วาริน(เรื่องสั้นตอนเดียวจบ)
พี่จะคอยปกป้องน้องเอง ไม่ว่าใครหน้าไหนจะมาแยกเราจากกันมันผู้นั้นจะต้องตาย
ผู้เข้าชมรวม
124
ผู้เข้าชมเดือนนี้
23
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
"คุณได้ลูกเป็นฝาแฝดผู้หญิงนะคะ"
เสียงคุณพยาบาลบอกกับคนไข้ที่นอนดูผลอัลตร้าซาวด์อยู่ พลันสิ้นเสียงของคุณพยาบาลคุณแม่ก็ดีใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เมื่อออกมาจากห้องตรวจก็มาแจ้งข่าวให้ผู้เป็นสามีทราบ
"ที่รักคะ เราได้ลูกผู้หญิงค่ะ"
"ริริน" หญิงสาววัยกลางคน ผิวขาวดั่งไข่มุก นัยตาสวยดั่งตาของเนื้อทราย เอ่ยปากบอกสามี
"จริงหรอ!! ที่รักนี่ผมกำลังจะเป็นพ่อคนจริงๆใช่ไหม"
"ธารา" ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่มองผิวเผยอาจไม่รู้ว่าเขานั้นอายุเข้าใกล้เลขสี่ขึ้นทุกวัน พูดกลับพลั้นเอามือลูบท้องศรีภรรยาเบาๆด้วยความรัก
"มีเรื่องเซอร์ไพรส์ มากกว่านั้นอีกนะคะ"
ริรินบอกกับสามีด้วยความตื่นเต้น
"เราได้ลูกแฝดค่ะที่รัก ลูกแฝด!"
"ห้ะ!! เป็นแฝดงั้นหรอ งั้นดีเลยสิเนี่ย"
"ผมต้องดูแลศรีภรรยาของผมให้ดีขึ้นเป็นสองเท่าเเล้วมั้งเเบบนี้ ฮาฮา"
ธาราเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพท์มากมายทั้งในกรุงเทพเเละต่างจังหวัด ทรัพท์สินของเขามากมายพอที่จะเลี้ยงครอบครัวได้ทั้งชาติ
ริรินเองก็ไม่เเพ้กันเธอเองก็เป็นถึงทายาทบริษัทยาชื่อดังของประเทศ แต่ด้วยเหตุผลทางสุขภาพบางอย่างของเธอทำให้เธอไม่สามารถสืบทอดบริษัทของทางบ้านได้
ทั้งตัวธาราเเละริรินเเต่งงานกันมานานถึง 22 ปี แต่ทั้งคู่ไม่เคยมีลูกด้วยกันเลยเเม้เเต่คนเดียว จนมาตอนนี้
ริรินได้ตั้งครรภ์ลูกเเฝดของเธอ เเต่ด้วยปัญหาสุขภาพที่รุมเร้าเธอนั้นทำให้เธอมีความเสี่ยงยิ่งกว่าคุณแม่คนไหนๆเป็น ร้อยเท่า
ตัวธาราเองก็รู้ซึ้งถึงปัญหาของตัวภรรยาอยู่เเล้วเขาจึงอดเป็นห่วงภรรยาของเขาไม่ได้
"ถ้าวันนึงเกิดอะไรขึ้นให้คุณเลือกลูกไว้ก่อนนะคะ"
คำนี้เป็นคำที่ออกมาจากปากของริรินอยู่ตลอดเวลาเมื่อเธอรู้สึกไม่ค่อยดี
ธาราก็ทำได้เเค่ตบปากรับคำไป โดยที่เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอนจากดูแลภรรยาของเขาให้ดีที่สุด
และแล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ริรินอุ้มครรภ์มาจนครบเดือนสุดท้าย
ทั้งคู่ต่างหาโรงพยาบาลที่ดีที่สุด หมอที่เก่งที่สุด ให้เเก่ลูกอันเป็นที่รักของทั้งคู่
ผ่านไปไม่พ้นคืน ริรินได้ให้กำเนิดฝาแฝดเพศหญิงออกมาอย่างแข็งแรง
เด็กหญิงทั้งสองคลอดออกมาได้อยากครบถ้วนสมบูรณ์ มีสุขภาพดีตามที่พ่อเเละแม่คาดหวัง
