานมากกกกกกกกกกค่าาาาาาาาา 5555555555555 แต่แบบ ตอนนี้สั้นอ่ะเนอะ... แต่ดูจะมีอะไรๆนะคะ ถถถถถถถถ
    ภาษาแปร่งๆไปบ้างก็ขอโทษค่ะ เพราะดองนานนี่แหละ ลืมฟีลหมด 555555555

    เรื่องเงามืดของจันทราไรเนี่ยเค้ามโนเอานะคะ 5555555 จริงๆก็มโนขึ้นทุกอย่างอ่ะ ถึงมันจะเป็นฟิคย้อนยุคแต่ก็ไม่ได้มีสาระมาเต็มขนาดนั้น... แฮะๆ เค้าจะพยายามใส่สาระลงไปด้วยก็แล้วกันนะคะ... ' v '...

    คำถามประจำสัปดาห์ : จำได้มั้ยคะว่าคนแต่งเรื่องเงามืดในจันทรานี่คือใคร ใครเอ่ย ใครคะ ถถถถถถถถถถถถ

    SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×