พวกเขาตั้งชื่อทั้งคู่ว่า
"วาริน" และ "วารี"
ชื่อของเธอทั้งสองล้วนมาจากชื่อของผู้เป็นพ่อ เเละผู้เป็นแม่รวมกัน เพื่อเป็นเครื่องหมายที่คอยตอกย้ำว่าพ่อและแม่รักเธอมากขนาดไหน
เขาสองคนเลี้ยงดูเด็กหญิงทั้งสองด้วยตัวของตัวเอง ยอมหยุดธุรกิจมาเผื่อดูเเลลูกสาวทั้งสองด้วยตัวเอง
เพราะทั้งธาราเเละริรินเองต่างก็อยากมีเวลาให้ลูกให้ได้มากที่สุด เขาทั้งคู่ยังคงเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกของเขาเสมอมา
เมื่อวันเวลาผ่านไปเด็กหญิงทั้งสองก็เติมโตได้อย่างสวยงาม ดั่งดอกไม้ที่ถูกรดน้ำพรวนดินอย่างดี
"วาริน"ผู้เป็นพี่เติบโตขึ้นมาเป็นเด็กหญิงน่าตาน่ารักจิ้มลิ้มร่าเริง สีผมที่ออกน้ำตาลเป็นเอกลักษ์ นัยตาดั่งเนื้อทรายเฉกเช่นผู้เป็นแม่
"วารี" ผู้เป็นน้องเติบโตเป็นเด็กสาวที่สุขุมน่าเชื่อถือเฉกเช่นคุณพ่อ สีผมสีดำเข้มต่างจากผู้เป็นพี่ นัยตาสีน้ำตาลอ่อนดั่งผิวของต้นสน
ทั้งสองมีนิสัยที่เเต่งต่างกันเป็นอย่างมาก ทุกคนที่พบเห็นก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทั้งคู่เเตกต่าง
ทั้งคู่ใช้ชีวิตอย่างเด็กผู้หญิงทั่วไปควรจะเป็นมาตลอด 16 ปี
จนวันหนึ่ง
วันที่พ่อและแม่ของเธอต้องไปทำธุระที่ต่างจังหวัด โดยทิ้งเธอทั้งคู่ไว้ในบ้านหลังใหญ่ตามลำพัง
และนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอทั้งสองได้พบหน้าพ่อเเละแม่ของเธอ....
เมื่อผู้เป็นดั่งเเสงสว่างของทั้งสองดับลง ทั้งสองล้วนแต่ต้องเอาชีวิตรอดจากผู้คนมากมายที่หวังดีประสงค์ร้ายในตัวเธอทั้งคู่
ทั้งสองจากที่เคยเข้ากับผู้อื่นได้ดี จากที่เคยมีคนห้อมล้อมอยู่ตลอดเวลา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเหมือนกับว่าสวิตช์แห่งความสุขของเธอทั้งสองถูกตัดลง
ทั้งคู่เริ่มปลีกตัวออกห่างจากโลกภายนอกมากขึ้น ผู้คนที่เคยแวะเวียนมาหาก็เริ่มหายหน้าหายตาไปทีล่ะคนจนไม่เหลือใครเลย
"หลานยาย ในเมื่อพ่อและแม่ของหนูไม่อยู่แล้ว หนูทั้งสองควรได้รับการดูแลที่ดีดั่งเดิม ไปอยู่กับยายเถอะลูก
ยายรู้ว่าบาดแผลครั้งนี้ใหญ่เกินกว่าที่ยายจะช่วยสมานเเผลให้ แต่ให้ยายได้ทำหน้าที่ต่อจากแม่หนูเถอะนะ"
คุณยายผู้เป็นญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของทั้งคู่ได้กกล่าวขึ้น
"หนูจะอยู่ที่นี่ คุณพ่อและคุณแม่ของหนูท่านไม่เคยจากหนูไปไหน ดังนั้น หนูก็จะไม่จากพวกท่านไปไหนเช่นกัน"
"คุณยายกลับไปเถอะคะ ต่อให้คุณยายชักแม่น้ำทั้งห้ามารวมกัน พวกหนูก็ยังขอยืนยันเป็นคำเดิมว่า หนูจะอยู่ที่นี่ ที่บ้านหลังนี้!"
คุณยายได้แต่ถอนหายใจ ในเมื่อหลานทั้งสองเห็นพ้องต้องกันเช่นนี้ เธอคงทำอะไรไม่ได้
"หากวันไหนหนูต้องการยาย รีบบอกนะยายจะรีบมารับหลานทันที"
ทั้งคู่ได้เพียงเเต่ยิ้มและปล่อยให้หญิงชรานั้นกลับไปพร้อมกับความเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง ที่เธอไม่สามารถหว่านล้อมหลานทั้งสองได้
"วารีไม่ต้องกลัวนะ พี่จะอยู่กับเราตลอดไป จะไม่มีใครหน้าไหนแยกเราได้"
ทั้งคู่กอดกันแน่น พร้อมกับปิดตายขังตัวเองอยู่ในบ้านกับทรัพย์ สมบัติที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้
"คุณพ่อคะ คุณแม่คะ ไม่ต้องกลัวอะไรไปนะคะ หนูจะดูเเลทั้งน้องและสมบัติของคุณพ่อ คุณแม่อย่างดีเลยค่ะ"
วารินพูดพร้อมทั้งเอามือเล็กๆบรรจงลูบไปที่รูปของพ่อและเเม่อย่างอาลัย
...
วันเวลาผันผ่าน จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี
จวบจนวันหนึ่งมีจดหมายฉบับหนึ่งส่งมาที่หน้าประตูบ้าน ไม่มีใครรู้ว่าจดหมายฉบับนั้นส่งมาจากไหน
แต่หน้าจดหมายนั้นจ่าหน้าซองถึง "วารี" ผู้เป็นน้อง
เมื่อวารินเห็นจนหมาย ก็ได้แต่งุนงง และเกิดคำถามในหัวมากมาย
จดหมายนี่มาจากไหน? ใครเป็นคนส่งมา? ทำไมถึงจ่าหน้าซองถึงวารี? ทำไมถึงเป็นวารี? ทำไม? ทำไม!? ทำไม!!
"ทำไมถึงมีจดหมายถึงน้อง"
วารินเค้นถามความจริงจากน้องสาว
"พี่วาริน หนูว่าเราเลิกทำเเบบนี้เถอะ หนูไม่อยากอยู่เเบบนี้เเล้ว"
"หนูอยากไปอยู่กับคุณยาย ทุกอย่างดีขึ้นได้เเน่พี่เชื่อน้องสิ่"
วารีผู้เป็นน้องที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพี่เเย้งขึ้น
'แต่ที่พี่ทำไปก็เพื่อปกป้องเรานะ"
"น้องก็เห็นที่เราไม่เหลือใครทุกวันนี้เพราะอะไรน้องก็รู้"
"พอพ่อกับแม่ตาย ก็ไม่เห็นมีหมาตัวไหนเสนอหน้ามาถามไถ่เราสองคนเลยน้องก็เห็น"
"แล้วที่พ่อกับแม่ตายน่ะ น้องคิดว่ามันปกติหรอ"
วารินพยายามพูดเกลี่ยกล่อมผู้เป็นน้อง
"ก็พี่มั่วแต่มองโลกเเบบนี้ ใครมันจะไปดีหมดล่ะ"
"เเล้วเรื่องที่พ่อกับแม่ตายตำรวจก็บอกแล้วว่าเป็นอุบัติเหตุ"
"เมื่อไหร่พี่จะเลิกเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลสักที"
"หนูโคตรคิดถึงพี่เมื่อก่อนเลย พี่ที่ใจกว้างใจดี มองโลกในแง่ดีอะ พี่คนนั้นแม่งตายไปพร้อมพ่อกับแม่ตั้งนานล่ะ"
"พี่หัดส่องกระจกดูสภาพตัวเองตอนนี้นะ ต่างอะไรกับพวกหมาที่พี่ว่าเขาไหมก็ไม่"
"พอกันที!! หนูพอเเล้ว"
"ถ้าพี่อยากอยู่กับสมบัติบ้าบออะไรของพี่ก็อยู่ไปคนเดียว หนูขอไปใช้ชีวิตที่หนูเลือกเองเถอะ"
ทั้งคู่มีปากเสียงกันอยู่เป็นเวลานาน เป็นการทะเลาะกันครั้งแรกและครั้งสุดท้าย
"ฉึก!!"
เลือดเริ่มไหลนองทั่วพื้นอย่างช้าๆ
"พี่....."
"พี่ทำเเบบนี้กับหนูทำไม"
วารินไม่ฟังเสียงครวญครานของน้องสาวแม้เเต่น้อง เธอบรรจงลงมีดไปในตัวของน้องสาวอย่างบ้าคลั่ง
เลือดสาดกระเด็นไปทั่วพื้นห้อง กลิ่นของเลือดคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ จากพื้นไม้สีน้ำตาล ตอนนี้เป็นสีแดงสดของเลือด
วารินล้มตัวลงนอนข้างซากของน้องสาวพร้อมท้งบรรจงจูบที่หน้าผากและลูบไปที่ใบหน้าเปื้อนเลือดนั้น
"โอ้ น้องพี่ เลิกโกหกตัวเองได้แล้ว พี่เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้น้องเเล้วอย่าห่วงอะไรอีกเลยนะ"
"อีกไม่นานพี่จะตามไป"
เมื่อพูดจบน้ำตาก็เริ่มพรั่งพรูขึ้นมา น้ำตาเริ่มไหลนองเต็มหน้าและเมื่อเธอได้สติกลับมาเธอก็ได้เเต่สังเวทตัวเอง
"ไม่!! ไม่จริง!! ฉันไม่ได้ทำ"
"ไม่จริง!! ไม่จริง!? กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด......"
"ไม่ใช่ ต้องไม่ใช่ฉัน ใช่เเล้ว น้อง น้องเอามีด เอามีดเเทงตัวเอง แทงตัวเอง"
"ฉันห้ามแล้ว ฉันทำเต็มที่เเล้ว ไม่จริง ฉันไม่ไก้ทำ ฉันไม่ได้ทำ!!!!"
สติที่เคยเต็มร้อยของวารินค่อยๆลดถอยตัวเองลง ควบคุมตัวเองไม่ได้ ได้แต่พูดถ่อยคำเดิมซ้ำไปซ้ำมา
เอามือจิกและดึงผมตัวเองจนเหมือนคนบ้า เธอกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ต่อให้เธอร้องดังเเค่ไหนก็ไม่มีใครได้ยิน
เมื่อเธอเริ่มตั้งสติได้เธอนำร่างของน้องสาวไปเเช่ในตู้แช่ของพ่อเพื่อคงสภาพให้ได้มากที่สุด และเริ่มทำความสะอาดคราบเลือดที่เลอะอยู่ตามพื้นจนสะอาด
ในทุกๆวันเธอจะเปิดตู้แช่ดูหน้าของผู้เป็นน้อง เธอจะคุยกับร่างไร้วิญญาณนั้นทุกวัน และเมื่อกาลเวลาผ่านไป
วารินเริ่มได้ยินเสียงในหู
เสียงนั้นเริ่มชัดขึ้น
ชัดขึ้น และชัดขึ้นทุกวัน
"พี่ทำแบนี้ทำไมคะ"
"พี่ฆ่าหนูทำไม"
"พี่ฆ่าหนู"
"พี่ฆ่าหนู!!"
"มึงฆ่ากู!!"
"มึงฆ่ากูทำไม!!!!!!!"
เสียงนี้ดังในหัวของเธอตลอดเวลา มันทำให้เธอเจ็บปวด มันทำให้เธอทุรนทุรายแทบขาดใจ
"ไม่ใช่ พี่ไม่ได้ทำ"
"พี่ไม่ได้ทำ"
"พี่ไม่ได้ทำอะไรเลย"
"พี่ห้ามเราแล้ว"
"ทำไม ทำไม ทำไม!!"
และสิ่งที่ทรมาณเธอยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดคือ ในทุกคืนที่เธอหลับฝัน ทั้งสามคนจะมาบอกกับเธอว่า
"วารินลูกมาอยู่ด้วยกันสิ่"
"อีกนิดเดียวเราจะได้อยู่ด้วยกันเเล้วนะ"
"พี่คะไหนบอกว่าจะรีบตามมาไงคะ รีบมาเร็วเข้าหนูรออยู่นะคะ"
เมื่อวันคืนเลยผ่านวารินไม่สามารถทนอยู่กับเหตุการณ์เลวร้ายเเบบนี้ได้อีก
เธอเดินไปในห้องนอนของพ่อแล้วหยิบปืนกระบอกที่พ่อรักที่สุดขึ้นแล้วหันปากกระบอกปืนเข้าปากตัวเอง
"ปัง!!"
.
"ปัง"
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
"ลูกรักตื่นได้แล้วนะวันนี้เราจะไปทริปครอบครัวไง ตื่นเร็วๆ"
ผู้เป็นแม่เปิดประตูเข้ามาแล้วปลุกทั้งสองคนให้ตื่นขึ้น
"โอ้ วารินลูกรักนอนเหงื่อท่วมเชียวฝันร้ายหรอคะ"
"นิดหน่อยค่ะคุณแม่"
ผลงานอื่นๆ ของ pinkie18 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ pinkie18
ความคิดเห็น